Crazy Leveling System 496: ข้าดูดกลืนได้!
CLS ตอนที่ 496: ข้าดูดกลืนได้!
หลังจากได้รับอนุญาต อี้เทียนหยุนก็พยักหน้า จากนั้นก็มุ่งตรงไปยังด้านหน้าถ้ำฟีนิกซ์ คนอื่นก็พลันสังเกตเห็นเขาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเหล่าผู้อาวุโสที่อยู่ด้านหน้า
“ผู้อาวุโสลั่ว คนของเจ้าคิดจะทำอะไร ทำไมถึงเข้ามาที่นี่ นี่มันบ้าไปแล้วหรือไง!?” เมื่อผู้อาวุโสเหลยเห็นอี้เทียนหยุนเดินเข้ามาที่นี่ ก็คิดว่ามันแปลกๆ หากว่ายังเข้าไปอีก แล้วไม่ระวัง อาจจะถูกเปลวเพลิงนิรันดร์เผาจนเป็นจุลเอาได้
ที่สำคัญเลยคือผู้อาวุโสใหญ่ไม่ได้หยุดเขา ทั้งยังกำลังมองจากด้านหลัง นี่ยิ่งทำให้แปลกขึ้นไปใหญ่
ผู้อาวุโสลั่วก็ตกใจเช่นกัน พวกเขากำลังดูดกลืนเปลวเพลิงนิรันดร์อยู่ ทำให้ไม่สามารถถอนตัวได้ชั่วคราว ดังนั้นจึงทำได้เพียงมองเท่านั้น
“เจ้าเข้ามาทำอะไร รีบกลับออกไปเร็ว!” ผู้อาวุโสลั่วตะโกนออกมา
“ผู้อาวุโสลั่ว ข้ามาช่วยท่านจัดการเปลวเพลิงนิรันดร์นี้” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “และก็เป็นผู้อาวุโสใหญ่ที่อนุญาตให้ข้าเข้ามา”
“ผู้อาวุโสใหญ่อนุญาตให้เจ้าเข้ามา?” พวกเขาพากันตกใจ พร้อมกับหันไปมองผู้อาวุโสใหญ่
และก็พบว่าผู้อาวุโสใหญ่กำลังมองมาด้วยสายตาระยิบระยับ กระทั่งยังเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา นี่ทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ตกลงแล้วมันอะไรยังไง?
โดยที่ไม่รอให้พวกเขาได้สติ อี้เทียนหยุนก็ยื่นมือออกไป พร้อมกับโคจรเคล็ดวิชากลืนสวรรค์ออกมา ทำการดูดกลืนเปลวเพลิงนิรันดร์ที่อยู่รอบๆ เข้ามา ปริมาณของมันนั้น เมื่อเทียบกันแล้ว มากกว่าพวกเขาหลายเท่า
ซึ่งฉากนี้ทำให้คนทั้งหลายพากันตกใจ คนอื่นเขาดูดกันทีละน้อย แต่ว่าเขากลับดูดเอามามากมายในครั้งเดียว นี่ไม่คิดจะมีชีวิตอยู่แล้วหรือยังไง?
ผู้อาวุโสลั่วกับพวกอยากจะขัดขวาง แต่เมื่อเห็นเปลวเพลิงนิรันดร์ที่หมุนเป็นเกลียวเข้ามาด้วยแรงดูดราวกับพายุก็รู้เลยว่าเข้าไปไม่ทัน ซึ่งนี่ทำให้พวกเขาคิดว่าอี้เทียนหยุนจะต้องถูกเผาจนไม่เหลือแม้แต่เถ้ากระดูก แต่ใครจะคิดว่าเปลวเพลิงนิรันดร์ที่ม้วนตลบเข้ามานี้จะหายเข้าไปในร่างของเขาอย่างรวดเร็ว พริบตาก็หายไปมาก ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นการดูดกลืนเข้าไปเหมือนกันพวกเขา ทั้งยังต่อเนื่องไม่มีหยุด
“ท่านได้รับค่าความชำนาญ 1,000, 2,000, 3,000….”
ค่าความชำนาญของเปลวเพลิงนิรันดร์เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งไม่มีหยุด หากว่าเป็นอย่างนี้ต่อไป เปลวเพลิงนิรันดร์ของเขาจะต้องเลื่อนสู่ระดับปฐพีขั้นสูงโดยไม่มีความยากแม้แต่น้อย พูดได้ว่าสบายแบบสุดๆ เพราะว่าเปลวเพลิงนิรันดร์ของเขาในตอนนี้ ยังห่างจากระดับปฐพีขั้นสูงอยู่ไม่ไกล
การดูดกลืนนี้ให้ความรู้สึกดี โดยที่ไม่รู้สึกลำบากแม้แต่น้อย ถึงยังไงวิชาของเขาก็มีไว้เพื่อดูดกลืนอยู่แล้ว ทั้งระดับของเขาก็ไม่ได้อ่อนแอ ทำให้เมื่อรวมกัน จึงทำให้การดูดกลืนเป็นเรื่องง่าย
เมื่อเห็นอย่างนี้ ผู้คนก็พากันตกใจ พวกเขาคิดว่าอี้เทียนหยุนจะต้องถูกเปลวเพลิงนิรันดร์นี้เผาจนไม่เหลือแม้แต่เถ้า แต่ใครจะคิดว่าจะถูกดูดเข้าไปอย่างง่ายดาย ทั้งยังทำอย่างต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นต้องหยุดอีก
“นี่มัน เปลวเพลิงนิรันดร์ไม่มีผลกับเขาเลยอย่างงั้นเหรอ?” พวกเขาพากันตกใจ การดูดกลืนเปลวเพลิงนิรันดร์สำหรับพวกเขาถือเป็นความเจ็บปวดอย่างมาก แต่อี้เทียนหยุนกลับดูดกลืนเข้าไปอย่างง่ายดาย โดยที่ไม่มีอาการหอบแม้แต่น้อย
“ทุกคนไม่ต้องกังวล เปลวเพลิงแต่เดิมของเขาก็คือเปลวเพลิงนิรันดร์ ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าเขาจะถูกเผาหรอก” ผู้อาวุโสใหญ่ถือไม้เท้าเดินเข้ามา พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่คิดว่าสหายน้อยคนนี้จะเป็นดาวนำโชคของเผ่าฟีนิกซ์เรา ไม่เพียงแต่พาหลานสาวของผู้อาวุโสลั่วกลับมาเท่านั้น แต่ยังสามารถควบคุมเปลวเพลิงนิรันดร์ได้อีก หมายความว่าร่างกายของเขาเป็นกายหยางที่ยากที่จะหาพบคนหนึ่ง!”
“เขาสามารถควบคุมเปลวเพลิงนิรันดร์ได้ ไม่ใช่ว่า….. ผู้ที่ควบคุมเปลวเพลิงนิรันดร์ได้จะมีแต่ราชาของพวกเราอย่างงั้นเหรอ ทั้งที่ผ่านมาก็มีอยู่น้อยเผ่ามากที่สามารถควบคุมได้” พวกเขาพากันตกใจ โดยเฉพาะผู้อาวุโสเหลย ในใจของเขายิ่งซับซ้อนกว่าใครทั้งหมด
ก่อนหน้านี้เขาบอกว่าอี้เทียนหยุนมีปัญหา ตอนนี้ยังจะมีปัญหาอะไรอีก? เขาเข้ามาช่วยพวกเขาจัดการปัญหาเรื่องเปลวเพลิงนิรันดร์ ยิ่งกว่านั้นความเร็วของเขายังมากกว่าพวกเขาทุกคนอีก
ผู้อาวุโสลั่วพูดออกมาด้วยสีหน้ามีความสุข “เขาก็เป็นดาวนำโชคจริงๆ นั่นล่ะ ข้าบอกแล้วว่าเขาต่างจากคนอื่น ตั้งแต่แรกที่ได้เจอ ข้าก็คิดว่าเขานั้นแตกต่าง…..”
“เจ้าขี้โม้ หากว่าเขาไม่ใช่คนพาหลานสาวของเจ้ากลับมา เจ้ายังจะคิดกับเขาอย่างนั้นอยู่เหรอ?” ผู้อาวุโสเหลยสีหน้าผ่อนคลาย ไม่ได้มีท่าทางต่อต้านเหมือนก่อนหน้า
“เจ้ายุ่งอะไรด้วย?” ผู้อาวุโสลั่วมองไปยังอี้เทียนหยุนด้วยรอยยิ้ม ยิ่งมองยิ่งประทับใจ
อี้เทียนหยุนยิ้มออกมาบางๆ แต่ก็ไม่ได้พูดแทรก พร้อมทั้งรีบดูดกลืนเปลวเพลิงนิรันดร์เข้ามาในร่างให้เร็วที่สุด เพื่อเปลี่ยนให้เป็นค่าความชำนาญ ยังไงก็ตาม เขาก็ยังขาดอีกมากกว่าจะเลื่อนระดับ ก่อนหน้านี้การเพิ่มความชำนาญให้กับเปลวเพลิงนิรันดร์นั้นยากมาก จนมาถึงตอนนี้นี่ล่ะถึงจะสามารถเลื่อนระดับได้อย่างรวดเร็ว
แต่ว่าเขาก็ไม่มีวิธีที่จะรวบรวมค่าความชำนาญเพื่อเลื่อนระดับได้ในทันที ตอนนี้ยังขาดค่าความชำนาญอีกมากกว่า 50% ดังนั้นจึงต้องดูดกลืนต่อไป
ยังไงก็ตาม หากว่าต้องการดูดกลืนอย่างต่อเนื่อง เขาก็จำเป็นต้องเข้าไปที่ปากถ้ำ เพื่อที่จะได้ดูดกลืนเปลวเพลิงได้มากขึ้น
ดังนั้น อี้เทียนหยุนจึงมองไปทางด้านที่ผู้อาวุโสใหญ่อยู่ แล้วถามขึ้นมาว่า “ข้าขอเข้าไปดูดเปลวเพลิงข้างในได้หรือเปล่า?”
“ได้ เจ้าไปดูดตรงที่จุดรอยต่อนั่นได้เลย” ผู้อาวุโสใหญ่ไม่คัดค้าน
อี้เทียนหยุนพยักหน้า พร้อมกับไปถึงตรงหน้าถ้ำในพริบตา แล้วเริ่มทำการดูดกลืนต่อ ปากถ้ำแห่งนี้กว้างมาก ทั้งยังเต็มไปด้วยเปลวเพลิงนิรันดร์อีก หากเทียบกันแล้ว จำนวนคนที่เข้ามาดูดกลืนที่นี่ คงจะน้อยกว่าข้างนอกมาก
โดยไม่รอช้า เขาก็ได้ทำการดูดกลืนต่ออย่างบ้าคลั่ง คนใหม่ยากจะต่อต้านจริงๆ
ส่วนผู้อาวุโสคนอื่นก็ยิ่งสบาย จากนี้ไปพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องดูดกลืนอีก การดูดกลืนเปลวเพลิงนิรันดร์สำหรับพวกเขา ไม่เพียงแต่จะไม่ได้ประโยชน์เท่านั้น กลับเป็นโทษแทนอีกต่างหาก
“โหดมาก เขาไม่มีปัญหาจริงๆ น่ะเหรอ?” ผู้อาวุโสเหลยจับจ้องไปยังอี้เทียนหยุน ในตอนนี้เหมือนว่าเขาจะไม่สามารถหาข้ออ้างมาอ้างได้แล้ว ทำให้สีหน้าของเขาไม่ได้เต็มไปด้วยความไม่พอใจเหมือนแต่ก่อน
“เขายังจะมีปัญหาอะไรอีก ไม่ได้ฟังที่ผู้อาวุโสใหญ่พูดเหรอ ว่าเขาสามารถควบคุมเปลวเพลิงนิรันดร์ได้น่ะ!” ผู้อาวุโสลั่วพูดด้วยรอยยิ้ม “เขาเป็นคนที่ข้าพามา ไม่คิดเลยว่าเขาจะสามารถช่วยพวกเราได้”
“คนที่เจ้าพามาอะไร เขามาของเขาเองต่างหาก?” ผู้อาวุโสเหลยพูดอย่างดูถูก ทำไมจะต้องให้ผู้อาวุโสลั่วคนนี้เอาความดีเข้าตัวด้วย?
“ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นคนไล่เขาไปเมื่อกี้หรอกเหรอ? หากว่าข้าไม่รั้งเอาไว้ พวกเราคงต้องนั่งจ่อมอยู่ที่นี่แล้ว!” ผู้อาวุโสลั่วถลึงตาใส่เขา นึกถึงตอนที่เถียงกันกับผู้อาวุโสเหลยแล้ว ทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก
“นี่….” ผู้อาวุโสเหลยก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเช่นกัน จะว่าไปก็ใช่ หากว่าไล่อี้เทียนหยุนไป พวกเขาคงต้องนั่งจ่อมอยู่ที่นี่จริงๆ
“เอาล่ะ อย่าได้ทะเลาะกัน ดีแล้วที่สหายน้อยช่วยพวกเราดูดกลืนมัน หากไม่มีเขา ก็ไม่มีทางที่พวกเราจะดูดกลืนได้จนหมด และสุดท้ายก็ต้องยอมร้องของความช่วยเหลือจากแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ไม่มีใครเต็มใจอยากจะเห็น” ผู้อาวุโสใหญ่พูดอย่างจริงจัง
“อืม…..”
พวกเขาพยักหน้า เห็นด้วยกับคำพูดของผู้อาวุโสใหญ่ หากว่าต้องร้องขอความช่วยเหลือจากแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง ราคาที่พวกเขาต้องจ่ายย่อมต้องมหาศาล ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาอยากจะเห็นอย่างแน่นอน
“หลังจากเขาดูดกลืนแล้วเสร็จ พวกเราต้องขอบคุณเขาอีกครั้ง รับรองเขาอย่างดี ทำเหมือนกับว่าเขาเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของเผ่าฟีนิกซ์เรา! สามารถถือครองเปลวเพลิงอมตะไว้ในมือ ในใจจะต้องไม่ใช่คนชั่วร้ายอย่างแน่นอน ดังนั้นการได้เป็นสหายกับคนแบบนี้จึงเป็นเรื่องดี” ผู้อาวุโสใหญ่มองมาที่พวกเขาแล้วพูดขึ้น “หวังว่าคงเข้าใจกันดีนะ!”
“เข้าใจครับ!” สายตาของผู้อาวุโสเหลยไม่ได้เกลียดชังเหมือนแต่ก่อน ทั้งยังไม่ได้เปลี่ยนไปแค่เล็กน้อย ยิ่งกว่านั้น ยังมากไปด้วยความละอาย
เขาสงสัยว่าอี้เทียนหยุนจะมีจิตมุ่งร้าย แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะปฏิบัติต่อเขาเกินไป…..
Comments