Dungeon Defense (WN) 119 15 นาที ที่ยาวนานที่สุด(4)

Now you are reading Dungeon Defense (WN) Chapter 119 15 นาที ที่ยาวนานที่สุด(4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนนั้นเองที่หน้าต่างแจ้งเตือนปรากฏ 

 

「ค่าความชอบของทหาร ทหารจักรวรรดิแฟร้ง มิเชลลี เพิ่มขึ้น 13」

 

และจากจุดนั้นเอง

 

「ค่าความชอบของทหารสาธารณรัฐ บัทตาเวีย เพิ่มขึ้น 30 」

 

「ค่าความชอบชนชั้นสูงของจักรวรรดิฮับบวร์ก อเล็กซานเดอร์ ฟอน บัทตาเวีย เพิ่มขึ้น 2」

 

「ค่าความชอบของทหารราชอาณาจักรซาร์ดิเนีย พาเวีย เพิ่มขึ้น 11」

 

 

…….

หน้าจอสีฟ้าเต็มไปหมดเหมือนดั่งสึนามิ

 

 

แล้วสึนามิที่ว่านั่นก็หลั่งไหลมาตามการแจ้งเตือนตามค่าความชอบที่เพิ่มขึ้นและลดลง มันไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองการแจ้งเตือน การแจ้งเตือนของผู้คนนับแสนนั้นสาดเข้ามาใส่ผมราวกับคลื่น

 

ดิ-ดิ้ง ดิ้ง ดิ้ง

เสียงซาวด์เอฟเฟ็คดังขึ้นครั้งแล้ว ครั้งเล่า การแจ้งเตือนนั้นปิดบังการมองเห็น ทั่วทั้งทุ่งราบ รวมถึงท้องฟ้าในทันที

 

สิ่งที่เข้ามาตรงหน้าทำเอาผมพูดไม่ออกไปเลย แน่นอนล่ะ ตอนนั้นเองที่ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ได้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า

 

ความพึงพอใจนั้นไหลลงสู่ไขสันหลัง ทั่วทั้งร่างกายผมเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ผมรู้สึกเหมือนอยู่ที่จุด สูงสุดอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ทำเอาผมเสียววาบจนถึงหัว

 

ความจริงที่ว่า ผมนั้นมีอิทธิพลต่อมนุษย์นับ แสนนั้นทำให้ผมใจเต้นรัว ผมรู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่ว่า ผมสามารถควบคุมทุกอย่างได้

 

 

「ฉากเหตุการณ์นี้ได้ทำลายชิ้นส่วนแห่งโชคชะตา!」

 

มันยังไม่หมด

 「สถานการณ์ระดับ B <ผู้แบกรับความหวังของผู้คน> ถูกทำลายอย่าง ‘รุนแรง’!」

「สถานการณ์ระดับ A <พันธมิตรระหว่างราชวงศ์กับสาธารณรัฐ> ถูกทำลายอย่าง ‘สมบูรณ์’!」

 

เควสเบรคเกอร์นั่นเอง

นี่เป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่ที่ผมได้ลบตราทาสของลอร่า

 

ผู้แบกรับความหวังของผู้คนนั้นหมายถึง เจ้าหญิงจักรวรรดิ อลิซาเบธอย่างไม่ต้องสงสัย 

เธอนั้นเป็นผู้ปกครองที่คอยแบกรับความหวังของทั้งกับชนชั้นสูง สามัญชน และทาส ไว้บนบ่า เส้นทางการที่จะเป็นนักปกครองแบบนั้นจัดเป็นอุปสรรคใหญ่…….ยอดเยี่ยมไปเลย!

 

แต่ผมไม่แน่ใจว่า พันธมิตรระหว่างผู้สนับสนุนราชวงศ์และสาธารณรัฐนั้นหมายถึงใคร อาจจะหมายถึงเหตุการณ์ระหว่างจักรวรรดิแฟร้ง์ที่มีกับจักรวรรดิฮับบวร์ก อย่างนั้นหรือเปล่า? 

 

ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่า  ทั้งสองนั่นน่ะเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้มนุษย์ทั้งหลายร่วมมือกัน สุดท้ายแล้วก็ไม่ใช่ข่าวร้าย…….

 

‘ผมทำได้แน่’

ผมรู้สึกประหม่าขึ้นมาหน่อยๆ

 

 

จอมมารลำดับ 71 ที่มีค่าสแตทต่ำกว่า 100 เป็นขยะในท่ามกลางขยะ ตัวละครที่เอาชนะแรงคนตัดไม้จากหมู่บ้านในภูเขายังไม่ได้ ผมจัดการลากรวมทุกอย่างมาให้ไกลถึงเพียงนี้ด้วยร่างกายอย่างนี้

 

 

…….ผมสามารถทำลายเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิอลิซาเบธ ผู้ที่จะกลายเป็นสุดยอดนักปกครองแห่งทวีปในอนาคตได้! ไม่มีใครหน้าไหนนอกจากดันทาเลี่ยนจะสามารถทำได้อีกแล้ว!

 

 

‘ส่งใครมาให้ผมก็ได้ทั้งนั้น’

 

ผมรู้เรื่องราวทั้งภายในภายนอกของตัวละครหลักจาก<Dungeon Attack> 

ไม่มีใครที่ไม่มีบาดแผล หากมองสภาพจิตพวกเขาดูให้ดี พวกเขาจะพิกลพิการทางใจเมื่อมีรอยแตกหักเกิดขึ้นสักครั้ง

 

แม้แต่นักดาบผู้ยิ่งใหญ่แห่งทวัป ราชินีที่ต่อมาจะรวมราชอาณาจักรบริททานี่กับจักรวรรดิแฟร้งเข้าด้วยกัน หรือลอร์ดแห่งเหล่ามือสังหาร พวกเขาต่างมีจุดอ่อนด้วยกันทั้งนั้น

 

ตอนนั้นเองก็มีเสียงไม่คุ้นเคยดังมาจากอีกฝ่ายของที่ราบ ผมเริ่มผ่อนคลายลงแล้ว

 

“……จอมมารดันทาเลี่ยน ท่านนี่ช่างเจ้าคารมยิ่ง”

 

ฝ่ายมนุษย์ได้ส่งตัวแทนคนอื่นมาพูดแล้วอย่างนั้นหรือ? ไม่น่าแปลกใจนักหรอก ก็เห็นได้ชัดว่า พวกเขานั้นเสียเปรียบหากยังดื้อรั้นอย่างนั้นต่อ

 

มันดูเหมือนพวกกองกำลังมนุษย์อยากที่จะเล่นในสนามแห่งนี้ต่อ ผมล่ะสงสัยจริงว่า ใครจะส่งลงมาเป็นมือหวดลูกคนต่อไป

 

ผมปิดหน้าต่างแจ้งเตือนทั้งหมดในคราวเดียว พอทำแบบนั้นกำแพงสีฟ้าก็หายวับไปและเห็นอีกฝ่าย

 

เป็นผู้หญิงสวมชุดขาวบริสุทธิ์ ผมของเธอสีทอง ผมจำได้ในทันทีว่า เธอคือ นักบุญกราเซีย(Saintess Gracia)

 

 

เธอเป็นNPC ที่จะให้เควสกับตัวละครหลักและปาร์ตี้ไม่เว้นแต่ละวัน แต่เธอก็ทำงานร่วมกับตัวละครหลักโดยจ่ายผลตอบแทนน้อยมา แล้วอ้างว่านั่นเป็นความปรารถนาของเทพี ผู้เล่นจึงค่อนข้างไม่พอใจเธอ

 

ตัวอย่างก็เช่น หลังจากที่ตัวเอกกำจัดกองกำลังออเกอร์ เธอก็ให้รางวัลเขาเป็นไอเทมชิ้นเดียว เธอใช้ตำแหน่งหน้าที่ในฐานะนักบุญของเธอเพื่อให้ผู้กล้าทำงานให้เธอฟรีๆ

 

ใน <Dungeon Attack> ผู้กล้านั้นเป็นเด็กกำพร้าและทหารรับจ้าง ต่างจากตัวเอกจากเกม RPGs อื่นๆ เขามีความรู้เรื่องโลกนี้ดี ตัวเอกจึงบ่นแล้วบ่นอีกเรื่องการปฏิบัติที่ไม่ชอบธรรมนัก แต่นักบุญหญิงกราเซียกลับตอบเขาโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย

 

 

‘เจ้าได้รับเกียรติในการเห็นใบหน้าอันสูงส่งของข้า มีรางวัลใดที่ยอดเยี่ยมไปกว่านี้อีก?’

 

 

……นั่นแหละทำไมผู้เล่นถึงเรียกเธอว่า นังแม่มด ไม่ใช่ นักบุญหญิง

เอาล่ะ เธอได้รับพรจากเทพีแล้วอยู่มาเกือบร้อยปี แสดงรูปลักษณ์ออกมาเป็นผู้หญิงอายุยี่สิบ

ถ้าในฐานะคนปกติ มันคงเป็นเกียรตินั่นแหละที่ได้พบกับเธอ

 

แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ส่งนักบุญหญิงมาเป็นมือหวดคนถัดไป 

เลือกได้ดีนี่ เธอเป็นนักบวชและมีฉายานักบุญหญิงแค่นั้นก็พอจะทำให้ประหลาดใจแล้ว 

ในขณะที่ความภาคภูมิใจของชนชั้นสูงแตกเป็นเสี่ยง ก็คงไม่มีใครดีไปกว่านักบุญที่จะคอยปลอบประโลมใจกองทัพมนุษย์

 

“นั่นมันนักบุญหญิงกราเซียมิใช่หรือ ผู้เป็นที่รักขององค์เทพี? เหตุใดตัวตนอันสูงส่งเช่นนั้นถึงได้ย่างเท้าเข้ามาเหยียบในสมรภูมิอันเสื่อมทรามนี้ได้?”

 

“……พระเจ้าทรงรู้ว่า นรกมีอยู่บนโลกมนุษย์ ดังนั้นเหล่านักบวชจึงมักไปปรากฏที่ก้นหลม สงครามนั้นเป็นดั่งนรกของโลกมนุษย์ ดังนั้นไม่มีที่ใดที่เหมาะสมกับบุคคลเช่นข้า”

 

กราเซียหรี่ตาขณะที่ผมทำเป็นรู้จักเธอ เธอพูดต่อไปโดยไม่กังวล

 

“จอมมารดันทาเลี่ยน ข้าเป็นพยานถึงความสามารถของท่าน มาคิดดูว่า ท่านสามารถผสานเวทย์มนตร์เข้ากับคำพูดแล้วครอบงำผู้พูดฝ่ายเรา

ใครจะไปคาดคิดว่า ท่านจะใช้เวทย์มนตร์ทรงพลังเพื่อคุกคามจิตใจเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิของเรา…….ท่านที่ช่างน่าประทับใจยิ่ง”

 

“โอ้?”

พวกเขาจะไหลออกไปทางนี้แทนสินะ?

 

“กำลังจะบอกว่า สิ่งที่ข้าพูดนั้นมันไม่ใช่ ใช่ไหม?”

 

“ถูกต้องแล้ว”

 

เธอไม่ได้ใส่จนและยังคำยืนยันคำเดิม นี่เป็นการแสดงออกถึงตัวตนที่สูงส่งและมีอำนาจ 

 

แต่มันก็ไม่เพียงพอต่อการทำให้เจ้าหญิงจักรวรรดิที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการฆ่าครอบครัวตัวเอง แต่อย่างน้อยก็ลดเสียงวิพากย์วิจารณ์ที่ได้รับลงได้ หากคุณไม่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับโบสถ์น่ะ ทั้งความหน้าด้านและความหน้าตาย เธอจะขุดลึกลงไปยังจุดอ่อนของคุณ เธอคนนี้แหละนักบุญหญิงกราเซียที่ผมจำได้จากในเกม

 

“ช่างสูงส่งอะไรเช่นนี้ ถึงอย่างนั้นก็ดี โอ นักบุญเอ๋ย ตัดสินใจเลือกให้ฉลาดๆหน่อย ศรัทธาแท้นั้นจะมาได้จากบุคคลที่กระทำการฝ่าฝืนอย่างนั้นหรือ”

 

“เจือเวทย์มนตร์ลงในถ้อยคำอีกแล้วสินะ 

ข้าเข้าใจแล้ว เปล่าประโยชน์ที่จะกระซิบกับข้า องค์เทพีของข้าจักปกป้องข้าเสมอ แผนชั่วร้ายของเจ้ามันไม่ได้ผล”

 

“คุฮุ”

 

มันไม่ใช่คำเหน็บแนมที่ผมคาดว่าจะได้รับ จึงเผลอหัวเราะออกมาเอง

 

“เธอน่ะเป็นพระระดับ 1 เวลาว่างของเธอใช้ไปกับอะไร คอยดูแลหลังให้พวกชนชั้นสูงอย่างนั้นเหรอ? 

แหม แหม ตัวข้านี้ในฐานะจอมมาร อาจจะทำลายล้างโลกใบนี้ก็จริง แต่ก็เป็นเพียงการหลอกลวงเพียงชั้นเดียว

ว่าแต่โศกนาฏกรรมและการหลั่งเลือดที่มนุษยชาติจะต้องเจอหลังจากลอกเปลือกชั้นเดียวที่ว่านั้นจะมากแค่ไหนกันนะ?”

 

“……ความสนุกของเจ้าจบลงแล้ว จอมมาร”

 

เธอหยิบบางสิ่งออกมาจากกระเป๋า มันคือกระดุมล็กๆ

 

 

“เจ้ารู้หรือไม่ นี่คืออะไร?”

 

“……?”

 

ผมขมวดคิ้ว ทำไมเธอถึงได้เอาเจ้าสิ่งนี้ออกมาตอนนี้? ผมบอกไม่ได้ว่าเธอเอามันออกมาจากที่ไหน นี่เธอต้องการจะใช้เจ้าวัตถุชิ้นนั้นเพื่อเปรียบเปรยกับสิ่งที่ดูหรูหราๆขณะพูดอย่างนั้นเหรอ? 

โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบการพูดแบบนั้นเลย ผมขอแหย่เล่นหน่อยได้ไหม……?

 

“ข้าไม่รู้จัก มันไม่ใช่ของที่ค้าคุ้นเคย”

 

“สิ่งนี้ก็ไม่คุ้นเคยต่อข้าเช่นกัน นั่นเป็นเพราะมันอาติแฟคที่ราคาแพงอย่างมาก มันเป็นสิ่งที่คนรวยในทวีปเท่านั้นจะมีครอบครองไว้ในมือได้”

 

นักบุญวางกระดุมนั่นไว้บนฝ่ามือแล้วเปิดออก

 

 

“เวทย์มนตร์ที่รู้จักในชื่อว่า เมโมเรีย(Memoria)ถูกร่ายไว้บนสิ่งนี้ มันเป็นอาติแฟคที่จะบันทึกเสียงและฉากเหตุการณ์รอบข้าง ไม่ใช่เพียงแต่ตัวเวทย์เท่านั้นที่ร่ายยาก 

หากแต่ยังต้องอยู่ในขนาดที่เหมาะสมด้วย จึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างมันขึ้นมาโดยปราศจากความช่วยเหลือจากอาร์คเมจ”

 

ผมส่ายหัว ผมเข้าใจแล้วว่ามันคือไอเทมอะไร แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงเอามันออกมา

 

“นักบุญ ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อฟังการสอนเวทย์มนตร์”

 

“ไม่ต้องเร่งรีบขนาดนั้น จอมมาร สิ่งนี้ไม่ใช่ไอเทมใหม่ มันเคยถูกใช้มาก่อนแล้ว พอเดาได้ไหมว่าใครเป็นเจ้าของ?”

 

“ข้าต้องขออภัย แม้ข้าจะเป็นจอมมารแต่ข้าก็ยากจนเหลือแสน”

 

ผมยักไหล่

 

“ชีวิตข้าห่างไกลจากของราคาแพงพรรค์นั้น”

 

“มันมาจากพ่อคนหนึ่ง”

 

 

“หืมม?”

นักบุญกราเซียพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

 

“พ่อที่มีลูกชายเพียงคนเดียว ลูกชายของเขานั้นมีพรสวรรค์หากแต่ขาดประสบการณ์ คนเป็นพ่อจึงพยายามบังคับให้ลูกชายเขาออกไปเจอกับประสบการณ์ในโลก

แต่ถึงอย่างนั้น คนเป็นพ่อมีหรือจะไม่ห่วงลูกของตน? เขามอบอาติแฟค เมโมเรียให้กับลูกชาย เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง”

 

“…….”

 

“นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนบางอย่างล่วงหน้าหรือเปล่า? โศกนาฏกรรมได้เกิดขึ้น ลูกชายของเขาได้ตายในดินแดนอื่น สาเหตุการตายเป็นปริศนา มีโอกาสที่เขาอาจถูกจู่โจมโดยเหล่าโจร และศพของลูกชายของเขานั้นก็พบอยู่ในเส้นทางเดินป่า…….”

 

เธอหรี่ตาลง

 

“ถึงอย่างนั้น ลูกชายของเขาก็ฉลาด เขาไม่ลืมของขวัญที่พ่อของเขาให้เขาจึงได้เปิดการใช้งานเมโมเรียอาติแฟคในวันสุดท้าย 

เขาอาจจะตาย แต่เขาก็ได้ทิ้งหลักฐานว่า ทำไมเขาจึงตาย ต้องขอบคุณสิ่งนี้ ทำให้พ่อของเขารู้ว่า ใครฆ่าลูกชายของเขา”

 

ความรู้สึกแย่ๆไหลผ่านตัวผม

นักบุญหญิงกราเซียพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

 

 

“ลูกชายของเขาชื่อ แจ็ค อแลนด์”

 

 

―ในตอนนั้นเอง

สมองของผมหยุดทำงาน

 

ความรู้สึกแย่ๆจากหัวไหลลงสู่ไขสันหลัง เหมือนมีเส้นสีดำแดงมามัดรอบกระโหลกตรึงสมองผมไว้

 

แจ็ค อแลนด์

พ่อค้าทาส แจ็ค―

ทำไมชื่อเจ้าโง่ อ่อนต่อโลกถึงถูกยกมาพูดถึงที่นี่?

นักบุญหญิงมองผมด้วยแววตาเย็นชา

 

 

“สิ่งนี้มันเกิดขึ้นประมาณเมื่อครึ่งปีที่แล้ว เกิดการจราจลขึ้นในเมืองเวอรืเนีย ทางเหนือสุดของซาร์ดิเนีย มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการปลุกปั่นของกิลด์ทหารรับจ้าง เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ ผู้คนมากมายเสียชีวิตและชีวิตพังจากไฟครั้งนั้น”

 

 

อย่าบอกนะ

 

ไม่สิ มันไม่มีทางเป็นไปได้

 

“ลูกชายของเขา ศพของแจ็ค อแลนด์ ถูกพบในป่าใกล้กับเวอร์เนีย ร่างของเขานั้นพบว่าพิงใกล้หิน หินก้อนนั้นเต็มไปด้วยเลือดของแจ็ค 

 

ยิ่งไปกว่าน้ัน บนหินก้อนนั้นยังมีข้อความเขียนไว้ว่า…… ‘แก้แค้น’ มันเขียนด้วยเลือด”

 

ความหนาวยะเยือกไหลลงไขสันหลังผม

 

มันมีข้อความพวกนั้นเขียนไว้บนหินด้วยรึ?

 

แจ็คตายหลังจากเอาหัวโขกกับก้อนหิน เขาฆ่าตัวตายเอง เนื่องจากไม่อาจสู้กับผมได้หรือแม้แต่รักษาความเชื่อของตัวเองได้ เขาเลือกที่จะฆ่าตัวตายแทนที่จะเสียความเชื่อนั้นไป

 

นั่นคือ สิ่งที่ผมเชื่อ จึงตัดสินใจปล่อยศพเขาไว้อย่างนั้น และราคาของความนับถือ ผมคิดว่า การกระทำของเขานั้นช่างงดงาม 

―นี่เธอกำลังจะบอกว่า มันได้เป็นอย่างนั้นหรอกหรือ?

 

 

เขาทิ้งหลักฐานการตายไว้ตรงนั้นด้วย!?

แจ็ค อแลนด์―ไอ้โง่บ้าอุดมการณ์คนนั้นเนี่ยนะ!?

 

 

“เขาต้องการแก้แค้นไปเพื่อสิ่งใดกัน? เดี๋ยวจะได้เห็นคำตอบกันชัดๆ

นับเป็นโชคดีที่ศพของเขาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ อาติแฟคเมโมเรียนั้นถูกซ่อนไว้เป็นเหมือนกระดุมบนเสื้อผ้าโดยไม่เสียหาย พ่อของเขาจ้างนักเวทย์มาสำรวจศพและถอดรหัสอาติแฟค

……จอมมารดันทาเลี่ยน ไม่สิ นักสมุนไพรโลลิต้า”

 

“……!”

 

“และสิ่งนี้คือ วาระสุดท้ายของเขา”

 

ภาพปรากฏออกมาจากอาติแฟคที่วางบนฝ่ามือของนักบุญหญิง

 

หน้าจอนั้นใหญ่พอจะให้ทั้งกองทัพฝ่ายจอมมารและกองทัพมนุษย์เห็นได้อย่างชัดเจน

 

 

– อุว้ากกกก, อ๊ากกกก! แว๊กกกกกกกกกกกกก⎯⎯⎯!

 

สิ่งแรกที่ดังออกมาจากวิดีโอคือ เสียงแหลมทลายหู

ฉากรอบข้างนั้นว่าง

 

 

– อั่ก! อุ่กกกกก! อ๊ากกกกก! ฮว้ากกกกกกกก!

 

– อ่าาา แจ็ค……นี่มัน ช่างน่าเศร้าใจยิ่งนัก

 

– อุ่กอั่กกกก! อ๊ากก! โลลิต้า!? โลลิต้ากกกก!?

 

– ฉันถามนายถึงสามครั้ง เอาจริงๆนะ สามครั้ง ความใจกว้างนั้นมีจำกัด มันเป็นคำขอที่ไม่ควรถูกปฏิเสธ

 

แล้วภาพของผมก็……ปรากฏ

 

ตัวผมที่กำลังเหยียบไปบนตัวแจ็ค

 

 

– ข้าเข้าใจนะว่า มันเจ็บ แต่นายก็เสียงดังเกินไป

เฮ้ย แจ็ค! แจ็ค! ได้ยินไหม หา?

ข้าซาบซึ้งใจนะ ที่เจ้าเงียบเสียงลงได้บ้าง

 เสียงดังไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

แจ็ค! หุบปากโว้ย! 

ถ้าแกยังเมินเฉยต่อคำขอของข้าอีก คราวนี้จะฟันแขนซ้ายแกด้วย

เข้าใจไหม? ข้าจะแยกส่วนตรงไหล่ซ้ายของแก

 

– อุก,ฮึก……กะฮึก……!

 

– ดีมาก ยอดเยี่ยมมาก,แจ็ค ทำได้ดีมาก ถ้าแกยังทำได้ต่อไป จะไม่ต้องมีการนองเลือด ข้าสัญญาเลย

 

ฉากเหตุการณ์นั้นเลื่อนไหลไป

 

ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากเฝ้าดูมัน

 

 

– ลองคิดดูให้ดีๆสิ แจ็ค มันเรียบง่ายมากเลยนะ ทำไมอีกฝ่ายถึงได้ปฏิเสธการค้าขายปกติที่ทำในสมาคมพ่อค้าล่ะ? ทำไมพวกเขาถึงเลือกทำอะไรที่สุดโต่งขนาดนั้น? ลองถามคำถามนี้กับตัวเองดู แล้วจะได้คำตอบที่เป็นธรรมชาติที่สุด

 

– ตำแหน่ง……นายอยู่ตำแหน่งที่ไม่สามารถซื้อขายถูกกฏหมายได้……?

 

– นายเข้าใจดีแล้ว ความจริงแล้ว มันยากมากเลยนะ สำหรับข้าที่จะเข้าเมืองอย่างถูกกฏหมาย

 

– แกไม่ใช่พ่อค้า……โลลิต้า!

 

– ฟันนิ้วก้อยซ้ายของเขา

 

– รับทราบค่ะ

 

 

เสียงกรีดร้องน่ากลัวดังขึ้นอีก การทรมานยังคงดำเนินต่อไป การย่างเนื้อ เสียงกรีดร้อง และการคุกคาม ฉากที่คนธรรมดาทั่วไปไม่อาจทนดูต่อได้

ตัวผมในจอนั้นยังคงรักษาท่าทางสบายสุดๆ แจ็คนั้นกลิ้งไปมาบนพื้นเพราะเจ็บปวดจากแขนที่หายไป

 

 

– ความจริงที่ว่าแกขายสมุนไพรที่รักษาโรคระบาดได้ คึกกก ! นั่นก็โกหกด้วย!

 

– ใช่ดิ! ถูกแล้วนี่! แกมันไอ้ระยำที่อัญเชิญมอนสเตอร์นั่นออกมาในโรงประมูล!

 

– เรื่องนั้นเจ้าพูดถูก ข้ายอมรับ*

 

– เพลิงไหม้นั่นก็ด้วย!

 

– ตอนนี้สมองนายทำงานได้ตามปรกติแล้ว

 

“…….”

 

ผมกลายเป็นไอ้โง่ไปในทันที

 

ในมุมหนึ่งของสมองมันกรีดร้องขึ้นมา ผมไม่ควรจะยืนเฉยๆแล้วปล่อยให้เป็นอย่างนี้ ผมควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อปกปิดเรื่องนี้ แต่เสียงกรีดร้องมันดังไปไกลแล้ว

 

– เราได้ข้อสรุปเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เจ้าได้พูดมาเมื่อนาทีที่ผ่าน ข้าคือ ปีศาจ,จอมหลอกลวง,ไอ้ระยำที่สุดในโลก,คนคลั่งและไอ้เย็oแม่ที่สมควรไปลงนรกเสีย ข้าขอน้อมรับทั้งหมดนั่น ข้าเชื่อว่า มันจะดีกว่าหากเราจะมาคุยกันอย่างมีประสิทธิภาพ

 

“……ทั้งหมดนี่คือ สิ่งที่ เวทย์มนตร์เมโมเรียได้บันทึกได้”

 

วิดีโอถูกปิดตัวลง นักบุญหญิงกราเซียพูดด้วยน้ำเสียงเย็น

 

 

“เจ้าได้ลอบวางเพลิงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แถมเจ้ายังโกหกเป็นนิสัย ทั้งยังโหดร้าย กระทำการทรมานทารุณโดยไม่กระพริบตา 

เจ้าน่ะช่างสมกับเป็นจอมมารจริงๆ การกระทำที่เป็นไปอย่างโหดร้ายทารุณยิ่งกว่ามอนสเตอร์ตัวใดๆ เหนือกว่าสัตว์ป่าตัวไหนๆ เพียงเพื่อให้เป้าประสงค์ของตนสำเร็จ”

 

“…….”

 

“นั่นคือ ตัวตนของเจ้า จอมมารดันทาเลี่ยน!”

 

ผมไม่อาจพูดอะไรได้ ชื่อของชายผู้หนึ่ง หมุนวนจากสมองไปถึงลำคอ รอยยิ้ของไอ้พ่อค้าทาสอ่อนหัดนั่นมันกลับแจ่มชัด

 

 

 

แจ็ค…….

 

 

แจ็ค

 

 

แจ็ค อแลนด์!

 

 

แกเองสินะ ที่เป็นศัตรูกับผม?

 

ไม่ใช่อลิซาเบธที่เป็นสุดยอดนักปกครองแห่งทวีปนี้―หรือบาอัล จอมมารผู้ยิ่งใหญ่ แต่เป็นชื่อที่ไม่มีปรากฏแม้แต่ในเกม ไอ้พวกฝันหวานอย่างแก―

 

 

 

แกเป็นศัตรูของข้า แกเป็นศัตรูของดันทาเลี่ยน!?

 

 

 

—–

 

*หากย้อนกลับไปดูตอนที่ฆ่าแจ็ค คือ ตอน 28-29

จะพบว่า มีการตัดต่อบิดเบือนเหตุการณ์ส่วนนี้ไป เพราะจริงๆ ดันทาเลี่ยนจะปฏิเสธว่า เรื่องขายสมุนไพร ไม่ได้โกหก ขายจริงๆ แต่มีการตัดคลิปส่วนนี้ออก แล้วใส่บทพูดสรุปของดันทาเลี่ยนที่บอกว่า 

 

“ เรื่องนั้นเจ้าพูดถูก ข้ายอมรับ” 

ให้กลายเป็นว่ายอมรับว่าดันทาเลี่ยนโกหกทั้งเรื่องขายสมุนไพร และเรื่องลอบวางเพลิงด้วย

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Dungeon Defense (WN) 119 15 นาที ที่ยาวนานที่สุด(4)

Now you are reading Dungeon Defense (WN) Chapter 119 15 นาที ที่ยาวนานที่สุด(4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนนั้นเองที่หน้าต่างแจ้งเตือนปรากฏ 

 

「ค่าความชอบของทหาร ทหารจักรวรรดิแฟร้ง มิเชลลี เพิ่มขึ้น 13」

 

และจากจุดนั้นเอง

 

「ค่าความชอบของทหารสาธารณรัฐ บัทตาเวีย เพิ่มขึ้น 30 」

 

「ค่าความชอบชนชั้นสูงของจักรวรรดิฮับบวร์ก อเล็กซานเดอร์ ฟอน บัทตาเวีย เพิ่มขึ้น 2」

 

「ค่าความชอบของทหารราชอาณาจักรซาร์ดิเนีย พาเวีย เพิ่มขึ้น 11」

 

 

…….

หน้าจอสีฟ้าเต็มไปหมดเหมือนดั่งสึนามิ

 

 

แล้วสึนามิที่ว่านั่นก็หลั่งไหลมาตามการแจ้งเตือนตามค่าความชอบที่เพิ่มขึ้นและลดลง มันไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองการแจ้งเตือน การแจ้งเตือนของผู้คนนับแสนนั้นสาดเข้ามาใส่ผมราวกับคลื่น

 

ดิ-ดิ้ง ดิ้ง ดิ้ง

เสียงซาวด์เอฟเฟ็คดังขึ้นครั้งแล้ว ครั้งเล่า การแจ้งเตือนนั้นปิดบังการมองเห็น ทั่วทั้งทุ่งราบ รวมถึงท้องฟ้าในทันที

 

สิ่งที่เข้ามาตรงหน้าทำเอาผมพูดไม่ออกไปเลย แน่นอนล่ะ ตอนนั้นเองที่ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ได้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า

 

ความพึงพอใจนั้นไหลลงสู่ไขสันหลัง ทั่วทั้งร่างกายผมเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ผมรู้สึกเหมือนอยู่ที่จุด สูงสุดอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ทำเอาผมเสียววาบจนถึงหัว

 

ความจริงที่ว่า ผมนั้นมีอิทธิพลต่อมนุษย์นับ แสนนั้นทำให้ผมใจเต้นรัว ผมรู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่ว่า ผมสามารถควบคุมทุกอย่างได้

 

 

「ฉากเหตุการณ์นี้ได้ทำลายชิ้นส่วนแห่งโชคชะตา!」

 

มันยังไม่หมด

 「สถานการณ์ระดับ B <ผู้แบกรับความหวังของผู้คน> ถูกทำลายอย่าง ‘รุนแรง’!」

「สถานการณ์ระดับ A <พันธมิตรระหว่างราชวงศ์กับสาธารณรัฐ> ถูกทำลายอย่าง ‘สมบูรณ์’!」

 

เควสเบรคเกอร์นั่นเอง

นี่เป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่ที่ผมได้ลบตราทาสของลอร่า

 

ผู้แบกรับความหวังของผู้คนนั้นหมายถึง เจ้าหญิงจักรวรรดิ อลิซาเบธอย่างไม่ต้องสงสัย 

เธอนั้นเป็นผู้ปกครองที่คอยแบกรับความหวังของทั้งกับชนชั้นสูง สามัญชน และทาส ไว้บนบ่า เส้นทางการที่จะเป็นนักปกครองแบบนั้นจัดเป็นอุปสรรคใหญ่…….ยอดเยี่ยมไปเลย!

 

แต่ผมไม่แน่ใจว่า พันธมิตรระหว่างผู้สนับสนุนราชวงศ์และสาธารณรัฐนั้นหมายถึงใคร อาจจะหมายถึงเหตุการณ์ระหว่างจักรวรรดิแฟร้ง์ที่มีกับจักรวรรดิฮับบวร์ก อย่างนั้นหรือเปล่า? 

 

ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่า  ทั้งสองนั่นน่ะเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้มนุษย์ทั้งหลายร่วมมือกัน สุดท้ายแล้วก็ไม่ใช่ข่าวร้าย…….

 

‘ผมทำได้แน่’

ผมรู้สึกประหม่าขึ้นมาหน่อยๆ

 

 

จอมมารลำดับ 71 ที่มีค่าสแตทต่ำกว่า 100 เป็นขยะในท่ามกลางขยะ ตัวละครที่เอาชนะแรงคนตัดไม้จากหมู่บ้านในภูเขายังไม่ได้ ผมจัดการลากรวมทุกอย่างมาให้ไกลถึงเพียงนี้ด้วยร่างกายอย่างนี้

 

 

…….ผมสามารถทำลายเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิอลิซาเบธ ผู้ที่จะกลายเป็นสุดยอดนักปกครองแห่งทวีปในอนาคตได้! ไม่มีใครหน้าไหนนอกจากดันทาเลี่ยนจะสามารถทำได้อีกแล้ว!

 

 

‘ส่งใครมาให้ผมก็ได้ทั้งนั้น’

 

ผมรู้เรื่องราวทั้งภายในภายนอกของตัวละครหลักจาก<Dungeon Attack> 

ไม่มีใครที่ไม่มีบาดแผล หากมองสภาพจิตพวกเขาดูให้ดี พวกเขาจะพิกลพิการทางใจเมื่อมีรอยแตกหักเกิดขึ้นสักครั้ง

 

แม้แต่นักดาบผู้ยิ่งใหญ่แห่งทวัป ราชินีที่ต่อมาจะรวมราชอาณาจักรบริททานี่กับจักรวรรดิแฟร้งเข้าด้วยกัน หรือลอร์ดแห่งเหล่ามือสังหาร พวกเขาต่างมีจุดอ่อนด้วยกันทั้งนั้น

 

ตอนนั้นเองก็มีเสียงไม่คุ้นเคยดังมาจากอีกฝ่ายของที่ราบ ผมเริ่มผ่อนคลายลงแล้ว

 

“……จอมมารดันทาเลี่ยน ท่านนี่ช่างเจ้าคารมยิ่ง”

 

ฝ่ายมนุษย์ได้ส่งตัวแทนคนอื่นมาพูดแล้วอย่างนั้นหรือ? ไม่น่าแปลกใจนักหรอก ก็เห็นได้ชัดว่า พวกเขานั้นเสียเปรียบหากยังดื้อรั้นอย่างนั้นต่อ

 

มันดูเหมือนพวกกองกำลังมนุษย์อยากที่จะเล่นในสนามแห่งนี้ต่อ ผมล่ะสงสัยจริงว่า ใครจะส่งลงมาเป็นมือหวดลูกคนต่อไป

 

ผมปิดหน้าต่างแจ้งเตือนทั้งหมดในคราวเดียว พอทำแบบนั้นกำแพงสีฟ้าก็หายวับไปและเห็นอีกฝ่าย

 

เป็นผู้หญิงสวมชุดขาวบริสุทธิ์ ผมของเธอสีทอง ผมจำได้ในทันทีว่า เธอคือ นักบุญกราเซีย(Saintess Gracia)

 

 

เธอเป็นNPC ที่จะให้เควสกับตัวละครหลักและปาร์ตี้ไม่เว้นแต่ละวัน แต่เธอก็ทำงานร่วมกับตัวละครหลักโดยจ่ายผลตอบแทนน้อยมา แล้วอ้างว่านั่นเป็นความปรารถนาของเทพี ผู้เล่นจึงค่อนข้างไม่พอใจเธอ

 

ตัวอย่างก็เช่น หลังจากที่ตัวเอกกำจัดกองกำลังออเกอร์ เธอก็ให้รางวัลเขาเป็นไอเทมชิ้นเดียว เธอใช้ตำแหน่งหน้าที่ในฐานะนักบุญของเธอเพื่อให้ผู้กล้าทำงานให้เธอฟรีๆ

 

ใน <Dungeon Attack> ผู้กล้านั้นเป็นเด็กกำพร้าและทหารรับจ้าง ต่างจากตัวเอกจากเกม RPGs อื่นๆ เขามีความรู้เรื่องโลกนี้ดี ตัวเอกจึงบ่นแล้วบ่นอีกเรื่องการปฏิบัติที่ไม่ชอบธรรมนัก แต่นักบุญหญิงกราเซียกลับตอบเขาโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย

 

 

‘เจ้าได้รับเกียรติในการเห็นใบหน้าอันสูงส่งของข้า มีรางวัลใดที่ยอดเยี่ยมไปกว่านี้อีก?’

 

 

……นั่นแหละทำไมผู้เล่นถึงเรียกเธอว่า นังแม่มด ไม่ใช่ นักบุญหญิง

เอาล่ะ เธอได้รับพรจากเทพีแล้วอยู่มาเกือบร้อยปี แสดงรูปลักษณ์ออกมาเป็นผู้หญิงอายุยี่สิบ

ถ้าในฐานะคนปกติ มันคงเป็นเกียรตินั่นแหละที่ได้พบกับเธอ

 

แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ส่งนักบุญหญิงมาเป็นมือหวดคนถัดไป 

เลือกได้ดีนี่ เธอเป็นนักบวชและมีฉายานักบุญหญิงแค่นั้นก็พอจะทำให้ประหลาดใจแล้ว 

ในขณะที่ความภาคภูมิใจของชนชั้นสูงแตกเป็นเสี่ยง ก็คงไม่มีใครดีไปกว่านักบุญที่จะคอยปลอบประโลมใจกองทัพมนุษย์

 

“นั่นมันนักบุญหญิงกราเซียมิใช่หรือ ผู้เป็นที่รักขององค์เทพี? เหตุใดตัวตนอันสูงส่งเช่นนั้นถึงได้ย่างเท้าเข้ามาเหยียบในสมรภูมิอันเสื่อมทรามนี้ได้?”

 

“……พระเจ้าทรงรู้ว่า นรกมีอยู่บนโลกมนุษย์ ดังนั้นเหล่านักบวชจึงมักไปปรากฏที่ก้นหลม สงครามนั้นเป็นดั่งนรกของโลกมนุษย์ ดังนั้นไม่มีที่ใดที่เหมาะสมกับบุคคลเช่นข้า”

 

กราเซียหรี่ตาขณะที่ผมทำเป็นรู้จักเธอ เธอพูดต่อไปโดยไม่กังวล

 

“จอมมารดันทาเลี่ยน ข้าเป็นพยานถึงความสามารถของท่าน มาคิดดูว่า ท่านสามารถผสานเวทย์มนตร์เข้ากับคำพูดแล้วครอบงำผู้พูดฝ่ายเรา

ใครจะไปคาดคิดว่า ท่านจะใช้เวทย์มนตร์ทรงพลังเพื่อคุกคามจิตใจเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิของเรา…….ท่านที่ช่างน่าประทับใจยิ่ง”

 

“โอ้?”

พวกเขาจะไหลออกไปทางนี้แทนสินะ?

 

“กำลังจะบอกว่า สิ่งที่ข้าพูดนั้นมันไม่ใช่ ใช่ไหม?”

 

“ถูกต้องแล้ว”

 

เธอไม่ได้ใส่จนและยังคำยืนยันคำเดิม นี่เป็นการแสดงออกถึงตัวตนที่สูงส่งและมีอำนาจ 

 

แต่มันก็ไม่เพียงพอต่อการทำให้เจ้าหญิงจักรวรรดิที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการฆ่าครอบครัวตัวเอง แต่อย่างน้อยก็ลดเสียงวิพากย์วิจารณ์ที่ได้รับลงได้ หากคุณไม่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับโบสถ์น่ะ ทั้งความหน้าด้านและความหน้าตาย เธอจะขุดลึกลงไปยังจุดอ่อนของคุณ เธอคนนี้แหละนักบุญหญิงกราเซียที่ผมจำได้จากในเกม

 

“ช่างสูงส่งอะไรเช่นนี้ ถึงอย่างนั้นก็ดี โอ นักบุญเอ๋ย ตัดสินใจเลือกให้ฉลาดๆหน่อย ศรัทธาแท้นั้นจะมาได้จากบุคคลที่กระทำการฝ่าฝืนอย่างนั้นหรือ”

 

“เจือเวทย์มนตร์ลงในถ้อยคำอีกแล้วสินะ 

ข้าเข้าใจแล้ว เปล่าประโยชน์ที่จะกระซิบกับข้า องค์เทพีของข้าจักปกป้องข้าเสมอ แผนชั่วร้ายของเจ้ามันไม่ได้ผล”

 

“คุฮุ”

 

มันไม่ใช่คำเหน็บแนมที่ผมคาดว่าจะได้รับ จึงเผลอหัวเราะออกมาเอง

 

“เธอน่ะเป็นพระระดับ 1 เวลาว่างของเธอใช้ไปกับอะไร คอยดูแลหลังให้พวกชนชั้นสูงอย่างนั้นเหรอ? 

แหม แหม ตัวข้านี้ในฐานะจอมมาร อาจจะทำลายล้างโลกใบนี้ก็จริง แต่ก็เป็นเพียงการหลอกลวงเพียงชั้นเดียว

ว่าแต่โศกนาฏกรรมและการหลั่งเลือดที่มนุษยชาติจะต้องเจอหลังจากลอกเปลือกชั้นเดียวที่ว่านั้นจะมากแค่ไหนกันนะ?”

 

“……ความสนุกของเจ้าจบลงแล้ว จอมมาร”

 

เธอหยิบบางสิ่งออกมาจากกระเป๋า มันคือกระดุมล็กๆ

 

 

“เจ้ารู้หรือไม่ นี่คืออะไร?”

 

“……?”

 

ผมขมวดคิ้ว ทำไมเธอถึงได้เอาเจ้าสิ่งนี้ออกมาตอนนี้? ผมบอกไม่ได้ว่าเธอเอามันออกมาจากที่ไหน นี่เธอต้องการจะใช้เจ้าวัตถุชิ้นนั้นเพื่อเปรียบเปรยกับสิ่งที่ดูหรูหราๆขณะพูดอย่างนั้นเหรอ? 

โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบการพูดแบบนั้นเลย ผมขอแหย่เล่นหน่อยได้ไหม……?

 

“ข้าไม่รู้จัก มันไม่ใช่ของที่ค้าคุ้นเคย”

 

“สิ่งนี้ก็ไม่คุ้นเคยต่อข้าเช่นกัน นั่นเป็นเพราะมันอาติแฟคที่ราคาแพงอย่างมาก มันเป็นสิ่งที่คนรวยในทวีปเท่านั้นจะมีครอบครองไว้ในมือได้”

 

นักบุญวางกระดุมนั่นไว้บนฝ่ามือแล้วเปิดออก

 

 

“เวทย์มนตร์ที่รู้จักในชื่อว่า เมโมเรีย(Memoria)ถูกร่ายไว้บนสิ่งนี้ มันเป็นอาติแฟคที่จะบันทึกเสียงและฉากเหตุการณ์รอบข้าง ไม่ใช่เพียงแต่ตัวเวทย์เท่านั้นที่ร่ายยาก 

หากแต่ยังต้องอยู่ในขนาดที่เหมาะสมด้วย จึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างมันขึ้นมาโดยปราศจากความช่วยเหลือจากอาร์คเมจ”

 

ผมส่ายหัว ผมเข้าใจแล้วว่ามันคือไอเทมอะไร แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงเอามันออกมา

 

“นักบุญ ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อฟังการสอนเวทย์มนตร์”

 

“ไม่ต้องเร่งรีบขนาดนั้น จอมมาร สิ่งนี้ไม่ใช่ไอเทมใหม่ มันเคยถูกใช้มาก่อนแล้ว พอเดาได้ไหมว่าใครเป็นเจ้าของ?”

 

“ข้าต้องขออภัย แม้ข้าจะเป็นจอมมารแต่ข้าก็ยากจนเหลือแสน”

 

ผมยักไหล่

 

“ชีวิตข้าห่างไกลจากของราคาแพงพรรค์นั้น”

 

“มันมาจากพ่อคนหนึ่ง”

 

 

“หืมม?”

นักบุญกราเซียพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

 

“พ่อที่มีลูกชายเพียงคนเดียว ลูกชายของเขานั้นมีพรสวรรค์หากแต่ขาดประสบการณ์ คนเป็นพ่อจึงพยายามบังคับให้ลูกชายเขาออกไปเจอกับประสบการณ์ในโลก

แต่ถึงอย่างนั้น คนเป็นพ่อมีหรือจะไม่ห่วงลูกของตน? เขามอบอาติแฟค เมโมเรียให้กับลูกชาย เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง”

 

“…….”

 

“นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนบางอย่างล่วงหน้าหรือเปล่า? โศกนาฏกรรมได้เกิดขึ้น ลูกชายของเขาได้ตายในดินแดนอื่น สาเหตุการตายเป็นปริศนา มีโอกาสที่เขาอาจถูกจู่โจมโดยเหล่าโจร และศพของลูกชายของเขานั้นก็พบอยู่ในเส้นทางเดินป่า…….”

 

เธอหรี่ตาลง

 

“ถึงอย่างนั้น ลูกชายของเขาก็ฉลาด เขาไม่ลืมของขวัญที่พ่อของเขาให้เขาจึงได้เปิดการใช้งานเมโมเรียอาติแฟคในวันสุดท้าย 

เขาอาจจะตาย แต่เขาก็ได้ทิ้งหลักฐานว่า ทำไมเขาจึงตาย ต้องขอบคุณสิ่งนี้ ทำให้พ่อของเขารู้ว่า ใครฆ่าลูกชายของเขา”

 

ความรู้สึกแย่ๆไหลผ่านตัวผม

นักบุญหญิงกราเซียพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

 

 

“ลูกชายของเขาชื่อ แจ็ค อแลนด์”

 

 

―ในตอนนั้นเอง

สมองของผมหยุดทำงาน

 

ความรู้สึกแย่ๆจากหัวไหลลงสู่ไขสันหลัง เหมือนมีเส้นสีดำแดงมามัดรอบกระโหลกตรึงสมองผมไว้

 

แจ็ค อแลนด์

พ่อค้าทาส แจ็ค―

ทำไมชื่อเจ้าโง่ อ่อนต่อโลกถึงถูกยกมาพูดถึงที่นี่?

นักบุญหญิงมองผมด้วยแววตาเย็นชา

 

 

“สิ่งนี้มันเกิดขึ้นประมาณเมื่อครึ่งปีที่แล้ว เกิดการจราจลขึ้นในเมืองเวอรืเนีย ทางเหนือสุดของซาร์ดิเนีย มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการปลุกปั่นของกิลด์ทหารรับจ้าง เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ ผู้คนมากมายเสียชีวิตและชีวิตพังจากไฟครั้งนั้น”

 

 

อย่าบอกนะ

 

ไม่สิ มันไม่มีทางเป็นไปได้

 

“ลูกชายของเขา ศพของแจ็ค อแลนด์ ถูกพบในป่าใกล้กับเวอร์เนีย ร่างของเขานั้นพบว่าพิงใกล้หิน หินก้อนนั้นเต็มไปด้วยเลือดของแจ็ค 

 

ยิ่งไปกว่าน้ัน บนหินก้อนนั้นยังมีข้อความเขียนไว้ว่า…… ‘แก้แค้น’ มันเขียนด้วยเลือด”

 

ความหนาวยะเยือกไหลลงไขสันหลังผม

 

มันมีข้อความพวกนั้นเขียนไว้บนหินด้วยรึ?

 

แจ็คตายหลังจากเอาหัวโขกกับก้อนหิน เขาฆ่าตัวตายเอง เนื่องจากไม่อาจสู้กับผมได้หรือแม้แต่รักษาความเชื่อของตัวเองได้ เขาเลือกที่จะฆ่าตัวตายแทนที่จะเสียความเชื่อนั้นไป

 

นั่นคือ สิ่งที่ผมเชื่อ จึงตัดสินใจปล่อยศพเขาไว้อย่างนั้น และราคาของความนับถือ ผมคิดว่า การกระทำของเขานั้นช่างงดงาม 

―นี่เธอกำลังจะบอกว่า มันได้เป็นอย่างนั้นหรอกหรือ?

 

 

เขาทิ้งหลักฐานการตายไว้ตรงนั้นด้วย!?

แจ็ค อแลนด์―ไอ้โง่บ้าอุดมการณ์คนนั้นเนี่ยนะ!?

 

 

“เขาต้องการแก้แค้นไปเพื่อสิ่งใดกัน? เดี๋ยวจะได้เห็นคำตอบกันชัดๆ

นับเป็นโชคดีที่ศพของเขาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ อาติแฟคเมโมเรียนั้นถูกซ่อนไว้เป็นเหมือนกระดุมบนเสื้อผ้าโดยไม่เสียหาย พ่อของเขาจ้างนักเวทย์มาสำรวจศพและถอดรหัสอาติแฟค

……จอมมารดันทาเลี่ยน ไม่สิ นักสมุนไพรโลลิต้า”

 

“……!”

 

“และสิ่งนี้คือ วาระสุดท้ายของเขา”

 

ภาพปรากฏออกมาจากอาติแฟคที่วางบนฝ่ามือของนักบุญหญิง

 

หน้าจอนั้นใหญ่พอจะให้ทั้งกองทัพฝ่ายจอมมารและกองทัพมนุษย์เห็นได้อย่างชัดเจน

 

 

– อุว้ากกกก, อ๊ากกกก! แว๊กกกกกกกกกกกกก⎯⎯⎯!

 

สิ่งแรกที่ดังออกมาจากวิดีโอคือ เสียงแหลมทลายหู

ฉากรอบข้างนั้นว่าง

 

 

– อั่ก! อุ่กกกกก! อ๊ากกกกก! ฮว้ากกกกกกกก!

 

– อ่าาา แจ็ค……นี่มัน ช่างน่าเศร้าใจยิ่งนัก

 

– อุ่กอั่กกกก! อ๊ากก! โลลิต้า!? โลลิต้ากกกก!?

 

– ฉันถามนายถึงสามครั้ง เอาจริงๆนะ สามครั้ง ความใจกว้างนั้นมีจำกัด มันเป็นคำขอที่ไม่ควรถูกปฏิเสธ

 

แล้วภาพของผมก็……ปรากฏ

 

ตัวผมที่กำลังเหยียบไปบนตัวแจ็ค

 

 

– ข้าเข้าใจนะว่า มันเจ็บ แต่นายก็เสียงดังเกินไป

เฮ้ย แจ็ค! แจ็ค! ได้ยินไหม หา?

ข้าซาบซึ้งใจนะ ที่เจ้าเงียบเสียงลงได้บ้าง

 เสียงดังไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

แจ็ค! หุบปากโว้ย! 

ถ้าแกยังเมินเฉยต่อคำขอของข้าอีก คราวนี้จะฟันแขนซ้ายแกด้วย

เข้าใจไหม? ข้าจะแยกส่วนตรงไหล่ซ้ายของแก

 

– อุก,ฮึก……กะฮึก……!

 

– ดีมาก ยอดเยี่ยมมาก,แจ็ค ทำได้ดีมาก ถ้าแกยังทำได้ต่อไป จะไม่ต้องมีการนองเลือด ข้าสัญญาเลย

 

ฉากเหตุการณ์นั้นเลื่อนไหลไป

 

ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากเฝ้าดูมัน

 

 

– ลองคิดดูให้ดีๆสิ แจ็ค มันเรียบง่ายมากเลยนะ ทำไมอีกฝ่ายถึงได้ปฏิเสธการค้าขายปกติที่ทำในสมาคมพ่อค้าล่ะ? ทำไมพวกเขาถึงเลือกทำอะไรที่สุดโต่งขนาดนั้น? ลองถามคำถามนี้กับตัวเองดู แล้วจะได้คำตอบที่เป็นธรรมชาติที่สุด

 

– ตำแหน่ง……นายอยู่ตำแหน่งที่ไม่สามารถซื้อขายถูกกฏหมายได้……?

 

– นายเข้าใจดีแล้ว ความจริงแล้ว มันยากมากเลยนะ สำหรับข้าที่จะเข้าเมืองอย่างถูกกฏหมาย

 

– แกไม่ใช่พ่อค้า……โลลิต้า!

 

– ฟันนิ้วก้อยซ้ายของเขา

 

– รับทราบค่ะ

 

 

เสียงกรีดร้องน่ากลัวดังขึ้นอีก การทรมานยังคงดำเนินต่อไป การย่างเนื้อ เสียงกรีดร้อง และการคุกคาม ฉากที่คนธรรมดาทั่วไปไม่อาจทนดูต่อได้

ตัวผมในจอนั้นยังคงรักษาท่าทางสบายสุดๆ แจ็คนั้นกลิ้งไปมาบนพื้นเพราะเจ็บปวดจากแขนที่หายไป

 

 

– ความจริงที่ว่าแกขายสมุนไพรที่รักษาโรคระบาดได้ คึกกก ! นั่นก็โกหกด้วย!

 

– ใช่ดิ! ถูกแล้วนี่! แกมันไอ้ระยำที่อัญเชิญมอนสเตอร์นั่นออกมาในโรงประมูล!

 

– เรื่องนั้นเจ้าพูดถูก ข้ายอมรับ*

 

– เพลิงไหม้นั่นก็ด้วย!

 

– ตอนนี้สมองนายทำงานได้ตามปรกติแล้ว

 

“…….”

 

ผมกลายเป็นไอ้โง่ไปในทันที

 

ในมุมหนึ่งของสมองมันกรีดร้องขึ้นมา ผมไม่ควรจะยืนเฉยๆแล้วปล่อยให้เป็นอย่างนี้ ผมควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อปกปิดเรื่องนี้ แต่เสียงกรีดร้องมันดังไปไกลแล้ว

 

– เราได้ข้อสรุปเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เจ้าได้พูดมาเมื่อนาทีที่ผ่าน ข้าคือ ปีศาจ,จอมหลอกลวง,ไอ้ระยำที่สุดในโลก,คนคลั่งและไอ้เย็oแม่ที่สมควรไปลงนรกเสีย ข้าขอน้อมรับทั้งหมดนั่น ข้าเชื่อว่า มันจะดีกว่าหากเราจะมาคุยกันอย่างมีประสิทธิภาพ

 

“……ทั้งหมดนี่คือ สิ่งที่ เวทย์มนตร์เมโมเรียได้บันทึกได้”

 

วิดีโอถูกปิดตัวลง นักบุญหญิงกราเซียพูดด้วยน้ำเสียงเย็น

 

 

“เจ้าได้ลอบวางเพลิงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แถมเจ้ายังโกหกเป็นนิสัย ทั้งยังโหดร้าย กระทำการทรมานทารุณโดยไม่กระพริบตา 

เจ้าน่ะช่างสมกับเป็นจอมมารจริงๆ การกระทำที่เป็นไปอย่างโหดร้ายทารุณยิ่งกว่ามอนสเตอร์ตัวใดๆ เหนือกว่าสัตว์ป่าตัวไหนๆ เพียงเพื่อให้เป้าประสงค์ของตนสำเร็จ”

 

“…….”

 

“นั่นคือ ตัวตนของเจ้า จอมมารดันทาเลี่ยน!”

 

ผมไม่อาจพูดอะไรได้ ชื่อของชายผู้หนึ่ง หมุนวนจากสมองไปถึงลำคอ รอยยิ้ของไอ้พ่อค้าทาสอ่อนหัดนั่นมันกลับแจ่มชัด

 

 

 

แจ็ค…….

 

 

แจ็ค

 

 

แจ็ค อแลนด์!

 

 

แกเองสินะ ที่เป็นศัตรูกับผม?

 

ไม่ใช่อลิซาเบธที่เป็นสุดยอดนักปกครองแห่งทวีปนี้―หรือบาอัล จอมมารผู้ยิ่งใหญ่ แต่เป็นชื่อที่ไม่มีปรากฏแม้แต่ในเกม ไอ้พวกฝันหวานอย่างแก―

 

 

 

แกเป็นศัตรูของข้า แกเป็นศัตรูของดันทาเลี่ยน!?

 

 

 

—–

 

*หากย้อนกลับไปดูตอนที่ฆ่าแจ็ค คือ ตอน 28-29

จะพบว่า มีการตัดต่อบิดเบือนเหตุการณ์ส่วนนี้ไป เพราะจริงๆ ดันทาเลี่ยนจะปฏิเสธว่า เรื่องขายสมุนไพร ไม่ได้โกหก ขายจริงๆ แต่มีการตัดคลิปส่วนนี้ออก แล้วใส่บทพูดสรุปของดันทาเลี่ยนที่บอกว่า 

 

“ เรื่องนั้นเจ้าพูดถูก ข้ายอมรับ” 

ให้กลายเป็นว่ายอมรับว่าดันทาเลี่ยนโกหกทั้งเรื่องขายสมุนไพร และเรื่องลอบวางเพลิงด้วย

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+