CLS ตอนที่ 490: ภารกิจสำเร็จ!

 

“หมิงต้าเหริน เจ้าทำอะไร?”

 

ผู้อาวุโสลั่วที่อยู่ใกล้ๆ สีหน้าโกรธขึ้ง อยู่ๆ ก็โจมตีออกไป ยิ่งกว่านั้นยังเป็นถิ่นของเขาอีก นี่จึงทำให้เขาโกรธขึ้นมา

 

“ไม่มีอะไร ข้าก็แค่รู้สึกว่าอยู่ๆ ก็มีจิตสังหารพุ่งมาที่ข้า จึงเผลอโจมตีสวนกลับไป แม้ไม่รู้ว่าจะโจมตีถูกไหม แต่ก็ได้โปรดอย่าใส่ใจ” หมิงเฉินส่งยิ้มใจเย็นออกไป เขาอยากจะทำอะไร ไม่จำเป็นต้องสนใจผู้อาวุโสลั่ว

 

“จิตสังหาร?” ผู้อาวุโสลั่วสีหน้าจมลง พร้อมกับมองไปยังทางที่หมิงเฉินโจมตีออกไป แต่ก็ไม่พูดอะไร

 

“เรื่องนั้นจะยังไงก็ช่าง แต่ขอให้ผู้อาวุโสลั่วโปรดตัดสินใจ พวกเราน่ะไม่เป็นอะไรหรอก แต่พวกท่านน่ะต่างออกไป” หมิงเฉินยิ้ม พร้อมกับหมุนตัวแล้วโบกมือพูดขึ้นว่า “ไป!”

 

พร้อมกันนั้นเขาก็เดินขึ้นไปนั่งบนรถลาก ด้านหน้าเป็นมังกรยักษ์ระดับผันแปรวิญญาณที่ทำหน้าที่ลากรถ ทั้งของตกแต่งยังหรูหราไม่ธรรมดา เป็นสัญลักษณ์แห่งฐานะ พร้อมกับเสียงคำรามกึกก้องของมังกร มังกรลากรถก็ทำการโผบินขึ้นไปในอากาศ ส่วนผู้ฝึกตนคนอื่นๆ ทำได้เพียงรีบบินตามไปใกล้ๆ เท่านั้น

 

ความเร็วในการบินของมังกรยักษ์ แน่นอนว่าย่อมต้องช้ากว่าหมิงเฉินมาก แต่ว่านี่เป็นสัญลักษณ์ที่ไว้ใช้แสดงถึงฐานะของเขา

 

“แปลกมาก จิตสังหารนั่นหายไปอย่างรวดเร็ว แล้วยังจะวิชาเคลื่อนที่ที่ปกปิดกลิ่นอายได้ดีนั่นอีก? แท้จริงแล้วใครกันแน่ที่พุ่งจิตสังหารมาทางข้า? หรือว่าจะเป็นเผ่าฟีนิกซ์?”

 

หมิงเฉินขมวดคิ้ว ขณะที่สายตามีประกายแห่งจิตสังหารขึ้นหลายส่วน “คิดจะสังหารคนของข้า…. เผ่าฟีนิกซ์นี่ช่างไม่รู้จักขีดจำกัดจริงๆ ข้าก็อยากจะรู้นัก ว่าพวกเจ้าจะทนไปได้นานแค่ไหน แล้วก็เจ้าเด็กนั่น ไว้เรื่องนี้เสร็จเมื่อไหร่ ข้าจะต้องไปหามันด้วยตัวเอง! กล้าทำลายแผนการของข้า มันจะต้องชดใช้!”

 

เขานึกถึงความเจ็บปวดที่ได้รับจากจิตวิญญาณถูกทำลาย ก็อดไม่ได้ต้องโบกมือออกไป ปล่อยการโจมตีออกไปรอบๆ โดยที่ไม่โดนคนฝั่งเดียวกัน แต่ไปตกอยู่ที่ถัดไป การระเบิดนี้ไม่รู้ว่าจะไปโดนใครบ้างหรือเปล่า แต่ถึงจะโดนเขาก็ไม่ใส่ใจ

 

ผู้คุ้มกันรอบๆ ยังคงไม่ตื่นตัวกับสัญญาณประหลาดนี้ ตราบเท่าที่ไม่โจมตีตัวเขา เรื่องอื่นก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องทำ

 

หลังจากหมิงเฉินจากไป ทางด้านผู้อาวุโสลั่วก็ขมวดคิ้ว พร้อมกับพูดอย่างเย็นชา “ข้าไม่เชื่อว่านอกจากแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงแล้ว จะไม่มีช่วยจัดการปัญหาที่นี่ให้พวกเราได้!”

 

“ผู้อาวุโสลั่ว การเจรจาเป็นยังไงบ้าง?” ผู้คุ้มกันที่อยู่ใกล้ๆ ถามขึ้น

 

“ก็ไม่อะไรทั้งนั้น แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงเรียกราคาที่สูงเกินไป เปิดปากก็เรียกร้องไข่ฟีนิกซ์ของพวกเราถึง 5 ฟอง แล้วยังจะแก่นโลหิตฟีนิกซ์อีก 20 หยด!” ผู้อาวุโสลั่วพูดเรื่องนี้ด้วยท่าทางโมโห สำหรับราคานี้ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถยอมรับได้

 

“ไข่ฟีนิกซ์ 5 ฟอง แล้วยังแก่นโลหิตฟีนิกซ์อีก 20 หยด….. ไม่ใช่ว่านี่เป็นการเรียกราคาสูงเกินไปหรอกเหรอ? นี่มันคิดจะกลืนกินพวกเราเข้าไปชัดๆ!” ผู้คุ้มกันคนนั้นเดือนดาล นี่มันจะข้ามเส้นของพวกเขาเกินไปแล้ว

 

ไข่ฟีนิกซ์ 5 ฟองก็เท่ากับส่งฟีนิกซ์ 5 ตนออกไป แค่เรื่องนี้ก็ไม่สามารถคุยกันได้แล้ว

 

ผู้อาวุโสลั่วยกมือขึ้น บอกให้พวกเขาหยุดพูด จากนั้นสายตาก็จับจ้องไปยังทิศทางที่อยู่ไม่ไกล อย่างรวดเร็ว ก็ได้มีเงาร่างหนึ่งเดินออกมา นั่นก็คืออี้เทียนหยุนนั่นเอง

 

คราวนี้เขาไม่ซ่อนตัว เดินออกมาโต้งๆ เขาไม่ได้บุกเข้าไป รังฟีนิกซ์มีผู้เชี่ยวชาญอยู่นับไม่ถ้วน หากเขาบุกเข้าไป นั่นย่อมเป็นการฆ่าตัวตายอย่างไม่ต้องสงสัย แค่ผู้อาวุโสลั่วตรงหน้าก็มีพลังระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 7 แล้ว

 

ไม่เสียทีที่เป็นถึงขุมอำนาจระดับแดนศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่าย่อมมีผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณอยู่เป็นเรื่องธรรมดา แม้ว่าจะไม่สามารถพบได้ทุกที แต่อย่างน้อยก็ไม่สามารถเจอได้ตามใจ

 

“เจ้าเป็นใคร? ใจกล้าไม่เบานี่ เป็นเจ้าใช่ไหมที่ปล่อยจิตสังหารเข้าใส่หมิงเฉินเมื่อกี้นี้?” ผู้อาวุโสลั่วมองสำรวจเขาโดยไม่มีความเป็นปรปักษ์ การที่เป็นศัตรูกับหมิงเฉิน ก็เท่ากับมีความแค้นที่ใหญ่หลวงกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง เขาก็ไม่ชอบแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงเช่นกัน ดังนั้นจึงรู้ว่าร่างนี้ไม่ได้มาร้าย

 

“ใช่” อี้เทียนหยุนพยักหน้า ไม่ปฏิเสธ ในนี้เป็นถิ่นของเขา การปฏิเสธย่อมไม่ใช่เรื่องดี

 

“แล้วไม่ทราบว่าเจ้ามาที่เผ่าของข้าทำอะไร?” ผู้อาวุโสลั่วมองมาที่เขาพร้อมกับพูดอย่างไม่แยแส “แม้ว่าเจ้าจะมีจิตสังหารให้กับหมิงเฉิน และไม่ชอบแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง แต่เจ้าควรรู้ว่าเผ่าฟีนิกซ์ของเราไม่ต้อนรับผู้ฝึกตนเผ่ามนุษย์?”

 

คำพูดนี้ของเขาเท่ากับเป็นการไล่ทางอ้อม หากไม่ใช่ว่ามีศัตรูคนเดียวกันอย่างแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง บางที ผู้คุ้มกันที่นี่อาจจะถีบเขากระเด็นออกไป หรือไม่ก็สังหารเขาทิ้งก็เป็นได้

 

เผ่ามนุษย์ชอบขโมยทรัพยากรของเผ่าฟีนิกซ์อยู่เป็นประจำ แล้วอย่างนี้ใครจะรู้สึกดีด้วยกัน?

 

“เรื่องนี้ข้ารู้ แต่ว่าข้าได้พาคนในเผ่าของท่านมาส่ง” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง

 

“พาคนในเผ่าของเรามาส่ง?” สายตาของผู้อาวุโสลั่วหรี่ลง

 

จากนั้น อี้เทียนหยุนก็ไม่พูดอะไรมาก แต่ทำการโบกมือออกไป จากนั้นเหยียนเอ๋อก็ปรากฏตรงหน้าพวกเขา เพิ่งจะออกมา เหยียนเอ๋อก็กระโดดเก่าแขนอี้เทียนหยุนแน่น พร้อมกับจ้องมองไปที่พวกเขา โดยไม่กล้าเข้าไปใกล้

 

เมื่อพบคนแปลกหน้า เธอไม่มีความร่าเริง และก็ไม่ออกมาจากช่องเก็บสัตว์เลี้ยงตามใจ

 

“นี่คือคนในเผ่าท่าน ก่อนที่วิญญาณแม่ของเธอจะสลายไป ได้บอกข้าให้พาเธอกลับมา” อี้เทียนหยุนพูด

 

“นี่ นี่….” ผู้อาวุโสลั่วมองมาที่เหยียนเอ๋อแล้วตกใจ พร้อมกับมองดูเธออย่างระวังอยู่สักพัก จากนั้นเบ้าตาก็พลันแดงก่ำ “เหมือน เหมือนมาก…. หรือจะเป็นลูกของลั่วหวง เหมือน เหมือนกันจริงๆ…..”

 

เขาเดินเข้าไปกอดเหยียนเอ๋อ แต่ว่าเหยียนเอ๋อกลับรีบไปหลบหลังอี้เทียนหยุนอย่างไว พร้อมกับร้องออกมาด้วยเสียงเด็กๆ ว่า “เจ้าเป็นใคร ท่านพ่อข้าร้ายกาจมากนะ!”

 

“พ่อ?” ผู้อาวุโสลั่วมองมาที่อี้เทียนหยุนแล้วพูดขึ้น “พ่อของเจ้าไม่ใช่เขา ไม่มีทางเป็นไปได้…..”

 

อี้เทียนหยุนกระอักกระอ่วน แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ใช่พ่อของเธอ แต่เธอนึกว่าเขาเป็นพ่อ แล้วจะให้เขาทำยังไง?

 

“น่าอายจริงๆ ข้าเป็นคนดูแลเธอ ดังนั้นเธอจึงคิดว่าข้าเป็นพ่อ” อี้เทียนหยุนพูดอย่างกระอักกระอ่วน

 

“เข้าไปคุยกันข้างในดีกว่า อยู่นี่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่” ผู้อาวุโสลั่วบอกให้อี้เทียนหยุนเข้าไปข้างใน ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อ ท่าทางของเขาพลันเปลี่ยนไป จากนั้นก็พูดกับเหยียนเอ๋อว่า “ข้าคือปู่ของเจ้า ไม่ใช่คนไม่ดี…..”

 

เหยียนเอ๋อใช้ดวงตาที่น่ามองจับจ้องไปที่เขา แล้วพูดอย่างสงสัยว่า “ปู่เหรอ? ไม่รู้จักอ่ะ”

 

ผู้อาวุโสลั่วเงยหน้ามองไปที่อี้เทียนหยุนแล้วพูดอย่างอึดอัดว่า “ยังเด็กเกินไป หากว่าโตกว่านี้ ความทรงจำก็คงจะตื่นขึ้น แล้วก็จะได้ความทรงจำหลายๆ อย่างกลับมา”

 

พวกเขามีความสามารถสืบทอดความทรงจำต่อกัน คนแต่ละรุ่นต่างก็มีความสามารถนี้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับสายสัมพันธ์ ดังนั้นเพียงแค่เพิ่งเกิดได้ไม่ได้ ก็มีวิชายุทธ์ติดตัวมาแล้ว

 

เหยียนเอ๋อตอนนี้ก็เป็นวิชายุทธ์เหมือนกัน เพียงแต่ว่ายังไม่มีโอกาสได้แสดงออกมา

 

“เรื่องนี้ข้าเข้าใจ ดังนั้นจึงได้รับหน้าที่พาเธอกลับมานี่ไง…..”

 

คำพูดเพิ่งจะจบ ก็พลันมีแสงส่องลงมาจากความว่างเปล่า เป็นการบอกว่าเขาได้ทำตามคำสาบานแล้ว พร้อมกันนั้น ก็มีเสียงระบบดังขึ้นมา ทำให้ตาของเขาลุกวาว

 

“ติ๊ง ท่านทำภารกิจรอง “ส่งฟีนิกซ์เพลิงกลับรังฟีนิกซ์” สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 200 ล้าน, ค่าความคลั่ง 1 ล้าน, ค่าความดี 300, ค่าความชอบของเผ่าฟีนิกซ์เพิ่มขึ้น 100!”

 

“ติ๊ง ท่านรับภารกิจรอง “ช่วยเผ่าฟีนิกซ์จัดการปัญหาที่ยากลำบาก” สำเร็จ เมื่อสำเร็จจะได้รับค่าประสบการณ์ 100 ล้าน, ค่าความคลั่ง 500,000, ค่าความชอบของเผ่าฟีนิกซ์เพิ่มขึ้น 100!”

 

เพิ่งจะทำภารกิจหนึ่งเสร็จ ภารกิจอีกอันก็เพิ่มเข้ามา นี่คือภารกิจต่อเนื่อง!