Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง 8

Now you are reading Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง Chapter 8 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

R/C – 1-8

ผีเสื้อในเทพนิยาย

 

เรดเดินไปตามทางเท้าที่เป็นทางไปบ้านของคุณยาย ในขณะที่เธอเดินอยู่นั้นเองผีเสื้อตัวน้อยตัวหนึ่งก็บินผ่านมาเจอกับเรดพอดี

ผีเสื้อตัวนี้แปลกประหลาดอย่างมาก แม้จะมีรูปลักษณ์ที่เหมือนกับผีเสื้อในโลกเดิมของเรด แต่ลวดลายบนปีกทั้งสองข้างของมันกลับแต่งแต้มไปด้วยสีสันมากมายจนลายตา

มันดูเหมือนกับเป็นผีเสื้อที่หลุดออกมาจากในเทพนิยายเลยด้วยซ้ำ พอเรดเห็นผีเสื้อตัวน้อยนี้เธอก็ยกมือขึ้นไปทางผีเสื้อ

แล้วเจ้าผีเสื้อเองก็บินมาเกาะที่นิ้วมือของเธออย่างว่าง่าย

“สวยจัง…”

เธอพึมพำแบบนั้นพลางมองผีเสื้อ เมื่อมองไปที่ผีเสื้อตัวนี้เธอก็อดที่จะนึกถึงพี่สาวในโลกเดิมของเธอไม่ได้ พี่สาวของเธอเป็นคนที่ชอบสัตว์น้อยใหญ่เกือบทุกชนิดเลยก็ว่าได้

ขนาดแมลงสาบคนอื่นจะรู้สึกหยะแหยงก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่พี่สาวของเธอกลับไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้นเลย แม้จะไม่ได้ชอบแมลงสาบ แต่เธอก็ไม่ได้เกลียดมัน และไม่ว่าจะเป็นงูหรืออะไรก็ตามแต่ พี่สาวของเรดไม่เคยเกลียดเลย

และยิ่งเป็นสัตว์ที่มีลักษณะสวยๆ อย่างผีเสื้ออะไรแบบนี้เธอจะชอบมากเป็นพิเศษ

ซึ่งถ้าพี่สาวของเรดได้มาเห็นผีเสื้อหลากสีตัวนี้แล้ว

เธออาจจะดีใจจนเป็นลมเลยก็ได้ ผีเสื้อตัวนี้ไม่เพียงแต่จะมีสีสันที่สวยงามเท่านั้น เพราะตอนมันบินเหมือนจะปล่อยแสงระยิบระยับหลากสีออกมาจากปีกและทุกครั้งที่มันขยับปีกอีกด้วย

ยิ่งเรดมองเท่าไหร่เธอก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นผีเสื้อที่หลุดออกมาจากเทพนิยาย

แต่ที่น่าแปลกคือมันบินอยู่ตัวเดียว?

เรดเองก็ไม่มั่นใจว่าผีเสื้อปกติไปไหนมาไหนมันจะไปเป็นกลุ่มไหม ไม่สิ แทนที่จะบอกว่าพวกมันไปเป็นกลุ่ม

ต้องบอกว่าพวกมันมีเป้าหมายเดียวกันคือเกสรจากดอกไม้ เพราะงั้นเวลาเจอพวกมันก็จะเจอในที่ที่มีดอกไม้บานเยอะๆ และแน่นอนว่าที่แบบนั้นมันจะดึงดูดผีเสื้อหลายๆ ตัวมาด้วยนั่นเอง

ดังนั้นจึงดูเหมือนว่ามันไปกันเป็นกลุ่มละมั้ง.. แน่นอนนี่เป็นแค่สิ่งที่เรดคิดเท่านั้นละนะ

แต่ถ้าหากสิ่งที่เรดคิดนั้นเป็นความจริง เธอก็เกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่าแถวนี้ไม่มีดอกไม้เลยนะนอกจากป่าทึบ.. ทำไมผีเสื้อตัวน้อยถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ

เรดหันไปมองป่าทึบด้านข้าง ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้สูงรูปร่างประหลาดมากมาย เธอค่อนข้างมั่นใจว่าป่าแถวนี้ไม่น่าจะมีสวนดอกไม้เกิดขึ้นมาแน่ๆ.. เพราะสถานที่แห่งนี้มีแต่ป่าหนาทึบอับแสง

แต่ในนิทานก็มีสวนดอกไม้อยู่นี่น่า.. หรือที่นี่ก็จะมีเหมือนกัน?

ในขณะที่เรดกำลังคิดอยู่นั้นเอง..

“สวัสดี หนูน้อยหมวกแดง เธอกำลังจะไปไหนงั้นเหรอ?”

เสียงลึกลับและค่อนข้างแหลมและบาดหูก็ดังขึ้นทำให้เรดหันไปด้านหน้าซึ่งเป็นทิศทางที่มีเสียงดังขึ้นด้วยความงุนงง เพราะด้านหน้าไม่มีใครยืนอยู่เลยสักคน แล้วเสียงมาจากไหนละ?

เธอมั่นใจว่าเสียงเมื่อกี้ดังขึ้นมาจากด้านหน้าเธอแน่ๆ ในขณะที่เธอกำลังสับสนนั้นเอง เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“มีอะไรเหรอ?เธอหาอะไรเหรอ?”

เมื่อเสียงนี้ดังขึ้นอีกรอบสายตาเรดที่หันไปด้านหน้าก็หันลงไปหาผีเสื้อที่อยู่บนฝ่ามือของเธอเอง.. เมื่อกี้เสียงพึ่งดังออกมาจากทางที่มีผีเสื้ออยู่

เรดลังเลเล็กน้อย เธอไม่อยากจะเปิดปากถามว่า ‘เมื่อกี้เธอเป็นคนพูดใช่ไหม’ เท่าไหร่เพราะหากไม่ใช่ผีเสื้อขึ้นมา จะกลายเป็นว่าเธอดูเหมือนคนบ้าเพราะที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนแต่เป็นผีเสื้อ

แล้วผีเสื้อจะพูดได้ยังไงล่ะ?

ทว่าเรดก็มองย้อนกลับไปตั้งแต่ที่ตื่นขึ้นมาในโลกใบนี้ ตลอดหนึ่งวันครึ่งที่ผ่านมานั้นมีอะไรที่เหนือธรรมชาติเกิดขึ้นบ้าง ไม่ว่าจะเป็นแม่มด บันทึกนภา สัตว์แปลกประหลาด เวทมนตร์

เมื่อเธอนึกถึงความหลุดโลกและแฟนตาซีเหล่านั้นขึ้นมาได้ เธอก็ค่อยๆ พูดขึ้นด้วยความสงสัย

“เธอ…พูดได้เหรอ ?”

“แน่นอนสิ ฉันคือผีเสื้อที่แสนใจดียังไงล่ะ”

ผีเสื้อตัวนั้นตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสดใสและเป็นมิตร คิ้วของเรดกระตุกแทบจะทันที การที่ผีเสื้อใจดีจะทำให้ผีเสื้อพูดขึ้นมาได้หรือไง อีกอย่างคนที่ใจดีเขาไม่บอกว่าตัวเองใจดีหรอกนะ

นี่เป็นประสบการณ์ที่เรดเรียนรู้ด้วยตัวเอง หากเป็นเรดคนเดิมที่ยังเป็นเด็กอาจจะหลงเชื่อคำพูดนั้นจากปากของผีเสื้อวิเศษที่แสนสวยงาม แต่เธอในตอนนี้คือคนที่มีอายุเกือบสามสิบมาอยู่ในร่างเด็ก

ไม่มีทางที่จะถูกหลอกด้วยคำพูดแบบนั้นหรอก.. อันที่จริงสำหรับเรดแล้วอะไรที่สวยงามจะยิ่งเป็นอันตรายมากกว่าสิ่งที่ดูอันตรายด้วยซ้ำ

แต่แน่นอนว่าเรดไม่ได้คิดจะพูดขัดใจอะไรคุณผีเสื้อในเทพนิยายแต่อย่างใด

พอเห็นเรดมีท่าทางที่ครุ่นคิดคุณผีเสื้อก็ถามอีกรอบ

“ว่าแต่เธอจะไปไหนงั้นเหรอ หนูน้อยหมวกแดง”

และเมื่อเรดได้ยินคำถามนั้นเธอก็ประหลาดใจเล็กน้อย พอมาถึงตอนนี้ใช่ว่าเธอจะเดาทางไม่ออก เธอพอเดาออกแล้วว่าผีเสื้อพูดได้ตรงหน้าคืออะไร

อย่างที่รู้จักกันดีว่านิทานหนูน้อยหมวกแดงนั้นมีหลายเวอร์ชันที่ถูกเล่าเสริมเติมแต่งตามยุคตามสมัย

หรือแม้แต่ดัดแปลงเพื่อให้มีความหนักหน่วงและโหดร้ายที่ลดลงมาจากสมัยก่อน ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้นิทานเรื่องนี้มีหลายแบบมากๆ

และหนึ่งในนั้นมีเวอร์ชันหนึ่งที่มีผีเสื้อพูดได้โผล่ออกมา ซึ่งเวอร์ชันนี้เป็นหนึ่งเวอร์ชันที่เรดจำได้ดีที่สุด

เพราะว่าเป็นเวอร์ชันที่เหมาะจะเล่าให้เด็กฟังนั่นเอง และแน่นอนว่าตัวเรดก็เล่ามันให้เด็กๆ ในโรงเรียนอนุบาลฟังอยู่บ่อยครั้ง จึงเป็นหนึ่งในเวอร์ชันที่เธอจำได้แม่นที่สุด

เวอร์ชันนี้เรื่องราวจะเริ่มต้นเมื่อหนูน้อยหมวกแดงออกจากบ้านมาจะเจอคุณผีเสื้อชักจูงให้ไปยังสวนดอกไม้ที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อเอาดอกไม้ไปให้คุณยายและได้คุยกับพวกสัตว์ต่างๆ

จนเจ้าหมาป่าก็บังเอิญได้ยินเลยไปดักรอกินหนูน้อยหมวกแดงที่บ้านของคุณยาย แต่โชคร้ายที่คุณยายไหวตัวทัน รีบไปพานายพรานมาจัดการหมาป่าก่อนที่หนูน้อยหมวกแดงจะได้รับบาดเจ็บ

แต่เรดยังไม่แน่ใจว่าใช่จริงหรือเปล่า เพราะอาจจะแค่เป็นเรื่องบังเอิญที่โลกนี้ดันมีผีเสื้อพูดได้อยู่จริงๆ ก็ได้

จากประสบการณ์บทพูดของคุณแม่ที่ตรงตามสคริปต์ในนิทานเลย เรดเลยตอบหยั่งเชิงออกไปว่า..

“ฉันจะเอาอาหารไปให้คุณยายที่ป่วยติดเตียงอยู่น่ะ”

เมื่อตอบออกไปแบบนั้นเธอก็รอคำตอบจากผีเสื้อ หากโลกแห่งหนูน้อยหมวกแดงที่เธออยู่เป็นโลกที่มาจากนิทานหนูน้อยหมวกแดงเวอร์ชันสำหรับเด็กนี้จริงๆ

บทพูดของพี่เสื้อจะต้องเป็น…

ในขณะที่เรดกำลังคิดบทพูดที่ปรากฏในนิทานหนูน้อยหมวกแดงนั้นเอง เสียงของผีเสื้อน้อยก็ดังขึ้นตรงกับบทพูดในนิทานที่เรดเคยอ่าน

“โอ้.. ถ้าอย่างงั้นเธอควรจะเก็บดอกไม้สวยๆ ไปฝากคุณยายที่ไปไหนมาไหนไม่ได้ด้วยนะ เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปที่ทุ่งดอกไม้สวยๆ เอง”

เมื่อได้ยินแบบนั้นเรดก็ยิ้มออกมาจนแทบหุบไม่อยู่ ความรู้สึกหนักอึ้งที่ติดอยู่ในออกมาตลอดทั้งคืนก็หายไป

ยังดี.. ที่โลกนี้ไม่ใช่เวอร์ชันโหดร้ายของพี่น้องกริมม์.. ไม่อย่างนั้นชะตากรรมของเธออาจจะต้องเจออะไรที่โหดร้ายมากๆ แน่

แต่ถ้าเป็นเวอร์ชันสำหรับเด็กที่ไม่รุนแรงแบบนี้ละก็.. เธอก็ค่อยหายใจโล่งหน่อย แค่นึกว่าถ้าเป็นเวอร์ชันพี่น้องกริมม์หรือต้นฉบับขึ้นมาแล้ว…

เรดก็จำต้องปาดเหงื่ออย่างช่วยไม่ได้

ถ้าจะต้องโดนข่มขืนก่อนโดนกัดคอจนตายนี่ไม่ตลกเลยนะ.. ใช่แล้ว ที่เรดต้องยืนยันว่านี่เป็นเวอร์ชันสำหรับเด็กจริงไหมเพื่อที่จะให้ตัวเองได้หายใจคล่อง.. เธอจะได้ไม่ต้องกังวลอะไรมาก

เมื่อเห็นท่าทางดีใจของหนูน้อยหมวกแดง ผีเสื้อตัวน้อยก็เข้าใจว่าหนูน้อยหมวกแดงอยากไปสวนดอกไม้จึงรีบพูดขึ้น

“เธอจะไปงั้นสินะ ตามฉันมาเลย!”

ผีเสื้อตัวน้อยดูตื่นเต้นมาก แต่ทว่าเรดกลับส่ายหน้าตอบ

“ไม่เอาล่ะ คุณแม่บอกว่าไม่ควรออกนอกลู่นอกทาง.. ฉันก็ไม่ควรออกนอกลู่นอกทางตามที่คุณแม่บอก”

ผีเสื้อที่ได้ยินแบบนั้นก็หยุดชะงัก ก่อนจะบินมาเกาะที่หัวของหนูน้อยหมวกแดงด้วยท่าทางที่รู้สึกชื่นชม

ใช่แล้ว.. แผนรับมือที่เรดคิดมาคือ.. เพื่อที่จะหลบหลีกจากการเจอกับหมาป่าเธอจะต้องไม่ไปเจอหมาป่าตั้งแต่แรกนั่นเอง

เพราะนิทานหนูน้อยหมวกแดงจะสอนให้รู้ว่าไม่ควรออกนอกลู่นอกทางและเชื่อฟังคำพูดของผู้ใหญ่ ดังนั้นหากหนูน้อยหมวกแดงไม่ออกนอกลู่นอกทางก็จะไม่ได้เจอกับหมาป่า ดังนั้นเธอก็จะไม่พาหมาป่าไปบ้านคุณยายจนเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น..

และต่อให้รู้ว่านี่จะเป็นเวอร์ชันที่ไม่มีใครต้องเจ็บปวดจากเจ้าหมาป่าเลยก็ตาม

ทว่าเรดไม่ใช่เด็กๆ ที่คิดว่าทุกอย่างจะกลายเป็นตามนิทานเสมอไป กล่าวคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้อาจจะไม่ได้ง่ายเหมือนในนิทานนั่นเอง

ดังนั้นเธอจึงต้องหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้.. และถ้าหากหมาป่ายังโผล่มาอีกในบ้านของคุณยาย

เธอจะเอาขวานที่พกมาด้วยชิงฟันใส่มันก่อนที่มันจะทันตั้งตัว.. เพราะถ้าหมาป่าปลอมตัวเป็นคุณยาย ยังไงซะเรดก็ต้องดูออกอยู่แล้วล่ะ

เพราะเธอไม่ใช่หนูน้อยหมวกแดงที่ใสซื่อตัวจริงสักหน่อย!

นี่แหละคือแผนรับมือเพื่อที่จะหลุดออกจากโอกาสที่จะโดนหมาป่าทารุณกรรมของเรด

“ฉันก็เข้าใจอยู่หรอกนะว่า.. เชื่อฟังคำพูดของผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าอยากให้คุณยายดีใจเธอก็ต้องยอมอ่อนข้อให้บ้างไม่ดีกว่าเหรอ?”

แม้ผีเสื้อจะประทับใจ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะล่อลวงให้หนูน้อยหมวกแดงออกนอกลู่นอกทางอีกรอบ แต่เรดก็ยังปฏิเสธ

“ไม่ได้หรอก.. วันนี้ฉันออกจากบ้านช้าต้องรีบไปรีบกลับก่อนจะค่ำน่ะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง 8

Now you are reading Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง Chapter 8 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

R/C – 1-8

ผีเสื้อในเทพนิยาย

 

เรดเดินไปตามทางเท้าที่เป็นทางไปบ้านของคุณยาย ในขณะที่เธอเดินอยู่นั้นเองผีเสื้อตัวน้อยตัวหนึ่งก็บินผ่านมาเจอกับเรดพอดี

ผีเสื้อตัวนี้แปลกประหลาดอย่างมาก แม้จะมีรูปลักษณ์ที่เหมือนกับผีเสื้อในโลกเดิมของเรด แต่ลวดลายบนปีกทั้งสองข้างของมันกลับแต่งแต้มไปด้วยสีสันมากมายจนลายตา

มันดูเหมือนกับเป็นผีเสื้อที่หลุดออกมาจากในเทพนิยายเลยด้วยซ้ำ พอเรดเห็นผีเสื้อตัวน้อยนี้เธอก็ยกมือขึ้นไปทางผีเสื้อ

แล้วเจ้าผีเสื้อเองก็บินมาเกาะที่นิ้วมือของเธออย่างว่าง่าย

“สวยจัง…”

เธอพึมพำแบบนั้นพลางมองผีเสื้อ เมื่อมองไปที่ผีเสื้อตัวนี้เธอก็อดที่จะนึกถึงพี่สาวในโลกเดิมของเธอไม่ได้ พี่สาวของเธอเป็นคนที่ชอบสัตว์น้อยใหญ่เกือบทุกชนิดเลยก็ว่าได้

ขนาดแมลงสาบคนอื่นจะรู้สึกหยะแหยงก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่พี่สาวของเธอกลับไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้นเลย แม้จะไม่ได้ชอบแมลงสาบ แต่เธอก็ไม่ได้เกลียดมัน และไม่ว่าจะเป็นงูหรืออะไรก็ตามแต่ พี่สาวของเรดไม่เคยเกลียดเลย

และยิ่งเป็นสัตว์ที่มีลักษณะสวยๆ อย่างผีเสื้ออะไรแบบนี้เธอจะชอบมากเป็นพิเศษ

ซึ่งถ้าพี่สาวของเรดได้มาเห็นผีเสื้อหลากสีตัวนี้แล้ว

เธออาจจะดีใจจนเป็นลมเลยก็ได้ ผีเสื้อตัวนี้ไม่เพียงแต่จะมีสีสันที่สวยงามเท่านั้น เพราะตอนมันบินเหมือนจะปล่อยแสงระยิบระยับหลากสีออกมาจากปีกและทุกครั้งที่มันขยับปีกอีกด้วย

ยิ่งเรดมองเท่าไหร่เธอก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นผีเสื้อที่หลุดออกมาจากเทพนิยาย

แต่ที่น่าแปลกคือมันบินอยู่ตัวเดียว?

เรดเองก็ไม่มั่นใจว่าผีเสื้อปกติไปไหนมาไหนมันจะไปเป็นกลุ่มไหม ไม่สิ แทนที่จะบอกว่าพวกมันไปเป็นกลุ่ม

ต้องบอกว่าพวกมันมีเป้าหมายเดียวกันคือเกสรจากดอกไม้ เพราะงั้นเวลาเจอพวกมันก็จะเจอในที่ที่มีดอกไม้บานเยอะๆ และแน่นอนว่าที่แบบนั้นมันจะดึงดูดผีเสื้อหลายๆ ตัวมาด้วยนั่นเอง

ดังนั้นจึงดูเหมือนว่ามันไปกันเป็นกลุ่มละมั้ง.. แน่นอนนี่เป็นแค่สิ่งที่เรดคิดเท่านั้นละนะ

แต่ถ้าหากสิ่งที่เรดคิดนั้นเป็นความจริง เธอก็เกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่าแถวนี้ไม่มีดอกไม้เลยนะนอกจากป่าทึบ.. ทำไมผีเสื้อตัวน้อยถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ

เรดหันไปมองป่าทึบด้านข้าง ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้สูงรูปร่างประหลาดมากมาย เธอค่อนข้างมั่นใจว่าป่าแถวนี้ไม่น่าจะมีสวนดอกไม้เกิดขึ้นมาแน่ๆ.. เพราะสถานที่แห่งนี้มีแต่ป่าหนาทึบอับแสง

แต่ในนิทานก็มีสวนดอกไม้อยู่นี่น่า.. หรือที่นี่ก็จะมีเหมือนกัน?

ในขณะที่เรดกำลังคิดอยู่นั้นเอง..

“สวัสดี หนูน้อยหมวกแดง เธอกำลังจะไปไหนงั้นเหรอ?”

เสียงลึกลับและค่อนข้างแหลมและบาดหูก็ดังขึ้นทำให้เรดหันไปด้านหน้าซึ่งเป็นทิศทางที่มีเสียงดังขึ้นด้วยความงุนงง เพราะด้านหน้าไม่มีใครยืนอยู่เลยสักคน แล้วเสียงมาจากไหนละ?

เธอมั่นใจว่าเสียงเมื่อกี้ดังขึ้นมาจากด้านหน้าเธอแน่ๆ ในขณะที่เธอกำลังสับสนนั้นเอง เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“มีอะไรเหรอ?เธอหาอะไรเหรอ?”

เมื่อเสียงนี้ดังขึ้นอีกรอบสายตาเรดที่หันไปด้านหน้าก็หันลงไปหาผีเสื้อที่อยู่บนฝ่ามือของเธอเอง.. เมื่อกี้เสียงพึ่งดังออกมาจากทางที่มีผีเสื้ออยู่

เรดลังเลเล็กน้อย เธอไม่อยากจะเปิดปากถามว่า ‘เมื่อกี้เธอเป็นคนพูดใช่ไหม’ เท่าไหร่เพราะหากไม่ใช่ผีเสื้อขึ้นมา จะกลายเป็นว่าเธอดูเหมือนคนบ้าเพราะที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนแต่เป็นผีเสื้อ

แล้วผีเสื้อจะพูดได้ยังไงล่ะ?

ทว่าเรดก็มองย้อนกลับไปตั้งแต่ที่ตื่นขึ้นมาในโลกใบนี้ ตลอดหนึ่งวันครึ่งที่ผ่านมานั้นมีอะไรที่เหนือธรรมชาติเกิดขึ้นบ้าง ไม่ว่าจะเป็นแม่มด บันทึกนภา สัตว์แปลกประหลาด เวทมนตร์

เมื่อเธอนึกถึงความหลุดโลกและแฟนตาซีเหล่านั้นขึ้นมาได้ เธอก็ค่อยๆ พูดขึ้นด้วยความสงสัย

“เธอ…พูดได้เหรอ ?”

“แน่นอนสิ ฉันคือผีเสื้อที่แสนใจดียังไงล่ะ”

ผีเสื้อตัวนั้นตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสดใสและเป็นมิตร คิ้วของเรดกระตุกแทบจะทันที การที่ผีเสื้อใจดีจะทำให้ผีเสื้อพูดขึ้นมาได้หรือไง อีกอย่างคนที่ใจดีเขาไม่บอกว่าตัวเองใจดีหรอกนะ

นี่เป็นประสบการณ์ที่เรดเรียนรู้ด้วยตัวเอง หากเป็นเรดคนเดิมที่ยังเป็นเด็กอาจจะหลงเชื่อคำพูดนั้นจากปากของผีเสื้อวิเศษที่แสนสวยงาม แต่เธอในตอนนี้คือคนที่มีอายุเกือบสามสิบมาอยู่ในร่างเด็ก

ไม่มีทางที่จะถูกหลอกด้วยคำพูดแบบนั้นหรอก.. อันที่จริงสำหรับเรดแล้วอะไรที่สวยงามจะยิ่งเป็นอันตรายมากกว่าสิ่งที่ดูอันตรายด้วยซ้ำ

แต่แน่นอนว่าเรดไม่ได้คิดจะพูดขัดใจอะไรคุณผีเสื้อในเทพนิยายแต่อย่างใด

พอเห็นเรดมีท่าทางที่ครุ่นคิดคุณผีเสื้อก็ถามอีกรอบ

“ว่าแต่เธอจะไปไหนงั้นเหรอ หนูน้อยหมวกแดง”

และเมื่อเรดได้ยินคำถามนั้นเธอก็ประหลาดใจเล็กน้อย พอมาถึงตอนนี้ใช่ว่าเธอจะเดาทางไม่ออก เธอพอเดาออกแล้วว่าผีเสื้อพูดได้ตรงหน้าคืออะไร

อย่างที่รู้จักกันดีว่านิทานหนูน้อยหมวกแดงนั้นมีหลายเวอร์ชันที่ถูกเล่าเสริมเติมแต่งตามยุคตามสมัย

หรือแม้แต่ดัดแปลงเพื่อให้มีความหนักหน่วงและโหดร้ายที่ลดลงมาจากสมัยก่อน ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้นิทานเรื่องนี้มีหลายแบบมากๆ

และหนึ่งในนั้นมีเวอร์ชันหนึ่งที่มีผีเสื้อพูดได้โผล่ออกมา ซึ่งเวอร์ชันนี้เป็นหนึ่งเวอร์ชันที่เรดจำได้ดีที่สุด

เพราะว่าเป็นเวอร์ชันที่เหมาะจะเล่าให้เด็กฟังนั่นเอง และแน่นอนว่าตัวเรดก็เล่ามันให้เด็กๆ ในโรงเรียนอนุบาลฟังอยู่บ่อยครั้ง จึงเป็นหนึ่งในเวอร์ชันที่เธอจำได้แม่นที่สุด

เวอร์ชันนี้เรื่องราวจะเริ่มต้นเมื่อหนูน้อยหมวกแดงออกจากบ้านมาจะเจอคุณผีเสื้อชักจูงให้ไปยังสวนดอกไม้ที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อเอาดอกไม้ไปให้คุณยายและได้คุยกับพวกสัตว์ต่างๆ

จนเจ้าหมาป่าก็บังเอิญได้ยินเลยไปดักรอกินหนูน้อยหมวกแดงที่บ้านของคุณยาย แต่โชคร้ายที่คุณยายไหวตัวทัน รีบไปพานายพรานมาจัดการหมาป่าก่อนที่หนูน้อยหมวกแดงจะได้รับบาดเจ็บ

แต่เรดยังไม่แน่ใจว่าใช่จริงหรือเปล่า เพราะอาจจะแค่เป็นเรื่องบังเอิญที่โลกนี้ดันมีผีเสื้อพูดได้อยู่จริงๆ ก็ได้

จากประสบการณ์บทพูดของคุณแม่ที่ตรงตามสคริปต์ในนิทานเลย เรดเลยตอบหยั่งเชิงออกไปว่า..

“ฉันจะเอาอาหารไปให้คุณยายที่ป่วยติดเตียงอยู่น่ะ”

เมื่อตอบออกไปแบบนั้นเธอก็รอคำตอบจากผีเสื้อ หากโลกแห่งหนูน้อยหมวกแดงที่เธออยู่เป็นโลกที่มาจากนิทานหนูน้อยหมวกแดงเวอร์ชันสำหรับเด็กนี้จริงๆ

บทพูดของพี่เสื้อจะต้องเป็น…

ในขณะที่เรดกำลังคิดบทพูดที่ปรากฏในนิทานหนูน้อยหมวกแดงนั้นเอง เสียงของผีเสื้อน้อยก็ดังขึ้นตรงกับบทพูดในนิทานที่เรดเคยอ่าน

“โอ้.. ถ้าอย่างงั้นเธอควรจะเก็บดอกไม้สวยๆ ไปฝากคุณยายที่ไปไหนมาไหนไม่ได้ด้วยนะ เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปที่ทุ่งดอกไม้สวยๆ เอง”

เมื่อได้ยินแบบนั้นเรดก็ยิ้มออกมาจนแทบหุบไม่อยู่ ความรู้สึกหนักอึ้งที่ติดอยู่ในออกมาตลอดทั้งคืนก็หายไป

ยังดี.. ที่โลกนี้ไม่ใช่เวอร์ชันโหดร้ายของพี่น้องกริมม์.. ไม่อย่างนั้นชะตากรรมของเธออาจจะต้องเจออะไรที่โหดร้ายมากๆ แน่

แต่ถ้าเป็นเวอร์ชันสำหรับเด็กที่ไม่รุนแรงแบบนี้ละก็.. เธอก็ค่อยหายใจโล่งหน่อย แค่นึกว่าถ้าเป็นเวอร์ชันพี่น้องกริมม์หรือต้นฉบับขึ้นมาแล้ว…

เรดก็จำต้องปาดเหงื่ออย่างช่วยไม่ได้

ถ้าจะต้องโดนข่มขืนก่อนโดนกัดคอจนตายนี่ไม่ตลกเลยนะ.. ใช่แล้ว ที่เรดต้องยืนยันว่านี่เป็นเวอร์ชันสำหรับเด็กจริงไหมเพื่อที่จะให้ตัวเองได้หายใจคล่อง.. เธอจะได้ไม่ต้องกังวลอะไรมาก

เมื่อเห็นท่าทางดีใจของหนูน้อยหมวกแดง ผีเสื้อตัวน้อยก็เข้าใจว่าหนูน้อยหมวกแดงอยากไปสวนดอกไม้จึงรีบพูดขึ้น

“เธอจะไปงั้นสินะ ตามฉันมาเลย!”

ผีเสื้อตัวน้อยดูตื่นเต้นมาก แต่ทว่าเรดกลับส่ายหน้าตอบ

“ไม่เอาล่ะ คุณแม่บอกว่าไม่ควรออกนอกลู่นอกทาง.. ฉันก็ไม่ควรออกนอกลู่นอกทางตามที่คุณแม่บอก”

ผีเสื้อที่ได้ยินแบบนั้นก็หยุดชะงัก ก่อนจะบินมาเกาะที่หัวของหนูน้อยหมวกแดงด้วยท่าทางที่รู้สึกชื่นชม

ใช่แล้ว.. แผนรับมือที่เรดคิดมาคือ.. เพื่อที่จะหลบหลีกจากการเจอกับหมาป่าเธอจะต้องไม่ไปเจอหมาป่าตั้งแต่แรกนั่นเอง

เพราะนิทานหนูน้อยหมวกแดงจะสอนให้รู้ว่าไม่ควรออกนอกลู่นอกทางและเชื่อฟังคำพูดของผู้ใหญ่ ดังนั้นหากหนูน้อยหมวกแดงไม่ออกนอกลู่นอกทางก็จะไม่ได้เจอกับหมาป่า ดังนั้นเธอก็จะไม่พาหมาป่าไปบ้านคุณยายจนเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น..

และต่อให้รู้ว่านี่จะเป็นเวอร์ชันที่ไม่มีใครต้องเจ็บปวดจากเจ้าหมาป่าเลยก็ตาม

ทว่าเรดไม่ใช่เด็กๆ ที่คิดว่าทุกอย่างจะกลายเป็นตามนิทานเสมอไป กล่าวคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้อาจจะไม่ได้ง่ายเหมือนในนิทานนั่นเอง

ดังนั้นเธอจึงต้องหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้.. และถ้าหากหมาป่ายังโผล่มาอีกในบ้านของคุณยาย

เธอจะเอาขวานที่พกมาด้วยชิงฟันใส่มันก่อนที่มันจะทันตั้งตัว.. เพราะถ้าหมาป่าปลอมตัวเป็นคุณยาย ยังไงซะเรดก็ต้องดูออกอยู่แล้วล่ะ

เพราะเธอไม่ใช่หนูน้อยหมวกแดงที่ใสซื่อตัวจริงสักหน่อย!

นี่แหละคือแผนรับมือเพื่อที่จะหลุดออกจากโอกาสที่จะโดนหมาป่าทารุณกรรมของเรด

“ฉันก็เข้าใจอยู่หรอกนะว่า.. เชื่อฟังคำพูดของผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าอยากให้คุณยายดีใจเธอก็ต้องยอมอ่อนข้อให้บ้างไม่ดีกว่าเหรอ?”

แม้ผีเสื้อจะประทับใจ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะล่อลวงให้หนูน้อยหมวกแดงออกนอกลู่นอกทางอีกรอบ แต่เรดก็ยังปฏิเสธ

“ไม่ได้หรอก.. วันนี้ฉันออกจากบ้านช้าต้องรีบไปรีบกลับก่อนจะค่ำน่ะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง 8

Now you are reading Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง Chapter 8 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

R/C – 1-8

ผีเสื้อในเทพนิยาย

 

เรดเดินไปตามทางเท้าที่เป็นทางไปบ้านของคุณยาย ในขณะที่เธอเดินอยู่นั้นเองผีเสื้อตัวน้อยตัวหนึ่งก็บินผ่านมาเจอกับเรดพอดี

ผีเสื้อตัวนี้แปลกประหลาดอย่างมาก แม้จะมีรูปลักษณ์ที่เหมือนกับผีเสื้อในโลกเดิมของเรด แต่ลวดลายบนปีกทั้งสองข้างของมันกลับแต่งแต้มไปด้วยสีสันมากมายจนลายตา

มันดูเหมือนกับเป็นผีเสื้อที่หลุดออกมาจากในเทพนิยายเลยด้วยซ้ำ พอเรดเห็นผีเสื้อตัวน้อยนี้เธอก็ยกมือขึ้นไปทางผีเสื้อ

แล้วเจ้าผีเสื้อเองก็บินมาเกาะที่นิ้วมือของเธออย่างว่าง่าย

“สวยจัง…”

เธอพึมพำแบบนั้นพลางมองผีเสื้อ เมื่อมองไปที่ผีเสื้อตัวนี้เธอก็อดที่จะนึกถึงพี่สาวในโลกเดิมของเธอไม่ได้ พี่สาวของเธอเป็นคนที่ชอบสัตว์น้อยใหญ่เกือบทุกชนิดเลยก็ว่าได้

ขนาดแมลงสาบคนอื่นจะรู้สึกหยะแหยงก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่พี่สาวของเธอกลับไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้นเลย แม้จะไม่ได้ชอบแมลงสาบ แต่เธอก็ไม่ได้เกลียดมัน และไม่ว่าจะเป็นงูหรืออะไรก็ตามแต่ พี่สาวของเรดไม่เคยเกลียดเลย

และยิ่งเป็นสัตว์ที่มีลักษณะสวยๆ อย่างผีเสื้ออะไรแบบนี้เธอจะชอบมากเป็นพิเศษ

ซึ่งถ้าพี่สาวของเรดได้มาเห็นผีเสื้อหลากสีตัวนี้แล้ว

เธออาจจะดีใจจนเป็นลมเลยก็ได้ ผีเสื้อตัวนี้ไม่เพียงแต่จะมีสีสันที่สวยงามเท่านั้น เพราะตอนมันบินเหมือนจะปล่อยแสงระยิบระยับหลากสีออกมาจากปีกและทุกครั้งที่มันขยับปีกอีกด้วย

ยิ่งเรดมองเท่าไหร่เธอก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นผีเสื้อที่หลุดออกมาจากเทพนิยาย

แต่ที่น่าแปลกคือมันบินอยู่ตัวเดียว?

เรดเองก็ไม่มั่นใจว่าผีเสื้อปกติไปไหนมาไหนมันจะไปเป็นกลุ่มไหม ไม่สิ แทนที่จะบอกว่าพวกมันไปเป็นกลุ่ม

ต้องบอกว่าพวกมันมีเป้าหมายเดียวกันคือเกสรจากดอกไม้ เพราะงั้นเวลาเจอพวกมันก็จะเจอในที่ที่มีดอกไม้บานเยอะๆ และแน่นอนว่าที่แบบนั้นมันจะดึงดูดผีเสื้อหลายๆ ตัวมาด้วยนั่นเอง

ดังนั้นจึงดูเหมือนว่ามันไปกันเป็นกลุ่มละมั้ง.. แน่นอนนี่เป็นแค่สิ่งที่เรดคิดเท่านั้นละนะ

แต่ถ้าหากสิ่งที่เรดคิดนั้นเป็นความจริง เธอก็เกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่าแถวนี้ไม่มีดอกไม้เลยนะนอกจากป่าทึบ.. ทำไมผีเสื้อตัวน้อยถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ

เรดหันไปมองป่าทึบด้านข้าง ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้สูงรูปร่างประหลาดมากมาย เธอค่อนข้างมั่นใจว่าป่าแถวนี้ไม่น่าจะมีสวนดอกไม้เกิดขึ้นมาแน่ๆ.. เพราะสถานที่แห่งนี้มีแต่ป่าหนาทึบอับแสง

แต่ในนิทานก็มีสวนดอกไม้อยู่นี่น่า.. หรือที่นี่ก็จะมีเหมือนกัน?

ในขณะที่เรดกำลังคิดอยู่นั้นเอง..

“สวัสดี หนูน้อยหมวกแดง เธอกำลังจะไปไหนงั้นเหรอ?”

เสียงลึกลับและค่อนข้างแหลมและบาดหูก็ดังขึ้นทำให้เรดหันไปด้านหน้าซึ่งเป็นทิศทางที่มีเสียงดังขึ้นด้วยความงุนงง เพราะด้านหน้าไม่มีใครยืนอยู่เลยสักคน แล้วเสียงมาจากไหนละ?

เธอมั่นใจว่าเสียงเมื่อกี้ดังขึ้นมาจากด้านหน้าเธอแน่ๆ ในขณะที่เธอกำลังสับสนนั้นเอง เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“มีอะไรเหรอ?เธอหาอะไรเหรอ?”

เมื่อเสียงนี้ดังขึ้นอีกรอบสายตาเรดที่หันไปด้านหน้าก็หันลงไปหาผีเสื้อที่อยู่บนฝ่ามือของเธอเอง.. เมื่อกี้เสียงพึ่งดังออกมาจากทางที่มีผีเสื้ออยู่

เรดลังเลเล็กน้อย เธอไม่อยากจะเปิดปากถามว่า ‘เมื่อกี้เธอเป็นคนพูดใช่ไหม’ เท่าไหร่เพราะหากไม่ใช่ผีเสื้อขึ้นมา จะกลายเป็นว่าเธอดูเหมือนคนบ้าเพราะที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนแต่เป็นผีเสื้อ

แล้วผีเสื้อจะพูดได้ยังไงล่ะ?

ทว่าเรดก็มองย้อนกลับไปตั้งแต่ที่ตื่นขึ้นมาในโลกใบนี้ ตลอดหนึ่งวันครึ่งที่ผ่านมานั้นมีอะไรที่เหนือธรรมชาติเกิดขึ้นบ้าง ไม่ว่าจะเป็นแม่มด บันทึกนภา สัตว์แปลกประหลาด เวทมนตร์

เมื่อเธอนึกถึงความหลุดโลกและแฟนตาซีเหล่านั้นขึ้นมาได้ เธอก็ค่อยๆ พูดขึ้นด้วยความสงสัย

“เธอ…พูดได้เหรอ ?”

“แน่นอนสิ ฉันคือผีเสื้อที่แสนใจดียังไงล่ะ”

ผีเสื้อตัวนั้นตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสดใสและเป็นมิตร คิ้วของเรดกระตุกแทบจะทันที การที่ผีเสื้อใจดีจะทำให้ผีเสื้อพูดขึ้นมาได้หรือไง อีกอย่างคนที่ใจดีเขาไม่บอกว่าตัวเองใจดีหรอกนะ

นี่เป็นประสบการณ์ที่เรดเรียนรู้ด้วยตัวเอง หากเป็นเรดคนเดิมที่ยังเป็นเด็กอาจจะหลงเชื่อคำพูดนั้นจากปากของผีเสื้อวิเศษที่แสนสวยงาม แต่เธอในตอนนี้คือคนที่มีอายุเกือบสามสิบมาอยู่ในร่างเด็ก

ไม่มีทางที่จะถูกหลอกด้วยคำพูดแบบนั้นหรอก.. อันที่จริงสำหรับเรดแล้วอะไรที่สวยงามจะยิ่งเป็นอันตรายมากกว่าสิ่งที่ดูอันตรายด้วยซ้ำ

แต่แน่นอนว่าเรดไม่ได้คิดจะพูดขัดใจอะไรคุณผีเสื้อในเทพนิยายแต่อย่างใด

พอเห็นเรดมีท่าทางที่ครุ่นคิดคุณผีเสื้อก็ถามอีกรอบ

“ว่าแต่เธอจะไปไหนงั้นเหรอ หนูน้อยหมวกแดง”

และเมื่อเรดได้ยินคำถามนั้นเธอก็ประหลาดใจเล็กน้อย พอมาถึงตอนนี้ใช่ว่าเธอจะเดาทางไม่ออก เธอพอเดาออกแล้วว่าผีเสื้อพูดได้ตรงหน้าคืออะไร

อย่างที่รู้จักกันดีว่านิทานหนูน้อยหมวกแดงนั้นมีหลายเวอร์ชันที่ถูกเล่าเสริมเติมแต่งตามยุคตามสมัย

หรือแม้แต่ดัดแปลงเพื่อให้มีความหนักหน่วงและโหดร้ายที่ลดลงมาจากสมัยก่อน ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้นิทานเรื่องนี้มีหลายแบบมากๆ

และหนึ่งในนั้นมีเวอร์ชันหนึ่งที่มีผีเสื้อพูดได้โผล่ออกมา ซึ่งเวอร์ชันนี้เป็นหนึ่งเวอร์ชันที่เรดจำได้ดีที่สุด

เพราะว่าเป็นเวอร์ชันที่เหมาะจะเล่าให้เด็กฟังนั่นเอง และแน่นอนว่าตัวเรดก็เล่ามันให้เด็กๆ ในโรงเรียนอนุบาลฟังอยู่บ่อยครั้ง จึงเป็นหนึ่งในเวอร์ชันที่เธอจำได้แม่นที่สุด

เวอร์ชันนี้เรื่องราวจะเริ่มต้นเมื่อหนูน้อยหมวกแดงออกจากบ้านมาจะเจอคุณผีเสื้อชักจูงให้ไปยังสวนดอกไม้ที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อเอาดอกไม้ไปให้คุณยายและได้คุยกับพวกสัตว์ต่างๆ

จนเจ้าหมาป่าก็บังเอิญได้ยินเลยไปดักรอกินหนูน้อยหมวกแดงที่บ้านของคุณยาย แต่โชคร้ายที่คุณยายไหวตัวทัน รีบไปพานายพรานมาจัดการหมาป่าก่อนที่หนูน้อยหมวกแดงจะได้รับบาดเจ็บ

แต่เรดยังไม่แน่ใจว่าใช่จริงหรือเปล่า เพราะอาจจะแค่เป็นเรื่องบังเอิญที่โลกนี้ดันมีผีเสื้อพูดได้อยู่จริงๆ ก็ได้

จากประสบการณ์บทพูดของคุณแม่ที่ตรงตามสคริปต์ในนิทานเลย เรดเลยตอบหยั่งเชิงออกไปว่า..

“ฉันจะเอาอาหารไปให้คุณยายที่ป่วยติดเตียงอยู่น่ะ”

เมื่อตอบออกไปแบบนั้นเธอก็รอคำตอบจากผีเสื้อ หากโลกแห่งหนูน้อยหมวกแดงที่เธออยู่เป็นโลกที่มาจากนิทานหนูน้อยหมวกแดงเวอร์ชันสำหรับเด็กนี้จริงๆ

บทพูดของพี่เสื้อจะต้องเป็น…

ในขณะที่เรดกำลังคิดบทพูดที่ปรากฏในนิทานหนูน้อยหมวกแดงนั้นเอง เสียงของผีเสื้อน้อยก็ดังขึ้นตรงกับบทพูดในนิทานที่เรดเคยอ่าน

“โอ้.. ถ้าอย่างงั้นเธอควรจะเก็บดอกไม้สวยๆ ไปฝากคุณยายที่ไปไหนมาไหนไม่ได้ด้วยนะ เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปที่ทุ่งดอกไม้สวยๆ เอง”

เมื่อได้ยินแบบนั้นเรดก็ยิ้มออกมาจนแทบหุบไม่อยู่ ความรู้สึกหนักอึ้งที่ติดอยู่ในออกมาตลอดทั้งคืนก็หายไป

ยังดี.. ที่โลกนี้ไม่ใช่เวอร์ชันโหดร้ายของพี่น้องกริมม์.. ไม่อย่างนั้นชะตากรรมของเธออาจจะต้องเจออะไรที่โหดร้ายมากๆ แน่

แต่ถ้าเป็นเวอร์ชันสำหรับเด็กที่ไม่รุนแรงแบบนี้ละก็.. เธอก็ค่อยหายใจโล่งหน่อย แค่นึกว่าถ้าเป็นเวอร์ชันพี่น้องกริมม์หรือต้นฉบับขึ้นมาแล้ว…

เรดก็จำต้องปาดเหงื่ออย่างช่วยไม่ได้

ถ้าจะต้องโดนข่มขืนก่อนโดนกัดคอจนตายนี่ไม่ตลกเลยนะ.. ใช่แล้ว ที่เรดต้องยืนยันว่านี่เป็นเวอร์ชันสำหรับเด็กจริงไหมเพื่อที่จะให้ตัวเองได้หายใจคล่อง.. เธอจะได้ไม่ต้องกังวลอะไรมาก

เมื่อเห็นท่าทางดีใจของหนูน้อยหมวกแดง ผีเสื้อตัวน้อยก็เข้าใจว่าหนูน้อยหมวกแดงอยากไปสวนดอกไม้จึงรีบพูดขึ้น

“เธอจะไปงั้นสินะ ตามฉันมาเลย!”

ผีเสื้อตัวน้อยดูตื่นเต้นมาก แต่ทว่าเรดกลับส่ายหน้าตอบ

“ไม่เอาล่ะ คุณแม่บอกว่าไม่ควรออกนอกลู่นอกทาง.. ฉันก็ไม่ควรออกนอกลู่นอกทางตามที่คุณแม่บอก”

ผีเสื้อที่ได้ยินแบบนั้นก็หยุดชะงัก ก่อนจะบินมาเกาะที่หัวของหนูน้อยหมวกแดงด้วยท่าทางที่รู้สึกชื่นชม

ใช่แล้ว.. แผนรับมือที่เรดคิดมาคือ.. เพื่อที่จะหลบหลีกจากการเจอกับหมาป่าเธอจะต้องไม่ไปเจอหมาป่าตั้งแต่แรกนั่นเอง

เพราะนิทานหนูน้อยหมวกแดงจะสอนให้รู้ว่าไม่ควรออกนอกลู่นอกทางและเชื่อฟังคำพูดของผู้ใหญ่ ดังนั้นหากหนูน้อยหมวกแดงไม่ออกนอกลู่นอกทางก็จะไม่ได้เจอกับหมาป่า ดังนั้นเธอก็จะไม่พาหมาป่าไปบ้านคุณยายจนเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น..

และต่อให้รู้ว่านี่จะเป็นเวอร์ชันที่ไม่มีใครต้องเจ็บปวดจากเจ้าหมาป่าเลยก็ตาม

ทว่าเรดไม่ใช่เด็กๆ ที่คิดว่าทุกอย่างจะกลายเป็นตามนิทานเสมอไป กล่าวคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้อาจจะไม่ได้ง่ายเหมือนในนิทานนั่นเอง

ดังนั้นเธอจึงต้องหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้.. และถ้าหากหมาป่ายังโผล่มาอีกในบ้านของคุณยาย

เธอจะเอาขวานที่พกมาด้วยชิงฟันใส่มันก่อนที่มันจะทันตั้งตัว.. เพราะถ้าหมาป่าปลอมตัวเป็นคุณยาย ยังไงซะเรดก็ต้องดูออกอยู่แล้วล่ะ

เพราะเธอไม่ใช่หนูน้อยหมวกแดงที่ใสซื่อตัวจริงสักหน่อย!

นี่แหละคือแผนรับมือเพื่อที่จะหลุดออกจากโอกาสที่จะโดนหมาป่าทารุณกรรมของเรด

“ฉันก็เข้าใจอยู่หรอกนะว่า.. เชื่อฟังคำพูดของผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าอยากให้คุณยายดีใจเธอก็ต้องยอมอ่อนข้อให้บ้างไม่ดีกว่าเหรอ?”

แม้ผีเสื้อจะประทับใจ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะล่อลวงให้หนูน้อยหมวกแดงออกนอกลู่นอกทางอีกรอบ แต่เรดก็ยังปฏิเสธ

“ไม่ได้หรอก.. วันนี้ฉันออกจากบ้านช้าต้องรีบไปรีบกลับก่อนจะค่ำน่ะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง 8

Now you are reading Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง Chapter 8 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

R/C – 1-8

ผีเสื้อในเทพนิยาย

 

เรดเดินไปตามทางเท้าที่เป็นทางไปบ้านของคุณยาย ในขณะที่เธอเดินอยู่นั้นเองผีเสื้อตัวน้อยตัวหนึ่งก็บินผ่านมาเจอกับเรดพอดี

ผีเสื้อตัวนี้แปลกประหลาดอย่างมาก แม้จะมีรูปลักษณ์ที่เหมือนกับผีเสื้อในโลกเดิมของเรด แต่ลวดลายบนปีกทั้งสองข้างของมันกลับแต่งแต้มไปด้วยสีสันมากมายจนลายตา

มันดูเหมือนกับเป็นผีเสื้อที่หลุดออกมาจากในเทพนิยายเลยด้วยซ้ำ พอเรดเห็นผีเสื้อตัวน้อยนี้เธอก็ยกมือขึ้นไปทางผีเสื้อ

แล้วเจ้าผีเสื้อเองก็บินมาเกาะที่นิ้วมือของเธออย่างว่าง่าย

“สวยจัง…”

เธอพึมพำแบบนั้นพลางมองผีเสื้อ เมื่อมองไปที่ผีเสื้อตัวนี้เธอก็อดที่จะนึกถึงพี่สาวในโลกเดิมของเธอไม่ได้ พี่สาวของเธอเป็นคนที่ชอบสัตว์น้อยใหญ่เกือบทุกชนิดเลยก็ว่าได้

ขนาดแมลงสาบคนอื่นจะรู้สึกหยะแหยงก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่พี่สาวของเธอกลับไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้นเลย แม้จะไม่ได้ชอบแมลงสาบ แต่เธอก็ไม่ได้เกลียดมัน และไม่ว่าจะเป็นงูหรืออะไรก็ตามแต่ พี่สาวของเรดไม่เคยเกลียดเลย

และยิ่งเป็นสัตว์ที่มีลักษณะสวยๆ อย่างผีเสื้ออะไรแบบนี้เธอจะชอบมากเป็นพิเศษ

ซึ่งถ้าพี่สาวของเรดได้มาเห็นผีเสื้อหลากสีตัวนี้แล้ว

เธออาจจะดีใจจนเป็นลมเลยก็ได้ ผีเสื้อตัวนี้ไม่เพียงแต่จะมีสีสันที่สวยงามเท่านั้น เพราะตอนมันบินเหมือนจะปล่อยแสงระยิบระยับหลากสีออกมาจากปีกและทุกครั้งที่มันขยับปีกอีกด้วย

ยิ่งเรดมองเท่าไหร่เธอก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นผีเสื้อที่หลุดออกมาจากเทพนิยาย

แต่ที่น่าแปลกคือมันบินอยู่ตัวเดียว?

เรดเองก็ไม่มั่นใจว่าผีเสื้อปกติไปไหนมาไหนมันจะไปเป็นกลุ่มไหม ไม่สิ แทนที่จะบอกว่าพวกมันไปเป็นกลุ่ม

ต้องบอกว่าพวกมันมีเป้าหมายเดียวกันคือเกสรจากดอกไม้ เพราะงั้นเวลาเจอพวกมันก็จะเจอในที่ที่มีดอกไม้บานเยอะๆ และแน่นอนว่าที่แบบนั้นมันจะดึงดูดผีเสื้อหลายๆ ตัวมาด้วยนั่นเอง

ดังนั้นจึงดูเหมือนว่ามันไปกันเป็นกลุ่มละมั้ง.. แน่นอนนี่เป็นแค่สิ่งที่เรดคิดเท่านั้นละนะ

แต่ถ้าหากสิ่งที่เรดคิดนั้นเป็นความจริง เธอก็เกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่าแถวนี้ไม่มีดอกไม้เลยนะนอกจากป่าทึบ.. ทำไมผีเสื้อตัวน้อยถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ

เรดหันไปมองป่าทึบด้านข้าง ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้สูงรูปร่างประหลาดมากมาย เธอค่อนข้างมั่นใจว่าป่าแถวนี้ไม่น่าจะมีสวนดอกไม้เกิดขึ้นมาแน่ๆ.. เพราะสถานที่แห่งนี้มีแต่ป่าหนาทึบอับแสง

แต่ในนิทานก็มีสวนดอกไม้อยู่นี่น่า.. หรือที่นี่ก็จะมีเหมือนกัน?

ในขณะที่เรดกำลังคิดอยู่นั้นเอง..

“สวัสดี หนูน้อยหมวกแดง เธอกำลังจะไปไหนงั้นเหรอ?”

เสียงลึกลับและค่อนข้างแหลมและบาดหูก็ดังขึ้นทำให้เรดหันไปด้านหน้าซึ่งเป็นทิศทางที่มีเสียงดังขึ้นด้วยความงุนงง เพราะด้านหน้าไม่มีใครยืนอยู่เลยสักคน แล้วเสียงมาจากไหนละ?

เธอมั่นใจว่าเสียงเมื่อกี้ดังขึ้นมาจากด้านหน้าเธอแน่ๆ ในขณะที่เธอกำลังสับสนนั้นเอง เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“มีอะไรเหรอ?เธอหาอะไรเหรอ?”

เมื่อเสียงนี้ดังขึ้นอีกรอบสายตาเรดที่หันไปด้านหน้าก็หันลงไปหาผีเสื้อที่อยู่บนฝ่ามือของเธอเอง.. เมื่อกี้เสียงพึ่งดังออกมาจากทางที่มีผีเสื้ออยู่

เรดลังเลเล็กน้อย เธอไม่อยากจะเปิดปากถามว่า ‘เมื่อกี้เธอเป็นคนพูดใช่ไหม’ เท่าไหร่เพราะหากไม่ใช่ผีเสื้อขึ้นมา จะกลายเป็นว่าเธอดูเหมือนคนบ้าเพราะที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนแต่เป็นผีเสื้อ

แล้วผีเสื้อจะพูดได้ยังไงล่ะ?

ทว่าเรดก็มองย้อนกลับไปตั้งแต่ที่ตื่นขึ้นมาในโลกใบนี้ ตลอดหนึ่งวันครึ่งที่ผ่านมานั้นมีอะไรที่เหนือธรรมชาติเกิดขึ้นบ้าง ไม่ว่าจะเป็นแม่มด บันทึกนภา สัตว์แปลกประหลาด เวทมนตร์

เมื่อเธอนึกถึงความหลุดโลกและแฟนตาซีเหล่านั้นขึ้นมาได้ เธอก็ค่อยๆ พูดขึ้นด้วยความสงสัย

“เธอ…พูดได้เหรอ ?”

“แน่นอนสิ ฉันคือผีเสื้อที่แสนใจดียังไงล่ะ”

ผีเสื้อตัวนั้นตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสดใสและเป็นมิตร คิ้วของเรดกระตุกแทบจะทันที การที่ผีเสื้อใจดีจะทำให้ผีเสื้อพูดขึ้นมาได้หรือไง อีกอย่างคนที่ใจดีเขาไม่บอกว่าตัวเองใจดีหรอกนะ

นี่เป็นประสบการณ์ที่เรดเรียนรู้ด้วยตัวเอง หากเป็นเรดคนเดิมที่ยังเป็นเด็กอาจจะหลงเชื่อคำพูดนั้นจากปากของผีเสื้อวิเศษที่แสนสวยงาม แต่เธอในตอนนี้คือคนที่มีอายุเกือบสามสิบมาอยู่ในร่างเด็ก

ไม่มีทางที่จะถูกหลอกด้วยคำพูดแบบนั้นหรอก.. อันที่จริงสำหรับเรดแล้วอะไรที่สวยงามจะยิ่งเป็นอันตรายมากกว่าสิ่งที่ดูอันตรายด้วยซ้ำ

แต่แน่นอนว่าเรดไม่ได้คิดจะพูดขัดใจอะไรคุณผีเสื้อในเทพนิยายแต่อย่างใด

พอเห็นเรดมีท่าทางที่ครุ่นคิดคุณผีเสื้อก็ถามอีกรอบ

“ว่าแต่เธอจะไปไหนงั้นเหรอ หนูน้อยหมวกแดง”

และเมื่อเรดได้ยินคำถามนั้นเธอก็ประหลาดใจเล็กน้อย พอมาถึงตอนนี้ใช่ว่าเธอจะเดาทางไม่ออก เธอพอเดาออกแล้วว่าผีเสื้อพูดได้ตรงหน้าคืออะไร

อย่างที่รู้จักกันดีว่านิทานหนูน้อยหมวกแดงนั้นมีหลายเวอร์ชันที่ถูกเล่าเสริมเติมแต่งตามยุคตามสมัย

หรือแม้แต่ดัดแปลงเพื่อให้มีความหนักหน่วงและโหดร้ายที่ลดลงมาจากสมัยก่อน ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้นิทานเรื่องนี้มีหลายแบบมากๆ

และหนึ่งในนั้นมีเวอร์ชันหนึ่งที่มีผีเสื้อพูดได้โผล่ออกมา ซึ่งเวอร์ชันนี้เป็นหนึ่งเวอร์ชันที่เรดจำได้ดีที่สุด

เพราะว่าเป็นเวอร์ชันที่เหมาะจะเล่าให้เด็กฟังนั่นเอง และแน่นอนว่าตัวเรดก็เล่ามันให้เด็กๆ ในโรงเรียนอนุบาลฟังอยู่บ่อยครั้ง จึงเป็นหนึ่งในเวอร์ชันที่เธอจำได้แม่นที่สุด

เวอร์ชันนี้เรื่องราวจะเริ่มต้นเมื่อหนูน้อยหมวกแดงออกจากบ้านมาจะเจอคุณผีเสื้อชักจูงให้ไปยังสวนดอกไม้ที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อเอาดอกไม้ไปให้คุณยายและได้คุยกับพวกสัตว์ต่างๆ

จนเจ้าหมาป่าก็บังเอิญได้ยินเลยไปดักรอกินหนูน้อยหมวกแดงที่บ้านของคุณยาย แต่โชคร้ายที่คุณยายไหวตัวทัน รีบไปพานายพรานมาจัดการหมาป่าก่อนที่หนูน้อยหมวกแดงจะได้รับบาดเจ็บ

แต่เรดยังไม่แน่ใจว่าใช่จริงหรือเปล่า เพราะอาจจะแค่เป็นเรื่องบังเอิญที่โลกนี้ดันมีผีเสื้อพูดได้อยู่จริงๆ ก็ได้

จากประสบการณ์บทพูดของคุณแม่ที่ตรงตามสคริปต์ในนิทานเลย เรดเลยตอบหยั่งเชิงออกไปว่า..

“ฉันจะเอาอาหารไปให้คุณยายที่ป่วยติดเตียงอยู่น่ะ”

เมื่อตอบออกไปแบบนั้นเธอก็รอคำตอบจากผีเสื้อ หากโลกแห่งหนูน้อยหมวกแดงที่เธออยู่เป็นโลกที่มาจากนิทานหนูน้อยหมวกแดงเวอร์ชันสำหรับเด็กนี้จริงๆ

บทพูดของพี่เสื้อจะต้องเป็น…

ในขณะที่เรดกำลังคิดบทพูดที่ปรากฏในนิทานหนูน้อยหมวกแดงนั้นเอง เสียงของผีเสื้อน้อยก็ดังขึ้นตรงกับบทพูดในนิทานที่เรดเคยอ่าน

“โอ้.. ถ้าอย่างงั้นเธอควรจะเก็บดอกไม้สวยๆ ไปฝากคุณยายที่ไปไหนมาไหนไม่ได้ด้วยนะ เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปที่ทุ่งดอกไม้สวยๆ เอง”

เมื่อได้ยินแบบนั้นเรดก็ยิ้มออกมาจนแทบหุบไม่อยู่ ความรู้สึกหนักอึ้งที่ติดอยู่ในออกมาตลอดทั้งคืนก็หายไป

ยังดี.. ที่โลกนี้ไม่ใช่เวอร์ชันโหดร้ายของพี่น้องกริมม์.. ไม่อย่างนั้นชะตากรรมของเธออาจจะต้องเจออะไรที่โหดร้ายมากๆ แน่

แต่ถ้าเป็นเวอร์ชันสำหรับเด็กที่ไม่รุนแรงแบบนี้ละก็.. เธอก็ค่อยหายใจโล่งหน่อย แค่นึกว่าถ้าเป็นเวอร์ชันพี่น้องกริมม์หรือต้นฉบับขึ้นมาแล้ว…

เรดก็จำต้องปาดเหงื่ออย่างช่วยไม่ได้

ถ้าจะต้องโดนข่มขืนก่อนโดนกัดคอจนตายนี่ไม่ตลกเลยนะ.. ใช่แล้ว ที่เรดต้องยืนยันว่านี่เป็นเวอร์ชันสำหรับเด็กจริงไหมเพื่อที่จะให้ตัวเองได้หายใจคล่อง.. เธอจะได้ไม่ต้องกังวลอะไรมาก

เมื่อเห็นท่าทางดีใจของหนูน้อยหมวกแดง ผีเสื้อตัวน้อยก็เข้าใจว่าหนูน้อยหมวกแดงอยากไปสวนดอกไม้จึงรีบพูดขึ้น

“เธอจะไปงั้นสินะ ตามฉันมาเลย!”

ผีเสื้อตัวน้อยดูตื่นเต้นมาก แต่ทว่าเรดกลับส่ายหน้าตอบ

“ไม่เอาล่ะ คุณแม่บอกว่าไม่ควรออกนอกลู่นอกทาง.. ฉันก็ไม่ควรออกนอกลู่นอกทางตามที่คุณแม่บอก”

ผีเสื้อที่ได้ยินแบบนั้นก็หยุดชะงัก ก่อนจะบินมาเกาะที่หัวของหนูน้อยหมวกแดงด้วยท่าทางที่รู้สึกชื่นชม

ใช่แล้ว.. แผนรับมือที่เรดคิดมาคือ.. เพื่อที่จะหลบหลีกจากการเจอกับหมาป่าเธอจะต้องไม่ไปเจอหมาป่าตั้งแต่แรกนั่นเอง

เพราะนิทานหนูน้อยหมวกแดงจะสอนให้รู้ว่าไม่ควรออกนอกลู่นอกทางและเชื่อฟังคำพูดของผู้ใหญ่ ดังนั้นหากหนูน้อยหมวกแดงไม่ออกนอกลู่นอกทางก็จะไม่ได้เจอกับหมาป่า ดังนั้นเธอก็จะไม่พาหมาป่าไปบ้านคุณยายจนเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น..

และต่อให้รู้ว่านี่จะเป็นเวอร์ชันที่ไม่มีใครต้องเจ็บปวดจากเจ้าหมาป่าเลยก็ตาม

ทว่าเรดไม่ใช่เด็กๆ ที่คิดว่าทุกอย่างจะกลายเป็นตามนิทานเสมอไป กล่าวคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้อาจจะไม่ได้ง่ายเหมือนในนิทานนั่นเอง

ดังนั้นเธอจึงต้องหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้.. และถ้าหากหมาป่ายังโผล่มาอีกในบ้านของคุณยาย

เธอจะเอาขวานที่พกมาด้วยชิงฟันใส่มันก่อนที่มันจะทันตั้งตัว.. เพราะถ้าหมาป่าปลอมตัวเป็นคุณยาย ยังไงซะเรดก็ต้องดูออกอยู่แล้วล่ะ

เพราะเธอไม่ใช่หนูน้อยหมวกแดงที่ใสซื่อตัวจริงสักหน่อย!

นี่แหละคือแผนรับมือเพื่อที่จะหลุดออกจากโอกาสที่จะโดนหมาป่าทารุณกรรมของเรด

“ฉันก็เข้าใจอยู่หรอกนะว่า.. เชื่อฟังคำพูดของผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าอยากให้คุณยายดีใจเธอก็ต้องยอมอ่อนข้อให้บ้างไม่ดีกว่าเหรอ?”

แม้ผีเสื้อจะประทับใจ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะล่อลวงให้หนูน้อยหมวกแดงออกนอกลู่นอกทางอีกรอบ แต่เรดก็ยังปฏิเสธ

“ไม่ได้หรอก.. วันนี้ฉันออกจากบ้านช้าต้องรีบไปรีบกลับก่อนจะค่ำน่ะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+