ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1726 โอหยางซานซานที่แปลกไป + 1727 พูดจาโอ้อวด

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 1726 โอหยางซานซานที่แปลกไป + 1727 พูดจาโอ้อวด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1726 โอหยางซานซานที่แปลกไป

คนสุดท้ายที่ลงจากรถก็คือโอหยางซานซานนั่นเอง เธออยู่ในชุดกระโปรงสั้นลูกไม้สีดำที่ขับให้ผิวเธอยิ่งดูขาวราวกับหิมะน่าเย้ายวน

ความรู้สึกประหลาดถาโถมเข้ามาในใจของเหมยเหมย ทำไมโอหยางซานซานถึงกลายเป็นแบบนี้?

รู้สึกเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน บุคลิกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

สิ่งสำคัญก็คือแค่เธอเห็นโอหยางซานซาน ราวกับร่างกายเจองูพิษ ส่งสัญญาณเตือนเธอว่าผู้หญิงที่ตรงหน้าเธอนั้นอาฆาตเธออย่างมาก อันตรายมาก

ความรู้สึกแบบนี้มันแย่มาก!

โอหยางซานซานเองก็เห็นพวกเหมยเหมยเลยเดินตรงดิ่งเข้ามาพร้อมอมยิ้มน้อย ๆ เสียงที่ติดแหบหรือบอกได้ว่าเป็นเสียงแหบทรงสเน่ห์ แม้จะฟังไม่ลื่นหูนักแต่กลับน่าเย้ายวนใจ

“จ้าวเหมย ไม่เจอกันนานเลย!”

เหมยเหมยเหมือนโดนผึ้งต่อยเข้าที่หลังทีหนึ่งจนชาวาบไปทั้งหนังศีรษะ ความรู้สึกแปลก ๆรุนแรงกว่าเดิม เธอเองก็ยิ้มแล้วพูดตอบ “นานจริง ๆ”

โอหยางซานซานสยายผมยาวแล้วปรายตามองอู่เชากับสยงมู่มู่แวบหนึ่งด้วยสายตาประหลาด แต่ไม่นานก็มองมาทางเหมยเหมย “ไม่คิดว่าเราจะได้ร่วมรายการเดียวกัน เดี๋ยวฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ!”

“ไม่หรอก ต่างดูแลกันและกันดีกว่า!” เหมยเหมยหน้ายิ้มตาไม่ยิ้ม ความรู้สึกประหลาดหนักหน่วงกว่าเดิม

เมื่อก่อนโอหยางซานซานมองเธอด้วยท่าทีเยาะเย้ยแดกดัน นี่เรียนรู้การพูดตามมารยาทตั้งแต่เมื่อไร?

จะว่าไปเธอกลับชอบโอหยางซานซานคนเก่ามากกว่า แม้จะน่ารังเกียจแต่โง่ซื่อ ไม่เหมือนโอหยางซานซานในตอนนี้ที่ราวกับเหวลึกทำเอามองไม่ออก คาดเดาความคิดไม่ถูก

“อาเมย์ เพื่อนเธอเหรอ?” แขกรับเชิญอีกสามคนเดินมา เมื่อเห็นเหมยเหมยกับสยงมู่มู่ก็ดวงตาเป็นประกาย เดิมทีคิดว่าโอหยางซานซานสวยมากแล้วแต่กลับไม่คิดว่าเพื่อนของเธอจะเย้ายวนใจยิ่งกว่า!

แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งตัวสูงเกินไปหน่อย ไม่เหมาะกับการจูบเลยสักนิด!

โอหยางซานซานรู้ทันความคิดพวกเขาดีก็เกิดอิจฉาชั่วขณะ แสร้งเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจว่า “เป็นเพื่อนเก่าตอนที่อยู่แผ่นดินใหญ่น่ะ”

“มาจากแผ่นดินใหญ่เหรอ…” บนใบหน้าของชายทั้งสามฉายแววดูถูกอย่างชัดเจนและไม่คิดจะปิดบัง

สายตาประเมินของพวกเขาก่อนหน้านี้ยังพอมีขอบเขตอยู่บ้างแต่ตอนนี้กลับแสดงท่าทีออกไปอย่างเถรตรง เอ่ยเสียงยียวน “เดี๋ยวเราจะต้องถ่ายรายการ รอถ่ายเสร็จคุณไปดื่มเหล้ากับเราไหม?”

โอหยางซานซานแอบสะใจเลยจงใจพูดเติมเชื้อเพลิงว่า “จ้าวเหมย พวกเขาเป็นอัจฉริยะตระกูลเศรษฐีเชียวนะ เป็นชายในฝันของหญิงนับไม่ถ้วนเลย!”

ชายหนุ่มทั้งสามยืดอกอย่างภาคภูมิ รู้สึกดีกับคำยกยอปกปั้นของโอหยางซานซานอย่างมาก

แน่นอนว่าพวกเขามีอภิสิทธิ์เหนือกว่าคนอื่นตั้งแต่เด็ก ภูมิหลังครอบครัวที่ไม่ธรรมดา ไหนจะยังเป็นนักศึกษามากความสามารถจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของสหรัฐอเมริกา หน้าตาก็นับได้ว่าหล่อเหลาเอาการ ได้ชื่อว่าเป็นลูกบ้านอื่นที่พ่อแม่คนอื่นชอบยกมาเปรียบเปรยตั้งแต่เด็ก

เพียงแต่พวกเขากลับเป็นสมาชิกกลุ่ม GD อย่างหนักแน่น ไหนจะใช้ชีวิตส่วนตัวเสเพลเล่นสนุกกับหญิงสาวมานับไม่ถ้วน

เหมยเหมยตรงหน้าได้กลายเป็นเป้าหมายของพวกเขาไปโดยปริยาย ทั้งสามคนมั่นอกมั่นใจ ก็แค่สาวจากจีนแผ่นดินใหญ่แค่ให้เงินก็ยอมขึ้นเตียงแล้ว สาวจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่งดงามขนาดนี้พวกเขาไม่รังเกียจหรอก!

“อัจฉริยะจากตระกูลเศรษฐี? เหอะ โอหยางซานซาน มาตรฐานอัจฉริยะของเธอต่ำไปหน่อยนะ ไก่อ่อนสามตัวนี้เธอเก็บไว้ดื่มด่ำเองเถอะ!”

ไม่ผิดคาด โอหยางซานซานคนนี้ยังน่ารังเกียจเหมือนเดิม ทำให้ความรู้สึกอันประหลาดแต่เดิมของเหมยเหมยจางหายไปเล็กน้อย เมื่อพูดประชดไประลอกหนึ่งก็หมุนตัวเดินเข้าสถานีโทรทัศน์ไป

ชายทั้งสามแปรเปลี่ยนความอับอายเป็นความโกรธ ตามไปหมายจะสั่งสอนเหมยเหมย ผู้หญิงจากจีนแผ่นดินใหญ่คนนี้ช่างกล้านัก ไม่ดูเลยว่าอยู่ในถิ่นของใคร?

“คิดจะทำอะไร?” เสียวหลี่ที่อยู่เงียบมาตลอดพุ่งเข้ามาขวางไว้พลางมองทั้งสามคนอย่างเย็นชา เผยความอาฆาตออกมาเงียบ ๆ

ทั้งสามสะดุ้งตกใจจนขาอ่อน ยืนตัวสั่นเทิ้ม

เสี่ยวอวิ๋นแค่นเสียงทีหนึ่งอย่างนึกดูถูก คุณหนูพูดไม่ผิด สมแล้วที่เป็นไก่อ่อนสามตัวดูอ่อนแอไม่สมกับเป็นผู้ชาย

ยังเป็นชายในฝันของหญิงนับไม่ถ้วนอีกเหรอ?

สมองผิดปกติไปแล้วหรือไง!

………………………….

ตอนที่ 1727 พูดจาโอ้อวด

เซียวเซ่อสองแขนกอดอกกดสายตาลงมองชายตัวเตี้ยหนึ่งในสามคนนั้นที่อย่างมากก็สูงเพียงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร เตี้ยกว่าเธอไปเกือบคืบเสียด้วยซ้ำ สวมกรอบแว่นสีทองหุ่นผอมกระร่อง

“ที่บ้านไม่มีเงินกินข้าวหรือไง? ตัวเตี้ยกว่าไก่อีก อุ๊บ!”

เธอยื่นมือเทียบส่วนสูงของชายตัวเตี้ยด้วยสายตาที่ฉายแววดูถูกอย่างเปิดเผย สยงมู่มู่ที่อยู่ด้านหลังหลุดขำออกมา “เธอต้องบอกว่าเตี้ยกว่าแม่ไก่ บางทีไก่ตัวผู้อาจจะสูงกว่าเขาก็ได้นะ!”

ผู้ชายทั้งสามมองสองคนที่ยากจะแยกเพศตรงหน้าอย่างตะลึงทั้งก่นด่าคำหยาบอยู่ภายในใจ สาวงามกลายเป็นผู้ชาย ผู้ชายกลายเป็นผู้หญิง นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?

อีกอย่างกลุ่มคนจากจีนแผ่นดินใหญ่กลุ่มนี้แต่ละคนชักเหิมเกริมใหญ่ล่ะ นี่พวกเขาไปเอาความกล้ามาจากไหน?

ทั้งสามคนหวาดกลัวต่อเสียวหลี่เลยไม่กล้าขยับตัว ได้แต่จับจ้องพวกเขาอย่างแค้นใจ

อีกเดี๋ยวถ่ายรายการค่อยสั่งสอนคนบ้านนอกจากจีนแผ่นดินใหญ่พวกนี้เอง พวกเขาจะไม่ปรานีเลยเด็ดขาด!

พวกเขาทั้งสามไม่เห็นพวกเหมยเหมยอยู่ในสายตาแต่อย่างใด จีนแผ่นดินใหญ่ยากจนแร้นแค้นแทบไม่มีเงินซื้อข้าวกิน แล้วจะมีกะจิตกะใจเล่าเรียนหนังสือได้อย่างไรอีก เกรงว่าคงไม่เคยแม้แต่จะเห็นเครื่องดนตรีตะวันตกมาก่อนเลยสินะ?

อีกอย่างได้ยินมาว่าหญิงชาวจีนแผ่นดินใหญ่มีสถานะต่ำต้อย มีผู้หญิงเพียงจำนวนหยิบมือเท่านั้นที่เคยได้รับการศึกษามาก่อน ต่อให้หญิงจากจีนแผ่นดินใหญ่สองคนนี้จะเคยร่ำเรียนหนังสือมาแต่คงไม่มีความรู้กว้างขวาง ที่มาร่วมรายการได้เกรงว่าทางช่องสถานีโทรทัศน์จะเห็นแก่ความงามบนใบหน้าของพวกเธอสินะ?

โอหยางซานซานกัดปาก นางแพศยาจ้าวเหมยไม่เห็นใครอยู่ในสายตาขึ้นเรื่อย ๆ เหอะ ชอบทำตัวกดขี่ข่มเหง ตระกูลจ้าวเองก็ตกอับไปแล้ว เธอไม่เชื่อหรอกว่าเหยียนหมิงซุ่นจะอยู่ตามใจจ้าวเหมยไปตลอดชีวิต?

ใช้ความงามยั่วยวนผู้ชาย มีสักกี่คนที่จะมีจุดจบที่ดี?

เกรงว่ารอผ่านไปอีกสักพักหนึ่งเหยียนหมิงซุ่นก็คงจะเบื่อหน่ายจ้าวเหมยแล้วสินะ?

ผู้ชายมักได้ใหม่ลืมเก่าไม่ใช่หรือ?

ใต้หล้านี้สาวงามไม่ได้มีเพียงจ้าวเหมยคนเดียวหรอกนะ!

โอหยางซานซานกลอกลูกตาไปมาพลางหัวเราะอย่างได้ใจคนเดียวก่อนจะเรียกชายทั้งสามเข้าไปข้างใน

“อาเมย์ คนพวกนั้นเป็นใครมาจากไหน?” มีคนถาม

“ก็มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ไง พวกนายกลัวหรือไง?” โอหยางซานซานหัวเราะเสียงเบาพลางถามด้วยน้ำเสียงที่ติดจะดูถูกสักหน่อย

“จะเป็นไปได้ไง? เราหรือจะกลัวคนจากจีนแผ่นดินใหญ่!” ทั้งสามปฏิเสธเสียงแข็ง ต่อให้พวกเขานึกกลัวเสียวหลี่จริง ๆก็เถอะแต่จะทำตัวอ่อนแอต่อหน้าสาวงามไม่ได้

โอหยางซานซานเหยียดยิ้มมุมปากไม่พูดอะไรแต่สายตากลับฉายแววเหยียดหยาม!

ไม่นานรายการก็เริ่มขึ้น พิธีกรก็คือพิธีกรอันดับหนึ่งคนนั้นนั่นเอง เขาตัวไม่สูงมากนัก หน้าตาก็เรียบเฉยธรรมดาแต่ฝีปากกลับไม่เป็นรองใคร พูดจาเสียงฉะฉานคมคาย

พิธีอันดับหนึ่งแนะนำแขกรับเชิญทั้งแปดคนให้ผู้ชมรู้จัก พวกโอหยางซานซานไม่ใช่คนดังอะไรนักผู้ชมเลยปรบมือให้ตามมารยาทประปราย แต่พอแนะนำพวกสยงมู่มู่กลับมีเสียงปรบมือดังกึกก้องสนั่น ถึงขั้นมีคนตะโกนร้องเรียกจึงทำให้บรรยากาศภายในห้องส่งครึกครื้นเป็นอย่างมาก

แขกรับเชิญผู้ชายทั้งสามรู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูก มิน่าคนพวกนี้ถึงได้ใจนัก ที่แท้ก็ไม่ใช่คนธรรมดานี่เอง!

แต่พวกเขายังเชื่อมั่นในตัวเองอย่างเคย ไม่ได้รู้สึกว่าพวกเขาพ่ายแพ้คนจากจีนแผ่นดินใหญ่เลยสักนิด!

“เครื่องดนตรีพื้นบ้านไว้เล่นสนุกหยอกเอินบอกรักกันก็เหมาะอยู่หรอกนะ แต่ถ้าจะพูดถึงความสูงส่งต้องเป็นเครื่องดนตรีตะวันตกแน่นอน ยกตัวอย่างแล้วกัน เครื่องดนตรีพื้นบ้านก็เหมือนสาวน้อยจากตระกูลเล็ก ๆที่เหมาะไว้สำหรับสร้างความสุขในห้องนอน เครื่องดนตรีตะวันตกเป็นภรรยาหลวงที่ฐานะสูงศักดิ์สง่างาม รับมืกับสถานการณ์ได้อยู่หมัด…”

หนึ่งในชายหนุ่มพูดหยอกเย้าด้วยสีหน้าที่ดูน่าซ้อมเสียจริง

เหมยเหมยพูดขัดเขาเสียงเย็นชา “จะพูดอะไรก็ต้องมีหลักฐานกันหน่อย คุณมีสิทธิ์อะไรหาว่าเครื่องดนตรีพื้นบ้านเป็นสาวน้อยจากตระกูลเล็ก?”

“นี่ยังต้องให้พูดอีกเหรอ? ดูจากวงดนตรีระดับโลกสิมีใครใช้เครื่องดนตรีพื้นบ้านบ้าง? ถ้าให้พูดไม่น่าฟังสักหน่อยเครื่องดนตรีพื้นบ้านก็มีประโยชน์แค่ในงานแต่งงานหรืองานศพเท่านั้นแหละ!” อีกคนพูดเชิงดูถูกซึ่งเรียกเสียงหัวเราะจากผองเพื่อนของเขา

“พูดบ้าอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเครื่องดนตรีพื้นบ้านคืออะไรกลับกล้าพูดโอ้อวดในรายการแบบนี้ วันนี้จะให้พวกนายได้เห็นว่าอะไรคือเครื่องดนตรีพื้นบ้านอย่างแท้จริง!” สยงมู่มู่อดไม่ได้ที่จะลุกพรวดตบโต๊ะ

………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด