Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง 14
R/C 2-14
สาวน้อยหมวกแดงที่ผ่านทางมา
หลังจากที่ทานข้าวเสร็จเรดกับแม่ของเธอก็ช่วยกันเตรียมข้าวของเพื่อที่จะเอาไปให้คุณยาย และทุกอย่างก็ยังคงเหมือนในนิทานที่เรดรู้จัก
ไวน์ แอปเปิล ขนมปังและผลไม้ หลังจากจัดเตรียมทุกอย่างใส่ตะกร้าจนเสร็จสรรพเรดก็ออกไปหน้าบ้านโดยมีคนเป็นแม่ยืนส่งให้
“อืม….”
“มีอะไรเหรอจ้ะ?”
จู่ๆ เรดก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ แต่ก็เหมือนจะจำไม่ได้เช่นกัน เหมือนกับว่าเธอลืมเรื่องอะไรบางอย่างไปงั้นแหละ
พอเห็นท่าทางของเรด ผู้เป็นแม่จึงกล่าวถามขึ้นมาด้วยความสงสัย เพียงแต่เรดก้ส่ายหน้าตอบแทบจะทันที
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูแค่รู้สึกเหมือนลืมอะไรบางอย่างไปน่ะค่ะ”
“อะไรล่ะนั่นน่ะ ทำตัวยังกับคนแก่ไปแล้วเหรอ?”
แม่ของเธอหัวเราะเบาๆ เพราะเห็นเรดลืมเล็กลืมน้อยยังกับคนแก่ทั้งที่ตัวแค่นี้เองแท้ๆ เลย อย่างไรก็ตามเธอก็พูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ เดี๋ยวพอลูกทำอะไรที่สอดคล้องกับสิ่งที่ลูกลืมเดี๋ยวลูกก็จำมันขึ้นมาได้เองนั่นแหละ”
“ค่ะ..”
เรดพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“งั้นก็ไปดีมาดีนะ อย่าเที่ยวเล่น เถลไถลที่ไหนไกล แล้วก็อย่าคุยกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักด้วยนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
บทพูดตามในนิทานหนูน้อยหมวกแดงเช่นเดิมก็ออกมาจากปากผู้เป็นแม่ ก่อนที่เธอจะกลับเข้าไปในบ้านเพื่อทำธุระของตนเองต่อ
เรดเองก็ถือตะกร้าไว้ที่มือก่อนจะหันไปด้านข้าง ด้านข้างตรงนั้นมีกองฟืนวางอยู่เยอะพอสมควร แต่กลับไม่มีขวานวางอยู่เลย
ไม่เหมือนในฝันของเธอที่เธอเห็นขวานวางอยู่ตรงนั้น หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่งเธอก็ไม่ได้ตามหาขวานต่อ
เพราะยังไงซะในฝันอะไรจะเกิดก็เกิดขึ้นได้ เรดตัดสินใจเดินไปตามทางแบบเดิม แต่ในตอนนี้เธอก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ไปคุยกับคุณผีเสื้อ
เพราะพอเธอมาคิดดูดีๆ แล้ว คำพูดของท่านแม่เธอคือห้ามคุยกับคนแปลกหน้านี่น่า คุณผีเสื้อเองก็เป็นคนแปลกหน้าเหมือนกัน
ดังนั้นหากเจอคุณผีเสื้อละก็ เรดตัดสินใจแล้วว่าจะเมินใส่อย่างแน่นอนล่ะ ด้วยประการเช่นนี้เธอจึงเตรียมใจไว้พร้อมแล้ว
ในขณะเดียวกันก็มองหาคุณผีเสื้อว่าเมื่อไหร่เจ้าตัวจะโผล่หน้าออกมาสักทีละเนี่ย แต่ไม่ว่าจะเดินจนแล้วจนรอดยังไงก็ไม่เจอคุณผีเสื้อตัวน้อยเลย
“อืม.. นี่มันหมายความว่าไงน่ะ?”
เรดพึมพำกับตัวเองด้วยความสงสัยเล็กน้อย เพราะมัวแต่มองซ้ายมองขวาหนูน้อยหมวกแดงอย่างเรดจึงลืมดูทางข้างหน้า
สะดุดเข้ากับรากไม้ที่โผล่พ้นออกมาจากพื้นดินจนหกล้มหน้าคว่ำลงกับพื้นอย่างรุนแรง
“โอ๊ย เจ็บๆ”
เธอร้องเสียงหลงออกมาก่อนที่จะถอนหายใจเบาๆ
“เฮ้อ จะว่าไปคุณผีเสื้อบินได้ก็เป็นแค่สิ่งที่อยู่ในฝันฉันนี่น่า แล้วฉันเอาอะไรมาทึกทักไปเองว่าคุณผีเสื้อจะมีอยู่จริงล่ะ”
เรดรู้สึกเหมือนตัวเองดันนึกเรื่องแค่นี้ไม่ออก เธอค่อยๆ ลุกขึ้นโชคยังดีที่เพราะมีผ้าปิดไว้อย่างดีทำให้ของภายในตะกร้าไม่กลิ้งออกมาด้วย
ไม่งั้นเธอคงได้เอาขนมปังคลุกดินให้คุณยายกินแน่ๆ แต่ในขณะที่เรดกำลังรู้สึกขำขันกับตัวเองที่เชื่อความฝันเป็นตุเป็นตะ
สายตาก็เหลือบไปเห็นด้านขวามือ ซึ่งเป็นทิศเดียวกันกับรากต้นไม้ที่ทำให้เธอหกล้มนั่นแหละ ดวงตาของเธอเปิดขึ้นด้วยความประหลาดใจ
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นคือทางแยกทางหนึ่ง ซึ่งแยกออกไปหากตามเส้นทางนี้ออกไปไม่ไกลมาก เรดสามารถมองเห็นสวนดอกไม้ได้ร่ำไรอยู่
นอกจากนี้แถวสวนดอกไม้นั้นยังมีคุณผีเสื้อบินไป บินมาอยู่ด้วย.. แต่สิ่งที่เรดสนใจน่ะไม่ใช่ผีเสื้อเหล่านั้น แต่เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งต่างหาก
เด็กผู้หญิงคนนั้นตัวเล็กกว่าเรดพอสมควรอยู่นะ แต่เพราะชุดที่ใส่นั้นเหมือนกับเรดไม่มีผิด อันที่จริงจะบอกว่าเหมือนกันก็คงไม่ถูก
เพราะชุดที่เรดใส่เป็นชุดที่เย็บขึ้นมาด้วยมือของแม่เธอเอง แต่เด็กคนนั้นที่ทำให้เหมือนเรดคงเพราะมีผ้าโพกหัวสีแดงเหมือนกับเรดเลยนั่นแหละ
อีกอย่างถึงจะบอกว่าเป็นชุดที่เย็บด้วยมือของแม่เรด แต่ชุดแบบนี้ก็ไม่ใช่ชุดที่แปลกประหลาดสำหรับคนบนโลกนี้เท่าไหร่นั่นเอง จึงไม่ทำให้เรดประหลาดใจอะไร
“เด็กคนนั้น….”
เรดครุ่นคิดกับตัวเองเล็กน้อย เธอรู้ดีว่าที่โลกแห่งนี้คือโลกหนูน้อยหมวกแดงที่มีคุณหมาป่าคอยตามหาเป้าหมายในการล่าเหยื่ออยู่
เด็กคนนั้นอายุดูน้อยกว่าเรดประมาณสามถึงสี่ปี เหมือนเด็กอายุแปดขวบงั้นแหละ เธอกำลังก้มทำอะไรบางอย่างอยู่
ถึงแม้เรดจะไม่สนใจก็ได้ แต่ยังไงซะเธอก็เคยเป็นครูมาก่อน เธอไม่สามารถปล่อยเด็กให้อยู่คนเดียวตามลำพังได้หรอก
เรดจึงรีบเดินเข้าไปหา
“นี่เธอตรงนั้นน่ะ?”
“อ้ะ.. คะ?”
พอเรดเรียกเธอก็หันมามองเรดด้วยความงุนงงแทบจะทันที แต่ว่าวินาทีเดียวที่ทั้งสองสบสายตากันนั้นทุกอย่างแทบจะหยุดนิ่ง
ใบหน้าของเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าเรดนั้นเหมือนกับเธอไม่มากก็น้อย อันที่จริงจุดต่างก็คืออายุนั่นแหละนะ
อย่างไรก็ตามเรดก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่มาก เพราะความต่างของอายุเลยทำให้รู้แทบจะทันทีว่าเป็นคนละคนอย่างแน่นอนในมุมมองของเรด
เด็กน้อยที่เห็นเรดยิ่งไม่รู้สึกแปลกอะไรมาก ในมือของเธอกำลังกำดอกไม้หลากสีเอาไว้พร้อมกับมีคุณผีเสื้อบินไปมารอบตัวเธอ
“เธอมาทำอะไรที่นี่เหรอ มันอันตรายนะรู้ไหม?”
หลังจากที่จ้องมองเด็กตัวน้อยได้ครู่ใหญ่ เรดถามออกไปด้วยความสงสัย เด็กสาวตัวน้อยดูลังเลพอสมควรเนื่องจากมีคนแปลกหน้าเข้ามาทัก
พอเห็นท่าทางของเธอคนนี้เรดยิ่งมั่นใจเข้าไปอีกว่าเธอคงเป็นลูกคุณหนูจากที่ไหนสักแห่งอย่างแน่นอน
เพราะนอกจากเสื้อผ้าจะสะอาดสะอ้าน ความใสซื่อบริสุทธิ์ยังแสดงออกมาจากดวงเนตรของเธอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ท่าทางกระวนกระวายที่เต็มไปด้วยความสับสนนั้น เห็นได้ชัดว่าเธอไม่คุ้นกับคนแปลกหน้าเลยแม้แต่น้อย
ผสมกับข้อมูลที่คุณแม่ของเรดบอกมาก่อนหน้านี้ว่าขุนนางบนโลกนี้เป็นยังไง ยิ่งทำให้เรดมั่นใจว่าเด็กคนนี้เป็นขุนนางไม่ผิดแน่
“เอ่อ.. พี่สาวเป็นใครเหรอ..”
เธอดูลังเล แต่ก็ถามออกมาด้วยความใสซื่อ
“ฉันเหรอ.. นั่นสินะ.. ฉันคือสาวน้อยหมวกแดงที่ผ่านทางมายังไงล่ะ!”
ว่าไปนั่น เรดหัวเราะกับตัวเองเบาๆ เธอรู้จักวิธีเข้าหาเด็กเพราะว่าเคยเป็นครูสอนเด็กมาก่อนการทำแบบนี้ก็ถือว่าเป็นการแสดงนั่นแหละนะ
พอเห็นท่าทางของเรดเธอก็เอียงคอสงสัยเข้าไปอีก เรดถูจมูกเบาๆ ก่อนจะพูดต่อว่า
“ฉันไม่ใช่คนไม่ดีหรอกนะ”
“เอ๊ะ.. พี่สาวไม่ใช่คนไม่ดีงั้นเหรอคะ?”
“แน่นอนสิ”
“อืมมม เข้าใจแล้วค่ะ หนูจะเชื่อพี่สาวนะคะ”
เรดพูดไม่ออกกับความใสซื่อของสาวตัวน้อยคนนี้ เอาเถอะเพราะเธอยังเด็กอยู่นั่นแหละ ก่อนอื่นเธอต้องพาสาวน้อยนี่กลับบ้าน
เพราะเท่าที่รู้มาคือนอกจากจะมีหมาป่าชั่วแล้ว โลกนี้ยังมีการค้าทาสอยู่อีก เพราะงั้นเรดต้องพาเด็กคนนี้กลับบ้านก่อนเป็นอย่างแรก
“แล้วเธอมีชื่อว่าอะไรเหรอ?”
“อืม…..”
เธอดูคิดหนักเล็กน้อย อาจจะโดนพ่อแม่สอนละมั้งว่าห้ามบอกชื่อจริงกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก เอาเข้าจริงขนาดแม่เรดยังสอน
ทำไมแม่ของเด็กคนนี้จะไม่สอนล่ะ ถูกไหม.. หลังจากที่เห็นเธออืมยาวจนเกินไปเรดก็พูดขึ้นว่า
“ดีมาก ดีแล้วล่ะที่ไม่บอกชื่อให้กับคนแปลกหน้าน่ะ.. เอาแบบนี้เรามาตั้งชื่อเล่นให้กันดีกว่า เธอเรียกฉันว่าพี่สาวหมวกแดงก็ได้..”
“ส่วนเธอเอาเป็น…. อืมมมมม”
พอเห็นเธอไม่สบายใจที่จะบอกชื่อ เรดก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซักไซ้อะไร อันที่จริงก็เป็นเรื่องดีที่เธอไม่เที่ยวบอกชื่อไปมั่ว
หากชื่อเธอที่เป็นลูกคนใหญ่คนโตหลุดออกมา เธออาจจะถูกจับไปเรียกคาไถ่เลยก็ได้ เพราะงั้นเรดจึงยื่นข้อเสนอแบบนั้นออกไป
พอได้ยินว่าสามารถตั้งชื่อเองได้ สาวน้อยคนนั้นก็ยกมือขึ้นพร้อมกับพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“ค่ะ ค่ะ ค่ะ.. พี่สาวเรียกหนูว่าสโนว์ไวท์ก็ได้ค่ะ”
“สโนว์ไวท์…?”
เด็กสาวนามสโนว์ไวท์พยักหน้าเพื่อยืนยันว่า ‘นั่นแหละดีแล้ว’
เรดก็ไม่ได้แย้งอะไรแต่ว่าชื่อแบบนี้มัน….
ในโลกนี้มีเรื่องเล่านิทานสโนว์ไวท์ด้วยงั้นเหรอ?
Comments
Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง 14
R/C 2-14
สาวน้อยหมวกแดงที่ผ่านทางมา
หลังจากที่ทานข้าวเสร็จเรดกับแม่ของเธอก็ช่วยกันเตรียมข้าวของเพื่อที่จะเอาไปให้คุณยาย และทุกอย่างก็ยังคงเหมือนในนิทานที่เรดรู้จัก
ไวน์ แอปเปิล ขนมปังและผลไม้ หลังจากจัดเตรียมทุกอย่างใส่ตะกร้าจนเสร็จสรรพเรดก็ออกไปหน้าบ้านโดยมีคนเป็นแม่ยืนส่งให้
“อืม….”
“มีอะไรเหรอจ้ะ?”
จู่ๆ เรดก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ แต่ก็เหมือนจะจำไม่ได้เช่นกัน เหมือนกับว่าเธอลืมเรื่องอะไรบางอย่างไปงั้นแหละ
พอเห็นท่าทางของเรด ผู้เป็นแม่จึงกล่าวถามขึ้นมาด้วยความสงสัย เพียงแต่เรดก้ส่ายหน้าตอบแทบจะทันที
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูแค่รู้สึกเหมือนลืมอะไรบางอย่างไปน่ะค่ะ”
“อะไรล่ะนั่นน่ะ ทำตัวยังกับคนแก่ไปแล้วเหรอ?”
แม่ของเธอหัวเราะเบาๆ เพราะเห็นเรดลืมเล็กลืมน้อยยังกับคนแก่ทั้งที่ตัวแค่นี้เองแท้ๆ เลย อย่างไรก็ตามเธอก็พูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ เดี๋ยวพอลูกทำอะไรที่สอดคล้องกับสิ่งที่ลูกลืมเดี๋ยวลูกก็จำมันขึ้นมาได้เองนั่นแหละ”
“ค่ะ..”
เรดพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“งั้นก็ไปดีมาดีนะ อย่าเที่ยวเล่น เถลไถลที่ไหนไกล แล้วก็อย่าคุยกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักด้วยนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
บทพูดตามในนิทานหนูน้อยหมวกแดงเช่นเดิมก็ออกมาจากปากผู้เป็นแม่ ก่อนที่เธอจะกลับเข้าไปในบ้านเพื่อทำธุระของตนเองต่อ
เรดเองก็ถือตะกร้าไว้ที่มือก่อนจะหันไปด้านข้าง ด้านข้างตรงนั้นมีกองฟืนวางอยู่เยอะพอสมควร แต่กลับไม่มีขวานวางอยู่เลย
ไม่เหมือนในฝันของเธอที่เธอเห็นขวานวางอยู่ตรงนั้น หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่งเธอก็ไม่ได้ตามหาขวานต่อ
เพราะยังไงซะในฝันอะไรจะเกิดก็เกิดขึ้นได้ เรดตัดสินใจเดินไปตามทางแบบเดิม แต่ในตอนนี้เธอก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ไปคุยกับคุณผีเสื้อ
เพราะพอเธอมาคิดดูดีๆ แล้ว คำพูดของท่านแม่เธอคือห้ามคุยกับคนแปลกหน้านี่น่า คุณผีเสื้อเองก็เป็นคนแปลกหน้าเหมือนกัน
ดังนั้นหากเจอคุณผีเสื้อละก็ เรดตัดสินใจแล้วว่าจะเมินใส่อย่างแน่นอนล่ะ ด้วยประการเช่นนี้เธอจึงเตรียมใจไว้พร้อมแล้ว
ในขณะเดียวกันก็มองหาคุณผีเสื้อว่าเมื่อไหร่เจ้าตัวจะโผล่หน้าออกมาสักทีละเนี่ย แต่ไม่ว่าจะเดินจนแล้วจนรอดยังไงก็ไม่เจอคุณผีเสื้อตัวน้อยเลย
“อืม.. นี่มันหมายความว่าไงน่ะ?”
เรดพึมพำกับตัวเองด้วยความสงสัยเล็กน้อย เพราะมัวแต่มองซ้ายมองขวาหนูน้อยหมวกแดงอย่างเรดจึงลืมดูทางข้างหน้า
สะดุดเข้ากับรากไม้ที่โผล่พ้นออกมาจากพื้นดินจนหกล้มหน้าคว่ำลงกับพื้นอย่างรุนแรง
“โอ๊ย เจ็บๆ”
เธอร้องเสียงหลงออกมาก่อนที่จะถอนหายใจเบาๆ
“เฮ้อ จะว่าไปคุณผีเสื้อบินได้ก็เป็นแค่สิ่งที่อยู่ในฝันฉันนี่น่า แล้วฉันเอาอะไรมาทึกทักไปเองว่าคุณผีเสื้อจะมีอยู่จริงล่ะ”
เรดรู้สึกเหมือนตัวเองดันนึกเรื่องแค่นี้ไม่ออก เธอค่อยๆ ลุกขึ้นโชคยังดีที่เพราะมีผ้าปิดไว้อย่างดีทำให้ของภายในตะกร้าไม่กลิ้งออกมาด้วย
ไม่งั้นเธอคงได้เอาขนมปังคลุกดินให้คุณยายกินแน่ๆ แต่ในขณะที่เรดกำลังรู้สึกขำขันกับตัวเองที่เชื่อความฝันเป็นตุเป็นตะ
สายตาก็เหลือบไปเห็นด้านขวามือ ซึ่งเป็นทิศเดียวกันกับรากต้นไม้ที่ทำให้เธอหกล้มนั่นแหละ ดวงตาของเธอเปิดขึ้นด้วยความประหลาดใจ
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นคือทางแยกทางหนึ่ง ซึ่งแยกออกไปหากตามเส้นทางนี้ออกไปไม่ไกลมาก เรดสามารถมองเห็นสวนดอกไม้ได้ร่ำไรอยู่
นอกจากนี้แถวสวนดอกไม้นั้นยังมีคุณผีเสื้อบินไป บินมาอยู่ด้วย.. แต่สิ่งที่เรดสนใจน่ะไม่ใช่ผีเสื้อเหล่านั้น แต่เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งต่างหาก
เด็กผู้หญิงคนนั้นตัวเล็กกว่าเรดพอสมควรอยู่นะ แต่เพราะชุดที่ใส่นั้นเหมือนกับเรดไม่มีผิด อันที่จริงจะบอกว่าเหมือนกันก็คงไม่ถูก
เพราะชุดที่เรดใส่เป็นชุดที่เย็บขึ้นมาด้วยมือของแม่เธอเอง แต่เด็กคนนั้นที่ทำให้เหมือนเรดคงเพราะมีผ้าโพกหัวสีแดงเหมือนกับเรดเลยนั่นแหละ
อีกอย่างถึงจะบอกว่าเป็นชุดที่เย็บด้วยมือของแม่เรด แต่ชุดแบบนี้ก็ไม่ใช่ชุดที่แปลกประหลาดสำหรับคนบนโลกนี้เท่าไหร่นั่นเอง จึงไม่ทำให้เรดประหลาดใจอะไร
“เด็กคนนั้น….”
เรดครุ่นคิดกับตัวเองเล็กน้อย เธอรู้ดีว่าที่โลกแห่งนี้คือโลกหนูน้อยหมวกแดงที่มีคุณหมาป่าคอยตามหาเป้าหมายในการล่าเหยื่ออยู่
เด็กคนนั้นอายุดูน้อยกว่าเรดประมาณสามถึงสี่ปี เหมือนเด็กอายุแปดขวบงั้นแหละ เธอกำลังก้มทำอะไรบางอย่างอยู่
ถึงแม้เรดจะไม่สนใจก็ได้ แต่ยังไงซะเธอก็เคยเป็นครูมาก่อน เธอไม่สามารถปล่อยเด็กให้อยู่คนเดียวตามลำพังได้หรอก
เรดจึงรีบเดินเข้าไปหา
“นี่เธอตรงนั้นน่ะ?”
“อ้ะ.. คะ?”
พอเรดเรียกเธอก็หันมามองเรดด้วยความงุนงงแทบจะทันที แต่ว่าวินาทีเดียวที่ทั้งสองสบสายตากันนั้นทุกอย่างแทบจะหยุดนิ่ง
ใบหน้าของเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าเรดนั้นเหมือนกับเธอไม่มากก็น้อย อันที่จริงจุดต่างก็คืออายุนั่นแหละนะ
อย่างไรก็ตามเรดก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่มาก เพราะความต่างของอายุเลยทำให้รู้แทบจะทันทีว่าเป็นคนละคนอย่างแน่นอนในมุมมองของเรด
เด็กน้อยที่เห็นเรดยิ่งไม่รู้สึกแปลกอะไรมาก ในมือของเธอกำลังกำดอกไม้หลากสีเอาไว้พร้อมกับมีคุณผีเสื้อบินไปมารอบตัวเธอ
“เธอมาทำอะไรที่นี่เหรอ มันอันตรายนะรู้ไหม?”
หลังจากที่จ้องมองเด็กตัวน้อยได้ครู่ใหญ่ เรดถามออกไปด้วยความสงสัย เด็กสาวตัวน้อยดูลังเลพอสมควรเนื่องจากมีคนแปลกหน้าเข้ามาทัก
พอเห็นท่าทางของเธอคนนี้เรดยิ่งมั่นใจเข้าไปอีกว่าเธอคงเป็นลูกคุณหนูจากที่ไหนสักแห่งอย่างแน่นอน
เพราะนอกจากเสื้อผ้าจะสะอาดสะอ้าน ความใสซื่อบริสุทธิ์ยังแสดงออกมาจากดวงเนตรของเธอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ท่าทางกระวนกระวายที่เต็มไปด้วยความสับสนนั้น เห็นได้ชัดว่าเธอไม่คุ้นกับคนแปลกหน้าเลยแม้แต่น้อย
ผสมกับข้อมูลที่คุณแม่ของเรดบอกมาก่อนหน้านี้ว่าขุนนางบนโลกนี้เป็นยังไง ยิ่งทำให้เรดมั่นใจว่าเด็กคนนี้เป็นขุนนางไม่ผิดแน่
“เอ่อ.. พี่สาวเป็นใครเหรอ..”
เธอดูลังเล แต่ก็ถามออกมาด้วยความใสซื่อ
“ฉันเหรอ.. นั่นสินะ.. ฉันคือสาวน้อยหมวกแดงที่ผ่านทางมายังไงล่ะ!”
ว่าไปนั่น เรดหัวเราะกับตัวเองเบาๆ เธอรู้จักวิธีเข้าหาเด็กเพราะว่าเคยเป็นครูสอนเด็กมาก่อนการทำแบบนี้ก็ถือว่าเป็นการแสดงนั่นแหละนะ
พอเห็นท่าทางของเรดเธอก็เอียงคอสงสัยเข้าไปอีก เรดถูจมูกเบาๆ ก่อนจะพูดต่อว่า
“ฉันไม่ใช่คนไม่ดีหรอกนะ”
“เอ๊ะ.. พี่สาวไม่ใช่คนไม่ดีงั้นเหรอคะ?”
“แน่นอนสิ”
“อืมมม เข้าใจแล้วค่ะ หนูจะเชื่อพี่สาวนะคะ”
เรดพูดไม่ออกกับความใสซื่อของสาวตัวน้อยคนนี้ เอาเถอะเพราะเธอยังเด็กอยู่นั่นแหละ ก่อนอื่นเธอต้องพาสาวน้อยนี่กลับบ้าน
เพราะเท่าที่รู้มาคือนอกจากจะมีหมาป่าชั่วแล้ว โลกนี้ยังมีการค้าทาสอยู่อีก เพราะงั้นเรดต้องพาเด็กคนนี้กลับบ้านก่อนเป็นอย่างแรก
“แล้วเธอมีชื่อว่าอะไรเหรอ?”
“อืม…..”
เธอดูคิดหนักเล็กน้อย อาจจะโดนพ่อแม่สอนละมั้งว่าห้ามบอกชื่อจริงกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก เอาเข้าจริงขนาดแม่เรดยังสอน
ทำไมแม่ของเด็กคนนี้จะไม่สอนล่ะ ถูกไหม.. หลังจากที่เห็นเธออืมยาวจนเกินไปเรดก็พูดขึ้นว่า
“ดีมาก ดีแล้วล่ะที่ไม่บอกชื่อให้กับคนแปลกหน้าน่ะ.. เอาแบบนี้เรามาตั้งชื่อเล่นให้กันดีกว่า เธอเรียกฉันว่าพี่สาวหมวกแดงก็ได้..”
“ส่วนเธอเอาเป็น…. อืมมมมม”
พอเห็นเธอไม่สบายใจที่จะบอกชื่อ เรดก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซักไซ้อะไร อันที่จริงก็เป็นเรื่องดีที่เธอไม่เที่ยวบอกชื่อไปมั่ว
หากชื่อเธอที่เป็นลูกคนใหญ่คนโตหลุดออกมา เธออาจจะถูกจับไปเรียกคาไถ่เลยก็ได้ เพราะงั้นเรดจึงยื่นข้อเสนอแบบนั้นออกไป
พอได้ยินว่าสามารถตั้งชื่อเองได้ สาวน้อยคนนั้นก็ยกมือขึ้นพร้อมกับพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“ค่ะ ค่ะ ค่ะ.. พี่สาวเรียกหนูว่าสโนว์ไวท์ก็ได้ค่ะ”
“สโนว์ไวท์…?”
เด็กสาวนามสโนว์ไวท์พยักหน้าเพื่อยืนยันว่า ‘นั่นแหละดีแล้ว’
เรดก็ไม่ได้แย้งอะไรแต่ว่าชื่อแบบนี้มัน….
ในโลกนี้มีเรื่องเล่านิทานสโนว์ไวท์ด้วยงั้นเหรอ?
Comments
Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง 14
R/C 2-14
สาวน้อยหมวกแดงที่ผ่านทางมา
หลังจากที่ทานข้าวเสร็จเรดกับแม่ของเธอก็ช่วยกันเตรียมข้าวของเพื่อที่จะเอาไปให้คุณยาย และทุกอย่างก็ยังคงเหมือนในนิทานที่เรดรู้จัก
ไวน์ แอปเปิล ขนมปังและผลไม้ หลังจากจัดเตรียมทุกอย่างใส่ตะกร้าจนเสร็จสรรพเรดก็ออกไปหน้าบ้านโดยมีคนเป็นแม่ยืนส่งให้
“อืม….”
“มีอะไรเหรอจ้ะ?”
จู่ๆ เรดก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ แต่ก็เหมือนจะจำไม่ได้เช่นกัน เหมือนกับว่าเธอลืมเรื่องอะไรบางอย่างไปงั้นแหละ
พอเห็นท่าทางของเรด ผู้เป็นแม่จึงกล่าวถามขึ้นมาด้วยความสงสัย เพียงแต่เรดก้ส่ายหน้าตอบแทบจะทันที
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูแค่รู้สึกเหมือนลืมอะไรบางอย่างไปน่ะค่ะ”
“อะไรล่ะนั่นน่ะ ทำตัวยังกับคนแก่ไปแล้วเหรอ?”
แม่ของเธอหัวเราะเบาๆ เพราะเห็นเรดลืมเล็กลืมน้อยยังกับคนแก่ทั้งที่ตัวแค่นี้เองแท้ๆ เลย อย่างไรก็ตามเธอก็พูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ เดี๋ยวพอลูกทำอะไรที่สอดคล้องกับสิ่งที่ลูกลืมเดี๋ยวลูกก็จำมันขึ้นมาได้เองนั่นแหละ”
“ค่ะ..”
เรดพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“งั้นก็ไปดีมาดีนะ อย่าเที่ยวเล่น เถลไถลที่ไหนไกล แล้วก็อย่าคุยกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักด้วยนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
บทพูดตามในนิทานหนูน้อยหมวกแดงเช่นเดิมก็ออกมาจากปากผู้เป็นแม่ ก่อนที่เธอจะกลับเข้าไปในบ้านเพื่อทำธุระของตนเองต่อ
เรดเองก็ถือตะกร้าไว้ที่มือก่อนจะหันไปด้านข้าง ด้านข้างตรงนั้นมีกองฟืนวางอยู่เยอะพอสมควร แต่กลับไม่มีขวานวางอยู่เลย
ไม่เหมือนในฝันของเธอที่เธอเห็นขวานวางอยู่ตรงนั้น หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่งเธอก็ไม่ได้ตามหาขวานต่อ
เพราะยังไงซะในฝันอะไรจะเกิดก็เกิดขึ้นได้ เรดตัดสินใจเดินไปตามทางแบบเดิม แต่ในตอนนี้เธอก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ไปคุยกับคุณผีเสื้อ
เพราะพอเธอมาคิดดูดีๆ แล้ว คำพูดของท่านแม่เธอคือห้ามคุยกับคนแปลกหน้านี่น่า คุณผีเสื้อเองก็เป็นคนแปลกหน้าเหมือนกัน
ดังนั้นหากเจอคุณผีเสื้อละก็ เรดตัดสินใจแล้วว่าจะเมินใส่อย่างแน่นอนล่ะ ด้วยประการเช่นนี้เธอจึงเตรียมใจไว้พร้อมแล้ว
ในขณะเดียวกันก็มองหาคุณผีเสื้อว่าเมื่อไหร่เจ้าตัวจะโผล่หน้าออกมาสักทีละเนี่ย แต่ไม่ว่าจะเดินจนแล้วจนรอดยังไงก็ไม่เจอคุณผีเสื้อตัวน้อยเลย
“อืม.. นี่มันหมายความว่าไงน่ะ?”
เรดพึมพำกับตัวเองด้วยความสงสัยเล็กน้อย เพราะมัวแต่มองซ้ายมองขวาหนูน้อยหมวกแดงอย่างเรดจึงลืมดูทางข้างหน้า
สะดุดเข้ากับรากไม้ที่โผล่พ้นออกมาจากพื้นดินจนหกล้มหน้าคว่ำลงกับพื้นอย่างรุนแรง
“โอ๊ย เจ็บๆ”
เธอร้องเสียงหลงออกมาก่อนที่จะถอนหายใจเบาๆ
“เฮ้อ จะว่าไปคุณผีเสื้อบินได้ก็เป็นแค่สิ่งที่อยู่ในฝันฉันนี่น่า แล้วฉันเอาอะไรมาทึกทักไปเองว่าคุณผีเสื้อจะมีอยู่จริงล่ะ”
เรดรู้สึกเหมือนตัวเองดันนึกเรื่องแค่นี้ไม่ออก เธอค่อยๆ ลุกขึ้นโชคยังดีที่เพราะมีผ้าปิดไว้อย่างดีทำให้ของภายในตะกร้าไม่กลิ้งออกมาด้วย
ไม่งั้นเธอคงได้เอาขนมปังคลุกดินให้คุณยายกินแน่ๆ แต่ในขณะที่เรดกำลังรู้สึกขำขันกับตัวเองที่เชื่อความฝันเป็นตุเป็นตะ
สายตาก็เหลือบไปเห็นด้านขวามือ ซึ่งเป็นทิศเดียวกันกับรากต้นไม้ที่ทำให้เธอหกล้มนั่นแหละ ดวงตาของเธอเปิดขึ้นด้วยความประหลาดใจ
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นคือทางแยกทางหนึ่ง ซึ่งแยกออกไปหากตามเส้นทางนี้ออกไปไม่ไกลมาก เรดสามารถมองเห็นสวนดอกไม้ได้ร่ำไรอยู่
นอกจากนี้แถวสวนดอกไม้นั้นยังมีคุณผีเสื้อบินไป บินมาอยู่ด้วย.. แต่สิ่งที่เรดสนใจน่ะไม่ใช่ผีเสื้อเหล่านั้น แต่เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งต่างหาก
เด็กผู้หญิงคนนั้นตัวเล็กกว่าเรดพอสมควรอยู่นะ แต่เพราะชุดที่ใส่นั้นเหมือนกับเรดไม่มีผิด อันที่จริงจะบอกว่าเหมือนกันก็คงไม่ถูก
เพราะชุดที่เรดใส่เป็นชุดที่เย็บขึ้นมาด้วยมือของแม่เธอเอง แต่เด็กคนนั้นที่ทำให้เหมือนเรดคงเพราะมีผ้าโพกหัวสีแดงเหมือนกับเรดเลยนั่นแหละ
อีกอย่างถึงจะบอกว่าเป็นชุดที่เย็บด้วยมือของแม่เรด แต่ชุดแบบนี้ก็ไม่ใช่ชุดที่แปลกประหลาดสำหรับคนบนโลกนี้เท่าไหร่นั่นเอง จึงไม่ทำให้เรดประหลาดใจอะไร
“เด็กคนนั้น….”
เรดครุ่นคิดกับตัวเองเล็กน้อย เธอรู้ดีว่าที่โลกแห่งนี้คือโลกหนูน้อยหมวกแดงที่มีคุณหมาป่าคอยตามหาเป้าหมายในการล่าเหยื่ออยู่
เด็กคนนั้นอายุดูน้อยกว่าเรดประมาณสามถึงสี่ปี เหมือนเด็กอายุแปดขวบงั้นแหละ เธอกำลังก้มทำอะไรบางอย่างอยู่
ถึงแม้เรดจะไม่สนใจก็ได้ แต่ยังไงซะเธอก็เคยเป็นครูมาก่อน เธอไม่สามารถปล่อยเด็กให้อยู่คนเดียวตามลำพังได้หรอก
เรดจึงรีบเดินเข้าไปหา
“นี่เธอตรงนั้นน่ะ?”
“อ้ะ.. คะ?”
พอเรดเรียกเธอก็หันมามองเรดด้วยความงุนงงแทบจะทันที แต่ว่าวินาทีเดียวที่ทั้งสองสบสายตากันนั้นทุกอย่างแทบจะหยุดนิ่ง
ใบหน้าของเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าเรดนั้นเหมือนกับเธอไม่มากก็น้อย อันที่จริงจุดต่างก็คืออายุนั่นแหละนะ
อย่างไรก็ตามเรดก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่มาก เพราะความต่างของอายุเลยทำให้รู้แทบจะทันทีว่าเป็นคนละคนอย่างแน่นอนในมุมมองของเรด
เด็กน้อยที่เห็นเรดยิ่งไม่รู้สึกแปลกอะไรมาก ในมือของเธอกำลังกำดอกไม้หลากสีเอาไว้พร้อมกับมีคุณผีเสื้อบินไปมารอบตัวเธอ
“เธอมาทำอะไรที่นี่เหรอ มันอันตรายนะรู้ไหม?”
หลังจากที่จ้องมองเด็กตัวน้อยได้ครู่ใหญ่ เรดถามออกไปด้วยความสงสัย เด็กสาวตัวน้อยดูลังเลพอสมควรเนื่องจากมีคนแปลกหน้าเข้ามาทัก
พอเห็นท่าทางของเธอคนนี้เรดยิ่งมั่นใจเข้าไปอีกว่าเธอคงเป็นลูกคุณหนูจากที่ไหนสักแห่งอย่างแน่นอน
เพราะนอกจากเสื้อผ้าจะสะอาดสะอ้าน ความใสซื่อบริสุทธิ์ยังแสดงออกมาจากดวงเนตรของเธอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ท่าทางกระวนกระวายที่เต็มไปด้วยความสับสนนั้น เห็นได้ชัดว่าเธอไม่คุ้นกับคนแปลกหน้าเลยแม้แต่น้อย
ผสมกับข้อมูลที่คุณแม่ของเรดบอกมาก่อนหน้านี้ว่าขุนนางบนโลกนี้เป็นยังไง ยิ่งทำให้เรดมั่นใจว่าเด็กคนนี้เป็นขุนนางไม่ผิดแน่
“เอ่อ.. พี่สาวเป็นใครเหรอ..”
เธอดูลังเล แต่ก็ถามออกมาด้วยความใสซื่อ
“ฉันเหรอ.. นั่นสินะ.. ฉันคือสาวน้อยหมวกแดงที่ผ่านทางมายังไงล่ะ!”
ว่าไปนั่น เรดหัวเราะกับตัวเองเบาๆ เธอรู้จักวิธีเข้าหาเด็กเพราะว่าเคยเป็นครูสอนเด็กมาก่อนการทำแบบนี้ก็ถือว่าเป็นการแสดงนั่นแหละนะ
พอเห็นท่าทางของเรดเธอก็เอียงคอสงสัยเข้าไปอีก เรดถูจมูกเบาๆ ก่อนจะพูดต่อว่า
“ฉันไม่ใช่คนไม่ดีหรอกนะ”
“เอ๊ะ.. พี่สาวไม่ใช่คนไม่ดีงั้นเหรอคะ?”
“แน่นอนสิ”
“อืมมม เข้าใจแล้วค่ะ หนูจะเชื่อพี่สาวนะคะ”
เรดพูดไม่ออกกับความใสซื่อของสาวตัวน้อยคนนี้ เอาเถอะเพราะเธอยังเด็กอยู่นั่นแหละ ก่อนอื่นเธอต้องพาสาวน้อยนี่กลับบ้าน
เพราะเท่าที่รู้มาคือนอกจากจะมีหมาป่าชั่วแล้ว โลกนี้ยังมีการค้าทาสอยู่อีก เพราะงั้นเรดต้องพาเด็กคนนี้กลับบ้านก่อนเป็นอย่างแรก
“แล้วเธอมีชื่อว่าอะไรเหรอ?”
“อืม…..”
เธอดูคิดหนักเล็กน้อย อาจจะโดนพ่อแม่สอนละมั้งว่าห้ามบอกชื่อจริงกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก เอาเข้าจริงขนาดแม่เรดยังสอน
ทำไมแม่ของเด็กคนนี้จะไม่สอนล่ะ ถูกไหม.. หลังจากที่เห็นเธออืมยาวจนเกินไปเรดก็พูดขึ้นว่า
“ดีมาก ดีแล้วล่ะที่ไม่บอกชื่อให้กับคนแปลกหน้าน่ะ.. เอาแบบนี้เรามาตั้งชื่อเล่นให้กันดีกว่า เธอเรียกฉันว่าพี่สาวหมวกแดงก็ได้..”
“ส่วนเธอเอาเป็น…. อืมมมมม”
พอเห็นเธอไม่สบายใจที่จะบอกชื่อ เรดก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซักไซ้อะไร อันที่จริงก็เป็นเรื่องดีที่เธอไม่เที่ยวบอกชื่อไปมั่ว
หากชื่อเธอที่เป็นลูกคนใหญ่คนโตหลุดออกมา เธออาจจะถูกจับไปเรียกคาไถ่เลยก็ได้ เพราะงั้นเรดจึงยื่นข้อเสนอแบบนั้นออกไป
พอได้ยินว่าสามารถตั้งชื่อเองได้ สาวน้อยคนนั้นก็ยกมือขึ้นพร้อมกับพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“ค่ะ ค่ะ ค่ะ.. พี่สาวเรียกหนูว่าสโนว์ไวท์ก็ได้ค่ะ”
“สโนว์ไวท์…?”
เด็กสาวนามสโนว์ไวท์พยักหน้าเพื่อยืนยันว่า ‘นั่นแหละดีแล้ว’
เรดก็ไม่ได้แย้งอะไรแต่ว่าชื่อแบบนี้มัน….
ในโลกนี้มีเรื่องเล่านิทานสโนว์ไวท์ด้วยงั้นเหรอ?
Comments
Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง 14
R/C 2-14
สาวน้อยหมวกแดงที่ผ่านทางมา
หลังจากที่ทานข้าวเสร็จเรดกับแม่ของเธอก็ช่วยกันเตรียมข้าวของเพื่อที่จะเอาไปให้คุณยาย และทุกอย่างก็ยังคงเหมือนในนิทานที่เรดรู้จัก
ไวน์ แอปเปิล ขนมปังและผลไม้ หลังจากจัดเตรียมทุกอย่างใส่ตะกร้าจนเสร็จสรรพเรดก็ออกไปหน้าบ้านโดยมีคนเป็นแม่ยืนส่งให้
“อืม….”
“มีอะไรเหรอจ้ะ?”
จู่ๆ เรดก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ แต่ก็เหมือนจะจำไม่ได้เช่นกัน เหมือนกับว่าเธอลืมเรื่องอะไรบางอย่างไปงั้นแหละ
พอเห็นท่าทางของเรด ผู้เป็นแม่จึงกล่าวถามขึ้นมาด้วยความสงสัย เพียงแต่เรดก้ส่ายหน้าตอบแทบจะทันที
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูแค่รู้สึกเหมือนลืมอะไรบางอย่างไปน่ะค่ะ”
“อะไรล่ะนั่นน่ะ ทำตัวยังกับคนแก่ไปแล้วเหรอ?”
แม่ของเธอหัวเราะเบาๆ เพราะเห็นเรดลืมเล็กลืมน้อยยังกับคนแก่ทั้งที่ตัวแค่นี้เองแท้ๆ เลย อย่างไรก็ตามเธอก็พูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ เดี๋ยวพอลูกทำอะไรที่สอดคล้องกับสิ่งที่ลูกลืมเดี๋ยวลูกก็จำมันขึ้นมาได้เองนั่นแหละ”
“ค่ะ..”
เรดพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“งั้นก็ไปดีมาดีนะ อย่าเที่ยวเล่น เถลไถลที่ไหนไกล แล้วก็อย่าคุยกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักด้วยนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
บทพูดตามในนิทานหนูน้อยหมวกแดงเช่นเดิมก็ออกมาจากปากผู้เป็นแม่ ก่อนที่เธอจะกลับเข้าไปในบ้านเพื่อทำธุระของตนเองต่อ
เรดเองก็ถือตะกร้าไว้ที่มือก่อนจะหันไปด้านข้าง ด้านข้างตรงนั้นมีกองฟืนวางอยู่เยอะพอสมควร แต่กลับไม่มีขวานวางอยู่เลย
ไม่เหมือนในฝันของเธอที่เธอเห็นขวานวางอยู่ตรงนั้น หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่งเธอก็ไม่ได้ตามหาขวานต่อ
เพราะยังไงซะในฝันอะไรจะเกิดก็เกิดขึ้นได้ เรดตัดสินใจเดินไปตามทางแบบเดิม แต่ในตอนนี้เธอก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ไปคุยกับคุณผีเสื้อ
เพราะพอเธอมาคิดดูดีๆ แล้ว คำพูดของท่านแม่เธอคือห้ามคุยกับคนแปลกหน้านี่น่า คุณผีเสื้อเองก็เป็นคนแปลกหน้าเหมือนกัน
ดังนั้นหากเจอคุณผีเสื้อละก็ เรดตัดสินใจแล้วว่าจะเมินใส่อย่างแน่นอนล่ะ ด้วยประการเช่นนี้เธอจึงเตรียมใจไว้พร้อมแล้ว
ในขณะเดียวกันก็มองหาคุณผีเสื้อว่าเมื่อไหร่เจ้าตัวจะโผล่หน้าออกมาสักทีละเนี่ย แต่ไม่ว่าจะเดินจนแล้วจนรอดยังไงก็ไม่เจอคุณผีเสื้อตัวน้อยเลย
“อืม.. นี่มันหมายความว่าไงน่ะ?”
เรดพึมพำกับตัวเองด้วยความสงสัยเล็กน้อย เพราะมัวแต่มองซ้ายมองขวาหนูน้อยหมวกแดงอย่างเรดจึงลืมดูทางข้างหน้า
สะดุดเข้ากับรากไม้ที่โผล่พ้นออกมาจากพื้นดินจนหกล้มหน้าคว่ำลงกับพื้นอย่างรุนแรง
“โอ๊ย เจ็บๆ”
เธอร้องเสียงหลงออกมาก่อนที่จะถอนหายใจเบาๆ
“เฮ้อ จะว่าไปคุณผีเสื้อบินได้ก็เป็นแค่สิ่งที่อยู่ในฝันฉันนี่น่า แล้วฉันเอาอะไรมาทึกทักไปเองว่าคุณผีเสื้อจะมีอยู่จริงล่ะ”
เรดรู้สึกเหมือนตัวเองดันนึกเรื่องแค่นี้ไม่ออก เธอค่อยๆ ลุกขึ้นโชคยังดีที่เพราะมีผ้าปิดไว้อย่างดีทำให้ของภายในตะกร้าไม่กลิ้งออกมาด้วย
ไม่งั้นเธอคงได้เอาขนมปังคลุกดินให้คุณยายกินแน่ๆ แต่ในขณะที่เรดกำลังรู้สึกขำขันกับตัวเองที่เชื่อความฝันเป็นตุเป็นตะ
สายตาก็เหลือบไปเห็นด้านขวามือ ซึ่งเป็นทิศเดียวกันกับรากต้นไม้ที่ทำให้เธอหกล้มนั่นแหละ ดวงตาของเธอเปิดขึ้นด้วยความประหลาดใจ
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นคือทางแยกทางหนึ่ง ซึ่งแยกออกไปหากตามเส้นทางนี้ออกไปไม่ไกลมาก เรดสามารถมองเห็นสวนดอกไม้ได้ร่ำไรอยู่
นอกจากนี้แถวสวนดอกไม้นั้นยังมีคุณผีเสื้อบินไป บินมาอยู่ด้วย.. แต่สิ่งที่เรดสนใจน่ะไม่ใช่ผีเสื้อเหล่านั้น แต่เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งต่างหาก
เด็กผู้หญิงคนนั้นตัวเล็กกว่าเรดพอสมควรอยู่นะ แต่เพราะชุดที่ใส่นั้นเหมือนกับเรดไม่มีผิด อันที่จริงจะบอกว่าเหมือนกันก็คงไม่ถูก
เพราะชุดที่เรดใส่เป็นชุดที่เย็บขึ้นมาด้วยมือของแม่เธอเอง แต่เด็กคนนั้นที่ทำให้เหมือนเรดคงเพราะมีผ้าโพกหัวสีแดงเหมือนกับเรดเลยนั่นแหละ
อีกอย่างถึงจะบอกว่าเป็นชุดที่เย็บด้วยมือของแม่เรด แต่ชุดแบบนี้ก็ไม่ใช่ชุดที่แปลกประหลาดสำหรับคนบนโลกนี้เท่าไหร่นั่นเอง จึงไม่ทำให้เรดประหลาดใจอะไร
“เด็กคนนั้น….”
เรดครุ่นคิดกับตัวเองเล็กน้อย เธอรู้ดีว่าที่โลกแห่งนี้คือโลกหนูน้อยหมวกแดงที่มีคุณหมาป่าคอยตามหาเป้าหมายในการล่าเหยื่ออยู่
เด็กคนนั้นอายุดูน้อยกว่าเรดประมาณสามถึงสี่ปี เหมือนเด็กอายุแปดขวบงั้นแหละ เธอกำลังก้มทำอะไรบางอย่างอยู่
ถึงแม้เรดจะไม่สนใจก็ได้ แต่ยังไงซะเธอก็เคยเป็นครูมาก่อน เธอไม่สามารถปล่อยเด็กให้อยู่คนเดียวตามลำพังได้หรอก
เรดจึงรีบเดินเข้าไปหา
“นี่เธอตรงนั้นน่ะ?”
“อ้ะ.. คะ?”
พอเรดเรียกเธอก็หันมามองเรดด้วยความงุนงงแทบจะทันที แต่ว่าวินาทีเดียวที่ทั้งสองสบสายตากันนั้นทุกอย่างแทบจะหยุดนิ่ง
ใบหน้าของเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าเรดนั้นเหมือนกับเธอไม่มากก็น้อย อันที่จริงจุดต่างก็คืออายุนั่นแหละนะ
อย่างไรก็ตามเรดก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่มาก เพราะความต่างของอายุเลยทำให้รู้แทบจะทันทีว่าเป็นคนละคนอย่างแน่นอนในมุมมองของเรด
เด็กน้อยที่เห็นเรดยิ่งไม่รู้สึกแปลกอะไรมาก ในมือของเธอกำลังกำดอกไม้หลากสีเอาไว้พร้อมกับมีคุณผีเสื้อบินไปมารอบตัวเธอ
“เธอมาทำอะไรที่นี่เหรอ มันอันตรายนะรู้ไหม?”
หลังจากที่จ้องมองเด็กตัวน้อยได้ครู่ใหญ่ เรดถามออกไปด้วยความสงสัย เด็กสาวตัวน้อยดูลังเลพอสมควรเนื่องจากมีคนแปลกหน้าเข้ามาทัก
พอเห็นท่าทางของเธอคนนี้เรดยิ่งมั่นใจเข้าไปอีกว่าเธอคงเป็นลูกคุณหนูจากที่ไหนสักแห่งอย่างแน่นอน
เพราะนอกจากเสื้อผ้าจะสะอาดสะอ้าน ความใสซื่อบริสุทธิ์ยังแสดงออกมาจากดวงเนตรของเธอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ท่าทางกระวนกระวายที่เต็มไปด้วยความสับสนนั้น เห็นได้ชัดว่าเธอไม่คุ้นกับคนแปลกหน้าเลยแม้แต่น้อย
ผสมกับข้อมูลที่คุณแม่ของเรดบอกมาก่อนหน้านี้ว่าขุนนางบนโลกนี้เป็นยังไง ยิ่งทำให้เรดมั่นใจว่าเด็กคนนี้เป็นขุนนางไม่ผิดแน่
“เอ่อ.. พี่สาวเป็นใครเหรอ..”
เธอดูลังเล แต่ก็ถามออกมาด้วยความใสซื่อ
“ฉันเหรอ.. นั่นสินะ.. ฉันคือสาวน้อยหมวกแดงที่ผ่านทางมายังไงล่ะ!”
ว่าไปนั่น เรดหัวเราะกับตัวเองเบาๆ เธอรู้จักวิธีเข้าหาเด็กเพราะว่าเคยเป็นครูสอนเด็กมาก่อนการทำแบบนี้ก็ถือว่าเป็นการแสดงนั่นแหละนะ
พอเห็นท่าทางของเรดเธอก็เอียงคอสงสัยเข้าไปอีก เรดถูจมูกเบาๆ ก่อนจะพูดต่อว่า
“ฉันไม่ใช่คนไม่ดีหรอกนะ”
“เอ๊ะ.. พี่สาวไม่ใช่คนไม่ดีงั้นเหรอคะ?”
“แน่นอนสิ”
“อืมมม เข้าใจแล้วค่ะ หนูจะเชื่อพี่สาวนะคะ”
เรดพูดไม่ออกกับความใสซื่อของสาวตัวน้อยคนนี้ เอาเถอะเพราะเธอยังเด็กอยู่นั่นแหละ ก่อนอื่นเธอต้องพาสาวน้อยนี่กลับบ้าน
เพราะเท่าที่รู้มาคือนอกจากจะมีหมาป่าชั่วแล้ว โลกนี้ยังมีการค้าทาสอยู่อีก เพราะงั้นเรดต้องพาเด็กคนนี้กลับบ้านก่อนเป็นอย่างแรก
“แล้วเธอมีชื่อว่าอะไรเหรอ?”
“อืม…..”
เธอดูคิดหนักเล็กน้อย อาจจะโดนพ่อแม่สอนละมั้งว่าห้ามบอกชื่อจริงกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก เอาเข้าจริงขนาดแม่เรดยังสอน
ทำไมแม่ของเด็กคนนี้จะไม่สอนล่ะ ถูกไหม.. หลังจากที่เห็นเธออืมยาวจนเกินไปเรดก็พูดขึ้นว่า
“ดีมาก ดีแล้วล่ะที่ไม่บอกชื่อให้กับคนแปลกหน้าน่ะ.. เอาแบบนี้เรามาตั้งชื่อเล่นให้กันดีกว่า เธอเรียกฉันว่าพี่สาวหมวกแดงก็ได้..”
“ส่วนเธอเอาเป็น…. อืมมมมม”
พอเห็นเธอไม่สบายใจที่จะบอกชื่อ เรดก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซักไซ้อะไร อันที่จริงก็เป็นเรื่องดีที่เธอไม่เที่ยวบอกชื่อไปมั่ว
หากชื่อเธอที่เป็นลูกคนใหญ่คนโตหลุดออกมา เธออาจจะถูกจับไปเรียกคาไถ่เลยก็ได้ เพราะงั้นเรดจึงยื่นข้อเสนอแบบนั้นออกไป
พอได้ยินว่าสามารถตั้งชื่อเองได้ สาวน้อยคนนั้นก็ยกมือขึ้นพร้อมกับพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“ค่ะ ค่ะ ค่ะ.. พี่สาวเรียกหนูว่าสโนว์ไวท์ก็ได้ค่ะ”
“สโนว์ไวท์…?”
เด็กสาวนามสโนว์ไวท์พยักหน้าเพื่อยืนยันว่า ‘นั่นแหละดีแล้ว’
เรดก็ไม่ได้แย้งอะไรแต่ว่าชื่อแบบนี้มัน….
ในโลกนี้มีเรื่องเล่านิทานสโนว์ไวท์ด้วยงั้นเหรอ?
Comments
Pengaturan Membaca
The quick brown fox jumps over the lazy dog
Background :
Font :
Size :