Dungeon Defense (WN) 171 โลกที่จอมมารเท่านั้นที่รู้ (8)
ชั่วขณะนั้นเองที่พวกเราตกอยู่ในความเงียบ บารอนกำลังคิดหนัก
เขาคงกำลังคิดอยู่ว่า สงครามกลางเมืองจะเกิดขึ้นในฟรานเคียและจะมีผลกระทบต่อดินแดนของเขาอย่างไรบ้าง หากเขาเข้าไปยุ่งเกี่ยว
ตอนนี้ในหมู่บ้านกำลังอยู่ในความรื่นเริง ดังนั้นจึงทำให้บารอนยิ่งรู้สึกไม่สบายใจนัก ความสงบสุขนี้จะดำรงอยู่ได้นานแค่ไหนกัน……?
ขณะเดียวกัน ผมกำลังคิดว่า ซุปนี้รสชาติดีเสียจริง
อื้มมม มีไก่ในนี้ด้วย ดังนั้นเจ้านี่ก็คงเป็นซุปไก่ และก็ยังคงมีผักหลายต่อหลายอย่างลอยอยู่
สัดส่วนระหว่างเนื้อไก่กับผักนี่มันไม่ได้พอดีกันเลย มันสมควรจะเรียกเจ้าสิ่งนี้ว่าเป็นซุปไก่ได้ด้วยรึไง? นี่แหละปัญหาที่แท้จริงล่ะ…….
“ข้าได้พักมากขึ้นอีกหน่อย ต้องขอบคุณพวกท่านมาก หากสิ้นฤดูหนาวตามปกติแล้ว หมู่บ้านเราก็จะอยู่ในความหดหู่”
“มันเป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง หากคณะจาริกของพวกเราจะช่วยเหลือท่านได้”
ทำไมซุปมันถึงตั้งชื่อตามชนิดเนื้อที่ใส่กันล่ะ……?
พอคิดได้อย่างนั้นผมก็ตักซุปมาเต็มช้อน
อื้ม รสชาติดี เอาล่ะ เรียกมันว่า ซุปอร่อยดีกว่า
“ต้องขอบคุณการมาของพวกท่าน คนของข้าจึงได้เบาใจในช่วงฤดูใบไม้ร่วง พวกเราถือได้ว่า โชคดีมาก ขอขอบคุณท่านอีกครั้งเป็นการส่วนตัว”
“โปรดอย่าใส่ใจนักเลย”
ผมไม่ได้พูดจากใจจริงหรอก เอาจริงผมคิดเรื่องนั้นจริงจังกว่าบารอนเสียอีก ผมกำลังเผชิญกับผู้ที่ไม่สนใจในการปกป้องสิทธิ์และความชอบธรรมของผักทั้งหลาย
ชะตากรรมของฟรานเคียไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น นี่แหละเป็นความแตกต่างระหว่างบาเรียกับจอมมาร
อื้มมมหรือผมควรจะจุ่มขนมปังลงในซุปกันนะ?
“มีสิ่งหนึ่งที่ข้าอยากขอร้องกับกลุ่มของท่าน”
“เท่าที่กำลังของพวกเราไหว”
ทำไมหมอนี่เอาแต่คุยกับผมกันนะ?
ผมกำลังแบ่งแยกระหว่างพวกผักกับพวกเนื้อในซุปตรงหน้าอยู่ อย่ามากวนกันสิ
“ก็อบลินกลับออกอาละวาดแปลกๆ ตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมาแล้ว ปกติมอนสเตอร์ไม่ค่อยโผล่ตัวมาในแถบนี้เลย นี่อาจจะเป็นเพราะปราสาทจอมมาร”
“มอนสเตอร์ทั้งหลายไม่ค่อยออกห่างจากปราสาทจอมมารหรอกท่าน”
นั่นก็เพราะมีมานาจำนวนมหาศาลรวมตัวในปราสาทจอมมาร
จะว่าไปแล้ว ปราสาทจอมมารก็เหมือนกับชามซุปไก่สำหรับมอนสเตอร์ที่มีชีวิตด้วยมานานั่นแหละ พวกมันก็ย่อมต้องไม่อยากจากไปไหน
“ถูกต้องแล้วล่ะ แต่ถึงอย่างนั้นมอนสเตอร์อยู่ๆก็โผล่มา ซึ่งมันเป็นจังหวะใกล้เคียงกับที่เริ่มสงครามกองทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทรา”
บารอนเบอร์ซี่ตั้งสมมุติฐานได้น่าสนใจเลยทีเดียว
เขาคิดว่า กองทัพพันธมิตรนั้นสู้กับมนุษย์ชาติในแนวหน้า ส่วนจอมมารก็คอยจัดการทวีปจากแนวหลัง
เขาคิดว่า จอมมารที่อยู๋ใกล้ๆนั่นกำลังให้การร่วมมือแบบนั้นอยู่
แต่โทษทีนะ มันผิดถนัด
มอนสเตอร์แถวนี้มันออกอาละวาดไปทั่วก็เพราะซุปไก่ของพวกมันหายไปแล้วต่างหาก ก็เลยพอจะเข้าใจความเกรี้ยวโกรธของพวกมันได้อยู่
ผมเคยพูดคุยกับใครสักคนก่อนหน้านี้
– ปราสาทจอมมารของแกอยู่ที่ไหน?
