Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง 2
R/C – 1-2
โลกใบใหม่?
แม้ว่าเรดจะสับสนอยู่พักใหญ่แต่ก็ยังโชคดีที่เธอกลับมาสงบสติอารมณ์ได้ ถึงเธอจะไม่ใช่คนที่ฉลาดหรือหัวดีอะไรขนาดนั้นก็ตามที
แต่ทว่าหากพูดถึงเรื่องควบคุมอารมณ์เธออาจจะเป็นคนหนึ่งที่พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองบ่อยยิ่งกว่าใครหลายๆ คน จึงเป็นเหตุผลที่ว่าเธอนั้นค่อนข้างควบคุมอารมณ์ตัวเองเก่ง
เธอพยายามดึงแก้มตัวเองเพื่อยืนยันว่านี่ไม่ใช่ความฝัน ทันทีที่ดึงแก้มความเจ็บปวดก็แผ่ซ่านไปทั่วแก้ม ซึ่งดูยังไงสถานที่ที่เธออยู่ตอนนี้ก็ไม่มีทางเป็นความฝันแน่ๆ
ขวดยาในมือถูกกำแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว… เรดหันไปอีกด้านหนึ่งของห้อง ห้องแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากไม้แทบจะทั้งหมด
แต่ก็ยังมีหน้าต่าง ซึ่งมองจากตรงนี้เรดสามารถมองเห็นได้ว่าด้านนอกนั้นเต็มไปด้วยป่าเขาลำเนาไพร เสียงสิงสาราสัตว์ดังเป็นเหมือนดนตรีแห่งธรรมชาติ ซึ่งห้องเขาไม่มีทางพบเจอสิ่งเหล่านี้ได้แน่
ด้วยความงุนงงและลังเลใจ เธอเดินไปที่หน้าต่างบานนั้นพร้อมกับเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง.. และพริบตาเดียวกับที่เรดหันออกไปนอกหน้าต่างนั้นเอง
เธอก็ค้นพบว่าบ้านหลังนี้ตั้งอยู่กลางป่าที่มองไปทางไหนก็มีแต่ป่า.. ไม่สิ ใกล้บ้านหลังนี้ที่เธออยู่มีแปลงผักอยู่
แต่แปลงผักนั้นค่อนข้างจะเหี่ยวเฉา เหมือนกับไม่ค่อยได้รับการดูแลเท่าไหร่ในหลายเดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้บนต้นไม้ที่ตั้งห่างออกไป เรดสังเกตเห็นว่ามีนกอยู่ตัวหนึ่งเกาะอยู่บนต้นไม้ นกตัวนี้ลักษณะมันค่อนข้างแปลกประหลาด ไม่เหมือนกับนกที่เธอเคยเห็นมาก่อนตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา
มันมีปีกอยู่สี่ปีก โดยปีกทั้งสองข้างของมันนั้นแบ่งออกเป็นข้างละสองปีก มีขนาดตัวที่ค่อนข้างใหญ่เหมือนอินทรีย์ แต่ปากของมันแหลมคมและยาวกว่าอินทรีย์ที่เรดเคยรู้จักมาก่อน
ดวงตาของมันจ้องลงมาที่แปลงผัก.. และในพริบตานั้นเองมันก็กระพือปีกทั้งสี่ของมัน ร่างของมันก็กลายเป็นเหมือนกระสุนที่พุ่งดิ่งใส่แปรงผักที่เหี่ยวเฉาต้นหนึ่งอย่างว่องไว
“วู้บ!!”
เสียงลมหวีดวิวเผลอเพียงพริบตาเดียวมันก็กลับไปอยู่บนต้นไม้ต้นเดิม ในปากมันคาบหนอนตัวหนึ่งอยู่ถึงจะบอกว่าหนอนแต่ขนาดของมันแทบไม่ใช่หนอน
ขนาดของมันใหญ่พอๆ กับขาของเรดในร่างนี้เลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้ตัวของมันยังมีสีเขียวดิ้นไปดิ้นมาในปากของนกสี่ปีกตัวนั้น
นกสี่ปีกใช้ปากที่แหลมคมของมันจิกใส่ร่างของหนอนก่อนจะฉีกร่างของหนอนกินทั้งเป็น.. ภาพนั้นแม้จะอยู่ห่างออกไปไกลพอสมควร แต่ก็ยังอดที่จะทำให้เรดยังรู้สึกสยองอย่างเลี่ยงไม่ได้
นี่ยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่าเธอไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต..
นกสี่ปีกคือนกที่หายากในโลกนี้พอสมควร แน่นอนว่าเรดไม่มีทางรู้จักมันหรอกว่านกตนนี้อาศัยอยู่แค่ในส่วนลึกของป่า.. แถมนกตัวยังเป็นสัตว์ราคาแพงอีกต่างหาก
อาหารของมันคือหนอนเขียวยักษ์ ซึ่งอาศัยอยู่ใต้ดินชุ่มชื้นภายในป่าทึบ.. ปกติแล้วนกสี่ปีกจะหาหนอนเขียวยักษ์กินยากเพราะป่าชื้นส่วนใหญ่จะมีต้นไม้สูงชัน ซึ่งไม่เหมาะกับการบินโฉบ
แต่เพราะบ้านหลังนี้ตั้งอยู่กลางป่าหนาทึบ แถมยังมีแปลงผักจึงเป็นที่ดึงดูดของหนอนเขียวยักษ์มาก.. ในขณะเดียวกันนกสี่ปีกเองก็ได้โอกาสเช่นกัน ใช่ เจ้านกสี่ปีกนี้นอกจากจะเป็นดั่งพญาอินทรีสำหรับหนอนเขียวยักษ์แล้ว มันยังเป็นสัตว์ที่ฉลาดและเจ้าเล่ห์มากๆ อีกด้วย
และแม้ขนาดตัวของหนอนเขียวยักษ์จะมีขนาดที่ใหญ่เป็นพิเศษ แต่ตัวมันค่อนข้างเบากว่าลักษณะที่เห็นภายนอกมาก หากนึกภาพไม่ออกก็นึกภาพปลาปักเป้าที่ขยายตัวเพื่อหลบหลีกจากอันตรายนั่นแหละ จะยังไงก็ตามแต่หนอนเขียวยักษ์จะไม่สร้างอันตรายใดๆ ต่อสิ่งมีชีวิตอื่น
นอกจากพืชน่ะนะ
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เรดที่ยืนอยู่ดูเต็มไปด้วยความงุนงง แต่ทว่าในวินาทีเดียวกันนั้นเอง บนท้องฟ้าก็มีเงาสีดำลอยอยู่กลางอากาศ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรสายตาของเรดถึงมองได้ไกลกว่าปกติที่เคยเป็น
อาจจะเป็นเพราะร่างกายใหม่นี้ยังเป็นแค่เด็กทำให้สายตาของเรดไม่ได้แย่เหมือนตอนอยู่ในร่างเดิมละมั้ง
แต่ก็เอาเป็นว่าเมื่อเรดเงยหน้าขึ้นไปบนฟ้าเธอก็เห็นคนคนหนึ่งสวมชุดคลุมสีดำสนิทลอยอยู่ แม้จะไม่เห็นใบหน้าเพราะอยู่ไกลเกินไปแต่เมื่อดูจากรูปร่างเธอมั่นใจว่านั่นต้องเป็นคนอย่างแน่นอน
ในระยะที่ห่างออกไปเกือบร้อยเมตร.. ถูกต้อง มีคนลอยอยู่เหนือพื้น.. แถมสูงเกือบร้อยเมตร!
เมื่อเรดสังเกตดีๆ ก็สามารถวิเคราะห์รูปร่างคนคนนั้นออกมา เงานั้นสวมหมวกทรงกรวยปีกกว้าง และที่เท้าเหยียบด้วยไม้กวาด.. พอเรดหันไปมองและเห็นอีกฝ่าย ทางนั้นก็เหมือนจะสังเกตเห็นเรดเช่นกัน
เงานั้นรีบยกมือขึ้นทำอะไรบางอย่างก่อนที่เรือนร่างของมันจะสลายหายไปจากตรงนั้นในครั้งที่เรดกะพริบตา! .. เรดได้แต่อ้าปากค้างกับความงุนงงที่เกิดขึ้นตรงหน้า
“นกประหลาด หนอนยักษ์ คนขี่ไม้กวาด…? นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย?”
เรดพึมพำออกมา ไหนจะเรื่องที่เธอกลายเป็นเด็กผู้หญิง สัตว์แปลกๆ กับสิ่งเหนือธรรมชาติ หรือว่าเธอจะถูกจับมาทดลองอะไรบางอย่าง?
มันจะไปเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะ ในขณะที่หัวใจของเธอเต้นรัวขึ้น เสียงเรียกจากนอกห้องก็ดังขึ้น แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เสียงจากหน้าประตู
“เรด แม่บอกให้ออกมาทานข้าวได้แล้ว แต่งตัวยังไม่เสร็จอีกเหรอ.. ไม่ลืมใช่ไหมว่าวันนี้เราต้องไปที่หมู่บ้านกันน่ะ”
“…?”
เรดยังคงสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่แม้จะสับสนเธอก็ยิ่งไม่ควรเลือกที่จะอยู่เฉยๆ เธอเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าออก ภายในตู้เสื้อผ้ามีเสื้อผ้าอยู่ห้าถึงหกผืน
และภายในนั้นเป็นชุดแบบเดียวกันหมด ซึ่งเป็นชุดของสาวน้อยน่ารัก..
“นี่มัน.. ฉันต้องใส่ชุดนี้จริงๆ เหรอ..?”
“เรด ยังไม่เสร็จอีกเหรอ”
“จะเสร็จแล้ว รอแป๊บหนึ่งสิ”
ในขณะที่เรดกำลังเขินอายก็โดนผู้หญิงคนนั้นเรียก แต่ปากของเธอดันตอบกลับออกไปตามสัญชาตญาณ… อาจจะเป็นเพราะเจ้าของร่างนี้คนเก่าชอบพูดแบบนี้ประจำทำให้เรดตอบออกไปแบบนั้นตามสัญชาตญาณละมั้ง
แม้ว่าเรดคนนี้จะไม่ใช่เรดคนเดิมอีกต่อไปแล้วก็ตามที เรดกัดฟันพร้อมกับสวมชุดสาวน้อยนั้นด้วยความลำบากใจและเขินอายนิดหน่อย
“ถ้าพี่มาเห็น.. คนล้อฉันจนวันตายแน่..”
เธอพึมพำกับตัวเองเล็กน้อย.. แต่พอนึกถึงพี่แล้วหน้าตาก็สลดลงเล็กน้อย ตอนนี้ไม่ใช่ว่าเรดยังไม่เข้าใจสถานการณ์
เธอพอจะเดาๆ สถานการณ์บางอย่างได้แล้ว แค่ยังไม่อยากจะเชื่อเฉยๆ ก็อย่างว่าเรดไม่ใช่คนตามโลกทันเท่าไหร่
ไอ้นิยายสมัยใหม่ อย่างพล็อตเกิดใหม่ในต่างโลกเธอแทบไม่ได้อ่านหรือรู้จักเลยด้วยซ้ำ อย่างมากเธอก็รู้จักแค่นิทานพื้นบ้านในอดีตที่ไว้สอนเด็ก ซึ่งนิทานสมัยก่อนก็มีอยู่หลากหลายประเภทเช่นกัน
นั่นก็หมายความว่าต่อให้เรดเป็นคนไม่ช่างฝันขนาดไหน ก็คงอาจจะมีบ้างนั่นแหละ ไอ้พวกความรู้สึกที่ท้อแท้กับโลกใบนี้.. อยากไปเกิดใหม่ เป็นคนใหม่ ในโลกที่ต่างจากโลกนี้
ในโลกแห่งนิทานอะไรแบบนั้นน่ะ ซึ่งเรดไม่มั่นใจว่านี่เป็นการเกิดใหม่จริงๆ หรือเปล่า
แต่จะยังไงก็ตามเธอมั่นใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้น ไม่ว่าจะร่างกายที่ไม่ใช่ของเธอ โลกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างมันเริ่มเป็นรูปเป็นร่างในแบบที่เรดพอจะคาดเดาได้
แต่ถ้าหากนี่เป็นโลกใหม่ นี่เป็นชีวิตใหม่ แล้วพี่ของเรดล่ะ พี่ของเรดจะอยู่ยังไง ไม่สิ แรกเริ่มเดิมที เรดตายได้ยังไงกันแน่?
ทำไมถึงมาเกิดใหม่ จะว่าเกิดใหม่ก็คงไม่ถูกอีกเพราะตัวเองมาแทนร่างของเด็กผู้หญิงที่เคยอยู่ในร่างนี้มาก่อนด้วยต่างหาก
ยิ่งคิดเรดยิ่งรู้สึกปวดหัว..
แต่ที่เรดเป็นห่วงเหนือสิ่งอื่นใดคือพี่ของเธอในโลกเดิม เรดสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะตบหน้าตัวเอง
“ฉันต้องการข้อมูลมากกว่านี้”
เรดตัดสินใจแบบนั้นพร้อมกับแต่งตัว เมื่อแต่งตัวทุกอย่างเสร็จเธอก็หยิบกระเป๋าประจำตัวสีดำของเธอขึ้นมาและเก็บขวดยาใหม่ที่ยังไม่เปิดฝาด้วยซ้ำ เธอสะพายกระเป๋าไว้ที่สะโพก
และตัดสินใจเปิดประตูห้องออกไป..
บ้านหลังนี้ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่มากเท่าไหร่ เดินออกไปและก็เดินตามระเบียงไปก็เจอโต๊ะที่มีอาหารเตรียมไว้จนเสร็จสรรพ
และก็มีหญิงสาวคนหนึ่งที่หน้าตาคล้ายกับเรดกำลังเดินหัวหมุนทำอาหารอยู่ที่ครัว ถึงจะบอกหน้าตาเหมือนเรดเถอะ จะพูดให้ถูกคือเหมือนเรดในร่างนี้น่ะนะ
เธอเป็นผู้หญิงสูงอายุ อายุน่าจะสามสิบขึ้นแล้วผมสีเทาออกน้ำตาลบางๆ นั้นไม่ยาวมากเธอมัดผมอย่างลวกๆ ที่ปลายผม
ก่อนจะพาดมาข้างไหล่ซ้ายเพื่อสะดวกต่อการเคลื่อนไหวและทำอาหาร สีหน้าของเธอแม้จะเริ่มมีริ้วรอยขึ้นมาบ้าง
แต่ก็ยังมีความอ่อนโยนเผยออกทางสีหน้า..
“ออกมาได้สักทีนะ.. รีบทานเถอะก่อนอาหารจะเย็นซะก่อน”
Comments
Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง 2
R/C – 1-2
โลกใบใหม่?
แม้ว่าเรดจะสับสนอยู่พักใหญ่แต่ก็ยังโชคดีที่เธอกลับมาสงบสติอารมณ์ได้ ถึงเธอจะไม่ใช่คนที่ฉลาดหรือหัวดีอะไรขนาดนั้นก็ตามที
แต่ทว่าหากพูดถึงเรื่องควบคุมอารมณ์เธออาจจะเป็นคนหนึ่งที่พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองบ่อยยิ่งกว่าใครหลายๆ คน จึงเป็นเหตุผลที่ว่าเธอนั้นค่อนข้างควบคุมอารมณ์ตัวเองเก่ง
เธอพยายามดึงแก้มตัวเองเพื่อยืนยันว่านี่ไม่ใช่ความฝัน ทันทีที่ดึงแก้มความเจ็บปวดก็แผ่ซ่านไปทั่วแก้ม ซึ่งดูยังไงสถานที่ที่เธออยู่ตอนนี้ก็ไม่มีทางเป็นความฝันแน่ๆ
ขวดยาในมือถูกกำแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว… เรดหันไปอีกด้านหนึ่งของห้อง ห้องแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากไม้แทบจะทั้งหมด
แต่ก็ยังมีหน้าต่าง ซึ่งมองจากตรงนี้เรดสามารถมองเห็นได้ว่าด้านนอกนั้นเต็มไปด้วยป่าเขาลำเนาไพร เสียงสิงสาราสัตว์ดังเป็นเหมือนดนตรีแห่งธรรมชาติ ซึ่งห้องเขาไม่มีทางพบเจอสิ่งเหล่านี้ได้แน่
ด้วยความงุนงงและลังเลใจ เธอเดินไปที่หน้าต่างบานนั้นพร้อมกับเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง.. และพริบตาเดียวกับที่เรดหันออกไปนอกหน้าต่างนั้นเอง
เธอก็ค้นพบว่าบ้านหลังนี้ตั้งอยู่กลางป่าที่มองไปทางไหนก็มีแต่ป่า.. ไม่สิ ใกล้บ้านหลังนี้ที่เธออยู่มีแปลงผักอยู่
แต่แปลงผักนั้นค่อนข้างจะเหี่ยวเฉา เหมือนกับไม่ค่อยได้รับการดูแลเท่าไหร่ในหลายเดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้บนต้นไม้ที่ตั้งห่างออกไป เรดสังเกตเห็นว่ามีนกอยู่ตัวหนึ่งเกาะอยู่บนต้นไม้ นกตัวนี้ลักษณะมันค่อนข้างแปลกประหลาด ไม่เหมือนกับนกที่เธอเคยเห็นมาก่อนตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา
มันมีปีกอยู่สี่ปีก โดยปีกทั้งสองข้างของมันนั้นแบ่งออกเป็นข้างละสองปีก มีขนาดตัวที่ค่อนข้างใหญ่เหมือนอินทรีย์ แต่ปากของมันแหลมคมและยาวกว่าอินทรีย์ที่เรดเคยรู้จักมาก่อน
ดวงตาของมันจ้องลงมาที่แปลงผัก.. และในพริบตานั้นเองมันก็กระพือปีกทั้งสี่ของมัน ร่างของมันก็กลายเป็นเหมือนกระสุนที่พุ่งดิ่งใส่แปรงผักที่เหี่ยวเฉาต้นหนึ่งอย่างว่องไว
“วู้บ!!”
เสียงลมหวีดวิวเผลอเพียงพริบตาเดียวมันก็กลับไปอยู่บนต้นไม้ต้นเดิม ในปากมันคาบหนอนตัวหนึ่งอยู่ถึงจะบอกว่าหนอนแต่ขนาดของมันแทบไม่ใช่หนอน
ขนาดของมันใหญ่พอๆ กับขาของเรดในร่างนี้เลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้ตัวของมันยังมีสีเขียวดิ้นไปดิ้นมาในปากของนกสี่ปีกตัวนั้น
นกสี่ปีกใช้ปากที่แหลมคมของมันจิกใส่ร่างของหนอนก่อนจะฉีกร่างของหนอนกินทั้งเป็น.. ภาพนั้นแม้จะอยู่ห่างออกไปไกลพอสมควร แต่ก็ยังอดที่จะทำให้เรดยังรู้สึกสยองอย่างเลี่ยงไม่ได้
นี่ยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่าเธอไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต..
นกสี่ปีกคือนกที่หายากในโลกนี้พอสมควร แน่นอนว่าเรดไม่มีทางรู้จักมันหรอกว่านกตนนี้อาศัยอยู่แค่ในส่วนลึกของป่า.. แถมนกตัวยังเป็นสัตว์ราคาแพงอีกต่างหาก
อาหารของมันคือหนอนเขียวยักษ์ ซึ่งอาศัยอยู่ใต้ดินชุ่มชื้นภายในป่าทึบ.. ปกติแล้วนกสี่ปีกจะหาหนอนเขียวยักษ์กินยากเพราะป่าชื้นส่วนใหญ่จะมีต้นไม้สูงชัน ซึ่งไม่เหมาะกับการบินโฉบ
แต่เพราะบ้านหลังนี้ตั้งอยู่กลางป่าหนาทึบ แถมยังมีแปลงผักจึงเป็นที่ดึงดูดของหนอนเขียวยักษ์มาก.. ในขณะเดียวกันนกสี่ปีกเองก็ได้โอกาสเช่นกัน ใช่ เจ้านกสี่ปีกนี้นอกจากจะเป็นดั่งพญาอินทรีสำหรับหนอนเขียวยักษ์แล้ว มันยังเป็นสัตว์ที่ฉลาดและเจ้าเล่ห์มากๆ อีกด้วย
และแม้ขนาดตัวของหนอนเขียวยักษ์จะมีขนาดที่ใหญ่เป็นพิเศษ แต่ตัวมันค่อนข้างเบากว่าลักษณะที่เห็นภายนอกมาก หากนึกภาพไม่ออกก็นึกภาพปลาปักเป้าที่ขยายตัวเพื่อหลบหลีกจากอันตรายนั่นแหละ จะยังไงก็ตามแต่หนอนเขียวยักษ์จะไม่สร้างอันตรายใดๆ ต่อสิ่งมีชีวิตอื่น
นอกจากพืชน่ะนะ
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เรดที่ยืนอยู่ดูเต็มไปด้วยความงุนงง แต่ทว่าในวินาทีเดียวกันนั้นเอง บนท้องฟ้าก็มีเงาสีดำลอยอยู่กลางอากาศ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรสายตาของเรดถึงมองได้ไกลกว่าปกติที่เคยเป็น
อาจจะเป็นเพราะร่างกายใหม่นี้ยังเป็นแค่เด็กทำให้สายตาของเรดไม่ได้แย่เหมือนตอนอยู่ในร่างเดิมละมั้ง
แต่ก็เอาเป็นว่าเมื่อเรดเงยหน้าขึ้นไปบนฟ้าเธอก็เห็นคนคนหนึ่งสวมชุดคลุมสีดำสนิทลอยอยู่ แม้จะไม่เห็นใบหน้าเพราะอยู่ไกลเกินไปแต่เมื่อดูจากรูปร่างเธอมั่นใจว่านั่นต้องเป็นคนอย่างแน่นอน
ในระยะที่ห่างออกไปเกือบร้อยเมตร.. ถูกต้อง มีคนลอยอยู่เหนือพื้น.. แถมสูงเกือบร้อยเมตร!
เมื่อเรดสังเกตดีๆ ก็สามารถวิเคราะห์รูปร่างคนคนนั้นออกมา เงานั้นสวมหมวกทรงกรวยปีกกว้าง และที่เท้าเหยียบด้วยไม้กวาด.. พอเรดหันไปมองและเห็นอีกฝ่าย ทางนั้นก็เหมือนจะสังเกตเห็นเรดเช่นกัน
เงานั้นรีบยกมือขึ้นทำอะไรบางอย่างก่อนที่เรือนร่างของมันจะสลายหายไปจากตรงนั้นในครั้งที่เรดกะพริบตา! .. เรดได้แต่อ้าปากค้างกับความงุนงงที่เกิดขึ้นตรงหน้า
“นกประหลาด หนอนยักษ์ คนขี่ไม้กวาด…? นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย?”
เรดพึมพำออกมา ไหนจะเรื่องที่เธอกลายเป็นเด็กผู้หญิง สัตว์แปลกๆ กับสิ่งเหนือธรรมชาติ หรือว่าเธอจะถูกจับมาทดลองอะไรบางอย่าง?
มันจะไปเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะ ในขณะที่หัวใจของเธอเต้นรัวขึ้น เสียงเรียกจากนอกห้องก็ดังขึ้น แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เสียงจากหน้าประตู
“เรด แม่บอกให้ออกมาทานข้าวได้แล้ว แต่งตัวยังไม่เสร็จอีกเหรอ.. ไม่ลืมใช่ไหมว่าวันนี้เราต้องไปที่หมู่บ้านกันน่ะ”
“…?”
เรดยังคงสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่แม้จะสับสนเธอก็ยิ่งไม่ควรเลือกที่จะอยู่เฉยๆ เธอเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าออก ภายในตู้เสื้อผ้ามีเสื้อผ้าอยู่ห้าถึงหกผืน
และภายในนั้นเป็นชุดแบบเดียวกันหมด ซึ่งเป็นชุดของสาวน้อยน่ารัก..
“นี่มัน.. ฉันต้องใส่ชุดนี้จริงๆ เหรอ..?”
“เรด ยังไม่เสร็จอีกเหรอ”
“จะเสร็จแล้ว รอแป๊บหนึ่งสิ”
ในขณะที่เรดกำลังเขินอายก็โดนผู้หญิงคนนั้นเรียก แต่ปากของเธอดันตอบกลับออกไปตามสัญชาตญาณ… อาจจะเป็นเพราะเจ้าของร่างนี้คนเก่าชอบพูดแบบนี้ประจำทำให้เรดตอบออกไปแบบนั้นตามสัญชาตญาณละมั้ง
แม้ว่าเรดคนนี้จะไม่ใช่เรดคนเดิมอีกต่อไปแล้วก็ตามที เรดกัดฟันพร้อมกับสวมชุดสาวน้อยนั้นด้วยความลำบากใจและเขินอายนิดหน่อย
“ถ้าพี่มาเห็น.. คนล้อฉันจนวันตายแน่..”
เธอพึมพำกับตัวเองเล็กน้อย.. แต่พอนึกถึงพี่แล้วหน้าตาก็สลดลงเล็กน้อย ตอนนี้ไม่ใช่ว่าเรดยังไม่เข้าใจสถานการณ์
เธอพอจะเดาๆ สถานการณ์บางอย่างได้แล้ว แค่ยังไม่อยากจะเชื่อเฉยๆ ก็อย่างว่าเรดไม่ใช่คนตามโลกทันเท่าไหร่
ไอ้นิยายสมัยใหม่ อย่างพล็อตเกิดใหม่ในต่างโลกเธอแทบไม่ได้อ่านหรือรู้จักเลยด้วยซ้ำ อย่างมากเธอก็รู้จักแค่นิทานพื้นบ้านในอดีตที่ไว้สอนเด็ก ซึ่งนิทานสมัยก่อนก็มีอยู่หลากหลายประเภทเช่นกัน
นั่นก็หมายความว่าต่อให้เรดเป็นคนไม่ช่างฝันขนาดไหน ก็คงอาจจะมีบ้างนั่นแหละ ไอ้พวกความรู้สึกที่ท้อแท้กับโลกใบนี้.. อยากไปเกิดใหม่ เป็นคนใหม่ ในโลกที่ต่างจากโลกนี้
ในโลกแห่งนิทานอะไรแบบนั้นน่ะ ซึ่งเรดไม่มั่นใจว่านี่เป็นการเกิดใหม่จริงๆ หรือเปล่า
แต่จะยังไงก็ตามเธอมั่นใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้น ไม่ว่าจะร่างกายที่ไม่ใช่ของเธอ โลกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างมันเริ่มเป็นรูปเป็นร่างในแบบที่เรดพอจะคาดเดาได้
แต่ถ้าหากนี่เป็นโลกใหม่ นี่เป็นชีวิตใหม่ แล้วพี่ของเรดล่ะ พี่ของเรดจะอยู่ยังไง ไม่สิ แรกเริ่มเดิมที เรดตายได้ยังไงกันแน่?
ทำไมถึงมาเกิดใหม่ จะว่าเกิดใหม่ก็คงไม่ถูกอีกเพราะตัวเองมาแทนร่างของเด็กผู้หญิงที่เคยอยู่ในร่างนี้มาก่อนด้วยต่างหาก
ยิ่งคิดเรดยิ่งรู้สึกปวดหัว..
แต่ที่เรดเป็นห่วงเหนือสิ่งอื่นใดคือพี่ของเธอในโลกเดิม เรดสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะตบหน้าตัวเอง
“ฉันต้องการข้อมูลมากกว่านี้”
เรดตัดสินใจแบบนั้นพร้อมกับแต่งตัว เมื่อแต่งตัวทุกอย่างเสร็จเธอก็หยิบกระเป๋าประจำตัวสีดำของเธอขึ้นมาและเก็บขวดยาใหม่ที่ยังไม่เปิดฝาด้วยซ้ำ เธอสะพายกระเป๋าไว้ที่สะโพก
และตัดสินใจเปิดประตูห้องออกไป..
บ้านหลังนี้ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่มากเท่าไหร่ เดินออกไปและก็เดินตามระเบียงไปก็เจอโต๊ะที่มีอาหารเตรียมไว้จนเสร็จสรรพ
และก็มีหญิงสาวคนหนึ่งที่หน้าตาคล้ายกับเรดกำลังเดินหัวหมุนทำอาหารอยู่ที่ครัว ถึงจะบอกหน้าตาเหมือนเรดเถอะ จะพูดให้ถูกคือเหมือนเรดในร่างนี้น่ะนะ
เธอเป็นผู้หญิงสูงอายุ อายุน่าจะสามสิบขึ้นแล้วผมสีเทาออกน้ำตาลบางๆ นั้นไม่ยาวมากเธอมัดผมอย่างลวกๆ ที่ปลายผม
ก่อนจะพาดมาข้างไหล่ซ้ายเพื่อสะดวกต่อการเคลื่อนไหวและทำอาหาร สีหน้าของเธอแม้จะเริ่มมีริ้วรอยขึ้นมาบ้าง
แต่ก็ยังมีความอ่อนโยนเผยออกทางสีหน้า..
“ออกมาได้สักทีนะ.. รีบทานเถอะก่อนอาหารจะเย็นซะก่อน”
Comments