CLS ตอนที่ 513: ภารกิจ

 

“วิญญาณร้ายถูกกำจัด แล้วทำไมเจ้าต้องตกใจด้วย?” ไป๋สุ่ยหวงมองไปที่พวกเขา ในนัยน์ตาคู่งามมีความเย็นชาวาบผ่าน พร้อมด้วยจิตสังหาร หากไม่เกรงว่าจะก่อให้เกิดสงครามกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงในทันที เธอคงจะสังหารหมิงเฉินผู้นี้ทิ้งที่นี่แล้ว

 

ระดับของไป๋สุ่ยหวงหากเทียบกับหมิงเฉินแล้ว แข็งแกร่งกว่ามาก การจะสังหารอีกฝ่ายไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด แต่สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือขุมอำนาจเบื้องหลังเขา!

 

สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือค่อยๆ ลดกำลังอีกฝ่ายลงทีละน้อย และเมื่อที่ขุมกำลังของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงลดต่ำกว่า 50% แล้วล่ะก็ เมื่อนั้น กาจจะเป็นฝ่ายเริ่มสงครามก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

 

ค่อยๆ ตอดทีละน้อย จากนั้นก็ทุ่มกำลังเข้าโจมตีโดยตรง ให้พวกเขาได้รู้ซะบ้างว่าเผ่าฟีนิกซ์นั้นแข็งแกร่งแค่ไหน

 

“ก็แค่ตกใจนิดหน่อย อยู่ๆ เผ่าฟีนิกซ์ก็แก้ปัญหาที่ยากจะจัดการนี้ได้ มันก็เลยตกใจน่ะ” หมิงเฉินพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม “แต่ไม่ว่าจะยังไง ในเมื่อเผ่าฟีนิกซ์แก้ปัญหาได้แล้ว ก็คงไม่จำเป็นต้องการความช่วยเหลือจากพวกเรา การมาในครั้งนี้คงเป็นการรบกวนแล้ว โปรดยกโทษให้พวกเราด้วย”

 

“พูดอย่างนั้นได้ยังไง การที่พวกเจ้ามาในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการช่วยเหลือพวกเรา แค่นี้ก็ถือว่าน่าชื่นชมแล้ว สำหรับเรื่องนี้ พวกเราได้จัดการเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น จึงทำให้การมาของเจ้าในครั้งนี้ต้องเสียเปล่า ข้ารู้สึกละอายใจจริงๆ เอาอย่างนี้แล้วกัน เจ้าก็พักที่นี่สักสองสามวัน เผ่าฟีนิกซ์ของพวกเราจะเลี้ยงรับรองพวกเจ้าทั้งสองอย่างดี เจ้าว่าอย่างนี้ดีไหม?” ไป๋สุ่ยหวงเผยรอยยิ้มคลุมเครือออกมา งูร้ายจ้องฉกเหยื่อ แต่กลับถูกไม้ตีเข้าให้ พวกเขากดดันอีกฝ่ายเพื่อที่จะได้เป็นคนแก้ปัญหาเรื่องวิญญาณร้าย แต่กลายเป็นว่าวิญญาณร้ายถูกอีกฝ่ายจัดการไปก่อนนี้ นี่จึงทำให้ใบหน้าของพวกหมิงเฉินกระตุกอยู่หลายครั้ง

 

“ไม่เป็นไร พวกเราก็แค่เป็นห่วงสถานการณ์ของเผ่าฟีนิกซ์ จึงได้มารบกวนอีกครั้ง แต่ในเมื่อแก้ปัญหาได้แล้ว พวกเราก็ไม่ขอรบกวนพวกท่านต่อ” ใบหน้าของหมิงเฉินเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความขอโทษ

 

จากนั้นพวกเขาก็กล่าวลาพร้อมจากไปอย่างรวดเร็ว

 

มองไล่หลังพวกเขาที่จากไป แววตาของอี้เทียนหยุนฉายประกายวาว หากว่าหมิงเฉินมาคนเดียว เขาคงจะแอบจัดการอีกฝ่ายลับๆ แต่ตอนนี้เขามีผู้ติดตามเป็นระดับราชาวิญญาณอยู่คนหนึ่ง ดังนั้น การจะจัดการอีกฝ่ายจึงเป็นเรื่องยาก นอกจากว่าระดับของเขาจะเพิ่มขึ้นกว่านี้ ไม่อย่างนั้น การจะจัดการกับผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณสองคน แรงกดดันของมันไม่ใช่น้อยๆ

 

“ดูเหมือนว่าจำเป็นต้องเพิ่มระดับให้เร็วที่สุด ผู้เชี่ยวชาญนี่ก็ช่างมากมายจริงๆ…..” สายตาอี้เทียนหยุนเป็นประกายอย่างต่อเนื่อง ความเร็วของเขาถือว่าเร็วแล้ว แต่ว่าเขายังต้องการให้เร็วขึ้นอีก!

 

ไม่จำเป็นต้องไปถึงระดับราชาวิญญาณก็ได้ ขอแค่เข้าสู่ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ที่สูงกว่านี้ ก็เพียงพอที่จะบดขยี้หมิงเฉินผู้นี้ได้แล้ว!

 

“เป็นอะไร ในใจรู้สึกไม่ยินยอมอย่างงั้นเหรอ?” ไป๋สุ่ยหวงพูดอย่างจริงจัง “ที่จริงแล้วข้าก็อยากจะจัดการพวกมันซะที่นี่เหมือนกัน แต่ว่านี่จะเป็นการเปิดเผยเจตนาของพวกเราออกไปจนหมด…..”

 

“ก็คงอย่างนั้น เห็นเป้าหมายเดินส่ายก้นออกไปอย่างนั้น มันก็รู้สึกไม่ยินยอมจริงๆ นั่นล่ะ” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “ครั้งหน้า มันจะไม่ได้เดินออกไปแบบนี้อีก”

 

ไป๋สุ่ยหวงมองไปที่เขา ช่างพูดจาใหญ่โตนัก หรือว่าอี้เทียนหยุนจะมาถึงระดับราชาวิญญาณแล้ว? แต่เธอสัมผัสไม่ได้ว่าเป็นแบบนั้น อย่างมากก็เป็นระดับวิญญาณเที่ยงแท้

 

“ดูเหมือนว่าการมีผู้ช่วยที่มีความมั่นใจในความแข็งแกร่งอย่างเจ้า ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างแท้จริง” ไป๋สุ่ยหวงพูดด้วยรอยยิ้ม

 

อี้เทียนหยุนพยักหน้า แต่ก็ไม่พูดอะไร สามารถมีผู้ช่วยที่แข็งแกร่งอย่างเผ่าฟีนิกซ์ เขาก็รู้สึกยินดีเช่นกัน มีพวกเขาคอยพัวพัน การที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงจะโจมตีโลกมนุษย์ก็จะเป็นเรื่องยาก

 

“ติ๊ง วังเทียนหยุนกำจัดกลุ่มโจรได้สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 100 ล้าน, ค่าความคลั่ง 1 ล้าน, ค่าความชั่ว 50,000! ได้รับไอเทม บัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ 10 เท่า”

 

ในตอนนี้เอง ระบบก็ได้ประกาศออกมา ทำให้เขาตาลุกวาว ไม่แปลกที่ก่อนหน้าเขาจะได้รับรายงานว่าสวี่เฟยได้สังหารศัตรูที่ทรงพลังดังมา ที่แท้ก็เป็นพวกโจรที่ยังตั้งค่ายอยู่ในอาณาจักรใต้พิภพนี่เอง ช่างเป็นขุมอำนาจที่ดื้อด้านยิ่งนัก

 

เพื่อที่วังเทียนหยุนจะก่อตั้งอาณาจักรที่มั่นคงขึ้น อย่างแรกคือต้องกำจัดพวกมันให้สิ้นซาก ไม่อย่างนั้น ก็ไม่สามารถก่อตั้งอาณาจักรได้อย่างมั่นใจและสงบสุข

 

“ดูเหมือนว่าข้าจะทำงานหนักที่นี่ พวกเขาทางฝั่งนู้นก็ทำงานหนักเช่นกัน….” ในใจอี้เทียนหยุนรู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก เขาเชื่อว่านี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น และอีกไม่นาน พวกเขาก็จะสามารถนำชัยชนะที่ยิ่งใหญ่กว่านี้กลับมาได้อย่างแน่นอน

 

และแน่นอนว่าเขาก็จะได้รับรางวัลมากมายด้วย แต่เสียดายที่มีการจำกัดไอเทม หากว่าเขาสังหารด้วยตัวเอง คงจะได้อุปกรณ์กองโตกลับมาด้วย

 

“ติ๊ง วังเทียนหยุนกำจัดขุมอำนาจที่ชั่วที่สุดได้สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 80 ล้าน, ค่าความคลั่ง 800,000, ค่าความชั่ว 30,000!”

 

โดยไม่ต้องรอนาน เสียงระบบก็ดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้เขารู้สึกตกใจไปเลย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะแบ่งกันเป็นสองกลุ่ม แล้วเข้าโจมตีขุมอำนาจที่ต่างกัน นี่เป็นผลของความแข็งแกร่งของขุมอำนาจที่เพิ่มขึ้น ซึ่งไม่เหมือนกับแต่ก่อน ที่สามารถส่งกองทัพออกไปได้แค่กองเดียวเท่านั้น แต่ตอนนี้สามารถจัดกองทัพได้เป็นหลายกองแล้ว

 

ที่น่าเสียดายคือพวกเขาไม่ใช่ขุนพลของเขา ทำให้เขาไม่ได้ค่าประสบการณ์ ไม่อย่างนั้น ค่าประสบการณ์ที่ได้คงจะตกใจน่าดู!

 

“เป็นอะไร ทำไมอยู่ๆ ถึงได้ยิ้มขึ้นมา?” ไป๋สุ่ยหวงเห็นอยู่ๆ อี้เทียนหยุนก็ยิ้มออกมา ก็คิดว่าแปลกๆ ก่อนหน้านี้ที่หมิงเฉินจากไป เขายังทำท่าทางไม่พอใจอยู่เลย มาตอนนี้กลับยิ้มขึ้น แล้วจะไม่ให้เธอรู้สึกแปลกใจได้ยังไง?

 

“ไม่มีอะไร อยู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นได้น่ะ” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“อืม งั้นพวกเราคงต้องเริ่มทำตามแผนที่วางไว้แล้ว ไม่รู้ว่าเจ้าอยากจะเข้าร่วมด้วยหรือเปล่า?” ไป๋สุ่ยหวงถาม

 

“แผนอะไร?” อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย หากว่าเผ่าฟีนิกซ์ไม่จัดให้เขาลงมือ เขาก็จะลงมือด้วยตัวเอง

 

“ทำลายห้องสมบัติของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง พร้อมกับแย่งชิงทรัพยากรของพวกมันมา!” ไป๋สุ่ยหวงกำหมัดแน่น พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้ตรวจสอบพิกัดมาคร่าวๆ แล้ว แต่ว่าที่แห่งนี้ออกจะลงมือได้ยากหน่อย จำเป็นต้องลักลอบเข้าไป หากว่าเจ้ามีความสามารถด้านนี้ ข้าก็จะให้เจ้าลงมือด้วย เจ้าคิดว่ายังไง?”

 

“บ้านสมบัติ ที่ไหน?” อี้เทียนหยุนถาม

 

“บอกเจ้าก็ไม่เห็นเป็นไร ในแท่นบูชาเทียนหมิง! นี่เป็นข่าวที่ข้าได้มา ซึ่งอัตราแม่นยำของมันถือว่าสูงอย่างมาก เป็นที่ที่ยากจะบุกรุกเข้าไป” ไป๋สุ่ยหวงส่ายหัวแล้วพูดออกมา

 

“แท่นบูชาเทียนหมิง…..” อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย แม้ว่าเขาจะไม่เคยไปที่แห่งนี้ แต่เขารู้ว่าจะไปยังไง รู้ว่าต้องไปทางไหน

 

เพราะว่าแผนที่สมบัติโลกวิญญาณในมือเขาได้มีเครื่องหมายบอกเอาไว้ ซึ่งก็คือแท่นบูชาเทียนหมิงนี่แหละ!

 

นี่ไม่ยากที่จะเข้าใจ เพราะนี่เป็นสิ่งที่เขาได้มาจากการสังหารหมิงเฉิน แน่นอนว่าย่อมเกี่ยวข้องกับเขา ดังนั้น มันจึงย่อมเป็นสถานที่เดียวกันเป็นธรรมดา

 

“ดูเหมือนว่านี่เวลาทำภารกิจ ข้าต้องไปอย่างแน่นอน…..”

 

อี้เทียนหยุนแสดงรอยยิ้มมั่นใจออกมา คนอื่นอาจไม่รู้ แต่กับแท่นบูชาเทียนหมิงนี้ เขาคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างมาก

 

“อืม ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้จักแท่นบูชาเทียนหมิงนี้ดีสินะ ใช่ไหม?” ไป๋สุ่ยหวงถามอย่างสงสัย “ไม่ใช่ว่าเจ้าอยู่โลกมนุษย์ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงได้รู้จักที่นี่ได้?”

 

“ก็งั้นๆ แหละ ข้ารู้แม้กระทั่งเส้นทางที่แน่นอนภายในแท่นบูชาเทียนหมิง แล้วเจ้าคิดว่าข้าควรจะไปหรือไม่ไปดี?” อี้เทียนหยุนยิ้ม

 

“เจ้าพูดจริงอย่างงั้นเหรอ?” ไป๋สุ่ยหวงตบไหล่เขาอย่างตื่นเต้น พร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าหนู เจ้าพูดจริง! หากเป็นอย่างที่เจ้าพูด ถือว่าเจ้ามีความชอบครั้งใหญ่เลย!”

 

อี้เทียนหยุนที่ถูกตบไหล่ปุปุ ก็ให้รู้สึกเจ็บเล็กน้อย และในพริบตา ไป๋สุ่ยหวงก็กลับเป็นเหมือนคนที่ไม่สนใจอะไรอีก ทำให้เขาคว้าได้เพียงอากาศ

 

“ติ๊ง ท่านรับภารกิจ “ยึดครองแท่นบูชาเทียนหมิง, ยึดครองสมบัติ” สำเร็จ เมื่อสำเร็จจะได้รับ ค่าประสบการณ์ 300 ล้าน, ค่าความคลั่ง 1 ล้าน, ค่าความชั่ว 50,000, ค่าความชอบของเผ่าฟีนิกซ์เพิ่มขึ้น 100!”

 

ภารกิจเด้งขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้มุมปากของเขาหยักขึ้นเป็นรอยยิ้ม ที่เขาต้องการก็คือผลลัพธ์นี้แหละ