CLS ตอนที่ 390: ระเบิดพลังรบ 81 ล้าน!

 

โครงกระดูกมังกรสวรรค์คลั่งไปโดยสมบูรณ์ หลังจากคำรามออกมา มันก็พลันกระโจนเข้ามาที่นี่อย่างบ้าคลั่ง ตรงเข้าใส่เริ่นหลงพร้อมกับพ่นลมหายใจสุดแข็งแกร่งออกมา ในพริบตา พลังที่ร้ายกาจก็กดทับเข้าใส่เริ่นหลง

 

สีหน้าเริ่นหลงเปลี่ยนไป โครงกระดูกมังกรสวรรค์ตนนี้ไม่ยอมรับฐานะของเขาโดยสมบูรณ์ ทั้งยังต้องการสังหารเขาสิ้นซาก

 

และในตอนนี้เอง ก็ได้มีศรน้ำแข็งพุ่งออกไป ทะลวงผ่านลมหายใจของมังกรสวรรค์ พร้อมกับระเบิดใส่ร่างโครงกระดูกของมัน!

 

“เปรี้ยง!”

 

ศรน้ำแข็งระเบิดออกบนร่างโครงกระดูกมังกรสวรรค์ แต่ก็ไม่อาจทะลวงผ่านโครงกระดูกที่แข็งแกร่งของมันได้ ทำได้เพียงระเบิดออกเมื่อปะทะเท่านั้น ก่อให้เกิดเป็นความเย็นขีดสุด ปกคลุมเข้าที่ร่างโครงกระดูกของมัน ทำให้ร่างของมันปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งหนา

 

แต่โครงกระดูกที่มีความแข็งแกร่งเทียบได้กับศาสตราวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ ย่อมไม่มีทางเป็นอะไรไปเพียงเพราะศรน้ำแข็งดอกนี้อย่างแน่นอน ชั้นน้ำแข็งที่ปกคลุมร่างนั้น ทำได้เพียงหยุดชะงักมันได้เพียงพริบตาเท่านั้น

 

“แกรก แกรก…..”

 

โครงกระดูกมังกรสวรรค์เกิดการซวนเซไปซ้ายทีขวาที จากนั้นชั้นน้ำแข็งที่คลุมร่างของมันก็หลุดร่วงออกมาอย่างรวดเร็ว ความเย็นขีดสุดที่ปล่อยออกมา สร้างผลลัพธ์ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น กับโครงกระดูก ความเย็นสร้างความเสียหายให้มันได้จำกัดจริงๆ

 

“ดูเหมือนว่าความเสียหายที่ได้จะมีจำกัด งั้นก็ต้องกำราบเจ้าด้วยพลัง!”

 

ดวงตาของอี้เทียนหยุนมีประกายวาบผ่าน ทั่วทั้งร่างปลดปล่อยพลังงานสีดำออกมา อึดใจต่อมา เขาก็กลายร่างเป็นมังกรยักษ์ แปรสภาพเป็นมังกรมารขนาดใหญ่ เทียบกันแล้วยังใหญ่กว่าโครงกระดูกมังกรสวรรค์เสียอีก! ร่างมังกรสวรรค์อย่างมากก็มีขนาดไม่เกิน 50-60 เมตร แต่ร่างมังกรมารของเขามีขนาดมากถึง 100 เมตร

 

เริ่นหลงที่ได้เห็นก็แสดงอาการตกใจออกมา แม้ว่าเขาจะมีสายเลือดมังกรสวรรค์อยู่ แต่ว่าเขาก็ไม่สามารถแปลงร่างเป็นมังกรที่แท้จริงได้ จริงอยู่ที่พวกเขาอาจจะมีสายเลือดที่บริสุทธิ์ แต่ถึงยังไงก็ยังไม่สามารถแปลงร่างเป็นมังกรตัวเป็นๆ ได้ อย่างดีก็ทำได้เพียงเรียกเกล็ดมังกรออกมาคลุมร่างเท่านั้น

 

“เขา เขาเป็นเผ่ามังกรอย่างงั้นเหรอ?” เริ่นหลงพูดด้วยความตกใจ

 

ไม่มีใครรู้ว่าร่างมังกรมารนี้เป็นผลมาจากชุดเกราะที่เขาใส่ อย่างเขาจะไปเป็นผู้เชี่ยวชาญเผ่ามังกรได้ยังไงกัน

 

“เผ่า เผ่ามังกร…..” เบ้าตาที่กลวงโบ๋ของโครงกระดูกมังกรสวรรค์มีเปลวไฟลุกโชนขึ้น ดูแล้วคล้ายกับดวงตาอย่างไงอย่างงั้น ราวกับต้องการที่จะมองร่างของอี้เทียนหยุนให้ชัดเจน

 

แต่ว่าอี้เทียนหยุนไม่สนใจ เขาทำการพาร่างขนาดใหญ่พุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับฟาดหางมังกรที่ทั้งยาวทั้งหนาราวกับแส้ แหวกอากาศออกไป

 

“เปรี้ยง!”

 

ภายใต้หางมังกรมารที่ฟาดออกมา ทำให้โครงกระดูกมังกรสวรรค์หน้าทิ่มพื้น แม้ว่ากระดูกจะไม่แตก แต่ก็ถูกกดเอาไว้

 

“สารเลว ศักดิ์ศรีของมังกรสวรรค์ ไม่สามารถดูหมิ่นได้!”

 

โครงกระดูกมังกรสวรรค์ร้องคำรามออกมา พร้อมกับพยายามดิ้นให้หลุด แต่ก็ถูกอี้เทียนหยุนกดเอาไว้อย่างแน่นหนา ไม่สามารถสะบัดหลุดออกมาได้แม้แต่น้อย จริงดูที่โครงกระดูกมังกรสวรรค์จัดว่ามีพลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก แต่ถึงยังไงก็ได้ตายไปแล้ว ดังนั้น ภายใต้พลังที่แสนอหังการของอี้เทียนหยุนจึงกดโครงกระดูกมังกรสวรรค์ได้อย่างอยู่หมัด จนไม่สามารถดิ้นหลุดออกไปได้

 

“ปล่อยเดิ๋ยวนี้!”

 

โครงกระดูกมังกรสวรรค์ร้องคำรามออกมาอีกครั้ง พร้อมกับระเบิดความแข็งแกร่งของมังกรสวรรค์ออกมา ทำให้มีร่างเงาของมังกรสวรรค์ปรากฏขึ้น ก่อนที่จะรวมเข้ากับร่างโครงกระดูก ดูราวกับกำลังคืนชีพ ทำให้พลังรบของมันเพิ่มขึ้นพรวดพราด มากยิ่งกว่า 2 เท่า จนไต่ระดับขึ้นไปถึง 70 ล้าน

 

ด้วยพลังที่แสนจะป่าเถื่อนของมังกรสวรรค์ ทำให้มันสะบัดอี้เทียนหยุนจนกระเด็นไป ก่อนที่จะอัดเข้ากับกำแพงที่อยู่ใกล้ๆ ก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรง พลังที่แสนจะป่าเถื่อนนี้ ทำให้ผู้คนถึงกับใจสั่น

 

“ตายแล้วแต่ยังแข็งแกร่งขนาดนี้ ช่างท้าทายสวรรค์จริงๆ….”

 

อี้เทียนหยุนบินไปอย่างรวดเร็ว การโจมตีนี้สำหรับเขาไม่ได้รุนแรงอะไรนัก แต่ว่าโครงกระดูกมังกรสวรรค์นี้แข็งแกร่งเกินไป ถึงกับสะบัดหลุดจากการกดทับของเขาได้ ถ้าเป็นอย่างนี้ เขาคงไม่มีทางจัดการกับโครงกระดูกมังกรสวรรค์นี้ได้จริงๆ

 

ความแข็งแกร่งของโครงกระดูกมังกรสวรรค์นี้เมื่อเทียบกับขุนพลฟงแล้ว แข็งแกร่งกว่าอีกขั้น พูดได้เพียงว่าโครงกระดูกมังกรสวรรค์นี้ก่อนที่จะตายร้ายกาจเกินไป ไม่ง่ายเลยที่จะสะกดอีกฝ่ายไว้

 

“เปิดใช้งานโหมดคลั่ง!”

 

“เปิดใช้งานสายเลือดเทพมังกรเต็มพิกัด!”

 

ภายใต้การเปิดใช้งานทั้งสองอย่าง ทำให้พลังรบของเขาเพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรงในพริบตา

 

พลังรบ 41 ล้าน!

 

พลังรบ 48 ล้าน!

 

พลังรบ 58 ล้าน!

 

พลังรบ 63 ล้าน!

 

หลังจากระเบิดพลังออกมาอย่างสมบูรณ์ ทำให้พลังรบของเขาพุ่งไปแตะถึงระดับ 63 ล้าน ขาดอีกนิดเดียวก็จะเท่ากับอีกฝ่ายแล้ว

 

“ยกระดับสายเลือดเทพมังกร!”

 

“ติ๊ง สูญเสียค่าความคลั่ง 560,000 เลื่อนระดับสายเลือดเทพมังกรขึ้นเป็นขั้นที่ 5 สำเร็จ!”

 

“ติ๊ง สายเลือดเทพมังกรยกระดับเป็นขั้นที่ 5 สำเร็จ, ช่วยเพิ่มพลังขึ้น 12 เท่า, ระดับถัดไปต้องการค่าความคลั่ง 5 ล้าน!”

 

“เปรี้ยง!”

 

หลังจากสายเลือดเทพมังกรเพิ่มระดับ พลังก็เพิ่มขึ้นมากถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับขั้นที่ 4 แทนที่จะเป็น 16 เท่า ถ้าเป็น 16 เท่า งั้นคงคงจะท้าทายสวรรค์เกินไป

 

ในตอนนี้ เกล็ดบนร่างของเขาเริ่มกลายเป็นสีแดง เห็นได้ชัดว่าเกล็ดของมังกรมารคือสีดำ แต่ตอนนี้มันกลับค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง จากนั้น ร่างเงาของเทพมังกรก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขา ราวกับเทพมังกรที่ลงมาจุติยังโลกมนุษย์!

 

พลังรบ 65 ล้าน!

 

พลังรบ 68 ล้าน!

 

พลังรบ 71 ล้าน!

 

“คำราม!”

 

อี้เทียนหยุนเงยหน้าพร้อมกับคำรามออกมา พลังที่ร้อนระอุทำให้จิตใจของผู้คนต้องสั่นด้วยความกลัว ก่อนที่จะฟาดหางมังกรออกไปอย่างแรง พลังที่ปล่อยออกไปในคราวนี้ เทียบกับก่อนหน้านี้แล้วแข็งแกร่งกว่ามาก

 

“เปรี้ยง!”

 

โครงกระดูกมังกรสวรรค์ก็โจมตีกลับเช่นกัน หางของอี้เทียนหยุนปะทะกับร่างของโครงกระดูกมังกรสวรรค์ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพลังของอี้เทียนหยุนนั้นเหนือกว่า ภายใต้การระเบิดพลังอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาในตอนนี้เหนือกว่าโครงกระดูกมังกรสวรรค์ตนนี้แล้ว ร่างมหึมาของอีกฝ่ายถูกกดลง แต่ก็ยังฝืน ไม่ยอมถูกสะกดลงกับพื้นง่ายๆ

 

พูดได้ว่าความต่างของพลังน้อยเกินไป ดังนั้นจึงไม่สามารถสะกดโครงกระดูกมังกรสวรรค์นี้ลงได้

 

“เกียรติของมังกรสวรรค์ ไม่อาจ…..”

 

“ไม่อาจหัวเจ้าสิ เผาผลาญแกนโลหิต จงระเบิดให้กับข้า!”

 

อี้เทียนหยุนร้องคำรามด้วยความโกรธ พร้อมกับเผาแกนโลหิตในร่าง พริบตา พลังรบของเขาก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง!

 

พลังรบ 75 ล้าน!

 

พลังรบ 78 ล้าน!

 

พลังรบ 81 ล้าน!

 

พลังรบของเขาเพิ่มขึ้นอีก 10 ล้าน จากการเผาผลาญแกนโลหิต หากดูเฉพาะตัวเลขนี้อาจจะดูเหมือนไม่มากนัก แต่หากดูผลรวมทั้งหมดแล้ว นี่กลับเป็นตัวเลขที่น่าสะพรึง

 

“เปรี้ยง!”

 

พลังถูกส่งไปยังหางมังกรอีกครั้ง ครั้งนี้สามารถกดจนโครงกระดูกมังกรสวรรค์ต้องหน้าทิ่มพื้น เกิดเป็นเสียงดังสนั่น ร่างของโครงกระดูกมังกรสวรรค์ถูกจมลึกลงไปในดิน ก่อให้เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่

 

“แกรก!”

 

ภายใต้แรงกดที่ร้ายกาจ ร่างโครงกระดูกมังกรสวรรค์เริ่มเกิดการแตกร้าว แม้จะมีความแข็งแกร่งเทียบเท่าอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ แต่ในเวลานี้กลับดูเปราะบาง

 

อี้เทียนหยุนยังไม่หยุดโจมตี ยังคงกดทับลงไปอย่างต่อเนื่อง จนร่างโครงกระดูกมังกรสวรรค์แตกหัก บังคับร่างอีกฝ่ายจากการเคลื่อนไหว เขาคงสภาวะนี้ได้ไม่นานนัก ดังนั้นจึงต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุด

 

เริ่นหลงที่มองอยู่ไม่ไกลก็ได้ตกตะลึงอย่างหนัก พลังที่ป่าเถื่อนนี้ ต่อให้เขาจะฟื้นตัวเต็มที่ก็ไม่สามารถต้านทานได้ เพราะเทียบกันแล้วพลังนี้แข็งแกร่งกว่าระดับเดียวกันไปมาก หากไม่ใช่ผู้มีพลังเหนือกว่าระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 6 ที่ 7 ไม่มีทางสะกดโครงกระดูกมังกรสวรรค์ตนนี้ได้

 

แต่ถ้าหากคิดจะสะกดอี้เทียนหยุนล่ะก็ อย่างน้อยต้องเป็นผู้มีพลังระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 7 ที่ 8 นี่ช่างเป็นพลังที่ท้าทายสวรรค์จริงๆ