สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! 287 เข้าวัง (2) (รีไรท์)
ชุดคลุมยาวที่ถักทอขึ้นจากผ้าไหมอย่างประณีต ทำให้รูปร่างชายหนุ่มผอมเพรียว สูงใหญ่
ดอกอวี๋หลันขาวงามสง่าสองดอกถูกปักอยู่บนหน้าอก เอวรัดด้วยสายคาดเอวสีเงินฝังอัญมณี พร้อมแขวนด้วยหยกไขมันแพะชิ้นหนึ่ง
เท้าสวมรองเท้าสีดำปักลายเมฆมงคล
การแต่งกายเช่นนี้ ทำให้ชายหนุ่มบุคลิกงามสง่า หล่อเหลาองอาจ โดดเด่นเหนือชั้น!
ซินเอ๋อร์เห็นเหลิ่งอวี้เซวียนแต่งกายด้วยชุดสีอ่อนเช่นนี้น้อยมาก
ปกติเหลิ่งอวี้เซวียนมักสวมชุดสีดำหรือสีม่วง เพราะชุดสีค่อนข้างเข้ม ทำให้เขาดูสุขุมหยิ่งยโส
ดังนั้นวันนี้เห็นเหลิ่งอวี้เซวียนแต่งกายเช่นนี้ ทำให้ซินเอ๋อร์รู้สึกแปลกตา และรู้สึกตรงหน้าเปล่งประกาย
ดวงตาคู่งามแฝงความตกตะลึง หลังซินเอ๋อร์เห็นชายหนุ่มดีใจอย่างมาก
ทันใดนั้น สายตาค่อยๆ ผละจากรูปร่างสูงใหญ่ ไปที่ใบหน้าของชายหนุ่ม
เวลานี้เป็นช่วงเช้าตรู่ ทว่าตอนเช้าในฤดูร้อน พระอาทิตย์เริ่มสาดแสงอันร้อนแรงลงมาทั่วแผ่นดินแล้ว
แสงอาทิตย์เรืองรอง ทำให้ทั้งหมดดูสว่างสดใส เปล่งประกาย เปี่ยมด้วยพลังชีวิต
ชายหนุ่มกำลังใช้มือไพล่หลัง ยืนอยู่ข้างรถม้าท่ามกลางแสงอาทิตย์อบอุ่นและสายลมเย็น
เส้นผมสีดำนุ่มลื่นดุจเส้นไหม เวลานี้ถูกรวบขึ้นในกวนหยกอย่างงดงาม ส่วนที่เหลือปล่อยสยายอยู่ทางด้านหลัง ทำให้ใบหน้าและอวัยวะทั้งห้าบนใบหน้างดงามดุจรังสรรค์ออกมาจากหยกงาม
คิ้วกระบี่ดวงตาสดใส จมูกโด่งริมฝีปากกระจับ
ไม่ว่าจะมองจากมุมใด งดงามสมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติ
ทว่าสิ่งที่ดึงดูดซินเอ๋อร์ที่สุดคือ สายตาอบอุ่นสดใสที่ชายหนุ่มมองมายังตน
ดวงตาดำขลับแคบยาว ลึกล้ำดุจบ่อน้ำ ภายในเปี่ยมด้วยความรักอย่างไม่ปิดบัง ทำให้เธอที่ได้สบตาอดจมดิ่งอยู่ในดวงตาอ่อนโยนดุจสายน้ำของเขา
เพียงเห็นชายหนุ่ม ใจของซินเอ๋อร์คล้ายอาบไปด้วยน้ำผึ้งหอมหวาน
การเต้น ‘ตึกตักตึกตัก’ ของหัวใจยิ่งเร็วมากขึ้น
ลมหายใจร้อนระอุทะลักจากในใจขึ้นสู่เหนือศีรษะ สองแก้มบนใบหน้างามเริ่มร้อนผ่าว
แม้ซินเอ๋อร์จะไม่ได้ส่องกระจก ก็รู้ว่าตนต้องหน้าแดงแน่นอน
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์เริ่มก้มหน้าลงอย่างเขินอาย
สายตาก้มมองถนนด้านหน้า ก่อนมุ่งตรงไปที่รถม้าอย่างช้าๆ
ตรงข้ามกับซินเอ๋อร์ที่เขินอายอย่างยิ่ง เหลิ่งอวี้เซวียนกลับเพียงเห็นซินเอ๋อร์ รู้สึกสายตาของตนไม่สามารถละไปจากคนตรงหน้านี้ได้
เพราะซินเอ๋อร์เวลานี้ ในสายตาของเหลิ่งอวี้เซวียนคล้ายกับเทพธิดาที่ไม่ยุ่งเรื่องทางโลกผู้หนึ่ง
ชุดฝ่ายในสีขาวหิมะพอดีตัว ห่อหุ้มกายที่กำลังเจริญเติบโตของเธอเอาไว้
เส้นผมสีดำถูกหวีรวบไว้อย่างสวยงาม ตรงกลางปักด้วยปิ่นดอกอวี๋หลันขาว เข้ากับลายดอกอวี๋หลันขาวบนชุดฝ่ายในสีขาว งดงามลงตัว
และทำให้ใบหน้าเล็กที่ถูกประทินโฉมนั้น งามสง่าขึ้นหลายส่วน อ่อนช้อยงดงามดังที่สาวน้อยควรมี
คิ้วดุจสายน้ำ อ่อนช้อยดุจเทพธิดา ผอมเพรียวเปราะบาง ใบหน้าเกลี้ยงเกลา ริมฝีปากอมชมพู ละเอียดอ่อนเกินบรรยาย
เมื่อเห็นสาวน้อยตรงหน้านี้แฝงไปด้วยความงามเพริศพริ้งหลายส่วน ทว่ากลับไม่ปิดบังความงามสง่า เหลิ่งอวี้เซวียนมองอย่างตกตะลึง
“ซินเอ๋อร์ วันนี้เจ้างามจริงๆ!”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำน่าฟัง
เมื่อซินเอ๋อร์ได้ยินใจเต้นแรง ใบหน้าเล็กปรากฎรอยยิ้มเขินอายและมีความสุขหลายส่วนขึ้นมา
เพราะทราบดีว่าซินเอ๋อร์ขี้อาย เหลิ่งอวี้เซวียนจึงเพียงยิ้มมุมปาก เมื่อซินเอ๋อร์เดินมาถึงข้างกายตน ไม่ให้คนขับรถเดินเข้ามา เพียงยื่นมืออุ้มซินเอ๋อร์ขึ้น ก่อนส่งเธอขึ้นรถม้าอย่างง่ายดาย
ทันใดนั้น ตนก็กระโดดขึ้นบนรถม้าอย่างรวดเร็ว
หลังซินเอ๋อร์นั่งลงบนรถม้า ดวงตาคู่งามกวาดมองด้านใน
เห็นเพียงด้านในรถม้ายังมีผนังอีกชั้น ต่างปูด้วยชั้นเสื่อผ้าไหมหนานุ่ม
เมื่อนั่งลงจะอ่อนนุ่ม ขณะนั่งจะไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน
ภายในรถม้ายังวางโต๊ะไม้จื่อถานลายสลักตัวหนึ่ง ด้านบนวางจานอาหารว่างหน้าตาประณีต น้ำชา และหนังสือหลายเล่ม
หลังเหลิ่งอวี้เซวียนขึ้นมาบนรถม้า พลันนั่งลงข้างกายซินเอ๋อร์ทันที จากนั้นยื่นมือหยิบของว่างบนโต๊ะขึ้นมา ก่อนเอ่ยกับซินเอ๋อร์
“เจ้าหิวหรือไม่ ทานของว่างสักหน่อยเถิด ประเดี๋ยวเข้าวังต้องวุ่นวาย!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์พยักหน้า ยื่นมือหยิบของว่างทานอย่างไม่เกรงใจ
วันนี้เธอตื่นแต่เช้าตรู่ เพราะกลัวจะเข้าวังล่าช้า เธอจึงไม่ได้ทานสิ่งใด หลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ถูกพวกเสี่ยวหวนปรนนิบัติประทินโฉมทำผมอีกหนึ่งชั่วยาม ตอนนี้เธอจึงหิวอย่างมาก!
และของว่างตรงหน้านี้ ยังเป็นของที่ตนชอบทานที่สุดอีก
หลังรู้ว่าเหลิ่งอวี้เซวียนให้คนจัดเตรียมไว้เพื่อเธออย่างใส่ใจ ซินเอ๋อร์ยิ่งซาบซึ้งใจ
หลังทานไปหนึ่งคำ พลันหยิบของว่างอีกชิ้น จ่อไปที่ริมฝีปากของเหลิ่งอวี้เซวียน ก่อนเอ่ยว่า
“เซวียน ท่านก็ทานเถิด”
“อืม ได้”
แม้ตนจะไม่ชื่นชอบทานของหวาน แต่เมื่อซินเอ๋อร์ป้อน เหลิ่งอวี้เซวียนย่อมไม่ปฏิเสธ
ขณะกัดขนมชิ้นนั้น พลันจับมือเล็กของซินเอ๋อร์ไว้ ก่อนแลบลิ้นเปียกชื้นแฝงไปด้วยความซาบซึ้ง เลียบนปลายนิ้วขาวผ่องดุจหยกของซินเอ๋อร์
เมื่อรู้สึกถึงลิ้นร้อนผ่าวบนปลายนิ้วตน ซินเอ๋อร์อดร้องอย่างตกใจออกมาไม่ได้ ก่อนคิดชักมือกลับไป
แต่มือใหญ่คล้ายเหล็กกล้าของชายหนุ่ม กุมมือเธอไว้แน่น แม้จะไม่ได้ทำให้เธอบาดเจ็บ แต่กลับรัดมือของเธอไว้จนขยับไม่ได้
เห็นเช่นนั้น เวลานี้ซินเอ๋อร์จึงเขินอาย จนอดมองค้อนเหลิ่งอวี้เซวียนอย่างขวยเขินไม่ได้ ก่อนเอ่ยออดอ้อน
“เซวียน ห้ามทำเช่นนี้”
“ฮ่า ๆ ผู้ใดให้เจ้าหอมหวาน น่ากลืนกินเช่นนี้ ทำให้ข้ามองจนใจเต้นแรง หากเป็นไปได้ อยากกลืนเจ้าเข้าไป”
เหลิ่งอวี้เซวียนเอ่ยคำนี้อย่างตรงไปตรงมา จนซินเอ๋อร์ที่ได้ยินก้มหน้าลงต่ำอย่างเขินอาย และไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มอีก
เพราะดวงตาของชายหนุ่มร้อนแรง คล้ายสัตว์ร้ายหิวโซตัวหนึ่งต้องการกลืนกินเธอ
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์ทั้งเขินอายและขลาดกลัวในใจ
เมื่อเห็นท่าทางเขินอายของซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนเริ่มจะรู้สึกว่าตนเลวทราม ราวกับอันธพาล
แต่แล้วจะเป็นเช่นไร
ชายหนุ่มทุกคนต่างชื่นชอบเล่นลูกไม้ต่อหน้าหญิงที่ตนชอบมิใช่หรือ!
เหลิ่งอวี้เซวียนคิดอย่างมีความสุขในใจ
และเขาทำเช่นนี้ก็มีเหตุผล
ตั้งแต่เขาบอกกับซินเอ๋อร์ หนึ่งเดือนให้หลังจะพาเธอเข้าวัง อารมณ์ของเธอดูกังวลใจอยู่ตลอดเวลา
เขารับรู้ถึงความกังวลและหวาดหวั่นของเธอ ดังนั้นจึงปลอบโยนชี้แนะไม่หยุด แต่ซินเอ๋อร์ยังกังวลอย่างมาก
โดยเฉพาะตอนนี้ ดังนั้นเหลิ่งอวี้เซวียนจึงเปลี่ยนวิธีการ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ
“ซินเอ๋อร์”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ
เมื่อได้ยิน ซินเอ๋อร์อดเงยหน้าขึ้นสบดวงตาดำขลับของชายหนุ่มไม่ได้
ไม่รู้สายตามีปัญหาหรือเพราะเหตุใด ดวงตาของชายหนุ่มเวลานี้จึงมืดมิด ลึกล้ำดุจยามค่ำคืน และแฝงด้วยประกายอันงดงาม ทำให้คนอดตกอยู่ในภวังค์นั้นจนไม่อาจถอนตัว
และใบหน้าหล่อเหลาที่เข้ามาใกล้ชิดด้านหน้านั้น
โค้งเว้าชัดเจน หล่อเหลาดุจเทพเซียน โดดเด่นสง่างาม ทำให้คนมิอาจละสายตา และใจเต้นแรง
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์อดใจเต้น ‘ตึกตักตึกตัก’ อย่างผิดจังหวะ และหูได้ยินเสียงแหบพร่าของชายหนุ่มดังขึ้นมา
“ข้าดีใจยิ่งนัก”
ขณะชายหนุ่มเอ่ยคำนี้ ไม่เพียงบนใบหน้า แววตา และสีหน้าจะอ่อนโยนมีความสุขเกินบรรยาย ทั้งหมดนี้แสดงถึงความดีใจ ตื่นเต้น และความสุขของเขา
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์อดใจเต้นไม่ได้ ก่อนดวงตาจะอ่อนโยนลง พร้อมยกยิ้มที่มุมปาก
“เซวียน ข้าเองก็ดีใจเช่นกัน!”
รอยยิ้มนี้ของสาวน้อย ดุจดอกเหมยที่เพิ่งเบ่งบานในเดือนสิบสอง อ่อนช้อยสะดุดตา
เห็นเช่นนั้น เหลิ่งอวี้เซวียนหวั่นไหวในใจ จนอดยื่นมือประคองแก้มของซินเอ๋อร์ ก่อนลูบไล้ผิวเบาๆ ไม่ได้
เมื่อรู้สึกถึงผิวที่เนียนนุ่มอย่างเหลือเชื่อนั้น ทำให้เหลิ่งอวี้เซวียนตัดใจปล่อยมือไม่ได้ ก่อนพลันดีใจ
เมื่อนึกถึงสาวน้อยตรงหน้านี้ตอบรับแต่งงานกับเขา ไม่นานจะเป็นภรรยาของเขา เหลิ่งอวี้เซวียนตื่นเต้นในใจอย่างมาก
“ซินเอ๋อร์ เจ้ารู้หรือไม่ ชีวิตนี้มีเจ้า ชีวิตข้าจึงเติมเต็ม เพียงมีเจ้าอยู่ข้างกาย ข้ารู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง!”
เหลิ่งอวี้เซวียนพูดพลางใช้มือโอบซินเอ๋อร์เข้าสู่อ้อมกอด
เมื่อรู้สึกถึงร่างกายของหญิงสาวในอ้อมกอด ทำให้เหลิ่งอวี้เซวียนเกิดความหวงแหน คิดเพียงต้องปกป้องคนตัวเล็กในอ้อมกอดให้ดี ชั่วชีวิตนี้รักดูแลเธอ ทะนุถนอมเธอ
สายตาที่มองซินเอ๋อร์ เปี่ยมด้วยความหวงแหนและรักใคร่
ส่วนซินเอ๋อร์ที่ถูกชายหนุ่มกอดรัดแน่น จะไม่รับรู้ถึงความรักของชายหนุ่มที่มีต่อตนได้เช่นไร!
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์ซาบซึ้งในใจอย่างมาก
เงยหน้ามองเหลิ่งอวี้เซวียน ด้วยแววตาแฝงเขินอายและรักใคร่ไม่เสื่อมคลาย
ก่อนเอ่ยขึ้น
“เซวียน ข้าก็เช่นกัน มีท่านอยู่ข้างกาย ข้ารู้สึกมีความสุขอย่างมาก!”
“ฮ่า ๆ เช่นนั้น จากวันนี้เป็นต้นไป พวกเราจะไม่แยกจากกันอีก จับมือกันไปจนแก่เฒ่า”
เหลิ่งอวี้เซวียนเอ่ยปากทุกคำทุกประโยคอย่างแผ่วเบา
แต่คำสัญญาในคำพูดของเขา กลับหนักแน่นและจริงจัง
มือใหญ่ที่จับมือซินเอ๋อร์ ก็ค่อยๆ ผสานเข้ากับนิ้วของเธอ
เมื่อเห็นมือใหญ่และมือเล็กเกาะกุมกันแน่น ซินเอ๋อร์อบอุ่นหัวใจ
ก่อนอดมองชายหนุ่มพร้อมพยักหน้าอย่างจริงจังไม่ได้
“ชีวิตนี้ เพียงท่านไม่ทอดทิ้งข้า ข้าจะไม่ไปจากท่านเด็ดขาด!”
เสียงซินเอ๋อร์แผ่วเบา แต่เมื่อเหลิ่งอวี้เซวียนได้ยินกลับเปี่ยมไปด้วยความหมาย
“ฮ่า ๆ ตกลง ซินเอ๋อร์ ข้าจะจำคำพูดนี้เอาไว้ ชั่วชีวิตนี้เจ้าจงทำหน้าที่นายหญิงของวังเหลิ่งอย่างสบายใจ อยู่ข้างกายข้าไปชั่วชีวิต จากนั้นให้กำเนิดบุตรชายบุตรสาวให้แก่ข้า ไม่แยกจากกันชั่วชีวิต!”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ มือใหญ่ของเหลิ่งอวี้เซวียนกุมมือซินเอ๋อร์แน่น
ทั้งสองสบตากันอย่างเปี่ยมไปด้วยความรัก
…………………………………………………………………………………..
Comments