Dungeon Defense (WN) 287 สงครามหุ่นเชิด (4)

Now you are reading Dungeon Defense (WN) Chapter 287 สงครามหุ่นเชิด (4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 287 – สงครามหุ่นเชิด (4)

 

 

สถานการณ์นั้นเคร่งเครียด

 

เฮนริเอตต้าได้พูดออกไปอย่างมั่นใจต่อหน้าเหล่านายพล แต่จริงๆในใจเธอกลับอดรนทนไม่ไหว 

กองทหารขนาดใหญ่ข้ามแม่น้ำนั้นมีจุดอ่อนอย่างมาก แม้แต่เด็กข้ามขวบยังรู้เลย 

แต่ถึงอย่างนั้นฝ่ายศัตรูกลับเลือกที่จะข้ามแม่น้ำแบบนี้…….

 

หากเจ้าพวกนั้นไม่ใช่คนโง่ ย่อมต้องมีเหตุผลอยู่เบื้องหลังที่คุ้มค่าพอให้เสี่ยง ดังนั้นแล้ว…….

 

‘การที่เจ้าพวกนั้นตรึงกำลังป้องกัน อาจเป็นกลลวง’

 

เฮนริเอตต้าเดินออกไปจากเต๊นท์แล้วขึ้นม้า ทั้งค่ายเต็มไปด้วยเสียงตะโกน

 

ทหารทั้งหลายจัดอยู่ในรูปขบวนอย่างเป็นระเบียบแม้มันจะเป็นคืนข้างแรมที่มืดสนิท

 

“อย่ากลัวกลางคืน! 

นักเวทย์จะฉายไฟส่องเส้นทางให้กับเจ้าและสหายของเจ้า!

 

อย่าชิดกับพรรคพวกมากเกินไป และอย่าห่างกันเกินควร!

อยู่ในระยะแสงไฟและระยะที่สื่อสารกันได้!”

 

เฮนริเอตต้าตั้งใจไปวนรอบค่ายเพื่อปลุกใจทหาร

 

พอเธอทำเช่นนั้นแล้วเหล่าทหารต่างถอดหมวกออกและโบกมือให้หรือไม่ก็โบกคบไฟให้กับราชินีที่พวกเขาภาคภูมิใจ

 

 

“ความรุ่งโรจน์จงมีแด่ฝ่าบาทเฮนริเอตต้า!”

 

“โอ้ องค์เทพี โปรดคุ้มครองราชินีของพวกเรา!”

 

กำลังใจของทหารสูงขึ้นแม้จำต้องรบในตอนกลางคืน

ราชินีเฮนริเอตต้าเป็นดั่งฮีโร่ของพวกเขา เธอเป็นผู้ปกครองที่สามารถยึดจักรวรรดิฟรานเคียได้ ชาติที่เป็นอริราชศัตรูกันมากว่าร้อยปี!

 

หัวหน้าองค์รักษ์เข้ามาประชิดและรายงานเธอ

 

“หน่วยหนึ่งและหน่วยสองประจำตำแหน่งแล้วครับ,ฝ่าบาท

พวกนั้นออกเดินทางแล้ว”

 

“อืม”

 

เฮนริเอตต้าพยักหน้าอย่างพอใจ

แทบจะในทันทีที่เหล่านายพลออกเดินทางทันทีหลังได้รับคำสั่ง

ราชินีเองไม่อาจแสดงอารมณ์ร้อนใจออกมาทางใบหน้ายามที่ต้องอยู่ต่อหน้าทหารของตน

 

“เรื่องพูดคุยใดๆของดไว้ก่อน เราต้องออกเดินทางกันในทันที”

 

“ครับ ฝ่าบาท

พลเป่าแตร, บอกให้ทุกคนแยกย้ายกันไป!”

 

หัวหน้าตะโกนสั่งการพลเป่าแตรทั้งหลาย

 

 

– วู้ววววววววววววว

 

 

เสียงแตรดังสะท้อนก้องไปทั่วท้องฟ้ายามราตรี

เสียงของแตรเขาดังก้องไปทั่วทั้งพื้นที่ พอได้ยินเสียงแตรเขาแรกก็ตามมาด้วยแตรเขาอื่นๆราวกับถูกปลุกให้ตื่น

 

ทหารจำนวนน้อยหลงเหลือไว้ป้องกันค่าย ขณะที่ส่วนมากนั้นกระจายกำลังออกเดินทัพ

 

‘แม้พวกนั้นจะตั้งรับได้เก่งกาจแค่ไหนขณะที่ข้ามแม่น้ำก็เถอะ

……แต่การทำแบบนั้นก็แปลว่า พวกนั้นตั้งใจจะข้ามแม่น้ำจริงๆ

เป้าหมายพวกนั้นอาจเป็นหลีกเลี่ยงพวกเราแล้วเข้าไปยังปารีส’

 

เฮนริเอตต้าคิดเช่นนั้นกับตัวเองขณะที่รวบผมตัวเองเป็นหางม้า

เธอเคียงคู่ไปกับทหารองค์รักษ์

 

‘ปัญหาก็คือ นี่ใช่ กลลวงของศัตรูหรือเปล่า’

 

หากเป็นเช่นนั้นก็หมายความว่า กองทัพจอมมารย่อมต้องจัดบางหน่วยดักซุ่มโจมตีไว้แล้วที่ไหนสักแห่ง

 

พวกนั้นจะเฝ้ารอจังหวะที่ทหารเฮนริเอตต้าบุกโจมตีทหารที่กำลังจะข้ามแม่น้ำ

เหล่าทหารที่เฝ้ารออยู่จะออกมาตีกระหนาบทหารของเธอในทันที

ไม่ว่าจะตั้งใจข้ามแม่น้ำจริงๆหรือตั้งใจจะลอบโจมตี? ต่างเป็นไปได้ทั้งคู่…….

 

บุคคลที่ยืนอยู่เคียงข้างเฮนริเอตต้าในตอนนี้ไม่ได้ขี่ม้าศึกหากแต่ขี่หมาป่าสีแดง

 

 

“เฮอะ มาทำวุ่นวายอะไรกันกลางดึกกลางดื่น?”

 

“……อกาเรส”

 

“เด็กๆควรรีบเข้านอน จะได้โตไวๆ ไล้ฟ์สไตล์เป็นปัญหาแบบนี้แหละทำไมนังหนูบาร์บาทอสถึงได้โตขึ้นมาเป็นพวกไม่เอาไหน”

 

จอมมารอกาเรสนั่นเอง เธอหาวไปบ่นไป

 

“จับตาดูบนฟ้าให้ดี จอมมารที่ชื่อ กามิกินมีฝูงไวน์เวิร์น”

 

“บนฟ้าหรือ…….ข้าเข้าใจแล้ว พวกนั้นสามารถจู่โจมจากบนฟ้าได้”

 

เฮนริเอตต้าขมวดคิ้ว ทัศนวิสัยแย่มากเพราะเป็นตอนกลางคืนไม่พอ หากมีฝูงไวเวิร์นบุกโจมตีจากด้านบนด้วยมันต้องเป็นหายนะอย่างไม่ต้องสืบ

นอกจากจะต้องสูญเสียกำลังพลไปมาก ความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นจะเป็นปัญหาใหญ่ยิ่งกว่า

ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดว่าควรรับมือกับพวกนั้นอย่างไรดี อกาเรสเองก็เสนอทางเลือกง่ายๆ

 

 

“ก็สั่งให้นักเวทย์ร่ายเวทย์ตาบอด เวลาที่ไวเวิร์นบุกเข้ามาใกล้ๆสิ”

 

“แบบนั้นก็ดี”

นักเวทย์สามารถแก้ลำได้ทันที หากเห็นไวเวิร์น 

เฮนริเอตต้าถามอกาเรสต่อ

 

“อกาเรส, เธอคิดว่า เจ้าพวกนั้นจะวางกำลังเพื่อซุ่มโจมตีไหม?”

 

“ข้าไม่เคยคิดว่า ศัตรูตั้งใจจะทำอะไร ตอนที่ข้ารบ”

 

มันเป็นคำตอบที่โอหังวางโต แต่เฮนริเอตต้าก็เข้าใจดี

 

ตอนที่อกาเรสโดนขับไล่แล้วมาหาที่ลี้ภัยที่นี่ เฮนริเอตต้าได้เดินทางไปด้วยกันเพื่อดูความสามารถของอกาเรส

หลังจากได้เห็นว่า อกาเรสสามารถกวาดล้างเผ่ามอนสเตอร์ได้ราวกับแย่งขนมจากเด็ก เธอก็เข้าใจถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย

หลังจากนั้นอกาเรสก็กลายเป็นแขกของเฮนริเอตต้าเรื่อยมา

 

เฮนริเอตต้าพยักหน้า

 

‘อกาเรสสามารถสู้กับทั้งกองทัพได้ด้วยตัวเองคนเดียว’

 

ต่อให้อีกฝ่ายวางกองกำลังดักซุ่มโจมตีจริงๆ ก็ไม่ต้องเป็นห่วงกังวลมาก ดังนั้นแล้วจึงควรปล่อยให้พวกหน่วยดักซุ่มเป็นหน้าที่ของอกาเรสไป

ไม่สิ หากจะคิดอย่างนั้น มีโอกาสสูงเหมือนกันที่อีกฝ่ายจะไม่ซุ่มโจมตีขณะที่อกาเรสอยู่ข้างๆเธอ

 

การแบ่งทหารไปประจำการจุดต่างๆนั่นก็หมายถึงการลดทอนกำลังทหารของตนลง

 

การกระจายทหารต่อหน้าอกาเรสไม่ต่างจากการฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ

นี่เจ้าพวกนั้นตั้งใจจะข้ามแม่น้ำจริงๆน่ะหรือ หากเป็นเช่นนั้นแล้ว……?

 

 

“ฝ่าบาท! ข้ามีรายงาน!”

ทหารม้ากลับมารายงานพร้อมกับหน่วยสอดแนม

 

“ทหารศัตรูกำลังอยู่ระหว่างการข้ามแม่น้ำมาเน่จริงๆ!”

 

เฮนริเอตต้าเดาะลิ้น เธอคิดไว้อยู่แล้ว เธอไม่ได้ส่งทหารสอดแนมไปอีกชุดเพียงเพื่อจะฟังเรื่องเดิมๆ

 

 

“บอกจำนวนที่แน่ชัดมา!”

 

“ครับ จำนวนของพวกนั้นราว สี่หมื่นนายครับ, ฝ่าบาท!”

 

บรรยากาศกลับเหือดแห้งในขณะที่ทุกคนได้ยินคำว่า สี่หมื่นนายมาอยู่ตรงหน้า

 

กองทหารบริททานี่นั้นเต็มไปด้วยทหารแนวหน้ามากมาย แต่ใช่ว่าจะไร้ความตกประหม่าเลยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับกองทัพมหาศาล 

 

“สะพานลอยน้ำของพวกนั้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว และกำลังทยอยขนทหารไปบนท่า

ห้าพันนายไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งแล้วครับ”

 

“อืม ดังนั้นแล้วก็ยังเหลือ สามหมื่นห้าพันนายอยู่ทางฝั่งนี้”

 

“ครับ ฝ่าบาท!”

 

เมื่อเป็นเช่นนั้นเฮนริเอตต้าจึงแน่ใจแล้วว่า เป้าหมายของศัตรูคือการข้ามแม่น้ำจริงๆ

ทหารจำนวนห้าพันนายก็ข้ามไปอีกฝั่งเรียบร้อยแล้ว พวกนั้นไม่ได้คิดแม้แต่จะวางกำลังซุ่มโจมตีเลยด้วยซ้ำ

 

ต่อให้พวกนั้นวางกำลัง จำนวนก็ไม่มากเกินหมื่นนาย ซึ่งไม่มีกำลังมากพอจะคุกคามเธอ

 

“ทหารทุกนาย,เร่งให้เร็วขึ้น!”

 

ตราบใดที่พวกเขายังมีตัวแก้ทางที่ชื่อว่า อกาเรสอยู่นั้น ถึงจะเร่งเดินทัพเสี่ยงไปหน่อยก็ไม่เป็นไร

ราชินีสั่งคนของตนให้เร่งฝีเท้าเพื่อไปให้ถึงได้ทัน

 

ไม่นานนักก็เห็นกองกำลังของอีกฝ่าย แสงจากคบไฟจำนวนมากฉายทั่วค่าย

เป็นอย่างที่หน่วยสอดแนมรายงานจริงๆ สะพานและท่าลอยน้ำเสร็จสมบูรณ์แล้ว

 

มีสะพานขนาดใหญ่ลอยน้ำถึงสองสะพาน

โทรลที่ตัวใหญ่ราวกับขุนเขาแช่อยู่ใต้น้ำเพื่อหนุนฐานสะพาน

 

 

“ศัตรูกำลังแยกกันระหว่างข้ามน้ำ อย่าพลาดโอกาสที่จะบดขยี้พวกนั้น!”

 

“ครับ ฝ่าบาท!”

 

เหล่านายพลทั้งหลายต่างตอบรับอย่างแข็งขัน

 

ราชินีเฮนริเอตต้ากำลังนึกถึงเพื่อนของเธอที่ยังมาไม่ถึงฟรานเคีย

เพื่อนของเธอที่เป็นท่านผู้นำกำลังจะมาช่วยเธอแล้ว แต่ดูเหมือนอุปสรรคบางอย่าง เป็นไปได้ว่าอาจจะมาร่วมศึกครั้งนี้ไม่ทัน

 

 

– วู้ววววววววววว

 

แตรเขาสัตว์ของฝ่ายบริททานี่ดังขึ้นอีกระลอก

 

เรามามอบหัวดันทาเลี่ยนให้เป็นของขวัญของเธอกันดีกว่า  เฮนริเอตต้าคิดเช่นนั้น

เราจะดื่มไวน์ให้เมาปลิ้นกันทั้งคืน มันจะต้องเป็นงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าครั้งไหน

ตัวเธอจะต้องทุ่มเทหยาดเหงื่อแรงกายเพื่อทำให้สำเร็จให้จงได้…….

 

 

* * *

 

 

กองทัพจอมมาเริ่มข้ามแม่น้ำไปแล้วสักพัก

นั่นคือ สิ่งที่อลิซาเบธบอกได้หลังจากแสงในลูกแก้วเวทย์มนตร์กะพริบ

 

 

“โอ้นั่น? มนตร์ต้านเวทย์เองหรือ”

 

นักเวทย์ที่ฟังอยู่ข้างกายอลิซาเบธกลับส่ายหน้า

นักเวทย์ที่เป็นเลขาลำดับหนึ่ง ทั้งยังเป็นนักเวทย์หกวงเวทย์

,ยูเรีย ลูกครึ่งเอลฟ์ ผู้เชี่ยวชาญในเวทย์มนตร์

 

“เพื่อการที่จะบล้อคเวทย์ทุกชนิดนั้น จำต้องจ่ายมนตร์ต้านเวทย์ที่มีปริมาณเวทย์สูงกว่าเพื่อร่าย

…….น่าแปลกนัก

 

เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำแบบนั้นหากไม่มีนักเวทย์เป็นร้อยคน”

 

“เจ้ากำลังจะบอกว่า กองทัพจอมมารนั้นเอานักเวทย์นับร้อยคนมาด้วยน่ะหรือ?”

 

อลิซาเบธนวดบรรเทาปวดศีรษะ

พอได้รับรายงานด่วนแบบนั้นเธอก็ตื่นขึ้นเต็มตา

มันอาจมีผลข้างเคียงจากฝันร้ายอยู่บ้าง แต่หัวเธอก็ราวกับถูกบีบเค้นจากทุกด้าน

 

ยูเรียส่ายหัว

 

 

“ไม่ค่ะ มันยากที่จะจินตนาการถึงวิธีไม่สนใจอะไรแบบนั้น

วิธีการที่ทรประสิทธิภาพที่สุดในการปิดกั้นเวทย์สื่อสารใดๆ……ทำได้โดยร่ายมนตร์ต้านเวทย์จากในอากาศ อาจเป็นกริฟฟินหรือไวเวิร์นก็ได้”

 

“เอานักเวทย์ไปอยู่บนฟ้า น่ะรึ? วิธีการสมเป็นพวกปีศาจเหลือเกิน…….”

 

อลิซาเบทยิ้มอย่างขื่นขม

 

แม้ในระดับชาติยากที่จะเลี้ยงกริฟฟินหรือไวเวิร์นให้เติบใหญ่ จึงทำให้ขาดแคลนเป็นอย่างมาก

สุดท้ายแล้วเลี้ยงไปก็ไม่อาจใช้มอนสเตอร์ต่อต้านจอมมารได้อยู่ดี

 

 

“ใครจะไปคิดกันว่า การสู้รบจะเกิดขึ้นทันทีหลังจากที่พวกเราแยกย้ายกันไป”

 

“พวกเราหลอกชนชั้นสูงและทหารนับพันโดยไม่มีใครรู้ 

พวกเราทำเต็มที่เท่าที่จะทำได้แล้ว”

 

“ความพยายามไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันผลลัพธ์ที่ดีที่สุดหรอกนะ

……. ช่างโชคร้ายเสียจริง”

 

ณ ตอนนี้ กองทัพเสรีที่นำทัพโดยอลิซาเบธได้มาถึงชายแดนระหว่างฮับบวร์กกับฟรานเคียแล้ว

พวกเขาตั้งค่าย เพื่อนอนพักในช่วงกลางคืน

อลิซาเบธกับยูเรียกลับตื่นขึ้นมาเพราะข่าวด่วนกลางดึก

 

“นายท่าน, เหตุใดกองทัพจอมมารถึงได้ข้ามแม่น้ำมาเน่ในตอนนี้?”

 

“ดูแผนที่สิ”

 

อลิซาเบธชี้ไปที่แผนที่บนโต๊ะ

มันบ่งบอกถึงรายละเอียดและสภาพภูมิประเทศรอบเมืองปารีส

 

 

“หากพวกเขาข้ามแม่น้ำมาเน่แล้วเดินทัพตรงต่อไป ก็จะไปถึงปารีสได้ทันที

และพวกนั้นอาจข้ามแม่น้ำเซคิวน่าต่อด้วย

พวกเขานั้นได้เตรียมทั้งสะพานและท่าเรือลอยน้ำ ดังนั้นแล้วจึงข้ามไปอีกฝั่งได้โดยง่ายในขณะที่ เฮนริเอตต้าไม่มีท่าฟากไว้ข้ามเลย…….”

 

ิอลิซาเบธไล่นิ้วมือไปตามเส้นทางแม่น้ำ

นิ้วของเธอมาหยุดที่ปารีส ,เมืองหลวงของฟรานเคีย

 

“เฮนริเอตต้าไม่มีทางไล่ตามพวกนั้นได้ทัน

เธอได้แต่ยืนมองดูกองทัพจอมมารค่อยๆยึดครองปารีสจากอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ

ดังนั้นแล้วเธอจึงมีสองตัวเลือกให้เลือกเท่านั้น นั่คือ การสู้ในถนนเมืองปารีสหรือ ยอมยกเมืองหลวงให้”

 

“อ้อ……เข้าใจแล้ว มันไม่สะดวกเลยกับการที่เอาทหารม้าไปสู้บนถนนในเมือง”

 

อัศวินสามารถที่จะแสดงประสิทธิภาพมากที่สุดได้ก็บนหลังม้า 

แต่การสู้ตามท้องถนนกลับเป็นการโยนจุดแข็งของอัศวินทิ้งไป

อลิซาเบธพยักหน้า

 

 

“ทางกำแพงเมืองทิศใต้ของปารีสเองก็ไม่ได้แข็งแรงทนทานเท่ากำแพงฝั่งเหนือ ดังนั้นจึงเป็นอะไรที่ยากมากที่ศัตรูจะเลือกตั้งรับขณะที่โดนปิดล้อม

 แต่ถึงอย่างนั้น ฝ่ายเฮนริเอตต้าจะเจอปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น 

เพราะมีเส้นทางลับที่ใช้พาตัวจักรพรรดิและจักรพรรดินีโดวาเจอร์อยู่มากมาย และหากเธอบีบคับให้อีกฝ่ายต้องรบแตกหักแล้วล่ะก็…….”

 

ความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในหัวของอลิซาเบธ

ดวงตาของอลิซาเบธเบิกกว้าง สายตาของเธอกวาดไปด้านบนสุดของตำแหน่งแผนที่ อารมณ์ที่เปลี่ยนไปกะทันหันทำให้ยูเรียรู้สึกไม่ดีขณะที่มองไปยังท่านคอนซูล

 

อลิซาเบธพึมพัมบางอย่าง

 

“อย่าบอกนะ ไม่สิ……แต่ มันเป็นไปได้อย่างไรกัน…….”

 

นี่มันผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว

 

อลิซาเบธถอนสายตาออกจากแผนที่

 

 

“……ยูเรีย, บริททานี่ได้รับเสบียงด้วยการขนส่งทางเรือใช่ไหม?”

 

“ใช่ ถูกแล้วค่ะ”

 

“เจ้าคิดว่า เรือพวกนั้นจะไปรับเสบียงกันที่ไหนกัน?”

 

ยูเรียนึกย้อนในความทรงจำของตัวเอง แต่เธอก็นึกไม่ออก

 

“ขอประทานอภัยค่ะ แต่พวกนั้นไม่เคยบอกข้อมูลเรื่องดังกล่าวกับพวกเรา”

 

“เฮนริเอตต้าจะปล่อยเสบียงตัวเองไว้ในปารีส ในสถานที่พวกนักปฏิวัติยังเฝ้ารออยู่หรือคะ?”

 

“……ไม่หรอก ไม่มีทาง เพราะมันมีโอกาสที่พวกนักปฏิวัติจะทำการเผาเสบียงทิ้ง”

 

อลิซาเบธพยักหน้าดวงตาเธอสบกับดวงตาของยูเรีย

 

“หากเป็นอย่างนั้นแล้ว โกดังเสบียงเองก็น่าจะสร้างอยู่ที่ไหนสักแห่งริมแม่น้ำ ที่ไม่ใช่ปารีส

พวกเขาไม่คาดคิดว่า ศัตรูจะข้ามแม่น้ำมาก จึงได้สร้างโกดังที่ทางฝั่งใต้มิใช่ทางฝั่งเหนือ”

 

ดวงตาของอลิซาเบธคมกริบ

 

“กองกำลังจอมมารข้ามแม่น้ำ ดังนั้นแล้วสถานที่ที่เก็บเสบียงของบริททานี่ตั้งอยู่ที่ไหนสักแห่งทางใต้ ถ้าเช่นนั้น…….”

 

ยูเรียเผลออ้าปาก

“เสบียง! เป้าหมายของศัตรูคือ การเผาเสบียงของพวกนั้นค่ะ,นายท่าน!”

 

 

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด