A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน 1678 อสูรลับปรากฏตัว

Now you are reading A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน Chapter 1678 อสูรลับปรากฏตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แม้ว่าอสูรลับจะไม่ใช่อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนกว้างเย็น แต่หากอยู่ในยามกลางราตรี ต่อให้เป็นอสูรโบราณก็ไม่อยากเผชิญหน้ากับฝูงอสูรลับโตเต็มวัยที่พละกำลังเพิ่มขึ้นหลายเท่า

ไม่รู้เพราะเหตุใดในหนึ่งวันป่าอสูรลับถึงได้ตกอยู่ในยามราตรีแห่งความมืดมิดสองในสามส่วน เทียบกับเวลากลางวันแล้วช่างสั้นแสนสั้น

อสูรลับที่มีชีวิตอยู่ในนี้ก็มีมากมายจนนับไม่ถ้วน อสูรลับโตเต็มวัยก็ยิ่งมีสัดส่วนจำนวนมาก

เช่นนั้นต่อให้ป่าอสูรลับจะอยู่ติดกับคอหมื่นวิหคและมหาสมุทรแปดเคราะห์ที่มีอสูรโบราณที่แข็งแกร่งอาศัยอยู่ แต่ก็ไม่มีท่าทีจะรุกรานเข้ามาในเขตนี้เลยสักนิด

อสูรลับที่อยู่ในป่าแห่งนี้ราวกับมีเจ้าของอยู่ที่สวนหลังบ้านของพวกมัน อสูรอื่นๆ ที่มีชีวิตอยู่ในนี้ก็แทบจะเป็นได้เพียงอาหารของอสูรลับ

มีเพียงส่วนน้อยไม่กี่ชนิดที่เป็นอสูรประหลาดซึ่งสามารถเพิ่มพลังได้ในยามราตรี ถึงจะพอสู้กับอสูรลับ จนพอจะมีท่าทีคุกคามได้

แน่นอนว่าอสูรประหลาดเหล่านี้ ไม่ว่าจำนวนหรือว่าพละกำลัง ก็ไม่อาจเทียบกับอสูรลับในป่านี้ได้

วันนี้ตรงมุมหนึ่งของป่าอสูรลับที่ห่างออกไปไม่ถึงร้อยลี้เศษ งูเหลือมยักษ์ยาวเจ็ดแปดจั้ง ผิวเต็มไปด้วยเกล็ดสีเขียว กำลังถลึงตามองอสูรลับตัวหนึ่งด้วยแววตาเย็นชา

งูเหลือมยักษ์ดูไม่แตกต่างอันใดกับงูเหลือมยักษ์ธรรมดาๆ แต่ความจริงแล้วคือหนึ่งในอสูรประหลาดไม่กี่ชนิดที่พอจะต้านทานกับอสูรลับในป่าอสูรลับแห่งนี้ได้ ‘งูเหลือมราตรีมรกต’

ชื่อตรงตามความหมาย ตกกลางคืนงูเหลือมยักษ์ชนิดนี้ร่างกายที่เดิมทีแข็งแกร่งของมันจะเพิ่มอิทธิฤทธิ์ขึ้นมหาศาล และยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถอาศัยพลังยามค่ำคืนเพิ่มระดับความสามารถจนแปลงกายได้

หลังจากงูเหลือมยักษ์แปลงกายแล้ว ก็มีพละกำลังแทบจะไม่ด้อยไปกว่าอสูรลับ หากต่อสู้กัน ก็จะบ้าเลือดและคลุ้มคลั่ง

แต่สำหรับงูเหลือมราตรีมรกตนั้น การแปลงกายนั้นย่อมมีผลเสียตามมาไม่น้อย

ไม่เพียงพละกำลังจะลดลงเป็นอย่างมากเป็นเวลาสองสามปีแล้ว ยิ่งจะต้องสูญเสียอายุขัยไป ดังนั้นหากไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต งูเหลือมยักษ์จะไม่มีทางแปลงกาย

ส่วนแก่นดวงจิตของงูเหลือมราตรีมรกตนั้น ก็เป็นของบำรุงมหาศาลสำหรับอสูรลับ ขอแค่ทั้งสองพบหน้ากันในป่าอสูรลับ ก็จะประมือกันอย่างไม่ยอมลดละทันที

อสูรทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าอยู่ตรงขอบของป่าอสูรลับมาพบกันโดยบังเอิญ

งูเหลือมราตรีมรกตยักษ์ตัวนี้ชูหัวขึ้นสูง แลบลิ้นสีดำม่วงออกมาไม่หยุด เกล็ดสีเขียวบนร่างกายดูคล้ายกับกำลังลุกชัน

ท่าทางพร้อมรบ

อสูรลับที่กำลังเผชิญหน้ากันอยู่ ดูแล้วกลับเหมือนหมาป่ายักษ์ที่ตัวใหญ่กว่าปกติสามสี่เท่า แต่ผิวของมันกลับเป็นสีดำสนิท หางของมันเรียวแหลมราวกับหางเสือดาว ให้ความรู้สึกลึกลับสง่างาม

ดูจากรูปร่างของมัน อสูรลับตัวนี้เพิ่งจะโตเต็มวัยได้ไม่นาน เทียบกับพวกเดียวกันแล้วยังผอมและอ่อนแออยู่หลายส่วน แต่ดวงตาสีดำขาวที่แยกกันอย่างชัดเจนคู่นั้นกำลังจ้องเขม็งมายังงูเหลือมราตรียักษ์ด้วยความเย็นชา แววตาโหดเหี้ยมฉายแววสว่างวาบ

ทว่าสิ่งที่แปลกก็คืออสูรตัวนี้เองก็จ้องเขม็งไปยังงูเหลือมยักษ์ และไม่ได้กระโจนเข้ามาในทันที

ผลลัพธ์ของการต่อสู้กันระหว่างอสูรลับโตเต็มวัยและงูเหลือมราตรีมรกต คงจะจบด้วยการที่ฝ่ายแรกได้แก่นดวงจิตไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางที่อสูรลับจะถูกงูเหลือมราตรีมรกตเขมือบเข้าไป

ทั้งสองฝ่ายมาพบกันโดยบังเอิญ อสูรลับตัวนี้พลันรู้สึกยินดีอยู่ในใจ แต่กลับไม่ได้รีบร้อนที่จะลงมือทันที

ยามที่งูเหลือมราตรีมรกตบ้าคลั่งพละกำลังจะเพิ่มขึ้น แต่ชั่วพริบตานั้นก็จะเผยจุดอ่อนของตนเองออกมา

หากคว้าโอกาสนี้ไว้ได้ ก็อาจตะปบแล้วสังหารอีกฝ่ายได้ในคราเดียว

ส่วนงูเหลือมราตรีมรกตนั้นแม้ว่าจะเตรียมปลดปล่อยความบ้าคลั่งแล้ว แต่ความจริงแล้วกลับไม่กล้ากระทำการบุ่มบ่ามง่ายๆ

ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงแค่มีท่าทีไม่ยอมอ่อนข้อให้กันจนถึงยามนี้

อสูรต่างๆ ในป่าอสูรลับ ล้วนออกมาเคลื่อนไหวกันในยามกลางคืนตั้งนานแล้ว ยามกลางวันมักจะพักผ่อนอยู่ในถ้ำ

ประกอบกับต้นไม้สูงใหญ่เป็นพิเศษในป่า แม้ว่าจะเป็นขอบชายป่า ใบไม้หนาทึบก็แทบจะบดบังท้องฟ้าเก้าในสิบส่วนเอาไว้ เมื่อมองขึ้นไปผ่านซอกใบไม้ก็เห็นเพียงสีดำสนิทเท่านั้น

ยามนี้เป็นยามที่ดึกที่สุดในยามราตรี

หากไม่ใช่เพราะรอบๆ เป็นพุ่มไม้เตี้ยๆ เปล่งแสงเรืองๆ ออกมา ที่นี่ก็แทบมองไม่เห็นนิ้วทั้งห้าในยามที่ยื่นออกมา

เวลาค่อยๆ ไหลผ่านไป งูเหลือมยักษ์และอสูรลับยืนกรานอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กันอยู่พักใหญ่

เมื่อยืนกรานใส่กันเป็นเวลานานก็อารมณ์ไม่ค่อยดีนัก

สุดท้ายอสูรลับก็เป็นฝ่ายทนไม่ไหว

มันเปล่งเสียงร้องคำรามต่ำๆ ขยับแขนขาทั้งสี่ วนล้อมรอบงูเหลือมยักษ์อย่างช้าๆ แต่การเคลื่อนไหวกลับเงียบเชียบ ราวกับว่าร่างกายเป็นสิ่งที่ไร้รูปร่าง

งูเหลือมราตรีมรกตเห็นเช่นนั้นมันก็แลบลิ้นออกมาอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันปากก็เปล่งเสียง “ฟ่อๆ” ออกมา

แต่แววตาโหดเหี้ยมของอสูรลับกลับฉายแวววาวโรจน์ กรงเล็บคู่หน้าขยับเล็กน้อย กรงเล็บลำแสงยาวครึ่งฉื่อเปล่งแสงสีดำวาววับ ในเวลาเดียวกันหางยาวๆ สีดำก็สะบัดขึ้นลงไปกลางอากาศเกิดเป็นเงาสายหนึ่ง คาดไม่ถึงว่าจะเปล่งเสียงหวีดร้องฉีกอากาศออกมา

หัวของงูเหลือมราตรีมรกตขยับไปมาตามอสูรลับ แน่นอนว่าย่อมมองเห็นการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายทุกอย่างอยู่ในสายตา เมื่อเห็นอสูรลับสะบัดหาง มันก็ดูเหมือนว่าจะได้รับการกระตุ้นอันใดสักอย่าง เปล่งเสียงร้องฟ่อๆ ออกมาอย่างกระชั้นขึ้นเรื่อยๆ

เกล็ดสีดำเขียวบนร่างของมันเปล่งแสงสว่างวาบ คาดไม่ถึงว่าขยายใหญ่และหดเล็กลงไปมา ร่างกายบวมพองขึ้นราวกับถูกเป่าลม

ผิวหนังอสรพิษทั้งหมดตึงเปรี๊ยะอย่างหาที่เปรียบมิได้

แทบจะในชั่วพริบตานั้น เสียง “แควก” แสบแก้วหูก็ดังขึ้น!

ผิวของอสรพิษทั้งหมดแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ร่างของอสรพิษที่ใหญ่กว่าเดิมกว่าครึ่งพลันเผยออกมา

ยังคงเป็นงูเหลือมสีดำเขียวดังเก่า แต่ลายระหว่างเกล็ดกลับเปลี่ยนเป็นสีเงินขาว และยิ่งไปกว่านั้นลวดลายยังตัดสลับกันไปมา กลายเป็นลายขนาดน้อยใหญ่ไม่เท่ากัน เปล่งแสงสีเงินเรืองๆ

เมื่อมองขึ้นไปหางูเหลือมราตรีมรกต บนหัวของมันพลันมีเขาเดี่ยวสีขาวบริสุทธิ์ราวกับหยกปรากฏขึ้น ลายเกลียวคลื่น ม้วนวนจากด้านล่างขึ้นมาด้านบน

ท่าทางแหลมคมเป็นอย่างมาก!

ดวงตาของงูเหลือมยักษ์เองก็เปลี่ยนจากสีเขียวมรกตเป็นสีแดงสด และฉายแววบ้าคลั่งออกมา

แทบจะในพริบตาที่งูเหลือมยักษ์แปลงกายสำเร็จ อสูรลับที่วนรอบอยู่ก็เคลื่อนไหวอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด

เห็นเพียงลำแสงสีดำสว่างวาบ ร่างของอสูรตัวนี้หายวับไปท่ามกลางลำแสงยามราตรี

ครู่ต่อมาหัวของงูเหลือมยักษ์ก็เอียงข้าง ลำแสงสีดำสว่างวาบ อสูรลับปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางความมืดมิด ในเวลาเดียวกันกรงเล็บลำแสงสีดำสองสามสายก็พุ่งออกมา ตะปบไปที่คอของงูเหลือมยักษ์แน่น

ตรงที่ดูเหมือนจะเป็นจุดตายของงูเหลือม มีเกล็ดสีแดงอ่อนอยู่สองสามเกล็ด

นั่นคือจุดอ่อนหลังจากแปลงกายของงูเหลือมตัวนี้

เป็นเกล็ดสองสามเกล็ดที่ถูกกระบี่บินธรรมดาๆ สับลงไปก็อาจจะทำให้งูเหลือมยักษ์ได้รับบาดเจ็บหนักได้ หากถูกกรงเล็บที่แหลมคมของจริงของอสูรลับ ก็คงจะสร้างความเสียหายอย่างหนักให้มันทันที

แน่นอนว่าจุดอ่อนนี้อยู่แค่ชั่วพริบตาที่งูเหลือมราตรีมรกตแปลงกายเท่านั้น ทันใดนั้นก็เปลี่ยนสีเป็นเหมือนกับเกล็ดอื่นๆ

แม้กระทั่งหลังจากนั้นระดับความแข็งแกร่งของเกล็ดต่างๆ ก็เหนือกว่าก่อนหน้าเป็นอย่างมาก

เสียง “ปังๆ” ดังขึ้น กรงเล็บลำแสงโจมตีไปที่หามัน ทำให้ร่างของงูเหลือมราตรีมรกตสั่นเทา แต่กรงเล็บลำแสงแค่แฉลบผ่านไปตรงจุดอ่อน งูเหลือมยักษ์พลิ้วกายอย่างรวดเร็ว แล้วหลบการโจมตีที่ถึงชีวิตนี้ไปได้

แต่ตรงคอของงูเหลือมยักษ์ก็ทิ้งรอยแผลสีแดงอ่อนสองสามสายเอาไว้ โลหิตสดๆ ปรากฏขึ้น บาดแผลไม่ได้ลึกนัก

การลอบโจมตีเช่นนี้ แน่นอนว่าย่อมทำให้งูเหลือมยักษ์ที่แต่เดิมก็บ้าคลั่งอยู่แล้วโกรธเกรี้ยวยิ่งขึ้น

ได้ยินเพียงเสียงคำรามด้วยความกราดเกรี้ยว หางของงูเหลือมยักษ์ก็สะบัดไปกลางอากาศ

ชั่วพริบตานั้นกลางอากาศก็เผยเงาหางสีเขียวเป็นสายๆ ออกมา กวาดออกไป พุ่งเข้าไปล้อมอสูรลับเอาไว้

เสียงหวีดร้องดังสนั่นฟ้า

อสูรลับเห็นการโจมตีนี้ไม่สำเร็จ อีกฝ่ายทำการโจมตีกลับ แต่ก็ไม่ได้ร้อนรน ร่างกายกลับพลิ้วไหว ชั่วขณะนั้นร่างของมันก็บินออกไปเป็นลำแสงสีดำสองสาย สายหนึ่งหมุนวน คาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดสีดำสนิทสองตัว

อสูรประหลาดที่ดูเหมือนเงาสองตัวนี้ ภายนอกดูคล้ายกับอสูรลับมาก แต่แค่ร่างกายรางเลือน เปล่งแสงสีดำเทาสว่างวาบ

เมื่อพวกมันปรากฏตัว ก็กระโจนเข้ามาพร้อมกับท่าทางแยกเขี้ยวตะปบเล็บ

เสียง “ฟับๆ” ของกรงเล็บลำแสงดังขึ้น ปะทะกับเงาสีเขียวกลางอากาศทันที

หลังจากเสียงระเบิดดังขึ้น ในเวลาเดียวกันกรงเล็บลำแสงและเงาสีเขียวพลันสลายหายไป คาดไม่ถึงว่าจะมีท่าทีเหมือนแบ่งเป็นเท่าๆ กัน

ทันใดนั้นลำแสงสีเขียวพลันระเบิดออกมาเหนือหัวของอสูรประหลาดสีดำตัวหนึ่ง หัวงูเหลือมยักษ์ตัวหนึ่งเปล่งแสงสว่างวาบขึ้นท่ามกลางลำแสงสีเขียว กลืนอสูรประหลาดสีดำตัวหนึ่งเข้าไปด้วยความเร็วดุจสายฟ้าแลบ แล้วสะบัดคอ พุ่งเข้าไปหาอสูรประหลาดสีดำอีกตัวหนึ่ง คิดจะกลืนมันลงไปเช่นกัน

ในยามนั้นเองอสูรลับตัวนั้นกลับพุ่งไปด้านข้าง อ้าปากออก คาดไม่ถึงว่าปากจะขยายใหญ่ขึ้นสองสามจั้ง ด้านในเต็มไปด้วยเขี้ยวที่แหลมคมดุจใบมีด กลืนงูเหลือมยักษ์เข้าไป

หากถูกปากใหญ่มหึมากัดเข้าไปจริงๆ เชื่อว่าแม้จะเป็นงูเหลือมราตรีมรกตที่ร่างกายหยาบหนาขนาดไหน ก็ไม่อาจต้านทานได้

แต่หลังจากที่งูเหลือมราตรีมรกตแปลงกายไป การเคลื่อนไหวก็ไม่ด้อยไปกว่าอสูรลับ หัวหดกลับมา จากนั้นก็เอียงหัว อ้าปากออกกว้างอย่างไม่แสดงความอ่อนแอออกมา พลางกระโจนเข้าไป

และในยามนั้นเป้าหมายเดิมของมัน อสูรประหลาดสีดำอีกตัวกลับเอียงกาย ร่างกายยืดยาวขึ้น ราวกับว่าเชือกหนาๆ ที่พุ่งเข้ามาหางูเหลือมยักษ์

เสียงดังสนั่นขึ้น อสูรประหลาดสองตัวแสดงความสามารถออกมาพร้อมกัน ต่อสู้พัวพันกันอย่างไม่อาจแยกแยะได้

แต่พวกมันสองตัวย่อมไม่รู้ว่า ห่างจากพวกมันไปสิบกว่าลี้ ในต้นไม้ยักษ์ที่ดูธรรมดาๆ ต้นหนึ่ง คาดไม่ถึงว่าจะมีถ้ำขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางสองจั้ง

และในห้วงมิติเวลาลับนั้น ด้านในมีคนสามคนกำลังนั่งสมาธิอยู่ จ้องเขม็งไปยังกระจกที่ลอยวนล้อมรอบอยู่

ด้านหลังกระจกบานนี้มีลำแสงสีเงินเปล่งแสงเรืองๆ ผิวกระจกเป็นสีเขียวขมุกขมัว เผยภาพที่ชัดเจนออกมา

เป็นภาพที่อสูรลับตัวนั้นและงูเหลือมราตรีมรกตกำลังต่อสู้กัน!

ทัศนียภาพทุกอย่างเหมือนกับจุดที่ไกลออกไปทุกระเบียบนิ้ว แค่เล็กกว่าหลายเท่า

ส่วนสามคนนี้คนหนึ่งสวมชุดคลุมสีเขียว คนหนึ่งสวมงอบสีขาว และยังมีคนหนึ่งที่มีผิวสีเหลืองเข้ม

นั่นก็คือผู้ที่เสียเวลาไปกว่าครึ่งเดือน ในที่สุดถึงมาถึงที่นี่ได้ หานลี่ หลิวสุ่ยเอ๋อร์และสือคุน

ทั้งสามคนมีสีหน้าเคร่งขรึม มองกระจกด้วยดวงตาที่ไม่กะพริบ

หลังจากผ่านไปเกือบครึ่งชั่วยาม ในที่สุดอสูรลับในกระจกที่แยกออกเป็นค้างคาวสีดำนับไม่ถ้วนก็สังหารงูเหลือมราตรีมรกตที่เกล็ดได้รับบาดเจ็บลงได้ จากนั้นก็แหวกท้องมันออกกลืนแก่นดวงจิตเข้าไป แล้วถึงได้จากไปอย่างยินดี

“เป็นอย่างไรบ้าง? ทั้งสองเห็นอสูรลับกับตาตัวเองแล้ว รู้สึกว่าพวกมันเป็นอย่างไร?”

เสียงหลิวสุ่ยเอ๋อร์ถอนหายใจดังขึ้น ชูมือขึ้นร่ายอาคมโจมตีไปที่กระจก

ชั่วขณะนั้นภาพบนกระจกพลันหายวับไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด