วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน 540 สภาวะจิตพังทลาย
บทที่ 540 สภาวะจิตพังทลาย
ในใจถังลั่วเหยารู้ถึง ความวิตกกังวลที่อยู่ในใจของฉู่ยี่ ดังนั้นเอ่ยปาก ให้เขาขับรถต่อไปก็พอแล้ว
เห็นถังลั่วเหยาอะไรล้วนไม่อยากพูด ฉู่ยี่ก็ได้เพียงแค่ส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก ขับรถต่อไปเลย
“ฉันก็ไม่เชื่อเลยว่าคุณมองเห็นรูปถ่ายนี้ คุณยังจะสามารถจิตใจสบายไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจนอนหลับได้”
อารมณ์ของส้งเจียเจียในตอนนี้เป็นลักษณะที่คอยดูหนังสนุกอย่างนั้นมานานแล้ว
เธอกับถังลั่วเหยาทั้งสองคนอยู่ในบริษัทเดียวกัน แม้ว่าเธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าระหว่างตัวเองกับถังลั่วเหยาจะมีความสัมพันธ์อะไร แต่ว่าถึงยังไงก็คือระยะห่างใกล้มาก ไม่ว่ายังไงก็จะรู้ถึงอารมณ์ซึ่งกันและกันของฝั่งตรงข้าม
ดังนั้นคราวนี้เธอก็จับฉวยนิสัยที่ชอบหึงหวงไม่ค่อยมีความมั่นใจในตนเองแบบถังลั่วเหยาอย่างนั้นมาอย่างแม่นยำ
มองเห็นนิสัยเล็กๆน้อยๆนี้ของถังลั่วเหยา หลังจากมองเห็นรูปถ่ายแล้วในใจมากน้อยล้วนจะวิตกสงสัยนานมาก
คราวนี้ จะมีหนังสนุกได้ดูแล้ว
ถังลั่วเหยาในเวลานี้ก็เป็นอย่างที่คิด เพราะว่ารูปถ่ายใบนี้ที่ส้งเจียเจียส่งมาอยู่ต่อหน้าทันทีนั้นยังทำร้ายอารมณ์ทั้งวันของตนเองจริงๆ
เดิมทีในวันนี้ในใจของตนเองต่อเรื่องเหล่านั้นที่เฟิงยี่พูดกับเธอ เดิมทีก็มีการยอมรับอย่างเงียบๆเล็กน้อยแล้ว อีกทั้งเริ่มยอมรับเฟิงยี่อยู่ในใจแล้ว
และพูดอย่างไม่โอเวอร์แม้แต่น้อยว่าเธอคิดดีแล้ว ในเวลาที่เจอกันคราวหน้า จะต้องบอกกับเฟิงยี่ในน้ำจิตน้ำใจของตนเอง อีกทั้งรับปากอยู่ด้วยกันกับเฟิงยี่
แต่ตอนที่เธอเพิ่งมีความคิดนี้ อยู่ดีๆก็แทรกเข้ามาแบบนี้
สภาพจิตของถังลั่วเหยาทันทีนั้นก็พังทลายแล้ว
เธอไม่รู้ว่าลักษณะของตนเองนี้ถือว่าหึงหวงหรือว่าอะไร
แต่เธอเพียงรู้ว่าตอนที่เธอเห็นรูปถ่ายใบนี้ ในใจเธอที่รู้สึกรักกับเฟิงยี่ของตนเองยากที่จะสร้างขึ้นมา ตอนนี้โดยพื้นฐานคือไม่มีแล้ว
ดังนั้นเธอไม่รู้จริงๆ ทำไมเฟิงยี่ถึงขนาดจะเป็นคนอย่างนี้
กินของที่อยู่ในถ้วยอยู่ยังจ้องมองของที่อยู่ในหม้อล่ะ?
หรือว่าสำหรับเขามากล่าวแล้วจริงใจก็ราคาถูกขนาดนี้หรือ?
ไม่รู้ว่าทำไมถังลั่วเหยาในตอนนี้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเต็มเปี่ยมทั้งหัวใจของตนเองแล้ว
“คุณเป็นยังไงแล้วหรือ?”
ก็อยู่ในเวลานี้ฉู่ยี่จอดรถรอไฟแดงอยู่ มองเห็นสีหน้าของถังลั่วเหยาผิดปกติมากอีกครั้งจากกระจกหลังด้านหน้า
“ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร”
ถ้าหากว่าตนเองก็บอกกับฉู่ยี่ เธอคือเนื่องเพราะเฟิงยี่จึงเป็นอย่างนี้โดยตรงขนาดนี้ งั้นก็อายมากแล้วจริงๆ
ดังนั้นในใจถังลั่วเหยาคิดว่าตนเองย่อมบอกเรื่องนี้กับฉู่ยี่ไม่ได้อย่างเด็ดขาด
ไอ่……
ฉู่ยี่ทอดถอนใจอย่างรุนแรงหนึ่งทีอยู่ในใจ
วันนี้เขามักจะรู้สึกว่าถังลั่วเหยาแปลกๆ แต่ว่าเธอก็มักจะไม่พูดออกมาทำให้เขารู้สึกแปลกประหลาดมาก
“พอแล้ว ก็ไม่รู้ว่าคุณตกลงเป็นยังไงแล้ว มีเรื่องอะไรคุณก็บอกกับผม ดีเลวพวกเราทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนที่ดีล่ะ! นี่คุณมีเรื่องปิดบังผมอารมณ์ตัวคุณเองก็ยังไม่ดีขนาดนี้ ช่างไม่ถือว่าผมเป็นเพื่อนแท้ๆ เลย”
ฉู่ยี่เป็นห่วงถังลั่วเหยาเหลือเกิน ดังนั้นอยากจะให้ถังลั่วเหยาบอกความในใจออกมากับตัวเขาเอง ตัวเขาเองจึงจะได้ช่วยแก้ความกังวลให้กับเธอได้
ในเวลานี้ถังลั่วเหยาก้มหัวของตัวเองไว้
“ฉันไม่มีอะไรจริงๆ อาจจะเป็นเพราะเวลาก่อนหน้านั้นได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ยังไม่มีปฏิกิริยากลับมา มากน้อยในใจก็ยังมีความหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่ผ่านไปเล็กน้อย”
เผชิญหน้ากับการซักถามของฉู่ยี่ ถังลั่วเหยาเลือกความเงียบอีกครั้ง
“ได้ มีเรื่องอะไรคุณจะต้องบอกกับผม จักต้องบอกแน่ๆอย่าอั้นไว้อยู่ในใจคนเดียวนะ”
คนที่ตาสว่างทันทีที่เห็นก็รู้ว่าถังลั่วเหยาตอนนี้มีเรื่องหนักอกหนักใจ แต่ว่าเธอถึงยังไงก็มักจะบอกกับตัวเขาเองครั้งแล้วครั้งเล่าว่าไม่มีเลย
นี่ทำให้ฉู่ยี่มีความจนใจเล็กน้อยจริงๆ
ถ้าหากว่าตนเองบังคับเธอพูดอย่างนี้อีกโดยตลอดล่ะก็ คาดว่าถึงที่สุดก็น่าจะเสียแรงเปล่ามั้ง
“ได้ พอแล้ว ถึงแล้ว”
ขับไปสักพักหนึ่งแล้ว ในที่สุดก็ถึงข้างล่างของบ้านถังลั่วเหยาแล้ว
ถังลั่วเหยาเวลานี้จึงดูเหมือนค่อยๆคืนสติกลับมา เอ้อระเหยหยิบของตนเองขึ้นมาลงจากรถ
“ผมเห็นคุณก็ไม่ได้อยู่ในสภาวะสักนิด ผมช่วยคุณถือขึ้นไปด้วยกันเถอะ”
แต่ถังลั่วเหยารู้สึกว่าตนเองในตอนนี้จำเป็นต้องสงบสักหน่อย ก็ไม่อยากให้ฉู่ยี่ปรากฏอยู่ต่อหน้าตนเองแม้แต่น้อยเลย
“ทำไมไม่พูดมาโดยตลอดล่ะ?”
มองเห็นถังลั่วเหยาใจไม่อยู่กับที่แบบนี้ ฉู่ยี่รู้สึกแปลกประหลาดมากจริงๆ
“ไม่ต้องแล้ว ไม่ต้องแล้ว ฉันถือขึ้นไปเองก็ได้แล้ว”
ถังลั่วเหยาปฏิเสธอยู่ อีกทั้งสายตาล้วนล่องลอยไปมาไม่นิ่งมาโดยตลอด
ก่อนหน้านั้นตอนที่ออกจากโรงพยาบาลก็ยังไม่ได้เป็นเช่นนี้ล่ะ ทำไมตอนนี้อยู่ดีๆแปลกประหลาดมากกลายเป็นลักษณะนี้ ปฏิกิริยาแบบนี้ล่ะ?
ฉู่ยี่ขมวดคิ้วยิ่งลึกกว่านี้อีกแล้ว เขาล้วนไม่รู้ว่าถังลั่วเหยาทำไมเป็นลักษณะนี้
และก็อยู่ในเวลานี้ เฟิงยี่กว่าจะได้กลับไปพักผ่อนที่ห้องของตนเอง แต่ว่าตอนนี้เขาพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงของตนเอง ไม่มีอาการง่วงนอนใดๆแม้แต่น้อย
ตอนนี้เขาล้วนไม่เข้าใจทั้งตัว ทั้งๆที่ตนเองดื่มเหล้ามากขนาดนั้นล่ะ ทำไมเรื่องที่เขาอยากจะลืมล้วนไม่ลืมแม้แต่สักเรื่อง แต่กลับปรากฏอยู่ในสมองของตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่
ตอนนี้ในสมองของเขาที่คิดอยู่ตกลงว่าถังลั่วเหยาทำอะไรอยู่?
ตกลงว่าวันนี้ถังลั่วเหยาได้กลับบ้านหรือไม่? ได้ออกจากโรงพยาบาลหรือไม่?
บาดแผลที่อยู่บนตัวเธอในตอนนี้เป็นยังไงแล้วหรือ?
ยังไงก็คือ ตนเองยิ่งอยากจะลืมเธอ ตอนนี้อยู่ในสมองก็กำลังเตือนสติตนเอง คิดถึงเธออยู่ เตือนสติห่วงใยเธออยู่
เฟิงยี่ก็ยังไม่เคยมีความรู้สึกที่พลิกไปพลิกมายากที่จะนอนหลับแบบนี้มาก่อน
แต่ว่าเขากลับกำลังประสบพบเจอทั้งหมดนี้อยู่ต่อหน้าต่อตา
“อ่า…..”
เฟิงยี่ตอนนี้ก็รับไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ทั้งๆที่เขานอนอยู่บนเตียงเกือบจะหนึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว
เมื่อกี้ตอนที่อยู่ข้างล่าง ทั้งๆที่เขารู้สึกว่าตนเองใกล้จะหลับไปแล้ว แต่ว่าทำไมก็อยู่แค่พริบตาเดียว ในสมองของตนเองล้วนเป็นถังลั่วเหยาหมดล่ะ?
ในตอนนี้ในใจคิดไม่เข้าใจก็คือทำไมถังลั่วเหยาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมชอบตนเองขนาดไหนมาโดยตลอดล่ะ?
เฟิงยี่มักจะรู้สึกมีความรู้สึกรักมากแต่ไม่ได้แบบนี้ทรมานเหลือเกินจริงๆ เขาล้วนไม่อยากมีสักนิดจริงๆ
อีกทั้งยิ่งกว่านั้นแต่ก่อนอยู่ในช่วงวิกฤติอย่างนั้น ผู้ชายคนนั้นหรือว่าได้ไปช่วยเธอแล้วหรือ? ไม่ได้อยู่ตอนที่เธอประสบเจอกับความตายเลย ทั้งๆที่เป็นตนเองอยู่เป็นเพื่อนข้างเคียงเธอ ทำไมเธอก็มองไม่เห็นเรื่องนี้ล่ะ?
ตัวเองอยู่เบื้องหลังเธอแอบทำเรื่องมากมายขนาดนี้ ทำไมถังลั่วเหยาเธอตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่เข้าใจเรื่องนี้ล่ะ?
หรือว่าจะต้องให้ตนเองวิ่งไปที่ต่อหน้าเธอ บอกกับเธอเรื่องทั้งหมดที่ตนเองทำให้หรือ?
ทำไมบนโลกนี้มีผู้หญิงที่ซื่อบื้อขนาดนี้ ตนเองล้วนบอกกับเธอน้ำจิตน้ำใจของตนเองโดยตรงแล้ว แต่ว่าเธอทำไมถึงตอนนี้ล้วนไม่เข้าใจความจริงใจของตัวเขาเองล่ะ? เธอยังคงไม่ยอมรับตัวเขาเองครั้งแล้วครั้งเล่า
เฟิงยี่ยิ่งคิดยิ่งวุ่นวายใจจริงๆ
ฟุ๊บ หนึ่งทีลุกขึ้นจากบนเตียงมานั่ง
เขารู้สึกว่าตัวเขาเองในตอนนี้จำเป็นต้องรีบสูบบุหรี่แก้ความกลุ้ม
ถึงแม้ว่านานมากๆที่ไม่เคยสูบบุหรี่แล้ว เพราะว่าก่อนหน้านั้นก็เคยได้ยินว่าถังลั่วเหยาไม่ค่อยชอบผู้ชายที่สูบบุหรี่
ดังนั้นเฟิงยี่แอบเลิกบุหรี่อยู่เบื้องหลังมานานแล้ว แต่ว่าวันนี้เขาอดไม่ไหวแล้วจริงๆ เขารู้สึกว่าตนเองในตอนนี้วุ่นวายใจเหลือเกิน
Comments