Dungeon Defense (WN) 311 การพิสูจน์ความจริงอันทารุณของเด็กสาว(1)

Now you are reading Dungeon Defense (WN) Chapter 311 การพิสูจน์ความจริงอันทารุณของเด็กสาว(1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 311 – การพิสูจน์ความจริงอันทารุณของเด็กสาว(1)

 

 

 

 

 

“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ อิวาร์ และฉันจะมาอยู่กับฝ่าบาทนับแต่นี้เป็นต้นไป”

 

แวมไพร์ผมบลอนด์โค้งหัว

 

 

“บทบาทของคือ ตัวแทนของสภาเนฟเฮมและเป็นคนกลางระหว่างฝ่าบาทกับสภา

ฉันตั้งใจที่จะรับใช้ฝ่าบาทอย่างเต็มความสามารถด้วยความภาคภูมิใจในหน้าที่ ฉันจะยินดีมากหากทุกคนปฏิบัติกับฉันเหมือนเด็กสาวที่ชื่อ อิวาร์”

 

แปะ แปะ แปะ

 

เสียงปรบมือดังขึ้น

 

ที่ชั้น 10 ของปราสาทจอมมาร นานมากแล้วที่ไม่มีการรวมตัวกันของกลุ่มเหล่าผู้บริหาร

ท่านนายก ลาพิส,ฝ่ายการทหาร ลอร่า,หัวหน้าฝ่ายทหารอาสา เจเรมิ และ หัวหน้าสาวใช้ เดซี่

 

พวกเธอต้องมาต้อนรับแขกผู้มาใหม่ด้วยสายตาเฝ้าระวัง

 

เวลาแบบนี้ผมขึ้นต้องออกไปทักทาย

 

“ก็อย่างที่เธอได้แนะนำตัวไปแล้ว

อิวาร์นั้น เป็นตัวแทนของข้าที่จะคอยติดต่อกับโลกปีศาจ”

ผมวางมือบนไหล่น้อยๆของอิวาร์

 

“ด้วยเหตุผลบางประการจึงไม่อาจเปิดเผยนามสกุลของเธอได้

แต่ถึงอย่างนั้นข้าบอกได้ว่า เธอเป็นสายเลือดแวมไพร์ผู้ทรงอำนาจ

และอย่าห่วงกังวล ข้าสามารถยืนยันความจงรักภักดีของเธอได้ ต้อนรับเธอในฐานะครอบครัวของเรากันเถอะ”

 

แปะ แปะ แปะ!

เสียงปรบมือดังขึ้นเล็กน้อยจากก่อนหน้า

 

ใช่แล้ว อิวาร์ ล็อดบรอคนั้นย้ายมาอยู่ในปราสาทจอมมารของผม ถึงผมจะไม่คาดฝันมาก่อนก็เถอะนะ

 

ดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญหลังจากที่ผมฝืนจูบเธอ ดวงตาสีม่วงเธอกลับลุกโชนขึ้นด้วยสาเหตุบางอย่าง

 

‘ฉันน่ะมีชีวิตใหม่ได้ก็เพราะฝ่าบาท ดังนั้นย่อมเป็นสิทธิ์ของฝ่าบาทอยู่แล้วที่จะ จะ ต้องรับผิดชอบฉะ-ฉันด้วย’

 

‘แน่นอน’

 

ผมกางแขนกว้างและเตรียมโอบรับเธอ หีบสมบัติตัวน้อยเดินเข้ามาหาด้วยสองขาของตัวเอง

 

 

อิวาร์ผู้ไม่มีนามสกุล

อิวาร์เองก็เป็นแค่ชื่อธรรมดาทั่วๆไป

ไม่มีใครบ้าพอที่จะไปเชื่อมโยงว่า เด็กสาวบลอนด์ทองคนนี้เป็นคนเดียวกับจิ้งจอกเฒ่าแห่งบริษัทเคียนคุสก้าเป็นแน่

 

 

ลาพิสยกมือขวาขึ้นถาม

 

“ฝ่าบาทคะ,แล้วจะให้คุณอิวาร์อยู่ตำแหน่งไหนในหมู่พวกเราคะ?”

 

“หืมม ตำแหน่งน่ะรึ อืมมม?”

ผมเกาแก้ม ดูเหมือนยศชั้นลำดับศักดิ์ในองค์กรนับเป็นขั้นตอนที่สำคัญเลยแฮะ

 

ยามเข้าเมืองตาหลิ่ว ก็ต้องหลิ่วตาตาม

 

ไม่ว่า ตระกูลของอิวาร์ในโลกปีศาจจะยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่ที่นี่น่ะมันปราสาทจอมมารดันทาเลี่ยน

 

ตามปรกติแล้วก็สมควรวางตำแหน่งไว้อยู่ใต้เดซี่ หัวหน้าเมด ในฐานะผู้ช่วยหัวหน้าเมด

 

แต่ทว่า

 

‘ไม่แน่ใจเท่าไหร่เลยแฮะ’

 

 

จริงอยู่ที่ลาพิสมีตำแหน่งใหญ่ที่นี่

 

แต่ถึงอย่างนั้นเธอเองก็ยังคงเป็นพนักงานของบริษัทเคียนคุสก้า

ถ้าหากวางตำแหน่งอิวาร์ไว้ที่นี่ ต่ำเกินไป แต่ในโลกข้างนอกเธอเป็นทั้งรุ่นพี่และหัวหน้าของลาพิส ดังนั้นแล้ว อาจจะเกิดความขัดแย้งขึ้นเวลาออกคำสั่งก็ได้…….

 

ผมคิดอยู่สักพัก จู่ๆอิวาร์ก็ก้าวเท้าออกมาเอง

 

“ท่านนายก ลาพิส ใช่ไหมคะ? กรุณาปฏิบัติกับฉันเหมือนเป็นเมด ผู้มีฐานะต่ำต้อยที่สุดด้วยค่ะ”

 

“อย่างนั้นเองน่ะรึ”

 

ผมหันไปมองอิวาร์ด้วยความตกตะลึง

 

อิวาร์ยิ้มอย่างมั่นใจ ไม่เป็นไรแน่เหรอ ที่เธอจะมีตำแหน่งต่ำกว่าลูกน้องตัวเองน่ะ?

 

– ฝ่าบาทพูดเองไม่ใช่หรือคะ? 

ว่าฉันน่ะมิใช่อิวาร์ , ประธานบริษัทเคียนคุสก้า ตอนนี้ฉันเป็นแค่เด็กสาวผู้มีชื่อว่า อิวาร์ เฉยๆ

 

อิวาร์แอบถ้อยคำเหล่านั้นมาในสมองผมด้วยการเทเลพาธี ดูเหมือนเธอจะเชี่ยวชาญเรื่องเวทย์มนตร์มากเลยแฮะ

 

– หากอยู่ๆคนมาใหม่แบบฉันมาป่วนการบัญชาการในองค์กรเข้า สุดท้ายฉันก็จะถูกโดดเดี่ยว 

ฉันไม่อยากให้คนที่ทำงานด้วยกับโมโหหรืออิจฉาหรอกค่ะ ดังนั้นโปรดอนุญาตให้ฉันอยู่ในตำแหน่งนี้ด้วยค่ะ

 

เอ่อ ก็ถ้าหากมันเป็นสิ่งที่คนๆนั้นขอมาเองล่ะก็นะ…….

ผมพยักหน้าอย่างอึดอัดใจให้กับอิวาร์ที่ก้าวออกมาข้างหน้า

 

 

“ฉันไม่ต้องการจะเอาอำนาจชื่อเสียงวงศ์ตระกูลมากดทับ

ฉันน่ะตั้งใจจะรับใช้ฝ่าบาทดันทาเลี่ยนในฐานะข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์

ดังนั้นฉันจึงอยากจะศึกษาเรียนรู้สิ่งต่างๆจากทุกคน”

 

“นั่นเป็นทัศนคติที่ดีค่ะ”

 

ลาพิสน่าจะพออกพอใจพอสมควรเลยจึงพยักหน้าเบาๆ

 

“หัวหน้าเมด เดซี่”

 

“ค่ะ,ท่านนายก”

 

“ดิฉันจะมอบหน้าที่ให้การศึกษากับอิวาร์เป็นหน้าที่ของเธอ ส่งรายงานทุกสามวัน ตอนเวลา  1 นาฬิกา 15นาที 

ถึงจะเป็นครั้งแรกที่เธอจะได้เป็นผู้สอนคนอื่น แต่นี่ก็เป็นโอกาสที่จะใช้ในการประเมินพวกเธอทั้งคู่ด้วยเช่นเดียวกัน”

 

เดซี่เลิกชายกระโปรงขึ้นเล็กน้อยขณะโค้งให้

 

“ตามที่ท่านรับสั่งค่ะ”

ดังนั้นแล้วฟามิเลียเราก็มีสมาชิกคนใหม่เข้ามาอีกคน

นั่นเป็นสิ่งที่ผมรู้

 

 

* * *

 

 

 

อีวาร์ไม่เคยบ่นกับการที่ต้องมาเริ่มต้นจากศูนย์อีกครั้ง

 

เธอคุ้นชินกับทุกอย่าง ครั้งแรกเมื่อสมัยตอนที่อิวาร์ ล็อดบรอคต้องถลำตัวลงสู่สนามรบแห่งพ่อค้าหน้าเลือดในสังคมปีศาจหลังจากทั้งครอบครัวและเผ่าพันธุ์ของเธอสูญสิ้น 

ด้วยความสามารถอันไม่ธรรมดาของเธอได้ทำให้เธอก่อร่างสร้างบริษัทขนาดมหึมาขึ้นจากความว่างเปล่า

 

‘ใช้เวลาไปเกือบพันปีเพื่อจะยึดครองโลกปีศาจด้วยเงินตรา’

อิวาร์นั้นแอบยิ้มชั่วร้ายในใจ มันเป็นรอยยิ้มที่คู่ควรกับชื่อเล่นของเธอที่ชื่อว่า จิ้งจอกนอนขด

 

 

 

‘ฝ่าบาทดันทาเลี่ยนอาจจะดูเหมือนเป็นผู้ยิ่งใหญ่มีอำนาจ แต่ถึงอย่างนั้นการที่ท่านได้เติบโตขึ้นมาในช่วงเวลาสั้นๆ ย่อมบ่งบอกว่า เขาช่างเป็นบุคคลที่น่าประทับใจ’

 

อิวาร์เปลี่ยนชุดเมดที่ทำขึ้นพิเศษสำหรับปราสาทจอมมาร กระโปรงสีขาวตัดกับดำนั้นสั้นเอามากๆ

 

‘พูดอีกอย่างก็คือ เหมือนสัตว์ที่มีหัวเป็นสิงโต กลับมีร่างกายเป็นสุนัข

แม้ภายนอกอาจดูน่าประทับใจ แต่ภายในนั้นแสนเปราะบาง

ห้าปี ขอสัญญาด้วยชื่อของ อิวาร์ ล็อดบรอคเลยว่า ข้าจะพิชิตสถานที่แห่งนี้ภายในเวลาห้าปี’

 

เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนักกับผู้บริหารในปราสาทที่เธอเห็นก่อนหน้า

 

แม่นั่นชื่อ ลอร่าใช่ไหม? เด็กสาวผู้ที่กุมอำนาจการทหารที่เอาแต่หาวตอนประชุมใ 

เธอช่างขาดแคลนมารยาทและระเบียบวินัย

เธออาจเป็นอัจฉริยะในสนามรบ แต่นี่มันเป็นสนามการเมืองต่างหาก

ไม่มีทางที่เธอจะสู้อิวาร์ได้

 

 

หัวหน้าทหารอาสา อย่างเจเรมิ เองก็เอาแต่เล่นมุขตลกลามกกับฝ่าบาท

ฉันเดาว่า อาจทำเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ

คนแบบนางเป็นบุคคลที่ขาดไม่ได้ในองค์กร แต่การวางตัวและวิธีการพูดของนางนั้นไร้ศักดิ์ศรีสิ้นดี

 

‘ยิ่งไปกว่านั้นนะ เด็กสาวที่คอยดูแลและสอนฉันกลับเป็นเด็กอายุ 14 ปี’

 

อิวาร์จึงแน่ใจกับตัวเองแล้วว่า

 

‘นี่มันเรื่องง่ายๆ’

 

เด็กนั่นไม่มีทางที่จะมีประสบการณ์ในชีวิตเทียบได้กับอิวาร์ฃ

อิวาร์นั้นนึกได้ถึงสามสิบหกวิธีในการจัดการกับเดซี่ให้อยู่ในกำมือ ขณะที่ออกจากห้องแต่งตัว

 

“แต่งตัวเสร็จแล้วหรือ ,มิสอิวาร์?”

 

เดซี่ที่รออยู่ด้านนอกห้องแต่งตัวใช้มือกุมท้องตัวเองอยู่

เธอช่างดูสง่างาม ราวกับแมงมุมแม่มหม้าย

 

“ค่ะ อาจารย์”

อิวาร์ตอบอีกฝ่ายกลับไป และกำลังครุ่นคิดว่า 

จริงอยู่ที่เดซี่เป็นเด็กสาวหน้าตาดี และทำให้เข้าใจได้ว่า ทำไมฝ่าบาทถึงให้เธอไปอยู่ใต้การดูแลของเด็กสาวคนนี้

เป็นไปได้ว่า เธออาจไม่ใช่แค่เมดธรรมดาๆคนหนึ่ง เธออาจเป็นเมียน้อย …….

 

 

แต่ในเมื่อเดซี่ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ไม่มีทางที่อิวาร์จะแพ้อยู่แล้ว

 

“เอาล่ะ วันนี้เป็นวันแรกของเธอ ฉันตั้งใจจะดูว่าเธอทำอะไรได้บ้าง

มีคำถามอะไรไหม?”

 

“อ่า มีค่ะ ฉันอยากถามว่า ทำไมเครื่องแต่งกายของข้ารับใช้ถึงสั้นนัก? มันรู้สึกแปลกๆน่ะค่ะ”

 

เดซี่เชิดริมฝีปากขึ้น

 

“อยากได้คำตอบสวยหรูแต่ตอแหล? หรืออยากได้คำตอบจริงๆที่แสนโหดร้ายกันล่ะ?”

 

“……อะไรนะค?”

 

คำตอบของคำถามกลับเป็นอีกคำถามหนึ่งไปแทน ทำให้อิวาร์ตอบสนองไม่ทัน

 

เดซี่จึงตอบทั้งที่ยังยิ้มแย้มอยู่

 

“ฉันไม่เคยอนุญาตให้เธอตั้งคำถามนะ ,มิสอิวาร์ 

และการตอบคำถามด้วยคำถามก็ห้ามด้วยเช่นกัน

จงจำใส่ใจไว้ ฉันจะไม่ปล่อยผ่านหากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาครั้งที่สอง”

 

“……ค่ะ ทราบแล้วค่ะ”

 

อิวาร์โดนไปก่อนหนึ่งดอก

 

 

ดูเหมือนเด็กสาวตรงหน้าจะไม่ใช่ เด็กอายุ 14 ธรรมดาๆ ชัดเลยว่า เธอน่ะพยายามจะบดขยี้ความภาคภูมิใจของน้องใหม่ตั้งแต่แรกเริ่ม

เพื่อแสดงให้เห็นถึงอำนาจของอีกฝ่าย เด็กสาวจึงพยายามกดดันอิวาร์……. 

 

 

‘เข้าใจแล้ว นี่คงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมฝ่าบาทถึงรับเธอมาเป็นลูกสาวบุญธรรม’

 

อิวาร์นั้นประมาทมากเกินไป นั่นเป็นความผิดพลาดที่เธอประจักษ์แจ้งแก่ใจ

ถึงอย่างนั้นอิวาร์ก็มั่นใจว่า ตัวเองจะไม่ทำพลาดเป็นครั้งที่สอง นี่จะเป็นความผิดพลาดครั้งสุดท้าย

 

“ถ้าเช่นนั้นแล้ว อาจารย์คะ ฉันขอเลือกคำตอบจริงๆที่แสนโหดร้าย”

 

“ถ้าเช่นนั้นฉันรอถามเธอบ้างว่า ทำไมเธอถึงเลือกอย่างนั้นล่ะ ,มิสอิวาร์?”

 

“ค่ะ ฉันอุทิศตนเพื่อรับใช้ฝ่าบาทดันทาเลี่ยนสุดหัวใจ ดังนั้นหากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับฝ่าบาท ฉันก็อยากทราบแต่ความจริง”

 

อิวาร์ยังคงสบตาอีกฝ่ายขณะที่ตอบอย่างจริงจัง 

เดซี่กลับฉีกยิ้มกว้างด้วยเหตุผลบางประการ

 

“ความจริงเกี่ยวกับท่านพ่อน่ะหรือ? 

ฉันจะดีใจมากหากเธอได้รู้ความจริงเรื่องนั้น 

คำตอบสำหรับคำถามของเธอนะ นั่นก็เพราะฉันนี่แหละ ฉันเป็นเหตุผลที่กระโปรงของที่นี่ถึงสั้น”

 

“เพราะคุณหรือคะ?”

 

“ถูกต้อง”

เดซี่พยักหน้าเบาก่อนจะพูดต่อ

“สไลม์โปร่งใสอยู่ในท้องน้อยของฉันตามคำสั่งของท่านพ่อ

หากฉันไม่ระวังจนกะโปรงเผลอเปิดขึ้นมา ก็จะเห็นสไลม์อย่างชัดเจน

ท่านพ่อตั้งใจทำให้กระโปรงชุดเมดสั้นเพื่อที่จะเฝ้ามองความอับอายของฉันได้อย่างชัดเจน

นี่เป็นคำอธิบายที่ดีพอสำหรับคำถามของเธอไหม?”

 

…….

 

 

แล้วทั้งคู่ก็เงียบกันไปสักพักหนึ่ง

 

สามสิบหกวิธีที่เธอตั้งใจจะข่มเดซี่ของอิวาร์พลันหายวับไปจากสมองทันที

หัวของเธอโล่งว่าง จนทำให้เธอพูดออกมาได้แค่อย่างเดียว

 

“……อะไระนะคะ?”

 

ณ ตอนนั้นเอง 

เผียะ! เสียงตบดังลั่นไปทั่วทั้งห้องโถงของปราสาทจอมมาร

เดซี่ตบแก้มขวาของอิวาร์

 

“ความผิดเดิมครั้งที่สอง”

 

“หา……?”

 

“ฉันว่า ฉันบอกเธอชัดแล้วนะ ว่าอย่าตอบคำถามด้วยคำถาม”

 

อารมณ์บนใบหน้าของเดซี่ไม่เปลี่ยนไปเลย เธอยังคงรักษารอยยิ้มได้เหมือนปกติ

ราวกับเธอไม่ได้ตบหน้าใครทั้งนั้น

 

 

“แน่นอนฉันน่ะก็เคารพเจตจำนงเสรีของมิสอีวาร์อยู่หรอก ดังนั้นการให้การตักเตือนนั้นจึงมิใช่การบังคับขู่เข็ญเจตจำนงเสรีของคุณ

 

หากจะพูดอีกแง่ก็คือ ไม่สำคัญหรอกว่า คุณจะมีเจตนาจะทำอะไร คุณก็ไม่มีทางหลบเลี่ยงการลงโทษของฉันได้ค่ะ”

 

 

“……มิสอีวาร์ ฉันได้อธิบายไปแล้วใช่ไหม ทำไมกระโปรงเครื่องแบบเมดของพวกเราถึงได้สั้น 

แล้วเธอยังมีคำถามอื่น ก่อนเราจะเริ่มงานอีกไหม?”

 

อิวาร์ตอบกลับในทันที

 

“มะ-ไม่ค่ะ ไม่มีแล้ว”

 

“ถ้าเช่นนั้น เราจะเริ่มต้นงานในวันนี้”

 

เดซี่หันหลังกลับไปแล้วเดินออกจากห้องโถง

อิวาร์เฝ้ามองแผ่นหลังของเธอ และได้ข้อสรุปในหัว

 

 

— แม่นี่มันบ้าไปแล้ว

 

ไม่ใช่คนบ้าธรรมดา เด็กสาวคนนั้นยิ้มตลอดตั้งแต่เริ่มจนจบ

 

นอกจากจะพูดเรื่องต่ำทรามอย่างสไลม์ในจิมิหรืออะไรก็ตามแต่ เธอยังสามารถตบตีคนอื่นได้โดยไม่มีความลังเล ทั้งที่ยังยิ้มอยู่อย่างนั้น!

 

สิ่งหนึ่งที่อิวาร์รู้มาตลอดชีวิตถึงการที่รอยยิ้มนั้นมีสองแบบ

:แบบหนึ่งคือ มาจากความสุภาพจากภายใน และอีกแบบก็คือมาจากคนบ้า

 

ไม่ต้องถามซ้ำก็ดูออกเลยว่า แม่นั่นเป็นพวกหลัง

 

 

‘บ้าจริง ใครจะไปคิดล่ะว่า เด็กสาวคนที่จะมาเป็นอาจารย์ของฉันจะเป็นคนบ้าขนาดนี้’

 

อิวาร์บ่นโทษชะตาตัวเอง เธอจากต้องขยายแผนการยึดครองจากห้าปีเป็นหกปี หลังจากเดินมาจากห้องโถงตามหลังสักพัก เดซี่ก็หยุด

 

 

“งานแรกก็คือ การทำความสะอาดชั้นใต้ดินทั้งสิบชั้น ฉันจะประเมินทักษะงานทำความสะอาดของมิสอีวาร์เป็นอย่างแรก”

 

“ค่ะ, อาจารย์”

 

นับเป็นโชคดีที่ อิวาร์นั้นมีทักษะหลากหลายเรื่องงานบ้านงานเรือน

 

ทั้งการกวาด,การเช็ด,การซักล้างผ้า,การปัดฝุ่งพรม และงานอื่นๆ อิวาร์สามารถทำตามคำสั่งได้โดยง่าย

และแน่นอน เธอตั้งใจทำงานเพื่อที่จะไม่โดนยัยเด็กบ้าตบหน้าเธออีกรอบ

 

 

ฟุ่บ

 

เดซี่ใช้นิ้วถูลากมุมห้องทางเดิน เพื่อยืนยันว่ามันไม่มีฝุ่นจับ เดซี่พยักหน้า

 

“ยอดเยี่ยมมาก ฉันเชื่อว่า ฉันสามารถส่งรายงานดีๆให้ท่านลาพิสได้”

 

“ขอบคุณมากค่ะ”

 

 

อิวาร์ถึงกับเหงื่อตก 

นังเด็กบ้านี่แปลความหมายของการทำความสะอาดว่า สะอาดในทุกๆตารางนิ้ว ทุกซอกแยก ทุกรอยแตก โดยที่ต้องไม่มีเศษฝุ่นไม่มีผงอยู่เลยในทางเดิน 

 

 

“เอาล่ะ เรามาพักกินข้าวกันก่อนจะเริ่มงานที่สอง”

 

“งานที่สองคืออะไรคะ?”

 

เดซี่ตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย

 

“ทรมาน”

 

“…….”

 

อิวาร์เกือบเผลอตะโกนออกมาว่า   ‘อะไรนะคะ?’ แต่ก็รีบยั้งปากกลืนน้ำลายพร้อมถ้อยคำที่อยากจะพูดออกไป

 

เธอไม่อยากโดนเด็กสาวตบ

 

 

 

“หนึ่งในงานสำคัญในฐานะสาวใช้คือการทรมานนักผจญภัยที่บุกเข้ามาในปราสาทจอมมาร”

 

“…….”

 

“หรือพูดอีกอย่างหนึ่ง ท่านพ่ออยากจะให้ฉันค้นพบความเพลิดเพลินในการทรมานผู้คน

 

เธอได้พบความจริงอีกอย่างเกี่ยวกับท่านพ่อแล้วนะ

ขอแสดงความยินดีด้วย ฉันหวังว่านี่จะทำให้เธอรู้สึกดี”

 

 

ตอนนั้นเองที่ทำให้อิวาร์ ล็อดบรอค เริ่มรู้ตัวขึ้นมาแล้วว่า

 

บางทีเธออาจไม่ควรย่างเท้ามาอยู่ที่แห่งนี้ด้วยซ้ำ

 

 

 

 

ส่งท้ายจากผู้เขียน 

 

เข้า_ง่าย_แต่_ออก_ไป_ไม่_ได้_แล้ว_ล่ะ.avi

 

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด