Dungeon Defense (WN) 259 ไฮเดรนเยียสีน้ำเงินของฟาร์นาเซ (4)

Now you are reading Dungeon Defense (WN) Chapter 259 ไฮเดรนเยียสีน้ำเงินของฟาร์นาเซ (4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

บทที่ 259 – ไฮเดรนเยียสีน้ำเงินของฟาร์นาเซ (4) 

 

 

 

ใบหน้าไพมอนออกจะซีดลงไปสักหน่อยแม้จะไม่เท่ากับทหารของศัตรูก็ตามที

 

อยู่ๆพวกเขาก็เสียทัพเรือไปโดยไม่ได้แม้แต่จะได้ลงมือโจมตีจริงจัง

สาธารณรัฐฮับบวร์กคงจะรู้สึกเหมือนโดนผีอำเข้าให้หรืออะไรประมาณนั้น

พวกเขาต้องมั่นใจในสุดยอดแผนการของฝั่งตัวเองเป็นแน่

 

แต่โทษทีนะ ตอนนี้จะมารู้ตัวก็สายเกินไปแล้ว

 

 

 

“พวกเขาควรเผชิญหน้ากับเราด้วยการเปิดฉากรบเต็มกำลังแทนที่จะพยายามลอบจู่โจม

ผลลัพธ์อาจต่างไปก็ได้หากพวกนั้นเลือกที่จะนำทหารทั้งหมดเข้าสมรภูมิโดยส่งเหล่าอัศวินและนักเวทย์มาด้วย”

ลอร่าให้ความเห็น

อัศวินที่มีอยู่รอบดินแดนในเขตป้องปราการแถบนี้โดยกวาดล้างจนหมดสิ้น

 

พวกนั้นเสียแม้กระทั้งนักเวทย์ที่แสนจะล้ำค่า

พูดง่ายๆก็คือ ทหารของฝ่ายนั้นหมดสภาพแล้ว ในขณะที่ฝ่ายเราทั้งออเกอร์และนักเวทย์ยังบริบูรณ์ดีอยู่

 

แต่ถึงกระนั้น ไฮเดลเบิร์กก็ยังปฏิเสธที่จะยอมแพ้

 

พวกนั้นยังคงส่งหน่วยทหารต่างๆเข้ามาและมุ่งเป้าโจมตียามที่เราประมาท  เมืองใกล้ๆส่งกองหนุนมาเป็นกำลังเสริมพวกเขาด้วย

 

ถึงอย่างนั้นก็ตาม ชั่วขณะที่พวกเขาเชื่อว่า เราลดการระวังลง นั่นก็เป็นสิ่งที่ลอร่าตั้งใจจะสร้างช่องโหว่ให้มีขึ้น

พอเมืองเหล่านั้นส่งทหารมาเป็นกำลังเสริม พวกเราก็เดินทัพไปยึดเมืองได้ถึง 5 แห่ง

 

พวกเราชนะได้อย่างท่วมท้น

 

นิยามได้อย่างนี้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

 

 

ความดิ้นรนครั้งสุดท้าย นั่นก็คือ การที่พวกศัตรูพยายามที่จะเปิดฉากรบกลางน้ำ เรือรบขนาดใหญ่ 15 ลำ รวมถึง เรือขนเชื้อเพลิงพุ่งเข้าโจมตีพวกเรา 

ผู้บัญชาการฝ่ายศัตรูไม่ได้โง่ พวกนั้นใช้เรืออำพรางเพื่อไม่ให้พวกเรารู้ว่า ลำไหนขนเชื้อเพลิงมา

 

 

พวกเราอยู่ในสถานการณ์ที่หากคาดเดาผิด ก็จะกลายเป็นปล่อยให้เรือเชื้อไฟพวกนั้นเข้ามาประชิดเรา

แม้จะเป็นสถานการณ์เช่นนั้น ลอร่าก็ยังคงสงบนิ่งพร้อมกับบอกทางแก้ไข

 

 

“พวกเราไม่ต้องใจร้อนเรื่องนั้น จะมีเรือสักกี่ลำเชียวที่เข้าใกล้เราได้มากพอที่จะระบุได้ว่า เป็นเรือเชื้อเพลิงหรือไม่

เรือเชื้อเพลิงพวกนั้นจะบรรจุหญ้าแห้งแทนที่จะมีทหารอยู่”

 

“อืมมมอืมมม”

 

สิตริพยักหน้าเห็นด้วยอย่างแข็งขัน สิตริยอมแพ้แก่ลอร่าในแบบของเธอเอง

เธอตัดสินใจที่จะเผยยิ้มและเห็นด้วยกับสิ่งที่ลอร่าพูดทุกอย่างแม้เธอจะไม่เข้าใจเลยสักนิดก็ตาม

 

 

“เราจะมุ่งเน้นไปที่มนุษย์กิ้งก่าและภูตธาตุบนเรือของพวกนั้น พวกเราจะจัดการกับเรือขนเชื้อเพลิงก่อนแล้วค่อยจัดการทหารที่เหลือภายหลัง”

 

“นี่เจ้ากำลังจะบอกว่า พวกเราควรจะทำลายเรือทำอื่นที่ไม่ได้มุ่งเข้ามาหาเราก่อน ใช่ไหม?”

จุดมุ่งเน้นและความเด็ดขาดเป็นสิ่งสำคัญในสนามรบ

 

ในบรรดาเรือทั้ง 15 ลำ มี 4 ลำที่ไม่ได้เข้ามาใกล้พวกเราเหมือนลำอื่น พอส่งพวกมอนสเตอร์น้ำไปโจมตี 4 ลำนั้น พวกฝีพายและทหารเรือก็ล้มตายอย่างที่ไม่อาจช่วยอะไรได้

 

พวกเรือเชื้อเพลิงทั้ง 4 ลำนั้นก็ลอยเท้งเต้งกลางน้ำเพราะเสียฝีพายไป

หมู่เรือกลับกลายเป็นอุปสรรคขีดขวางเรือขนส่งทหารลำอื่นไปแทน

 

“คราวนี้ก็จบแล้ว สั่งให้ทหารทั้งหมดของเราระดมยิงธนูไฟใส่”

 

ธนูเพลิงลอยลิ่วข้ามน่านฟ้า โปรยตกลงมาสู่เรือที่ขนเชื้อเพลิง

มีแม้แต่เรือที่ไฟลุกพรึ่บด้วยฝีมือมนุษย์กิ้งก่าที่ลอบใช้คบเพลิงเผาเรือ

เรือที่ขนเชื้อเพลิงนั้นเต็มไปด้วยหญ้าชุบน้ำมันนั้นติดไฟได้เป็นอย่างดี

 

 

“ดับเพลิงสิวะ! ไอ้งั่งเอ๊ย━อย่าทิ้งเรือ ดับไฟก่อน!”

 

“ชะ-ช่วยด้วย!”

 

“สละเรือเร็วเข้า! สละเรือ!”

 

ภาพที่เห็นตรงหน้าเป็นดั่งนรกสำหรับพวกมนุษย์

 

เรือไม้กลับลุกไหม้จนสว่าง กองทัพเรือของศัตรูไม่อาจหนีไปไหนได้เพราะมีเรือด้วยกันกีดขวางทาง

ฝูงมอนสเตอร์ที่ห้อมล้อมแม่น้ำทั้งสองฟากฝั่ง เข่นฆ่ามนุษย์ที่พยายามจะว่ายแม่น้ำหนี

 

 

หนึ่งในเรือเชื้อเพลิงพวกนั้นมีผงดินระเบิดด้วยเช่นกัน ทำให้เรือลำนั้นระเบิดอย่างงดงาม ไม่เพียงแต่จะจมตัวเองมันยังพาเรือข้างเคียงจมลงไปใต้น้ำด้วยกันอีกด้วย

ช่างเป็นการระเบิดตัวเองฆ่าตัวตายหมู่ที่ยอดเยี่ยมเสียเหลือเกิน

แล้วยังจะต้องพูดผลลัพธ์การรบครั้งนี้อีกหรือ?

พวกเราได้รับชัยชนะอย่างหาที่เปรียบมิได้

 

 

“จากนั้นให้แขวนหัวอัศวินทั้งหลายที่พวกเราจับตัวได้ ไปไว้บนประตูปราสาท”

 

เหล่าอัศวินที่สวมเกราะหนาโดนจับตัวเป็นเชลยขณะที่ตกลงไปในน้ำ

พวกเราอาจจะได้ผลประโยชน์บางอย่างหากสัญญาจะปล่อยตัวพวกนั้นในภายหลัง แต่ลอร่าประหารพวกนั้นทั้งหมดโดยไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวแห่งความลังเลใจ

 

ผมถามเธอเรื่องนั้น

 

“ลอร่า ที่เจ้าทำนี่ไม่ใช่เพราะว่าอยากจะสะสมหัวพวกนั้นใช่ไหม?”

 

“……นายท่านคะ เห็นหญิงสาวผู้นี้เป็นคนเช่นไรกันคะ? หญิงสาวผู้นี้รู้จักแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องส่วนรวมออกจากกัน

นี่เป็นการรบบนผืนแผ่นดินใหญ่ ไม่ใช่ในดินแดนรอบปราสาทจอมมารของนายท่าน 

ไม่มีทางที่หญิงสาวผู้นี้จะทำไปเพื่องานอดิเรกของตัวเองที่นี่หรอกค่ะ”

 

แม้ปากจะพูดไปอย่างนั้น แต่ท่าทางที่เธอบิดม้วนผมเป็นเกลียวนี่เห็นได้ชัดสำหรับผมเลยว่า เธออยากจะสะสมหัวพวกนั้นเข้าไปในคอลเล็คชั่นของตัวเองสุดๆ

 

ผมมองเธอด้วยแววตาเหมือนมองตัวประหลาด

 

“ลอร่า หรือเธอจะกลายเป็นนังโรคจิตเข้าแล้ว?”

 

“……ถูกนายท่านที่สุดจะโรคจิตเรียกว่า เป็นนังโรคจิตต่อหน้าผู้คน 

นี่ช่าง…..ชวนให้โมโหจริงๆ 

หญิงสาวผู้นี้ไม่เคยนึกฝันเลยว่า จะมีวันที่อยากที่จะหวดตีนายท่านขนาดนี้ แต่ตอนนี้ฉันขออนุญาตตีท่านสักทีได้ไหม?”

 

ริมฝีปากของลอร่ากระตุก

“เห้? นี่เจ้าบอกเป็นนัยๆว่า ข้าโรคจิตอย่างนั้นเรอะ?”

 

 

 

“ไม่ได้บอกเป็นนัยค่ะ สิ่งที่ตัวฉันพูดชัดแล้วค่ะ หญิงสาวผู้นี้ไม่เคยพบผู้ใดจะโรคจิตวิปริตเท่ากับนายท่าน และยังไม่เคยพบใครที่โรคจิตมากกว่านายท่านมาก่อน”

 

“โอ้ แหม แหม ตัวข้านี่! กลับถูกว่าร้ายกล่าวหาเช่นนี้”

ผมโกรธขึ้นมา

 

 

“ลอร่าเอ๋ย เจ้ามิใช่หรือที่เป็นผู้ที่ขออยากมีเซ็กส์กับข้า9 ถึง 20 ชั่วโมง แม้เจ้าจะทำมันไปแล้วกับบาร์บาทอสก็ตามที

เจ้านั้นมีความปรารถนาราคะโดยไม่เลือกเพศซึ่งนั่นทำให้ความโรคจิตของเจ้าเปิดเผยต่อสาธารณชนคนทั้งโลก”

 

“อะไรนะ? ฉันไปมีเซ็กส์ 9 ถึง 20 ชั่วโมงเพราะฉันอยากทำที่ไหนกัน? ทั้งหมดนั่นเป็นเพราะนายท่านบังคับให้หญิงสาวผู้นี้ทำต่างหาก!

ฝ่าบาทนั้นเป็นผู้บิดเบี้ยวที่สุดในบรรดาผู้บิดเบี้ยวด้วยกัน

ท่านย่อมเป็นบุคคลที่แม้แต่เทพีอโฟรไดท์ยังต้องวิ่งหนีด้วยความกลัว!”

ลอร่าโมโหใส่ผม

 

 

“ตอนนี้ฉันน่ะนับไม่ได้แล้วว่า มีผู้หญิงกี่คนแล้วที่ฝ่าบาทไปร่วมหลับนอนด้วย! 

จะทำอะไรไร้ยางอายก็ให้มีประมาณบ้างเถอะค่ะ

ไอ้คนนอกใจสุดแสนจะหน้าด้าน!”

 

“หืมม แต่โลกใบนี้ว่าด้วยเรื่องคุณภาพมากกว่าปริมาณมิใช่รึ

แม้ข้าจะไปหลับนอนกับผู้หญิง 225 คน แต่ก็ยังเป็นเพศตรงข้ามอยู่นะ แล้วเจ้าล่ะ ลอร่า? 

เจ้าไปหลับนอนกับบาร์บาทอสที่เป็นเพศเดียวกันกับเจ้าเนี่ยนะ!

ในเชิงของคุณภาพแล้ว เจ้าน่ะโรคจิตกว่าเห็นๆ!”

 

พวกเราทะเลาะกันจนทหารของพวกเราต่างได้ยิน ไพมอนที่อยู่ใกล้ๆก็พยายามหยุดพวกเรา แต่ก็ทำไม่ได้เพราะพวกเรากำลังของขึ้นถึงจุดสูงสุดกันทั้งคู่

 

 

“แม้แต่เด็ก 5 ขวบก็ยังต้องหัวเราะกับตรรกะของนายท่าน

หากข้าหลับนอนกับฝ่าบาทบาร์บาทอสแล้วเป็นความผิดแล้วตัวท่านล่ะ? 

ท่านไม่ได้ไปหลับนอนกับพี่สิตริอย่างนั้นเหรอ!? 

พี่สิตริน่ะเป็นกระเทยแท้มีสองเพศ ดังนั้นนายท่านนั้นแหละมีระดับความโรคจิตสูงกว่าสาวน้อยผู้นี้ที่หลับนอนกับเพศเดียวกัน!”

 

“อย่าพูดให้ขำน่า! ยัยคนคลั่งท่าหมา! เอะอะก็จะให้ข้าตั้มเจ้าแล้วทำกับเจ้าเหมือนหมาตัวนึง!”

 

“ก็ทำที่นี่ตรงนี้เลยสิถ้ากล้า จะได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นไปเลยว่า นายท่านน่ะเป็นไอ้โรคจิตตัวจริง!”

เราเอาหน้าผากชนกันขณะที่คำรามขู่กันไปมา

 

 

“ยัยลูกน้องโรคจิตเอ๊ย!”

 

“ไอ้พวกเสพติดคลั่งไคล้หลงไหลถุงน่อง!”

 

“ชอบไม่ใช่เหรอตอนที่โดนอัดเข้าไปทั้งสองรูน่ะ!”

 

“นายท่านมีโซนสยิวอยู่ตรงที่หัวเข่า น่าขันชะมัด!”

 

“จะ เจ้าเนี่ยนะ! กล้าดียังไงที่ทาสกามจะมาเสพติดการโดนเอาให้คนอื่นเห็น━!?”

 

“นั่นมันท่านต่างหาก!”

 

ผมกับลอร่าใส่กันสุดเหวี่ยง จนแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครมาห้ามทัพพวกเราไม่ให้ทะเลาะกัน

พอหาข้อสรุปไม่ได้ พวกเราก็หันไปหาไพมอนด้วยกันทั้งคู่

 

“ไพมอน! แล้วเธอคิดว่ายังไง? ลอร่าโรคจิตกว่าข้าใช่ไหม?”

 

“ฝ่าบาทไพมอนคะ! ไม่ว่าจะประเมินทั้งจากอัตวิสัยและวัตถุวิสัยถึงอย่างไร นายท่านก็โรคจิตโดยสมบูรณ์ถูกไหมคะ?”

 

ไพมอนขมวดคิ้วด้วยความกลุ้มใจ ความกลุ้มอกกลุ้มใจที่เธอมีนั้นราวกับถอดแบบรูปปั้นนักคิด ของ ออกัสเต โรดิน มาสวมบนใบหน้าด้วยซ้ำ

 

 

“ถ้าให้ข้าพูดตามตรงแล้ว……ทั้งคู่อยู่ในสภาพที่แย่พอกัน หากยังคงตกต่ำอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ข้าว่าเจ้าทั้งคู่ได้ไหลลงสู่ก้นบึ้งแห่งความตกต่ำไปด้วยกันแน่ๆ”

ผมกับลอร่าต่างชี้ไปยังกันและกัน

 

“แล้วสรุปว่า ท่านว่าใครโรคจิตกว่ากันล่ะ?”

 

“ฝ่ายไหนที่โรคจิตกว่า?”

ไพมอนถอนใจ

 

“……แม้ทิศทางจะต่างกันไปบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าทั้งสองน่ะ เทียบกันไม่ได้หรอก

พอหันไปผิดทิศผิดทางกันแบบนี้แล้ว จะมาโต้เถียงกันว่า ใครเหนือกว่าใครด้อยกว่าก็เปล่าประโยชน์แล้ว

เอาล่ะ ถ้าพูดกันก็คือ ทั้งคู่เนี่ยเหมาะสมกับดี”

 

ผมถึงกับช็อค

มาจนถึงบัดนี้ ผมออกจะมั่นใจมากเลยว่า ถึงผมจะเป็นไอ้โรคจิตก็ไม่โรคจิตเท่าลอร่า

 

อย่าบอกนะว่า ผมลามกโรคจิตระดับเดียวกันกับเด็กสาวที่ถึงจุดสุดยอดได้ง่ายๆ 200 ครั้งต่อวัน?

 

“นี่ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ข้าจะเป็นพวกโรคจิต…….”

 

“แล้วท่านจะแกล้งทำเป็นช็อคไปทำไมคะ? 

หญิงสาวผู้นี้ต่างหากที่กำลังเผชิญวิกฤติในชีวิต

โอ้เอ๋ย องค์เทพี เหตุใดกันหญิงสาวผู้นี้ถึงได้ตกต่ำขนาดที่โดนเอาไปเปรียบเทียบกับนายท่าน……?”

 

เราทั้งคู่ทรุดตัวลงด้วยความพ่ายแพ้ พวกเราถึงกับสูญเสียกำลังใจในการมีชีวิตต่อไป

 

ไพมอนผู้ยิงนัดเดียวได้นกสองตัวโดยไม่เจตนา กลับแตกตื่นขึ้นมาแล้วพยายามให้กำลังใจพวกเรา

 

“อืมม ข้าไม่เข้าใจนะว่าทำไมเจ้าทั้งสองถึงต้องซึมด้วย แต่เอ่อ…….ข้าไม่ได้พูดอะไรผิดไปใช่ไหม? หรือข้าทำผิดไปอยู่คนเดียว? ก็ไม่น่าใช่นะ? ข้าก็เชื่อว่า ไม่ได้พูดอะไรผิดไปนะ ”

 

แม้จะได้รับชัยชนะท่วมท้นล้นหลาม แต่ผู้บัญชาการสูงสุดของฝ่ายเรากลับรู้สึกเต็มไปด้วยความรู้สึกแพ้พ่ายโดยสิ้นเชิง

 

 

สิตริกลับมาหลังจากนั้นไม่นาน

หลังจากที่เธอจับเชลยธรรมดากดน้ำให้ตายไป

การเก็บพวกเชลยธรรมดาแบบนั้นไว้มีแต่จะเปลืองอาหารดังนั้นพวกเราก็เลยเห็นด้วยกับการฆ่าทิ้งให้หมด

 

“เห? ทำไมอารมณ์หดหู่กันงี้ล่ะ?”

สิตริกะพริบตาปริบๆด้วยความสงสัย

 

ผมกับลอร่าที่สุดจะเซื่องซึมสุดขีด ไพมอนจึงเป็นผู้อธิบายเหตุการณ์ให้แทน

 

“หืมมม”

สิตริฟังคำอธิบายแล้วก็ทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจ

 

 

“อืมนี่ ดันทาเลี่ยน ลอร่า ทั้งคู่เคยมีเซ็กส์กับมิโนทอร์มาก่อนไหม?”

จู่ๆเธอก็โยนคำถามที่ไม่คาดคิดขึ้นมา เราทั้งคู่ต่างส่ายหัว

 

“แล้วการโดนก็อบลินรุมโทรมล่ะ?”

 

“……ไม่, ไม่เคย”

 

“ไม่มีทางที่จะเคยอยู่แล้ว”

สิตริขมวดคิ้วราวกับนักคณิตศาสตร์ที่เผชิญหน้ากับโจทย์ที่ยากที่สุดในรอบศตวรรษ

 

 

“แล้วการมีเซ็กส์ใต้น้ำกับมนุษย์กิ้งก่าล่ะ? ได้เอากับซัคคิวบัสพร้อมกับโดนอินคิวบัสเอา? เคยคอแทบระเบิดเพราะโดนหำโทรลยัดหรือยัง? แล้วการโดนมนุษย์งูบดขยี้ขณะที่อยู่ในท้องพวกนั้นล่ะ?”

 

เราสองคนต่างตอบคำถามของสิตริด้วยคำว่า ไม่เคย สิตริจึงได้แต่เอียงคอด้วยความงุนงง

 

“แล้วทำไมทั้งคู่ถึงบอกว่า อีกฝ่ายเป็นพวก’โรคจิต’ล่ะ ก็ในเมื่อยังไม่เคยทำอะไรเลยด้วยซ้ำ”

 

“…….”

 

“ฮี่ฮี่ ในฐานะที่เคยทำอะไรพวกนั้นมาหมดแล้วนะ เดี๋ยวจะบอกให้ว่า ทั้งคู่อะนะปกติ แสนปกติแถมยังจะธรรมดาตามจารีตสุดๆแล้ว! ไม่มีเหตุผลให้ทะเลาะกันเลยนะ จับมือๆ ดีกันๆๆ!”

 

เธอยิ้มเริงร่าขณะที่เอากุมมือของพวกเราประสานกันไว้

ผมกับลอร่าได้แต่มองสิตริด้วยความอึ้ง มีสัตว์ประหลาดอยู่ตรงหน้าพวกเรา ผมว่าเธอคงตีความแววตาของพวกเราผิดไป เธอถึงได้หัวเราะอย่างน่ารักน่าชัง

 

“เอาล่ะ ก็ถ้าทั้งคู่สนใจเรื่องโรคจิตๆเหมือนกัน บอกข้ามาได้หมดเลยนะ! 

ข้าจะเสนอวิธีสุดแจ่มว้าวให้เอง! ข้าน่ะชอบทั้งดันทาเลี่ยนและลอร่าเลยล่ะ ฮี่ฮี่”

 

เราสองคนส่ายหัวอย่างแข็งขันที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

 

ช่องว่างที่ล้ำลึกใต้ผืนฟ้าสีครามอันกว้างใหญ่ 

 

ช่องว่างที่ลึกและกว้างใหญ่เสียจนเสียทำเอาคนธรรมดาตายได้หากเผลอกระโจนลงไปโดยไม่ยั้งคิด

 

 

ผมกับลอร่าถึงได้ตระหนักถึงความจริงที่ว่า พวกเรายังเกาะเกี่ยวกับกิ่งไม้แถวๆใต้หลุมนั้นอยู่…….

 

 

* * *

 

 

ไฮเดลเบิร์กนั้นยอมจำนนหลังผ่านไป 11เดือน 

 

พวกนั้นส่งทูตมาหาพวกเราก่อน โดยร้องขอให้อย่างน้อยๆก็ให้พวกเราไว้ชีวิตพลเมืองบ้าง

แม้สิตริจะเป็นผู้บัญชาการสูงสุดในการนำกองทัพของพวกเรา แต่ไพมอนต่างหากที่เป็นผู้นำตัวจริง ดังนั้นการตัดสินใจจึงขึ้นกับเธอ

 

“เรายอมรับ การยอมแพ้ของพวกนั้น”

 

ณ วันนี้เป็นวันที่พวกนั้นสัญญาว่า จะเปิดประตูหน้าต้อนรับพวกเรา ขณะที่ลอร่าก็คอยเฝ้าศูนย์บัญชาการ 

พวกเราก็แล่นเรือกันช้าๆสบายๆตามแม่น้ำ ไปจนถึงไฮเดลเบิร์ก

 

 

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด