CLS ตอนที่ 526: 1 ก้าวย่าง 1 จักรวาล

 

“เป็นผู้บุกรุกจริงๆ ไสหัวลงมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”

 

ภายใต้เสียงคำรามด้วยความโกรธของป้าหลง กระบี่หนักในมือของเขาก็แทงตรงเข้าใส่อี้เทียนหยุนอย่างแรง ส่งผลให้ลำแสงกระบี่พุ่งออกไป กลายเป็นคลื่นกระบี่คมๆ พุ่งเข้าใส่อี้เทียนหยุน ซึ่งพลังรบของกระบี่นี้ ก็พุ่งมาถึง 500 ล้านในทันที!

 

อี้เทียนหยุนหันกลับไป ในขณะที่กำลังจะปัดป้อง อยู่ๆ ก็มีลำแสงศักดิ์สิทธิ์ครอบลงที่ร่างของเขาในทันที กลายเป็นปราการรับลูกกระสุน พร้อมกับสะท้อนลำแสงกระบี่กลับไป ด้วยพลังที่มากกว่าหลายเท่า!

 

พริบตา ลำแสงกระบี่ก็ตีกลับเข้าใส่ป้าหลงอย่างแรง

 

ในสายตาของป้าหลงปรากฏร่างเงามันกรพุ่งทะยานขึ้น พริบตา ร่างของเขาก็ปรากฏเกล็ดมังกร ขณะที่มือข้างที่ถือกระบี่ก็ทำการฟันกระบี่ปะทะกับลำแสงที่พุ่งเข้ามาอย่างแรง ซึ่งครั้งนี้ กระบี่ในมือเขาได้มีพลังเพิ่มขึ้นอีกขั้นใหญ่

 

“แหลกไปซะ!”

 

ป้าหลงคำรามออกมา บดขยี้ลำแสงกระบี่นี้ แต่ตัวเขาก็ถูกทำให้ถอยไปหลายก้าว พลังที่สะท้อนกลับมานี้แข็งแกร่งขึ้นมา แทบทำให้เขาต้องเสียหน้า

 

“ป้าหลง เจ้าลืมไปแล้วเหรอว่าบันไดเทวะนี้ไม่สามารถโจมตีได้ตามใจน่ะ!” หมิงเฉินพูดอย่างดุร้าย “ใจเย็นไว้ แม้ว่าพวกเราจะไม่รู้ว่าเจ้าหมอนี่มาโผล่ที่นี่ได้ยังไง แต่พวกเราจะทำให้มันต้องจ่ายค่าตอบแทนออกมา เหมินหู่จะต้องไม่ตายเปล่า!”

 

ป้าหลงกลายเป็นสับสนเพราะความโกรธ ดังนั้นเมื่อกี้นี้จึงได้โจมตีออกไป แต่ใครจะรู้ว่าไม่เพียงแต่จะไม่สามารถโจมตีอีกฝ่ายได้ แต่กลับต้องมาถูกพลังที่ตัวเองโจมตีออกไปสะท้อนกลับมาแทน ทั้งพลังที่สะท้อนกลับมายังแข็งแกร่งกว่า! นี่เป็นการปกป้องผู้ที่เข้ารับการทดสอบ เพื่อไม่ให้ผู้ทดสอบได้รับอันตราย

 

“ระบบป้องกันช่างยอดเยี่ยมจริงๆ!”

 

เมื่ออี้เทียนหยุนเห็นอย่างนี้ ในใจก็มีความสุขขึ้นมาทันที คิดว่าจะต้องถูกโจมตีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะเข้าใจผิดไปเอง

 

บันไดเทวะ : บันไดซึ่งวางพาดผ่านสวรรค์ สามารถมอบบททดสอบบันไดเทวะแก่ผู้คน

 

นี่คือข้อมูลที่ดวงตาประเมินให้กับเขา ดังนั้น เขาจึงไม่รู้ว่ายังมีเงื่อนไขอื่นอีก ไม่คิดว่าจะมีการสะท้อนการโจมตีกลับ ซึ่งเป็นการปกป้องผู้ทดสอบ

 

“เจ้า เจ้าผู้บุกรุก แท้จริงแล้วเจ้าเข้ามาได้ยังไง!” หมิงเฉินมองไปที่อี้เทียนหยุนด้วยสายตาเย็นชา อยากจะสังหารอีกฝ่ายให้สิ้นเรื่องสิ้นราว แต่ตอนนี้ยังคงไม่มีวิธี

 

“ทำไมข้าต้องเจ้าด้วย? ไอ้โง่!” อี้เทียนหยุนยิ้ม พร้อมกับด่าเขาว่าไอ้โง่อีก

 

“ก่อนหน้านี้ที่ด่าข้า ที่แท้ก็เป็นเจ้า!” เมื่อหมิงเฉินได้ยินเสียงนี้ ในใจก็พลันเดือดขึ้นมา แต่เขาก็ยังไม่ได้สูญเสียเหตุผล แล้วโจมตีเข้าไปเหมือนก่อนหน้า เพราะถึงทำไปก็ไร้ความหมาย

 

ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณโจมตีออกไป ก็ต้องถูกสะท้อนพลังกลับมา! เพราะว่านี่คือวิหารที่ราชาศักดิ์สิทธิ์เป็นผู้สร้าง ต่อให้เป็นระดับราชาวิญญาณ ก็ไม่นับว่าไม่เป็นอะไรเมื่ออยู่ที่นี่

 

“เป็นข้าแล้วทำไม หากเก่งจริงก็มาตีข้าสิ!” อี้เทียนหยุนพูดดูถูกออกไป

 

“เจ้า!” หมิงเฉินสีหน้าเดือดดาล พร้อมกับก้าวขึ้นไปบนบันไดเทวะในทันที พร้อมกับรีบไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว “เจ้ารอก่อนเถอะ ดูว่าเมื่อถึงตอนนั้น บิดาจะจัดการกับเจ้ายังไง เจ้าคิดว่าอยู่บนนั้นแล้วจะปลอดภัยอย่างงั้นเหรอ? ไว้ข้าตามเจ้าทันแล้ว จะดูว่าเจ้าจะยังไม่ตายอีกไหม!”

 

“หมิงเฉิน เจ้าไม่เริ่มเร็วไปหน่อยเหรอ?”

 

ในตอนนี้ หนานกงหมิงที่อยู่ด้านหลังหมิงเฉินก็ได้ตะโกนออกไป น้ำเสียงของเขาเหมือนกับเครื่องตีที่แตกหัก ฟังแล้วแสลงหูยิ่งกว่าเมื่อก่อนอีก

 

“หากไม่เริ่มตอนนี้แล้วจะให้เริ่มตอนไหน เจ้าหนูนี้เปิดใช้งานบันไดแล้ว แม้จะเร็วไปบ้าง แต่ที่นี่ก็ไม่สามารถปิดได้แล้ว ครั้งหน้าจำเป็นต้องรออีกห้าปี ถ้าไม่เริ่มตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ยังจะมีโอกาสอีกหรือเปล่า!” หมิงเฉินพูดอย่างเย็นชา “เจ้าหนูนี่ช่างเป็นตัวขัดลาภพวกเราจริงๆ คิดว่าจะรอให้คนอื่นมาก่อน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าคงทำได้เพียงแค่ลงมือก่อนเท่านั้นแล้ว!”

 

“ไปเรียกผู้เชี่ยวชาญที่มีระดับตั้งแต่ผันแปรวิญญาณมา ให้พวกเขามาปีนบันไดเทวะนี้ซะ!” ป้าหลงคำรามออกมาอย่างดุเดือด

 

ลูกน้องของเขาพยักหน้า พร้อมกับรีบวิ่งไปเรียกคนมาทันที ไม่กล้ารีรอ

 

หลังจากสั่งงาน พวกป้าหลงก็เริ่มปีน ไล่ตามขึ้นไปทันที เพียงอึดใจเดียว พวกเขาก็ปีนขึ้นมาได้มากกว่าร้อยขึ้น พริบตาก็ไล่มาทันอี้เทียนหยุน โดยที่ไม่มีความยากอะไร

 

แต่พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่ถลึงตาอย่างดุร้าย ไม่สามารถทำอะไรเขา ภายใต้ค่ายกลปกป้องของที่นี่ ทำให้ไม่มีใครสามารถรบกวนใครได้

 

“ที่แท้บนนี้ก็มีสมบัติอยู่จริงๆ แต่ว่าจำเป็นต้องผ่านการทดสอบก่อน แล้วก็ดูเหมือนว่าข้าจะเปิดบททดสอบขึ้นก่อนเวลาซะด้วย แบบนี้ช่างดีจริงๆ…..” อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย ดูจากท่าทางของพวกเขา ก็รู้ว่าบนนี้มีสมบัติอยู่ ไม่อย่างนั้น พวกเขาคงไม่รีบปีนขึ้นมาขนาดนี้

 

ยังไงก็ตาม เขารู้สึกว่าที่นี่ไม่ธรรมดา ยิ่งปีนขึ้นไปสูงเท่าไหร่ ความยากก็ยิ่งมีแต่ยากขึ้น พร้อมกับแรงกดดันที่ใต้เท้า ทำให้การปีนเป็นไปอย่างยากลำบาก

 

ยิ่งกว่านั้น รู้ว่ายิ่งปีนสูงขึ้นไป ขาทั้งสองข้างก็ยิ่งหนัก เหมือนกับมีอะไรมาถ่วงไว้ ยิ่งเดินยิ่งหน่วง ยิ่งกว่านั้น เขาพบว่ายิ่งตัวเองเดินสูงขึ้นไป มันก็ยิ่งเป็นประโยชน์กับตัวเอง เพราะพลังงานที่มหาศาล!

 

พลังงานพวกนี้ได้แทรกซึมเข้าไปในร่างอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพลังงานยิ่งมาก ก็ยิ่งทำให้ร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่ง อาจเป็นเพราะความพิเศษของพลังวิญญาณ จึงสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของเขา

 

ไม่แปลกที่ป้าหลงจะให้คนอื่นไปตามลูกน้องมาปีนอย่างรวดเร็ว ที่แท้ก็เพราะว่ามันมีประโยชน์ต่อพวกเขาเช่นกัน เพราะว่าก่อนที่จะหมดเวลา พวกเขาสามารถเพลิดเพลินกับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นจากที่นี่ได้

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบันไดเทวะนี้ยังกว้างมากอีกด้วย ประมาณสองสามร้อยจ้างได้ สามารถรับรองผู้ฝึกตนขึ้นมาปีนพร้อมกันในครั้งเดียวได้หลายพันไปจนถึงเกินหมื่นได้สบาย ดังนั้น แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องกังวลว่าคนจะมากเกินไป จนไม่มีทางให้เดิน

 

“แท่นบูชาเทียนหมิงเปิดให้ทดสอบอย่างเป็นทางการแล้ว! ผู้ที่มีระดับสูงกว่าราชาวิญญาณไม่สามารถเข้าร่วมการทดสอบได้ ไม่อย่างนั้นจะถูกพระเจ้าลงโทษ!”

 

ในตอนนี้เอง ก็ได้มีเสียงที่เคร่งขรึมเปล่งออกมาจากสี่ทิศแปดทาง ดังขึ้นในจิตใจของพวกเขา เสียงนี้ไม่เหมือนกับดังผ่านหู แต่ดังขึ้นในจิตใจ ให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาดมาก

 

หลังจากนั้น ค่ายกลรอบๆ ก็พากันเปล่งแสงออกมาจนหมด ทำให้แรงกดดันที่พวกเขาได้รับจู่ๆ ก็หนักหน่วงขึ้น ขาทั้งสองข้างหนัก ไม่สามารถเพิ่มพลังวิญญาณได้แม้แต่น้อย

 

“บททดสอบแรก, 1 ก้าวย่าง 1 จักรวาล!”

 

“1 ก้าวย่าง 1 จักรวาล?” อี้เทียนหยุนตกใจ ไม่รู้ว่าคำนี้หมายถึงอะไร

 

ในขณะที่เขากำลังลังเล หมิงเฉินกับพวกก็ได้ทิ้งเขาไว้ข้างหลัง พร้อมกับปีนขึ้นไปข้างบนด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม เมื่อเห็นว่าอี้เทียนหยุนยังยืนนิ่ง ก็ได้พูดยั่วยุออกมาว่า “ว่ายังไงเจ้าขยะ ปีนไม่ได้แล้ว? ทั้งที่ปีนขึ้นมาก่อน แต่กลับมาหยุดอยู่ที่นั่น แม้แต่ระดับผันแปรวิญญาณยังเร็วกว่าเจ้าเลย!”

 

พวกเขาเห็นว่าอี้เทียนหยุนช้าลง ก็อดไม่ได้ต้องพูดจาเยาะเย้ย เปลี่ยนความโกรธในใจให้กลายเป็นคำดูถูก เพื่อระบาย

 

อี้เทียนหยุนไม่ต่อปากต่อคำกับพวกเขา หลังจากหยุดคิด เขาก็ทำการปีนขึ้นไปต่อทีละขั้น ความเร็วที่ใช้ไม่เร็ว แต่ก็ไม่ช้า แต่ละก้าวที่ย่างขึ้นไป เต็มไปด้วยความมั่นคง

 

และเมื่อพลังวิญญาณได้ถ่ายทอดมา เขาก็สัมผัสกับพลังวิญญาณนั้นอย่างระวัง ราวกับพบกับความลึกลับอะไรบางอย่าง

 

และในที่เขากำลังสัมผัสอย่างระมัดระวังอยู่นั้น อยู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าพลังวิญญาณได้โหมซัดเข้ามา ซึ่งเป็นพลังที่พิเศษมาก หากว่าเขาไม่ได้สัมผัสมันอย่างรอบคอบแล้วล่ะก็ เขาคงจะคิดว่ามันเป็นแค่เพียงพลังวิญญาณทั่วไป พร้อมกับเลือกที่จะดูดซับเข้ามาแล้ว

 

และในขณะที่เขากำลังสัมผัสอย่างรอบคอบอยู่นั้น เขาก็พบว่าที่ถ่ายทอดมานี้กลับเป็นวิชายุทธ์อย่างไม่คาดคิด! ในพลังวิญญาณที่ส่งออกมาแต่ละครั้ง แต่ก็แฝงไว้ด้วยข้อมูลของวิชายุทธ์ เพียงแต่ว่าหัวข้อของมันมีอยู่น้อยมาก มีเพียงแต่ต้องค่อยๆ สะสมไปทีละน้อย ถึงจะเข้าใจว่าเป็นวิชาที่เกี่ยวกับอะไร

 

“น่าสนใจ ที่แท้นี่ก็คือ 1 ก้าวย่าง 1 จักรวาล แต่ละก้าวที่ย่างผ่าน ต่างก็มีจักรวาลอยู่ในนั้น…..” อี้เทียนหยุนสายตาสอดส่ายไปมา ดูเหมือนว่าการทดสอบนี้ จะไม่ใช่การทดสอบธรรมดาซะแล้ว กลัวว่าคงจะเป็นการทดสอบเพื่อสืบทอดอะไรบางอย่างมากกว่า!