Dungeon Defense (WN) 309 เพียงสองคนเท่านั้นบนทวีปนี้ (5)

Now you are reading Dungeon Defense (WN) Chapter 309 เพียงสองคนเท่านั้นบนทวีปนี้ (5) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 309 – เพียงสองคนเท่านั้นบนทวีปนี้ (5)

 

 

 

“จากที่ข้าได้ตรวจสอบดู ภาษีของฟรานเคียปกติแล้วก็ราวๆ  10%”

ผมฉวยไปป์ส่วนตัวขึ้นจุด กลิ่นหอมสดชื่นสูดเข้าไปเต็มปาก

 

“ดอกเบี้ยสูงสุดที่รัฐบาลที่ตั้งขึ้นใหม่พอจะรับไหว และยังเต็มใจที่จะกู้ยืมเงินก็คือ ดอกเบี้ยราว 4%”

 

“อั่ก…….”

 

อิวาร์ครางออกมา เธอพยายามที่จะลุกขึ้น

ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังไม่มีแรงเหลือที่จะดันตัวเองขึ้นมาจากพื้น ผมจึงเอนตัวไปหาแล้วดึงตัวเธอขึ้นมาวางไว้บนเตียงแทน

 

ร่างกายของเด็กสาวนั้นระยิบระยับด้วยหยาดเหงื่อ แวมไพร์นั้นคล้ายคลึงกับจอมมารที่ของเหลวในร่างกายนั้นไม่มีกลิ่นเหม็น

กลิ่นหอมหวานเย้ายวนจมูกในขณะที่ผมซุกหน้าลงอกของเธอ

 

“อิวาร์, ร่างกายเธอนี่หอมเสียจริง”

 

“……4% น้อยเกินไป”

อิวาร์ส่งเสียงเล็กๆออกมาราวกับหนูตัวน้อย

 

“ต่อให้เจรจาอย่างไรเราก็ไม่ควรได้ต่ำกว่า 7%.”

 

“หืมม เธอนี่คำนวนเลขเก่งอยู่เลยแม้จะควบร่างกายตัวเองไม่ไหวแล้วก็ตามสินะ เอาเถอะ 

ใครจะเหมาะกับงานแบบนี้เท่าเธออีกแล้วล่ะ? ทำตามที่เห็นว่าสมควรก็แล้วกัน”

 

อิวาร์พยักหน้าเบาๆ

 

“……ฝ่าบาทช่างตระหนี่ถี่เหนียวเหลือเกิน”

 

“หา, ตระหนี่l? ข้าเนี่ยนะ?”

 

ผมถึงกับอึ้งไป เพราะคำๆนั้นไม่เหมาะกับผมเลยสักนิด

อิวาร์ ล็อดบรอค เป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกปีศาจ 

นี่ผมดูเป็นคนขี้งกในสายตาของคนร่ำคนรวยเช่นเธอได้อย่างไรกัน?

 

 

 

“แม้จะเป็นผู้น้อยเองก็เชื่อว่า สมควรจับจ่ายใช้สอยให้เหมาะสม”

 

“ผิดกับการใช้เงินอย่างมือเติบ ฝ่าบาทนั้นลงทุนไปกับปราสาทจอมมาร,ดินแดนของท่านเอง,สินบน และกองทุนทางการทหาร

แต่ขณะเดียวกันท่านกลับไม่ใส่ใจพวกเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับเลยแม้แต่น้อย”

 

ดูเหมือนอิวาร์กำลังพูดถึงเรื่องที่ผมไม่เคยฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมไปกับชีวิตอันแสนหรูหรา ผมหัวเราะคิกออกมาขณะที่โชว์ไปป์ในมือให้เธอดู

 

“เธออาจไม่รู้สินะ แต่สมุนไพรในข้ากำลังสูบอยู่นี่แพงเอาเรื่องเลยล่ะ

ข้าจ้างนักเล่นแร่แปรธาตุให้ผลิตสมุนไพรพวกนี้เป็นการส่วนตัว 

อาจจะสังเกตเห็นยากไปสักหน่อย แต่จอมมารดันทาเลี่ยนเองก็ใช้จ่ายเงินไปกับของฟุ่มเฟือยไม่น้อยหน้าใครเลยเหมือนกัน”

 

“ขอประทานอภัยค่ะ จุดสำคัญอยู่ตรงที่ว่า ผู้คนไม่สังเกตเห็นเรื่องนั้น”

 

อิวาร์นั้นเล่นกับนิ้วก้อยมือซ้ายของผม มือซ้ายของผมนั้นไม่มีนิ้วชี้และนิ้วกลางอีกต่อไป

อิวาร์จึงเพลิดเพลินกับการเล่นกับมือซ้ายอันไม่สมประกอบของผล

 

มันอาจจะสะท้อนความปรารถนาบางอย่างสมัยเป็นทารกในจิตใต้สำนึกผ่านการกระทำอยู่ก็ได้

 

 

“ความหรูหราฟู่ฟ้านั่นจะมีความหมายก็ต่อเมื่อผู้อื่นเห็นมันค่ะ

การที่ฝ่าบาทใช้จ่ายเงินมากมายไปกับยา…….”

 

“ยาสูบ”

 

“……ยาสูบและเหล้าสุรา , หากแต่ท่านนั้นตระหนี่ถี่เหนียวพอเป็นเรื่องที่ดึงดูดสายตาผู้คน

เสื้อผ้าของท่านตอนนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีเช่นกัน”

 

อิวาร์หยิบเสื้อผ้าที่กระจายไปทั่วรอบเตียง

 

“กางเกงของท่านนั้นเป็นสีดำเข้าคู่กับส่วนเสื้อ ตัวด้ายก็ดูหลุดหลุ่ยเพราะท่านสวมใส่มันมาหลายต่อหลายปีแล้ว

……. มีแต่คนที่ไม่ใส่ใจเรื่องเสื้อผ้าเท่านั้นแหละจึงจะสามารถสวมเศษผ้าขี้ริ้วพวกนี้ได้”

 

“ศะ-เศษผ้าขี้?”

 

“ฝ่าบาทน่ะมีรูปร่างผอมแห้ง ทั้งยังมีช่วงไหล่แคบ ดังนั้นท่านดูแย่มากหากไม่สวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม”

 

“…….”

 

ทำไมผู้หญิงที่อยู่ในชีวิตผมชอบบ่นเรื่องไล้ฟ์สไตล์ผมด้วยวะ?

แม้แต่สิตริเองก็ด้วย ชีวิตแม่งเศร้าว่ะ

 

 

“สิ่งเหล่านี้ทำลายความภาคภูมิใจ และหน้าตาของฝ่าบาทอย่างร้ายแรง”

 

อิวาร์ ล็อดบรอคพูดด้วยแววตาที่คมกริบของพ่อค้า

 

 

“เอาจริงๆนะคะ

การที่ลาพิส ลาซูลิเป็นลูกน้องของท่านก็จริง แต่ทำไมนางถึงไม่ตระหนักถึงเรื่องสำคัญอย่างนี้?

แบบนี้ก็ไม่ต่างจากสร้างรอยกระด่างดำให้กับนามของบริษัทเราเลยด้วยซ้ำ”

 

เธอมองผมด้วยแววตาที่ห่วงใย

 

“อืมม……มีเรื่องหนึ่งที่ข้าอยากขอร้องฝ่าบาท

สงครามก็จบลงแล้ว และงานเลี้ยงก็ใกล้จะจบลงด้วยเช่นกัน ถ้าเช่นนั้น”

อิวาร์ดูหงุดหงิด

 

“หากฝ่าบาทพอจะมีเวลาว่างแล้วล่ะก็, พวกเรา……ไม่สิ หากฝ่าบาทไม่ถือว่าเป็นการรบกวนแล้วล่ะก็”

 

“หืม? เจ้าพยายามจะพูดอะไรน่ะ พูดอ้อมไปอ้อมมาเหลือเกิน”

 

ผมดูดไปป์ไปฟอดหนึ่ง

 

“ฟู่ววว เจ้าก็รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเราดี ข้ายินดีเสมอที่จะตอบรับคำขอสักข้อหนึ่งจากเจ้า 

เจ้าน่ะตอบรับคำขอของข้าในเรื่องฟรานเคีย ดังนั้นเอาเลย ขอมาได้เลย”

 

“…….”

 

ในการแลกเปลี่ยนกันแล้ว เมื่อได้รับมาก็ต้องให้ตอบ 

ผมจริงจังในเรื่องนั้น

 

เมื่อผมพูดอย่างนั้น อิวาร์ก็สูดหายใจเข้าลึก ใบหน้าของเธอแดงเรื่อด้วยเหตุผลบางอย่าง

เธอจ้องมองผมตรงๆก่อนจะพูดออกมา

 

 

 

“ปะ-เป็นไปได้ไหม หากผู้น้อยนี้……จะเป็นผู้เลือกเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมกับฝ่าบาท!?”

 

“…….”

 

ว่าอะไรนะ?

 

“อ่าา ข้าหมายถึง ข้าเชื่อว่า ฝ่าบาทย่อมอยากจะรักษาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชนิดกับบริษัทของพวกเรา 

หรือข้าควรจะบอกว่า มันเป็นพันธกิจของพวกเราที่จะให้การสนับสนุนฝ่าบาทในหลากหลายวิธี? 

นี่ก็เป็นการให้การสนับสนุนในรูปแบบหนึ่ง”

 

ผมลืมดูดไปป์ในมือไปชั่วครู่ขณะที่มองอิวาร์

 

อิวาร์รู้ดีว่า กำลังถูกมองเธอจึงยิ่งลนลาน

ถึงผิวพรรณของเธอจะซีดขาว หากแต่แก้มของเธอนั้นเด่นเป็นอย่างมาก

 

“จึงเป็นเรื่องปกติของ หน้าที่ผู้น้อย แล้ว ข้าก็ไม่ได้มีเจตนาอื่นใด

ว่าง่ายๆคือ ถ้าฝ่าบาทอยากจะไปช็อปปิ้ง หรือมีวันไหนว่างอยู่ ข้าก็คิดว่า เราควรจะใช้โอกาสนั้นวางปัญหาอื่นไว้ก่อนแล้ว…….”

 

“นะ-น่าร๊ากกก”

 

“……เอ่อ อะไรนะคะ? ข้าไม่เข้าใจว่า ฝ่าบาทพูดอะไร”

 

ผมทนไม่ไหวจนต้องดึงอิวาร์เข้ามากอด

 

“อะไรจะใสซื่อบริสุทธิ์ได้ขนาดนี้กันเนี่ยยย!?”

 

“หะ-หาาา?”

 

“ใช่แล้ว! นี่แหละ! นี่แหละคือสิ่งที่ข้าต้องการรรร!”

 

ความใสซื่อ บริสุทธิ์!

 

ความสุดแสนจะใสซื่อที่ทำให้คนผู้หนึ่งเขินอายยามที่จะขอเดท!

 

 

นังปลวกบาร์บาทอสอารมณ์ดีตอนชวนผมไปออกเดทก็จริง แต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการพาผมไปเที่ยวซ่องเลสเบี้ยน

 

 

ลอร่าเองก็ทำหน้าสุดเซ็ง ราวกับเบื่อหน่ายทุกอย่างบนโลกใบนี้

 

ไพมอนก็เอาแต่ยิ้มทำตัวเป็นสาวใหญ่แล้วเอาแต่เอนหลังหัวเราะ ฟุฟุฟุ 

 

กามิกินเองก็ไม่เคยที่จะพลาดโอกาสที่จะหาเรื่องปะทะหากมันเกี่ยวข้องกับเรื่องตำแหน่งเมียหลวง

 

สิตริเองถึงแม้จะทำท่าขวนเขินเอียงอาย แต่แม่งก็ประหลาดชะมัด

ท่าทางน่ะก็ดูเขินอยู่หรอก แต่เสือกพาผมเข้าคลับ SM เฉยเลย

ความอายของนางน่ะระดับสาว ม.ต้น แต่รสนิยมและความสนใจดันอยู่ระดับเดียวกับตาเฒ่าตัณหากลับ

ย้อนแย้งชิบหาย

 

 

(TTL : สาวๆแต่ละคนของพรี่นี่อุปนิสัยแจ่มๆทั้งนั้นเลยนี่ ยังขาดสาวยันเดเระหึงโหดอยู่นะ พรี่ 55555)

 

 

แล้วดูนี่สิ! 

มาดูที่ อิวาร์ ล็อดบรอคคนนี้

 

เป้าหมายการเดทของเธอ เรียบง่ายมาก 

แค่เธอต้องการจะซื้อเสื้อผ้าให้คู่รักของเธอ!

 

“ดีต่อใจเหลือเกิน ช่างบริสุทธิ์เหลือเกิน…….”

 

ผมถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาให้กับความนุ่มนิ่มนุ่มนวลอ่อนโยนราวกับฟองสบู่

 

“ฝ่าบาท,ทำไมท่านถึงหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเคารพแบบนั้น? ผู้น้อยงงไปหมดแล้ว”

 

“อิวาร์ ล็อดบรอค ,เธอน่ะงดงามดั่งอัญมณีที่เลอค่า”

 

“ขะ-ขอโทษ อะไรนะคะ?”

อิวาร์นั้นแดงไปจนถึงหู

 

 

“ยุคแห่งความอนธการนั้นปกคลุมพวกเรา

โลกใบนี้จึงได้มีแสงสาดฉายเข้ามาลำเดียวในท่ามกลางแผนการชั่วต่ำทรามและเสแสร้ง อันเป็นสิ่งที่นักประพันธุ์ผู้เสาะแสวงหาสิ่งบริสุทธิ์มาตลอดชีวิต

ตัวข้า,ดันทาเลี่ยน ได้แต่ร่ำร้องคร่ำครวญต่อยุคสมัยที่เป็นเช่นนี้”

 

“…….”

 

ถึงอิวาร์จะมองผมราวกับจะบอกว่า 

‘นั่นก็เป็นฝีมือของท่านมิใช่หรือคะ?’

แต่ผมทำเป็นเมินไม่รับรู้

 

 

 

“หลังจากได้ค้นพบสมบัติที่ข้าเพียรเฝ้าตามหามาแสนนาน หัวของข้ากลับรู้สึกได้ถึงความสูงส่ง

เสื้อผ้าอย่างนั้นรึ? ได้เลย ข้าจะซื้อเท่าไหร่ก็ได้ตามที่เจ้าปรารถนา

เครื่องแต่งกาย? ชุดออกงาน? ไม่เลย แม้แต่แหวนและสร้อยคอก็ได้เลย

อยากได้อะไรก็เลือกไปเลยตามที่เจ้าต้องการ”

 

“ฝะ-ฝ่าบาท มิใช่ข้านะ แต่เป็นของฝ่าบาทต่างหาก…….”

 

เหมือนอิวาร์จะบ่นพึมพัมอะไรสักอย่างแต่ผมไม่สนใจ

ผมตัดสินใจแน่วแน่แล้ว 

 

 

“วันนี้ข้าจะเหมาทั้งเนฟเฮม ให้เป็นของเจ้า!”

 

 

 

ผมเป็นพวกไม่ค่อยชอบถลกกระเป๋าตังออกมาสักเท่าไหร่นัก

 

แต่เมื่อผมแหวกเปิดมันออกมา ช่องมิติแห่งความอัลหม่านสับสนจะกางออก

 

 

ผมใช้มือข้างหนึ่งกุมข้อมือของอิวาร์ ส่วนมืออีกข้างก็ชี้ไปยังเนฟเฮมราวกับตัวเองเป็นกัปตันอมุนเซนผู้ประกาศว่า จักพิชิตแอนตาร์กติก

 

 

 

“เอาล่ะ พวกเราไปกันเลย อิวาร์ ล็อดบรอค! 

ราตรีแห่งโลกปีศาจกำลังรอพวกเราอยู่!”

 

“ดะ-เดี๋ยวก่อนค่ะ ฝ่าบาท , อย่างน้อยๆพวกเราก็ควรแต่งตัวให้เรียบร้อย…….”

 

พวกเราแทบวิ่งแจ้นออกจากตัวอาคาร

เราทั้งคู่ต่างอยู่ในชุดนอน แต่ช่างมันปะไร ถ้าพูดให้ถูกคือ อิวาร์ขอร้องว่า อย่างน้อยคราวนี้ก็ขอเวลาแต่งตัวให้ดีๆก่อนบ้างได้ไหม แต่คำพูดของเธอน่ะเหรอ เข้าหูซ้ายออกหูขวาผมยังไงล่ะ

ผมเรียกรถม้าที่แสนจะหรูหราราคาแพงที่สุดในเมืองนี้มา

 

 

“ร้านที่มีชื่อที่สุดในเมือง”

 

ผมระบุปลายทางไปหลังจากขึ้นรถม้า

สารถีที่เป็นเอลฟ์โค้งให้เราด้วยความเคารพอย่างสูง

 

“ร้านเสื้อผ้ามีชื่อใดที่ฝ่าบาทตั้งใจจะไป?”

 

“แน่นอน ร้านที่แพงที่สุดอยู่แล้ว”

 

“ตามที่ท่านบัญชา”

 

รถม้านั้นไม่สะเทือนเลยแม้แต่น้อยยามที่ขับผ่านถนนเมืองเนฟเฮม

 

 

พวกเราไปกันที่ร้านเสื้อผ้าของแฟชั่นดีไซน์เนอร์

 

 

“แหม แหม นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้พบกับแขกผู้น่ารักเช่นนี้ เธอเป็นชู้รักของฝ่าบาทหรือคะเนี่ย?”

 

“อ่าหือ เอ่อ? ขะ-ข้า ข้าคือ…….”

อิวาร์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเจอคำถามของดีไซน์เนอร์ ผมวางมือไว้บนไหล่เธอ

 

“ถูกแล้วล่ะ นี่คือ คนรักใหม่ของข้า ดูแลให้เกียรติเธอด้วยล่ะ”

 

“อ๊ายยยย! คิดไว้แล้ว สมกับเป็นฝ่าบาทจริงๆ! ท่านนี้ช่างเป็นแบบอย่างให้กับเหล่าหนุ่มแบ๊ดบอยเสียจริงๆ!”

 

ไม่มีปีศาจคนไหนที่จะไม่รู้จักผมในเมื่อผมดังเสียขนาดนี้

ดีไซนเนอร์เผ่าซัคคิวบัสถึงกับกุลีกุจอหาเครื่องแต่งกายตัวอย่างที่เหมาะสมกับอิวาร์

 

“คุณคะ คุณคะ , เครื่องแบบชุดนี้น่ะคะ ทำมาจากวัสดุคุณภาพสูง

 

คุณคิดว่ายังไงกันคะ? เทรนด์ช่วงนี้ที่คือการสะท้อนถึงความงดงามสูงส่งแบบคลาสสิคเลยนะคะ”

 

“อะ-อะอย่างนั้นเองหรือ”

 

“ดูสุภาพเกินไปหรือคะ? ไม่ต้องกังวลค่ะ ถ้าหาก คุณลองหันหลังมา

ท่าด้า โอ้ แหม แหม! เปิดเปลือยแผ่นหลังชัดเลยเห็นไหมคะ จะมีอะไรแสดงความเซ็กซี่และงดงามได้ดีเท่านี้อีก 

นี่ช่างเหมาะเหม็งสมบูรณ์แบบกับสตรีอย่างคุณเลยนะคะ ที่ยังทั้งดูอ่อนเยาว์และเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศแบบผู้ใหญ่ผู้ใหญ่ 

คุณชอบไหมคะ?”

 

“อื้มม ดูดี”

ขณะที่อิวาร์ไม่รู็จะพูดอะไรต่อหน้าเจ้าของร้านที่อธิบายเป็นวรรคเป็นเวร 

ผมก็ตอบกลับไปแบบง่ายๆ

 

“เอาล่ะ ข้าซื้อ”

 

“ฝ่าบาทเท่ห์มากเลยคร่า!”

 

ดวงตาของเจ้าของร้านวิบวับไม่ต่างจากทองสะท้อนแสง

 

“แล้วเดรสชุดนี้สำหรับการออกเดินเล่นข้างนอกล่ะคะ? หรือสนใจเดรสสำหรับออกงานราตรีแบบนี้กันนะ?  

 

โอ้ ท่าน และคุณ ไม่ควรที่พลาดชุดนี้ที่ออกแบบมาเพื่อหลับนอนโดยเฉพาะ!”

 

“ฟู่วววว”

ผมพ่นควันฉุยออกมา แล้วก็ชี้นั่นชี้นี่ ที่เอาออกมาให้ดู

 

“เอาทั้งหมดตั้งแต่นี่ ถึงนั่น”

 

“อ๊ายยยยยยยย!”

 

พวกเราปล่อยให้เจ้าของร้านที่ถึงกับกรี๊ดสลบเพราะเจอกับการซื้อขายมหึมาครั้งใหญ่ที่ในชีวิตจะได้เจอสักครั้ง ไว้เบื้องหลัง

 

พวกเราเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป

 

 

เจ้าของร้ายสร้อยคอยที่เป็นก็อบลินเข้ามาทักทายพวกเราที่หน้าทางเข้า

 

“ข้าได้ยินชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ของฝ่าบาทมานานแล้ว ช่างเป็นเกียรติเหลือเกินที่ได้บริการฝ่าบาทในฐานะลูกค้า”

 

“เอาสร้อยคอที่เหมาะสมกับเด็กสาวคนนี้”

 

“โอโฮะ?”

 

ก็อบลินคนนั้นขยับแว่นตาเดียวขึ้น ดวงตาของเขาเพ่งมองจับจ้องราวกับมืออาชีพ

 

 

“ผิวของคุณเธอออกขาวและมีช่วงคอที่ผอมเพรียวระหง

กระดูกต้นคอก็ช่างยอดเยี่ยม 

ไม่ว่าสร้อยคอใดที่ประทับอยู่บนร่างของคนผู้นี้ย่อมจะเฉิดฉาย 

ฝ่าบาท,ไม่ทราบว่า ท่านชอบอัญมณีชนิดใดหรือ?”

 

“ดูเหมือนเจ้าจะไม่เข้าใจความต้องการของข้า”

ผมส่ายหัว

“ผมบอกกับเจ้าว่า ให้เอาสร้อยคอทุกชนิดตราบใดที่มันเหมาะสมกับเด็กสาวคนนี้”

 

“สะ-สร้อยคอทุกชนิด ระ-หรือครับ , ฝ่าบาท?”

 

“ใช่แล้ว สร้อยคอทุกชนิด ทุกแบบ ทุกประเภท”

 

ก็อบลินตนนั้นถึงกับกลืนน้ำลาย ดวงตามืออาชีพหายวับไปและแทนที่ด้วยแววตาสุดละโมบของพ่อค้า

 

 

“ผู้น้อยนี่แย่เสียจริงๆ ที่แปลความเจตนาของอันยิ่งใหญ่เกรียงไกร สูงล้ำในถ้อยคำของฝ่าบาทผิดไป 

ข้าจะไปเตรียมมาให้ในทันทีครับ”

 

ก็อบลินตนนั้นวิ่งไปหาผู้ช่วยก่อนจะกลับมาในทันที

 

“นี่ขอรับ สร้อยคอทั้งหมดที่ทำขึ้นจากอัญมณีระดับสูงที่สุดที่นำเข้ามาจาก อุทพาลา 

ทั้งหมดนี้เป็นงานชิ้นเอก ผลงานชิ้นเลิศที่ทำด้วยช่างเครื่องประดับที่มีชื่อเสียง ทั้งต้องใช้เวลาหลายต่อหลายปีในการสร้างขึ้นมาสักชิ้น

เช่นนั้นแล้ว คุณหนูครับ, เชิญลองชิ้นนี้ดูก่อน”

 

มีสร้อยคอราวๆสิบเส้นที่อิวาร์ได้ลองทดสอบใส่ดู

 

“ไม่ว่าทราบชอบอันไหนที่สุดหรือ, มาดมัวร์แซล?”

 

“ข้าไม่……ไม่ได้ชอบอันไหนเป็นพิเศษ”

 

ดูเหมือนสมองของอิวาร์จะตามไม่ทัน

 

 

จริงอยู่ที่เนฟเฮมเป็นเสมือนสวนหน้าบ้านของอิวาร์ ล็อดบรอค แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นางมาด้วยร่างกายเนื้อจริงๆของตัวเอง

เธอคงไม่เคยจินตนาการก่อนว่า จะได้ไปเที่ยวในร้านเสื้อผ้าผู้หญิงและร้านเครื่องประดับ

ซึ่งมันเป็นหน้าที่ของคนรักอยู่แล้ว หากคู่รักของตนตัดสินใจไม่ได้

 

ผมถอนไปป์ออกจากปากแล้วตอบแทนเธอ

 

“ถ้าอย่างนั้น พวกเราเหมาหมดนี่”

 

ในเดียวกันวันนั้นเอง

 

เจ้าของร้านทั้งเก้าแห่งของเนฟเฮม ถึงกับเป็นลมสลบล้มพับคาร้านตัวเอง

 

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด