Crazy Leveling System 629: กบฏ

Now you are reading Crazy Leveling System Chapter 629: กบฏ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

CLS ตอนที่ 629: กบฏ

 

คําพูดที่อเทียนหยุนและไท่ซางหวงกานหยวนคุยกันนั้น คุยให้ทุกคนได้ยิน ผู้พิทักษ์อะไรกัน ราชาศักดิ์สิทธิ์ ช่วงเทียนอะไรกัน ทุกสิ่งที่พวกเขาคุยกัน ไม่เห็นจะเคยได้ยินมาก่อน แล้วยังจะมีปีศาจอะไรนั้นด้วย พวกเขาไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร

 

แต่ถึงพวกเขาจะไม่เข้าใจ แต่ว่าไท่ซางหวงเข้าใจ

 

“เป็นไปไม่ได้ ปีศาจนั้นถูกผนึกไว้แน่นอนแล้วนี่นา!” สีหน้าของไท่ซางหวงกานหยวนเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เหมือนกับว่าคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้นด้วย

 

“เจ้าที่ไม่เคยสนใจอะไร แน่นอนว่าย่อมไม่รู้ถึงเรื่องนี้เป็นธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าเพิ่งไปดูป้ายศิลาบรรพกาล สะกดสวรรค์มา ผนึกที่นั่นได้เริ่มเสียหายมากแล้ว หากว่าข้าไม่ซ่อมมัน อีกไม่เกิน 50 ปี ผนึกนั้นก็จะถูกทําลาย”

 

“เมื่อถึงตอนนั้น เจ้าคิดว่าตัวเองยังร้ายกาจกว่าราชาศักดิ์สิทธิ์ไหม สามารถปราบปีศาจตนนี้ได้หรือเปล่า หรือว่าจะนั่งรอความตาย? หากว่าเส้นทางถูกปิด ต่อให้เจ้าอยากจะหนี้ไปยังโลกสวรรค์หรือว่าโลกใต้พิภพ ก็ไม่มีทางไปไหนได้”

 

“ทั้งหมดนี้เป็นเพราะหลายปีนี้เจ้าเอาแต่ตามืดบอดลุ่มหลงในอ่านาจ จนตอนนี้ทําให้ผนึกทั้งหมดได้รับความเสียหายไปตามๆ กัน!”

 

นี่ไม่ใช่ว่าอี้เทียนหยุนจะพูดเหลวไหล ที่ผนึกได้รับความเสียหายนี้ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเพราะว่าพลังวิญญาณนั้นอ่อนแอลง ทางผ่านใต้พิภพเป็นเส้นทางที่คอยส่งพลังวิญญาณให้ไม่หยุด เมื่อเส้นทางไร้ซึ่งการดูแล จึงก่อให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น

 

จนตอนนี้ได้กลายเป็นเขตอันตรายไปแล้ว ส่วนเส้นทางแม่น้ําศักดิ์สิทธิ์โลกสวรรค์นั้นกลับไม่มีเรื่องอะไร ยังคงรักษาความสมดุลได้อย่างปกติ ทําให้การในแม่น้ําศักดิ์สิทธิ์โลกสวรรค์ไม่ได้ยากอะไรนัก อย่างน้อยก็ไม่เต็มไปด้วยอันตรายที่พร้อมจะตายได้ทุกเมื่ออย่างทางผ่านใต้พิภพ

 

“เป็นไปได้ยังไง…” ไท่ซางหวงกานหยวนตกใจ ในใจเขามีความรู้สึกไม่เชื่ออยู่หลายส่วน คนที่พูดแบบนี้ได้ จะต้องเป็นคนที่ได้เห็นป้ายศิลาบรรพกาลสะกดสวรรค์มาแล้วถึงจะพูดแบบนี้ได้

 

“แล้วตอนนี้เจ้ายังจะหน้ามือตามัวอยู่อีกไหม? ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง กลับไปพิทักษ์ทางผ่านใต้พิภพซะ แล้วข้าจะไม่เอาเรื่อง!” เทียนหยุนพูดอย่างเย็นชา

 

แม้ว่าไท่ซางหวงกานหยวนจะทําเรื่องที่ผิดพลาดเช่นนี้ แต่หากจะให้สังหารเขาทิ้งไป ก็จะเป็นการสูญเสียเกินไป เขาผิดที่ละทิ้งหน้าที่ หากกลับไปทําหน้าที่ตามเดิม ก็จะเป็นการทําความดีลบล้างความผิดในครั้งนี้ได้

 

ก่อนหน้านี้ที่บอกว่าเขาทิ้งหน้าที่จนทําให้ผนึกมีอายุสั้นลง คําพูดนี้ที่จริงแล้วถูกต้อง แต่ต่อให้เขาจะทําหน้าที่พิทักษ์ที่นั่นเป็นเวลาหลายสิบปีหรือมากกว่าพันปี แต่สุดท้ายแล้ว ผนึกนั่นก็จะต้องถูกทําลายอยู่ดี

 

ผนึกไม่ใช่ว่าจะไร้เทียมทาน แต่หากจะให้เป็นเช่นนั้นก็ต้องให้ป้ายศิลาบรรพกาลสะกดสวรรค์ทําการผนึกสิ่งที่ตายแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะปีศาจที่ยังมีชีวิตอยู่ มันสามารถแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนในท้ายที่สุดก็แข็งแกร่งขึ้นจนสามารถทําลายผนึกได้

 

นอกจากว่าปีศาจตนนี้จะมีระดับที่ต่ํามาก แบบนั้นต่อให้ใช้ทั้งชีวิตก็ไม่มีทางที่จะทําลายผนึกออกมาได้ ยังไงก็ตาม อีกฝ่ายก็มีระดับราชาศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน และราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายก็ร่วมมือกันทําการปราบ และผนึกมันเอาไว้เพราะว่าหมดหนทางเท่านั้น

 

ภายใต้เงื่อนไขนี้ จึงเป็นที่แน่นอนว่าไม่สามารถที่จะผนึกมันไว้ได้ตลอดกาล!

 

“พอแล้ว แค่นี้ก็พอ…” ไท่ซางหวงกานหยวนกลับคืนสู่ความสงบอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมองไปที่อี้เทียนหยุนด้วยสีหน้าดุร้าย “ร้อยปีก็พอให้ข้าเพลิดเพลินกับทุกสิ่งแล้ว เมื่อถึงตอนนั้น ข้าก็แค่หนีไปที่โลกสวรรค์อีกครั้ง จากนั้นแล้วมันยังจะเกี่ยวอะไรกับข้าอีก? จะให้ข้าเอาแต่ปกป้องสถานที่เส็งเคร็งแบบนั้นไปเรื่อยๆ ข้าคงพูดได้แค่ว่า ไม่มีทาง!”

 

เขาเดินเข้ามาทีละก้าว พร้อมกับมองมาที่อี้เทียนหยุนอย่างเย็นชา “ผู้สืบทอดของนายท่านราชาศักดิ์สิทธิ์ ไม่คิดเลยว่าเมื่อข้าจากมา เจ้ายังจะนําตัวเองมาสังเวยให้กับข้าถึงที่ ข้าจะให้ตัวเลือกเจ้า ส่งทุกสิ่งที่ได้รับสืบทอดมาซะ แล้วข้าจะให้เจ้าตายอย่างมีความสุข!”

 

ไม่คิดเลยว่าหลังจากที่บอกเรื่องทั้งหมดนี้ออกมา ไท่ซางหวงกานหยวนไม่เพียงแต่จะไม่สํานึกผิดเท่านั้น แต่ยังคิดจะฆ่าเขาอีก พร้อมทั้งต้องการบังคับเอาทุกสิ่งที่เขาได้รับการสืบทอดไปด้วย

 

หัวใจที่โลภมากนี้ คิดไม่ออกเลยว่าทําไมตอนแรกราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนถึงได้เลือกเขามาเป็นผู้พิทักษ์ ดูเหมือนว่าอย่างระดับราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนเองก็ยังมีช่วงที่ผิดพลาดเหมือนกัน หรือจะพูดว่าคนเราย่อมมีการเปลี่ยนไปเป็นธรรมดา ไท่ซางหวงกานหยวนไม่ได้ซื่อสัตย์เหมือนกับเรื่นเต่อที่จะมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่

 

แม้ว่าขุนนางคนอื่นใกล้ๆ จะไม่รู้ว่ามันเรื่องอะไรกัน แต่พวกเขารู้ว่าไท่ซางหวงต้องการจะลงมือแล้ว จึงได้พากันมีสีหน้าตื่นเต้น นี่หมายความว่ามหาจักรพรรดิเทียนหยุนจะต้องตาย และเมื่อถึงตอนนั้น อาณาจักรอันดับ 1 ก็จะตกเป็นของพวกเขา!

 

“ดูเหมือนว่าจะสํานึกผิดสินะ ขาในฐานะตัวแทนของราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียน จะขอเป็นคนกําจัดคนชั่วอย่างเจ้าเอง!” เทียนหยุนมีสายตาเย็นชาอย่างถึงที่สุด

 

“กําจัดข้า? นั่นก็ต้องดูว่าเจ้ามีความสามารถพอหรือเปล่าด้วย แค่สังหารเจ้าเฒ่านั่นได้ ก็คิดว่าตัวเองร้ายกาจมากอย่างงั้นเหรอ? ต่อให้เจ้าจะเป็นผู้สืบทอดของราชา

ศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียน แต่ยังไงเจ้าก็ยังเด็กเกินไปอยู่ดี!”

 

ไท่ซางหวงกานหยวนพูดอย่างดูถูก “ข้าเคยบอกไปแล้วว่าต่อให้เป็นมังกร ก็ต้องหมอบเมื่อต้องอยู่ในถิ่นของข้า!”

 

เขารวบนิ้วกําเป็นหมัดเบาๆ ทําให้พื้นเริ่มแตกออก เหมือนกับทั่วทั้งโลกมนุษย์กําลังสั่นไหว พร้อมกันนั้น พลังวิญญาณทั้งหมดก็ได้ถูกเขาดึงออกไป และเมื่อดูดีๆ แล้ว จะพบว่าที่พื้นปกคลุมไปด้วยค่ายกล และที่ยิ่งกว่านั้นก็คือในร่างของเขากําลังปลดปล่อยพลังของธาตุพฤกษาออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

หลังจากปล่อยพลัง ไท่ซางหวงกานหยวนก็ได้กลับเป็นหนุ่มอย่างรวดเร็ว พริบตาก็กลายเป็นหนุ่มหล่ออายุ 30 นี่ไม่ใช่การดิ้นรนเฮือกสุดท้าย แต่เป็นผลจากการปลดปล่อยพลังชีวิตที่ไร้เทียมทาน ทําให้ตนฟื้นกลับมาเป็นหนุ่ม!

 

นี่คือพลังของธาตุพฤกษา ทําให้มีชีวิตอยู่เป็นเวลานาน นี่ไม่เพียงแต่เขาจะมีกายาพฤกษาศักดิ์สิทธิ์ที่หายากเท่านั้น แต่ยังได้วิชายุทธ์ที่เหมาะกับกายาของตน ภายใต้การเข้ากันได้ของทั้งสอง จึงทําให้พลังชีวิตของเขาได้ยึดขยายขึ้นอีกมหาศาล

 

ตัวอย่างเช่นระดับราชาเซียนจะมีขีดจํากัดอายุขัยอยู่ที่ 4-5 พันปี แต่ว่าเขานั้นสามารถยืดอายุของตนไปถึงมากกว่า 7-8 พันปี หรืออาจจะนานกว่านั้น นี่ก็คือผลลัพธ์แห่งความเป็นอมตะของพฤกษาธาตุ!

 

ซึ่งนี่ก็คือเหตุผลว่าทําไมเขาถึงมีอายุมากกว่าบิดาของเรื่นเต๋อ บิดาของเงินเดือนั้นได้ตายไปแล้ว แต่ว่าเขา ยังมีชีวิตอยู่

 

พริบตา ทั่วทั้งท้องพระโรงก็ปรากฏเถาวัลย์ขึ้นเต็มไปหมด และเถาวัลย์แต่ละเส้นก็พากันส่งแสงสีเขียวออกมา ทําให้ทั่วทั้งท้องพระโรงอันแน่นไปด้วยพลังชีวิตนี้เป็นพลังที่น่าฟังแค่ไหน เพียงสัมผัสก็ทําให้คนอ่อนเยาว์ลงได้

 

“ไท่ซางหวงไร้เทียมทาน ไท่ซางหวงไร้เทียมทาน!”

 

เหล่าขุนนางตะโกนออกไปด้วยน้ําเสียงที่เต็มไปด้วยความคลั่งไคล์ พลังที่เต็มไปด้วยปาฏิหาริย์เช่นนี้ มีแต่ไท่ซางหวงของตนเท่านั้นที่สามารถแสดงมันออกมาได้ เขาคือคนที่ใช้พลังแห่งปาฏิหาริย์ได้

 

“มหาจักรพรรดิเทียนหยุน ก่อนหน้านี้เจ้าทําเป็นอวดดี ให้ข้าคอยอยู่ด้านนอกหลายชั่วยาม! เพราะว่าข้าไว้หน้าเจ้า แต่เจ้ากลับทําตัวโอหังกับข้า! คราวนี้ข้าจะให้เจ้ามีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย ไม่ว่าเจ้าจะได้รับสืบทอดอะไรก็ต้องคายมันออกมาให้หมด…” ไท่ซางหวงกานหยวนที่เป็นเหมือนบัณฑิตเมื่อก่อนหน้าได้หายไปแล้ว พร้อมกับถูกแทนที่ด้วยบุคคลที่มีสีหน้าร้ายกาจแทน

 

คิดว่ายังไงอี้เทียนหยุนก็ต้องตายอย่างแน่นอน ต่อให้อี้เทียนหยุนจะร้ายกาจ แต่จะมาร้ายกาจไปกว่าไท่ซ่างหวงกานหยวนได้ยังไง?

 

ภายใต้มหาค่ายกลที่เปิดใช้งาน ทําให้พลังรบของเขาเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง จากแต่ก่อนที่มีพลังรบ 2.7 พันล้าน ตอนนี้ได้เพิ่มเป็น 4.3 พันล้านในพริบตา

 

ในเมื่อเทียนหยุนสามารถสังหารบรรพชนไท่ซ่างของอาณาจักรชื่อหลงได้ ก็แสดงว่าพลังของอีกฝ่ายไม่ธรรมดา ดังนั้นไท่ซางหวงกานหยวนจึงได้เอาจริง ต้องจัดการกับเขาให้ในคราวเดียว แต่จะไม่ทําให้ตาย เพราะว่าเขาไม่ต้องการทุกอย่างที่อีกฝ่ายสืบทอดมาต้องเสียเปล่า

 

“มัดมันไว้!”

 

ดวงตาทั้งสองข้างของไท่ซางหวงกานหยวนเปล่งแสงสีเขียวออกมา พร้อมกับยื่นมือข้างหนึ่งออกมาทําท่าคว้าจับ ทําให้เถาวัลย์นับไม่ถ้วนเริ่มเคลื่อนไหว เข้าทําการผูกรัดร่างของอี้เทียนหยุนที่ละเส้นอี้เทียนหยุนยืนเฉย ปล่อยให้เถาวัลย์พวกนั้นพันร่างของเขาเอาไว้ พร้อมกับพยายามที่จะแทงเข้าไปในร่างของเขา!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Crazy Leveling System 629: กบฏ

Now you are reading Crazy Leveling System Chapter 629: กบฏ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

CLS ตอนที่ 629: กบฏ

 

คําพูดที่อเทียนหยุนและไท่ซางหวงกานหยวนคุยกันนั้น คุยให้ทุกคนได้ยิน ผู้พิทักษ์อะไรกัน ราชาศักดิ์สิทธิ์ ช่วงเทียนอะไรกัน ทุกสิ่งที่พวกเขาคุยกัน ไม่เห็นจะเคยได้ยินมาก่อน แล้วยังจะมีปีศาจอะไรนั้นด้วย พวกเขาไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร

 

แต่ถึงพวกเขาจะไม่เข้าใจ แต่ว่าไท่ซางหวงเข้าใจ

 

“เป็นไปไม่ได้ ปีศาจนั้นถูกผนึกไว้แน่นอนแล้วนี่นา!” สีหน้าของไท่ซางหวงกานหยวนเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เหมือนกับว่าคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้นด้วย

 

“เจ้าที่ไม่เคยสนใจอะไร แน่นอนว่าย่อมไม่รู้ถึงเรื่องนี้เป็นธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าเพิ่งไปดูป้ายศิลาบรรพกาล สะกดสวรรค์มา ผนึกที่นั่นได้เริ่มเสียหายมากแล้ว หากว่าข้าไม่ซ่อมมัน อีกไม่เกิน 50 ปี ผนึกนั้นก็จะถูกทําลาย”

 

“เมื่อถึงตอนนั้น เจ้าคิดว่าตัวเองยังร้ายกาจกว่าราชาศักดิ์สิทธิ์ไหม สามารถปราบปีศาจตนนี้ได้หรือเปล่า หรือว่าจะนั่งรอความตาย? หากว่าเส้นทางถูกปิด ต่อให้เจ้าอยากจะหนี้ไปยังโลกสวรรค์หรือว่าโลกใต้พิภพ ก็ไม่มีทางไปไหนได้”

 

“ทั้งหมดนี้เป็นเพราะหลายปีนี้เจ้าเอาแต่ตามืดบอดลุ่มหลงในอ่านาจ จนตอนนี้ทําให้ผนึกทั้งหมดได้รับความเสียหายไปตามๆ กัน!”

 

นี่ไม่ใช่ว่าอี้เทียนหยุนจะพูดเหลวไหล ที่ผนึกได้รับความเสียหายนี้ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเพราะว่าพลังวิญญาณนั้นอ่อนแอลง ทางผ่านใต้พิภพเป็นเส้นทางที่คอยส่งพลังวิญญาณให้ไม่หยุด เมื่อเส้นทางไร้ซึ่งการดูแล จึงก่อให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น

 

จนตอนนี้ได้กลายเป็นเขตอันตรายไปแล้ว ส่วนเส้นทางแม่น้ําศักดิ์สิทธิ์โลกสวรรค์นั้นกลับไม่มีเรื่องอะไร ยังคงรักษาความสมดุลได้อย่างปกติ ทําให้การในแม่น้ําศักดิ์สิทธิ์โลกสวรรค์ไม่ได้ยากอะไรนัก อย่างน้อยก็ไม่เต็มไปด้วยอันตรายที่พร้อมจะตายได้ทุกเมื่ออย่างทางผ่านใต้พิภพ

 

“เป็นไปได้ยังไง…” ไท่ซางหวงกานหยวนตกใจ ในใจเขามีความรู้สึกไม่เชื่ออยู่หลายส่วน คนที่พูดแบบนี้ได้ จะต้องเป็นคนที่ได้เห็นป้ายศิลาบรรพกาลสะกดสวรรค์มาแล้วถึงจะพูดแบบนี้ได้

 

“แล้วตอนนี้เจ้ายังจะหน้ามือตามัวอยู่อีกไหม? ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง กลับไปพิทักษ์ทางผ่านใต้พิภพซะ แล้วข้าจะไม่เอาเรื่อง!” เทียนหยุนพูดอย่างเย็นชา

 

แม้ว่าไท่ซางหวงกานหยวนจะทําเรื่องที่ผิดพลาดเช่นนี้ แต่หากจะให้สังหารเขาทิ้งไป ก็จะเป็นการสูญเสียเกินไป เขาผิดที่ละทิ้งหน้าที่ หากกลับไปทําหน้าที่ตามเดิม ก็จะเป็นการทําความดีลบล้างความผิดในครั้งนี้ได้

 

ก่อนหน้านี้ที่บอกว่าเขาทิ้งหน้าที่จนทําให้ผนึกมีอายุสั้นลง คําพูดนี้ที่จริงแล้วถูกต้อง แต่ต่อให้เขาจะทําหน้าที่พิทักษ์ที่นั่นเป็นเวลาหลายสิบปีหรือมากกว่าพันปี แต่สุดท้ายแล้ว ผนึกนั่นก็จะต้องถูกทําลายอยู่ดี

 

ผนึกไม่ใช่ว่าจะไร้เทียมทาน แต่หากจะให้เป็นเช่นนั้นก็ต้องให้ป้ายศิลาบรรพกาลสะกดสวรรค์ทําการผนึกสิ่งที่ตายแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะปีศาจที่ยังมีชีวิตอยู่ มันสามารถแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนในท้ายที่สุดก็แข็งแกร่งขึ้นจนสามารถทําลายผนึกได้

 

นอกจากว่าปีศาจตนนี้จะมีระดับที่ต่ํามาก แบบนั้นต่อให้ใช้ทั้งชีวิตก็ไม่มีทางที่จะทําลายผนึกออกมาได้ ยังไงก็ตาม อีกฝ่ายก็มีระดับราชาศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน และราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายก็ร่วมมือกันทําการปราบ และผนึกมันเอาไว้เพราะว่าหมดหนทางเท่านั้น

 

ภายใต้เงื่อนไขนี้ จึงเป็นที่แน่นอนว่าไม่สามารถที่จะผนึกมันไว้ได้ตลอดกาล!

 

“พอแล้ว แค่นี้ก็พอ…” ไท่ซางหวงกานหยวนกลับคืนสู่ความสงบอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมองไปที่อี้เทียนหยุนด้วยสีหน้าดุร้าย “ร้อยปีก็พอให้ข้าเพลิดเพลินกับทุกสิ่งแล้ว เมื่อถึงตอนนั้น ข้าก็แค่หนีไปที่โลกสวรรค์อีกครั้ง จากนั้นแล้วมันยังจะเกี่ยวอะไรกับข้าอีก? จะให้ข้าเอาแต่ปกป้องสถานที่เส็งเคร็งแบบนั้นไปเรื่อยๆ ข้าคงพูดได้แค่ว่า ไม่มีทาง!”

 

เขาเดินเข้ามาทีละก้าว พร้อมกับมองมาที่อี้เทียนหยุนอย่างเย็นชา “ผู้สืบทอดของนายท่านราชาศักดิ์สิทธิ์ ไม่คิดเลยว่าเมื่อข้าจากมา เจ้ายังจะนําตัวเองมาสังเวยให้กับข้าถึงที่ ข้าจะให้ตัวเลือกเจ้า ส่งทุกสิ่งที่ได้รับสืบทอดมาซะ แล้วข้าจะให้เจ้าตายอย่างมีความสุข!”

 

ไม่คิดเลยว่าหลังจากที่บอกเรื่องทั้งหมดนี้ออกมา ไท่ซางหวงกานหยวนไม่เพียงแต่จะไม่สํานึกผิดเท่านั้น แต่ยังคิดจะฆ่าเขาอีก พร้อมทั้งต้องการบังคับเอาทุกสิ่งที่เขาได้รับการสืบทอดไปด้วย

 

หัวใจที่โลภมากนี้ คิดไม่ออกเลยว่าทําไมตอนแรกราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนถึงได้เลือกเขามาเป็นผู้พิทักษ์ ดูเหมือนว่าอย่างระดับราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนเองก็ยังมีช่วงที่ผิดพลาดเหมือนกัน หรือจะพูดว่าคนเราย่อมมีการเปลี่ยนไปเป็นธรรมดา ไท่ซางหวงกานหยวนไม่ได้ซื่อสัตย์เหมือนกับเรื่นเต่อที่จะมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่

 

แม้ว่าขุนนางคนอื่นใกล้ๆ จะไม่รู้ว่ามันเรื่องอะไรกัน แต่พวกเขารู้ว่าไท่ซางหวงต้องการจะลงมือแล้ว จึงได้พากันมีสีหน้าตื่นเต้น นี่หมายความว่ามหาจักรพรรดิเทียนหยุนจะต้องตาย และเมื่อถึงตอนนั้น อาณาจักรอันดับ 1 ก็จะตกเป็นของพวกเขา!

 

“ดูเหมือนว่าจะสํานึกผิดสินะ ขาในฐานะตัวแทนของราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียน จะขอเป็นคนกําจัดคนชั่วอย่างเจ้าเอง!” เทียนหยุนมีสายตาเย็นชาอย่างถึงที่สุด

 

“กําจัดข้า? นั่นก็ต้องดูว่าเจ้ามีความสามารถพอหรือเปล่าด้วย แค่สังหารเจ้าเฒ่านั่นได้ ก็คิดว่าตัวเองร้ายกาจมากอย่างงั้นเหรอ? ต่อให้เจ้าจะเป็นผู้สืบทอดของราชา

ศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียน แต่ยังไงเจ้าก็ยังเด็กเกินไปอยู่ดี!”

 

ไท่ซางหวงกานหยวนพูดอย่างดูถูก “ข้าเคยบอกไปแล้วว่าต่อให้เป็นมังกร ก็ต้องหมอบเมื่อต้องอยู่ในถิ่นของข้า!”

 

เขารวบนิ้วกําเป็นหมัดเบาๆ ทําให้พื้นเริ่มแตกออก เหมือนกับทั่วทั้งโลกมนุษย์กําลังสั่นไหว พร้อมกันนั้น พลังวิญญาณทั้งหมดก็ได้ถูกเขาดึงออกไป และเมื่อดูดีๆ แล้ว จะพบว่าที่พื้นปกคลุมไปด้วยค่ายกล และที่ยิ่งกว่านั้นก็คือในร่างของเขากําลังปลดปล่อยพลังของธาตุพฤกษาออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

หลังจากปล่อยพลัง ไท่ซางหวงกานหยวนก็ได้กลับเป็นหนุ่มอย่างรวดเร็ว พริบตาก็กลายเป็นหนุ่มหล่ออายุ 30 นี่ไม่ใช่การดิ้นรนเฮือกสุดท้าย แต่เป็นผลจากการปลดปล่อยพลังชีวิตที่ไร้เทียมทาน ทําให้ตนฟื้นกลับมาเป็นหนุ่ม!

 

นี่คือพลังของธาตุพฤกษา ทําให้มีชีวิตอยู่เป็นเวลานาน นี่ไม่เพียงแต่เขาจะมีกายาพฤกษาศักดิ์สิทธิ์ที่หายากเท่านั้น แต่ยังได้วิชายุทธ์ที่เหมาะกับกายาของตน ภายใต้การเข้ากันได้ของทั้งสอง จึงทําให้พลังชีวิตของเขาได้ยึดขยายขึ้นอีกมหาศาล

 

ตัวอย่างเช่นระดับราชาเซียนจะมีขีดจํากัดอายุขัยอยู่ที่ 4-5 พันปี แต่ว่าเขานั้นสามารถยืดอายุของตนไปถึงมากกว่า 7-8 พันปี หรืออาจจะนานกว่านั้น นี่ก็คือผลลัพธ์แห่งความเป็นอมตะของพฤกษาธาตุ!

 

ซึ่งนี่ก็คือเหตุผลว่าทําไมเขาถึงมีอายุมากกว่าบิดาของเรื่นเต๋อ บิดาของเงินเดือนั้นได้ตายไปแล้ว แต่ว่าเขา ยังมีชีวิตอยู่

 

พริบตา ทั่วทั้งท้องพระโรงก็ปรากฏเถาวัลย์ขึ้นเต็มไปหมด และเถาวัลย์แต่ละเส้นก็พากันส่งแสงสีเขียวออกมา ทําให้ทั่วทั้งท้องพระโรงอันแน่นไปด้วยพลังชีวิตนี้เป็นพลังที่น่าฟังแค่ไหน เพียงสัมผัสก็ทําให้คนอ่อนเยาว์ลงได้

 

“ไท่ซางหวงไร้เทียมทาน ไท่ซางหวงไร้เทียมทาน!”

 

เหล่าขุนนางตะโกนออกไปด้วยน้ําเสียงที่เต็มไปด้วยความคลั่งไคล์ พลังที่เต็มไปด้วยปาฏิหาริย์เช่นนี้ มีแต่ไท่ซางหวงของตนเท่านั้นที่สามารถแสดงมันออกมาได้ เขาคือคนที่ใช้พลังแห่งปาฏิหาริย์ได้

 

“มหาจักรพรรดิเทียนหยุน ก่อนหน้านี้เจ้าทําเป็นอวดดี ให้ข้าคอยอยู่ด้านนอกหลายชั่วยาม! เพราะว่าข้าไว้หน้าเจ้า แต่เจ้ากลับทําตัวโอหังกับข้า! คราวนี้ข้าจะให้เจ้ามีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย ไม่ว่าเจ้าจะได้รับสืบทอดอะไรก็ต้องคายมันออกมาให้หมด…” ไท่ซางหวงกานหยวนที่เป็นเหมือนบัณฑิตเมื่อก่อนหน้าได้หายไปแล้ว พร้อมกับถูกแทนที่ด้วยบุคคลที่มีสีหน้าร้ายกาจแทน

 

คิดว่ายังไงอี้เทียนหยุนก็ต้องตายอย่างแน่นอน ต่อให้อี้เทียนหยุนจะร้ายกาจ แต่จะมาร้ายกาจไปกว่าไท่ซ่างหวงกานหยวนได้ยังไง?

 

ภายใต้มหาค่ายกลที่เปิดใช้งาน ทําให้พลังรบของเขาเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง จากแต่ก่อนที่มีพลังรบ 2.7 พันล้าน ตอนนี้ได้เพิ่มเป็น 4.3 พันล้านในพริบตา

 

ในเมื่อเทียนหยุนสามารถสังหารบรรพชนไท่ซ่างของอาณาจักรชื่อหลงได้ ก็แสดงว่าพลังของอีกฝ่ายไม่ธรรมดา ดังนั้นไท่ซางหวงกานหยวนจึงได้เอาจริง ต้องจัดการกับเขาให้ในคราวเดียว แต่จะไม่ทําให้ตาย เพราะว่าเขาไม่ต้องการทุกอย่างที่อีกฝ่ายสืบทอดมาต้องเสียเปล่า

 

“มัดมันไว้!”

 

ดวงตาทั้งสองข้างของไท่ซางหวงกานหยวนเปล่งแสงสีเขียวออกมา พร้อมกับยื่นมือข้างหนึ่งออกมาทําท่าคว้าจับ ทําให้เถาวัลย์นับไม่ถ้วนเริ่มเคลื่อนไหว เข้าทําการผูกรัดร่างของอี้เทียนหยุนที่ละเส้นอี้เทียนหยุนยืนเฉย ปล่อยให้เถาวัลย์พวกนั้นพันร่างของเขาเอาไว้ พร้อมกับพยายามที่จะแทงเข้าไปในร่างของเขา!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+