Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 427 อานุภาพของหลิงเทียนโหว
หลิงเทียนโหวไม่เหมือนฉือฉางเฟิง หรือพูดอีกอย่างก็คือเขามีชื่อเสียงก่อนฉือฉางเฟิง ภูมิหลังที่มีก็น่ากลัวกว่า
หลายปีก่อนตอนที่ถูกไล่ออกจากนครต้องห้ามเพราะราชโองการของจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน หลิงเทียนโหวก็เป็นผู้กล้าที่สะดุดตาที่สุดแล้ว
เพียงเพราะนิสัยเผด็จการร้ายกาจ ไม่กลัวฟ้าดิน ก่อเรื่องสร้างความแค้นเคืองให้ทุกคนไว้มากมาย จึงถูกส่งตัวไปทำคุณไถ่โทษที่สนามรบชายแดน
แม้ว่าเขาไม่ได้กลับมาห้าปีแล้ว แต่ห้าปีนี้ในนครต้องห้ามกลับมีข่าวของหลิงเทียนโหวแพร่ออกมาอยู่บ่อยครั้ง
ข่าวว่าเขาตัดหัวข้าศึกในสนามรบไปนับไม่ถ้วน สร้างผลงานอย่างโดดเด่นในด้านการทหาร แม้แต่ทางฝั่งเผ่ามืด ชื่อเสียงอันดุร้ายของเขายังเผยแพร่ไปทั่ว
ตอนนี้เขากลับมานครต้องห้ามอีกครั้ง ย่อมเป็นเรื่องใหญ่ที่สร้างความฮือฮาอยู่แล้ว หลายคนต่างคาดเดาว่าหลังจากผ่านการเคี่ยวกรำในสนามรบมาเป็นเวลาห้าปี ความสามารถของหลิงเทียนโหวคงถึงระดับที่เรียกได้ว่าน่าสะพรึงกลัวแล้ว
ในสถานการณ์แบบนี้ หลินสวินกลับกล้าท้าทายหลิงเทียนโหว จะไม่ให้ตะลึงได้อย่างไร
“ก่อนงานฉลองพระชนมพรรษาของจักรพรรดินีจะเริ่มขึ้น หลินสวินก็ปะทะกับหลิงเทียนโหวที่ถนนหยกขาวรอบหนึ่งแล้ว เพื่อยืนยันความใจกล้า หลินสวินได้ฆ่าอสูรมังกรเจียวดำสามตัวของหลิงเทียนโหวตายคาที่ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลินสวินจะกล้าท้าทายขนาดนี้”
มีกล่าวขึ้นเบาๆ
“เด็กคนนี้คิดว่าหลิงเทียนโหวล่วงเกินได้ง่ายๆ หรือ นี่เขาไม่เกรงกลัวฟ้าดินหรือว่าอวดดีไร้เดียงสากันแน่”
“ได้ยินว่าเขาเดิมพันกับหลิงเทียนโหวเอาไว้ว่า ถ้าหลิงเทียนโหวแพ้ จะต้องคุกเข่าขอขมาคุณหนูหลิ่วชิงเยียน เหี้ยมจริงๆ”
“เหี้ยมงั้นหรือ ข้าว่าเขารนหาที่ตายมากกว่า! ใครไม่รู้บ้างว่าหลิงเทียนโหวขึ้นชื่อเรื่องความดุร้าย การกระทำเช่นนี้ของหลินสวินไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย!”
ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์ ต่างคิดว่าหลินสวินไม่รู้รุกรู้ถอย ชนะฉือฉางเฟิงคนหนึ่งแล้วกลับยังไม่รู้จักหยุด ยังคิดจะไปท้าทายหลิงเทียนโหวต่อ เห็นได้ชัดว่ายโสโอหังยิ่งนัก
“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”
เสียงตะโกนที่ราวกับคลื่นลมหนาวอันเย็นเยียบระเบิดขึ้นเหนือลานแสดงยุทธ์
พลันเห็นหลิงเทียนโหวปรากฏตัวขึ้นบนลานแสดงยุทธ์ เขาอยู่ในชุดคลุมสีเลือด รูปร่างสูงเพรียวสง่า สูงตระหง่านมั่นคงอยู่ตรงนั้นราวกับเทพองค์หนึ่ง ดวงหน้าอันงดงามดุจปีศาจเรียบเฉย นัยน์ตามีรัศมีสายฟ้าไหลวน แฝงความน่าเกรงขามยากอธิบาย
“จำคำพูดของเจ้าไว้ให้ดี หากเจ้าแพ้แล้วกล้าคืนคำ ไม่ว่าบนสวรรค์หรือนรกก็ไม่มีใครช่วยเจ้าได้ทั้งนั้น!”
เสียงของหลิงเทียนโหวอึมครึม เย็นเยียบราวกับคลื่นลมหนาว ชวนให้รู้สึกขวัญหนีดีฝ่อ
เขามีดีมากพอที่จะพูดแบบนี้จริงๆ เขามีฐานะเป็นราชนิกุล นิสัยยโสโอหังที่สุด มิเช่นนั้นคงไม่ต้องให้จักรพรรดิมีราชโองการกว่าจะขับเขาออกจากนครต้องห้ามได้
ก็เพราะเขาเป็นคนที่ทำอะไรไม่เห็นหัวใคร ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น และนี่ก็เป็นจุดที่ทำให้น่าหวาดกลัวที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
กลับเห็นว่าหลินสวินเองก็พูดอย่างจริงจัง “ข้าหวังเพียงว่า เจ้าจะไม่ลืมว่าหากแพ้แล้วต้องคุกเข่าขอขมาแม่นางชิงเยียนก็เพียงพอแล้ว”
ทุกคนต่างเผยสีหน้าตกใจ จะเดิมพันเช่นนี้จริงๆ หรือ แม้แต่บุคคลผู้ยิ่งใหญ่หลายท่านที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดยังเผยสีหน้าตะลึง
ก็แค่การประลองเท่านั้น ทั้งสองกลับท้าเดิมพันขนาดนี้ น่าตกใจจริงๆ
ไม่ว่าใครแพ้ ก็ต้องชดใช้อย่างหนักหน่วง
เมื่อเทียบกันแล้วสถานการณ์ตอนที่ฉือฉางเฟิงแพ้หลินสวินยังโชคดีกว่าเห็นๆ
“เหอะๆ กล้าขึ้นเรื่อยๆ เลยนี่ แต่ข้าชอบ จะรบก็ต้องรบกับคนที่กล้าท้าทายข้าอย่างเจ้าถึงจะสะใจ!”
หลิงเทียนโหวหัวเราะลั่นอย่างดุร้ายจองหอง เขาพลิกฝ่ามือ ง้าวสีทองอร่ามเล่มใหญ่พลันปรากฏขึ้นแล้วฟันออกไปทันที
ง่ายๆ สบายๆ เหมือนเห็นหลินสวินเป็นแค่ผักปลา หมายจะตัดหัวให้รู้แล้วรู้รอด
นี่เป็นความหยิ่งผยองอย่างหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นคือดุดันเผด็จการ ดวงตาแดงก่ำเย็นเยียบ ชุดสีเลือดบนร่างพลิ้วไปตามสายลม สาดแสงประกายสีเลือดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ขณะที่กำลังงุนงง ทุกคนราวกับเห็นภูเขาศพทะเลเลือดปรากฏขึ้นจากตัวหลิงเทียนโหว โครงกระดูกทับถม ไอสังหารสะเทือนวิญญาณ
โครม!
ง้าวสีทองนั่นกวาดผ่านกลางอากาศ ส่งเสียงคำรามสนั่นทลายอากาศ ฟาดฟันเข้าหาหลินสวิน ไอสังหารน่าสะพรึงกลัวราวกับจะกลืนกินอีกฝ่าย
หลายคนถึงกับกลั้นหายใจ สีหน้าเผยความตื่นตะลึง ไม่ได้เจอแค่ห้าปี พลังของหลิงเทียนโหวน่ากลัวขนาดนี้แล้ว!
เหมือนเทพสังหารที่ออกมาจากทะเลเลือดไม่มีผิด!
ปัง!
หลินสวินกำหมัดขึ้นแล้วปล่อยออกไปรับง้าวสีทองนั่น เกิดเสียงปะทะกันสนั่นหูอย่างที่สุด เสมือนภูเขาขนาดใหญ่สองลูกพุ่งชนกัน สั่นสะเทือนไปทั้งฟ้าดิน
แรงลมแฝงพลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวพาให้ฝุ่นทรายลอยฟุ้ง กระแสลมผันเปลี่ยน
หลินสวินสะเทือนจนเซถอยไปข้างหลัง ในขณะที่หลิงเทียนโหวทรงพลังดุจดั่งดวงตะวัน!
ทุกคนกลั้นหายใจดูการต่อสู้นี้ จากการโจมตีในครั้งนี้จะเห็นได้ว่า ถ้าไม่งัดอาวุธสักอย่างออกมา มีความเป็นไปได้สูงมากที่หลินสวินจะต้านทานได้อีกไม่นานแล้ว
“เอาอาวุธต่อสู้ของเจ้าออกมา! มิเช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้าเหมือนเชือดไก่!”
หลิงเทียนโหวเอ่ยเย็นชา ง้าวสีทองวาดตามขวางอย่างห้าวหาญเผด็จการเต็มประดา ท่าทีราวกับในใต้หล้ามีเพียงข้าเป็นหนึ่ง
ทันทีที่เริ่มการต่อสู้เขาก็เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน กลิ่นอายเผด็จการจองหองนั่น ทำเอาเด็กสาวชนชั้นสูงมากมายเผยสีหน้าหลากหลาย หัวใจสั่นไหว
“แรงแค่นี้ยังไม่ถึงขั้นที่ข้าต้องใช้อาวุธ”
หลังจากถูกโจมตีจนถอยออกไป หลินสวินกลับไม่ได้บาดเจ็บแต่อย่างไร เขาพลันก้าวกระโดด ประกายแสงสีฟ้าอ่อนรอบตัวยิ่งดูแข็งกล้า ราวกับลมพายุที่ดังกึกก้อง สำแดงเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ออกมาประมือ
นี่ต้องเป็นการประลองที่สุดยอดอย่างแน่นอน ผู้กล้าวัยหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่สองคนกำลังประลองกันอยู่ในลานแสดงยุทธ์ วิชาลับประกายวิญญาณต่างๆ สำแดงออกมาถี่ยิบ ก่อกวนจักรวาล
พวกเขาใช้กระบวนท่าพิฆาตแท้จริง ราวกับต่อสู้หวังเอาชีวิต เรียกได้ว่าสะเทือนไปทั้งโลกา
ผู้ยิ่งใหญ่ระดับอาวุโสหลายท่านเห็นแล้วต่างใจไหวสะเทือน แอบคิดว่าตอนที่ตนหนุ่มๆ ยังไม่เคยมีพลังที่สะเทือนโลกาเช่นนี้เลย
ตูม!
หลินสวินปล่อยหมัดหนึ่งกระแทกกับง้าวใหญ่ ในขณะที่หมัดอีกข้างพุ่งไปอยู่ตรงหน้าหลิงเทียนโหว แต่สุดท้ายกลับถูกหลิงเทียนโหวสะบัดฝ่ามือเข้าปัดป้อง คลี่คลายได้อย่างง่ายดาย
ณ ที่นั้นแสงประกายแวววาว เสียงคำรามกึกก้อง ร้อนแรงสะดุดตา พาให้อกสั่นขวัญหนี
แม้ว่าหลินสวินจะสะเทือนจนถอยไปหลายครั้ง แต่กลับดูแข็งแกร่งผิดมนุษย์ ยิ่งสู้ยิ่งหาญกล้า ทำให้ไม่สามารถจินตนาการได้ว่า ภายในร่างอันผอมแห้งของเขามีพลังอันน่าสะพรึงกลัวระดับไหนซ่อนอยู่กันแน่
แต่หลิงเทียนโหวยิ่งสุดยอดกว่า ไอสังหารพวยพุ่ง ร่ายรำง้าวใหญ่กลางอากาศ เต็มไปด้วยความเผด็จการ จู่โจมอย่างเอาแต่ใจ
“แข็งแกร่งนัก!”
ทุกคนอุทานอย่างตะลึง
เหล่าผู้กล้ารุ่นเยาว์อย่างไป๋หลิงซี ซ่งอี้ อวิ๋นฝูเฉิน เว่ยฉือเจ๋อยิ่งเผยสีหน้าจริงจัง ความสามารถที่แสดงออกมาหลายครั้งของหลินสวินทำให้พวกเขาแปลกใจ
ความน่ากลัวในพลังการต่อสู้ของหลิงเทียนโหว ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกกังวล!
ความจริงขอเพียงแค่ตามีแววสักหน่อยก็จะดูออกว่า การประลองในครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นการท้าชิงชั้นยอดที่สุดของระดับมหาสมุทรวิญญาณในจักรวรรดิจื่อเย่า เรียกได้ว่าเป็นที่หนึ่งในโลก
ส่วนหลินสวินและหลิงเทียนโหวซึ่งอยู่ในฐานะสองฝ่ายที่ประลองกัน เรียกได้ว่าเป็นผู้ที่น่าทึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ท่าทางห้าวหาญเสมือนสามารถทำลายล้างสรรพสิ่งเช่นนั้น ถือว่าโดดเด่นในบรรดาเหล่าผู้กล้า!
ตู้ม!
ทอดสายตามองไป แสงสีฟ้าอ่อนโหมซัดอยู่รอบตัวหลินสวินราวกับพายุ ส่วนหลิงเทียนโหวกลับเผยไอสังหารอย่างกำเริบ ทั้งสองฆ่าฟันกันอย่างดุเดือด ราวกับสองเทพกำลังประลองกันไม่มีผิด
ปังๆๆ!
เสียงชนกระแทกราวกับสายฟ้าที่ผ่าสะเทือนนภา หลินสวินถูกโจมตีจนล่าถอยไม่หยุด เสื้อผ้าเปื้อนเลือด
พลังการต่อสู้ของหลิงเทียนโหวน่าสะพรึงกลัวมากเกินไป ง้าวสีทองในมือยิ่งเป็นอาวุธทรงพลัง สำแดงอานุภาพทำลายล้างไม่มีที่สิ้นสุด
อาศัยเพียงหมัดเปล่า เห็นชัดว่าหลินสวินเสียเปรียบไม่น้อยจริงๆ
แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น หลิงเทียนโหวก็ยังไม่สามารถล้มหลินสวินได้ในทันที ต้องยอมรับว่าความแข็งแกร่งของหลินสวินเรียกได้ว่าน่ากลัวจริงๆ
ทุกคนล้วนตระหนักได้ว่า ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร นับตั้งแต่วันนี้หลินสวินได้ทะยานขึ้นมาอยู่ในอันดับผู้กล้าแห่งนครต้องห้ามสำเร็จแล้ว ไม่เพียงชนะฉือฉางเฟิง ยิ่งไปกว่านั้นคือสามารถประลองกับหลิงเทียนโหวได้ เท่านี้ก็เพียงพอทำให้ชื่อเสียงของเขาสะเทือนไปทั่วทุกสารทิศแล้ว
“หลินสวิน ข้าใช้พลังไปแค่เจ็ดส่วนเองนะ เจ้ากลับใกล้จะแย่แล้ว ทำให้เขาผิดหวังมาก!”
หลิงเทียนโหวตะคอก เส้นผมยาวทั้งศีรษะพลิ้วไปตามลม นัยน์ตาสาดประกายสายฟ้าสีเลือด ไอสังหารในตัวเดือดดาลสะเทือนนภา
เขาก้าวเดินกลางอากาศ ง้าวใหญ่สีทองส่องสว่างราวกับตะวันจันทรา แทงใส่หน้าอกของหลินสวินรุนแรง ระเบิดเสียงคำรามสะเทือนหู
ปัง!
เป็นเสียงปะทะอันน่าตะลึงอีกครั้ง หลินสวินหลบการโจมตีนี้พร้อมกับปล่อยหมัดกระแทกใส่ง้าวสีทอง
หลิงเทียนโหวไม่ใส่ใจ เพียงเผยรอยยิ้มน่ากลัว หมายจะโบกตวัดง้าวใหญ่กดดันให้หลินสวินถอยออกไป
แต่ใครจะคิดว่าจู่ๆ เขาก็รู้สึกเพียงว่าง้าวหนักขึ้น แรงกำลังอันน่าสะพรึงกลัวราวกับคลื่นน้ำที่ถาโถมเข้ามา เกิดเสียงดังปังคราหนึ่ง สะเทือนจนง่ามนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ของเขาชาวาบ เลือดลมโหมคลั่ง ง้าวทองแทบจะหลุดมือไป
“หืม?”
หลิงเทียนโหวนัยน์ตาหดรัดลง เขาสัมผัสได้อย่างฉับไวว่าพลังโจมตีครั้งนี้ของหลินสวินทวีความรุนแรงขึ้นมาก!
พลังของเจ้าหมอนี่เปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้น!
หรือว่าเขาก็เก็บกลั้นมาโดยตลอดเช่นกัน?
“ตายซะ!”
หลิงเทียนโหวสะบัดง้าวพุ่งเข้าไปพร้อมไอสังหารอย่างไม่ลังเล
ฮูม~~
ง้าวทองส่องสว่างเล่มนั้นของเขาแผ่คลื่นสีทองไม่มีที่สิ้นสุดสะเทือนท้องนภา ทำให้ทุกคนต่างตะลึง ด้วยจำวิชาลับอันน่าสะพรึงกลัวนี้ได้
วิชาคลื่นทองท่องนภา!
วิชาชั้นยอดที่สืบทอดมาจากราชวงศ์ พลังอำนาจยากคาดเดา!
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนไหวหวั่นคือ แม้พลังของหลิงเทียนโหวจะยิ่งใหญ่เพียงใด แต่หลินสวินก็ไม่เคยถูกกำราบแพ้พ่ายในทันทีเลย!
เห็นเพียงว่าในลานแสดงยุทธ์นั้น หลินสวินฟาดฟันกับหลิงเทียนโหว พุ่งปะทะดุเดือด แม้เสื้อผ้าจะเปื้อนเลือด เป็นฝ่ายถอยต่อเนื่อง แต่พลังของเขากลับยิ่งแข็งกล้า ตัวเขาราวกับภูเขาไฟที่สงบนิ่งมานาน พลังอำนาจเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ!
ทุกคนต่างอึ้งงันตกตะลึง หลินสวินคนนี้เหลือเชื่อเกินไปหรือเปล่า
แม้แต่หลิงเทียนโหวยังขมวดคิ้ว รู้สึกเหนือความคาดหมายอยู่บ้าง
เพิ่งอยู่ในระดับมหาสมุทรขั้นกลางเท่านั้น ในด้านระดับพลังปราณด้อยกว่าตนไปขั้นหนึ่งแล้ว ทั้งยังถูกโจมตีต่อเนื่องจนแทบจะต้านไม่ไหวแล้ว
ใครจะไปคิดว่าพลังของเด็กนี่กลับแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ!
เป็นไปได้อย่างไร?
หลิงเทียนโหวแปลกใจ ในขณะเดียวกันก็ยิ่งเดือดดาล งัดวิชาทั้งหมดที่มีโจมตีหลินสวินเต็มกำลัง!
ตู้ม!
ด้วยการโจมตีด้วยโทสะของหลิงเทียนโหว เพียงชั่วขณะเดียวบนหน้าอกของหลินสวินก็ถูกกรีดเป็นรอยแผล เลือดสดๆ ไหลทะลัก อีกนิดเดียวก็ถูกผ่าอกตัดเอวขาดไปแล้ว
นี่ทำให้คนมากมายอุทานด้วยความตกตะลึง สั่นสะเทือนอย่างควบคุมไม่อยู่ ในที่สุดหลิงเทียนโหวก็เดือดดาลจนคิดเผด็จศึกหลินสวินแล้ว
พวกฮวาอู๋โยว ฮวาอู๋เหิน ซ่งเจ๋อ ซ่งชงเฮ่อยิ่งอุทานด้วยความตื่นเต้นยินดี พวกเขารอฉากนี้มานานแล้ว
ด้านหลิ่วชิงเยียนแอบร้อนใจ เจ้าหมอนี่โง่เกินไปแล้ว ทำไม่จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้จักใช้อาวุธ? ปรมาจารย์นักสลักวิญญาณอย่างเขาจะไม่มีอาวุธเลยแม้แต่ชิ้นเดียวได้อย่างไร!
จะรู้แพ้ชนะแล้วหรือ?
ผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆ ก็ถูกดึงดูดเช่นกัน จ้องตาไม่กะพริบ ความจริงหลินสวินใช้เพียงมือเปล่าสู้มาถึงตอนนี้ได้ก็เหนือความคาดหมายของพวกเขาแล้ว
ยามนี้พอเห็นว่าในที่สุดหลินสวินก็บาดเจ็บ พวกเขาก็แอบโล่งอกอย่างไม่ทราบสาเหตุ ด้วยเพราะถ้าแม้แต่หลิงเทียนโหวยังทำอะไรหลินสวินไม่ได้ นั่นมันก็น่ากลัวเกินไปแล้ว
——
Comments