Dungeon Defense (WN) 248 ดันเจี้ยนมาสเตอร์ (6)
“เธอนี่มันบ้าไปแล้วจริงๆ…….”
ดันทาเลี่ยนพ่นควันฉุยจากไปป์ สีหน้าของเขานั้นชาชืด
“ดีใจเสียเถอะที่ไม่มีอาติแฟ่คเมโมเรียอยู่ที่นี่ องค์เทพีดลใจให้ข้าลืมมันไว้
ไม่อย่างนั้นชีวิตการเมืองของเธอได้จบแล้วล่ะ กามิกิน”
“……!”
กามิกินคว้าไปป์ของดันทาเลี่ยนแล้วขว้างมันทิ้ง หัวไปป์ที่ทำจากเซรามิกแตกกระจายทันทีที่กระแทกพื้น
ดันทาเลี่ยนมองกามิกินอย่างไม่ใยดี ใบหน้าของทั้งคู่ต่างเผชิญหน้ากัน
“นั่นเป็นไปป์ที่ทำจากช่างฝีมือในแซคซอนนี่ มันแพงมากเลยล่ะ”
“ข้าขอเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย”
ลมหายใจอันเกรี้ยวกราดของเธอเล็ดออกมาทางไรฟัน
“อย่าดูหมิ่นข้า”
ดวงตาสีแดงของเธอลุกเป็นไฟ เธอไม่ได้เป็นเพียงจอมมารผู้หนึ่ง หากแต่เธอยังเป็นสุดยอดของอาร์คเมจอีกด้วย
ออร่าเวทย์มนตร์หลั่งไหลออกมาจากทั่วทั้งร่างนั้นแสดงถึงความกระหายเลือด
“……เอาล่ะ ถ้าเช่นนั้น”
ดันทาเลี่ยนพูดขึ้น
“เธออยากให้ข้าขอโทษสินะ?”
“สำหรับการไม่แสดงความเคารพข้า”
“ก่อนหน้านี้ข้าได้มอบโมราเวียให้เธอก็แล้ว ข้าว่ามันก็น่าจะเพียงพอที่จะชดเชยกันได้ แต่ก็……เอาเถอะ อย่างนั้นก็ได้ ไม่มีอะไรที่ข้าสาารถทำให้กับเธออย่างเป็นทางการได้อีกแล้ว”
ดันทาเลี่ยนยังคงไร้อารมณ์เช่นเดิม
“ถึงแม้อย่างนั้น เธอก็ยังอยากให้ข้าขอโทษอยู่ใช่ไหม?”
กามิกินไม่ตอบอะไร หากแต่ยังคงจ้องมองไปที่เขา
ดันทาเลี่ยนพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้
พอกามิกินถอยไปก้าวหนึ่งหลีกให้ ดันทาเลี่ยนก็เดินไปที่กลางห้องแล้วคุกเข่าลง เขานาบหัวลงกับพื้นเพื่อแสดงความขอโทษ
กามิกินมองเขาอย่างไม่พอใจนัก จริงอยู่ที่การขอโทษของเขานั้นเป็นไปด้วยความจริงใจ แต่เธอก็ไม่ได้เย้ยหยันเขาต่อหน้าผู้อื่นนี่?
การหยามหมิ่นนั้นเกิดขึ้นในที่สาธารณะ หากแต่กลับขอโทษในที่ส่วนตัว มันยากที่จะให้ความรู้สึกว่ามันแฟร์พอ
‘……แต่’
ให้อภัยเขาดีกว่าน่า
กามิกินแอบคิดแบบนั้นขณะที่พยายามกดข่มอารมณ์โกรธ
แม้สิ่งที่ดันทาเลี่ยนพูดออกมามันจะถูกก็ตาม
ไม่เพียงแต่เธอได้รับอำนาจสูงสุดในการปกครอง ซินเลเซีย(Silesia)อย่างเป็นทางการ หากแต่ภูมิภาคโมราเวีย(Moravia)ก็ด้วย
เกือบสองปีแล้วที่ความขัดแย้งภายในที่เกิดขึ้น ไม่หยุดหย่อน และคราวนี้กามิกินก็ได้เป็นผู้นำของชาติหนึ่งจริงๆ
ข้อแลกเปลี่ยนคือ กามิกินจะต้องร่วมมือกับวิถีทางการเมืองของดันทาเลี่ยน บาร์บาทอสอาจเป็นผู้ให้การสนับสนุนที่แข็งแกร่งที่สุดของดันทาเลี่ยน แต่เธอเองก็มีอำนาจในการควบคุมในฐานะเป็นหัวหน้าฝ่ายฝ่ายหนึ่งเหมือนกัน
ดันทาเลี่ยนได้รับอิสระนการทำอะไรก็ได้ภายใต้เงาของจอมมารลำดับที่ 4
ทั้งสองฝ่ายต่างแลกเปลี่ยนผลประโยชน์อันน่าพึงพอใจต่อกัน กามิกินรู้ดีอยู่แล้วว่า นั่นเป็นการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกัน…….
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มันเป็นเรื่องของอารมณ์
‘ถึงมันจะเป็นการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรม……แต่ก็ควรรักษาเกียรติรักษาน้ำใจข้าบ้าง!’
ทั้งสองต่างนอนร่วมเตียงเคียงหมอนนับร้อยครั้งแล้ว แม้โดยมากจะเกิดขึ้นจากการที่ดันทาเลี่ยนร้องขอแกมบังคับเธอก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นกามิกินก็ไม่เคยปฏิเสธเลย
ดันทาเลี่ยนเคยถามเหมือนกันเรื่องการเดิมพันครั้งนั้นในอดีต
‘แล้วถ้าข้าแพ้ขึ้นมา?’
‘ก็มาเล่นกับข้าอย่างนี้สิ ถ้าเป็นไปได้ ข้าก็อยากให้เป็นเช่นนั้น ตราบใดที่เธอไม่ได้ปฏิเสธคำขอที่จะมีอะไรกัน’
ถ้าปฏิเสธคำขอร้องของข้านะ ถ้าเป็นไปได้น่ะ
นั่นเป็นเงื่อนไขที่หละหลวมมาก
หากกามิกินแพ้ เธอก็จะสามารถปฏิเสธอย่างไรก็ได้
วันนี้อากาศไม่ดีเลย ข้าเหนื่อยแล้ว ข้าไม่อยากหลับนอนกับเจ้า…….มีข้ออ้างนับร้อยนับพันที่ยกมาอ้างได้
แต่ถึงอย่างนั้น กามิกินก็ไม่เคยอ้าง เธอพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อที่จะแสดงความเคารพต่อการเดิมพันที่มีต่อกัน
ในมุมมองของเธอแล้ว เธอน่ะยังคงให้การเคารพดันทาเลี่ยน ส่วนดันทาเลี่ยนยังคงเย้ยเยาะเหยียดหยามเธอไม่หยุดหย่อน
แล้วมันจะไปแฟร์กันตรงไหน?
เธอไม่ได้ร้องขออะไรมากมายเลย เธอแค่อยากให้เขาแสดงความเคารพนับถือกลับมาบ้าง
นี่เธอต้องโกรธใช่ไหม เขาถึงจะรู้ตัว?
กามิกินรู้สึกว่า อารมณ์เดือดชักเริ่มจะพุ่งขึ้นมา แต่เธอก็กดข่มมันไว้
(TTL : มองทีแรกก็คิดนะว่า พรี่ดันมัน เลว
พอมองอีกที
……ก็เลวจริงๆนี่หว่า 555)
ตอนนั้นเองที่ ดันทาเลี่ยนควักมีดเล่มหนึ่งออกมา
“เอ๊ะ?”
กามิกินไม่ได้รับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว
ดันทาเลี่ยนแทงเข้าที่ท้องของตัวเอง และดึงชักมันออกมาในทันที ใบมีดนั้นเฉือนส่วนท้องของเขา เลือดไหลชุ่มโชกกระจายไปอย่างรวดเร็ว
คั่ก ดันทาเลี่ยนร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“นะ-นี่นายทำอะไรลงไป!?”
ในที่สุดกามิกินได้สติรับรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นตรงหน้า
เธอตื่นตระหนกจนพุ่งเข้าไปอยู่เคียงข้างดันทาเลี่ยน เธอพยายามที่จะดึงมีดออกจากมือดันทาเลี่ยน แต่เขาไม่ยอมปล่อย เลือดยังคงไหลนองต่อไปไม่หยุด
“เจ้าโง่━ปล่อยมือ!”
“อั่กกก!”
กามิกินสับสน แต่เธอยังคงหลักแหลมอยู่ เธอออกแรงบิดนิ้วมือดันทาเลี่ยนทีละนิ้ว ดันทาเลี่ยนจึงร้องและยอมปล่อยมือจากมีด
กามิกินฉีกเสื้อผ้าของดันทาเลี่ยนและเผยให้เห็นแผลของเขา
“อั่ก……!”
นี่มันแย่มาก ใบมีดเสียงเข้าไปลึกในร่างของเขา แถมอวัยวะภายในยังโดนแทงด้วย จอมมารส่วนมากก็ฟื้นฟูร่างกายได้ แต่ดันทาเลี่ยนนั้นอยู่ระดับต่ำสุด ดังนั้นพลังการฟื้นฟูของเขาจึงห่วยมาก เขาต้องได้รับการช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด
ดันทาเลี่ยนครางออกมา
“ขอโทษ……คั่ก, ข้าขอโทษ ด้วยสิ่งนี้…….”
“เจ้าโง่! ไอ้งั่งเอ๊ย! เลวชะมัด!”
กามิกินสบถถ้อยคำสาปแช่งมากมายที่คิดออกขณะที่ใช้เวทย์มนตร์รักษา
แผลนั้นค่อยๆได้รับการเยียวยา เวทย์มนตร์รักษานั้นก็ยังกินการฟื้นฟูร่างกายบางส่วนอยู่ดี
มีแต่โพชั่นหรือตัวยาบางอย่างเท่านั้นที่จะประคองพลังงานในร่างกายได้ซึ่งตอนนี้ต้องการโดยเร่งด่วน
แต่……ครั้งสุดท้ายมันเมื่อไหร่กันที่เธอพกโพชั่นมาด้วย!? กามิกินเคยแบกสิ่งนั้นมาเมื่อสมัยที่ยังเป็นจอมมารผู้อ่อนแอ
แต่พอเธอเป็นอาร์คเมจแล้ว เธอก็ไม่ต้องการมันอีก
ดันทาเลี่ยนที่อยู่ในอ้อมแขนของเธอเริ่มมีผิวพรรณที่ซีดเซียวลงมาก ลมหายใจก็เริ่มแผ่วเบา
“เราควรจะเรียก อาร์คดยุค……ไม่สิ เดี๋ยวพวกนั้นก็จะเริ่มสงสัย พวกข้ารับใช้ก็ด้วย……. บ้าเอ๊ย นี่ข้าควรทำอย่างไรดี……!”
บ้านพักของเธอนั้นมีโพชั่นมากมาย แค่เพียงเทเลพอร์ทจากที่นี่ไปแล้วเอาโพชั่นพวกนั้นมาก็จบแล้ว
แต่ทว่า เวทย์มนตร์เทเลพอร์ทไม่สามารถใช้งานได้ในพื้นที่บางส่วนของเนฟเฮมโดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลาง
หากมีใครเทเลพอร์ทขึ้นมาเหล่าจอมมารจะรวมตัวกันหาทางโจมตีคนๆนั้น
แล้วเธอควรทำอย่างไรดี?
กามิกินเค้นสมองของตัวเองอย่างสิ้นหวัง เธอจะไม่มีทางปล่อยให้อาร์คดยุคเห็นเธอใจสภาพแบบนี้แน่ และไม่มีทางเป็นไปได้ที่เธอจะแก้ปัญหาสถานการณ์นี้ได้โดยลำพัง แล้วเธอจะทำอะไรได้บ้างล่ะ?
“อุ่ก อ่าก……!”
กามิกินเร่งค้นเสื้อของดันทาเลี่ยน ใช่แล้วล่ะ ไม่มีทางที่คนระวังตัวแจอย่างดันทาเลี่ยนจะไม่พกโพชั่นมาติดตัวสักขวดหรือสองขวด
มีโพชั่นหลายขวดซุกซ่อนอยู่ในชุดคลุมของเขา หนึ่งในนั้นก็จะมียากระตุ้นเซ็กส์ที่เขามักใช้เพื่อทรมานเธอ
แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าสิ่งนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาเธอเลย ในบรรดาขวดแก้วทั้ง 6 ขวด มีขวดหนึ่งเป็นขวดสีแดง
กามิกินรีบเปิดฝาขวดนั้นแล้วดมดู จากตัวบทสัญญาที่ลงนามกันไว้ของสมาคมกิลด์นักปรุงยาทุกแห่ง ฮีลลิ่งโพชั่นนั้นต้องให้กลิ่นแบบโรสแมรี่เสมอ
กลิ่นโรสแมรี่เข้มๆฟุ้งออกมาจากขวดนี้!
กามิกินถึงกับหัวหมุน เธอไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม
เธอบรรจงค่อยๆเทโพชั่นนั้นลงไปในปากของดันทาเลี่ยน เพียงไม่กี่นาที กระบวนการที่มีประสิทธิภาพที่สุดก็ได้เริ่มทำงาน เธอเคยใช้วิธีแบบนี้ตอนที่บาดเจ็บมาเมื่อนาน นานมากๆแล้ว
มันเป็นเหมือนนิทานปรัมปรานับพันปีที่ผ่านมา อยู่ๆมันก็กลับหวนคืนสู่ความทรงจำของเธออีกครั้ง…….
“อืมมม……อืมม…….”
ีสีหน้าของดันทาเลี่ยนดีขึ้น มันได้ผล
เขายังไม่คืนสติกลับมา แต่ตอนนี้ก็พอให้โล่งใจได้บ้างแล้ว
กามิกินสะบัดผมทองสยายด้วยมือตนเอง เธอถึงกับอ่อนล้าราวกับกลับมาจากสนามรบ
มันกลายมาเป็นแบบนี้ได้อย่างไรกันนะ?
ความโกรธ ความตกใจ และความโล่งใจ
อารมณ์ทั้งหมดต่างผสมผสานกันอย่างอลหม่านแทบจะทึ้งฉีกตัวเธอด้วยซ้ำ
เธอเหม่อมองพื้นอย่างไร้สติชั่วครู่
เวลาผ่านไปไม่นานเท่าใดนัก กามิกินลุกขึ้นและประคองดันทาเลี่ยนขึ้นมาด้วย เธอกลับไปที่งานเลี้ยงขณะที่ลากตัวเขาไปด้วยกัน
“โอ้ว ฝ่าบาทกามิกิน ตามสบายเลยนะครับ”
“ฝ่าบาทดันทาเลี่ยน เป็นอะไรหรือครับ……?”
กามิกินยิ้มสดใส
แม้เธอจะสามารถปั้นหน้าปั้นตาได้เก่ง แต่ก็มีบางครั้งที่ยังทำทันทีไม่ได้นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมก่อนหน้านี้เธอถึงเอาแต่มองพื้น
“ข้าก็บอกเขาแล้ว ว่าให้เลิกดื่ม เลิกดื่ม เขาก็ไม่ฟัง ตอนนี้ก็เลยหมดสภาพ!”
“คั่กคั่กคั่ก ฝ่าบาทกามิกินนี่ ช่วยแบ่งเบาปัญหาของเขาเสมอเลย”
เหล่าอาร์คดยุคถึงกับหัวเราะตอนที่ได้ยินกามิกินบ่น
เธอรีบยักคิ้วหลิ่วตาให้ทันที
“เขาไม่ค่อยได้ดื่มแบบนี้หรอก วันนี้เขาคงอารมณ์ดีมากๆ
ืือื้ม ข้าว่า บอกพวกเจ้าเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะเป็นอะไรนะ
แต่เขาน่ะรู้อยู่แล้วว่า พวกเจ้าน่ะให้เกียรติเขามากแค่ไหน”
“ฮ่าฮ่า ไม่มีอะไรทำให้พวกเราสบายใจเท่ากับได้ยินฝ่าบาทกล่าวเช่นนั้น
ขอให้ท่านมีความสุขกับเย็นย่ำนี้นะครับ”
เหล่าอาร์คดยุคต่างชื่นอกชื่นใจ เรื่องกามิกินก็เรื่องหนึ่ง แต่ดันทาเลี่ยนน่ะได้ชื่อว่า เป็นคนที่รับมือด้วยยากมาก การที่ทำให้เขาเมามายไปกับบรรยากาศแบบนี้ถือว่า เป็นความสำเร็จครั้งใหญ่สำหรับเจ้าภาพ
“วันนี้ก็เป็นวันที่ดีมากๆเช่นกัน แต่พอเจ้าหมอนี่เป็นอย่างนี้เข้า ข้าคงต้องขอลากลับแล้วล่ะ โทษทีนะที่ต้องกลับก่อนน่ะ”
“แหม แหม! ไม่มีเรื่องอะไรต้องขอโทษเลยครับ! นี่ออกจะดึกแล้วด้วยซ้ำ!”
เหล่าอาร์คดยุครีบลุกขึ้นยืน พวกเขาต่างยืดเสื้อผ้าก่อนจะก้มให้ด้วยความเคารพ
“เป็นเกียรติเหลือเกินที่ได้รับใช้ฝ่าบาทในวันนี้”
“ข้าได้เตรียมรถม้าและพลขับอยู่ด้านนอก โปรดเดินทางกลับอย่างปลอดภัย”
“ขอบใจมากน้า วันหน้าข้าจะรอคำเชิญจากพวกเจ้าใหม่นะ”
กามิกินยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง แม้อีกฝ่ายจะเป็นจอมมาร แต่ในเมื่อได้รับยิ้มหวานจากสาวงามมีหรือที่อาร์คดยุคจะไม่หน้าแดงขึ้นมาได้
รถม้ามุ่งหน้ากลับไปที่บ้านพักของกามิกิน
ไม่มีคนรับใช้คนใดอยู่ที่บ้านพักของเธอ ดังนั้นกามิกินจึงดูแลร่างกายของดันทาเลี่ยนด้วยตนเอง
กามิกินบอกให้ข้ารับใช้ทั้งหลายกลับไปพักผ่อนวันหยุดในวันนี้ และวันพรุ่งนี้
เหตุผลน่ะหรือง่ายมาก
เธอสัญญากับดันทาเลี่ยนว่าจะเล่นเซ็กส์กันในแบบที่น่าอับอายเกินกว่าจะให้คนอื่นได้ยินเสียงหรือเห็นมัน
หากเป็นเรื่องเซ็กส์แล้ว ดันทาเลี่ยนไม่เคยยั้ง เธอไม่อยากให้ข้ารับใช้ของเธอรู้ ด้วยการตัดสินใจเช่นนั้น ทำให้กามิกิน จอมมารลำดับ 4 กลับต้องมาทำอะไรที่ไม่คุ้นเคยอย่างการช่วยเหลือคนเจ็บ…….
“เจ้าลูกกะหรี่คนนี้นี่!”
กามิกินตะโกนออกมาดังๆหลายต่อหลายครั้งก่อนที่เธอจะพาตัวเองมาถึงเตียงนอนส่วนตัว
“ไอ้ระยำนี่! ไอ้ลิงชั่วที่แม้แต่ม้ายังไม่เอา!
หน้ากระแทกแดกดินเข้าไปยังไม่สาแก่ใจข้าเลย!”
ในเมื่อที่นี่ไม่มีใครอยู่แล้ว เธอก็สามารถถอดหน้ากาก แล้วสบถได้ตามที่ใจปรารถนา
“ฮึ……!”
กามิกินวางดันทาเลี่ยนลงบนเตียงนอน
เธอเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายด้วยเวทย์มนตร์ ทำให้ตัวดันทาเลี่ยนนั้นเบา แต่ถึงอย่างนั้นความอ่อนล้าก็ห่อหุ้มร่างทั้งร่างของเธอ เสียงถอนใจก็ดังตามมา
กามิกินนั้นมองไปที่ดันทาเลี่ยน อีกฝ่ายไม่ได้รู้เลยว่า กามิกินต้องยากลำบากขนาดไหน ในขณะที่ตัวเขาหลับตานอนสบายอยู่บนเตียง
กามิกินโกรธขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า
มันน่าจะดีกว่าด้วยซ้ำถ้าหมอนี่ตายๆไปซะ
“……เฮ่ออออ”
กามิกินเอามือป้องปิดหน้าตนเอง
มันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน……?
ส่งท้ายผู้เขียน
คำถามครับ: คู่ขาเล่นเซ็กส์ของผมพยายามทำตัวเป็นคนรัก ผมควรทำยังไงดีครับ?
ดันทาเลี่ยน: แทงตัวเองด้วยมีดซะ
Comments