Dungeon Defense (WN) 270 ผู้ก่อกบฏ (5)

Now you are reading Dungeon Defense (WN) Chapter 270 ผู้ก่อกบฏ (5) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 270 – ผู้ก่อกบฏ (5) 

 

 

* * *

 

 

ุจุดไหนเป็นจุดชี้วัดกันว่า เป็นการต่อสู้ หรือ สงคราม

เส้นกั้นแบ่งระหว่างสองอย่างนั้นชัดเจนกว่าที่ใครจะคาดคิด

 

อย่างไรก็ดี ยามที่การสู้รบของเหล่าผู้ปกครองแต่ละชาติเกิดขึ้น ━นั่นก็เปลี่ยนทุกอย่างไป

 

เสียงของดาบมากมายที่เข้าปะทะกันดังก้องสะท้อนนำการสู้รบเข้าสู่สงคราม

 

“มาเถอะ เหล่าผู้ปกครองทั้งหลาย”

 

เช่นนั้นแล้ว จอมมารทุกคนจึงเทียบได้กับตัวแทนของชาติทั้งชาติ

 

“ข้ายอมรับการประกาศสงครามด้วยความเบิกบาน”

 

 

จอมมารผู้หนึ่งยืนปักหลักมั่นด้วยสองเท้า เขาเป็นดั่งจักรวรรดิที่ไม่เคยล่มสลายมายาวนานกว่า 5,000 ปี

 

จอมมารบาอัลถอดถุงมือออกแล้วโยนลงพื้น ถุงมือสีดำกระแทกกับพื้นหินอ่อน

 

จอมมารเพียงตนเดียว

กับ

จอมมารทั้งห้าสิบเจ็ดตน

 

 

“สหายผู้เป็นรักของข้า━พวกเรามาเริ่มสงครามกันเถอะ”

 

เปิดฉากในยกแรก

 

จอมมารสายต่อสู้ทั้งห้าตนพุ่งเข้าใส่

 

จอมมารทั้งห้าต่างประจำตำแหน่งไว้ล่วงหน้าแล้วจึงพุ่งเข้ามาดั่งพายุโหมกระหน่ำในห้าทิศทาง

ผู้นำการบุกนั้นคือ จอมมารลำดับ 12 สิตริ เธอนั้นเป็นสัตว์ร้ายที่ไต่เต้าขึ้นลำดับด้วยพลังของตัวเองล้วนๆ

 

ดังนั้นสถานการณ์จะกลับวุ่นวายไปแทนหากมีคนมากกว่านั้นบุกเข้าโจมตีบาอัลพร้อมๆกัน 

จึงได้เลือกจอมมาร 5 ตนนั้นมา พวกเขาทั้งหมดต่างมีพลังมหาศาลเหนือกว่าสุดยอดนักดาบแห่งทวีปมาก

 

บาอัลเฝ้ามองพวกเขาด้วยดวงตาที่สงบเยือกเย็น

 

“จงคำราม , จันทรา”

หนึ่งในสิบสองเวทย์เฉพาะตัวที่ร่ายบนดาบนั้นเปิดการใช้งาน

 

มันเป็นเวทย์เฉพาะของเผ่ามังกรแดงที่สามารถสะเทือนผืนฟ้าสะท้านผืนดิน ด้วยออร่าที่มากมายผิดปกติ

มันมอบความสามารถให้กับผู้ถือครองให้สามารถตัดได้ทุกสรรพสิ่งภายใต้คอนเส็ปของ ‘อาวุธ’

 

ยิ่งไปกว่านั้น ผลของมันไม่มีจุดบกพร่องแม้แต่น้อย

 

ดาบแส้ที่สิตริตวัดวาดออกไปกลับถูกตัดราวกระดาษ 

ดาบยาว,หอก,ดาบโค้ง ต่างถูกทำลายยับ

สร้างความประหลาดใจให้กับเหล่าจอมมารทั้งหลาย

นี่พวกเขาใช้อาวุธที่ดีที่สุดที่ทำจากอดาแมนเที่ยมแล้วมิใช่หรือ?

 

แต่ถึงอย่างนั้น สิตริก็ยังคงแสยะยิ้มและพุ่งเข้าไปต่อสู้ด้วยมือเปล่า เธอร้องคำรามขณะเหวี่ยงหมัด แต่บาอัลก็แค่ปัดการโจมตีนั้นออกไปด้านข้างด้วยมือเดียว 

พอเกิดช่องว่างขึ้น จอมมารสี่ตนที่เหลือก็เข้ารุกตามแผน วิถีวิวาทด้วยมือเปล่าพุ่งเข้าใส่ในทั้งสี่ทิศทาง

 

“ยอดเยี่ยม การต่อสู้ด้วยมือเปล่านั้นเป็นรากฐานของพื้นฐานการต่อสู้”

บาอัลสะบัดดาบพลางยิ้มร่า

 

“แต่ถึงกระนั้น ร่างกายของพวกเจ้าเองก็ไม่ต่างจาก ‘อาวุธ’ พวกนั้น ”

จอมมารหลายคนถูกเชือดฟันที่เอว

 

ปริมาณเลือดจำนวนมากระฉูดทะลักออกมา 

จอมมารผู้ที่โดนฟันเอวขาดถึงกับกรีดร้องขณะที่ล้มลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

 

มีเพียงสิตริผู้เดียวเท่านั้นที่คาดการณ์การโจมตีนั้นล่วงหน้าด้วยสัญชาตญาณดิบของเธอ ทั้งยังขยับหลีกไปได้โดยแลกกับการเสียแขนซ้าย

 

ตอนนั้นเองที่ยกสองได้เริ่มขึ้น

 

 

– โครมมมม!

เสียงเพดานของห้องจัดงานเลี้ยงถล่ม ตุ๊กตาที่รออยู่แล้วบนฝ้าเพดานกระโดดลงมา  จำนวนตุ๊กตาทั้งหลายมากกว่าจำนวนจอมมารนักสู้ถึง สิบเท่า

 

ทั้งหมดนั้นเป็นตุ๊กตาที่สร้างขึ้นเพื่อการต่อสู้ พวกมันเป็นเครื่องจักรสังหารที่อิวาร์ ล็อดบรอคเพียรสร้างมากว่า  3,000 ปี

ทหารตุ๊กตาเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้แค้นจอมมาร

พวกมันไม่มีความรู้สึกใดๆจึงไม่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของจอมมาร

 

เครื่องจักรสังหารของเด็กสาวผู้ถูกจอมมารทรยศถูกออกแบบมาเพื่อสู้กับจอมมารโดยเฉพาะ

ตุ๊กตาเหล่านั้นต่างร่อนลงมาด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ขณะที่ถืออาวุธคมกริบ

 

“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าก็มีส่วนในเรื่องนี้ด้วยอย่างนั้นรึ ผู้ชักเชิดหุ่นเอ๋ย”

 

บาอัลถึงกับร้องออกมาด้วยความชื่นชมขณะที่มองไปยังเพดานที่ถล่มลงมา

 

การสร้างตุ๊กตาเกือบ 50 ตัวนั้นก็นับว่าประทับใจอยู่แล้ว หากแต่การที่สามารถควบคุมพวกมันทั้งหมดได้นั้นยิ่งน่าสรรเสริญ

ศาสตร์ของการสร้างหุ่นเชิดนั้นยากยิ่งกว่าการเรียนเวทย์มนตร์อีก ยากกว่าเป็นอันมาก การไปถึงทักษะระดับนั้นต้องลำบากจนน้ำตาเป็นสายเลือด

 

ยิ่งไปกว่านั้น ลำดับการจู่โจมมันไม่น่าสนใจอย่างนั้นหรือ?

 

ก่อนอื่นให้ จอมมารนักสู้ทั้งหลายเข้าจู่โจม เมื่อเป็นดังนั้นบาอัลจึงต้องสั่งใช้งานเวทย์เฉพาะตัวของเผ่ามังกรแดง 

แล้วเหล่าตุ๊กตาทั้งหลายก็ตามซ้ำต่อ

แม้บาอัลจะฟันตุ๊กตาขาดครึ่งท่อน แต่พวกมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ดังนั้นแล้วพวกมันยังคงเกาะแข้งเกาะขาบาอัลเหมือนแมงมุม แม้จะเสียแขนเสียขา ผ่ากลางหรือโดนบดขยี้ไปแล้วก็ตาม

 

ซึ่งนั่นทำให้เวทย์มนตร์ที่แสนทรงพลังนั้นไร้ประโยชนย์ การโจมตีต่อเนื่องทั้งหมดนั้นได้คิดวางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว

 

ราวกับว่าอีกฝ่ายนั้นเข้าใจถึงสรรพอาวุธที่บาอัลมีได้เป็นอย่างดี

 

━ดันทาเลี่ยน

 

ไม่มีทางหรอกที่ใครคนอื่นที่ไม่ใช่หมอนั่นจะเป็นผู้วางแผน

ความรู้สึกตื่นเต้นกลับพุ่งพรวดขึ้นมาในอกของบาอัล

 

ถูกต้องแล้ว นี่มิใช่ การต่อสู้ระหว่างจอมมารหนึ่งตนกับจอมมารห้าสิบเจ็ดตนหรอก

หากแต่มันเหนือการวิวาทต่อสู้

บาอัลกับดันทาเลี่ยนกำลังประเมินกำลังของอีกฝ่ายราวกับผู้บัญชาการสูงสุดทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหมากรบ

 

โดยหมากบนกระดานทั้งหลายนั้นคือ จอมมารผู้สูงส่ง

นี่ช่างเป็นกระดาษหมากรุกที่มีราคาแพงเสียนี่กระไร?

เมื่อเป็นดังนั้นแล้ว จึงไม่มีเหตุผลใดเลยที่บาอัลจะไม่กระโดดลงไปร่วมเล่นบนกระดานหมากรุกอันหรูหรา และสูงส่งเช่นนี้

 

“━ปิดการใช้งาน  ต่อต้านเวทย์”

บาอัลสั่งปิดการใช้งาน เวทย์มนตร์ ‘ต่อต้านเวทย์’ บนผ้าคลุมของเขา จริงอยู่ที่มันเป็นเวทย์มนตร์อันทรงพลังที่ทำให้ทุกเวทย์ที่เข้ามานั้นไร้ผล แต่สิ่งที่แลกเปลี่ยนก็คือ บาอัลเองก็ไม่ใช่จะร่ายเวทย์อะไรได้เช่นกัน

 

เมื่อบาอัลบันเทิงเริงรมย์จนไม่อาจทนได้ เขาก็ได้ปลดปล่อยตนจากการผนึกและเริ่มร่ายเวทย์

 

“ผู้หนึ่งย่อมแบกรับชีวิตหนึ่งเดียวแห่งตน”

เกิดการระเบิดเวทย์มนตร์ออกจากตัวบาอัล

 

ซึ่งนั่นเป็นพลังเวทย์บริสุทธิ์

 

บาอัลนั้นมิได้มีทักษะเหมือนเช่นนักเวทย์ หากแต่เขาเองก็มีความสามารถในการปลดปล่อยพลังทำลายล้างออกมาได้ไม่ต่างจากอาร์คเมจ ยามเมื่อต้องปลดปล่อยพลังเวทย์ออกมา

 

ตุ๊กตาทั้ง 50 ตัว โดนพัดออกไปพร้อมกับแรงลม เครื่องจักรสังหารเหล่านั้นกระจายเป็นชิ้นๆพร้อมกับเศษปูนฝ้าเพดาน

 

ยกที่สาม

 

“โอ้ ภูติวิญญาณทั้งหลายเอ๋ย, โอ้ ธรรมชาติดั้งเดิมแลไร้กฏเกณฑ์เอ๋ย”

 

จอมมารลำดับ 4 กามิกินร่ายเวทย์ทันทีที่เห็นเพดานถูกถล่มทำลาย

 

ออร่าสีทองสวยงามเฉิดฉายออกมาจากร่างของกามิกิน ไม่ใช่เพียงแต่เธอผู้เดียวเท่านั้น หากแต่ จอมมารคลาสนักเวทย์อีก 20 ตน ต่างร่ายเวทย์พร้อมเพรียงประสานเสียงกัน

 

พวกเขานั้นได้เตรียมการมหาเวทย์ไว้ตั้งแต่เริ่มการปะทะแล้ว

 

“จากความมืดสู่ความมืด━”

 

“จากความปรารถนาเนื้อแท้สู่ความปรารถนาเนื้อแท้

จากสสารสู่สสาร”

 

“กลับคืนสู่เถ้าธุลี”

เวทย์มนตร์นับร้อยกระหน่ำตกใส่บาอัล

 

“คึฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

บาอัลระเบิดหัวเราะขณะที่มองดูห่าฝนพายุเวทย์ตกลงมา

บาอัลหัวเราะเหมือนเด็กขณะที่วังเนฟเฮมพังยับรอบตัวเขา ทั้งยังมีเสียงฟ้าผ่าดังก้องไปทั่ว

 

 

อย่างที่เขาคิดไว้จริงๆ

ดันทาเลี่ยนนั้นยอดมาก ฝนการโจมตีตกหน่ำใส่ในทันทีที่บาอัลปลดการต้านเวทย์ ราวกับรอจังหวะนี้มาโดยตลอด

 

ดันทาเลี่ยนได้จัดสถานการณ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาพูดได้ถูกต้องจริงๆในเรื่องที่ อีกฝ่ายนั้นตั้งใจกำนัลของขวัญชิ้นนี้ให้เขา

 

ของขวัญแบบนี้แม้จะได้รับสักกี่ครั้ง เขาก็ไม่มีวันเบื่อเลยจริงๆ

 

บาอัลชูดาบขึ้น

 

“จงแหวกออก, นิมมานรดี ”

สั่งใช้เวทย์เฉพาะตัวอีกเวทย์หนึ่ง

 

มันเป็นเวทย์เฉพาะตัวของเผ่ามังกรครามที่เหมาะแก่การฆ่านักเวทย์ชั่วร้ายที่เที่ยวไปเบียดเบียนกลั่นแกล้งเผ่าอื่นๆ

 

หากเวทย์เฉพาะตัวของเผ่ามังกรแดงนั้นสามารถทำลาย ‘อาวุธ’ ทุกชนิด

เวทย์เฉพาะตัวของเผ่ามังกรครามก็สามารถตัดผ่าน ‘เวทย์’ ทุกชนิดเช่นกัน

 

 

บาอัลตวัดดาบหนึ่ง,สอง และสามครั้ง ไปยังเวทย์ทั้งหลายที่พุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็ว

 

การตวัดดาบครั้งที่หนึ่งทำให้เวทย์ทั้งหลายหายไปกว่าครึ่ง

การตวัดดาบครั้งที่สองทำให้เวทย์ที่เหลือครึ่งนั้นสิ้นฤทธิ์

และการตวัดดาบครั้งสุดท้ายเล็งไปที่จอมมารผู้เชี่ยวชาญเวทย์มนตร์ทั้งหลาย

 

เสียงกรีดร้องดังขึ้น จอมมารเจ็ดตนกุมอกแล้วล้มลงทันทีหลังจากโดนเข้าไปเต็มๆ

 

เวทย์มนตร์เฉพาะตัวดังกล่าวสร้างความเสียหายรุนแรงต่อพลังเวทย์มนตร์

มันจะทำให้พลังเวทย์ในตัวอาละวาดเกิดความปั่นป่วนภายในร่างกายของจอมมาร

 

ช่างไร้เทียมทานเสียเหลือเกิน

ดันทาเลี่ยนกับบาอัลนั้นปะทะกันไปสามยก แต่ดันทาเลี่ยนกลับต้องสูญเสียกำลังเพียงฝ่ายเดียว 

 

บาอัลนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บใดเลยแม้แต่น้อย

 

 

 

 

หากบาอัลตื่นตระหนักหรือหวาดหวั่นแม้แต่น้อย ก็มีโอกาสที่จะโดนกำจัดด้วยแผนการที่ดันทาเลี่ยนได้เตรียมไว้

หากแต่บาอัลกลับตอบรับด้วยท่าทางที่แสนมีความสุข

 

บาร์บาทอสที่ลอบจู่โจม,การโจมตีผสานกันระหว่างจอมมารนักสู้,ฝูงตุ๊กตาสังหาร,และการรุมโจมตีด้วยเวทย์มนตร์ของหมู่นักเวทย์ ก็โดนแก้ทางได้หมด

 

ยังมีไพ่อะไรเหลืออยู่อีกหรือ?

 

แต่ถึงอย่างนั้น ยกที่สี่

 

“อืมฮึ……!”

บาอัลมองขึ้นไปบนฟ้า

 

รูช่องบนเพดานเผยให้เห็นถึงท้องฟ้ายามเย็น วัตถุนับร้อยพุ่งทิ้งตัวลงมาราวกับอุกกาบาต มันคือ ไวเวิร์น 500 ตัว มังกรจำนวนมากพุ่งกระแทกทิ้งตัวลงมาสู่เบื้องล่าง

 

“การโจมตีสละชีพอย่างนั้นรึ!?”

หรือพูดอีกอย่างหนึ่งคือ กามิกาเซ่ 

 

 

บาอัลพยายามฟาดเหวี่ยงใบมีดสายลมขณะที่ประคองเวทย์ปเฉพาะตัวไปด้วย แต่ไวเวิร์นกลับไม่ได้รับความเสียหายใด พวกมันยังคงพุ่งเข้ามาใส่ด้วยความเร็วอันน่ากลัว

 

มีการร่ายเวทย์ต้านเวทย์ใส่พวกมันทั้งหมดไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว

บาอัลถึงกับทึ่งในความรอบคอบละเอียดละออของบาอัล

 

อดทนอีกสักนิดเถอะ

 

บาอัลตั้งใจจะลดทอนความเสียหายที่ตนได้รับให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

 

แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะหลบการพุ่งตัวของไวเวิร์น 500 ตัวได้

พวกนั้นย่อมมีตราทาสสลักไว้ จึงไม่อาจถูกควบคุมโดยพลังของจอมมาร และนั่นทำให้เป็นการโจมตีที่ไม่อาจหลีกพ้นได้

 

ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มันไม่ใช่การโจมตีที่ทำให้ถึงตาย

 

บาอัลมั่นใจว่า ตนสามารถอดทนให้มันผ่านไปได้แม้จะโดนไวเวิร์นพุ่งกระแทกเข้าใส่บ้าง

 

“จงคำราม, จันทรา”

เขาสลับเปลี่ยนไปร่ายเวทย์เฉพาะตัวของเผ่ามังกรแดงอีกครั้ง

 

เขาตั้งใจที่จะเฉือนร่างของไวเวิร์นก่อนที่พวกมันจะเข้าถึงตัวเขา แม้มันไม่อาจจะทำลายแรงกระแทกให้สิ้นไปได้ แต่ก็ลดความรุนแรงไปได้เยอะ

 

ณ จุดนี้ที่ทำให้บาอัลบาดเจ็บได้ ถือว่าดันทาเลี่ยนทำได้เกินที่คาดหมายไปมาก

 

เขาครุ่นคิดมาอย่างดีว่า บาอัลย่อมต้องบาดเจ็บเล็กน้อยจาก จอมมารนักรบ,เหล่าตุ๊กตา และอ่อนล้าจากห่าฝนเวทย์มนตร์จำนวนมาก แต่หลังจากนั้นก็ปิดท้ายด้วยไวเวิร์นสละชีพอย่างนั้นรึ …… นั่นคือ แผนของเขาอย่างนั้นรึ?

 

ช่างเป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมนัก แต่โชคไม่ดีนะ ที่เลือกคู่ต่อสู้ผิดไปมาก

‘แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ หากคิดจะเป็นศัตรูกับข้า มันต้องมากยิ่งกว่านี้อีก’

 

บาอัลกลับยิ้มเยาะยามที่เห็นไวเวิร์นทั้งหลายพุ่งเข้ามาใกล้

 

เขาเคยคิดมาตลอดว่า ดันทาเลี่ยนนั้นเป็นบุคคลที่ตื้นเขินและน่ารังเกียจนัก

ซึ่งมันไม่ได้เปลี่ยนไปเลย อีกฝ่ายยังคงเป็นคนที่ตื้นเขินและน่ารังเกียจเช่นเดิมเพิ่มเติมคือ เป็นบุคคลที่กล้าลุกขึ้นมาต่อต้านเขา 

บาอัลพอใจที่รับรู้อย่างนั้น

 

ถึงอย่างนั้นก็ตามที บาอัลตัดสินใจที่จะไม่ลงโทษดันทาเลี่ยนหลังได้รับชัยชนะในครั้งนี้ หากแต่เขาตั้งใจจะลงโทษบาร์บาทอส,ไพมอนและกามิกิน

เขาได้ยินมาว่า ทุกคนต่างเป็นคนรักของดันทาเลี่ยนทั้งนั้น

เขาแน่ใจว่า ดันทาเลี่ยนจะต้องโกรธแค้นอย่างไม่มีวันสิ้นสุดแน่ และหาทางแก้แค้นคืนไปตลอดชีวิตแน่หาก คนรักของเขาตาย การที่เล่นล้อไปกับความปรารถนาที่จะล้างแค้นของผู้อื่นนั้น ถือเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่ง

 

แผนการของในใจของบาอัลนั้นสมบูรณ์แบบมาก เหล่าไวเวิร์นที่เข้ามาใกล้เขาแห่กันเข้ามายามที่เขาตัดสินใจดำเนินแผนนั้นได้แล้ว

 

บาอัลแกว่งดาบใหญ่ของตนทำให้ไวเวิร์นทั้งหลายแบ่งครึ่งซีก

ณ ตอนนั้นเองที่บาอัลกำลังยิ้มให้กับชัยชนะอันแน่นอนของตนเอง

เจ้าสิ่งเล็กๆสิ่งหนึ่งกลับพุ่งมาหาเขาพร้อมเลือดของไวร์เวิร์น

 

สิ่งเล็กๆที่ว่านั้นคือ เด็กสาวผู้งดงามมีผมดำโบกสะพัด

 

‘━เด็กมนุษย์รึ?’

 

บาอัลคำรามขณะที่กำลังประมาท ไม่ว่าจอมมารจะเก่งฉกาจขนาดไหนก็ไม่อาจที่จะอ่านอารมณ์ของมนุษย์ได้

ดังนั้นแล้วบาอัลจึงไม่รับรู้ถึงมนุษย์คนหนึ่งที่ขี่ไวเวิร์นได้

นี่เป็นไพ่ตายสุดท้ายของดันทาเลี่ยนจริงๆน่ะหรือ?

 

“ฮื่มม!”

บาอัลปัดป้องการโจมตีของเด็กสาวด้วยดาบ

แม้เธอจะเป็นเด็กมนุษย์แต่การโจมตีกลับทรงพลังเกินวัยไปมากโข

 

 

สมแล้วที่เธอเป็นไพ่ตายใบสุดท้ายของดันทาเลี่ยน เช่นนั้นเองรึ

ถึงแม้บาอัลจะประมาทแต่เขาก็ไม่ได้อ่อนแอขนาดที่จะแพ้กับเรื่องแค่นี้ 

เขาสามารถปัดป้องการโจมตีได้อย่างฉิวเฉียด

 

บาอัลจึงถามกลับไปอย่างไม่รู้สึกถึงความอันตราย

 

“มนุษย์ตัวน้อยเอ๋ย ช่างสิ้นคิดเสียเหลือเกิน เป็นเด็กเป็นเล็กจะย่างเท้าเข้าสู่สมรภูมิแห่งผู้แข็งแกร่งไปทำไมกัน?”

 

“…….”

แต่ในดวงตาของเด็กสาวนั้นไร้อารมณ์โดยสิ้นเชิง

 

ชั่วขณะที่บาอัลส่งเด็กสาวคนนั้นลอยล่องไป ทุกอย่างพลันอุบัติขึ้นโดยไม่มีการเตือนบอก 

━เกราะของเขาแตก, เนื้อหนังถูกฉีกเฉือน, เสียงกระดูกหักดังลั่นเลื่อน

 

 

“…….”

บาอัลมองร่างกายตนด้วยแววตาที่เรียบเฉย

 

ดาบใหญ่สีดำจำนวนมากรุมทิ่มแทงเข้าสู่ร่างกายของเขา เลือดสีดำไหลออกมาผ่านใบดาบ

 

บาอัลมองตามทิศทางของใบดาบว่ามันมาจากที่ไหน เช่นเดียวกับมองหาร่างของใครบางคนอื่น

 

ดาบจำนวนมากโผล่ออกมาจากเงาของบาอัลเอง

พวกมันคือ เดธไน้ท์ที่เขาได้กำจัดไปแล้วตั้งแต่ต้นการต่อสู้

 

“……ได้อย่างไรกัน—?”

ก่อนที่เขาจะถามคำถามนั้นจบ ดาบจำนวนมากก็ทิ่มแทงออกมาจากเงาของเขาโดยไม่อนุญาตให้ถามคำถามต่อไป

แขนขวา,แขนซ้าย,น่อง,ท้องและหัวใจของเขาถูกดาบใหญ่แทงทะลวงทุกจุดที่ระบุชื่ออวัยวะได้

 

เสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้ท่ามกลางฝุ่นควันที่ตลบเนื่องจากไวเวิร์นที่พุ่งร่วงลงมา

 

เสียงฝีเท้านั้นมาหยุดลงตรงหน้าบาอัล ตามมาด้วยเสียงปรบมือ

 

“พละกำลังของท่านช่างน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน,ฝ่าบาท 

มันทำเอาข้าต้องร้องออกมาด้วยความตกใจเลยทีเดียว”

 

ดันทาเลี่ยนยังคงยิ้มอยู่ราวกับว่า ไม่มีการต่อสู้ใดอุบัติขึ้น

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด