สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน 428 สาวใช้ตัวแสบ 332
ตอนที่ 428 สาวใช้ตัวแสบ 332
“ สวัสดีค่ะ ท่านประธานเย่ ! คุณนายสวัสดีค่ะ ! “ เซี่ยชีหรั่นทักทาย ฝู้เฟิ่งหยีหัวเราะ พูด : “ ครั้งนี้นับว่าเป็นการกลับบ้านตระกูลเย่อย่างทางการแล้ว ก็ไม่ต้องเรียกว่าคุณนาย หรือท่านประธานแล้ว อายุเธอน้อย คิดว่าคุณพ่อของเธออายุก็ไม่ได้มากกว่าท่านเย่ เธอก็เรียกเขาว่าคุณลุง เรียกฉันว่าคุณน้าก็ได้แล้ว “
“ ควรจะต้องเป็นคุณลุงคุณป้าสิ ! “ เหยนชิงเหยียนพูดเยาะเย้ย ความคิดเขาตอนนี้ เหมือนความคิดของเย่เชินหลินที่อยากให้เย่เห้าหรัน และฝู้เฟิ่งหยีคืนดีกัน
ความสัมพันธ์ของพวกเขายังอยู่ แยกกันเป็นเวลานาน แม้บอกว่าจะสมรสใหม่ แต่ก็ไม่กล้าอยู่ดี
สีหน้าฝู้เฟิ่งหยีมีความอาย เย่เห้าหรันก็พูดเสียงต่ำ :“ เรียกคุณลุงคุณป้าเถอะ ! “
“ สวัสดีค่ะ คุณป้าคุณลุง ! “ เซี่ยชีหรั่นทักทายใหม่อีกรอบ
“ ทานข้าวเถอะ ! “ เย่เชินหลินไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่นไม่สบายใจ จับมือเล็กของเธอไว้ ให้เธอนั่งลงหน้าโต๊ะอาหาร
แม่บ้านเสี่ยวหลัน เทเหล้าให้ทุกคน เย่เห้าหรันในฐานะเจ้าของบ้าน ได้ยกแก้วขึ้น พูดกับเซี่ยชีหรั่น “ ยินดีต้อนรับเธอมาตระกูลเย่ “
เซี่ยชีหรั่นมีความซาบซึ้งขึ้นมา เย่เชินหลินขยับคิ้ว
“ ขอบคุณคุณลุงค่ะ ! “ เซี่ยชีหรั่นยกแก้วตอบ กำลังจะดื่ม คิ้วของเย่เชินหลินก็ขมวด แล้วแย่งแก้วจากเธอมา ดื่มเหล้าในแก้วแทนเธอลงไปแล้ว
เหยนชิงเหยียนกับแม่บ้านมองเย่เชินหลิน อย่างตกใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจะดื่มเหล้าแทนผู้หญิงด้วย
สายตาที่ให้ความสนใจของทุกคน ก็มองไปที่เซี่ยชีหรั่น แม้เธอจะไม่ได้ดื่มเหล้า หน้ากลับแดงกว่าดื่มเหล้าอีก เย่เชินหลินดูปกติ เหมือนว่าช่วยเธอดื่มเหล้าเป็นเรื่องที่ปกติมาก
“ ชีหรั่น ไม่มีเรื่องอะไร ก็กลับมาพักกับเย่เชินหลินบ่อยๆ ชอบทานอะไรก็บอกเสี่ยวหลัน ให้เธอเตรียมให้เธอ ตัวเธอดูบางไปหน่อย ต้องดูแลดีๆ “ ฝู้เฟิ่งหยีพูด
ความไม่สบายใจของเซี่ยชีหรั่น ได้หายไปจากหน้าโต๊ะอาหารแล้ว ไม่แปลกที่เย่เชินหลินบอกให้เธอว่า ถ้ามา ก็รู้แล้ว
ก็เป็นเธอที่คิดไม่ได้เอง เธอควรคาดเดาได้นานแล้ว ถ้าตระกูลเย่ไม่ต้อนรับเธอ เย่เชินหลินก็คงไม่พาเธอกลับมา
แม้ฝู้เฟิ่งหยีจะบอกว่าให้เธอดูแลร่างกายดีๆ ที่จริงในใจเซี่ยชีหรั่นก็เข้าใจ ท่านก็น่าจะอยากบอกว่า เธอยังต้องมีลูกให้ตระกูลเย่อีก ยังไงท่านก็เป็นคนที่มีสถานะและตำแหน่งแบบนี้ จึงต้องพูดแบบนี้ ถ้าให้พูดออกมาจริง ก็คงบอกให้เธอรักษาร่างกายดีๆ เพราะเธอต้องมีลูก จึงทำให้คนฟังรู้สึกว่า คำพูดนี้ไม่ได้ห่วงเธอ แต่เพื่อเป็นห่วงตระกูลเย่ในรุ่นต่อไป
คิดถึงขั้นมีลูกนี้ หน้าของเซี่ยชีหรั่นก็แดงขึ้นมาทันที
เหยนชิงเหยียนก็บ่งบอกถึงความต้อนรับของเขาแล้ว เมื่อก่อนเซี่ยชีหรั่นมักรู้สึกว่าเขาปลอม ผ่านช่วงเวลาหนึ่งมา เธอค่อยๆพูดปลอบใจตัวเอง ว่าที่จริงแล้ว เขาเป็นเย่จื่อห้านจริงๆ เธอไม่ควรมีความคิดแบบอื่นกับเขา มันคือความไม่เคารพเขา และคือการไม่เคารพคนในตระกูลเย่
เซี่ยชีหรั่นยิ้มตอบเขา ยกแก้วขึ้น แม่บ้านเสี่ยวหลันได้เปลี่ยนเป็น น้ำผลไม้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว
ข้าวมื้อนี้ทานหมดด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น ฝู้เฟิ่งหยีให้พวกเขาทั้งสองพักที่นี่
เย่เชินหลินเห็นสีหน้าเบื่อหน่ายของเซี่ยชีหรั่น ไม่อยากให้เธอยิ้มอยู่ตรงนี้ตลอดเวลา จึงบอกลากับคุณแม่
หลายปีที่ผ่านมา เขาชินแล้วที่ไม่พูดอะไรกับเย่เห้าหรัน แต่แค่สายตาเย็นชากวาดมองเขาสักพัก ก็นับว่าพัฒนาขึ้นเยอะแล้ว
ทั้งสองออกจากตระกูลเย่ อารมณ์ซาบซึ้งของเซี่ยชีหรั่นยังคงอยู่ไม่หายไป
“ ขอบคุณท่านนะ หลิน ! “ เธอพูดเบาเสียง
ผู้หญิงบ้า !
เขาจับมือเล็กของเธอโดยไม่พูดอะไร มุมปากมีรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา
“ จะขอบคุณยังไง ?จะใช้ร่างกาย ? “
“ ทำไมปากร้ายแบบนี้ ? “ เซี่ยชีหรั่นบ่น แลกกับการหัวเราะของเย่เชินหลิน อยากจะแกล้งเธอตอนนี้จริงๆ
เขาย่อตัวอุ้มเธอ ในระหว่างเสียงปฏิเสธของเธอ หลังจากลงตึก บอดี้การ์ดก็ได้เปิดประตูรถเรียบร้อยแล้ว เขายัดเธอเข้าไปในรถโดยตรง ตัวเองก็ขึ้นรถตาม
เวลานี้พอดี มือถือเขาก็มีเสียงข้อความเข้ามา
เขาเปิดดู เป็นข้อความMMS มีรูปภาพสองรูป ข้างหลังยังมีหลินหลิงที่กำลังรายงานให้เขา
บ้าจริง !
เขาแช่งในใจ คิ้วขมวดเข้ามาอย่างแน่น กวาดมองไปที่เซี่ยชีหรั่น
ตอนนี้รถเพิ่งสตาร์ท เขาสั่งออกมาด้วยเสียงต่ำ : “ จอดรถ ! “
รถหยุดลงมา เขาสั่งคนขับรถและบอดี้การ์ดด้านหน้า : “ ส่งเซี่ยชีหรั่นกลับบ้านวิวล่า ! “ พูดจบ เขาเปิดประตูรถเอง แล้วรีบลงจากรถ
“ หลิน !ท่านไปไหน ? “ เซี่ยชีหรั่นเปิดหน้าต่างรถลง ถามเย่เชินหลิน
เห็นแต่เขาเมมปาก แล้วส่ายมือให้เธอ พูดอย่างเย็นชา : “ เธอกลับไปเถอะ ฉันจะไปทำธุระ ! “
……
แม้สีหน้าเย่เชินหลินจะเย็นชาอยู่แล้ว แต่เริ่มแรกเขาก็อารมณ์ดีอยู่ โดยเฉพาะตอนทั้งสองออกจากบ้านตระกูลเย่ เขายังหยอกเธอ ถ้าไม่มีเรื่องใหญ่อะไร อารมณ์เขาก็ไม่เปลี่ยนไปกะทันหันแบบนี้หรอก
ตั้งแต่ที่ข้อความเขาเข้า ท่าทางเขาก็เปลี่ยนไป เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าเขาจะไปทำธุระอะไรกันแน่ ในใจก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที
“ พวกคุณจอดรถได้ไหม ? ฉันอยากไปหาคุณเย่ “ เซี่ยชีหรั่นพูดกับคนขับรถอย่างเร่งรีบ
“ ขออภัยครับ คุณเซี่ย พวกผมจำเป็นที่จะต้องฟังคำสั่งของคุณเย่ ขอให้ท่านอย่ากดดันผมเลยครับ“ คนขับรถพูดอย่างเคารพ
เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจในใจ ไม่พูดอะไรต่อ
เธอก็รู้ ว่าคนพวกนี้ต้องฟังคำสั่งของเย่เชินหลิน เธอได้แค่บึนปาก ก็ไม่มีทางได้ลงจากรถ
เธออยากโทรหาเย่เชินหลิน คิดทบทวนอีกรอบ รู้สึกว่าแม้โทรหาเขา เขาไม่อยากบอกเธอว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ยังคงไม่บอกอยู่ดี
บางทีความสุขมาอย่างกะทันหันเกินไป เธอยังไม่ทันคุ้นชิน จึงไม่สบายใจแบบนี้หรือเปล่า
ธุระที่เย่เชินหลินไปทำก็อาจจะไม่เกี่ยวกับเธออยู่แล้ว แค่เรื่องงาน หรือเรื่องส่วนตัวอื่นๆ
เซี่ยชีหรั่น เธอควรมั่นใจกับเขา และควรมั่นใจกับความสัมพันธ์ของพวกเธอด้วย เธอดูสิ ช่วงนี้เขาดีกับเธอมากขึ้นไม่ใช่หรอ ? เขาไม่เปลี่ยนไปเป็นผู้ชายเย็นชาแบบนั้น อย่างกะทันหันหรอก ไม่แน่นอน
เรื่องที่เธอต้องทำตอนนี้ คือ กลับบ้านอย่างวางใจ รอเขากลับมาก็ได้แล้ว
หลังจากเย่เชินหลินลงรถ ก็โทรหาหลินต้าฮุย และหลินหลิง ไม่นาน หลินต้าฮุย ก็ขับรถมาแถวที่อยู่ของหอการค้าจังหวัด มารับเย่เชินหลิน ขับไป ตามแผนที่ ที่มีร้านอาหารหรูหราในแถวถนนคนเดิน
เย่เชินหลินไม่บอกว่าเรื่องอะไร หลินต้าฮุยก็รู้ตัว จึงไม่ถาม แต่เขามองออกจากสีหน้าของเย่เชินหลินธุระที่ต้องทำตอนนี้ ทำให้เขาไม่ดีใจนัก
ไม่นาน หลินต้าฮุย ก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขามองไปทางร้านอาหารที่เย่เชินหลินมอง เห็นแค่ชายหญิงคู่หนึ่งออกจากร้านอาหาร ฝ่ายหญิงควงแขนของฝ่ายชายไว้ เดินผ่านหน้ารถพวกเขา
หลินต้าฮุยดูดีๆ สองคนนั้นเขาเคยเห็น ฝ่ายหญิงคือน้องสาวของไห่ลี่หมิน เพื่อนสนิทของเย่เชินหลิน ฝ่ายชายคือโม่เสี่ยวจุน ไม่แปลกที่เย่เชินหลินจะอารมณ์ไม่ดี เขาต้องคิดว่าโม่เสี่ยวจุนมีเจตนาอะไรแน่นอน
แต่เขามองสองคนนี้แล้ว กลับเป็นเหมือนไห่ฉิงฉิงที่อินมากกว่า เธอพิงหัวไว้ที่ไหล่เขา สีหน้าเต็มไปด้วยความสุข
สีหน้าของโม่เสี่ยวจุนกลับจริงจัง แม้แต่ปากยังเมมไว้ แต่สีหน้าแบบนี้ คิดว่าไห่ฉิงฉิงที่พิงอยู่บนไหล่ คงจะมองไม่เห็น ก็มีแค่คนรอบข้างจะดูออก
ทั้งสองใกล้ชิดกันมาก เดินไปที่รถสปอร์ตคันนั้น ของไห่ฉิงฉิง ตอนนี้โม่เสี่ยวจุนดูกระตือรือร้นขึ้นมาหน่อย ไปเปิดประตูให้ไห่ฉิงฉิงเอง
พวกเขาขึ้นรถ ไห่ฉิงฉิงขับรถ โม่เสี่ยวจุนนั่งข้าง รถค่อยๆขับออกไป
เย่เชินหลินสื่อสายตา หลินต้าฮุยรีบเหยียบรถ แอบตามรถพวกเขาไป
เมื่อกี้เขาได้รับรายงานจากหลินหลิง บอกว่าบันทึกภาพของไห่ฉิงฉิงที่กำลังออกเดตกับผู้ชายคนหนึ่งแล้วส่งรูปภาพมา หลินหลิงบอกว่า ผู้ชายคนนี้เหมือนโม่เสี่ยวจุน คนที่เธอเคยเห็นในห้องผู้ป่วยของโม่เสี่ยวหนง
ไห่ฉิงฉิงก็เหมือนน้องสาวของเขา เย่เชินหลินเห็นผู้ชายไม่หวังดีเข้าใกล้น้องสาวเขา จะไม่โกรธได้อย่างไร
โดยเฉพาะเขารับรู้ได้ ว่าโม่เสี่ยวจุนทำแบบนี้ ก็เพื่อเซี่ยชีหรั่น คิ้วของเขาก็ยิ่งขมวดแน่นมากขึ้น
คงไม่กลัวตายจริงๆ กล้าดียังไงไปหาไห่ฉิงฉิง ไม่ดูว่าเธอเป็นใคร เธอคือผู้หญิงที่เขาโม่เสี่ยวจุน อยากแตะก็แตะงั้นหรอ ?
แต่เย่เชินหลินรู้นิสัยของไห่ฉิงฉิง เรื่องนี้เขาไม่ควรเข้าไปยุ่งต่อหน้า ไม่งั้นไห่ฉิงฉิงคงกระโดดออกมาตะโกนอาละวาด ถ้าเธอยินยอม ใครก็เข้าไปยุ่งไม่ได้
เพราะฉะนั้นเขาอยู่หลังพวกเขา เว้นระยะห่างหนึ่งไว้ แล้วดูเหตุการณ์ของพวกเขา
โม่เสี่ยวจุนออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่เที่ยง พอถึงตอนนี้ก็ยังไม่วางใจโม่เสี่ยวหนง เพราะฉะนั้นจึงบอกกับไห่ฉิงฉิง ว่าเขายังมีธุระ หลังจากส่งเธอกลับไป เขาก็จะกลับไปแล้ว
ไห่ฉิงฉิงได้อยู่กับโม่เสี่ยวจุนในช่วงนี้ ยิ่งอยู่ยิ่งหลงเขามากขึ้น ยังมีความไม่อยากแยกกับเขา
เขามีธุระ เธอก็ไม่กล้าเรียกให้อยู่ ยังไงคนเป็นผู้หญิงต้องมีความสตรีสิ ยังมีอีกระยะทางหนึ่งห่างจากเขตทหาร ไห่ฉิงฉิงก็จอดรถ พูดเบาเสียง : “ คุณไปเถอะ ! “
“อืม !” โม่เสี่ยวจุนตอบคำเดียว เห็นสายตาผิดหวังของไห่ฉิงฉิง
เธอเป็นผู้หญิงที่เขาทำเพื่อช่วยเซี่ยชีหรั่น ระดมเงินสิบล้าน แม้เขาจะไม่ชอบเธอ เขาก็ทนไม่ไหวที่จะเย็นชากับเธอ อีกอย่างถ้าเขาเย็นชามากเกินไป เธอก็คงอาจจะไม่ชอบเขาแล้ว
โม่เสี่ยวจุนเอียงหัว โอบคอของไห่ฉิงฉิง จูบไปที่ริมฝีปากเธอสักพัก ใจไห่ฉิงฉิงสั่น หวานแล้วก็หวานอีก
รู้ทั้งรู้ว่าเขาเข้าใกล้เธอ โดยไม่ใสซื่อแบบนั้น เธอก็ยังรู้สึก ว่าตัวเองไม่อยากเปิดเผยเขา
“ พรุ่งนี้ ยังทานข้าวด้วยกันไหม ? “ ลมหายใจของไห่ฉิงฉิงมีความไม่ปกติ เธอถามคำถามด้วยหน้าที่แดงเล็กน้อย
ตั้งแต่เริ่มแรกที่โม่เสี่ยวจุนขอเธอไปทานข้าวกับเขา เธอยังทำเป็นปฏิเสธ ตอนนี้เธอเป็นคนชวนเขาทานข้าวด้วยกันอีก ระหว่างนี้ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันนานขนาดนั้น
Comments