Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง 7
R/C – 1-7
หนูน้อยหมวกแดง
ดวงตาของเรดเปิดขึ้นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอไม่ใช่เพดานในอพาร์ตเม้นของเธอแต่อย่างใด มันกลับเป็นเพดานที่เธอพึ่งเคยเห็นเมื่อวาน อย่างที่คาดทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวานหาใช่ความฝันไม่ แต่เป็นความจริง
เธอยกมือขึ้นดึงแก้มตัวเองเบาๆ หนึ่งครั้งเมื่อยืนยันได้อีกรอบว่านี่ไม่ใช่ฝันเธอก็ถอนหายใจเบาๆ
“เรื่องจริงสินะ..”
ความรู้สึกที่อยากให้เป็นฝันยังคงไม่จางหายไปจากความรู้สึกของเธอเลย ปกติแล้วเธอมักจะฝันถึงสิ่งดีๆ อยู่ตลอดเพราะงั้นเธอเลยหวังไว้อยู่ตลอดว่า..
หากในความฝันนั้นเป็นความจริงซะ ทุกอย่างคงจะดีกว่านี้ได้แท้ๆ แต่ตอนนี้กลับเป็นตรงกันข้ามเธอกลับอยากให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ความฝัน เป็นของปลอมที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
ทว่านี่ไม่ใช่ความฝัน นี่คือความจริง.. เรดสูดลมหายใจเข้าหนึ่งทีก่อนจะลุกจากเตียงและแต่งตัวเหมือนกับเมื่อวาน
เธอมองลงไปที่ขวดยาที่วางอยู่ข้างหมอนก่อนจะหยิบขึ้นมา ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่แม่ของเธอมาเคาะประตูเรียก เธอก็ตอบว่ากำลังจะเสร็จแล้ว
และเธอก็แต่งตัวออกไปทานข้าว
แม้เรดจะพึ่งมาอยู่ที่นี่ในร่างของคนอื่น แต่ทว่ากิจวัตรประจำวันเธอกลับทำโดยสัญชาตญาณโดยไม่มีคนสอน แม้แต่เข้าห้องน้ำในฐานะผู้หญิงก็ตาม
เรดสามารถเข้าได้โดยไม่มีความรู้สึกตะขิดตะขวงใจใดๆ และไม่ใช่แค่เรื่องนั้นด้วย รวมถึงเรื่องอื่นที่ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่แปลกๆ จากการใส่กระโปรงอะไรแบบนั้น
มันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเขินอายอะไร นอกจากความคุ้นเคยเหมือนทำทุกวัน เรดมั่นใจว่าหากชาติก่อนเธอสวมกระโปรงละก็คงอยู่ไม่เป็นสุขแน่
แต่ตอนนี้กลับไม่มีปัญหา ดังนั้นก็มีเพียงคำอธิบายเดียวที่สามารถอธิบายได้คือบุคลิกภาพบางอย่างอาจจะสามารถถูกกำหนดด้วยเพศภาพ
ที่ใช้คำว่า ‘อาจจะ’ เพราะในโลกเดิมของเรดเองก็มีสาวประเภทสองอยู่ด้วยแม้เพศภาพของเธอจะเป็นชาย แต่ข้างในเป็นหญิงก็มีใช่ไหมล่ะ
แต่แน่นอนว่าเรดไม่ได้เป็นสาวประเภทสอง เธอชอบผู้หญิงเป็นปกติ.. แต่ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงไปแล้วนั่นหมายความว่าบางสิ่งบางอย่างของเรดอาจจะโดนผลกระทบจากเพศสภาพพอสมควร
เช่นเรื่องการสวมเสื้อผ้าที่ตอนนี้เรดไม่มีปัญหาในการใส่กระโปรงแล้ว.. เมื่อคิดอะไรแบบนี้ในหัว จู่ๆ เรดก็เกิดคำถามแปลกๆ ขึ้นมาว่า
“เพศสภาพของฉันตอนนี้เป็นผู้หญิง… แล้วฉันจะชอบผู้ชายหรือเปล่านะ?”
ก็แหม.. ขนาดใส่กระโปรงยังไม่รู้สึกอะไรขนาดนั้นแล้ว แม้จะผ่านมาแค่วันเดียว เธอเลยสงสัยว่าในเมื่อตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงแล้ว.. เธอจะชอบผู้ชายหรือเปล่า หรือจะยังชอบผู้หญิงเหมือนเดิมกันนะ ?
“เรด ยังไม่เสร็จอีกเหรอลูก คุณยายจะไม่มีอาหารทานแล้วนะ!”
“หนูกำลังจะไปตอนนี้แหละค่ะ”
เมื่อเห็นว่าเรดชักช้าคนเป็นแม่เลยเร่งเร้านิดหน่อย เรดจึงรีบตอบกลับออกไปและเดินออกจากห้องของตัวเอง พร้อมกับออกไปทานข้าวผู้คนเป็นแม่ วันนี้อาหารก็ยังจืดชืดเหมือนเดิม
“แม่.. หนูว่า ตั้งแต่วันนี้หนูเป็นคนทำอาหารเองจะดีกว่านะ”
“หือ.. ลูกทำอาหารเป็นด้วยเหรอ?”
“นิดหน่อยค่ะ”
ในที่สุดเรดไม่สามารถทนกับอาหารรสชาติจืดชืดนี้ได้อีกแล้ว ตอนนี้เธอแค่อยากทานอาหารอร่อยๆ เท่านั้นเพราะสิ่งที่ระบายความเครียดได้มากที่สุดรองจากยาและพี่สาวสำหรับเธอคือ..
อาหารและการอาบน้ำ!
แต่ตอนนี้แทนที่อาหารจะให้ความสุขกับเธอแล้ว มันกลับให้ความเครียดแทน
เพราะงั้นเรดจึงไม่สามารถอดทนทานอาหารรสชาติจืดชืดนี้ได้อีกต่อไป เธอเองก็พอจะมีทักษะทำอาหารอยู่พอสมควร เพราะเธออยู่บ้านคนเดียว
อันที่จริงปกติจะซื้ออาหารกล่องมากิน
แต่การจะทำอาหารเป็นมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วสำหรับการอยู่บ้านคนเดียวใช่ไหมล่ะ?
ตอนแรกเรดนึกว่าแม่ของเธอจะปฏิเสธแต่ทว่าแม่ของเธอกลับครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า
“เข้าใจแล้วล่ะ”
เมื่อเรดได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้า ก่อนที่เธอจะลุกไปทำอาหาร เพราะโลกนี้ไม่มีเครื่องครัวที่สามารถเก็บอาหารคาวๆ ได้นาน ดังนั้นในครัวของบ้านส่วนใหญ่จึงเป็นพวกอาหารแห้งซะมากกว่า
แถมแปลงผักก็ตายไปด้วย ทำให้ในบ้านตอนนี้มีแค่อาหารแห้งที่ไปซื้อมาเมื่อวานเท่านั้น เรดเอาขนมปังไปทำให้นิ่มด้วยวิธีพิเศษ
ก่อนจะทำน้ำซุปที่ทำจากเนื้อแห้ง เธอพยายามจะทำทุกอย่างให้เป็นเมนูอาหารที่น่ากินให้ได้.. และเวลาก็ไหลผ่านไป
กว่าจะได้ทานอาหารเช้าเวลาก็เกือบเที่ยงไปแล้วเพราะที่นี่ไม่มีทั้งเตาแก๊สหรือเครื่องครัวต่างๆ ทำให้เรดต้องแก้ไขอะไรบางอย่างตามสภาพการณ์ที่มี
ยังไงก็ตามแต่อาหารที่เรดทำรสชาติไม่แย่ อยู่ในระดับที่พอทานได้เลยล่ะ อันที่จริงต้องบอกว่าค่อนข้างอร่อยเลย
“ลูกทำอาหารเก่งขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?”
“หนูแค่อ่านมาจากในหนังสือน่ะ..”
“อ่านจากในหนังสือเหรอ ทำไมแม่อ่านถึงได้รสชาติไม่เหมือนกับในหนังสือล่ะ”
“นั่นสิ.. หนูก็ไม่รู้หรอก”
แต่ก็นะ บางคนไม่มีพรสวรรค์อาจจะทำไม่ได้เลยจริงก็ได้ แบบว่าเทพแห่งอาหารไม่ถูกใจเลยเสกให้อาหารทุกรูปแบบที่เธอทำไม่อร่อยก็ได้มั้งนะ?
เรดคิดแบบนั้นอยู่ในใจคนเดียว เวลาไหลผ่านไปอีกครั้งหลังจากที่เธอทานข้าวเสร็จก็เป็นเวลาตอนเที่ยงแล้วนั่นเอง
“เดี๋ยวแม่รีบไปเตรียมของให้คุณยายก่อน”
“ค่ะ..”
แม่ของเธอจากไปไม่นานก่อนจะกลับมาพร้อมกับตะกร้าที่มีไวน์หนึ่งขวด ขนมปังสองอันและยังมีแอปเปิลอีกสามลูกในตะกร้าไม้ที่ถักทอมาอย่างประณีต
เธอเอาผ้าสีขาวมาปิดตะกร้าไว้เพื่อไม่ให้ของหล่นออกด้านข้าง มีเพียงขวดไวน์ที่เกินออกมาจากผ้าเพราะขวดมันค่อนข้างสูง
หลังจากเตรียมทุกอย่างเสร็จแม่ของเธอก็พูดกับเรดว่า
“เอาตะกร้านี้ไปส่งให้ถึงมือคุณยายนะ แล้วก็รีบไปรีบกลับ อย่าไปเที่ยวเล่น เถลไถลที่ไหนไกล อย่าพูดคุยกับคนแปลกหน้าด้วยล่ะ เข้าใจไหม? ”
“ค่ะ”
เรดที่ได้ยินคำนั้นก็คิ้วกระตุกเล็กน้อยแต่ก็ยังตอบไปว่า ‘ค่ะ’ อย่างเชื่อฟัง เพราะคำพูดคำนั้นมันเป็นสคริปต์เดียวกันกับบทที่คุณแม่หนูน้อยหมวกแดงพูดในนิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดงเลย
อย่างไรก็ตามเรดก็ได้รับตะกร้ามาแล้ว ตะกร้าไม่หนักมากสำหรับเธอ เธอเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับมีแม่ยืนส่งให้ด้านหลัง
“ไปดีมาดีนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
เรดตอบกลับไปแบบนั้น.. ส่วนทางที่จะไปบ้านคุณยายนั้นเป็นทางขวามือเพราะมีทางเดินที่ชัดเจนอยู่ ทำให้เรดที่ไม่รู้จักทางก็สามารถเดินไปถึงได้ แต่ทางก็ยังค่อนข้างไกลพอสมควร
เรดสูดลมหายใจเบาๆ กำลังจะตัดสินใจเดินไปโดยในหัวเธอได้วางแผนไว้ว่าจะทำยังไงแล้ว แต่สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นกองไม้ที่ผ่าแล้วซึ่งเอาไว้ใช้ก่อไฟกองอยู่หน้าบ้านเธอ
แต่ที่เธอโฟกัสไม่ใช่กองไม้ที่กองอยู่ แต่เป็นขวานที่วางอยู่ข้างๆ ต่างหาก.. เธอไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่มองไปทางในบ้าน
เมื่อไม่เห็นว่าแม่เธออยู่แถวนี้ เธอจึงตัดสินใจบางอย่างได้ทันที เรดเดินไปทางขวานก่อนจะวางตะกร้าลง
และหยิบเอาขวานขึ้นมายัดลงไว้ใต้ก้นตะกร้า ก่อนที่จะแอปเปิล ไวน์และขนมปังวางกลับที่เดิมและปิดผ้าเอาไว้
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็เตรียมไว้ด้วยจะดีกว่า”
เรดพึมพำแบบนั้นก่อนที่จะออกเดินไปพร้อมตะกร้าที่มีแอปเปิล ขนมปัง ไวน์…
และขวานหนึ่งเล่ม
หนูน้อยหมวกสีแดงได้ก้าวเท้าออกไปทางป่าด้วยตัวคนเดียว
ในป่าที่มีแต่เสียงนกเสียงกา สิ่งที่รอเธออยู่ในการเดินทางอันแสนสั้นตรงหน้านี้คืออะไรกันแน่..?
Comments
Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง 7
R/C – 1-7
หนูน้อยหมวกแดง
ดวงตาของเรดเปิดขึ้นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอไม่ใช่เพดานในอพาร์ตเม้นของเธอแต่อย่างใด มันกลับเป็นเพดานที่เธอพึ่งเคยเห็นเมื่อวาน อย่างที่คาดทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวานหาใช่ความฝันไม่ แต่เป็นความจริง
เธอยกมือขึ้นดึงแก้มตัวเองเบาๆ หนึ่งครั้งเมื่อยืนยันได้อีกรอบว่านี่ไม่ใช่ฝันเธอก็ถอนหายใจเบาๆ
“เรื่องจริงสินะ..”
ความรู้สึกที่อยากให้เป็นฝันยังคงไม่จางหายไปจากความรู้สึกของเธอเลย ปกติแล้วเธอมักจะฝันถึงสิ่งดีๆ อยู่ตลอดเพราะงั้นเธอเลยหวังไว้อยู่ตลอดว่า..
หากในความฝันนั้นเป็นความจริงซะ ทุกอย่างคงจะดีกว่านี้ได้แท้ๆ แต่ตอนนี้กลับเป็นตรงกันข้ามเธอกลับอยากให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ความฝัน เป็นของปลอมที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
ทว่านี่ไม่ใช่ความฝัน นี่คือความจริง.. เรดสูดลมหายใจเข้าหนึ่งทีก่อนจะลุกจากเตียงและแต่งตัวเหมือนกับเมื่อวาน
เธอมองลงไปที่ขวดยาที่วางอยู่ข้างหมอนก่อนจะหยิบขึ้นมา ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่แม่ของเธอมาเคาะประตูเรียก เธอก็ตอบว่ากำลังจะเสร็จแล้ว
และเธอก็แต่งตัวออกไปทานข้าว
แม้เรดจะพึ่งมาอยู่ที่นี่ในร่างของคนอื่น แต่ทว่ากิจวัตรประจำวันเธอกลับทำโดยสัญชาตญาณโดยไม่มีคนสอน แม้แต่เข้าห้องน้ำในฐานะผู้หญิงก็ตาม
เรดสามารถเข้าได้โดยไม่มีความรู้สึกตะขิดตะขวงใจใดๆ และไม่ใช่แค่เรื่องนั้นด้วย รวมถึงเรื่องอื่นที่ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่แปลกๆ จากการใส่กระโปรงอะไรแบบนั้น
มันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเขินอายอะไร นอกจากความคุ้นเคยเหมือนทำทุกวัน เรดมั่นใจว่าหากชาติก่อนเธอสวมกระโปรงละก็คงอยู่ไม่เป็นสุขแน่
แต่ตอนนี้กลับไม่มีปัญหา ดังนั้นก็มีเพียงคำอธิบายเดียวที่สามารถอธิบายได้คือบุคลิกภาพบางอย่างอาจจะสามารถถูกกำหนดด้วยเพศภาพ
ที่ใช้คำว่า ‘อาจจะ’ เพราะในโลกเดิมของเรดเองก็มีสาวประเภทสองอยู่ด้วยแม้เพศภาพของเธอจะเป็นชาย แต่ข้างในเป็นหญิงก็มีใช่ไหมล่ะ
แต่แน่นอนว่าเรดไม่ได้เป็นสาวประเภทสอง เธอชอบผู้หญิงเป็นปกติ.. แต่ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงไปแล้วนั่นหมายความว่าบางสิ่งบางอย่างของเรดอาจจะโดนผลกระทบจากเพศสภาพพอสมควร
เช่นเรื่องการสวมเสื้อผ้าที่ตอนนี้เรดไม่มีปัญหาในการใส่กระโปรงแล้ว.. เมื่อคิดอะไรแบบนี้ในหัว จู่ๆ เรดก็เกิดคำถามแปลกๆ ขึ้นมาว่า
“เพศสภาพของฉันตอนนี้เป็นผู้หญิง… แล้วฉันจะชอบผู้ชายหรือเปล่านะ?”
ก็แหม.. ขนาดใส่กระโปรงยังไม่รู้สึกอะไรขนาดนั้นแล้ว แม้จะผ่านมาแค่วันเดียว เธอเลยสงสัยว่าในเมื่อตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงแล้ว.. เธอจะชอบผู้ชายหรือเปล่า หรือจะยังชอบผู้หญิงเหมือนเดิมกันนะ ?
“เรด ยังไม่เสร็จอีกเหรอลูก คุณยายจะไม่มีอาหารทานแล้วนะ!”
“หนูกำลังจะไปตอนนี้แหละค่ะ”
เมื่อเห็นว่าเรดชักช้าคนเป็นแม่เลยเร่งเร้านิดหน่อย เรดจึงรีบตอบกลับออกไปและเดินออกจากห้องของตัวเอง พร้อมกับออกไปทานข้าวผู้คนเป็นแม่ วันนี้อาหารก็ยังจืดชืดเหมือนเดิม
“แม่.. หนูว่า ตั้งแต่วันนี้หนูเป็นคนทำอาหารเองจะดีกว่านะ”
“หือ.. ลูกทำอาหารเป็นด้วยเหรอ?”
“นิดหน่อยค่ะ”
ในที่สุดเรดไม่สามารถทนกับอาหารรสชาติจืดชืดนี้ได้อีกแล้ว ตอนนี้เธอแค่อยากทานอาหารอร่อยๆ เท่านั้นเพราะสิ่งที่ระบายความเครียดได้มากที่สุดรองจากยาและพี่สาวสำหรับเธอคือ..
อาหารและการอาบน้ำ!
แต่ตอนนี้แทนที่อาหารจะให้ความสุขกับเธอแล้ว มันกลับให้ความเครียดแทน
เพราะงั้นเรดจึงไม่สามารถอดทนทานอาหารรสชาติจืดชืดนี้ได้อีกต่อไป เธอเองก็พอจะมีทักษะทำอาหารอยู่พอสมควร เพราะเธออยู่บ้านคนเดียว
อันที่จริงปกติจะซื้ออาหารกล่องมากิน
แต่การจะทำอาหารเป็นมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วสำหรับการอยู่บ้านคนเดียวใช่ไหมล่ะ?
ตอนแรกเรดนึกว่าแม่ของเธอจะปฏิเสธแต่ทว่าแม่ของเธอกลับครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า
“เข้าใจแล้วล่ะ”
เมื่อเรดได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้า ก่อนที่เธอจะลุกไปทำอาหาร เพราะโลกนี้ไม่มีเครื่องครัวที่สามารถเก็บอาหารคาวๆ ได้นาน ดังนั้นในครัวของบ้านส่วนใหญ่จึงเป็นพวกอาหารแห้งซะมากกว่า
แถมแปลงผักก็ตายไปด้วย ทำให้ในบ้านตอนนี้มีแค่อาหารแห้งที่ไปซื้อมาเมื่อวานเท่านั้น เรดเอาขนมปังไปทำให้นิ่มด้วยวิธีพิเศษ
ก่อนจะทำน้ำซุปที่ทำจากเนื้อแห้ง เธอพยายามจะทำทุกอย่างให้เป็นเมนูอาหารที่น่ากินให้ได้.. และเวลาก็ไหลผ่านไป
กว่าจะได้ทานอาหารเช้าเวลาก็เกือบเที่ยงไปแล้วเพราะที่นี่ไม่มีทั้งเตาแก๊สหรือเครื่องครัวต่างๆ ทำให้เรดต้องแก้ไขอะไรบางอย่างตามสภาพการณ์ที่มี
ยังไงก็ตามแต่อาหารที่เรดทำรสชาติไม่แย่ อยู่ในระดับที่พอทานได้เลยล่ะ อันที่จริงต้องบอกว่าค่อนข้างอร่อยเลย
“ลูกทำอาหารเก่งขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?”
“หนูแค่อ่านมาจากในหนังสือน่ะ..”
“อ่านจากในหนังสือเหรอ ทำไมแม่อ่านถึงได้รสชาติไม่เหมือนกับในหนังสือล่ะ”
“นั่นสิ.. หนูก็ไม่รู้หรอก”
แต่ก็นะ บางคนไม่มีพรสวรรค์อาจจะทำไม่ได้เลยจริงก็ได้ แบบว่าเทพแห่งอาหารไม่ถูกใจเลยเสกให้อาหารทุกรูปแบบที่เธอทำไม่อร่อยก็ได้มั้งนะ?
เรดคิดแบบนั้นอยู่ในใจคนเดียว เวลาไหลผ่านไปอีกครั้งหลังจากที่เธอทานข้าวเสร็จก็เป็นเวลาตอนเที่ยงแล้วนั่นเอง
“เดี๋ยวแม่รีบไปเตรียมของให้คุณยายก่อน”
“ค่ะ..”
แม่ของเธอจากไปไม่นานก่อนจะกลับมาพร้อมกับตะกร้าที่มีไวน์หนึ่งขวด ขนมปังสองอันและยังมีแอปเปิลอีกสามลูกในตะกร้าไม้ที่ถักทอมาอย่างประณีต
เธอเอาผ้าสีขาวมาปิดตะกร้าไว้เพื่อไม่ให้ของหล่นออกด้านข้าง มีเพียงขวดไวน์ที่เกินออกมาจากผ้าเพราะขวดมันค่อนข้างสูง
หลังจากเตรียมทุกอย่างเสร็จแม่ของเธอก็พูดกับเรดว่า
“เอาตะกร้านี้ไปส่งให้ถึงมือคุณยายนะ แล้วก็รีบไปรีบกลับ อย่าไปเที่ยวเล่น เถลไถลที่ไหนไกล อย่าพูดคุยกับคนแปลกหน้าด้วยล่ะ เข้าใจไหม? ”
“ค่ะ”
เรดที่ได้ยินคำนั้นก็คิ้วกระตุกเล็กน้อยแต่ก็ยังตอบไปว่า ‘ค่ะ’ อย่างเชื่อฟัง เพราะคำพูดคำนั้นมันเป็นสคริปต์เดียวกันกับบทที่คุณแม่หนูน้อยหมวกแดงพูดในนิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดงเลย
อย่างไรก็ตามเรดก็ได้รับตะกร้ามาแล้ว ตะกร้าไม่หนักมากสำหรับเธอ เธอเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับมีแม่ยืนส่งให้ด้านหลัง
“ไปดีมาดีนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
เรดตอบกลับไปแบบนั้น.. ส่วนทางที่จะไปบ้านคุณยายนั้นเป็นทางขวามือเพราะมีทางเดินที่ชัดเจนอยู่ ทำให้เรดที่ไม่รู้จักทางก็สามารถเดินไปถึงได้ แต่ทางก็ยังค่อนข้างไกลพอสมควร
เรดสูดลมหายใจเบาๆ กำลังจะตัดสินใจเดินไปโดยในหัวเธอได้วางแผนไว้ว่าจะทำยังไงแล้ว แต่สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นกองไม้ที่ผ่าแล้วซึ่งเอาไว้ใช้ก่อไฟกองอยู่หน้าบ้านเธอ
แต่ที่เธอโฟกัสไม่ใช่กองไม้ที่กองอยู่ แต่เป็นขวานที่วางอยู่ข้างๆ ต่างหาก.. เธอไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่มองไปทางในบ้าน
เมื่อไม่เห็นว่าแม่เธออยู่แถวนี้ เธอจึงตัดสินใจบางอย่างได้ทันที เรดเดินไปทางขวานก่อนจะวางตะกร้าลง
และหยิบเอาขวานขึ้นมายัดลงไว้ใต้ก้นตะกร้า ก่อนที่จะแอปเปิล ไวน์และขนมปังวางกลับที่เดิมและปิดผ้าเอาไว้
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็เตรียมไว้ด้วยจะดีกว่า”
เรดพึมพำแบบนั้นก่อนที่จะออกเดินไปพร้อมตะกร้าที่มีแอปเปิล ขนมปัง ไวน์…
และขวานหนึ่งเล่ม
หนูน้อยหมวกสีแดงได้ก้าวเท้าออกไปทางป่าด้วยตัวคนเดียว
ในป่าที่มีแต่เสียงนกเสียงกา สิ่งที่รอเธออยู่ในการเดินทางอันแสนสั้นตรงหน้านี้คืออะไรกันแน่..?
Comments
Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง 7
R/C – 1-7
หนูน้อยหมวกแดง
ดวงตาของเรดเปิดขึ้นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอไม่ใช่เพดานในอพาร์ตเม้นของเธอแต่อย่างใด มันกลับเป็นเพดานที่เธอพึ่งเคยเห็นเมื่อวาน อย่างที่คาดทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวานหาใช่ความฝันไม่ แต่เป็นความจริง
เธอยกมือขึ้นดึงแก้มตัวเองเบาๆ หนึ่งครั้งเมื่อยืนยันได้อีกรอบว่านี่ไม่ใช่ฝันเธอก็ถอนหายใจเบาๆ
“เรื่องจริงสินะ..”
ความรู้สึกที่อยากให้เป็นฝันยังคงไม่จางหายไปจากความรู้สึกของเธอเลย ปกติแล้วเธอมักจะฝันถึงสิ่งดีๆ อยู่ตลอดเพราะงั้นเธอเลยหวังไว้อยู่ตลอดว่า..
หากในความฝันนั้นเป็นความจริงซะ ทุกอย่างคงจะดีกว่านี้ได้แท้ๆ แต่ตอนนี้กลับเป็นตรงกันข้ามเธอกลับอยากให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ความฝัน เป็นของปลอมที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
ทว่านี่ไม่ใช่ความฝัน นี่คือความจริง.. เรดสูดลมหายใจเข้าหนึ่งทีก่อนจะลุกจากเตียงและแต่งตัวเหมือนกับเมื่อวาน
เธอมองลงไปที่ขวดยาที่วางอยู่ข้างหมอนก่อนจะหยิบขึ้นมา ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่แม่ของเธอมาเคาะประตูเรียก เธอก็ตอบว่ากำลังจะเสร็จแล้ว
และเธอก็แต่งตัวออกไปทานข้าว
แม้เรดจะพึ่งมาอยู่ที่นี่ในร่างของคนอื่น แต่ทว่ากิจวัตรประจำวันเธอกลับทำโดยสัญชาตญาณโดยไม่มีคนสอน แม้แต่เข้าห้องน้ำในฐานะผู้หญิงก็ตาม
เรดสามารถเข้าได้โดยไม่มีความรู้สึกตะขิดตะขวงใจใดๆ และไม่ใช่แค่เรื่องนั้นด้วย รวมถึงเรื่องอื่นที่ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่แปลกๆ จากการใส่กระโปรงอะไรแบบนั้น
มันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเขินอายอะไร นอกจากความคุ้นเคยเหมือนทำทุกวัน เรดมั่นใจว่าหากชาติก่อนเธอสวมกระโปรงละก็คงอยู่ไม่เป็นสุขแน่
แต่ตอนนี้กลับไม่มีปัญหา ดังนั้นก็มีเพียงคำอธิบายเดียวที่สามารถอธิบายได้คือบุคลิกภาพบางอย่างอาจจะสามารถถูกกำหนดด้วยเพศภาพ
ที่ใช้คำว่า ‘อาจจะ’ เพราะในโลกเดิมของเรดเองก็มีสาวประเภทสองอยู่ด้วยแม้เพศภาพของเธอจะเป็นชาย แต่ข้างในเป็นหญิงก็มีใช่ไหมล่ะ
แต่แน่นอนว่าเรดไม่ได้เป็นสาวประเภทสอง เธอชอบผู้หญิงเป็นปกติ.. แต่ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงไปแล้วนั่นหมายความว่าบางสิ่งบางอย่างของเรดอาจจะโดนผลกระทบจากเพศสภาพพอสมควร
เช่นเรื่องการสวมเสื้อผ้าที่ตอนนี้เรดไม่มีปัญหาในการใส่กระโปรงแล้ว.. เมื่อคิดอะไรแบบนี้ในหัว จู่ๆ เรดก็เกิดคำถามแปลกๆ ขึ้นมาว่า
“เพศสภาพของฉันตอนนี้เป็นผู้หญิง… แล้วฉันจะชอบผู้ชายหรือเปล่านะ?”
ก็แหม.. ขนาดใส่กระโปรงยังไม่รู้สึกอะไรขนาดนั้นแล้ว แม้จะผ่านมาแค่วันเดียว เธอเลยสงสัยว่าในเมื่อตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงแล้ว.. เธอจะชอบผู้ชายหรือเปล่า หรือจะยังชอบผู้หญิงเหมือนเดิมกันนะ ?
“เรด ยังไม่เสร็จอีกเหรอลูก คุณยายจะไม่มีอาหารทานแล้วนะ!”
“หนูกำลังจะไปตอนนี้แหละค่ะ”
เมื่อเห็นว่าเรดชักช้าคนเป็นแม่เลยเร่งเร้านิดหน่อย เรดจึงรีบตอบกลับออกไปและเดินออกจากห้องของตัวเอง พร้อมกับออกไปทานข้าวผู้คนเป็นแม่ วันนี้อาหารก็ยังจืดชืดเหมือนเดิม
“แม่.. หนูว่า ตั้งแต่วันนี้หนูเป็นคนทำอาหารเองจะดีกว่านะ”
“หือ.. ลูกทำอาหารเป็นด้วยเหรอ?”
“นิดหน่อยค่ะ”
ในที่สุดเรดไม่สามารถทนกับอาหารรสชาติจืดชืดนี้ได้อีกแล้ว ตอนนี้เธอแค่อยากทานอาหารอร่อยๆ เท่านั้นเพราะสิ่งที่ระบายความเครียดได้มากที่สุดรองจากยาและพี่สาวสำหรับเธอคือ..
อาหารและการอาบน้ำ!
แต่ตอนนี้แทนที่อาหารจะให้ความสุขกับเธอแล้ว มันกลับให้ความเครียดแทน
เพราะงั้นเรดจึงไม่สามารถอดทนทานอาหารรสชาติจืดชืดนี้ได้อีกต่อไป เธอเองก็พอจะมีทักษะทำอาหารอยู่พอสมควร เพราะเธออยู่บ้านคนเดียว
อันที่จริงปกติจะซื้ออาหารกล่องมากิน
แต่การจะทำอาหารเป็นมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วสำหรับการอยู่บ้านคนเดียวใช่ไหมล่ะ?
ตอนแรกเรดนึกว่าแม่ของเธอจะปฏิเสธแต่ทว่าแม่ของเธอกลับครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า
“เข้าใจแล้วล่ะ”
เมื่อเรดได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้า ก่อนที่เธอจะลุกไปทำอาหาร เพราะโลกนี้ไม่มีเครื่องครัวที่สามารถเก็บอาหารคาวๆ ได้นาน ดังนั้นในครัวของบ้านส่วนใหญ่จึงเป็นพวกอาหารแห้งซะมากกว่า
แถมแปลงผักก็ตายไปด้วย ทำให้ในบ้านตอนนี้มีแค่อาหารแห้งที่ไปซื้อมาเมื่อวานเท่านั้น เรดเอาขนมปังไปทำให้นิ่มด้วยวิธีพิเศษ
ก่อนจะทำน้ำซุปที่ทำจากเนื้อแห้ง เธอพยายามจะทำทุกอย่างให้เป็นเมนูอาหารที่น่ากินให้ได้.. และเวลาก็ไหลผ่านไป
กว่าจะได้ทานอาหารเช้าเวลาก็เกือบเที่ยงไปแล้วเพราะที่นี่ไม่มีทั้งเตาแก๊สหรือเครื่องครัวต่างๆ ทำให้เรดต้องแก้ไขอะไรบางอย่างตามสภาพการณ์ที่มี
ยังไงก็ตามแต่อาหารที่เรดทำรสชาติไม่แย่ อยู่ในระดับที่พอทานได้เลยล่ะ อันที่จริงต้องบอกว่าค่อนข้างอร่อยเลย
“ลูกทำอาหารเก่งขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?”
“หนูแค่อ่านมาจากในหนังสือน่ะ..”
“อ่านจากในหนังสือเหรอ ทำไมแม่อ่านถึงได้รสชาติไม่เหมือนกับในหนังสือล่ะ”
“นั่นสิ.. หนูก็ไม่รู้หรอก”
แต่ก็นะ บางคนไม่มีพรสวรรค์อาจจะทำไม่ได้เลยจริงก็ได้ แบบว่าเทพแห่งอาหารไม่ถูกใจเลยเสกให้อาหารทุกรูปแบบที่เธอทำไม่อร่อยก็ได้มั้งนะ?
เรดคิดแบบนั้นอยู่ในใจคนเดียว เวลาไหลผ่านไปอีกครั้งหลังจากที่เธอทานข้าวเสร็จก็เป็นเวลาตอนเที่ยงแล้วนั่นเอง
“เดี๋ยวแม่รีบไปเตรียมของให้คุณยายก่อน”
“ค่ะ..”
แม่ของเธอจากไปไม่นานก่อนจะกลับมาพร้อมกับตะกร้าที่มีไวน์หนึ่งขวด ขนมปังสองอันและยังมีแอปเปิลอีกสามลูกในตะกร้าไม้ที่ถักทอมาอย่างประณีต
เธอเอาผ้าสีขาวมาปิดตะกร้าไว้เพื่อไม่ให้ของหล่นออกด้านข้าง มีเพียงขวดไวน์ที่เกินออกมาจากผ้าเพราะขวดมันค่อนข้างสูง
หลังจากเตรียมทุกอย่างเสร็จแม่ของเธอก็พูดกับเรดว่า
“เอาตะกร้านี้ไปส่งให้ถึงมือคุณยายนะ แล้วก็รีบไปรีบกลับ อย่าไปเที่ยวเล่น เถลไถลที่ไหนไกล อย่าพูดคุยกับคนแปลกหน้าด้วยล่ะ เข้าใจไหม? ”
“ค่ะ”
เรดที่ได้ยินคำนั้นก็คิ้วกระตุกเล็กน้อยแต่ก็ยังตอบไปว่า ‘ค่ะ’ อย่างเชื่อฟัง เพราะคำพูดคำนั้นมันเป็นสคริปต์เดียวกันกับบทที่คุณแม่หนูน้อยหมวกแดงพูดในนิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดงเลย
อย่างไรก็ตามเรดก็ได้รับตะกร้ามาแล้ว ตะกร้าไม่หนักมากสำหรับเธอ เธอเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับมีแม่ยืนส่งให้ด้านหลัง
“ไปดีมาดีนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
เรดตอบกลับไปแบบนั้น.. ส่วนทางที่จะไปบ้านคุณยายนั้นเป็นทางขวามือเพราะมีทางเดินที่ชัดเจนอยู่ ทำให้เรดที่ไม่รู้จักทางก็สามารถเดินไปถึงได้ แต่ทางก็ยังค่อนข้างไกลพอสมควร
เรดสูดลมหายใจเบาๆ กำลังจะตัดสินใจเดินไปโดยในหัวเธอได้วางแผนไว้ว่าจะทำยังไงแล้ว แต่สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นกองไม้ที่ผ่าแล้วซึ่งเอาไว้ใช้ก่อไฟกองอยู่หน้าบ้านเธอ
แต่ที่เธอโฟกัสไม่ใช่กองไม้ที่กองอยู่ แต่เป็นขวานที่วางอยู่ข้างๆ ต่างหาก.. เธอไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่มองไปทางในบ้าน
เมื่อไม่เห็นว่าแม่เธออยู่แถวนี้ เธอจึงตัดสินใจบางอย่างได้ทันที เรดเดินไปทางขวานก่อนจะวางตะกร้าลง
และหยิบเอาขวานขึ้นมายัดลงไว้ใต้ก้นตะกร้า ก่อนที่จะแอปเปิล ไวน์และขนมปังวางกลับที่เดิมและปิดผ้าเอาไว้
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็เตรียมไว้ด้วยจะดีกว่า”
เรดพึมพำแบบนั้นก่อนที่จะออกเดินไปพร้อมตะกร้าที่มีแอปเปิล ขนมปัง ไวน์…
และขวานหนึ่งเล่ม
หนูน้อยหมวกสีแดงได้ก้าวเท้าออกไปทางป่าด้วยตัวคนเดียว
ในป่าที่มีแต่เสียงนกเสียงกา สิ่งที่รอเธออยู่ในการเดินทางอันแสนสั้นตรงหน้านี้คืออะไรกันแน่..?
Comments
Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง 7
R/C – 1-7
หนูน้อยหมวกแดง
ดวงตาของเรดเปิดขึ้นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอไม่ใช่เพดานในอพาร์ตเม้นของเธอแต่อย่างใด มันกลับเป็นเพดานที่เธอพึ่งเคยเห็นเมื่อวาน อย่างที่คาดทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวานหาใช่ความฝันไม่ แต่เป็นความจริง
เธอยกมือขึ้นดึงแก้มตัวเองเบาๆ หนึ่งครั้งเมื่อยืนยันได้อีกรอบว่านี่ไม่ใช่ฝันเธอก็ถอนหายใจเบาๆ
“เรื่องจริงสินะ..”
ความรู้สึกที่อยากให้เป็นฝันยังคงไม่จางหายไปจากความรู้สึกของเธอเลย ปกติแล้วเธอมักจะฝันถึงสิ่งดีๆ อยู่ตลอดเพราะงั้นเธอเลยหวังไว้อยู่ตลอดว่า..
หากในความฝันนั้นเป็นความจริงซะ ทุกอย่างคงจะดีกว่านี้ได้แท้ๆ แต่ตอนนี้กลับเป็นตรงกันข้ามเธอกลับอยากให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ความฝัน เป็นของปลอมที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
ทว่านี่ไม่ใช่ความฝัน นี่คือความจริง.. เรดสูดลมหายใจเข้าหนึ่งทีก่อนจะลุกจากเตียงและแต่งตัวเหมือนกับเมื่อวาน
เธอมองลงไปที่ขวดยาที่วางอยู่ข้างหมอนก่อนจะหยิบขึ้นมา ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่แม่ของเธอมาเคาะประตูเรียก เธอก็ตอบว่ากำลังจะเสร็จแล้ว
และเธอก็แต่งตัวออกไปทานข้าว
แม้เรดจะพึ่งมาอยู่ที่นี่ในร่างของคนอื่น แต่ทว่ากิจวัตรประจำวันเธอกลับทำโดยสัญชาตญาณโดยไม่มีคนสอน แม้แต่เข้าห้องน้ำในฐานะผู้หญิงก็ตาม
เรดสามารถเข้าได้โดยไม่มีความรู้สึกตะขิดตะขวงใจใดๆ และไม่ใช่แค่เรื่องนั้นด้วย รวมถึงเรื่องอื่นที่ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่แปลกๆ จากการใส่กระโปรงอะไรแบบนั้น
มันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเขินอายอะไร นอกจากความคุ้นเคยเหมือนทำทุกวัน เรดมั่นใจว่าหากชาติก่อนเธอสวมกระโปรงละก็คงอยู่ไม่เป็นสุขแน่
แต่ตอนนี้กลับไม่มีปัญหา ดังนั้นก็มีเพียงคำอธิบายเดียวที่สามารถอธิบายได้คือบุคลิกภาพบางอย่างอาจจะสามารถถูกกำหนดด้วยเพศภาพ
ที่ใช้คำว่า ‘อาจจะ’ เพราะในโลกเดิมของเรดเองก็มีสาวประเภทสองอยู่ด้วยแม้เพศภาพของเธอจะเป็นชาย แต่ข้างในเป็นหญิงก็มีใช่ไหมล่ะ
แต่แน่นอนว่าเรดไม่ได้เป็นสาวประเภทสอง เธอชอบผู้หญิงเป็นปกติ.. แต่ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงไปแล้วนั่นหมายความว่าบางสิ่งบางอย่างของเรดอาจจะโดนผลกระทบจากเพศสภาพพอสมควร
เช่นเรื่องการสวมเสื้อผ้าที่ตอนนี้เรดไม่มีปัญหาในการใส่กระโปรงแล้ว.. เมื่อคิดอะไรแบบนี้ในหัว จู่ๆ เรดก็เกิดคำถามแปลกๆ ขึ้นมาว่า
“เพศสภาพของฉันตอนนี้เป็นผู้หญิง… แล้วฉันจะชอบผู้ชายหรือเปล่านะ?”
ก็แหม.. ขนาดใส่กระโปรงยังไม่รู้สึกอะไรขนาดนั้นแล้ว แม้จะผ่านมาแค่วันเดียว เธอเลยสงสัยว่าในเมื่อตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงแล้ว.. เธอจะชอบผู้ชายหรือเปล่า หรือจะยังชอบผู้หญิงเหมือนเดิมกันนะ ?
“เรด ยังไม่เสร็จอีกเหรอลูก คุณยายจะไม่มีอาหารทานแล้วนะ!”
“หนูกำลังจะไปตอนนี้แหละค่ะ”
เมื่อเห็นว่าเรดชักช้าคนเป็นแม่เลยเร่งเร้านิดหน่อย เรดจึงรีบตอบกลับออกไปและเดินออกจากห้องของตัวเอง พร้อมกับออกไปทานข้าวผู้คนเป็นแม่ วันนี้อาหารก็ยังจืดชืดเหมือนเดิม
“แม่.. หนูว่า ตั้งแต่วันนี้หนูเป็นคนทำอาหารเองจะดีกว่านะ”
“หือ.. ลูกทำอาหารเป็นด้วยเหรอ?”
“นิดหน่อยค่ะ”
ในที่สุดเรดไม่สามารถทนกับอาหารรสชาติจืดชืดนี้ได้อีกแล้ว ตอนนี้เธอแค่อยากทานอาหารอร่อยๆ เท่านั้นเพราะสิ่งที่ระบายความเครียดได้มากที่สุดรองจากยาและพี่สาวสำหรับเธอคือ..
อาหารและการอาบน้ำ!
แต่ตอนนี้แทนที่อาหารจะให้ความสุขกับเธอแล้ว มันกลับให้ความเครียดแทน
เพราะงั้นเรดจึงไม่สามารถอดทนทานอาหารรสชาติจืดชืดนี้ได้อีกต่อไป เธอเองก็พอจะมีทักษะทำอาหารอยู่พอสมควร เพราะเธออยู่บ้านคนเดียว
อันที่จริงปกติจะซื้ออาหารกล่องมากิน
แต่การจะทำอาหารเป็นมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วสำหรับการอยู่บ้านคนเดียวใช่ไหมล่ะ?
ตอนแรกเรดนึกว่าแม่ของเธอจะปฏิเสธแต่ทว่าแม่ของเธอกลับครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า
“เข้าใจแล้วล่ะ”
เมื่อเรดได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้า ก่อนที่เธอจะลุกไปทำอาหาร เพราะโลกนี้ไม่มีเครื่องครัวที่สามารถเก็บอาหารคาวๆ ได้นาน ดังนั้นในครัวของบ้านส่วนใหญ่จึงเป็นพวกอาหารแห้งซะมากกว่า
แถมแปลงผักก็ตายไปด้วย ทำให้ในบ้านตอนนี้มีแค่อาหารแห้งที่ไปซื้อมาเมื่อวานเท่านั้น เรดเอาขนมปังไปทำให้นิ่มด้วยวิธีพิเศษ
ก่อนจะทำน้ำซุปที่ทำจากเนื้อแห้ง เธอพยายามจะทำทุกอย่างให้เป็นเมนูอาหารที่น่ากินให้ได้.. และเวลาก็ไหลผ่านไป
กว่าจะได้ทานอาหารเช้าเวลาก็เกือบเที่ยงไปแล้วเพราะที่นี่ไม่มีทั้งเตาแก๊สหรือเครื่องครัวต่างๆ ทำให้เรดต้องแก้ไขอะไรบางอย่างตามสภาพการณ์ที่มี
ยังไงก็ตามแต่อาหารที่เรดทำรสชาติไม่แย่ อยู่ในระดับที่พอทานได้เลยล่ะ อันที่จริงต้องบอกว่าค่อนข้างอร่อยเลย
“ลูกทำอาหารเก่งขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?”
“หนูแค่อ่านมาจากในหนังสือน่ะ..”
“อ่านจากในหนังสือเหรอ ทำไมแม่อ่านถึงได้รสชาติไม่เหมือนกับในหนังสือล่ะ”
“นั่นสิ.. หนูก็ไม่รู้หรอก”
แต่ก็นะ บางคนไม่มีพรสวรรค์อาจจะทำไม่ได้เลยจริงก็ได้ แบบว่าเทพแห่งอาหารไม่ถูกใจเลยเสกให้อาหารทุกรูปแบบที่เธอทำไม่อร่อยก็ได้มั้งนะ?
เรดคิดแบบนั้นอยู่ในใจคนเดียว เวลาไหลผ่านไปอีกครั้งหลังจากที่เธอทานข้าวเสร็จก็เป็นเวลาตอนเที่ยงแล้วนั่นเอง
“เดี๋ยวแม่รีบไปเตรียมของให้คุณยายก่อน”
“ค่ะ..”
แม่ของเธอจากไปไม่นานก่อนจะกลับมาพร้อมกับตะกร้าที่มีไวน์หนึ่งขวด ขนมปังสองอันและยังมีแอปเปิลอีกสามลูกในตะกร้าไม้ที่ถักทอมาอย่างประณีต
เธอเอาผ้าสีขาวมาปิดตะกร้าไว้เพื่อไม่ให้ของหล่นออกด้านข้าง มีเพียงขวดไวน์ที่เกินออกมาจากผ้าเพราะขวดมันค่อนข้างสูง
หลังจากเตรียมทุกอย่างเสร็จแม่ของเธอก็พูดกับเรดว่า
“เอาตะกร้านี้ไปส่งให้ถึงมือคุณยายนะ แล้วก็รีบไปรีบกลับ อย่าไปเที่ยวเล่น เถลไถลที่ไหนไกล อย่าพูดคุยกับคนแปลกหน้าด้วยล่ะ เข้าใจไหม? ”
“ค่ะ”
เรดที่ได้ยินคำนั้นก็คิ้วกระตุกเล็กน้อยแต่ก็ยังตอบไปว่า ‘ค่ะ’ อย่างเชื่อฟัง เพราะคำพูดคำนั้นมันเป็นสคริปต์เดียวกันกับบทที่คุณแม่หนูน้อยหมวกแดงพูดในนิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดงเลย
อย่างไรก็ตามเรดก็ได้รับตะกร้ามาแล้ว ตะกร้าไม่หนักมากสำหรับเธอ เธอเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับมีแม่ยืนส่งให้ด้านหลัง
“ไปดีมาดีนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
เรดตอบกลับไปแบบนั้น.. ส่วนทางที่จะไปบ้านคุณยายนั้นเป็นทางขวามือเพราะมีทางเดินที่ชัดเจนอยู่ ทำให้เรดที่ไม่รู้จักทางก็สามารถเดินไปถึงได้ แต่ทางก็ยังค่อนข้างไกลพอสมควร
เรดสูดลมหายใจเบาๆ กำลังจะตัดสินใจเดินไปโดยในหัวเธอได้วางแผนไว้ว่าจะทำยังไงแล้ว แต่สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นกองไม้ที่ผ่าแล้วซึ่งเอาไว้ใช้ก่อไฟกองอยู่หน้าบ้านเธอ
แต่ที่เธอโฟกัสไม่ใช่กองไม้ที่กองอยู่ แต่เป็นขวานที่วางอยู่ข้างๆ ต่างหาก.. เธอไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่มองไปทางในบ้าน
เมื่อไม่เห็นว่าแม่เธออยู่แถวนี้ เธอจึงตัดสินใจบางอย่างได้ทันที เรดเดินไปทางขวานก่อนจะวางตะกร้าลง
และหยิบเอาขวานขึ้นมายัดลงไว้ใต้ก้นตะกร้า ก่อนที่จะแอปเปิล ไวน์และขนมปังวางกลับที่เดิมและปิดผ้าเอาไว้
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็เตรียมไว้ด้วยจะดีกว่า”
เรดพึมพำแบบนั้นก่อนที่จะออกเดินไปพร้อมตะกร้าที่มีแอปเปิล ขนมปัง ไวน์…
และขวานหนึ่งเล่ม
หนูน้อยหมวกสีแดงได้ก้าวเท้าออกไปทางป่าด้วยตัวคนเดียว
ในป่าที่มีแต่เสียงนกเสียงกา สิ่งที่รอเธออยู่ในการเดินทางอันแสนสั้นตรงหน้านี้คืออะไรกันแน่..?
Comments
Pengaturan Membaca
The quick brown fox jumps over the lazy dog
Background :
Font :
Size :