Don’t Heal the Others เล่นเกมออนไลน์ อย่าไปฮีลมันเลย! 101

Now you are reading Don’t Heal the Others เล่นเกมออนไลน์ อย่าไปฮีลมันเลย! Chapter 101 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เจ้าหนูนั่นอยู่เมืองนี้รึเปล่าเนี่ย?”

“คงจะทำเป็นไม่ได้ยินสินะ ไอ้กร๊วกนั่น”

“ขอลองหน่อยได้ไหม? อาจจะเป็นเพราะว่าชื่อของพี่ถูกปกปิด หมอนั่นอาจจะไม่ไว้ใจก็ได้”

2 นิโคลัสช่วยตอบเสี่ยวเฟิง เขาก็รู้สึกว่ามันมีเหตุผลอยู่เหมือนกัน แต่ทันใดนั้นก็มีสายเรียกเข้าจากระบบ

“เดี๋ยวก่อน”

เสี่ยวเฟิงรีบเบรกคนทั้ง 2 ก่อนแล้วดูว่าใครเรียกเขา ปลายสายคือซืออี๋ที่เป็นเพื่อนของเขา

“นายใช่คนที่สั่งให้ป่าวประกาศในเมืองเทียนหลงรึเปล่า? หรือคนอื่นแอบอ้าง?”ปลายสายถามด้วยความสับสน

“นั่นฉันเอง ประกาศมันดังไปถึงเมืองเฉิงฉุยเลยรึไง?” พอได้ยินอย่างงั้นเสี่ยวเฟิงยิ่งสับสนยิ่งกว่าเธออีก

“ฉันมาทำธุระที่เทียนหลง แล้วตอนนี้เฉิงฉุยมีผู้เล่นอยู่แน่นไปหมดพื้นที่พิเศษก็เลยพลอยเต็มไปด้วยเลย ไม่อยากจะไปแย่งโอกาสพวกที่เลเวลน้อยๆน่ะ” ซืออี๋พูดอย่างเกียจคร้าน “ดูท่าว่านายกำลังตามหาเฉียงกวนเอาเฉินอยู่สินะ?”

“รู้จักเขาเหรอ?” เสี่ยวเฟิงถาม

“ถ้าไม่ไปชื่อซ้ำกับใครน่ะนะ นั่นน่ะญาติฉันเองตอนนี้น่าจะอยู่นอกเมืองคงจะไม่ได้ยินนายหรอก แล้วที่ฉันมาอยู่ที่นี่ก็มาช่วยเขานี่แหละ” เสียงของซืออี๋ยังคงเนือยอยู่เหมือนเดิม

“เยี่ยม พาฉันไปหาเขาได้ไหม” เสี่ยวเฟิงรู้สึกยินดีมาก

“ก่อนหน้านั้นฉันขอถามอะไรซักอย่างจากนายก่อน แล้วเขาก็ไม่ได้จะมาคุยกับใครง่ายๆด้วย” ซืออี๋ดูท่าเหมือนต้องการอะไรบางอย่างจากเขา.

“ได้” เสี่ยวเฟิงพยักหน้า

“งั้นรออยู่ในเมือง ขอเวลา 2 นาที”

ซืออี๋นั้นตรงต่อเวลามาก เธอมาเจอเขาภายใน 2 นาทีตามที่บอกไว้

นิโคลัสทั้ง 2 คนต่างตะลึงไปกับความงดงามของคนที่ปรากฎตัวต่อหน้าเขา เจ๋าซือนั้นก็ออกอาการหน้าม่อในทันที

“อืม ขาอวบไม่เลว…อืม…งดงามเหลือเกิน…”

ขนาดเตียจูยังเขินจนหน้าแดงต้องหลบหน้าหลบตาในตอนที่ซืออี๋มองมาทางเขา

“เพื่อนของนายกับนายนี่เข้ากันได้ดีเหลือเกินนะ” ซืออี๋กลอกตาไปทางเสี่ยวเฟิงแล้วเดินเข้าไปหาเขาอย่างจงใจ

เสี่ยวเฟิงรู้สึกกระดากจนต้องมองไปทางเด็กเนิร์ดทั้ง 2 แต่พวกเขากลับมมองกลับมาด้วยความนับถือ ทำให้เขาแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีเลย

“พวกนายกลับไปก่อนก็ได้นะ ที่เหลือเดี๋ยวจัดการเอง” เสี่ยวเฟิงพูดกับทั้ง 2

“ไม่ พวกเราสัญญากันไว้แล้วว่าจะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน ได้โปรดพาพสกเราไปด้วยเถอะ” เจ๋าซือพูดออกมาอย่างหน้าไม่อาย

เสี่ยวเฟิงแทบคลั่ง เขาจำไม่ยักกะได้ว่าพูดอะไรแบบนั้นเอาไว้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุผลของไอ้พวกนี้คือซืออี๋แน่ๆ

“ลูกพี่เสี่ยวกำลังตามหาคนอยู่ใช่ไหมล่ะ? ก็น่าจะยากพอตัวนะแล้วพวกเราก็ว่างอยู่ด้วย ให้พวกเราช่วยเถอะ” เตียจูเสริมขึ้นมา ซึ่งเสี่ยวเฟิงนั้นไม่เชื่อเหตุผลยาวยืดของอีกฝ่ายเลยแม้แต่นิดเดียว

“ตามใจพวกนายเถอะ”

เสี่ยวเฟิงนั้นเริ่มที่จะรำคาญแล้ว แต่ถ้าไอ้ 2 คนนั้นมันจะหน้าด้านได้ขนาดนี้เขาก็ไม่รู้จะห้ามยังไงเหมือนกัน

“ตามฉันมาเลย”

ซืออี๋ยิ้มมุมปาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอเรียกสัตว์พาหนะของเธอออกมาแล้วมุ่งหน้าออกจากเมืองในทันที

พวกเสี่ยวเฟิงรีบตามติดไปในทันที แต่เขาก็รับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่าง

สัตว์ขี่ของซืออี๋นั้นเปลี่ยนไป

เดิมเธอขี่ม้าขาว ส่วนเขานั้นจะขี่ม้าดำ ซึ่งวิ่งได้เร็วกว่าเขา

เขาเลยไปหาม้าแดงมาเพื่อที่จะเอาชนะซืออี๋โดยเฉพาะ

แต่ที่เธอใช้ตอนนี้คือม้าเฟอร์กาน่าซึ่งเป็นสิ่งที่แพงที่สุดในตลาดตอนนี้

เสี่ยวเฟิงรู้สึกไม่ชอบใจเข้าไปใหญ่ เขาคิดว่าซืออี๋จงใจกวนประสาทเขา พวกเขากำลังไปทางที่เป็นเขตพิเศษของเมืองร้าง และเธอต้องเห็นม้าสีแดงของเขาแน่ๆ ก่อนหน้านี้มันยังเป็นม้าขาวธรรมดาๆอยู่เลย!

ไม่มีใครเชื่อว่าเป็นความบังเอิญ ราคาของม้าเฟอร์กาน่าตอนนี้นั้นน่ากลัวซะจนเสี่ยวเฟิงยังไม่ซื้อ

ส่วนนิโคลัสทั้ง 2 คนนั้นยิ่งแล้วใหญ่ด้วยความที่จนสุดๆ พวกเขาเลยขี่ม้าสีดำเท่านั้น ตลอดทางพวกเขาไม่สามารถที่จะตามพวกเสี่ยวเฟิงได้ทันเลย

ซืออี๋ไม่ได้ขี่เร็วมากนักเพื่อที่จะรอพวกเขา แล้วเธอก็ไม่ได้หยอกล้อเสี่ยวเฟิงเหมือนเมื่อก่อนหน้าทำให้เสี่ยวเฟิงรู้สึกเสียดายนิดหน่อย

เฉียงกวนเอาเฉินอยู่ในเมืองร้างที่อยู่ไกลออกไปจากเมืองเทียนหลง พวกมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์นั้นล้วนแต่กลายเป็นซอมบี้ไปหมดแล้ว แม้แต่เสี่ยวเฟิงยังใช้เวลาจัดการพวกมันอยู่เกือบ 20 นาที.

“เขาอยู่ที่ไหน?”

เสี่ยวเฟิงมองไปรอบๆ เขามองเห็นแต่ซอมบี้เดินไปเดินมา เขาเลยต้องหันไปถามซืออี๋

ชาวบ้านคืนชีพ

เลเวล: 18

ระดับ: ทั่วไป

ธาตุ: มือ

พลังชีวิต: 340/340

พลังโจมตี: 52-59

พลังป้องกัน: 37-42

พลังโจมตีเวทย์: 34-39

สกิล: กัด คำราม

คำอธิบาย: เป็นธรรมดาของเมืองที่ล่มสลาย ที่จะมีคนตายฟื้นคืนชีพ ถึงจะเป็นอย่างงั้นสัญชาตญาณในการปกป้องเมืองของพวกเขานั้นยังคนอยู่

“มันควรจะเป็นที่นี่สิ รอก่อนนะ”

ซืออี๋รีบติดต่อหาทันที ซึ่งได้รับคำตอบมาเร็วมาก

“เขาอยู่ที่โบสถ์กลางเมือง รีบไปกันเถอะ”

มอนสเตอร์เลเวล 18 นั้นไม่ใช่ปัญหาเลย เสี่ยวเฟิงเพียแค่เพิ่มบัฟเสริมอาวุธให้พวกนิโคลัสแล้วก็ยืนดูอยู่ห่างๆ ด้วยพลังโจมตีที่เพิ่มมากว่า 100 พวกเขาสามารถจัดการซอมบี้ได้ในดาบเดียว

ซืออี๋มองพวกเขาอย่างช่วยไม่ได้ และก็ดูประหลาดใจในความเป็นทีมของพวกเขา.

มันทำให้เห็นว่าพวกเพื่อนๆของเสี่ยวเฟิงนั้นไม่ธรรมดาเลย ถ้าพวกเขาไม่มีบัฟพลังโจมตีคงไม่มาถึง 100 ได้ แต่ด้วยการสนับสนุนของเสี่ยวเฟิงนั้นทำให้พวกเขาไม่เจอปัญหาใดๆเลยในการต่อสู้

แม้แต่พี่น้องนิโคลัสก็ยังไม่เชื่อสายตาของตัวเองเลยว่าพวกเขาจะได้ขนาดนี้.

“เขาอยู่ตรงนี้แหละ”

ถึงแม้พวกซอมบี้จะเยอะแค่ไหนก็ไม่สามารถขวางพวกเขาได้ แล้วพวกเขาก็มาอยู่ใจกลางเมืองจนได้ ที่ประตูทางเข้าของโบสถ์ แล้วพวกเขาก็พบกับเฉียงกวนเอาเฉินที่กำลังจัดการมอนสเตอร์

“อะไรน่ะ?”

เสี่ยวเฟิงถึงกับต้องเลิกคิ้ว

อาชีพของเขาคือนักดาบที่สู้ระยะประชิด แต่กลับมีค่าพลังที่ใกล้เคียงกับมือสังหารมากกว่า เขาใช้ดาบสองมือในการต่อสู้

อาวุธในมือของเขาตอนนี้ไม่ดีเท่าไหร่นัก มันเป็นดาบยาวระดับหายากธรรมดา แต่มันกลับเข้ามือของเขาเป็นอย่างมาก

“สกิลดาบอย่างงั้นเหรอ?”

เสี่ยวเฟิงตั้งใจดูการต่อสู้ของเด็กคนนั้นเป็นครั้งแรก

“นี่! เสี่ยวเชน”

ซืออี๋ตะโกนเรียกเฉียงกวนเอาเฉินอีกฝ่ายฟาดฟันซอมบี้ตรงหน้าจนตายแล้วหันมองมาทางพวกเสี่ยวเฟิง

“ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่เนี่ย” ดูท่าว่าเขาจะจำพวกเสี่ยวเฟิงได้ แต่หน้าเจ้าตัวดูบ่จอยพิกล “นี่ซืออี๋ มาทำอะไรเนี่ย?”

“ก็เป็นเพื่อนกันน่ะสิ มีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อย” ขนาดเป็นญาตอย่างซืออี๋ยังคุยด้วยลำบากเลย

“ไม่ทำอ่ะ อย่ามายุ่งกับฉัน” เฉียงกวนเอาเฉินพูดโดยไม่คิดจะสนทนาต่อเลยแม้แต่น้อย

“เห้ย อยากโดนดีรึไงหาไอ้เด็กเวรนี่? นี่แพ้พนันให้พวกเรานะลืมไปแล้วเหรอ? ช่วยทำตามสัญญาที่จะกินขี้กิโลนึงด้วยนะ?” เจ๋าซือพูดอย่างคุกคามในทันที

“ใครมันจะไปทำวะ? น่าขยะแขยงจะตาย” เฉียงกวนเอาเฉินพูดด้วยความโกรธ

“···”

เสี่ยวเฟิงแล้วพวกต่างมองไปทางเฉียงกวนเอาเฉินที่กำลังจะเดินจากไปอย่างเงียบๆ

“ไอหมอนี่มันไม่โง่นี่หว่า? ใครบอกว่ามันเลวทรามขนาดนั้นวะ?” เจ๋าซือกระซิบมาหา

“ทำไม่ได้เว้ยยยย!” เฉียงกวนเอาเฉินทันทีที่เขารู้ตัวว่าเขาใช้คำพูดผิดไปหน่อย เขาจึงหันกลับมาตะโกนสวนด้วยความโกรธ

ซืออี๋มองอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกสงสาร แล้วก็พูดต่อไปว่า

“ฉันยอมรับว่าฉันแพ้พนันโอเคมั้ย? แต่ฉันทำให้ไม่ได้ งั้นจะให้ทำอะไรตอบแทนล่ะ?” เฉียงกวนเอาเฉินหน้าบูดราวกับลูกโป่งที่โดนปล่อยลม

“ยังจำได้ไหมว่านายส่งเรื่องไปที่วิหารแห่งแสงในเมืองเทียนหลงเมื่อวานนี้?” เสี่ยวเฟิงถาม

“เมื่อวาน? อ่อก็มีพาลาดินคนหนึ่งให้ฉันส่งข้อความมาให้ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านั้นเพราะมันไม่ได้รางวัลอะไร” เฉียงกวนเอาเฉินคิดอยู่พักนึงแล้วก็พูดออกมา

“แล้วจำได้ไหมว่าไปเจอเขาที่ไหน?”

เสี่ยวเฟิงพูดอะไรไม่ออก เขานึดว่าที่เขาไม่ได้รับรางวัลเพราะว่าเขาส่งภารกิจผิดวิธีซะอีก

“อ่า ถ้าจำไม่ผิดก็แถวๆนี้แหละ แต่จำที่แบบแน่ๆไม่ได้” เฉียงกวนเอาเฉินดูแผนที่แล้วก็พูดออกมาอย่างจนใจ

“งั้นก็ไม่ช่วยตามหาหน่อย” เสี่ยวเฟิงรับคำ

“ตอนนี่ยังไม่ได้ทำภารกิจอยู่ใกล้จะเสร็จแล้วด้วย เดี๋ยวจะตามไปทีหลัง” เฉียงกวนเอาเฉินพูดแล้วชี้ไปทางโบสถ์

“ห่าเอ๊ย” เจ๋าซือกับเสี่ยวเฟิงนั้นถึงกับหมดหนทาง

“ก็ได้ เดี๋ยวพวกเราจะช่วยภารกิจของนาย แล้วต้องรีบมาช่วยพวกเราด้วย”

“ได้ งั้นรวมปาร์ตี้กันเลย” เฉียงกวนเอาเฉินมองว่าทำแบบนั้นก็ดีเหมือนกันเลยส่งคำขอร่วมปารฺ์ตี้ทันที

พวกเขารวมกันจนกลายเป็นทีม 5 คน แล้วก็ติดตามเฉียงกวนเอาเฉินไปยังโบสถ์ร้าง

“นี่ภารกิจอะไรวะเนี่ย? นี่ยากเกินไปหน่อยไหม!”

เนื่องจากการรวมปาร์ตี้เพื่อช่วยภารกิจของเฉียงกวนเอาเฉินมันจะไม่ใช่ภารกิจสำหรับคนๆเดียวอีกต่อไป ทำให้ความยากของมันนั้นเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมมาก ไม่แปลกใจเลยว่าคนๆนั้นถึงขอให้เฉียงกวนเอาเฉินมาช่วยแบบนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด