แม่ปากร้ายยุค​ 80 1163 อาหวงจากไปแล้ว

Now you are reading แม่ปากร้ายยุค​ 80 Chapter 1163 อาหวงจากไปแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1163 อาหวงจากไปแล้ว

……….

ตอนที่ 1163 อาหวงจากไปแล้ว

หลินม่ายพยักหน้ารับและพูดเป็นภาษาอังกฤษ “ได้ค่ะคุณดูเร็กซ์ โปรดให้เวลาฉันสักครู่ เพื่อให้ฉันคุยกับสามีและคุณลุงก่อนนะคะ”

เดนนิสพยักหน้ารับ แล้วแก้ไขชื่อของเขาอย่างจริงจัง “ผมชื่อเดนนิสครับ”

“ได้ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ คุณดูเร็กซ์”

หลินม่ายเพิกเฉยต่อเดนนิส ก่อนหันไปหาลุงฝูและฟางจั๋วหราน “พวกคุณกลับประเทศจีนกันไปก่อน ฉันจะตามกลับไปทันทีที่คลี่คลายปัญหาที่นี่แล้ว”

ทั้งลุงฝูและฟางจั๋วหรานต่างก็มีไหวพริบดี

FBI ต้องการหยุดหลินม่ายไว้จนถึงตอนนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ยอมแพ้ในการตั้งข้อหาหลินม่ายกระทั่งวินาทีสุดท้าย

ในที่สุดพวกเขาก็ตั้งข้อกล่าวหากับหลินม่ายและออกหมายจับเพื่อควบคุมตัวเธอ เกรงว่าเธอคงจะไม่ได้รับอนุญาตให้กลับประเทศ

หลินม่ายเข้าใจสิ่งนี้ดีเช่นกัน

เธอขอให้พวกเขาออกไปก่อน แล้วเธอจะตามกลับไปในภายหลัง ที่เธอโน้มน้าวพวกเขาให้กลับไปก่อน เนื่องจากกลัวว่าพวกเขาจะตกอยู่ในอันตรายหากยังอยู่ในสหรัฐอเมริกาต่อไป

ฟางจั๋วหรานตอบทันที “ผมจะไม่ไปไหน ผมเคยบอกแล้วไงว่า ภรรยาของผมอยู่ที่ไหน ผมก็จะอยู่ที่นั่น”

เขาหันไปพูดกับลุงฝู “ลุงฝูครับ คุณกลับจีนไปก่อนเลย คุณปู่กับคุณย่าและเสี่ยวเหวินจะดูแลคุณอย่างดี”

ลุงฝูยิ้มอย่างใจดี “ผมจะไม่แยกจากนายน้อยและคุณหญิงไปไหนทั้งสิ้นครับ”

สุดท้ายก็ไม่มีใครได้ไปไหน หลินม่ายถูก FBI พาตัวไป

ลุงฝูและฟางจั๋วหรานกลับบ้านไปพร้อมกับทอมและพอล

ระหว่างทาง พอลและทอมเอาแต่บ่นว่า “FBI ทำงานผิดพลาดหรือเปล่า คุณหญิงน่ะเหรอจะทำผิดกฎหมาย? นั่นมันเป็นไปไม่ได้”

หลินม่ายถูก FBI ควบคุมตัวไปและกักตัวเธอเป็นเวลา 3 วัน

สถานทูตจีนเข้ามาช่วยเหลือหลินม่ายทันทีในวันที่เธอถูกจับกุม แต่ก็ไร้ประโยชน์

ในช่วงสามวันที่ผ่านมา ฟางจั๋วหรานมีอาการกระสับกระส่าย เขาแทบรอไม่ไหวที่จะให้สถานทูตนำตัวเธอออกมา แต่เขาก็มีเรื่องที่ต้องจัดการเช่นกัน

เขาระดมนักศึกษาชาวจีนโพ้นทะเลในท้องถิ่นและนักศึกษาต่างชาติไปยังแผนกที่เกี่ยวข้องในสหรัฐอเมริกา เพื่อประท้วงเรื่องการประหัตประหารทางการเมืองของหลินม่ายโดยรัฐบาลสหรัฐฯ เพียงเพื่อควบคุมการผงาดขึ้นของจีนอย่างเมามัน

หลังจากพยายามหลายครั้ง ในที่สุดเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ก็ทนแรงกดดันไม่ไหว และต้องเปลี่ยนเป็นโทษกักบริเวณกับหลินม่ายหลังจากถูกควบคุมตัวนานกว่าหนึ่งเดือน

กล่าวอีกนัยหนึ่ง หลินม่ายถูกกักบริเวณในบ้านและได้รับอนุญาตให้อยู่ในขอบเขตวิลล่าของเธอเท่านั้น

หากออกนอกขอบเขตของวิลล่า เธอจะถูกโยนเข้าคุกอีกครั้ง

สหรัฐอเมริกามีกุญแจมือแบบอิเล็กทรอนิกส์ในปี 1983 และตอนนี้เป็นปี 1991 เทคโนโลยีกุญแจมือแบบอิเล็กทรอนิกส์ก้าวหน้ามาก

ทันทีที่หลินม่ายได้รับการปล่อยตัวจากคุก เธอก็ถูกสวมกำไลอีเอ็ม

แต่เธอไม่สนใจมันมากนัก เธอพอใจมากแล้วที่สามารถเดินอยู่ภายในวิลล่า

นอกจากนี้ ต่อให้ไม่สามารถออกจากวิลล่า แต่เธอก็พบปะแขกที่มาที่บ้านได้

สิ่งนี้สามารถรับประกันได้ว่าระหว่างที่เธอถูกกักบริเวณในบ้าน หลินม่ายยังคงสามารถทำงานและขยายธุรกิจของเธอต่อไปได้

คุณปู่ฟาง คุณย่าฟาง และคนอื่น ๆ ทราบว่าหลินม่ายถูกกักบริเวณในบ้านและต้องการพบเธอ

แต่หลินม่ายและฟางจั๋วหรานคัดค้านอย่างรุนแรง โดยไม่อนุญาตให้ใครมาเยี่ยมพวกเขา รวมถึงเคอจื่อฉิงและสามี เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องวุ่นวาย

หลินม่ายเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมอาหารและจัดเลี้ยงในสหรัฐอเมริกา เธอได้สร้างระบบที่สมบูรณ์แบบแล้ว และไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับธุรกิจ

เธอยังจัดประชุมที่บ้านทุกวันเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัท และถ่ายทำรายการอาหารทุกสัปดาห์

เวลาที่เหลือเธอใช้มันไปกับการปลูกดอกไม้และผัก อ่านหนังสือ และหนังสือพิมพ์

เวลาล่วงเลยอย่างรวดเร็ว กระทั่งผ่านไป 5 ปี

ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ประเทศได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือหลินม่าย เธอและสามีเองก็พยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยตัวเองด้วยเช่นกัน

แม้จะถูกกักบริเวณในบ้าน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้สูญเสียอิสรภาพทั้งหมด

สิ่งที่หลินม่ายเก่งที่สุดคือ การใช้สื่อบิดเบือนความคิดเห็นของประชาชน

ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา เธอใช้สื่อโต้เถียงกับรัฐบาลสหรัฐฯ ทุกวัน โดยกล่าวหาว่าพวกเขากักขังเธออย่างไม่ถูกต้อง และข้อกล่าวหาทั้งหมดนั้นไม่มีมูลความจริง

การกระทำเหล่านี้อาจดูเหมือนไร้ประโยชน์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การกระทำเหล่านี้ทำให้เธอได้รับความเห็นอกเห็นใจจากบุคคลระหว่างประเทศอื่น ๆ และก่อให้เกิดความสงสัยเกี่ยวกับสหรัฐอเมริกา

นี่เป็นแรงกดดันอย่างมากต่อนักการเมืองอเมริกัน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในสหรัฐอเมริกา ฟางจั๋วหรานมีชื่อเสียงในด้านทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม และมีผู้ป่วยจำนวนมากเรียกร้องให้เขาเป็นแพทย์ที่ผ่าตัด

ฟางจั๋วหรานเคยรักษาผู้ป่วยโดยไม่เลือกปฏิบัติ

แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปแล้ว โดยทำการผ่าตัดเฉพาะกับคนรวยและผู้มีอำนาจในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

แต่เมื่อทำการผ่าตัดให้ผู้มีอำนาจและมีอิทธิพล เขาจะประเมินผู้คนด้วย

นั่นคือผู้มีอิทธิพลเหล่านี้จะต้องสามารถช่วยให้หลินม่ายได้รับอิสรภาพไม่มากก็น้อย

หากคนเหล่านั้นไม่สามารถทำได้ เขาก็มักจะหาข้อแก้ตัวที่จะไม่ทำการผ่าตัดให้

แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถแลกเปลี่ยนเงื่อนไขกับคนไข้อย่างเปิดเผยได้ เพราะนั่นจะถูกมองว่าเป็นการยอมรับรับสินบน

สิ่งนี้ทำให้ฟางจั๋วหรานต้องใช้วิธีการบางอย่าง เพื่อทำให้บุคคลที่ทรงพลังเหล่านั้นเข้าใจความตั้งใจของเขา

ครั้งหนึ่งมีนักการเมืองสหรัฐฯ ออกมาโวยวายเรียกร้องให้ตัดสินจำคุกหลินม่ายตลอดชีวิต เวลานั้นเขามีเนื้องอกในสมองซึ่งเป็นเนื้อร้าย และขอให้ฟางจั๋วหรานทำการผ่าตัดให้โดยเฉพาะ

ฟางจั๋วหรานไม่กลัวที่จะฝ่าฝืนกฎหมายและเอาตัวเองเข้าไปพัวพัน ในเมื่อเขามีความคิดอยากจะแทงหัวใจนักการเมืองคนนั้นให้ตายคามือ แล้วนับประสาอะไรกับการผ่าตัดให้อีกฝ่าย เขาไม่มีทางยอมตกลงเด็ดขาด!

ฟางจั๋วหรานกล่าวกับนักการเมืองคนนั้นว่า ในเมื่อคุณให้ภรรยาของผมติดคุกตลอดชีวิต ผมเกรงว่าการผ่าตัดให้คุณอาจจะมีความคับข้องใจส่วนตัว ผมขอแนะนำให้คุณขอความช่วยเหลือจากคนอื่นด้วยความเคารพ

สุดท้ายแล้ว การผ่าตัดของนักการเมืองคนนั้นก็ล้มเหลว เป็นผลให้เขาเสียชีวิตบนเตียงผ่าตัด

ผู้มีอิทธิพลคนอื่น ๆ ต่างก็เข้าใจว่า พวกเขาไม่สามารถสร้างความขุ่นเคืองให้ฟางจั๋วหรานและภรรยา หากจำเป็น พวกเขาจะต้องยื่นมือช่วยเหลืออีกฝ่าย

ไม่อย่างนั้นหากวันหนึ่งตัวคุณ ญาติในครอบครัว หรือเพื่อนสนิทต้องผ่าตัด และจำเป็นต้องพึ่งพาหมอฟาง เขาอาจจะไม่ยอมให้การร่วมมือ

ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา หลินม่ายยังคงขยายขอบเขตธุรกิจในสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดร้านค้าร้านอาหารหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา เช่น ร้านเกี๊ยวซ่า และร้านเปาห่าวชือ

แม้แต่โรงแรมหยวนไหลก็ขยายสาขาหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา และกลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการจัดเลี้ยงในสหรัฐอเมริกา

โรงงานชิปของเธอในประเทศจีนกำลังพัฒนาค่อนข้างดีและจัดจำหน่ายในต่างประเทศ นักการเมืองอเมริกันต่างก็โกรธมาก แต่พวกเขาทำอะไรไม่ได้

หลินม่ายชอบเห็นพวกเขาเดือดดาลแต่สุดท้ายก็ทำอะไรเธอไม่ได้ มันเป็นภาพที่น่าพึงพอใจมากจริง ๆ

หลินม่ายไม่เพียงใช้รายการทำอาหารยกระดับอุตสาหกรรมการจัดเลี้ยงของเธอไปสู่ระดับที่สูงขึ้น แต่ยังประสบความสำเร็จในการส่งออกอาหารจีนอีกด้วย

เธอกลายเป็นพิธีกรรายการอาหารที่มีแฟนรายการมากที่สุดในโลก

ไม่ว่าเธอจะเตรียมอาหารอะไรก็ล้วนได้รับการชื่นชมเสมอ แม้แต่ส่วนผสมอย่างเครื่องในสัตว์ที่ชาวตะวันตกไม่เคยบริโภคมาก่อน ก็ยังมีการรับประทานอย่างแพร่หลายมากขึ้นในปัจจุบัน

เพื่อฆ่าเวลาที่มีค่อนข้างมาก หลินม่ายเรียนรู้การทำไวน์ และฟางจั๋วหรานก็ชื่นชอบการดื่มไวน์ที่เธอทำ

เวลาล่วงเลยมาถึงวันอาทิตย์ หลินม่ายจัดการประชุมครั้งใหญ่สองครั้ง

หนึ่งคือการประชุมครั้งใหญ่ของบริษัทกุยตัน และการประชุมอีกแห่งคือการประชุมครั้งใหญ่ของบริษัทเธอเอง ซึ่งเป็นการประชุมปกติทุกสัปดาห์

วันนี้ฟางจั๋วหรานไปทำงาน หลังจากการประชุมและผู้บริหารระดับสูงทุกคนก็จากไป หลินม่ายบีบนวดขมับของเธอและเตรียมไปที่แปลงผักเพื่อเลือกผักมาทำอาหารกลางวันให้กับตัวเองและลุงฝู

หลินม่ายลุกขึ้นยืนและกำลังเดินออกไป ก่อนจะพบว่าอาหวงที่นอนหมอบข้างเท้าของเธอตั้งแต่เริ่มการประชุมไม่เคลื่อนไหวเลย

เธอรู้สึกกังวล ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอและอาหวงผูกพันกันอย่างมาก อาหวงมักติดตามเธอไปทุกที่ที่เธอไป แต่ทำไมวันนี้มันถึงกลับนอนนิ่งเฉยไม่ไหวติง

เธอเดินไปหาอาหวงและใช้เท้าสะกิด “แกจะไม่ตามมาเก็บผักกับฉันที่แปลงผักเหรอ?”

อาหวงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใด ๆ แต่หวางไฉวิ่งเข้ามาหาและกระดิกหางให้เธอ

ทันใดนั้นหลินม่ายก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอย่อตัวลงและเห็นว่าอาหวงหลับตานิ่ง ราวกับกำลังหลับอยู่

หลินม่ายเขย่าตัวอาหวงสองถึงสามครั้ง “อย่าเอาแต่นอนหลับสิ นี่ใกล้เที่ยงแล้วนะ”

ดวงตาของอาหวงยังคงปิดสนิท แต่ไม่มีลมหายใจแล้ว

หลินม่ายไม่พูดสิ่งใดอีก และนั่งลงเคียงข้างมันเป็นเวลานาน

หวางไฉคอยเดินวนเวียนรอบอาหวงพลางส่งเสียงครางสะอื้น เป็นท่าทางที่ดูโศกเศร้ามาก

ฟางจั๋วหรานกลับมาจากเลิกงานและเห็นหลินม่ายมีท่าทางผิดปกติ เขาจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น

หลินม่ายตอบเขาเสียงสั่นว่าอาหวงจากไปแล้ว

ฟางจั๋วหรานปลอบใจเธอพักใหญ่ ก่อนที่อารมณ์ของเธอจะกลับมาเป็นปกติ

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

แปลมาถึงตอนนี้น้ำตาไหลเลย แง อาหวงตายแล้ว ขอให้ไปสบายนะคะ น้องใช้ชีวิตของน้องได้ดีที่สุดแล้วค่ะ

ไหหม่า(海馬)

……….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด