Dungeon Defense (WN) 128 เช้าตรู่ในโรม(4)

Now you are reading Dungeon Defense (WN) Chapter 128 เช้าตรู่ในโรม(4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

 

* * *

 

และแล้วผมกับพาร์ซิก็ได้คำตัดสินจากที่คุยกันก่อนหน้านี้

 

 

“มันเป็นเรื่องจริงที่เจ้านั้นละเลย ไม่ใส่ใจยามเมื่อเพื่อนบ้านของเจ้านั้นได้แสดงสัญญาณอันตรายในการก่อกบฏ แ

ละก็จริงอีกเช่นกันที่พวกเจ้านั้นได้กระทำไปโดยพลการโดยมิได้ขออนุญาตต่อข้าก่อนนั้นจัดเป็นการกระทำผิดอันร้ายแรงด้วย

แต่ถึงอย่างนั้น การที่เจ้าสามารถจัดการกับผู้ทรยศได้รวดเร็วก็เห็นได้ชัดแล้วว่า พวกเจ้าทั้งหมดไม่ได้มีเจตนาที่จะร่วมมือกันอย่างลับๆในการต่อต้านข้า

ดังนั้นข้าจะจัดการกับหัวหน้าหมู่บ้านทั้งสามด้วยการริบทรัพย์เสีย”

 

ผมที่ได้ทำการยึดทรัพย์สินทั้งหมดของหัวหน้าหมู่บ้านทั้งสามคนนั้น ผมจึงไม่เอาส่วยที่ทางหมู่บ้านเตรียมไว้ให้ ชาวบ้านต่างสรรเสริญกับคำตัดสินของผมว่า ช่างมีกรุณายิ่ง 

 

จากมุมมองชาวบ้านนั้นดูเหมือนหัวหน้าหมู่บ้านจะได้สละตนให้เพื่อหมู่บ้าน

แต่ก็เห็นกันอยู่แล้วนี่ว่า ส่วยที่ผมคืนกลับไปให้เขานั้นจะกลับไปอยู่ที่ไหน เรือล่มไหนหนองทองจะไปไหนเสียล่ะ 

พอผลเป็นอย่างนั้นเข้าก็เป็นโชคที่ผมและหัวหน้าหมู่บ้านที่เหลือรักษาหน้าไว้ได้

 

ผมได้ส่งก็อบลินไปยังหมู่บ้านที่เหลือ

 

สามวันต่อมา มีทูตมาจากหมู่บ้านต่างๆมาถึงปราสาทจอมมารของผม พวกเขาหมอบกราบอยู่หน้าทางเข้าดันเจี้ยนเพื่อขอร้อง พวกเขาวอนขอผมอภัยให้พวกเขา

 

พวกเขาได้ลิ้มรสชาติชีวิตสงบสุขที่ไม่มีมอนสเตอร์บุกแล้ว จึงสามารถที่จะมุ่งเป้าไปที่การทำฟาร์มโดยไม่ต้องกังวลอะไร พวกเขาไม่ต้องการแม้แต่จะสร้างกองทหารอาสา จึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้สถานการณ์กลับไปเป็นเหมือนเดิม

 

“คราวนี้ต้องเก็บภาษี 70%”

แม้จะเป็นปกติของยุคนี้ แต่ก็นับว่าเป็นอัตราภาษีที่หนักหนา ผู้เฒ่าจากหมู่บ้านพวกนั้นอาจขอบคุณในทีแรกที่ให้อภัยพวกเขา 

แต่ความพึงพอใจพวกนั้นก็จะเหือดแห้งไปเมื่อเวลาผ่านไป

พวกเขาจะเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมพวกเขาถึงต้องจ่ายภาษี70%เพียงเพื่อคุ้มครองจากก็อบลินเท่านั้นล่ะ

 

ผมจะใช้ประโยชน์จากจุดนั้นแหละ

ยิ่งพวกเขาทำงานเบ็ดเตล็ดอย่างดูแลน้ำ ผมก็ยิ่งลดภาษีให้พวกเขา

“ข้าจะลดภาษีของพวกเจ้าลงตามงานที่พวกเจ้าทำได้ในดินแดนนี้ พวกเจ้าจงทำงานอย่างเต็มที่เพื่อสิ่งรอบตัวเจ้าเองล่ะ”

 

อัตราภาษีสำหรับชาวบ้านที่ทำงานคือ 40% พวกเขาจ่ายแค่ 40% จากผลประโยชน์ที่เขาหามาได้ 

การเก็บภาษีเพียง 40% นั้นเพียงพอที่จะให้ชาวบ้านร้องเพลงสรรเสริญถึงคุณงามความดีของเจ้าของที่แล้ว

ผมผลักดันให้อัตราภาษีเหลือ 40% สำหรับคนทำงานสำหรับหมู่บ้านที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนั้น ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่เหมาะสม

 

ยิ่งไปกว่านั้นผมไม่ยื่นมือไปยุ่งกับการเก็บเกี่ยวข้าวบาร์เล่ย์ รอบที่สองด้วย

โดยปกติแล้ว การทำการเกษตรจะมีช่วงการปลูกและเก็บเกี่ยวข้าวสาลี และจากนั้นก็จะเก็บเกี่ยวข้าวบาร์เล่ย์ จึงทำได้ 2 รอบต่อปี 

ผมจะเก็บภาษีเฉพาะการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีของพวกเขา

 

“เท่านี้ก็เพียงพอที่จะไม่ทำให้พวกเขาต้องหิวตายแล้วถูกไหม?”

ผมถามลอร่าในขณะที่ปรึกษาเธอเรื่องนี้ ลอร่านั้นเป็นลูกสาวของดยุคผู้มีชื่อเสียง 

ผมถามเธอเนื่องจากคิดไว้ว่า เธอน่าจะมีความสามารถเรื่องการจัดเก็บภาษีอยู่บ้าง แต่ทว่า

 

“ต้องขออภัยค่ะ นายท่าน แต่หญิงสาวผู้นี้ไม่มีความรู้เรื่อง การบริหารจัดการดินแดนโดยสิ้นเชิงเลยค่ะ”

 

พอมาคิดๆดูแล้ว ลอร่าก็โดนขับไล่ออกจากตระกูลนี่นะ เธอคงไม่ได้รับการศึกษาอย่างที่ผู้สืบทอดจะได้รับ ดังนั้นจึงไม่มีทางที่เธอจะรู้เรื่องยากๆอย่างการบริหารจัดการดินแดน คงหวังพึ่งเธอไม่ได้จริงๆนั่นแหละ…….

 

 

“ช่างน่าผิดหวังเสียจริงที่รู้ว่า ข้ารับใช้หนึ่งเดียวของข้าแต่ในนามนั้นช่างไร้ความสามารถ”

 

“อั่ก……. หยะ-หญิงสาวผู้นี้สามารถช่วยเรื่องการรบการศึกได้ แค่นั้นไม่พอหรือคะ!?”

 

ใบหน้าของลอร่าแดงก่ำขณะที่โต้แย้ง

 

แต่เดิมเธอน่ะ จะได้กลายเป็นตัวตนที่ทรงอิทธิพลที่สุดที่อยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบริททานี่ เลยรู้ไหม?

 

แล้วการเป็นรัฐมนตรีระดับชาติเนี่ยจะมีแต่ประสบการณ์ทางการทหาร แต่ไม่มีความรู้เรื่องการเมือง การบริหารจัดการเลยได้อย่างไร?

 

ผมชักเป็นห่วงอนาคตของชาติ อ่า ราชอาณาจักรบริททานี่ที่จะล่มสลายใน<Dungeon Attack> นี่คงอธิบายการล่มสลายของชาติพวกเขาได้ดีเลยล่ะ

 

“การศึกการรบไม่ใช่สิ่งจำเป็นในตอนนี้ มันอีกนานเลยกว่าพวกเราจะได้เข้าสู่สงครามอื่นอีก 

นั่นหมายความว่า เธอจะไร้ประโยชน์ไปอีกน้านนานเลยล่ะ ช่างเป็นคนช่างเอาเปรียบที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้นะ”

 

“อูอู้วววว”

 

ลอร่ามองผมด้วยความขัดใจ ช่างน่ารักเสียจริง

 

ผมยักไหล่

 

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้นะ มีเพียงสิ่งเดียวที่เธอทำได้แล้วล่ะ ลอร่า”

 

“มีอะไรหรือคะ? นายท่าน ได้โปรดบอกมา หญิงสาวผู้นี้จะพยายามเต็มที่”

 

“ถ้าหัวของลอร่ามันใช้การไม่ได้ ก็มีแต่ร่างกายของเธอแล้วนี่แหละ”

 

สีหน้าของลอร่ากลับว่างเปล่า มันเป็นใบหน้าของนักปราชญ์ผู้สิ้นชาติ

 

“มะ-ไม่มีทาง”

 

“หันก้นมาทางนี้สิ”

 

“ม่ายยย! ฉันบอกไปแล้วไงคะว่า จะไม่ทำอีกแล้ว นายท่าน! อู้ว ฮิก!”

 

ลอร่าพยายามต่อต้านอย่างสุดกำลัง แต่สุดท้ายก็กลายเป็นอาหารจานหนึ่งไปในที่สุด เสียงอันน่าพึงพอใจดังขึ้นในหูผมตอนนั้นเอง

 

 

「เลเวลอาชีพของลอร่า เดอ ฟาร์เนเซ่ (ทาสกาม) เพิ่มขึ้น!」

อาชีพทาสกามของลอร่านั้นเพิ่มจาก C ไปเป็น B มันเป็นอาชีพที่ไม่มีประโยชน์เลยนอกจากจะลดค่าสแตทไหวพริบและเสน่ห์ลง

 

แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังพบประโยชน์ลับๆจากอาชีพทาสกามนะ

ก็คือ……ทาสกามเลเวลที่สูงขึ้นจะเพิ่มคุณภาพเซ็กส์ได้ ยิ่งเลเวลสูงเท่าไหร่คุณก็ยิ่งรู้สึกดีขึ้นเท่านั้น!

เป็นที่แน่นอนว่า สัมผัสที่โอบหุ้มรอบเจ้าน้องชายผมกลับแน่นขึ้นตามเลเวลที่เพิ่มขึ้น มันเหมือนกับสไลม์ร้อนๆชั้นเยี่ยมที่บีบรัดผม

 

พวกเราทำกับเกือบ 6 ชั่วโมงเลยในวันนั้น

 

“…….”

 

ลอร่านั้นตายในหน้าที่ เธอล้มลงอยู่ในมุมหนึ่งของเตียง ช่วงเวลาสุดท้ายของเธอนั้นช่างรุ่งโรจน์นัก

 

“ฟู่วว ข้าจัดการกับนายพลศัตรูได้แล้ว”

 

“…….”

 

ผมพูดขึ้นมาอย่างพออกพอใจ แต่ลอร่าไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เธอคงสลบไปแล้วนั่นแหละ ผมมีกำลังเหลือพอที่จะทำให้เด็กสาวอายุ 17 สลบไป ผมวักน้ำในถ้วยมาดื่มด้วยความรู้สึกที่ได้พิชิตบางอย่าง 

หลังจากกามราคะของผมหายไปจากร่างกายแล้ว มีเพียงความกังวลที่ยังคงอยู่ ผมจะจัดการกับดินแดนของผมยังไงดีล่ะเนี่ย?

 

 

“อืมม”

มันก็จริงแหละที่ผมมีภาพใหญ่ไว้อยู่แล้ว แต่ผมไม่แน่ใจว่า ควรจะทำมันตอนไหนดี

มันไม่เหมือนดินแดนของมาร์คกราฟโรเซนเบิร์ก ที่มีอัตราภาษีตายตัวอยู่แล้วเป็นสิ่งที่สืบๆกันต่อมานับร้อยปี ทั้งหมดที่ผมทำก็แค่เซ็นเอกสารยืนยัน

ในขณะที่สถานการณ์ในหมู่บ้านชาวภูเขารอบปราสาทจอมมารนั้นต่างไปสิ้นเชิง หมู่บ้านเล่านั้นสร้างขึ้นมาหลังจากหนีลอร์ดที่สุดจะโหดเหี้ยมคนเก่า และอยู่ท่ามกลางการบุกโจมตีของมอนสเตอร์

ดินแดนที่ลอร์ดพวกนั้นเอื้อมไปไม่ถึง แถมยังมีก็อบลินอีก มันเป็นภูมิประเทศที่ยอดเยี่ยมที่ยากจะมีใครมาพบ

และเมื่ออยู่ๆผมโผล่ขึ้นมา ผมก็ต้องจัดระบบภาษีตั้งแต่ศูนย์ เช่นเดียวกับที่บอกกันเสมอว่า เริ่มต้นดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง แล้วเราจะทำให้ภาพใหญ่ของดินแดนในฝันของผมในอนาคตเป็นจริงได้อย่างไร ผมนี่ไม่รู้เลยจริงๆ

 

และตอนนั้นเอง พระผู้ช่วยก็ได้มาถึง

 

ผ่านไปสามสัปดาห์ หลังจากที่ผมแอบหนีมาจากสงครามพันธมิตรเสี้ยวจันทรามาได้ ซาคิวบัสผมสีชมพูก็ได้มาพบผมที่ปราสาทจอมมาร 

 

“ดิฉันต้องขอประทานอภัยค่ะ งานโลจีสติกนั้นมีมากเหลือเกิน ทำให้ดิฉันพึ่งออกมาได้ก็ตอนนี้”

 

ลาพิสโค้งให้อย่างเคารพขณะพูด

 

“นับจากวันนี้เป็นต้นไป ดิฉันจะกลับมาทำงานในฐานะของพ่อค้าคนสำคัญของฝ่าบาทดันทาเลี่ยนอีกครั้ง ได้โปรดให้ความกรุณา…….”

 

“ลาพิสสสสสส!”

 

“คุณลาพิสคร้าบบบบ―!”

 

ลอร่ากับผมวิ่งไปหาเธอพร้อมๆกัน พวกเราทั้งดึงกระโปรงดึงขาแล้วตะโกนออกมา

ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ที่ไหน ลาพิสต่างแสดงสีหน้าเรียบเฉยและไม่สนใจใยดีตลอดเวลา แม้จะมีเจ้านายลูกน้องต่างมาร้องไห้อยู่ข้างๆกันก็ตาม

 

―ทั้งสองต่างเปลือยอยู่

―เธอไม่ได้แสดงสีหน้ากังวลอะไร เธอเพียงแค่เลิกคิ้วก่อนจะมองมาที่พวกเรา

 

 

“……เกิดอะไรขึ้นกันคะ?”

 

“ดินแดนของข้า! ระบบภาษี! กฏหมาย! ข้าไม่รู้เลยว่า ต้องเริ่มต้นยังไง!”

“นายท่านน่ะเป็นปีศาจบ้ากาม! เขาพยายามที่จะลากหญิงสาวผู้นี้ไปนับร้อยครั้งต่อวัน ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว คุณลาพิส หยุดความบ้ากามของนายท่านให้ที!”

 

ลาพิสถอนใจออกมา

 

“กรุณาพูดทีละคนด้วยค่ะ”

 

ลาพิสนั้นถือว่ามีประสบการณ์มากในการบริหารจัดการดินแดน

 

เธอได้ฟังแนวคิด ที่ผมเตรียมจะวางไว้สำหรับหมู่บ้าน ลาพิสตั้งใจฟังสิ่งที่ผมพูดอย่างสุขุมโดยพยักหน้าตอบ

 

“แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ แต่มีบางอย่างที่ต้องแก้ไข”

 

“ข้าคิดไว้แล้ว”

 

ผมหัวเราะ

 

 

“ก่อนอื่น ปัญหาเรื่องการลดภาษี การลดภาษีการบังคับใช้แรงงานนับเป็นเรื่องดี 

ถึงอย่างนั้นท่านตั้งใจที่จะตรวจสอบการทำงานเป็นรายบุคคลอย่างนั้นหรือคะ? 

ท่านไม่สามารถเปลี่ยนคนเฝ้าไม่ซ้ำกันทุกวันแล้วสั่งให้เขารายงานได้หรอกค่ะ”

 

“อ่าา”

 

เธอพูดถูก

 

งานที่ต้องบังคับนั้นก็เป็นแค่งานใช้แรงงานธรรมดาทั่วไป หากบอกพวกเขาให้มาสร้างอ่างเก็บน้ำชาวบ้านก็จะมาร่วมกันทำงาน 

ในสถานการณ์อย่างนั้น ผมจะคำนวนคนที่มาลงแรงทำงานได้ยังไงกันนะ? ผมได้แต่เสี่ยงเดาเอาอย่างเดียว

 

“ให้เป็นหน้าที่หัวหน้าหมู่บ้านไปเสีย……อาจไม่มีปัญหาก็ได้”

 

“ถูกต้องแล้วค่ะ ท่านควรจะแบ่งอำนาจบางส่วนบ้าง”

 

หากผมให้งานนี้กับหัวหน้าหมู่บ้านไป อำนาจของหัวหน้าหมู่บ้านก็จะเพิ่มขึ้นมาก

ชาวบ้านก็จะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเอาอกเอาใจหัวหน้าหมู่บ้าน ทุกคนต่างก็จะตั้งใจทำเงินแล้วรายงานหัวหน้าถึงสิ่งที่พวกเขาได้ทำ

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ได้ลดภาษีมากกว่าคนอื่นๆด้วย แล้วพอภาษีลดลงแล้วจะทำยังไงกันต่อ? 

พวกเขาก็จะมอบส่วนนั้นให้กับหัวหน้าหมู่บ้าน

สุดท้ายแล้วไม่เพียงเจ้าของบ้านจะได้ทุกอย่างไปแต่หัวหน้าหมู่บ้านก็จะกลายเป็นผู้ครอบครองความมั่งคั่งทั้งหมดด้วย

ถ้าเป็นอย่างนี้จะกลายเป็นว่า ที่ผมทำไปทั้งหมดนั้นมากมายนั้นกลายเป็นผลกำไรของหัวหน้าหมู่บ้านเสียแต่ผู้เดียว

 

“ข้าควรทำอย่างไร?”

 

“มีวิธีแก้ที่เรียบง่ายและทรงประสิทธิภาพค่ะ ลดอัตราภาษีทั้งหมู่บ้านไม่ใช่แค่กับคนใดคนหนึ่งค่ะ ท่านจะสามารถลดภาษีได้ทั้งหมู่บ้านไปเลยค่ะ”

 

“อะฮ่า!”

 

ดวงตาของผมเบิกกว้าง ช่างเป็นวิธีการที่ดีเสียนี่กระไร

พูดง่ายๆคือ ผมสั่งให้พวกเขาสร้างอ่างเก็บน้ำขึ้นด้วยการลดภาษีลงถ้าทำงานนี้เสร็จ จะได้ไม่ต้องคิดอะไรให้มันยุ่งยากซับซ้อน แถมยัง

 

“ยิ่งไปกว่านั้นท่านไม่ต้องกังวลเรื่อง คนขี้เกียจด้วย”

 

“ผู้เกียจคร้านจะถูกทุกคนในหมู่บ้านตำหนิดังนั้นพวกเขาจะพยายามช่วยกันทำค่ะ!”

 

“หากมีใครสักคนหนึ่งทำผิดพลาด คนทั้งหมู่บ้านต่างเสียประโยชน์กันหมด สิ่งนี้จะสร้างบรรยากาศให้เกิดความรับผิดชอบร่วมกันค่ะ”

 

ไม่เพียงแต่ทำให้การคำนวนนั้นง่ายขึ้น แต่ยังลดโอกาสของการแอบอู้ ขี้เกียจไปได้ด้วย เป็นการยิงนัดเดียวได้นกสองตัว ผมได้แต่อึ้งกับกลวิธีนี้

 

“สุดยอดไปเลยนะ นี่เธอคิดวิธีแบบนี้ได้ยังไงกัน?”

 

“ดิฉันไม่สมควรได้รับคำชมเชยเช่นนั้น วิธีการนี้มิได้น่าประทับใจเลยค่ะ”

 

ลาพิสตอบกลับมาอย่างเฉยเมย เธอคงเชื่อจริงๆแหละว่ามันไม่ได้น่าประทับใจขนาดนั้น

 

แต่ถึงอย่างนั้น ลาพิสก็ช่วยป้องกันเหตุการณ์แย่ๆไม่ให้เกิดขึ้นจากด้วยการเปลี่ยนนโยบายของผมไปเพียงเล็กๆน้อยๆ มันไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาจะสามารถทำกันได้

 

 

……หากผมกับพาร์ซินั้นเป็นตัวแทนการเมืองฝ่ายชั่วร้าย ลาพิสก็เป็นตัวแทนของฝ่ายการเมืองที่แท้จริง

 

 

‘สเตตัส’

 

ผมเช็คสแตทของลาพิส

 

 

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

 

ชื่อ: ลาพิส ลาซูลิ 

เผ่า: ลูกครึ่งซัคคิวบัส    ฝ่าย: บริษัท เคียนคุสก้า

สถานะ: เป็นกลาง Neutral(-10)

เลเวล: 25    ชื่อเสียง: 194

อาชีพ: พ่อค้า(A-), แม่มด(B), นักดาบ(D)

ความเป็นผู้นำ: 59  อำนาจ: 32   ความฉลาด: 57

ไหวพริบ: 76  เสน่ห์: 50  เทคนิค: 2

ค่าความชอบ: 50

ค่าความจงรักภักดี: 82

*ฉายา: 1. เร่ร่อนสู่ร่ำรวย 2. พ่อค้าแห่งเคียนคุสก้า

*อบิลิตี้: การค้าขาย(B+), การบัญชี(B+), การคิดเลข(B), การหว่านเสน่ห์(C), ความชำนาญดาบ(D)

*สกิล : –

ความคิดตอนนี้: ‘……เขาชมฉัน’

 

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

 

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

[ฉายา]

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

 

ค่าไหวพริบทางการเมืองของเธอเกิน 70 ไปแล้ว มันเป็นตัวเลขที่เปล่งประกายมากเมื่อเทียบกับค่านั้นของลอร่าที่มีแค่ 10 

 

ค่าไหวพริบของลาพิสนั้นจดจ่อไปในการทำงานจริงในขณะที่ผมมีความถนัดเป็นพิเศษในเรื่อง การวางแผนและกลอุบาย

 

ถึงแม้คนสองคนจะมีค่า ไหวพริบถึง 70 แต่มีรายละเอียดในเรื่องความชำนาญที่แตกต่างกัน

 

ตัวอย่างเช่น ตามสมมุติฐานนะ ค่าไหวพริบที่สูงสุดของบาร์บาทอสนั้นมุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการจัดการฝ่ายที่ราบ 

เธอนั้นเป็นทหารผ่านศึกที่ต้องจัดการกับความขัดแย้งระหว่างฝ่าย และไกล่เกลี่ยความสัมพันธ์ ถึงอย่างนั้นเธออาจจะไม่รู้เรื่องการจัดการดินแดนเลยก็ได้

 

‘ผมดีใจที่ดึงลาพิสมาอยู่ฝ่ายผมตั้งแต่เนิ่นๆ สายตาที่แยกแยะคนได้ของผมเนี่ยไม่ผิดเลยจริงๆ’

 

ลาพิสพูดอย่างระวังในขณะที่ผมกำลังพอใจอย่างมาก เธอทำท่าทางระวังอย่างที่ไม่เคยมาก่อน

 

 

“ท่านดันทาเลี่ยนคะ สิ่งที่ดิฉันบอกท่านไม่ได้น่าประทับใจเป็นพิเศษจริงๆนะคะ”

 

“หืมม ไม่หรอกน่า มันสุดยอดจริงๆ ทำได้ดีมากๆ เอาล่ะๆ ข้าหายใจหายคอได้คล่องเลยจริงๆ”

 

“ถ้าอย่างนั้น จะเป็นอะไรไหมคะ หากดิฉันจะขอรางวัลเล็กๆน้อยๆบ้าง?”

 

ผมพยักหน้า

 

“แน่นอน! บอกสิ่งที่อยากได้มาเลย! ข้าจะให้ทุกอย่างเลย”

 

“……ทุกอย่างหรือคะ?”

 

ตอนนั้นเองที่ ดวงตาของลาพิสเปล่งประกาย

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Dungeon Defense (WN) 128 เช้าตรู่ในโรม(4)

Now you are reading Dungeon Defense (WN) Chapter 128 เช้าตรู่ในโรม(4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

 

* * *

 

และแล้วผมกับพาร์ซิก็ได้คำตัดสินจากที่คุยกันก่อนหน้านี้

 

 

“มันเป็นเรื่องจริงที่เจ้านั้นละเลย ไม่ใส่ใจยามเมื่อเพื่อนบ้านของเจ้านั้นได้แสดงสัญญาณอันตรายในการก่อกบฏ แ

ละก็จริงอีกเช่นกันที่พวกเจ้านั้นได้กระทำไปโดยพลการโดยมิได้ขออนุญาตต่อข้าก่อนนั้นจัดเป็นการกระทำผิดอันร้ายแรงด้วย

แต่ถึงอย่างนั้น การที่เจ้าสามารถจัดการกับผู้ทรยศได้รวดเร็วก็เห็นได้ชัดแล้วว่า พวกเจ้าทั้งหมดไม่ได้มีเจตนาที่จะร่วมมือกันอย่างลับๆในการต่อต้านข้า

ดังนั้นข้าจะจัดการกับหัวหน้าหมู่บ้านทั้งสามด้วยการริบทรัพย์เสีย”

 

ผมที่ได้ทำการยึดทรัพย์สินทั้งหมดของหัวหน้าหมู่บ้านทั้งสามคนนั้น ผมจึงไม่เอาส่วยที่ทางหมู่บ้านเตรียมไว้ให้ ชาวบ้านต่างสรรเสริญกับคำตัดสินของผมว่า ช่างมีกรุณายิ่ง 

 

จากมุมมองชาวบ้านนั้นดูเหมือนหัวหน้าหมู่บ้านจะได้สละตนให้เพื่อหมู่บ้าน

แต่ก็เห็นกันอยู่แล้วนี่ว่า ส่วยที่ผมคืนกลับไปให้เขานั้นจะกลับไปอยู่ที่ไหน เรือล่มไหนหนองทองจะไปไหนเสียล่ะ 

พอผลเป็นอย่างนั้นเข้าก็เป็นโชคที่ผมและหัวหน้าหมู่บ้านที่เหลือรักษาหน้าไว้ได้

 

ผมได้ส่งก็อบลินไปยังหมู่บ้านที่เหลือ

 

สามวันต่อมา มีทูตมาจากหมู่บ้านต่างๆมาถึงปราสาทจอมมารของผม พวกเขาหมอบกราบอยู่หน้าทางเข้าดันเจี้ยนเพื่อขอร้อง พวกเขาวอนขอผมอภัยให้พวกเขา

 

พวกเขาได้ลิ้มรสชาติชีวิตสงบสุขที่ไม่มีมอนสเตอร์บุกแล้ว จึงสามารถที่จะมุ่งเป้าไปที่การทำฟาร์มโดยไม่ต้องกังวลอะไร พวกเขาไม่ต้องการแม้แต่จะสร้างกองทหารอาสา จึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้สถานการณ์กลับไปเป็นเหมือนเดิม

 

“คราวนี้ต้องเก็บภาษี 70%”

แม้จะเป็นปกติของยุคนี้ แต่ก็นับว่าเป็นอัตราภาษีที่หนักหนา ผู้เฒ่าจากหมู่บ้านพวกนั้นอาจขอบคุณในทีแรกที่ให้อภัยพวกเขา 

แต่ความพึงพอใจพวกนั้นก็จะเหือดแห้งไปเมื่อเวลาผ่านไป

พวกเขาจะเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมพวกเขาถึงต้องจ่ายภาษี70%เพียงเพื่อคุ้มครองจากก็อบลินเท่านั้นล่ะ

 

ผมจะใช้ประโยชน์จากจุดนั้นแหละ

ยิ่งพวกเขาทำงานเบ็ดเตล็ดอย่างดูแลน้ำ ผมก็ยิ่งลดภาษีให้พวกเขา

“ข้าจะลดภาษีของพวกเจ้าลงตามงานที่พวกเจ้าทำได้ในดินแดนนี้ พวกเจ้าจงทำงานอย่างเต็มที่เพื่อสิ่งรอบตัวเจ้าเองล่ะ”

 

อัตราภาษีสำหรับชาวบ้านที่ทำงานคือ 40% พวกเขาจ่ายแค่ 40% จากผลประโยชน์ที่เขาหามาได้ 

การเก็บภาษีเพียง 40% นั้นเพียงพอที่จะให้ชาวบ้านร้องเพลงสรรเสริญถึงคุณงามความดีของเจ้าของที่แล้ว

ผมผลักดันให้อัตราภาษีเหลือ 40% สำหรับคนทำงานสำหรับหมู่บ้านที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนั้น ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่เหมาะสม

 

ยิ่งไปกว่านั้นผมไม่ยื่นมือไปยุ่งกับการเก็บเกี่ยวข้าวบาร์เล่ย์ รอบที่สองด้วย

โดยปกติแล้ว การทำการเกษตรจะมีช่วงการปลูกและเก็บเกี่ยวข้าวสาลี และจากนั้นก็จะเก็บเกี่ยวข้าวบาร์เล่ย์ จึงทำได้ 2 รอบต่อปี 

ผมจะเก็บภาษีเฉพาะการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีของพวกเขา

 

“เท่านี้ก็เพียงพอที่จะไม่ทำให้พวกเขาต้องหิวตายแล้วถูกไหม?”

ผมถามลอร่าในขณะที่ปรึกษาเธอเรื่องนี้ ลอร่านั้นเป็นลูกสาวของดยุคผู้มีชื่อเสียง 

ผมถามเธอเนื่องจากคิดไว้ว่า เธอน่าจะมีความสามารถเรื่องการจัดเก็บภาษีอยู่บ้าง แต่ทว่า

 

“ต้องขออภัยค่ะ นายท่าน แต่หญิงสาวผู้นี้ไม่มีความรู้เรื่อง การบริหารจัดการดินแดนโดยสิ้นเชิงเลยค่ะ”

 

พอมาคิดๆดูแล้ว ลอร่าก็โดนขับไล่ออกจากตระกูลนี่นะ เธอคงไม่ได้รับการศึกษาอย่างที่ผู้สืบทอดจะได้รับ ดังนั้นจึงไม่มีทางที่เธอจะรู้เรื่องยากๆอย่างการบริหารจัดการดินแดน คงหวังพึ่งเธอไม่ได้จริงๆนั่นแหละ…….

 

 

“ช่างน่าผิดหวังเสียจริงที่รู้ว่า ข้ารับใช้หนึ่งเดียวของข้าแต่ในนามนั้นช่างไร้ความสามารถ”

 

“อั่ก……. หยะ-หญิงสาวผู้นี้สามารถช่วยเรื่องการรบการศึกได้ แค่นั้นไม่พอหรือคะ!?”

 

ใบหน้าของลอร่าแดงก่ำขณะที่โต้แย้ง

 

แต่เดิมเธอน่ะ จะได้กลายเป็นตัวตนที่ทรงอิทธิพลที่สุดที่อยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบริททานี่ เลยรู้ไหม?

 

แล้วการเป็นรัฐมนตรีระดับชาติเนี่ยจะมีแต่ประสบการณ์ทางการทหาร แต่ไม่มีความรู้เรื่องการเมือง การบริหารจัดการเลยได้อย่างไร?

 

ผมชักเป็นห่วงอนาคตของชาติ อ่า ราชอาณาจักรบริททานี่ที่จะล่มสลายใน<Dungeon Attack> นี่คงอธิบายการล่มสลายของชาติพวกเขาได้ดีเลยล่ะ

 

“การศึกการรบไม่ใช่สิ่งจำเป็นในตอนนี้ มันอีกนานเลยกว่าพวกเราจะได้เข้าสู่สงครามอื่นอีก 

นั่นหมายความว่า เธอจะไร้ประโยชน์ไปอีกน้านนานเลยล่ะ ช่างเป็นคนช่างเอาเปรียบที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้นะ”

 

“อูอู้วววว”

 

ลอร่ามองผมด้วยความขัดใจ ช่างน่ารักเสียจริง

 

ผมยักไหล่

 

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้นะ มีเพียงสิ่งเดียวที่เธอทำได้แล้วล่ะ ลอร่า”

 

“มีอะไรหรือคะ? นายท่าน ได้โปรดบอกมา หญิงสาวผู้นี้จะพยายามเต็มที่”

 

“ถ้าหัวของลอร่ามันใช้การไม่ได้ ก็มีแต่ร่างกายของเธอแล้วนี่แหละ”

 

สีหน้าของลอร่ากลับว่างเปล่า มันเป็นใบหน้าของนักปราชญ์ผู้สิ้นชาติ

 

“มะ-ไม่มีทาง”

 

“หันก้นมาทางนี้สิ”

 

“ม่ายยย! ฉันบอกไปแล้วไงคะว่า จะไม่ทำอีกแล้ว นายท่าน! อู้ว ฮิก!”

 

ลอร่าพยายามต่อต้านอย่างสุดกำลัง แต่สุดท้ายก็กลายเป็นอาหารจานหนึ่งไปในที่สุด เสียงอันน่าพึงพอใจดังขึ้นในหูผมตอนนั้นเอง

 

 

「เลเวลอาชีพของลอร่า เดอ ฟาร์เนเซ่ (ทาสกาม) เพิ่มขึ้น!」

อาชีพทาสกามของลอร่านั้นเพิ่มจาก C ไปเป็น B มันเป็นอาชีพที่ไม่มีประโยชน์เลยนอกจากจะลดค่าสแตทไหวพริบและเสน่ห์ลง

 

แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังพบประโยชน์ลับๆจากอาชีพทาสกามนะ

ก็คือ……ทาสกามเลเวลที่สูงขึ้นจะเพิ่มคุณภาพเซ็กส์ได้ ยิ่งเลเวลสูงเท่าไหร่คุณก็ยิ่งรู้สึกดีขึ้นเท่านั้น!

เป็นที่แน่นอนว่า สัมผัสที่โอบหุ้มรอบเจ้าน้องชายผมกลับแน่นขึ้นตามเลเวลที่เพิ่มขึ้น มันเหมือนกับสไลม์ร้อนๆชั้นเยี่ยมที่บีบรัดผม

 

พวกเราทำกับเกือบ 6 ชั่วโมงเลยในวันนั้น

 

“…….”

 

ลอร่านั้นตายในหน้าที่ เธอล้มลงอยู่ในมุมหนึ่งของเตียง ช่วงเวลาสุดท้ายของเธอนั้นช่างรุ่งโรจน์นัก

 

“ฟู่วว ข้าจัดการกับนายพลศัตรูได้แล้ว”

 

“…….”

 

ผมพูดขึ้นมาอย่างพออกพอใจ แต่ลอร่าไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เธอคงสลบไปแล้วนั่นแหละ ผมมีกำลังเหลือพอที่จะทำให้เด็กสาวอายุ 17 สลบไป ผมวักน้ำในถ้วยมาดื่มด้วยความรู้สึกที่ได้พิชิตบางอย่าง 

หลังจากกามราคะของผมหายไปจากร่างกายแล้ว มีเพียงความกังวลที่ยังคงอยู่ ผมจะจัดการกับดินแดนของผมยังไงดีล่ะเนี่ย?

 

 

“อืมม”

มันก็จริงแหละที่ผมมีภาพใหญ่ไว้อยู่แล้ว แต่ผมไม่แน่ใจว่า ควรจะทำมันตอนไหนดี

มันไม่เหมือนดินแดนของมาร์คกราฟโรเซนเบิร์ก ที่มีอัตราภาษีตายตัวอยู่แล้วเป็นสิ่งที่สืบๆกันต่อมานับร้อยปี ทั้งหมดที่ผมทำก็แค่เซ็นเอกสารยืนยัน

ในขณะที่สถานการณ์ในหมู่บ้านชาวภูเขารอบปราสาทจอมมารนั้นต่างไปสิ้นเชิง หมู่บ้านเล่านั้นสร้างขึ้นมาหลังจากหนีลอร์ดที่สุดจะโหดเหี้ยมคนเก่า และอยู่ท่ามกลางการบุกโจมตีของมอนสเตอร์

ดินแดนที่ลอร์ดพวกนั้นเอื้อมไปไม่ถึง แถมยังมีก็อบลินอีก มันเป็นภูมิประเทศที่ยอดเยี่ยมที่ยากจะมีใครมาพบ

และเมื่ออยู่ๆผมโผล่ขึ้นมา ผมก็ต้องจัดระบบภาษีตั้งแต่ศูนย์ เช่นเดียวกับที่บอกกันเสมอว่า เริ่มต้นดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง แล้วเราจะทำให้ภาพใหญ่ของดินแดนในฝันของผมในอนาคตเป็นจริงได้อย่างไร ผมนี่ไม่รู้เลยจริงๆ

 

และตอนนั้นเอง พระผู้ช่วยก็ได้มาถึง

 

ผ่านไปสามสัปดาห์ หลังจากที่ผมแอบหนีมาจากสงครามพันธมิตรเสี้ยวจันทรามาได้ ซาคิวบัสผมสีชมพูก็ได้มาพบผมที่ปราสาทจอมมาร 

 

“ดิฉันต้องขอประทานอภัยค่ะ งานโลจีสติกนั้นมีมากเหลือเกิน ทำให้ดิฉันพึ่งออกมาได้ก็ตอนนี้”

 

ลาพิสโค้งให้อย่างเคารพขณะพูด

 

“นับจากวันนี้เป็นต้นไป ดิฉันจะกลับมาทำงานในฐานะของพ่อค้าคนสำคัญของฝ่าบาทดันทาเลี่ยนอีกครั้ง ได้โปรดให้ความกรุณา…….”

 

“ลาพิสสสสสส!”

 

“คุณลาพิสคร้าบบบบ―!”

 

ลอร่ากับผมวิ่งไปหาเธอพร้อมๆกัน พวกเราทั้งดึงกระโปรงดึงขาแล้วตะโกนออกมา

ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ที่ไหน ลาพิสต่างแสดงสีหน้าเรียบเฉยและไม่สนใจใยดีตลอดเวลา แม้จะมีเจ้านายลูกน้องต่างมาร้องไห้อยู่ข้างๆกันก็ตาม

 

―ทั้งสองต่างเปลือยอยู่

―เธอไม่ได้แสดงสีหน้ากังวลอะไร เธอเพียงแค่เลิกคิ้วก่อนจะมองมาที่พวกเรา

 

 

“……เกิดอะไรขึ้นกันคะ?”

 

“ดินแดนของข้า! ระบบภาษี! กฏหมาย! ข้าไม่รู้เลยว่า ต้องเริ่มต้นยังไง!”

“นายท่านน่ะเป็นปีศาจบ้ากาม! เขาพยายามที่จะลากหญิงสาวผู้นี้ไปนับร้อยครั้งต่อวัน ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว คุณลาพิส หยุดความบ้ากามของนายท่านให้ที!”

 

ลาพิสถอนใจออกมา

 

“กรุณาพูดทีละคนด้วยค่ะ”

 

ลาพิสนั้นถือว่ามีประสบการณ์มากในการบริหารจัดการดินแดน

 

เธอได้ฟังแนวคิด ที่ผมเตรียมจะวางไว้สำหรับหมู่บ้าน ลาพิสตั้งใจฟังสิ่งที่ผมพูดอย่างสุขุมโดยพยักหน้าตอบ

 

“แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ แต่มีบางอย่างที่ต้องแก้ไข”

 

“ข้าคิดไว้แล้ว”

 

ผมหัวเราะ

 

 

“ก่อนอื่น ปัญหาเรื่องการลดภาษี การลดภาษีการบังคับใช้แรงงานนับเป็นเรื่องดี 

ถึงอย่างนั้นท่านตั้งใจที่จะตรวจสอบการทำงานเป็นรายบุคคลอย่างนั้นหรือคะ? 

ท่านไม่สามารถเปลี่ยนคนเฝ้าไม่ซ้ำกันทุกวันแล้วสั่งให้เขารายงานได้หรอกค่ะ”

 

“อ่าา”

 

เธอพูดถูก

 

งานที่ต้องบังคับนั้นก็เป็นแค่งานใช้แรงงานธรรมดาทั่วไป หากบอกพวกเขาให้มาสร้างอ่างเก็บน้ำชาวบ้านก็จะมาร่วมกันทำงาน 

ในสถานการณ์อย่างนั้น ผมจะคำนวนคนที่มาลงแรงทำงานได้ยังไงกันนะ? ผมได้แต่เสี่ยงเดาเอาอย่างเดียว

 

“ให้เป็นหน้าที่หัวหน้าหมู่บ้านไปเสีย……อาจไม่มีปัญหาก็ได้”

 

“ถูกต้องแล้วค่ะ ท่านควรจะแบ่งอำนาจบางส่วนบ้าง”

 

หากผมให้งานนี้กับหัวหน้าหมู่บ้านไป อำนาจของหัวหน้าหมู่บ้านก็จะเพิ่มขึ้นมาก

ชาวบ้านก็จะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเอาอกเอาใจหัวหน้าหมู่บ้าน ทุกคนต่างก็จะตั้งใจทำเงินแล้วรายงานหัวหน้าถึงสิ่งที่พวกเขาได้ทำ

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ได้ลดภาษีมากกว่าคนอื่นๆด้วย แล้วพอภาษีลดลงแล้วจะทำยังไงกันต่อ? 

พวกเขาก็จะมอบส่วนนั้นให้กับหัวหน้าหมู่บ้าน

สุดท้ายแล้วไม่เพียงเจ้าของบ้านจะได้ทุกอย่างไปแต่หัวหน้าหมู่บ้านก็จะกลายเป็นผู้ครอบครองความมั่งคั่งทั้งหมดด้วย

ถ้าเป็นอย่างนี้จะกลายเป็นว่า ที่ผมทำไปทั้งหมดนั้นมากมายนั้นกลายเป็นผลกำไรของหัวหน้าหมู่บ้านเสียแต่ผู้เดียว

 

“ข้าควรทำอย่างไร?”

 

“มีวิธีแก้ที่เรียบง่ายและทรงประสิทธิภาพค่ะ ลดอัตราภาษีทั้งหมู่บ้านไม่ใช่แค่กับคนใดคนหนึ่งค่ะ ท่านจะสามารถลดภาษีได้ทั้งหมู่บ้านไปเลยค่ะ”

 

“อะฮ่า!”

 

ดวงตาของผมเบิกกว้าง ช่างเป็นวิธีการที่ดีเสียนี่กระไร

พูดง่ายๆคือ ผมสั่งให้พวกเขาสร้างอ่างเก็บน้ำขึ้นด้วยการลดภาษีลงถ้าทำงานนี้เสร็จ จะได้ไม่ต้องคิดอะไรให้มันยุ่งยากซับซ้อน แถมยัง

 

“ยิ่งไปกว่านั้นท่านไม่ต้องกังวลเรื่อง คนขี้เกียจด้วย”

 

“ผู้เกียจคร้านจะถูกทุกคนในหมู่บ้านตำหนิดังนั้นพวกเขาจะพยายามช่วยกันทำค่ะ!”

 

“หากมีใครสักคนหนึ่งทำผิดพลาด คนทั้งหมู่บ้านต่างเสียประโยชน์กันหมด สิ่งนี้จะสร้างบรรยากาศให้เกิดความรับผิดชอบร่วมกันค่ะ”

 

ไม่เพียงแต่ทำให้การคำนวนนั้นง่ายขึ้น แต่ยังลดโอกาสของการแอบอู้ ขี้เกียจไปได้ด้วย เป็นการยิงนัดเดียวได้นกสองตัว ผมได้แต่อึ้งกับกลวิธีนี้

 

“สุดยอดไปเลยนะ นี่เธอคิดวิธีแบบนี้ได้ยังไงกัน?”

 

“ดิฉันไม่สมควรได้รับคำชมเชยเช่นนั้น วิธีการนี้มิได้น่าประทับใจเลยค่ะ”

 

ลาพิสตอบกลับมาอย่างเฉยเมย เธอคงเชื่อจริงๆแหละว่ามันไม่ได้น่าประทับใจขนาดนั้น

 

แต่ถึงอย่างนั้น ลาพิสก็ช่วยป้องกันเหตุการณ์แย่ๆไม่ให้เกิดขึ้นจากด้วยการเปลี่ยนนโยบายของผมไปเพียงเล็กๆน้อยๆ มันไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาจะสามารถทำกันได้

 

 

……หากผมกับพาร์ซินั้นเป็นตัวแทนการเมืองฝ่ายชั่วร้าย ลาพิสก็เป็นตัวแทนของฝ่ายการเมืองที่แท้จริง

 

 

‘สเตตัส’

 

ผมเช็คสแตทของลาพิส

 

 

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

 

ชื่อ: ลาพิส ลาซูลิ 

เผ่า: ลูกครึ่งซัคคิวบัส    ฝ่าย: บริษัท เคียนคุสก้า

สถานะ: เป็นกลาง Neutral(-10)

เลเวล: 25    ชื่อเสียง: 194

อาชีพ: พ่อค้า(A-), แม่มด(B), นักดาบ(D)

ความเป็นผู้นำ: 59  อำนาจ: 32   ความฉลาด: 57

ไหวพริบ: 76  เสน่ห์: 50  เทคนิค: 2

ค่าความชอบ: 50

ค่าความจงรักภักดี: 82

*ฉายา: 1. เร่ร่อนสู่ร่ำรวย 2. พ่อค้าแห่งเคียนคุสก้า

*อบิลิตี้: การค้าขาย(B+), การบัญชี(B+), การคิดเลข(B), การหว่านเสน่ห์(C), ความชำนาญดาบ(D)

*สกิล : –

ความคิดตอนนี้: ‘……เขาชมฉัน’

 

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

 

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

[ฉายา]

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

 

ค่าไหวพริบทางการเมืองของเธอเกิน 70 ไปแล้ว มันเป็นตัวเลขที่เปล่งประกายมากเมื่อเทียบกับค่านั้นของลอร่าที่มีแค่ 10 

 

ค่าไหวพริบของลาพิสนั้นจดจ่อไปในการทำงานจริงในขณะที่ผมมีความถนัดเป็นพิเศษในเรื่อง การวางแผนและกลอุบาย

 

ถึงแม้คนสองคนจะมีค่า ไหวพริบถึง 70 แต่มีรายละเอียดในเรื่องความชำนาญที่แตกต่างกัน

 

ตัวอย่างเช่น ตามสมมุติฐานนะ ค่าไหวพริบที่สูงสุดของบาร์บาทอสนั้นมุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการจัดการฝ่ายที่ราบ 

เธอนั้นเป็นทหารผ่านศึกที่ต้องจัดการกับความขัดแย้งระหว่างฝ่าย และไกล่เกลี่ยความสัมพันธ์ ถึงอย่างนั้นเธออาจจะไม่รู้เรื่องการจัดการดินแดนเลยก็ได้

 

‘ผมดีใจที่ดึงลาพิสมาอยู่ฝ่ายผมตั้งแต่เนิ่นๆ สายตาที่แยกแยะคนได้ของผมเนี่ยไม่ผิดเลยจริงๆ’

 

ลาพิสพูดอย่างระวังในขณะที่ผมกำลังพอใจอย่างมาก เธอทำท่าทางระวังอย่างที่ไม่เคยมาก่อน

 

 

“ท่านดันทาเลี่ยนคะ สิ่งที่ดิฉันบอกท่านไม่ได้น่าประทับใจเป็นพิเศษจริงๆนะคะ”

 

“หืมม ไม่หรอกน่า มันสุดยอดจริงๆ ทำได้ดีมากๆ เอาล่ะๆ ข้าหายใจหายคอได้คล่องเลยจริงๆ”

 

“ถ้าอย่างนั้น จะเป็นอะไรไหมคะ หากดิฉันจะขอรางวัลเล็กๆน้อยๆบ้าง?”

 

ผมพยักหน้า

 

“แน่นอน! บอกสิ่งที่อยากได้มาเลย! ข้าจะให้ทุกอย่างเลย”

 

“……ทุกอย่างหรือคะ?”

 

ตอนนั้นเองที่ ดวงตาของลาพิสเปล่งประกาย

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+