– จักรวรรดิแฟร้ง ภูมิภาคลอเรน(Lorraine province)……เขตภูเขาราเอลเลเรีย(Raelleria)
– ยอดเยี่ยม หมู่บ้านใกล้ๆปราสาทจอมมารของนายชื่ออะไร?
– โพเมตร้า(Pometra)และคัมพานิล(Kampanyl)……
ภูมิภาคลอเรน,บารอนเบอร์ซี่, และหมู่บ้านโพเมตร้า
นั่นเป็นดินแดนของจอมมารลำดับ 72 ―อันโดรมาลิอุสที่พักอยู่ตรงนั้น
พวกมนุษย์ยังคงไม่รู้เรื่องที่อันโดรมาลิอุสตาย การที่ก็อบลินออกมาอาละวาดนั้นก็เพราะว่า มานารอบปราสาทจอมมารหายไปหลังจอมมารตาย อันโดรมาลิอุสน่ะตายในโลกปีศาจดังนั้นไม่น่าแปลกใจนักหรอกที่บารอนจะไม่รู้เรื่องความตายของหมอนั่น
อันโดรมาลิอุสบีบต้อนให้ก็อบลินจำนวนมากเข้าไปอยู่ในเหมืองแล้วทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อให้ตัวเองมีเงินไปเล่นพนัน ก็อบลินพวกนั้นนั่นแหละที่ทะลักออกมาจากดันเจี้ยน
ผมคิดอย่างนั้นระหว่างที่เช็ดปาก
‘ใน <Dungeon Attack> หมู่บ้านของตัวเอกถูกเผาโดยก็อบลิน ผมต้องยืนยันก่อนหว่าหมู่บ้านของฮีโร่นั้นยังปลอดภัยดีอยู่หรือไม่…….’
การแจ้งเตือนของนักทำลายเควส(Quest Breaker) ไม่เด้งขึ้นมาตอนที่ผมฆ่าอันโดรมาลิอุส
ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่า จอมมารมีหน้าที่ทำลายเควส ผมจึงโล่งใจที่ต่อมาผมพบว่า ตัวเองสามารถทำลายเควสได้แต่ตรงจุดนั้นเองที่มีคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวผม
ทำไมถึงไม่มีแจ้งเตือนบอกว่า ผมทำลายเควสของฮีโร่ขึ้นมาล่ะ?
เหตุผลที่ว่า ทำไมตัวเอกจึงกลายเป็นฮีโร่นั้นก็เพราะจอมมารอย่างอันโดรมาลิอุส ตัวเองนั้นเริ่มฝังความเกลียดชังที่มีต่อจอมมารนับตั้งแต่อันโดรมาลิอุสทำลายหมู่บ้านของเขาอย่างโหดเหี้ยมไร้ความปรานี
ตัวเอกนั้นก็น่าจะไม่มีเหตุผลอื่นใดแล้วสิ หากไม่มีอันโดรมาลิอุสอีกต่อไป
‘แต่ถึงอย่างนั้น เควสก็ไม่ถูกทำลายอยู่ดี’
หรือตัวเอกนั้นมีชะตากรรมที่ต้องกลายเป็นฮีโร่อยู่ดีไม่ว่า อันโดรมาลิอุสจะหายไปหรือไม่ก็ตาม ? หรือเป็นไปได้ว่า มีใครบางคนสืบทอดต่อตำแหน่งของฮีโร่แม้จะไม่ใช่ตัวเอกเอง……? มันมีความเป็นไปได้อื่นอีกเยอะ
แต่ไม่ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไร ก็ยังคงมีสิ่งหนึ่งสิ่งเดียวที่ผมต้องทำ
นั่นคือ การถอนรากถอนโคนบุคคลที่กำลังจะกลายเป็นฮีโร่
ผมร่วมงานกับพันธมิตรแห่งการปลดแอกเพื่อจุดประสงค์นี้นี่แหละ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่พวกเราจะมาอยู่ที่ดินแดนของบารอนเบอร์ซี่
จากสถานการณ์ปัจจุบันทั้งฝ่ายกองทัพจอมมารและฝ่ายกองทัพมนุษย์ต่างอ่อนกำลังลง มนุษย์ผู้หนึ่งมีชะตาที่ต้องกลายเป็นฮีโร่ ที่จะเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยในอนาคตของผม
ผมต้องทุ่มเททุกอย่างเพื่อกำจัดมัน
“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะปราบพวกก็อบลินเอง นี่คงเป็นประสงค์ของท่านเทพธิดา”
ผมหันไปจิบไวน์หลังจากชิมรสซุปแล้ว
“ถึงอย่างนั้น โปรดส่งคนนำทางที่รู้เส้นทางแห่งนี้ดี คงจะมีกลุ่มโจรที่ฆ่าเผาหมู่บ้านอยู่รอบๆตีนเขา ไม่อย่างนั้นพวกเราอาจจะต้องสู้รบกันปะทะกันโดยไม่จำเป็น”
ใบหน้าของผมสะท้อนมาจากของเหลวสีแดงในแก้ว ใบหน้าที่สะท้อนออกมานั้นเป็นสีหน้าของนักบวชผู้จริงจังกำลังยิ้มอย่างอ่อนโยน
* * *
พวกเราได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่
ผู้ช่วยของบารอนนั้นเอาอาหารมามากมายจากเมืองหลัก ดังนั้นงานเลี้ยงงานเทศกาลจึงลากยาวไปถึงตอนดึกค่ำ ทหารรับจ้างคนแคระนั้นเป็นตัวตั้งตัวตีในงานนี้
ดีเสียจริงแทนที่จะฝืนใช้ใบอนุญาตให้พัก ทุกคนกลับยืนยันจะให้พวกเราพักค้างข้ามคืนในบ้านของพวกเขาเอง
ช่วงกลางวัน พวกเราได้รับเสียงเชียร์เป็นกำลังใจจากชาวบ้านราวกับว่าพวกเราเป็นทหารอาสาที่กำลังออกไปสำรวจพื้นที่
สองคนที่มาเป็นคนนำทางให้กับพวกเราเป็นนักล่าวัยกลางคนที่มีความเข้าใจในพื้นที่แถบนี้ดี
“หมู่บ้านที่ถูกฆ่าล้างไปหรือ? โอ้ ตรงนี้มีแห่งหนึ่งครับ”
“พวกเขาคงจะมาจากประเทศอื่น แต่พวกเขาสู้กับมอนสเตอร์ในดินแดนพวกเรา ดังนั้นลอร์ดของพวกเราเลยไม่ยุ่งกับพวกเขา”
มันเป็นอย่างนั้นเองสินะ
ผมแบ่งกลุ่มเราเป็นสองกลุ่ม โดยให้แจ็กเกอรี่พาทหารรับจ้างมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ที่ก็อบลินอยู่ ส่วนท่านฝ่ายเจเรมิและมือสังหารก็ติดตามผมมา พอแจ็กเกอรีถามว่าทำไมถึงต้องแยกเป็นสองกลุ่ม
ผมก็บอกเขาอยางนี้
“แผนการเดินทางของพวกเราต้องเลื่อนออกไปเพราะพวกแกเอาแต่นอนกันน่ะสิ แถบนี้ยังมีก็อบลินเกือบ 20 เผ่า ถ้าเคลื่อนพลไปด้วยกัน คงกำจัดได้แค่วันละเผ่า มันด้อยประสิทธิภาพเกินไป”
“อืมม”
แจ็กเกอรี่ผงกหัว
“พวกเราได้รับการสนุนจากชาวบ้านมามากมาย ดังนั้นเราจึงต้องตอบแทนกลับ”
“ชื่อเสียงของพวกเราเป็นเดิมพัน ดังนั้นเราต้องตั้งใจทำงานเพื่อให้ลอร์ดคนอื่นมาว่าจ้างเราอีกในอนาคต
ไอ้เรื่องร่วมมือกับจอมมารอื่นเพื่อหลอกมนุษย์น่ะไว้ทีหลัง
ตอนนี้เราต้องจริงจังกับงานนี้ก่อน”
“รับทราบครับ”
ซึ่งนั่นก็จริงครึ่งโกหกครึ่งแหละ
ความจริงผมตั้งใจจะร่วมมือกับจอมมารในทวีปนี้เพื่อถล่มพื้นที่แถบนี้อยู่แล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรเริ่มต้นแบบนั้นตั้งแต่แรก เราควรที่จะอดทนรอจนกว่าลอร์ดทั้งหลายจะเชื่อใจในกองทหารรับจ้างของเราก่อน
งานปราบก็อบลินเป็นงานง่ายๆที่จะได้รับชื่อเสียงเลยล่ะ ให้พูดอีกอย่างก็คือ ผมไม่ค่อยไว้ใจแจ็กเกอรี่อย่างเต็มที่
แจ็กเกอรี่นั้นเป็นผู้มีใจให้กับสาธารณรัฐ เขาขับเคลื่อนตัวเองด้วยอุดมการณ์และความเชื่อ
หากผมบอกให้พวกเขาถล่มและเผาหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุผลดีๆล่ะก็ เขาก็คงจะปฏิเสธผมในทันที
เขาไม่มีทางเข้าใจหรอก ถ้าผมบอกเขาว่า การที่สั่งให้ฆ่าล้างหมู่บ้านพวกนั้นก็เพื่อกำจัดบุคคลที่สักวันหนึ่งจะกลายเป็นฮีโร่ขึ้นมา
ดังนั้นงานแบบนี้ใช้เจเรมิกับกลุ่มมือสังหารของเธอสะดวกกว่า
กลุ่มมือสังหารนั้นเคยชินกับการฆ่าคนโดยไร้เหตุผลอยู่แล้ว นั่นเป็นหน้าที่ที่พวกเธอได้รับโดยไม่ต้องถามผู้จ้างวานว่า ฆ่าทำไม
แน่นอน ตอนที่ผมบอกให้เจเรมิกำจัดหมู่บ้านบนแผนที่ เธอก็ผงกหัวตอบรับ
“ข้าเชื่อว่า ฝ่าบาทได้คิดมาดีแล้ว”
เจเรมิตอบด้วยรอยยิ้ม
นั่นแหละ เธอช่างเป็นลูกน้องที่เชื่อใจได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
พวกเราตามคนนำทางไป 3 ชั่วโมงจนกระทั่งไปถึง หมู่บ้านที่ถูกกวาดล้างอยู่ท่ามกลางกองใบไม้
ควันไฟที่พวยพุ่งเป็นเสาดำจากกองไฟ ผู้คนอยู่ในเสื้อผ้าขาดๆวิ่นๆกำลังเดินไปมาๆกับเต๊นท์ที่เป็นเหมือนบ้าน
“เจเรมิ กวาดล้างเป้าหมายที่อยู่ตรงหน้าพวกเรา”
ผมลดเสียงแล้วมอบคำสั่งให้เธอ
เจเรมิหันไปมองหมู่บ้าน
“มันเป็นงานง่ายๆค่ะ อย่างมากพวกเขาก็มีกันสามสิบคน สิบคนเป็นคนหนุ่ม ข้าสามารถจัดการพวกนั้นได้ภายใน 5 นาที”
เธอตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มที่ริมฝีปาก แต่ผมไม่สามารถสัมผัสได้ถึงเศษเสี้ยวของสีหน้าได้เลย
แม้จะกำลังกระซวกคอใครสักคนอยู่ เธอก็คงไม่แสดงเจตนาฆ่าให้รั่วไหลออกมา
“ดูเหมือนจะมีใครบางคนที่ไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านนี้”
ตัวเอกนั้นออกไปนอกหมู่บ้านขณะที่จอมมารอันโดรมาลิอุสกำลังฆ่าล้างหมู่บ้านตอนเขายังเด็ก
นั่นเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมเขาถึงรอดจากการโจมตีครั้งนั้นได้ ครั้งนี้ไม่มีทางที่ผมจะยอมปล่อยไปได้หรอก
“ขอต้องการให้ฆ่าล้างทุกคนรวมถึงคนท้องถิ่นในหมู่บ้านแห่งนี้ด้วย”
“อย่างนั้นพวกเราจะทำอย่างไรดี? พวกเราควรจะรอให้เย็นก่อน?”
“ไม่ ข้ามีไอเดียดีๆ”
ผมดึงคัมภีร์เวทย์มนตร์ออกมา มันคือ คัมภีร์เทเลพอร์ทระดับกลางที่ช่วยผมไว้ในหลายๆโอกาส
“ข้าวางแผนที่จะอัญเชิญโกเลมที่นี่”
“ท่านจะจู่โจมหมู่บ้านด้วยโกเลม แล้วให้พวกเราไปจัดการผู้รอดชีวิตที่เหลือ?”
“ดีมากที่เจ้าเข้าใจอะไรง่าย”
เจเรมิยิ้ม
“มันเป็นสิ่งที่ฉันเชี่ยวชาญอยู่แล้วค่ะ”
“จำให้ดี ความมั่นใจที่มากเกินไปจะเป็นอันตราย อาจมีมอนสเตอร์ที่หลบซ่อนอยู่ในหมู่ศัตรูที่วันหนึ่งจะกลายเป็นสิ่งที่พิชิตได้ทั้งทวีป
เจ้านั่นมันเป็นผู้ชาย หากเจ้าเจอเขาแล้ว อย่าด่วนเข้าใกล้โดยไม่ระวังให้ รายงานกับข้าก่อน เข้าใจไหม? อย่าเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ”
“…….”
แสงในดวงตาของเจเรมิเปลี่ยนไป แววตาของเธอนั้นเปลี่ยนจากนักล่าในเกมเล็กๆกลายเป็นไฮยีน่าที่กำลังล่าสิงโต
เธอไม่ถามผมว่า เด็กชายคนนั้นจะทำแบบนั้นได้อย่างไรกัน เธอเชื่อในคำพูดของผมโดยสมบูรณ์อย่างนั้นจริงๆ
“เข้าใจแล้วค่ะ”
หากนับรวมเจเรมิแล้ว มือสังหารยี่สิบคนต่างหากไปโดยไร้สุ้มเสียง พอผมหันกลับไปผมก็เห็นคนนำทางของพวกเรานอนหมดสติอยู่กับพื้น
ไม่มีใครอยู่ข้างกายผมเลย สมแล้วที่เป็นมือสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกปีศาจ
ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ
ฮีโร่ผู้กล้า
เขานั้นมาจากหมู่บ้านที่ถูกฆ่าล้าง จากนั้นก็กลายเป็นทหารรับจ้าง ต่อจากนั้นก็ไปเข้าตาเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิเข้า แล้วก็ได้รับกำลังทหารเสริม
ต่อจากนั้นก็กวาดล้างจักรวรรดิฟรานเคีย และราชอาณาจักรบริทแทนนี่
แล้วก็ฆ่าล้างจอมมารทั้ง 72 ตน
……. สัตว์ประหลาดเหนือสัตว์ประหลาดทั้งหลาย ในอดีตผมเคยควบคุมเขาในฐานะเพลเย่อ จึงรู้ดีกว่าใครว่า เขานั้นทรงพลังแค่ไหน
ตอนนี้ผมกำลังจะฆ่าเขาแล้ว ผมผู้ซึ่งเคยเป็นฮีโร่ ตอนนี้กำลังจะฆ่าเขาในฐานะจอมมาร
ทั้งหมดนั่นก็เพื่อการอยู่รอดของผม
“แอคเซสซิทัส”
แสงสีขาวระเบิดออกทันทีที่ผมฉีกคัมภีร์
ทหารหินตัวโตปรากฏตรงหน้าราวกับเทือกเขาลูกใหญ่ ผมชี้ไปยังหมู่บ้านโทรมๆเพื่อสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของผมที่เพิ่งถูกอัญเชิญออกมา
– คูอ้าาาา!
การล่าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
Comments
Dungeon Defense (WN) 171 โลกที่จอมมารเท่านั้นที่รู้ (8)
ชั่วขณะนั้นเองที่พวกเราตกอยู่ในความเงียบ บารอนกำลังคิดหนัก
เขาคงกำลังคิดอยู่ว่า สงครามกลางเมืองจะเกิดขึ้นในฟรานเคียและจะมีผลกระทบต่อดินแดนของเขาอย่างไรบ้าง หากเขาเข้าไปยุ่งเกี่ยว
ตอนนี้ในหมู่บ้านกำลังอยู่ในความรื่นเริง ดังนั้นจึงทำให้บารอนยิ่งรู้สึกไม่สบายใจนัก ความสงบสุขนี้จะดำรงอยู่ได้นานแค่ไหนกัน……?
ขณะเดียวกัน ผมกำลังคิดว่า ซุปนี้รสชาติดีเสียจริง
อื้มมม มีไก่ในนี้ด้วย ดังนั้นเจ้านี่ก็คงเป็นซุปไก่ และก็ยังคงมีผักหลายต่อหลายอย่างลอยอยู่
สัดส่วนระหว่างเนื้อไก่กับผักนี่มันไม่ได้พอดีกันเลย มันสมควรจะเรียกเจ้าสิ่งนี้ว่าเป็นซุปไก่ได้ด้วยรึไง? นี่แหละปัญหาที่แท้จริงล่ะ…….
“ข้าได้พักมากขึ้นอีกหน่อย ต้องขอบคุณพวกท่านมาก หากสิ้นฤดูหนาวตามปกติแล้ว หมู่บ้านเราก็จะอยู่ในความหดหู่”
“มันเป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง หากคณะจาริกของพวกเราจะช่วยเหลือท่านได้”
ทำไมซุปมันถึงตั้งชื่อตามชนิดเนื้อที่ใส่กันล่ะ……?
พอคิดได้อย่างนั้นผมก็ตักซุปมาเต็มช้อน
อื้ม รสชาติดี เอาล่ะ เรียกมันว่า ซุปอร่อยดีกว่า
“ต้องขอบคุณการมาของพวกท่าน คนของข้าจึงได้เบาใจในช่วงฤดูใบไม้ร่วง พวกเราถือได้ว่า โชคดีมาก ขอขอบคุณท่านอีกครั้งเป็นการส่วนตัว”
“โปรดอย่าใส่ใจนักเลย”
ผมไม่ได้พูดจากใจจริงหรอก เอาจริงผมคิดเรื่องนั้นจริงจังกว่าบารอนเสียอีก ผมกำลังเผชิญกับผู้ที่ไม่สนใจในการปกป้องสิทธิ์และความชอบธรรมของผักทั้งหลาย
ชะตากรรมของฟรานเคียไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น นี่แหละเป็นความแตกต่างระหว่างบาเรียกับจอมมาร
อื้มมมหรือผมควรจะจุ่มขนมปังลงในซุปกันนะ?
“มีสิ่งหนึ่งที่ข้าอยากขอร้องกับกลุ่มของท่าน”
“เท่าที่กำลังของพวกเราไหว”
ทำไมหมอนี่เอาแต่คุยกับผมกันนะ?
ผมกำลังแบ่งแยกระหว่างพวกผักกับพวกเนื้อในซุปตรงหน้าอยู่ อย่ามากวนกันสิ
“ก็อบลินกลับออกอาละวาดแปลกๆ ตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมาแล้ว ปกติมอนสเตอร์ไม่ค่อยโผล่ตัวมาในแถบนี้เลย นี่อาจจะเป็นเพราะปราสาทจอมมาร”
“มอนสเตอร์ทั้งหลายไม่ค่อยออกห่างจากปราสาทจอมมารหรอกท่าน”
นั่นก็เพราะมีมานาจำนวนมหาศาลรวมตัวในปราสาทจอมมาร
จะว่าไปแล้ว ปราสาทจอมมารก็เหมือนกับชามซุปไก่สำหรับมอนสเตอร์ที่มีชีวิตด้วยมานานั่นแหละ พวกมันก็ย่อมต้องไม่อยากจากไปไหน
“ถูกต้องแล้วล่ะ แต่ถึงอย่างนั้นมอนสเตอร์อยู่ๆก็โผล่มา ซึ่งมันเป็นจังหวะใกล้เคียงกับที่เริ่มสงครามกองทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทรา”
บารอนเบอร์ซี่ตั้งสมมุติฐานได้น่าสนใจเลยทีเดียว
เขาคิดว่า กองทัพพันธมิตรนั้นสู้กับมนุษย์ชาติในแนวหน้า ส่วนจอมมารก็คอยจัดการทวีปจากแนวหลัง
เขาคิดว่า จอมมารที่อยู๋ใกล้ๆนั่นกำลังให้การร่วมมือแบบนั้นอยู่
แต่โทษทีนะ มันผิดถนัด
มอนสเตอร์แถวนี้มันออกอาละวาดไปทั่วก็เพราะซุปไก่ของพวกมันหายไปแล้วต่างหาก ก็เลยพอจะเข้าใจความเกรี้ยวโกรธของพวกมันได้อยู่
ผมเคยพูดคุยกับใครสักคนก่อนหน้านี้
– ปราสาทจอมมารของแกอยู่ที่ไหน?
– จักรวรรดิแฟร้ง ภูมิภาคลอเรน(Lorraine province)……เขตภูเขาราเอลเลเรีย(Raelleria)
– ยอดเยี่ยม หมู่บ้านใกล้ๆปราสาทจอมมารของนายชื่ออะไร?
– โพเมตร้า(Pometra)และคัมพานิล(Kampanyl)……
ภูมิภาคลอเรน,บารอนเบอร์ซี่, และหมู่บ้านโพเมตร้า
นั่นเป็นดินแดนของจอมมารลำดับ 72 ―อันโดรมาลิอุสที่พักอยู่ตรงนั้น
พวกมนุษย์ยังคงไม่รู้เรื่องที่อันโดรมาลิอุสตาย การที่ก็อบลินออกมาอาละวาดนั้นก็เพราะว่า มานารอบปราสาทจอมมารหายไปหลังจอมมารตาย อันโดรมาลิอุสน่ะตายในโลกปีศาจดังนั้นไม่น่าแปลกใจนักหรอกที่บารอนจะไม่รู้เรื่องความตายของหมอนั่น
อันโดรมาลิอุสบีบต้อนให้ก็อบลินจำนวนมากเข้าไปอยู่ในเหมืองแล้วทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อให้ตัวเองมีเงินไปเล่นพนัน ก็อบลินพวกนั้นนั่นแหละที่ทะลักออกมาจากดันเจี้ยน
ผมคิดอย่างนั้นระหว่างที่เช็ดปาก
‘ใน <Dungeon Attack> หมู่บ้านของตัวเอกถูกเผาโดยก็อบลิน ผมต้องยืนยันก่อนหว่าหมู่บ้านของฮีโร่นั้นยังปลอดภัยดีอยู่หรือไม่…….’
การแจ้งเตือนของนักทำลายเควส(Quest Breaker) ไม่เด้งขึ้นมาตอนที่ผมฆ่าอันโดรมาลิอุส
ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่า จอมมารมีหน้าที่ทำลายเควส ผมจึงโล่งใจที่ต่อมาผมพบว่า ตัวเองสามารถทำลายเควสได้แต่ตรงจุดนั้นเองที่มีคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวผม
ทำไมถึงไม่มีแจ้งเตือนบอกว่า ผมทำลายเควสของฮีโร่ขึ้นมาล่ะ?
เหตุผลที่ว่า ทำไมตัวเอกจึงกลายเป็นฮีโร่นั้นก็เพราะจอมมารอย่างอันโดรมาลิอุส ตัวเองนั้นเริ่มฝังความเกลียดชังที่มีต่อจอมมารนับตั้งแต่อันโดรมาลิอุสทำลายหมู่บ้านของเขาอย่างโหดเหี้ยมไร้ความปรานี
ตัวเอกนั้นก็น่าจะไม่มีเหตุผลอื่นใดแล้วสิ หากไม่มีอันโดรมาลิอุสอีกต่อไป
‘แต่ถึงอย่างนั้น เควสก็ไม่ถูกทำลายอยู่ดี’
หรือตัวเอกนั้นมีชะตากรรมที่ต้องกลายเป็นฮีโร่อยู่ดีไม่ว่า อันโดรมาลิอุสจะหายไปหรือไม่ก็ตาม ? หรือเป็นไปได้ว่า มีใครบางคนสืบทอดต่อตำแหน่งของฮีโร่แม้จะไม่ใช่ตัวเอกเอง……? มันมีความเป็นไปได้อื่นอีกเยอะ
แต่ไม่ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไร ก็ยังคงมีสิ่งหนึ่งสิ่งเดียวที่ผมต้องทำ
นั่นคือ การถอนรากถอนโคนบุคคลที่กำลังจะกลายเป็นฮีโร่
ผมร่วมงานกับพันธมิตรแห่งการปลดแอกเพื่อจุดประสงค์นี้นี่แหละ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่พวกเราจะมาอยู่ที่ดินแดนของบารอนเบอร์ซี่
จากสถานการณ์ปัจจุบันทั้งฝ่ายกองทัพจอมมารและฝ่ายกองทัพมนุษย์ต่างอ่อนกำลังลง มนุษย์ผู้หนึ่งมีชะตาที่ต้องกลายเป็นฮีโร่ ที่จะเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยในอนาคตของผม
ผมต้องทุ่มเททุกอย่างเพื่อกำจัดมัน
“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะปราบพวกก็อบลินเอง นี่คงเป็นประสงค์ของท่านเทพธิดา”
ผมหันไปจิบไวน์หลังจากชิมรสซุปแล้ว
“ถึงอย่างนั้น โปรดส่งคนนำทางที่รู้เส้นทางแห่งนี้ดี คงจะมีกลุ่มโจรที่ฆ่าเผาหมู่บ้านอยู่รอบๆตีนเขา ไม่อย่างนั้นพวกเราอาจจะต้องสู้รบกันปะทะกันโดยไม่จำเป็น”
ใบหน้าของผมสะท้อนมาจากของเหลวสีแดงในแก้ว ใบหน้าที่สะท้อนออกมานั้นเป็นสีหน้าของนักบวชผู้จริงจังกำลังยิ้มอย่างอ่อนโยน
* * *
พวกเราได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่
ผู้ช่วยของบารอนนั้นเอาอาหารมามากมายจากเมืองหลัก ดังนั้นงานเลี้ยงงานเทศกาลจึงลากยาวไปถึงตอนดึกค่ำ ทหารรับจ้างคนแคระนั้นเป็นตัวตั้งตัวตีในงานนี้
ดีเสียจริงแทนที่จะฝืนใช้ใบอนุญาตให้พัก ทุกคนกลับยืนยันจะให้พวกเราพักค้างข้ามคืนในบ้านของพวกเขาเอง
ช่วงกลางวัน พวกเราได้รับเสียงเชียร์เป็นกำลังใจจากชาวบ้านราวกับว่าพวกเราเป็นทหารอาสาที่กำลังออกไปสำรวจพื้นที่
สองคนที่มาเป็นคนนำทางให้กับพวกเราเป็นนักล่าวัยกลางคนที่มีความเข้าใจในพื้นที่แถบนี้ดี
“หมู่บ้านที่ถูกฆ่าล้างไปหรือ? โอ้ ตรงนี้มีแห่งหนึ่งครับ”
“พวกเขาคงจะมาจากประเทศอื่น แต่พวกเขาสู้กับมอนสเตอร์ในดินแดนพวกเรา ดังนั้นลอร์ดของพวกเราเลยไม่ยุ่งกับพวกเขา”
มันเป็นอย่างนั้นเองสินะ
ผมแบ่งกลุ่มเราเป็นสองกลุ่ม โดยให้แจ็กเกอรี่พาทหารรับจ้างมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ที่ก็อบลินอยู่ ส่วนท่านฝ่ายเจเรมิและมือสังหารก็ติดตามผมมา พอแจ็กเกอรีถามว่าทำไมถึงต้องแยกเป็นสองกลุ่ม
ผมก็บอกเขาอยางนี้
“แผนการเดินทางของพวกเราต้องเลื่อนออกไปเพราะพวกแกเอาแต่นอนกันน่ะสิ แถบนี้ยังมีก็อบลินเกือบ 20 เผ่า ถ้าเคลื่อนพลไปด้วยกัน คงกำจัดได้แค่วันละเผ่า มันด้อยประสิทธิภาพเกินไป”
“อืมม”
แจ็กเกอรี่ผงกหัว
“พวกเราได้รับการสนุนจากชาวบ้านมามากมาย ดังนั้นเราจึงต้องตอบแทนกลับ”
“ชื่อเสียงของพวกเราเป็นเดิมพัน ดังนั้นเราต้องตั้งใจทำงานเพื่อให้ลอร์ดคนอื่นมาว่าจ้างเราอีกในอนาคต
ไอ้เรื่องร่วมมือกับจอมมารอื่นเพื่อหลอกมนุษย์น่ะไว้ทีหลัง
ตอนนี้เราต้องจริงจังกับงานนี้ก่อน”
“รับทราบครับ”
ซึ่งนั่นก็จริงครึ่งโกหกครึ่งแหละ
ความจริงผมตั้งใจจะร่วมมือกับจอมมารในทวีปนี้เพื่อถล่มพื้นที่แถบนี้อยู่แล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรเริ่มต้นแบบนั้นตั้งแต่แรก เราควรที่จะอดทนรอจนกว่าลอร์ดทั้งหลายจะเชื่อใจในกองทหารรับจ้างของเราก่อน
งานปราบก็อบลินเป็นงานง่ายๆที่จะได้รับชื่อเสียงเลยล่ะ ให้พูดอีกอย่างก็คือ ผมไม่ค่อยไว้ใจแจ็กเกอรี่อย่างเต็มที่
แจ็กเกอรี่นั้นเป็นผู้มีใจให้กับสาธารณรัฐ เขาขับเคลื่อนตัวเองด้วยอุดมการณ์และความเชื่อ
หากผมบอกให้พวกเขาถล่มและเผาหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุผลดีๆล่ะก็ เขาก็คงจะปฏิเสธผมในทันที
เขาไม่มีทางเข้าใจหรอก ถ้าผมบอกเขาว่า การที่สั่งให้ฆ่าล้างหมู่บ้านพวกนั้นก็เพื่อกำจัดบุคคลที่สักวันหนึ่งจะกลายเป็นฮีโร่ขึ้นมา
ดังนั้นงานแบบนี้ใช้เจเรมิกับกลุ่มมือสังหารของเธอสะดวกกว่า
กลุ่มมือสังหารนั้นเคยชินกับการฆ่าคนโดยไร้เหตุผลอยู่แล้ว นั่นเป็นหน้าที่ที่พวกเธอได้รับโดยไม่ต้องถามผู้จ้างวานว่า ฆ่าทำไม
แน่นอน ตอนที่ผมบอกให้เจเรมิกำจัดหมู่บ้านบนแผนที่ เธอก็ผงกหัวตอบรับ
“ข้าเชื่อว่า ฝ่าบาทได้คิดมาดีแล้ว”
เจเรมิตอบด้วยรอยยิ้ม
นั่นแหละ เธอช่างเป็นลูกน้องที่เชื่อใจได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
พวกเราตามคนนำทางไป 3 ชั่วโมงจนกระทั่งไปถึง หมู่บ้านที่ถูกกวาดล้างอยู่ท่ามกลางกองใบไม้
ควันไฟที่พวยพุ่งเป็นเสาดำจากกองไฟ ผู้คนอยู่ในเสื้อผ้าขาดๆวิ่นๆกำลังเดินไปมาๆกับเต๊นท์ที่เป็นเหมือนบ้าน
“เจเรมิ กวาดล้างเป้าหมายที่อยู่ตรงหน้าพวกเรา”
ผมลดเสียงแล้วมอบคำสั่งให้เธอ
เจเรมิหันไปมองหมู่บ้าน
“มันเป็นงานง่ายๆค่ะ อย่างมากพวกเขาก็มีกันสามสิบคน สิบคนเป็นคนหนุ่ม ข้าสามารถจัดการพวกนั้นได้ภายใน 5 นาที”
เธอตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มที่ริมฝีปาก แต่ผมไม่สามารถสัมผัสได้ถึงเศษเสี้ยวของสีหน้าได้เลย
แม้จะกำลังกระซวกคอใครสักคนอยู่ เธอก็คงไม่แสดงเจตนาฆ่าให้รั่วไหลออกมา
“ดูเหมือนจะมีใครบางคนที่ไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านนี้”
ตัวเอกนั้นออกไปนอกหมู่บ้านขณะที่จอมมารอันโดรมาลิอุสกำลังฆ่าล้างหมู่บ้านตอนเขายังเด็ก
นั่นเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมเขาถึงรอดจากการโจมตีครั้งนั้นได้ ครั้งนี้ไม่มีทางที่ผมจะยอมปล่อยไปได้หรอก
“ขอต้องการให้ฆ่าล้างทุกคนรวมถึงคนท้องถิ่นในหมู่บ้านแห่งนี้ด้วย”
“อย่างนั้นพวกเราจะทำอย่างไรดี? พวกเราควรจะรอให้เย็นก่อน?”
“ไม่ ข้ามีไอเดียดีๆ”
ผมดึงคัมภีร์เวทย์มนตร์ออกมา มันคือ คัมภีร์เทเลพอร์ทระดับกลางที่ช่วยผมไว้ในหลายๆโอกาส
“ข้าวางแผนที่จะอัญเชิญโกเลมที่นี่”
“ท่านจะจู่โจมหมู่บ้านด้วยโกเลม แล้วให้พวกเราไปจัดการผู้รอดชีวิตที่เหลือ?”
“ดีมากที่เจ้าเข้าใจอะไรง่าย”
เจเรมิยิ้ม
“มันเป็นสิ่งที่ฉันเชี่ยวชาญอยู่แล้วค่ะ”
“จำให้ดี ความมั่นใจที่มากเกินไปจะเป็นอันตราย อาจมีมอนสเตอร์ที่หลบซ่อนอยู่ในหมู่ศัตรูที่วันหนึ่งจะกลายเป็นสิ่งที่พิชิตได้ทั้งทวีป
เจ้านั่นมันเป็นผู้ชาย หากเจ้าเจอเขาแล้ว อย่าด่วนเข้าใกล้โดยไม่ระวังให้ รายงานกับข้าก่อน เข้าใจไหม? อย่าเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ”
“…….”
แสงในดวงตาของเจเรมิเปลี่ยนไป แววตาของเธอนั้นเปลี่ยนจากนักล่าในเกมเล็กๆกลายเป็นไฮยีน่าที่กำลังล่าสิงโต
เธอไม่ถามผมว่า เด็กชายคนนั้นจะทำแบบนั้นได้อย่างไรกัน เธอเชื่อในคำพูดของผมโดยสมบูรณ์อย่างนั้นจริงๆ
“เข้าใจแล้วค่ะ”
หากนับรวมเจเรมิแล้ว มือสังหารยี่สิบคนต่างหากไปโดยไร้สุ้มเสียง พอผมหันกลับไปผมก็เห็นคนนำทางของพวกเรานอนหมดสติอยู่กับพื้น
ไม่มีใครอยู่ข้างกายผมเลย สมแล้วที่เป็นมือสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกปีศาจ
ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ
ฮีโร่ผู้กล้า
เขานั้นมาจากหมู่บ้านที่ถูกฆ่าล้าง จากนั้นก็กลายเป็นทหารรับจ้าง ต่อจากนั้นก็ไปเข้าตาเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิเข้า แล้วก็ได้รับกำลังทหารเสริม
ต่อจากนั้นก็กวาดล้างจักรวรรดิฟรานเคีย และราชอาณาจักรบริทแทนนี่
แล้วก็ฆ่าล้างจอมมารทั้ง 72 ตน
……. สัตว์ประหลาดเหนือสัตว์ประหลาดทั้งหลาย ในอดีตผมเคยควบคุมเขาในฐานะเพลเย่อ จึงรู้ดีกว่าใครว่า เขานั้นทรงพลังแค่ไหน
ตอนนี้ผมกำลังจะฆ่าเขาแล้ว ผมผู้ซึ่งเคยเป็นฮีโร่ ตอนนี้กำลังจะฆ่าเขาในฐานะจอมมาร
ทั้งหมดนั่นก็เพื่อการอยู่รอดของผม
“แอคเซสซิทัส”
แสงสีขาวระเบิดออกทันทีที่ผมฉีกคัมภีร์
ทหารหินตัวโตปรากฏตรงหน้าราวกับเทือกเขาลูกใหญ่ ผมชี้ไปยังหมู่บ้านโทรมๆเพื่อสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของผมที่เพิ่งถูกอัญเชิญออกมา
– คูอ้าาาา!
การล่าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
Comments