สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! 284 องค์หญิงแห่งแคว้นฉี (3) (รีไรท์)
ซินเอ๋อร์ได้ยิน อดพยักหน้าไม่ได้
อ้าวเทียนเสวี่ยในห้องขัง หลังได้ยินคำพูดของเหลิ่งอวี้เซวียน เผยสีหน้าสูงส่งและถือตัวออกมา
“เจ้ารู้เรื่องพวกนี้ก็ดี ตอนนี้รีบปล่อยข้าออกไป กักขังเชื้อพระวงศ์มีโทษถึงตาย!”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ อ้าวเทียนเสวี่ยดวงตาเปล่งประกาย
เพราะเธอเป็นถึงองค์หญิงสี่ผู้สง่างามแห่งแคว้นฉี กลับถูกคนขังอยู่ในสถานที่ของคนชั้นต่ำ เธอทรมานเพียงพอแล้ว
ถูกขังอยู่ที่นี่สิบวันเต็ม ทุกวันเธอกินไม่อิ่ม นอนไม่หลับ ตอนกลางคืนยังมีหนู แมลงสาบวิ่งอยู่ข้างกาย เธอใกล้จะเสียสติแล้ว
เธอต้องการออกไป!
สำหรับคำพูดของอ้าวเทียนเสวี่ย เหลิ่งอวี้เซวียนหลังรู้ว่าเธอคือองค์หญิงสี่แห่งแคว้นฉี มีสีหน้านิ่งเฉย ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป
ตอนนี้หลังได้ยินคำพูดอ้าวเทียนเสวี่ย เหลิ่งอวี้เซวียนเพียงเอ่ยอย่างราบเรียบขึ้น
“กักขังเชื้อพระวงศ์ มีโทษถึงตาย แต่…”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนหยุดชะงัก จนหัวใจของอ้าวเทียนเสวี่ยหวาดวิตก
เพราะชายหนุ่มตรงหน้านี้ ยากที่จะคาดเดาเกินไป
เขารู้ชัดว่าตนคือองค์หญิงแห่งแคว้นฉี แต่สีหน้ายังคงเรียบเฉยเย็นชา ปฏิบัติกับเธออย่างไร้ความหวาดกลัวหวั่นเกรง
และความสูงส่งดุดันที่กระจายออกมาจากกายเขา มีเพียงชนชั้นสูงเท่านั้นถึงจะมีได้
คนเช่นนี้ คล้ายราชาที่ยืนอยู่บนยอดเขาสูง ทุกคนเพียงหมอบคลานอยู่ใต้เท้าเขา
ดังนั้น แม้ตอนนี้เขาจะรู้สถานะสูงศักดิ์ของตน แต่ใจของอ้าวเทียนเสวี่ยยังคงวิตกกังวล
ขณะที่เห็นชายหนุมหยุดพูดลง หัวใจพลันเต้นระรัว
ลางร้ายกระจายขึ้นในใจของเธอทันที
จริงดังที่คิด
“ขณะที่เจ้ากระทำผิด คือช่วงเป็นสาวใช้ในวังเหลิ่งของพวกเรา ดังนั้นตามกฎระเบียบของวังเหลิ่ง หากกระทำผิดต้องรับโทษ”
“รับโทษหรือ เจ้ากล้า!”
หลังได้ยินคำพูดชายหนุ่ม อ้าวเทียนเสวี่ยกังวลในใจ ก่อนพลันร้องตะโกนออกมา
“ฮ่า ๆ เหตุใดข้าจะไม่กล้าเล่า!”
เมื่อได้ยินคำพูดของอ้าวเทียนเสวี่ย เหลิ่งอวี้เซวียนแค่นเสียงออกมาอย่างดูแคลน
เพราะแม้หญิงสาวตรงหน้าจะเป็นองค์หญิงสี่แห่งแคว้นฉี แต่เป็นเพียงองค์หญิงผู้หนึ่งเท่านั้น
แม้เขาจะทำเช่นไรกับเธอ ถึงฮ่องเต้แคว้นฉีรู้เข้า จะจัดการเขาเช่นไร!
หากรู้ว่าเส้นเลือดสำคัญทางการค้าของแคว้นฉี ส่วนใหญ่ผูกขาดอยู่ในมือเขา!
พระบิดาของเธอเห็นเขา ยังต้องนอบน้อมให้แก่เขาสามส่วน!
แน่นอนว่าคำพูดเหล่านี้ เหลิ่งอวี้เซวียนไม่ได้พูดออกไป และไม่ควรเอ่ยกับเธอ
เพียงส่งเสียงเรียกคนขึ้น
“เด็กๆ !”
“ขอรับ นายท่าน!”
หลังได้ยินคำพูดของเหลิ่งอวี้เซวียน ภายในคุกใต้ดินมีองครักษ์สองคนเดินเข้ามา ทันใดนั้นยืนอย่างนอบน้อมอยู่ด้านข้าง เพื่อรอคอยคำสั่งจากเหลิ่งอวี้เซวียน
เมื่อเห็นเหลิ่งอวี้เซวียนจริงจัง อ้าวเทียนเสวี่ยเวลานี้จึงตกใจ
แม้จะไม่รู้ว่าเหลิ่งอวี้เซวียนจะจัดการตนเช่นไร แต่เห็นท่าทางเช่นนี้ของเขา รู้ว่าไม่ได้หวาดกลัวสถานะของเธอแม้แต่นิดเดียว
ดังนั้นใบหน้าประณีตนั้นพลันซีดขาว
“เจ้าทำเช่นนี้ไม่ได้!”
“ฮ่า ๆ เหตุใดข้าจึงทำไม่ได้หรือ!”
สำหรับท่าทางวิตกกังวลแต่ยังไม่สำนึกผิดของอ้าวเทียนเสวี่ย เหลิ่งอวี้เซวียนเพียงแค่นเสียงอย่างเย็นชาเหยียดหยาม
เป็นเพียงองค์หญิงแห่งแคว้นฉี แน่นอนว่าเขาไม่เห็นอยู่ในสายตา!
แต่ซินเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างเห็นเช่นนั้น ในใจทนไม่ได้และหวาดกลัว
“เซวียน ปล่อยนางไปเถิด นางเป็นถึงองค์หญิง มิใช่หรือ หากท่านทำร้ายนาง…”
ซินเอ๋อร์ยังเอ่ยไม่จบ ถูกเหลิ่งอวี้เซวียนหยุดยั้งเอาไว้
“ข้ารู้เพียงขณะที่นางทำผิด นางคือสาวใช้ในวังเหลิ่ง”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนใช้มือไพล่หลัง ก่อนเอ่ยกับองครักษ์ทั้งสองนายด้านหลังว่า
“เด็กๆ โบยหญิงสาวผู้นี้ให้หนักยี่สิบไม้ จากนั้นเตรียมรถม้าหนึ่งคัน ส่งองค์หญิงสี่แห่งแคว้นฉีกลับไป!”
“ขอรับ!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเหลิ่งอวี้เซวียน องครักษ์สองนายด้านหลังแม้จะลังเล แต่สุดท้ายยังทำตามคำสั่งของเหลิ่งอวี้เซวียน
อ้าวเทียนเสวี่ยเห็นเช่นนั้น อดกรีดร้องถอยหลังไปไม่ได้
“ไม่ เจ้าจะทำเช่นนี้ไม่ได้ เจ้าช่างบังอาจนัก ข้าคือองค์หญิงสี่แห้งแคว้นฉี ผู้ใดกล้าแตะต้องข้า ระวังหลังข้ากลับแคว้นฉี จะให้เสด็จพ่อตัดศีรษะพวกเจ้าทีละคน!”
สำหรับเสียงกรีดร้องข่มขู่ของอ้าวเทียนเสวี่ยดังคนเสียสติ องครักษ์ทั้งสองนายจึงไม่กล้าเดินเข้าไป
เพราะพวกเขาเป็นเพียงองครักษ์ตัวเล็กๆ หากล่วงเกินผู้มีอำนาจ ชีวิตน้อยๆ ของพวกเขาจะรักษาไว้ไม่ได้
ซินเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างเห็นเช่นนั้น รีบจับแขนของเหลิ่งอวี้เซวียน พร้อมเอ่ยขอร้อง
“เซวียน ช่างมันเถิด ปล่อยนางไปเถิด!”
เพราะเธอคือองค์หญิงสี่แห่งแคว้นฉี หากทำร้ายเธอ เมื่อเธอกลับไปทูลฮ่องเต้แคว้นฉี จะทำเช่นไร!
ยิ่งคิด ซินเอ๋อร์ยิ่งกังวลใจ
เธอกลัวว่าเซวียนจะเกิดเรื่องจริงๆ!
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์กังวลในใจ ดวงตาร้อนผ่าว ก่อนชั้นหมอกจะเข้าปกคลุมภายในดวงตาของเธอทันที
แม้ภายในคุกใต้ดินจะมืดและอับชื้น แต่ดวงตาคู่นั้นของซินเอ๋อร์กลับสว่างไสวสวยงามอย่างแปลกประหลาด
เวลานี้น้ำตาเอ่อคลออยู่ภายในดวงตา ทำให้เธอดูงดงามสะดุดตา และน่าสงสาร
สาวน้อยงามล่มเมืองเช่นนี้ ไม่ต้องเอ่ยว่าเหลิ่งอวี้เซวียนเห็นแล้วใจหวั่นไหว เกรงว่านักบวชได้เห็น ต้องใจเต้นแรง
รวมทั้งเหลิ่งอวี้เซวียนปฏิเสธไม่ได้ที่สุดคือ คำขอร้องของซินเอ๋อร์
เห็นเช่นนั้น เหลิ่งอวี้เซวียนอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ ก่อนเอ่ยว่า
“ตกลง ตามใจเจ้า”
เมื่อได้ยินคำพูดของเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์อดโล่งใจไม่ได้
“เซวียน ท่านดียิ่งนัก!”
“ฮ่า ๆ เจ้าเพิ่งทราบหรือ!”
เมื่อเห็นท่าทางยิ้มแย้มดุจบุปผาของซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนไม่สนใจว่าตรงนั้นยังมีผู้คนมากมาย ก่อนยื่นมือเขี่ยจมูกเล็กของซินเอ๋อร์อย่างเคยชิน
สายตาที่มองซินเอ๋อร์ ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้อ่อนโยนดุจสายน้ำ ผู้ใดก็มองออกว่าเขามีใจให้กับซินเอ๋อร์
บนโลกนี้มีเพียงผู้เดียวที่สามารถทำให้ราชาแห่งการค้านี้ใจเต้น นั่นคือสาวน้อยตรงหน้านี้!
ตรงกันข้าม ภาพที่เปี่ยมด้วยความรักของเหลิ่งอวี้เซวียนและซินเอ๋อร์ ทุกคนต่างเห็นจนชินชา
แต่ภาพนี้ในสายตาของอ้าวเทียนเสวี่ยที่อยู่ในห้องขัง กลับทำให้เธอโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ
สองมือที่ซ่อนอยู่ในชายเสื้อนั้นกำหมัดแน่น ถึงขนาดเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ เธอยังไม่รู้สึกเจ็บปวด!
เมื่อมองภาพชายหญิงโดดเด่นตรงหน้า สิ่งที่เธออยากทำที่สุดตอนนี้คือพรากพวกเขาออกจากกัน
เพราะเธอคือองค์หญิงสี่ที่ได้รับความโปรดปรานที่สุดในแคว้นฉี บนโลกนี้เพียงเป็นสิ่งที่เธอต้องการ ไม่มีสิ่งใดที่ไม่สามารถครอบครอง
ดังนั้น ไม่ว่าเช่นไร ชายหนุ่มผู้นี้ ต้องเป็นของเธอ!
ส่วนหญิงสารเลวผู้นี้!
ฮึ เจ้ารอก่อนเถิด ข้าต้องทำให้เจ้าตายให้ได้!
เมล็ดพันธุ์ของความเกลียดชังริษยา เติบโตขึ้นในใจของอ้าวเทียนเสวี่ยไม่หยุด
ซินเอ๋อร์ที่กำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความรักของเหลิ่งอวี้เซวียน กลับไม่รู้แม้แต่น้อยเลยว่าตนกำลังจะเกิดหายนะ
………………………………………………………………………………….
Comments