ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! 112 ฉันพูดไม่ได้
บทที่ 112 ฉันพูดไม่ได้
ได้ยินจิ้นเฟิงเหราถามเธอว่าที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เจียงสื้อสื้อไม่รู้ทำไม ถึงได้เรียกสติคือมาได้ เม้มริมฝีปากและพูดว่า “พูดไม่ได้ ฉันพูดไม่ได้……”
เรื่องนี้ เธอจะบอกใครๆ ไม่ได้
พูดจบ ก็คว่ำหน้า หลับลงไป
ตอนแรกจิ้นเฟิงเหราคิดว่าจะถามอะไรออกมาได้ สุดท้าย……
เขาจนใจ ดื่มเหล้าเมาแล้วทำไมยังคุยยากขนาดนี้
แต่ว่าจิ้นเฟิงเหรากลับสังเกตเห็นว่า เจียงสื้อสื้อถูกกัดกันด้านจิตใจ เธอชอบพี่ชายเขาแต่กลับรู้สึกว่าคนสองคนไปกันไม่ได้
เป็นเพราะว่าอะไรกันแน่ ถึงทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่าทั้งสองคนอยู่ด้วยกันไม่ได้
ปีนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?
คิดไป จิ้นเฟิงเหราก็เจ็บหัวใจ อดไม่ได้ที่จะไปตรวจสอบ แต่ว่าก็กลัวพี่ชายและพี่สะใภ้จะโกรธ จิ้นเฟิงเหราตกอยู่ในความสับสน
สุดท้ายเขาไม่ได้ถามอะไร ก็พาเจียงสื้อสื้อส่งกลับไป
……
หลังจากถึงบ้าน เจียงสื้อสื้อก็นอนต่อ
วันถัดมา ตอนที่เธอตื่นขึ้นมา สมองยังคงมึนๆ งงๆ อยู่บ้าง บนร่างกายยังมีกลิ่นเหล้า เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว ความทรงจำน้อยนิดของเมื่อวานก็ฝุดขึ้นมาในสมอง
เธอไปทานข้าวกับจิ้นเฟิงเหรา หลังจากนั้นก็ดื่มเหล้า ต่อจากนั้นเกิดอะไรขึ้น……
เจียงสื้อสื้อทั้งคิดไป ทั้งอาบน้ำไป เมื่อคืนเธอได้ทำเรื่องนอกกรอบอะไรไป
สักพัก เธอก็คิดจิ้นเฟิงเหราถามเธอออก ในใจของเจียงสื้อสื้อตกตะลึง เมื่อคืนคงไม่ได้พูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปนะ?
แต่ว่าคิดมาตั้งนาน เจียงสื้อสื้อก็คิดไม่ออกว่าตัวเองพูดอะไรออกไปบ้าง
ในใจของเธออดไม่ได้ที่จะกลัดกลุ้ม รู้ว่า จิ้นเฟิงเหราไม่ได้มาหาเธอเพื่อไปทานข้าวง่ายๆ ถ้ารู้ไวกว่านี้ เมื่อคืนเธอไม่ควรดื่มเหล้า
เจียงสื้อสื้อถอนหายใจออกมา ในใจหวังว่าตัวเองจะไม่พูดอะไรออกไป หลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จ ก็มาที่บริษัท
……
ด้านจิ้นเฟิงเหรานั้น ตอนบ่าย เขามาถึงบริษัท และถูกลากไปอย่างเป็นห่วง
“คุณชายรอง คุณรีบหาวิธีเถอะ! ประธานจิ้นไม่หยุดพักงานเลย เมื่อวานไม่ออกจากบริษัททั้งคืน และไม่ค่อยทานอะไรด้วย เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่!”
ได้ยินแบบนี้ จิ้นเฟิงเหราก็ขมวดคิ้วขึ้น เขาเดินเข้าไปในห้องทำงาน และจิ้นเฟิงฉินก็ทำงาน อยู่จริงๆ ไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน ท่าทางสุขุมหล่อเหลาของเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นกัน
นี่เป็นครั้งแรก ที่จิ้นเฟิงเหราเห็นท่าทีของพี่ชายที่รักความสะอาดสะอ้านเป็นแบบนี้ โถ่ ก็แค่อกหักไม่ใช่เหรอ?
จิ้นเฟิงเหราถอนหายใจ เขารู้ว่าตัวเองพูดไปก็ไม่มีอะไรดี ดังนั้นก็ไม่ได้เข้าไปเอาเรื่องที่ตัวเองไปหาเจียงสื้อสื้อบอกพี่ชายของเขา แต่ว่าพอกลับไปถึงบ้าน ก็ไปรับเสี่ยวเป่าออกมา
เสี่ยวเป่าดีใจมากที่ได้มาออฟฟิศ แต่ว่าพอเห็นจิ้นเฟิงฉิน ก็รู้สึกถูกทอดทิ้ง
“แด๊ดดี๊ เหม็นมากเลย ไม่ได้อาบน้ำใช่ไหมครับ? แถมยังไม่ได้โกนหนวดด้วย”
จิ้นเฟิงฉินที่ถูกทอดทิ้งจ้องลูกชายและน้องชายตัวเอง ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เสี่ยวเป่าเดินไปด้านหน้า หยิบเอกสารในมือของเขาออก และพูดต่อว่า “แด๊ดดี๊ คุณเป็นแบบนี้ไม่ได้ รีบไปอาบน้ำกับเสี่ยวเป่าเดี๋ยวนี้”
“เสี่ยวเป่า อย่าวุ่นวาย” จิ้นเฟิงฉินปฏิเสธทันที
เสี่ยวเป่ามองเขาอยู่ และพูดต่อเหมือนผู้ใหญ่ “แด๊ดดี๊ เสี่ยวเป่าไม่ได้วุ่นวาย คุณดูคุณตอนนี้สิ เหมือนกับผู้ชายในตระกูลจิ้นของพวกเราที่ไหน!”
พูดจบ จิ้นเฟิงเหราที่อยู่ข้างๆ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา สังเกตเห็นแววตาของพี่ชาย จิ้นเฟิงเหราก็รีบพูดขึ้นว่า “ใช่สิ! พี่ครับ ที่เสี่ยวเป่าพูด ไม่ผิดเลย”
เสี่ยวเป่าพยักหน้ารับ หลังจากนั้นก็ดึงจิ้นเฟิงฉินออกจากออฟฟิศ
จิ้นเฟิงฉินจนใจ ทำได้แค่ตามเสี่ยวเป่ากลับไป
กลับมาถึงบ้านตระกูลจิ้น หลังจากอาบน้ำ จิ้นเฟิงฉินทานอาหารอย่างลวกๆ ตอนแรกแพลนว่าจะไปบริษัท แต่ว่าเสี่ยวเป่ากลับดึงเขาไว้
“แด๊ดดี๊ เสี่ยวเป่าอยากนอนกลางวัน พ่อเล่านิทานให้ผมฟังได้ไหม?”
พูดจบ จิ้นเฟิงฉินถูกลูกชายไปบนเตียงเรียบร้อยแล้ว เขาจนใจ ทำได้แค่เล่านิทานให้เสี่ยวเป่าฟัง
เมื่อคืนจิ้นเฟิงฉินอยู่บริษัททั้งคืน และก็ไม่ได้พักผ่อน ตอนนี้เอนตัวลงบนเตียง และก็ไม่รู้ว่าทำไม สะลึมสะลือและหลับไปแล้ว
เสี่ยวเป่าอยู่ข้างๆ นั่งมองใบหน้าของแด๊ดดี๊และถอนหายใจออกมา เขาหัวใจแทบสะลาย
หาโทรศัพท์จากกระเป๋าจิ้นเฟิงฉิน เสี่ยวเป่าโทรไปหาเจียงสื้อสื้อ แต่ว่าไม่มีคนรับ
สายตาเสี่ยวเป่าเป็นประกายความผิดหวัง แต่ว่าไม่นานก็ตาโตขึ้นมา เขาปีนลงเตียงอย่างทุลักทุเล เท้าสั้นก้าวออกไป ดึงคนขับรถและพูดว่า “คุณลุงคนขับครับ รีบส่งผมไปหาน้าสื้อสื้อหน่อยครับ”
ช่วงนี้ เสี่ยวเป่าอยู่กับคุณชายรองบ้านตระกูลจิ้น คุณชายรองหาเหตุผลและข้ออ้างต่างๆ นานา ไม่ให้เสี่ยวเป่าเจอกับเจียงสื้อสื้อ คนขับรถได้ยินแบบนั้น ใบหน้าก็สับสนขึ้นมา จิ้นเฟิงเหราที่อยู่ด้านข้างพูดว่า “ไปเถอะ! ถ้าแม่ผมทำโทษคุณ ก็บอกว่าผมให้คุณไปส่งเสี่ยวเป่า”
คนขับรถก็พาเสี่ยวเป่าไป แบบนั้น
……
เจียงสื้อสื้อด้านนี้ แค่โทรศัพท์โทรเข้ามาหัวใจก็กระวนกระวายและกว่าจะสงบลงก็ไม่ง่าย
จิ้นเฟิงฉินหาเธอ อยากพูดอะไรรึเปล่า?
ความสับสันวุ่นวายพุ่งเข้ามาในหัวใจ เจียงสื้อสื้อใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง เสียงก็ได้เข้ามาจากด้านนอก เจียงสื้อสื้อเดินไปดูอย่างสงสัย ก็ได้ยินเสียงคนจำนวนมาก
“นี่ลูกบ้านไหนเนี่ย? น่ารักจัง!”
“อยากบีบแก้มเขาจริงๆ! หน้าตาน่ารักน่าชัง!”
“หนูน้อย หนูมาหาใครเหรอ?”
ตอนที่เจียงสื้อสื้อกำลังสงสัย ก็ได้ยินเสียงเสี่ยวเป่าดังขึ้น “ผมมาหาคุณน้าสื้อสื้อของผมครับ”
ท่ามกลางผู้คน ใบหน้าน่ารักของเสี่ยวเป่าก็ปรากฏขึ้น เจียงสื้อสื้อตกใจ คิดไม่ถึงว่าเสี่ยวเป่าจะมาหาเธอที่บริษัท
เสี่ยวเป่าก็เห็นเจียงสื้อสื้อเหมือนกัน เขารีบกระโจนเข้ากป “คุณน้าสื้อสื้อ ไม่เจอตั้งนานเลยครับ!”
ไม่กี่วันนี้เสี่ยวเป่าคิดถึงเจียงสื้อสื้อ แต่ว่าถูกคุณชายรองดูแลอยู่ จิ้นเฟิงฉินก็ไม่มารับเขา ดังนั้นเขาทำได้แค่อยู่บ้านอย่างเชื่อฟัง
ซูซานที่อยู่ข้างๆ รู้จักเสี่ยวเป่า เธอคิดไม่ถึงว่าคุณชายเล็กจะมาถึงบริษัท เห็นทั้งสองคนสนิทสนมกัน ซูซานเลยแกล้งพูดขึ้นมา “สื้อสื้อ นี่ลูกชายเธอเหรอ?”
เพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างๆ ไม่รู้ แต่ว่าสายตาของเจียงสื้อสื้อมองเสี่ยวเป่าเหมือนกับลูกชาย ทุกคนก็ถามออกมาเหมือนกันว่า “ใช่สิ สื้อสื่อ นี่ลูกชายเธอเหรอ? น่ารักจัง”
“สื้อสื้อคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะมีลูกแล้ว! ลูกชายมีแฟนรึยัง? สนใจลูกสาวบ้านฉันไหม”
สายตาของทุกคน ทำให้เจียงสื้อสื้ออึดอัด และรีบอธิบายว่า “ไม่ใช่ค่ะ ลูกของเพื่อน”
พูดจบ เธอก็พูดกับ ซูซานว่า “ผู้จัดการซู ฉันขอลาหยุดครึ่งวันได้ไหมคะ?”
ซูซานตอบตกลงทันที
และ เจียงสื้อสื้อก็อุ้มเสี่ยวเป่าลงจากตึก และถามขึ้นว่า “เสี่ยวเป่า หนูมาได้ยังไง?”
Comments