Another Monster 9.1 คาร์ล ชูวัลด์ 1

Now you are reading Another Monster Chapter 9.1 คาร์ล ชูวัลด์ 1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 9: Karl Schuwald

(มิถุนายน ปี 2001; มิวนิค)

 

  คาร์ล ชูวัลด์นั้นเป็นนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจที่วิทยาลัยฟรีดริช เอ็มมานูเอลแห่งมหาวิทยาลัยมิวนิค  เมื่อตอนเข้าเรียน เขาใช้นามสกุลว่านอยมัน แต่สามปีก่อนก็เปลี่ยนเป็นชูวัลด์  เขาคือผู้ที่ถูกวางให้รับช่วงต่อฮันส์ ชูวัลด์ ผู้นำกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่สุดในรัฐบาเยิร์น และข่าวนี้ก็เป็นประเด็นร้อนไปทั่วโลกธุรกิจในสหภาพยุโรป สื่อต่างก็ใช้ความพยายามอย่างหนักกับการหาแค่ว่าเขาเป็นใคร และเขาเป็นลูกนอกสมรสหรือลูกบุญธรรมของชูวัลด์หรือไม่  แต่สุดท้ายแล้ว มีเพียงคนที่ใกล้ชิดกับเขามากๆเท่านั้นที่รู้ความจริง และก็ไม่มีใครเลยที่ยอมเอ่ยปากพูด ดังนั้นเรื่องจริงก็ยังคงไม่ถูกเปิดเผยออกมา  เมื่อรู้ความจริงเรื่องนี้, ผมก็สงสัยมากว่าผมจะมีโอกาสได้สัมภาษณ์คาร์ลหรือไม่ ดังนั้นแล้ว แทนที่จะทำแบบเดียวกับกรณีของสารวัตรลุงค์เก้ ผมกลับเข้าหาเขาตรงๆและบอกเขาว่าผมอยากจะรู้เรื่องโยฮันมากกว่านี้  น่าประหลาดที่ คำตอบของเขาคือ “Ja [ได้]”

  เขาเชิญผมไปที่บ้านของชูวัลด์ ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับพระราชวังนิมเฟนบูร์กทางตะวันตกเฉียงเหนือของมิวนิค  อาคารโบราณนี้ที่ราวกับหลุดมาจากอังกฤษยุควิคตอเรียได้รับการบำรุงรักษาอย่างขยันขันแข็งและส่งบรรยากาศที่ดูทันสมัยมากกว่าความหรูหราออกมา

  คาร์ล ชูวัลด์เป็นชายหนุ่มที่มีผมหยักและแข็ง ไม่ได้หล่อเหลา แต่มีหน้าตาที่ดูซื่อตรงและชาญฉลาด  ในฐานะลูกของชายผู้ร่ำรวยแล้ว เขาเลยดูไม่เหมือนกับนักศึกษาผู้มักจะอดอยากทั่วไปที่ใส่เชิ้ตผ้ายีนส์สีน้ำเงินเรียบๆและกางเกงยีนส์  ระหว่างที่เราจับมือ เขาก็จ้องเข้าไปในตาของผม ราวกับพยายามที่จะตรวจสอบว่าผมจริงใจและตรงไปตรงมาเกี่ยวกับคำพูดของผมแค่ไหน  น่าแปลกที่พ่อของเขาไม่อยู่ที่นี่ และผมก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยพร้อมกับโล่งใจอยู่ไม่น้อยเช่นกัน

 

 – ผมขอยืนยันอีกครั้งนะ คุณเคยพบกับโยฮันใช่ไหม?

 “ใช่ เขาเป็นเพื่อนของผม ผมไว้ใจเขายิ่งกว่าใคร  ถ้าผมแค่สามารถไปถามเขาได้… ทำไมเขาต้องทำอะไรแบบนี้กับผมและพ่อผม”

 – คุณเคย… ไม่สิ, ยังคง, เป็นคนที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในสังคม ทำไมคุณถึงยอมตอบรับคำขอสัมภาษณ์นี้กัน?

 “คำขอสัมภาษณ์ส่วนใหญ่อยากจะรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผมกับพ่อ  คุณเป็นคนที่สองไม่ก็สามที่มาถามเรื่องของโยฮัน  ถ้าเป็นช่วงปีที่แล้ว ผมคงจะปฏิเสธไป แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมสามารถพูดถึงมันได้แล้ว”

 – หลังจากคดีของโยฮันถูกเปิดเผย สื่อก็รีบเสาะหาเรื่องราวข้อมูลและความจริง แต่ผู้คนส่วนมากที่เกี่ยวข้องกลับไม่ยอมพูดอะไร  ดังนั้นมันเลยมีข่าวลือว่ามันอาจจะมีอะไรบางอย่างที่เป็นเรื่องใหญ่และลึกลับอยู่เบื้องหลังคดีนี้ ทำไมคุณถึงตัดสินใจจะพูดเกี่ยวกับมันในตอนนี้ล่ะ?

 “เหตุผลที่พวกเขาไม่พูดอะไรก็เพราะว่าพวกเขาหวาดกลัว”

 – หวาดกลัว? แต่โยฮันก็ยังคงอยู่ในอาการโคม่า เขาอยู่ห่างจากความตายแค่ไม่กี่ก้าว…

 “ใช่ ความกลัวที่ว่าไม่ใช่เกี่ยวกับเขา แต่เป็นเรื่องราวที่เราเจอมาในอดีต  แม้กระทั่งปีที่แล้ว, แค่การคิดไปถึงมันก็ทำให้ผมตัวแข็งเป็นหินได้  แต่หลังจากสามปี ผมก็สามารถเผชิญหน้ากับมันได้  หรือจริงๆผมควรพูดว่าผมรู้สึกว่าผมต้องเผชิญหน้ากับมัน”

 – ผลกระทบจากประสบการณ์ที่คุณพบเจอมางั้นสินะ เอาล่ะ, ช่วยเล่าให้ผมทีว่าคุณไปรู้จักกับโยฮันได้ยังไงกัน?

 “ทั้งโยฮันและผมถูกจ้างโดยพ่อของผม… ฮันส์ ชูวัลด์ เพื่อที่จะอ่านหนังสือภาษาละตินให้เขาฟังเพราะเขามองไม่เห็น  ผมมาทุกวันอังคาร ส่วนโยฮันทำงานวันศุกร์ เราทั้งคู่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่เขาเรียนโรงเรียนกฎหมาย ส่วนผมเรียนด้านธุรกิจ ดังนั้นเราเลยไม่เคยเจอกันมาก่อน  จนกระทั่งเพื่อนของเราทั้งคู่แนะนำให้เรารู้จักกัน เราเลยกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน”

 – เขาเป็นคนยังไงงั้นเหรอ?

 “อย่างแรกเลย การอ่านของเขาสมบูรณ์แบบ  เขาเป็นคนที่ได้รับการศึกษาเป็นอย่างดี  ดังนั้นเขาเลยเป็นคนโปรดของพ่อ… เขาใจดีและสุภาพกับผมอยู่เสมอ ขนาดที่ว่าเขาร้องไห้เมื่อได้ยินเรื่องในอดีตของผม”

 – มันเป็นเพราะงานอ่านหนังสือนี่หรือเปล่าที่ทำให้คุณชูวัลด์ชอบคุณและตัดสินใจยอมรับคุณเป็นทายาท?  ถ้าคุณไม่ต้องการที่จะตอบก็ไม่เป็นไรนะ

 “อาใช่ นั่นคือสิ่งที่พวกสื่อกำลังตื่นเต้นอยู่ตอนนี้  ก็, ความจริงคือ… ผมคือลูกชายจริงๆของฮันส์ เกออร์ค ชูวัลด์  พ่อและแม่ผมรักกันมาก แต่เธอไม่อยากจะแต่งงาน ดังนั้นเธอเลยจากพ่อไป  เธอยกผมให้ใครบางคนที่เธอรู้จักและหายไปชีวิตของผม  หลังจากนั้นผมก็ใช้ชีวิตทั้งหมดในวัยเด็กย้ายจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไปอยู่บ้านของพ่อแม่บุญธรรมแล้วก็กลับมาอีกที  เมื่อผมเข้ามหาวิทยาลัย ข่าวการตายของแม่ก็ปรากฏในหนังสือพิมพ์ เธอถูกฆ่า  หลังจากที่เธอตาย, แปลกดีที่ผมอยากจะเจอหน้าพ่อของผม  ผมบอกตัวเองว่าเขาเป็นคนห่วยแตกที่ทิ้งแม่ไปตามยถากรรม แต่มันก็มีบางส่วนในตัวผมที่หวังอยู่ลับๆว่าเขาจะรักผม”

 – ดังนั้นคุณเลยไปเปิดเผยตัวเองกับเขา

 “ไม่ๆ, ผมไม่มีความกล้า ความมั่นใจของผมมันขาดรุ่งริ่งพอแล้วจากการอ่านหนังสือสุดแย่ของผมซึ่งทำให้ผมเสี่ยงโดนไล่ออกเกือบทุกอาทิตย์… ไม่, มันเป็นเพราะโยฮันที่เป็นคนทำให้พ่อและผมกลับมาเจอกันอีกครั้ง โยฮันให้พ่อดูเครื่องรางตีนกระต่ายที่พ่อเคยมอบให้แม่และถูกส่งต่อมายังผม  แล้วตัวตนของผมก็ถูกยืนยันด้วยวิธีนั้น”

 – แล้ว เป้าหมายของโยฮันคืออะไรล่ะ?

 “จริงๆแล้ว การตามหาลูกชายแท้ๆของพ่อผมนั้นเป็นที่รู้กันทั่วมิวนิคแหละ  หลายครั้งก่อนหน้านี้ที่มีหลายๆคนมาหาเขา อ้างว่าเป็นลูก และเขาก็จะจ้างนักสืบเพื่อตรวจสอบประวัติเบื้องหลังของพวกคนเหล่านั้น  นี่คืออีกเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงมีปัญหาในการพูดเรื่องตัวจริงของผม”

 “ในช่วงเวลาที่ผมกำลังอ่านหนังสือให้พ่อและกระวนกระวายว่าจะบอกหรือไม่บอกความจริงเขาดีไหม(ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม) ผู้ชายอีกคนก็โผล่มาและอ้างว่าเป็นลูกชายตัวจริง  เขาเป็นนักศึกษาอีกคนหนึ่งที่ชื่อ เอ็ดมุนด์ ฟาห์เรน เขาเป็นคนที่มาอ่านหนังสือให้พ่อฟังในวันพฤหัส เรื่องแต่งของเขามันสมจริงมากซะจนมีแค่ผมเท่านั้นที่รู้ว่าเขาโกหก  ดังนั้นผมเลยไปหาเขาที่หอพัก, ตั้งใจที่จะฉีกหน้ากากของเขา… แต่เขาก็เป็นศพอยู่ตรงนั้น, แขวนคอตาย  ผมว่ามันคือวันหลังจากนั้นแหละ, ที่ผมเจอกับโยฮัน ลีแบร์ทเป็นครั้งแรก…”

 “แต่กว่าผมจะรู้ความตั้งใจจริงๆของเขาก็หลังจากที่เขาพยายามเอาชีวิตพ่อและเผาหอสมุดมหาวิทยาลัย  เป็นโยฮันเองที่ควบคุมเอ็ดมุนด์ ฟาห์เรน เพื่อที่ได้รับความไว้วางใจจากพ่อ  แต่ก่อนที่เขาจะลงมือทำตามแผนจริงๆของเขา, ผมก็โผล่มา, ลูกชายตัวจริง  ดังนั้นเขาเลยเปลี่ยนแผนและตัดสินใจควบคุมผมแทน เพื่อที่จะได้อำนาจอาณาจักรของชูวัลด์มาไว้ในกำมือ  นี่เป็นแผนที่ดีกว่าสำหรับเขา… ดังนั้นโยฮันเลยฆ่าเอ็ดมุนด์ ฟาห์เรน, แล้วมาหาผมวันถัดไปแทน”

 – และต่อจากนี้, โยฮันก็ได้รับความไว้วางใจจากพวกคุณทั้งคู่

 “พ่อของผมบอกว่าเขานั้น’สมบูรณ์แบบ’  พ่อทำแม้กระทั่งคิดจะให้เขาเป็นผู้สืบทอดและสอนโยฮันทุกอย่างที่เขารู้เกี่ยวกับการเป็นผู้นำเศรษฐกิจ”

 

คาร์ล ผู้สืบทอดของฮันส์ ชูวัลด์ ถูกโชคชะตาลิขิตให้ชักนำเศรษฐกิจของยุโรปในอนาคต งานอดิเรกของเขาคืออ่านหนังสือ,ตกปลา และปั่นจักรยาน ชายหนุ่มผู้ดูเรียบๆและสบายๆ

 

 – เดี๋ยวนะ ให้เขา, ไม่ใช่คุณงั้นเหรอ?

 “ใช่ ไม่มีใครสู้โยฮันไหวหรอก, ไม่มีเรื่องไหนเลย  ผมเข้าใจและยอมรับการตัดสินใจนั้น  พ่อผมตาบอด, แต่ถึงอย่างนั้นโยฮันก็เข้ากันกับพ่อได้อย่างสมบูรณ์แบบ… ในตอนนั้นเขาได้รับคำชมมากเสียจนคุณคิดว่าเขามาจากโลกนี้จริงๆงั้นเหรอ ถ้าเขาคิดตั้งใจจะปกครองโลกเศรษฐกิจของบาเยิร์น, ไม่ ของทั้งเยอรมัน, เขาก็คงแทบไม่ต้องพยายามอะไรเลย”

 – อย่างไรก็ตาม โยฮันวางแผนฆ่าพ่อของคุณที่หอสมุดฟรีดริช เอ็มมานูเอลในตอนที่มีงานพิธีฉลองการบริจาคหนังสือของเขา…

 “จริงๆแล้ว, มันก็ไม่ถูกเท่าไหร่  มันก็เข้าใจได้แหละถ้าโยฮันวางแผนฆ่าพ่อแล้วยึดอำนาจทั้งหมดมา แต่ในความเป็นจริง, โยฮันจ้องมองเข้าไปในดวงตาของพ่อผมท่ามกลางเปลวเพลิงแล้วพูดออกมาว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”

 – แสดงว่าโยฮันได้เปลี่ยนแผนของเขาแล้ว

 “พ่อของผมบอกหลังจากนั้นว่าโยฮันเกิดเบื่อขึ้น  ในฐานะของ’ผีดูดเลือดแห่งบาเยิร์น’ พ่อควรจะรู้ตัวอยู่แล้ว… เขาเล่าว่าโยฮันกำลังเล่นกับโลกนี้เหมือนกับเด็กที่เล่นกับมดที่กำลังเดินแถวอยู่… แต่แล้วเขาก็เริ่มเบื่อเกมเล็กๆนี่ของเขา…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด