Dungeon Defense (WN) 269 ผู้ก่อกบฏ (4)
บทที่ 269 – ผู้ก่อกบฏ (4)
เสียงหัวเราะดังลั่นสะเทือนอากาศ
“ฮุฮ่า, คึก, ฮุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า━คึฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างตีบตันอยู่ในท้องของเขามาอย่างยาวนาน จนกระทั่งถูกชำระล้างในคราวเดียว
“นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้มีใครพูดเช่นนั้นกับข้า!? ยอดเยี่ยมมาก! ช่างดีอะไรเช่นนี้!”
ความบ้าคลั่ง เสียงหัวเราะอย่างพึงพอใจที่รั่วไหลออกมาจากลึกที่สุด เขย่าสะเทือนอย่างรุนแรงไปจนถึงกระโหลก
จอมมารคนอื่นๆมองบาอัลด้วยความตะลึงงัน เสียงหัวเราะหยุดลงทันทีหลังจะเริ่มได้สักพัก
“มันช่างเป็นเวลาที่ยาวนานเหลือเกิน”
บาอัลทอดสายตาออกไปไกลชั่วขณะ
การแย้มยิ้มออกมาอย่างคนใจดีปรากฏบนใบหน้า ที่โดยปกติแล้วเคร่งขรึมมาตลอดเป็นดั่งลมเย็นสดชื่นในอากาศ
ดันทาเลี่ยนยังคงพูดด้วยความสุภาพ
“ดูเหมือนต้องปล่อยให้ท่านเฝ้ารอเสียนานเลย”
“ข้าไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า ข้าต้องรอถึง 2,000 เพื่อวันนี้?
ความวิบัติจักเกิดขึ้นกับผู้โง่เขลา เทพย่อมไม่มีวันอภัยให้กับผู้หลงตน”
บาอัลจ้องมองอีกฝ่ายอย่างจริงจัง
“บุคคลและผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง
ใครจะไปคิดกันว่า ผู้ที่ปิดม่านเวทีตลกในองก์นี้และเปิดม่านองก์ถัดไปจะเป็นเจ้ากัน?
นี่ย่อมต้องเป็นการลงโทษของเหล่าทวยเทพเป็นแน่”
“ต้องขอประทานอภัยที่ผู้น้อยผู้นี้ กลับเป็นผู้จบการละเล่นของฝ่าบาท”
ดันทาเลี่ยนพูดติดตลก
“แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นข้อพิสูจน์อย่างดีแล้วไม่ใช่หรือว่าในโลกใบนี้นั้นยังมีสิ่งมากมายที่ฝ่าบาทไม่อาจคาดคำนวนได้?
ต้องขออภัยด้วย แต่ข้าเชื่อว่า สิ่งนี้เป็นดั่งคำอวยพรที่แท้จริง”
“ถูกแล้ว ข้าช่างได้รับคำอวยพรครั้งใหญ่”
ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสบายๆ
เหตุการณ์ตรงหน้าเป็นสิ่งที่จอมมารตนอื่นไม่อาจทำความเข้าใจได้
เหตุใดทั้งสองจึงพูดคุยกันราวกับเป็นเพื่อนเก่าอย่างนั้น?
“ฝ่าบาทคาดการณ์ไว้ว่า ผู้ใดจะเป็นผู้ยุติความน่าเบื่อหน่ายของท่าน?”
“หากเป็นไพมอน ข้าเชื่อว่า ไพมอนมีโอกาสสูงสุดที่นางจะนึกออก แม้มันจะเป็นความหวังที่น้อยนิดก็ตาม”
บาอัลพยักหน้า
“บาร์บาทอสนั้นเป็นบุคคลที่จะตอบสนองแต่เพียงสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็จริง ทว่านิสัยที่จะตีความสิ่งต่างๆด้วยอารมณ์นั้น ทำให้หมดหวังโดยสิ้นเชิง
มาร์บานั้นเป็นวิธีแก้ไข และควบคุมพวกนั้นเป็นอย่างดี แต่เขากลับไม่ให้ความสำคัญกับต้นเหตุของปัญหามากเท่าที่ควร เขาจึงไม่เหมาะ
ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงผู้อื่น”
บาอัลมองไปที่เวสซาโก้ผู้ยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้องด้วยตาที่หรี่ลง
“ข้าตั้งใจจะสร้างระบบลำดับขึ้นเพื่อให้จอมมารทั้งหลายต่างโมโห
เหตุใดลำดับของข้าจึงต่ำนัก? ทำไมข้าจึงต่ำกว่าผู้นั้น?
ข้าปรารถนาจุดไฟแห่งการต่อสู้ขึ้นมาอีกครั้งแต่ทว่า…….”
“มันกลับทำให้ทุกคนยึดติดกับระดับของตัวเองไปแทน”
“ถูก”
บาอัลถอนใจยาวๆครั้งหนึ่ง
“ขนบธรรมเนียมที่จอมมารระดับล่างต้องแสดงความเคารพต่อจอมมารระดับสูงกลายเป็นความจริง
กลับมีบุคคลอย่างเวสซาโก้ยึดติดกับตำแหน่งของลำดับของตัวเอง ,ช่างเป็นขยะที่น่าสังเวช”
เวสซาโก้สะดุ้ง
ดันทาเลี่ยนไม่สนบุคคลที่ถูกกล่าวถึง
“แต่หากฝ่าบาทเปิดเผยเจตนานั้นตั้งแต่แรกเริ่ม…….”
“เป็นคำแนะนำที่โง่เขลานัก มันจะมีเหตุผลอะไรที่ข้าจะต้องเป็นผู้เบิกม่านและปิดม่านนั้นด้วยมือตัวเอง?”
บาอัลย่นคิ้วข้างหนึ่ง
“ข้ามิได้ทำเช่นนั้นเพียงปรารถนาจุดจบอันน่าเบื่อหน่าย
ข้าปรารถนาที่จะตายในขณะที่ได้สู้กับใครที่แข็งแกร่งกว่า,ฉลาดกว่า,และสูงศักดิ์ยิ่งกว่าข้า หากไม่มีใครในหมู่พวกนั้นตระหนักเรื่องนี้ได้ด้วยตนเองต้องให้ข้าเป็นผู้บอกก็ถือว่า มันเป็นการกระทำที่สูญเปล่า!”
“อืมมม นักรบจะให้ความสำคัญ ให้คุณค่ากับผู้ที่จะมาฆ่าตนเองสินะ…….”
“แน่นอนล่ะ”
ขณะนั้นเองที่ เสียงเล็กๆดังขึ้นมา
“……อย่ามาล้อกันเล่น”
จากมุมหนึ่งด้านมืดของงานเลี้ยง
ใบหน้าของบาร์บาทอสบูดเบี้ยวด้วยความโมโห บาร์บาทอสนั้นคงอดกลั้นต่อไปไม่ไหวจึงสบถออกมา
“อย่ามาทำให้ข้าขำเลยน่า ,ตาแก่……
แกเองเหรอวะ ที่ตัดเสบียงครั้งนั้น……?”
“ถูกต้องแล้ว”
บาอัลพยักหน้า
ดันทาเลี่ยนถอนใจก่อนจะเดินถอยออกห่างจากบาอัลหลายก้าว
พอเขาทำเช่นนั้น บาอัลก็หัวเราะหึออกมาก่อนจะพูดต่อ
“ข้าคนนี้นี่เองที่ตัดเสบียงจอมมารทั้งสาม
ข้าจำได้ชัดเจนถึงชั่วขณะที่ข้าจัดฉากปกปิดว่า เป็นฝีมือของพวกอัศวิน”
“ทหาร 80,000 นาย ต้องตายด้วยความหิวโหยก่อนที่จะได้แกว่งดาบด้วยซ้ำ!”
บาร์บาทอสตะโกนออกมาด้วยนัยตาที่แดงฉาน
“แต่เพราะแก ,ทหาร 80,000 นายกลับ……!”
“มันเป็นเรื่องที่น่าสังเวช เป็นดั่งโศกนาฏกรรมเสียจริง”
บาอัลพูดขึ้น
“แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ,บาร์บาทอส ,โอ้ นักรบแท้จริงเอ๋ย
ข้าอยากถามเจ้าด้วยความสงสัยนัก ……หากเจ้าโศกาและโกรธาเช่นนั้น เหตุใดเจ้าจึงไม่คิดจะแก้แค้นข้าเสียตอนนี้เลยล่ะ?”
“……!”
ชั่วขณะนั้นเอง บาร์บาทอสพุ่งตรงเข้าใส่ราวกับลูกธนู
ของเหลวสีดำก่อตัวขึ้นจากเงา และระเบิดวงกว้างรอบตัวบบาร์บาทอส
ดาบใหญ่จำนวนมากทะลวงออกมาจากเงาทั้งยังแผ่กระจายไปทั่วรอบ
ดาบใหญ่แผ่ออกจนเหมือนปีกขนาดมหึมาพุ่งเข้าใส่บาอัล
มันเป็นการต่อสู้ที่เริ่มขึ้นและจบลงในชั่วเวลานั่้นเอง
ผ้าคลุมของบาอัลสะบัดโบกยามเมื่อหมุนตัว
ต่อจากนั้นเขาคว้าดาบยาวไว้ในมือขวา เขาสะบัดดาบครึ่งวงกลมแล้วฟันดาบใหญ่ที่พุ่งเข้าหาเขาทั้งหมด
ดาบใหญ่ที่พุ่งเข้ามาต่างแตกกระจายราวกับทำมาจากแก้ว
แถมคมดาบของบาอัลยังสร้างบาดแผลใหญ่ให้กับแขนขวาของบาร์บาทอส
“อ๊ากกก━!”
บาร์บาทอสกรีดร้องออกมาขณะใช้แขนซ้ายข้างเดียวที่เหลือสะบัดเคียวรบ
แต่ถึงอย่างนั้น บาอัลก็หวดเคียวนั้นกระเด็นออกไปได้อย่างง่ายดาย
“บาร์บาทอส, มีสิ่งหนึ่งที่ข้าอยากบอกเจ้ามาตลอด”
บาอัลเหวี่ยงหมัดใส่บาร์บาทอสที่เสียสมดุล
หมัดของเขาที่เข้าปะทะกลางอกของเด็กสาวนั้นทะลุทะลวงออกด้านหลัง หัวใจสีแดงของเธออยู่ในมือของเขา บาร์บาทอสส่งเสียงร้องหายใจไม่ออก
“อั่ก, อุ่กก……!”
บาร์บาทอสทรุดตัวลงอย่างน่าเวทนากับพื้น เธอใช้มือซ้ายปิดช่องโหว่ที่กลางอกขณะที่ร้องออกมา ทันใดนั้นเองความเจ็บปวดได้แผ่ซ่านไปทั่วทั่งร่างจนทำให้บาร์บาทอสต้องเขย่าสั่นราวกับแมลง กองเลือดจำนวนมากแผ่วงใหญ่รอบตัวเธอ
“เจ้าน่ะอ่อนไหวมากเกินไปพอเป็นเรื่องลูกน้องของเจ้า แทนที่เจ้าจะห่วงใยเรื่องลูกน้อง เจ้าควรที่จะทำเย็นชากับพวกเขา ไม่เช่นนั้นแล้ว…….”
บาอัลขยี้หัวใจของเธอด้วยมือ มันส่งเสียงหยดแหมะ ขณะหยดลงจากมือกลายเป็นกลุ่มก้อนกองเลือดกองหนึ่ง
“ลูกน้องของเจ้าจะยิ่งคุ้มคลั่งยามที่เห็นหัวหน้าของตัวเองได้รับบาดเจ็บ”
เบเลธและเซปาร์นั้นพุ่งไปประจำตำแหน่งพร้อมๆกัน
เบเลธกู่ร้องพร้อมสะบัดขวาน ขณะที่เซปาร์แทงหอกโดยไม่ร้องตะโกน บาอัลเตะบาร์บาทอสที่นอนอยู่บนพื้นใกล้ๆเขา
และเมื่อบาร์บาทอสร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดขณะที่โดนเตะลอยขึ้นสู่อากาศ ทั้งเบเลธและเซปาร์ต่างหยุดมองชั่วขณะ
“แถมเจ้ายังถูกใช้เป็นตัวประกันชั้นดีได้อีกด้วย”
บาอัลไม่พลาดโอกาสที่จะพุ่งเข้าใส่เบเลธ
เบเลธเองก็คิดไว้แล้วว่า บาอัลจะทำอะไรจึงพยายามบิดร่างตัวเอง แต่ดาบของบาอัลนั้นทะลวงถึงไหล่ของเขาไปแล้ว แขนของเบเลธนั้นโดนเฉือนออกตั้งแต่หัวไหล่
ในขณะเดียวกันนั้นเอง เซปาร์ทำในสิ่งที่ฉลาดกว่า เข้ารีบเคลื่อนตัวทันที่ที่เห็นว่าบาอัลพุ่งไปหาเบเลธ เซปาร์รีบหนีทันทีหลังจากคว้าตัวบาร์บาทอสได้ก่อนที่เธอจะกระแทกกับพื้น
บาอัลถึงกับร้องออกมาอย่างประหลาดใจ ขณะที่ฟันแขนข้างที่เหลือของเบเลธ
“ดังนั้นเป้าหมายจริงของพวกเจ้าคือ การช่วยบาร์บาทอสแต่แรกแล้วรึ
ยอดเยี่ยม พวกเจ้าไม่เปลี่ยนเป้าหมายเลยแม้แต่น้อยถึงแม้ข้าจะเปิดให้หลังว่างอย่างนั้นรึ”
“…….”
เซปาร์มองบาอัลด้วยแววตาเย็นชา เซปาร์คลุมผ้าคลุมปกป้องบาร์บาทอสไว้
บาร์บาทอสยังคงครางด้วยความเจ็บปวดทั้งที่ยังถูกผ้าคลุมแดงห่อหุ้มอยู่
“หืมมม”
บาอัลสะบัดเลือดที่ปลายดาบออกและพูดกับดันทาเลี่ยน
“โทษทีนะ,ดันทาเลี่ยน
เผอิญมีเสียงเห่าหอนน่ารำคาญดังขึ้น ข้าจึงต้องไปจัดการมันสักหน่อย
ข้าเชื่อว่า เจ้าก็คงอภัยให้ความหยาบคายของข้า”
“……แน่นอนครับ ฝ่าบาท”
ดันทาเลี่ยนยิ้มอย่างชั่วร้าย
“ถึงข้าจะพอรู้มาก่อนว่า ท่านทรงพลัง แต่ออกจะเกินที่คาดไว้ไปสักหน่อย
นั่นใช่ดาบทำลายปีศาจใช่ไหม?”
“โอ้? เจ้ารู้ตัวตนของอาวุธชิ้นนี้ด้วยรึ?”
ดันทาเลี่ยนถอนใจเล็กๆ
“อาวุธที่เคลือบไว้ด้วยเวทย์มนตร์โบราณของเผ่ามังกรทัั้ง 11 เผ่า
ซึ่งนั่นก็รวมถึงเวทย์โบราณของมังกรขาวที่จะส่งคืนสิ่งอัญเชิญกลับได้ด้วย
นับว่าเป็นอาวุธชั้นเลิศที่ใช้ต่อต้านบาร์บาทอสได้ผลชะงักจริงๆ”
“ดูเหมือนเจ้าจะมีความรู้ในรายละเอียดดีเสียจริง แล้วเจ้ารู้เรื่องอาวุธที่ถูกลืมไปท่ามกลางกระแสเวลานี้ได้อย่างไรกัน?”
ดันทาเลี่ยนส่ายหัว
“ในหมู่นักรบที่อยู่ในงานเลี้ยงตอนนี้ สิ่งอัญเชิญของบาร์บาทอสนั้นอันตรายเป็นที่สุด…….
ดังนั้นแล้วท่านจึงยั่วโมโหให้บาร์บาทอสบุกเข้ามาก่อน จากนั้นท่านก็สามารถทำให้สิ่งอัญเชิญของนางไม่สามารถใช้งานได้อีก”
“ข้าไม่ได้เชื่อมั่นใจการปะทะซึ่งหน้าเหมือนเช่นอกาเรส”
บาอัลยิ้มอย่างเป็นมิตร
ขณะที่การต่อสู้เริ่มขึ้น จอมมารตนอื่นๆกระชับวงล้อมบาอัล
ทั้งฝ่ายที่ราบ,ฝ่ายเป็นกลาง และจอมมารที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดต่างยืนอยู่เป็นรูปขบวนโดยมองบาอัลอย่างวิตก
บาอัลหันหน้าไปหาไพมอน
“ไพมอนเอ๋ย,ก็เป็นอย่างที่เจ้าได้ยินนั่นแล”
“…….”
“ข้าปรารถนาที่จะให้เจ้าสร้างประเทศที่ทรงพลังมากที่จะเอาชนะมนุษย์ได้ทั้งโลก
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมข้าถึงใช้เงินไปกับการสนับสนุนเจ้าโดยไม่หวงแหน”
“……ดังนั้นโดยพื้นฐานระหว่างมนุษย์กับปีศาจน่ะ มันก็ไม่ต่างกัน”
ไพมอนมองบาอัลอย่างเย็นชา
“บุคคลที่พูดกับเลดี้ผู้นี้มิใช่ใครอื่นใด หากแต่เป็นท่านเองมิใช่หรือ
หรือทั้งหมดที่ท่านพูดมาเป็นเรื่องโกหก?”
“โกหกอย่างนั้นรึ? ได้ยินเช่นนั้นก็ชวนให้ข้าเสียใจ ข้าได้สร้างแรงจูงใจให้แก่เจ้า แต่ถึงอย่างนั้นก็ดูเหมือนเจ้าจะยังขาดตกบกพร่องไปอยู่มาก”
บาอัลทำหน้าผิดหวัง
“ข้าคิดว่า ในท้ายที่สุดแล้วเจ้าจะทำสำเร็จครั้งใหญ่ในสงครามพันธมิตรเสี้ยวจันทราครั้งล่าสุด แต่เจ้ากลับต้องสูญเสียเวทย์มนตร์และล่มสลายลงเสียเอง
…….มันทำให้ข้าผิดหวังเป็นอย่างมาก สุดท้ายเจ้าก็มาได้ไกลเพียงแค่นี้”
“บาอัล ท่านบอกว่า ท่านมอบหน้าที่ไกล่เกลี่ยทุกฝ่ายให้เป็นหน้าที่ของข้า”
มาร์บาสพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์
“นั่นก็เพื่อรวมกองกำลังจอมมารให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้พวกเราบุกรุดไปด้วยกัน นั่นมิใช่เจตนาจริงของท่านหรอกหรือ?”
“โอ้ เพื่อนยากเก่าแก่ของข้า, ข้าต้องขออภัยด้วย เจ้าเข้าใจผิดไป
หากข้าตั้งใจเช่นนั้นจริง ข้าคงมอบอำนาจให้กับฝ่ายเป็นกลางของเจ้ามากกว่านี้แล้ว”
“……นับตั้งแต่มีฝักฝ่ายเกิดขึ้น ข้าก็พยายามมิให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอ่อนแอเกิดไประหว่างปะทะกันแย่งชิงอำนาจ ด้วยการทำเช่นนั้นกองกำลังที่มีไว้เพื่อต่อต้านเจ้าก็ยังคงถูกถนอมไว้เสมอ”
บาอัลพยักหน้า
“อย่างที่คิดนั่นแหละ เจ้าเป็นคนฉลาด หากแต่เป็นคนฉลาดที่ตั้งอกตั้งใจในงานที่ได้รับมอบหมายเสียจนล้มเหลวที่จะดูสถานการณ์แวดล้อม
นั่นเป็นจุดบกพร่องของเจ้านะ,มาร์บาส”
“……ขอบพระคุณ, สำหรับคำแนะนำของท่าน”
บาอัลหันหน้ากลับมาหาดันทาเลี่ยน
“นี่ช่างเป็นของขวัญยอดเยี่ยมอย่างที่ไม่อาจปฏิเสธได้จริงๆเลย,ดันทาเลี่ยน
ข้ารู้อยู่แล้วว่า เจ้าเป็นศัตรูของข้า
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถฆ่าข้าได้ที่นี่จริงๆอย่างนั้นหรือ?”
“ข้าเชื่อว่ามันยังมีโอกาสอยู่ แต่ว่า”
ดันทาเลี่ยนยักไหล่
“มันดูจะไม่ง่ายดายนัก
ข้าสงสัยผ้าคลุมของฝ่าบาทมานานแล้ว
จึงได้รู้แล้วว่านั่นเป็นผ้าคลุมพิเศษที่ร่ายคาถาต้านเวทย์ทรงพลังเคลือบไว้”
“สังเกตได้อย่างแม่นยำดี ลือกันว่า เจ้านั้นมีความสามารถในการหยั่งรู้ล่วงหน้า ดูเหมือนข่าวลือพวกนั้นเป็นเรื่องจริง”
“นี่ช่างเป็นกรณีที่เลวร้ายที่สุดจริงๆ”
ดันทาเลี่ยนพูดขณะที่เดินห่างออกจากบาอัล
“แต่นั่นก็ใช่ว่า ข้าจะปล่อยให้ฝ่าบาทหลุดรอดไปได้
สิ่งที่ข้าเกลียดที่สุดบนโลกใบนี้คือ การปล่อยเหยื่อตัวเองหลุดมือไปเพื่อให้มันกลับมาแว้งกัดข้าในภายหลัง”
เขายกมือขวาขึ้น
“ท่านต้องตายที่นี่แหละ,ฝ่าบาท”
Comments