ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! 484 งั้นคุณต้องเป็นเด็กดีนะ
บทที่ 484 งั้นคุณต้องเป็นเด็กดีนะ
กลับถึงบนรถ ในใจเจียงสื้อสื้อมีความรู้สึกแย่เล็กน้อย
เป็นเธอทำมากเกินไปสักหน่อยหรือเปล่า?
ทำไมเธอมองเห็นเงากายรูปงอเล็กน้อยของเจียงเจิ้นจึงเป็นทุกข์ขนาดนี้
เห็นลักษณะที่เขาเอาใจตัวเธอเอง ทำให้เธอรองรับไม่ไหวจริงๆ
เจียงเจิ้นเป็นเช่นนี้ สู้ว่าตีด่าเธอสักหน่อยดีกว่า ที่จริงแล้วผ่านมาหลายปีขนาดนี้เธอชินมานานแล้ว
แต่วันนี้สลับสถานะแบบนี้ เจียงสื้อสื้อกลับรู้สึกว่าตนเองเป็นคนชั่ว
จิ้นเฟิงเฉินเหลือบมองเห็นสีหน้าของเจียงสื้อสื้อผิดปกติ ก็เลยออกเสียงซักถามว่า “สื้อสื้อ เมื่อกี้บิดาคุณมาพูดอะไรไปหรือ?”
มุมปากของเจียงสื้อสื้อแขวนรอยยิ้มที่เจ็บปวดรวดร้าวขึ้นมา เธอก้มหน้าเล็กน้อยตอบกลับว่า “ก็ไม่มีอะไร ก็แค่พูดว่าเรื่องของแต่ก่อนเขาขอโทษมาก อยากจะให้ฉันอภัยให้เขา”
สายตาตกอยู่บนยาบำรุงที่เจียงเจิ้นยัดใส่มาให้กองนั้น นัยน์ตาที่แจ่มใสของเจียงสื้อสื้อปกคลุมพยับเมฆหลายส่วนอย่างชัดเจน
“รู้สึกน่าขำเล็กน้อยใช่หรือไม่ คนคนนั้น ทั้งๆที่เมื่อก่อนเขาล้วนทนดูฉันไม่ได้ ตอนนี้ฉันตั้งครรภ์แล้ว คิดไม่ถึงว่ารู้จักความรักของพ่อ ยังส่งของให้ฉันอีกล่ะ ความรักของพ่อนะ เป็นสิ่งที่เมื่อก่อนฉันไม่กล้าเพ้อฝันที่สุดล่ะ”
เธอพยายามอยากจะให้น้ำเสียงของตนเองดูเหมือนปลอดภัย กลับหลีกเลี่ยงไม่ได้แฝงไว้ด้วยความเศร้าเย็นเล็กน้อย
การหัวเราะเยาะเย้ยตนเองยกนี้ได้ยินอยู่ในหูของจิ้นเฟิงเฉินแค่รู้สึกเจ็บปวดใจอย่างมาก
สายตาหดลงเล็กน้อย เขาทรุดตัวลงไป ตบมือของเจียงสื้อสื้อตบแล้วตบอีก ค่อยๆลูบเบาๆขึ้นมา
“ห้ามว่าตนเองขนาดนี้”
จิ้นเฟิงเฉินจ้องมองไปยังเจียงสื้อสื้อ นึกถึงเจียงเจิ้น หลีกเลี่ยงไม่ได้น้ำเสียงมีความดุร้ายเล็กน้อย
“ในบนโลกนี้ไม่มีหลักธรรมที่ขอโทษแล้วก็จะต้องให้อภัย เรื่องที่เขาทำต่อคุณ นั่นพูดไม่ได้ว่าเป็นการกระทำของบิดาคนหนึ่งควรทำแล้ว ตอนนี้คุณมีผม มีเสี่ยวเป่า ยังมีลูกที่อยู่ในท้อง อย่างนี้ก็พอแล้ว” จิ้นเฟิงเฉินพูดอย่างเผด็จการ
สายตาเลื่อนลง ฝ่ามือใหญ่ลูบเบาๆอยู่ที่ท้องน้อยของเธอหนึ่งที ปลอบโยนอารมณ์ของเธออยู่
เจียงสื้อสื้ออึ้งชะงักก่อน จากนั้นมุมปากค่อยๆมีรอยยิ้มขึ้นมา
เธอเอามือวางไว้อยู่บนหลังมือของจิ้นเฟิงเฉิน ในใจรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย ความรู้สึกถึงความพึงพอใจที่ไม่เคยมีมาตั้งแต่ก่อน
ใช่สิ เธอมีจิ้นเฟิงเฉิน ยังมีเสี่ยวเป่ากับลูก ฟ้าประทานของล้ำค่าที่สุดให้แก่เธอแล้ว
อย่างอื่น เธอไม่ต้องการแล้ว!
“คุณพูดถูกแล้ว สามีจ๋า พวกเรากลับบ้านเถอะ”
กวาดกระจายพยับเมฆที่อยู่นัยน์ตาทันที เจียงสื้อสื้อไม่พัวพันอุตลุดกันกับเรื่องของเจียงเจิ้นอีก ยิ้มใส่จิ้นเฟิงเฉินอย่างอ่อนหวาน
เห็นลักษณะนี้ มุมปากของจิ้นเฟิงเฉินก็ยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก
กลับถึงบ้าน คนใช้ได้ยินเสียงล้อมรอบเข้ามา มีคนอยากจะเข้ามาพยุงเจียงสื้อสื้อ ถูกสายตาหนึ่งของจิ้นเฟิงเฉินทำจนตกใจถอยออกไป
มือขวาเกาะเจียงสื้อสื้อไว้อย่างแน่น อุ้มคนอยู่ในอ้อมอก
“เอาอันนี้ลงไป” จิ้นเฟิงเฉินเอายาบำรุงเหล่านั้นที่หิ้วอยู่ในมือโยนให้คนใช้ สั่งเสียงเข้ม
“เฟิงเฉิน สื้อสื้อ พวกคุณกลับมาแล้วหรือ”
แม่จิ้นได้ยินเสียง เดินออกมามองเห็นคนทั้งสอง เดินไปข้างหน้าอย่างดีใจมาก
สายตาเหลือบมองเห็นอาหารเสริมถุงใหญ่ที่คนใช้ถืออยู่ คิ้วอดไม่ได้ที่จะขมวดขึ้นมา
“พวกแกทำไมซื้อมากขนาดนี้ด้วยล่ะ ล้วนไม่บอกล่วงหน้ากับฉันสักหน่อย วันนี้ฉันเพิ่งให้คนส่งมาจากต่างประเทศจำนวนหนึ่งล่ะ กลัวว่าจะกินไม่หมดเลย”
แม่จิ้นส่ายหัวอย่างมีความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
เห็นตาที่ผิดหวังของแม่จิ้น เจียงสื้อสื้อรีบขึ้นไปปลอบโยนว่า “แม่ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่พวกเราซื้อ เป็นบิดาของฉันส่งมาให้ ของเขาวางไว้ก็พอ กินของท่านที่ซื้อมาก่อน ขอบคุณแม่แล้ว”
ตอนที่แม่จิ้นได้ยินเจียงสื้อสื้อพูดถึงบิดาอึ้งชะงักหนึ่งที กลับมีความประหลาดใจเล็กน้อย
จากนั้น นึกถึงอะไรได้ และเป็นกังวลเล็กน้อย
เอียงหัวจ้องมองเจียงสื้อสื้อมองแล้วมองอีก พบเห็นสีหน้าของเธอไม่มีความผิดปกติอะไร นี่จึงวางใจลง
“ใช่แล้ว วันนี้มีไม่สบายอะไรไหม? ลูกน้อยไม่ได้ก่อกวนแกล่ะ?”
แม่จิ้นแทรกหัวเรื่องที่คุยกันอย่างรวดเร็ว ดึงเจียงสื้อสื้อไว้ ซักถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่มี” เจียงสื้อสื้อยิ้มอ่อนโยนพูด
นึกถึงลูกน้อยในท้อง สายตาก็อ่อนโยนลงไม่น้อยเช่นกัน
หลายคนยืนอยู่ข้างล่างคุยเล่นกันอีกหลายประโยค
ทันทีที่แม่จิ้นพูดถึงลูกน้อยหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็จะมีความตื่นเต้นดีอกดีใจเล็กน้อย ดึงเจียงสื้อสื้อไว้พูดอย่างน้ำไหลไฟดับ
เจียงสื้อสื้อย่อมอยากจะวางตัวอยู่ต่อหน้าแม่ย่าให้ดีๆเช่นกัน พยายามคุยเล่นอยู่เป็นเพื่อนด้วย
จิ้นเฟิงเฉินยืนอยู่ข้างแทรกคำพูดไม่ได้ ได้แค่ฟังอยู่เฉยๆ
แม่ย่าสะใภ้ทั้งสองล้วนไม่ได้สนใจเขา
เวลานานไป จิ้นเฟิงเฉินขมวดระหว่างคิ้ว ขมวดแล้วขมวดอีกอย่างไม่พอใจ
กอดเอวของเจียงสื้อสื้อมา หาโอกาสที่เหมาะสม เขาตัดคำพูดของแม่จิ้นอย่างเหมาะสม
“แม่ คราวหน้าค่อยคุยอีกเถอะ พวกเราเพิ่งกลับมา ให้สื้อสื้อกับลูกน้อยขึ้นไปพักผ่อนเถอะ” หาข้ออ้างหนึ่งคิดจะพาคนออกไป
“โอ๊ะ ใช่สิ สื้อสื้อเหนื่อยเกินไปไม่ได้ งั้นแกรีบพยุงสื้อสื้อขึ้นไปข้างบนพักผ่อนเถอะ” แม่จิ้นเกิดปฏิกิริยา รีบร้อนพูด
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า พยุงเจียงสื้อสื้อเดินไปยังทิศทางบันได
ตอนที่จะขึ้นบันได ยังจ้องมองพื้นอย่างระมัดระวัง กลัวไม่ทันที่จะระวัง ดูเหมือนเจียงสื้อสื้อจะเหยียบพลาด
เขาโน้มตัวลง ในปากพึมพำกับตัวเอง “ค่อยๆเดิน”
“ไอ้หยะ ไม่เป็นไร นี่เพียงแค่กี่เดือนเองนะ คุณตื่นเต้นขนาดนี้ทำไม”
เจียงสื้อสื้อจ้องมองเขาอย่างน่าขำ
เธอตั้งครรภ์ ก็ไม่ใช่พิการ แค่ขึ้นบันไดเท่านั้น ไม่ต้องพยุงขนาดนี้ล่ะ
“อิอิอิ ดูลักษณะนี้ของพี่สิ คนที่ไม่รู้คิดว่าพี่สะใภ้ใกล้จะคลอดแล้วล่ะ”
ชั้นบน จิ้นเฟิงเหราที่เห็นฉากนี้กับตา เวลานี้กำลังพิงอยู่ข้างๆอย่างเอ้อระเหยลอยชาย อดไม่ได้เอ่ยปากหยอกล้อ
ได้ยินเสียง เจียงสื้อสื้อเงยหน้าขึ้นโดยจิตใต้สำนึก ก็เลยเห็นจิ้นเฟิงเหรา
เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะหน้าแดงเล็กน้อย ผลักไหล่ของจิ้นเฟิงเฉินออก ผลักแล้วผลักอีก ให้สัญญาณเขาปล่อยออก
“ระวังหน่อยมักจะไม่ผิด! อย่าไปสนใจไอ้หนูนั่น!”
จิ้นเฟิงเฉินไม่พอใจการกระทำของเธอ นำเธอเข้าไปยังอ้อมอกอีก ความรุนแรงในมือไม่ได้ปล่อยออกสักนิด
จากนั้น เงยหน้ากวาดเฟิงเหราที่อยู่หางตาอย่างเย็นชา คนหลังตัวสั่น หุบปากหลีกทางอย่างรู้จักมองสีหน้าอารมณ์
เจียงสื้อสื้อหน้าแดงตลอดทางถูกพยุงเข้าห้องนอน ช่วงเวลาแห่งความใกล้ชิดมากน้อยถูกมองเห็นมีความเขินอายเล็กน้อย
เข้าในห้องแล้ว จิ้นเฟิงเฉินยังเทน้ำอุ่นให้เธอ หาเสื้อผ้าที่กว้างขวางไม่อึดอัดให้เปลี่ยนอย่างเอาใจไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง
นวดน่องของเธออย่างเลียนแบบได้เหมือนมาก ไม่รู้ว่าฝึกฝีมือจากไหนมา
“พอแล้ว ฉันไม่เป็นไร คุณรีบไปทำงานเถอะ ฉันอยู่นี่เองได้”
ผลักคนออกไป เจียงสื้อสื้อกลัวว่าเขาจะอดหลับอดนอนจัดการเรื่องของบริษัทอีก ไล่จิ้นเฟิงเฉินออกไป
“ได้ งั้นคุณต้องเป็นเด็กดีนะ”
จิ้นเฟิงเฉินก้มหัวลง จูบอยู่บนหน้าผากของเธออย่างเบาๆหนึ่งที ลุกขึ้นมาเดินออกไปเลย
ทันทีที่ออกจากประตู ปะทะกับจิ้นเฟิงเหรา ผู้ชายคนนี้ถึงขนาดยังไม่ไป
เห็นจิ้นเฟิงเฉิน ยิ้มใส่เขาอย่างยั่วยุเต็มใบหน้า ใช้น้ำเสียงที่แปลกประหลาดอย่างหนึ่งพูดว่า “ได้ งั้นคุณต้องเป็นเด็กดีนะ~”
“แกอยากตายใช่ไหม?”
ตาโหดร้ายของจิ้นเฟิงเฉินกวาดยิงเข้าไปอย่างเย็นชา บนใบหน้าที่หล่อกลับคืนสู่สีหน้าราบเรียบดั่งยามปกติอีก แฝงไว้ด้วยความคุกคามบีบบังคับกดขี่โดยมองไม่เห็น
“เฮ้อ แค่ล้อเล่นน่า อย่าโมโห”
จิ้นเฟิงเหรายกนิ้วโป้งขึ้นอย่างเอาใจ “ผมก็แค่อยากจะพูดว่า ตอนนี้พี่ชายคุณเป็นสามีที่ได้มาตรฐานคนหนึ่งแล้ว พี่สะใภ้มีบุญวาสนาดีมาก! และเก่งมากด้วย ถึงขนาดสามารถฝึกคุณให้เชื่องขนาดนี้…….เอ้อ ผมไม่ได้พูดอะไรเลย”
พูดไปพูดมา รู้สึกถึงความผิดปกติ รีบหุบปาก
Comments