Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 52 ปฏิบัติการ ”เคลื่อนย้าย” (2)
Emperor of Steel-กําเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล
บทที่ 52 ปฏิบัติการ ”เคลื่อนย้าย” (2)
“หุหุหุ ดี”
ในที่สุดลุคก็ยิ้มขึ้น หลังจากที่ได้ประชุมอยู่กับเหล่าคนรับใช้เป็นเวลานาน
กระบวนการนี้ทําให้เขาสามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเจ้าหญิงและจัดการกับแหล่งที่มาของทองคําและแท่งเงินจากเหมือง
“และด้วยการเก็บเกี่ยวอีกครั้ง ข้าก็จะไม่ต้องฟังพวกคนรับใช้ที่ชอบบอกว่าไม่อยากให้ข้าไปที่ปราสาท”
จนถึงช่วงเวลานี้ มันไม่มีใครเลยที่อยากให้ลุคเข้าไปในปราสาทราชาปีศาจครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่ในวันนี้ สิ่งที่พวกเขาได้รับจากมันนั้นยอดเยี่ยมมาก จนมันไม่สําคัญอีกต่อไปว่าลุคจะตัดสินใจอยู่ที่นั่นนานแค่ไหน
“นายท่าน ท่านจะไม่เรียนฟันดาบเหรอ”
โรเจอร์สปิดกั้นทางเข้าปราสาทและถามลุค
ก่อนเกิดอุบัติเหตุลุคได้เรียนรู้และฝึกฝนการใช้ดาบสีเงินซึ่งเป็นดาบของอัศวินรากันต์
แม้ว่าความสําเร็จจะไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรมากนัก แต่เขาก็ยังคงฝึกฝนมันอย่างหนัก อย่างไรก็ตามหลังจากตื่นขึ้นจากอุบัติเหตุเขาก็ไม่ได้ฝึกฝนมันอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ตอนนี้ข้าใช้เวทมนตร์มากกว่าฟันดาบ…ไม่สิ ข้าก็ควรที่จะเรียนดาบ”
ลุคเคยบอกว่าเขาต้องการเรียนรู้เวทมนตร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้เขาจึงลดการฝึกฟันดาบและใช้เวลานั้นเพื่อเวทมนตร์
อย่างไรก็ตาม การลอบสังหารที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนได้ทําให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไป
ตอนนั้นเขาเกือบจะต้องตายเพราะวงเวทย์แห่งความมืดได้หยุดลง
แน่นอนว่าเป็นเพราะคําสาปที่ใครบางคนสาปใส่ลูกหลานของรากันต์
“ข้าต้องเรียนวิชาดาบด้วย ไม่จะได้มีวิธีจัดการกับศัตรูในยามที่เวทมนตร์ใช้ไม่ได้”
เมื่อลุคตัดสินใจเปลี่ยนใจ ใบหน้าของโรเจอร์ก็สดใสขึ้นมาทันใด
“หึหึ งั้นก็ย้ายไปสนามฝึกกัน”
ลุคเดินตามโรเจอร์สไปที่สนามฝึกเฉพาะของอัศวินในลานสวนสนาม
ในตอนนี้ทุกคนต่างก็ไปทํางาน มันเลยยังไม่มีใครมาฝึก
“ข้าจะผ่อนคลายเล็กน้อยและรอดูความสําเร็จของคนอื่น
“โอเค”
เมื่อลุคหยิบดาบขึ้นมาจากแท่นวาง ทั้งสองคนก็เข้าไปยืนประจําตําแหน่งเพื่อเริ่มฝึกฝน
คัง! อึ้ง !!
แม้มันจะไม่ใช่ดาบขึ้นชื่ออะไร แต่ทุกครั้งที่มันกระทบเข้ากับดาบอีกเล่มหนึ่ง ประกายไฟก็จะโผล่ออกมา
แม้ว่าลุคจะเป็นนักเวท แต่เขาก็เคยต่อสู้กับอัศวินเพื่อป้องกันตัว ในสมัยตอนที่เขาเป็นเซย์มอน
และในขณะที่ลอร์ดหนุ่มเจ้าของร่างเดิมซึ่งเคยฝึกฝนร่างกายอย่างหนักมาก่อน มันจึงทําให้เขาสามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีของโรเจอร์สได้อย่างเหมาะสมและรอบคอบ
โหเขาเคลื่อนไหวได้เร็วและแรงกว่าเดิมมาก ในอดีตนายท่านมักจะโจมตีแบบสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขากําลังศึกษาคู่ต่อสู้และพยายามอ่านท่าทางของพวกเขา
โรเจอร์สดูเหมือนจะประหลาดใจ
อย่างไรก็ตาม การกระทําของเขาก็ไม่เหมือนกับความรู้สึกของเขาเอง เขายังคงชี้แนะให้ลุคเข้าใจถึงจุดต่างๆ
“ในสถานการณ์แบบนี้ ท่านควรที่จะโจมตีมากกว่าที่จะปิดกั้นด้วยดาบแบบนี้”
“ช้าไป ท่านจะเอาชนะศัตรูด้วยการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้าเช่นนี้ได้อย่างไร”
ลุคเริ่มรู้สึกไม่พอใจกับการโจมตีทางความคิดและข่มขู่อย่างต่อเนื่อง
ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่รู้ตัวว่าเขากําลังผสมเวทมนตร์ของเขาเข้ากับดาบ
อุยอง!
ออร่าสีม่วงจางๆ เริ่มก่อตัวขึ้นรอบๆดาบ
โรเจอร์สอดไม่ได้ที่จะดูประหลาดใจ
“นั่นมัน..
ลุคที่ยึดติดกับการล้มโรเจอร์ส เริ่มทําการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของโรเจอร์ส
” เช้ง!”
โรเจอร์สที่เริ่มรู้สึกประหม่าก็แทบจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีจากลุคได้
นอกจากนี้ดาบของเขายังปะทะกับดาบออร่าขนาดเล็กของลุค
คัง! กร้าก!
ดาบที่ปะทะกันในตอนนี้นั้นน่าตื่นเต้นกว่าเมื่อก่อนมาก
ในช่วงแรกการเผชิญหน้าที่ตึงเครียดได้เกิดขึ้น แต่ในที่สุดดาบของลุคก็ลอยไปไกล
ไม่ว่าเขาจะเรียนรู้การป้องกันตัวและประสบการณ์ในทางปฏิบัติมามากเพียงใด แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะชนะผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงของตระกูลดาบออร์โธดอกซ์
“นั่นคือทั้งหมดสําหรับวันนี้”
“ หุหุ แต่ข้ายังสู้ได้อีกหน่อยนะ”
ในตอนท้ายของชั้นเรียน ลุคก็กล่าวออกมา
“มันไม่ดีที่จะทําเช่นนั้น สิ่งสําคัญคือต้องรู้ว่าเมื่อใดควรหยุดพัก และเมื่อใดควรเข้มแข็งขึ้น”
โรเจอร์สพูดด้วยความตื่นเต้น
“ว่าแต่นายท่านสามารถสร้างออร่าได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“ออร่า?”
“ใช่ ออร่าสีม่วงที่ท่านใช้นั่นไง”
“อ๊ะนั่น…”
เขาไม่รู้ตัวเพราะเขาถูกกลืนเข้าไปในความคิดที่จะโจมตีมากเกินไป แต่ตอนนี้เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็นึกขึ้นได้ว่าเขานั้นได้ใส่เมไจเข้าไปในนั้น
“การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของมานา, วิธีการทํางาน เมื่อดาบผสมกับเมไจ?”
เมื่อวันก่อนระหว่างการลอบสังหารเขาได้ดูดซับออร่าและพลังชีวิตขอศัตรูด้วยเวทมนตร์แห่งความมืด
แต่ไม่ว่าใครจะดูดซับไปมากแค่ไหน มันก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดีหากพวกเขาไม่รู้วิธีใช้มัน
ในตอนนั้นลุคกําลังโกรธกับคําตําหนิของโรเจอร์ส และจึงเผลอใส่เมไจลงไปในดาบ
“ออร่าเกิดจากการแสดงอารมณ์?”
เช่นเดียวกับเวทมนตร์ มันมีความคิดและเจตจํานงอยู่ในการทํางานของมัน
อย่างไรก็ตามความปรารถนาที่จะเอาชนะโรเจอร์สได้ทําให้พวกเมไจกลายเป็นออร่า
“ข้าไม่สามารถบอกได้ว่าท่านทํามันได้อย่างไรมันอาจเกิดจากสมาธิหรือเพราะความเฉียบคมของท่าน แต่ถ้าท่านฝึกฝนอีกสักหน่อย ท่านก็จะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ดีได้”
เมื่อลุคไม่ตอบสนอง โรเจอร์สก็รู้ว่าทําไมเขาถึงวู่วาม
“ข้าคิดว่าเขาไม่สนใจเรื่องฟันดาบ…”
มีการพูดคุยกันมากมายในหมู่อัศวินในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เกี่ยวกับความสนใจของลุคในการเรียนรู้เวทมนตร์จากมิวท์
นับว่าโชคดีที่ลุคนั้นดูน่าเชื่อถือกว่าแต่ก่อน แต่เขาก็ไม่ใช่ทั้งพ่อมดหรืออัศวิน
พวกเขาภูมิใจในตระกูลของรากันต์ เนื่องจากเรื่องราวของนักรบผู้กล้าหาญที่สร้างมาตรฐานที่โดดเด่นของอัศวิน
แต่ตอนนี้เจ้านายของพวกเขากลับอยากจะเป็นพ่อมด?
“นั่นจะไม่มีวันเกิดขึ้น!
โรเจอร์สสาบานกับจนเองว่าเขาจะป้องกันสิ่งนั้น
ดังนั้นหลังจากบจากหลักสูตรดาบเงิน โรเจอร์สก็เลือกที่จะสอนสิ่งที่เขาต้องการ
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะสอนท่านถึง “เพลงดาบสุวรรณ”
“เพลงดาบสุวรรณ?”
ลุคตกใจไปชั่วขณะ
เขาจะเพิกเฉยต่อสิ่งนั้นได้อย่างไร?
เพราะดาบที่แทงทะลุหัวใจของเขาเมื่อ 500 ปีก่อนคือเพลงดาบสุวรรณ นี่แหละ
แต่ทันใดนั้น มันก็มีบางอย่างโผล่เข้ามาในห้วงความคิดของเขา
“เพลงดาบสุวรรณนั้นไม่ใช่สิ่งของที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นหรอ”
เขารู้เกี่ยวกับความยิ่งใหญ่ของดาบเล่มนี้หลังจากฟื้นขึ้น ตามที่ระบุไว้ในลําดับวงศ์ตระกูล หลักการของมันนั้นก็เหมือนกับมรดกตกทอดของตระกูล
“แน่นอนมันเป็นอย่างนั้น แต่เมื่อ 250 ปีที่แล้ว ข้อยกเว้นก็ได้เกิดขึ้น”
เนื่องจากทายาทของตระกูลรากันต์นั้นมีอายุสั้น และในบางกรณีร่างกายของพวกเขาก็อ่อนแอมากซะจนบางคนได้แต่ยอมรับความตาย
ด้วยเหตุนี้ทายาทจึงมีปัญหากับประเพณีของเพลงดาบสุวรรณและเมื่อ 250 ปีก่อนในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจ
บรรพบุรุษคนหนึ่งกลัวว่าเพลงดาบซึ่งเป็นมรดกตกทอ ดของตระกูลจะสูญหายไป เขาจึงให้แม่ทัพอัศวินเป็นคนดูแลเรื่องนี้และให้เก็บมันไว้เป็นความลับ
“โอ้พระเจ้า!”
เพราะฉะนั้นแม้ลอร์ดจะตายไป แต่เพลงดาบนี้ก็จะไม่สูญหายไปแน่นอน
ลุคนั้นไม่รู้เรื่องถึงนี้และนั่นคือสาเหตุที่ทําให้ตํานานของไวเคานต์รากันต์ไม่ถูกทําลายลงในช่วง 500 ปีที่ผ่านมา
อัศวินในอดีตที่ได้เรียนรู้เพลงดาบสุวรรณนั้นถือว่าเป็นผู้สนับสนุนตระกูลที่แข็งแกร่งและมีทักษะที่ยอดเยี่ยม
“ถ้าข้าเรียนรู้เพลงดาบสุวรรณ ข้าก็จะกลายเป็นจักรพรรดิ ดาบเหมือนกับรากันต์บรรพบุรุษของข้าได้อย่างนั้นหรอ”
“ข้าเกรงว่านั่นอาจจะเป็นไปไม่ได้ เพราะเราได้สูญเสียครึ่งหลังของวิชาดาบไปเมื่อ 400 ปีก่อน แต่ข้าสามารถรับปากได้ว่าท่านจะสามารถเป็นปรมาจารย์ดาบได้แน่นอนหากเรียนครึ่งแรกเสร็จ”
อัศวินทั้งเจ็ดในอดีตนั้นก็สามารถกลายเป็นปรมาจารย์ดาบ ได้หลังจากเรียนรู้มัน
โรเจอร์สซึ่งอยู่ในช่วงอายุ 40 ต้นๆเองก็แซงหน้าผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดไปแล้ว
“แต่เป็นเรื่องแปลกมากที่ไม่มีบรรพบุรุษคนใดได้กลายมาเป็นปรมาจารย์ดาบ หรือมันจะเป็นเพราะคําสาปรึเปล่านะ?”
โรเจอร์สส่ายหัวพร้อมกับปัดความคิดในใจของเขาตกไป และบอกลุคเกี่ยวกับเพลงดาบสุวรรณต่อไป
เขาอธิบายประวัติศาสตร์และประเด็นหลักของเพลงดาบสุวรรณที่ละขั้นตอน
“เพลงดาบสุวรรณนั้นมีพื้นฐานเกี่ยวกับการไหลเวียนของมานา มากกว่าการฟันดาบ หากท่านสามารถอ่านการไหลของมานาที่ซ่อนอยู่ในดาบ…”
ในบางครั้งดาบของโรเจอร์เริ่มเรืองแสงสีทองจางๆ
ลุคกําหมัดแน่นโดยที่เขาไม่รู้ตัว
เขายังจําอดีตในตอนที่เขาถูกสังหารโดยดาบทองได้ดี
“เชี่ย! นี่มันไม่ใช่รากันต์และดาบของมัน ไม่มีอะไรที่ข้าต้องกลัว”
ลุคพยายามสงบใจและมองใกล้ๆ ด้วยความเข้มข้นที่น่ากลัวของมัน เขาก็เริ่มจะซึมซับสิ่งที่โรเจอร์สพยายามอธิบาย
“กระแสของมานาสําคัญไหม? อ่าไม่รู้สินะแต่มันควบคุมง่ายกว่าดาบอีก คงเพราะข้าเป็นพ่อมดแหละนะ”
อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากนั้นก็เป็นการยากที่จะเรียนรู้วิชาดาบที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ มันจึงต้องใช้เวลาพอสมควร
ในตอนนี้ลุคไม่ได้ประหม่าอีกต่อไปแล้ว และเขาก็ตัดสินใจที่จะค่อยๆเสริมสร้างทักษะของเขาไปทีละขั้น……..
Comments
Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 52 ปฏิบัติการ ”เคลื่อนย้าย” (2)
Emperor of Steel-กําเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล
บทที่ 52 ปฏิบัติการ ”เคลื่อนย้าย” (2)
“หุหุหุ ดี”
ในที่สุดลุคก็ยิ้มขึ้น หลังจากที่ได้ประชุมอยู่กับเหล่าคนรับใช้เป็นเวลานาน
กระบวนการนี้ทําให้เขาสามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเจ้าหญิงและจัดการกับแหล่งที่มาของทองคําและแท่งเงินจากเหมือง
“และด้วยการเก็บเกี่ยวอีกครั้ง ข้าก็จะไม่ต้องฟังพวกคนรับใช้ที่ชอบบอกว่าไม่อยากให้ข้าไปที่ปราสาท”
จนถึงช่วงเวลานี้ มันไม่มีใครเลยที่อยากให้ลุคเข้าไปในปราสาทราชาปีศาจครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่ในวันนี้ สิ่งที่พวกเขาได้รับจากมันนั้นยอดเยี่ยมมาก จนมันไม่สําคัญอีกต่อไปว่าลุคจะตัดสินใจอยู่ที่นั่นนานแค่ไหน
“นายท่าน ท่านจะไม่เรียนฟันดาบเหรอ”
โรเจอร์สปิดกั้นทางเข้าปราสาทและถามลุค
ก่อนเกิดอุบัติเหตุลุคได้เรียนรู้และฝึกฝนการใช้ดาบสีเงินซึ่งเป็นดาบของอัศวินรากันต์
แม้ว่าความสําเร็จจะไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรมากนัก แต่เขาก็ยังคงฝึกฝนมันอย่างหนัก อย่างไรก็ตามหลังจากตื่นขึ้นจากอุบัติเหตุเขาก็ไม่ได้ฝึกฝนมันอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ตอนนี้ข้าใช้เวทมนตร์มากกว่าฟันดาบ…ไม่สิ ข้าก็ควรที่จะเรียนดาบ”
ลุคเคยบอกว่าเขาต้องการเรียนรู้เวทมนตร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้เขาจึงลดการฝึกฟันดาบและใช้เวลานั้นเพื่อเวทมนตร์
อย่างไรก็ตาม การลอบสังหารที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนได้ทําให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไป
ตอนนั้นเขาเกือบจะต้องตายเพราะวงเวทย์แห่งความมืดได้หยุดลง
แน่นอนว่าเป็นเพราะคําสาปที่ใครบางคนสาปใส่ลูกหลานของรากันต์
“ข้าต้องเรียนวิชาดาบด้วย ไม่จะได้มีวิธีจัดการกับศัตรูในยามที่เวทมนตร์ใช้ไม่ได้”
เมื่อลุคตัดสินใจเปลี่ยนใจ ใบหน้าของโรเจอร์ก็สดใสขึ้นมาทันใด
“หึหึ งั้นก็ย้ายไปสนามฝึกกัน”
ลุคเดินตามโรเจอร์สไปที่สนามฝึกเฉพาะของอัศวินในลานสวนสนาม
ในตอนนี้ทุกคนต่างก็ไปทํางาน มันเลยยังไม่มีใครมาฝึก
“ข้าจะผ่อนคลายเล็กน้อยและรอดูความสําเร็จของคนอื่น
“โอเค”
เมื่อลุคหยิบดาบขึ้นมาจากแท่นวาง ทั้งสองคนก็เข้าไปยืนประจําตําแหน่งเพื่อเริ่มฝึกฝน
คัง! อึ้ง !!
แม้มันจะไม่ใช่ดาบขึ้นชื่ออะไร แต่ทุกครั้งที่มันกระทบเข้ากับดาบอีกเล่มหนึ่ง ประกายไฟก็จะโผล่ออกมา
แม้ว่าลุคจะเป็นนักเวท แต่เขาก็เคยต่อสู้กับอัศวินเพื่อป้องกันตัว ในสมัยตอนที่เขาเป็นเซย์มอน
และในขณะที่ลอร์ดหนุ่มเจ้าของร่างเดิมซึ่งเคยฝึกฝนร่างกายอย่างหนักมาก่อน มันจึงทําให้เขาสามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีของโรเจอร์สได้อย่างเหมาะสมและรอบคอบ
โหเขาเคลื่อนไหวได้เร็วและแรงกว่าเดิมมาก ในอดีตนายท่านมักจะโจมตีแบบสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขากําลังศึกษาคู่ต่อสู้และพยายามอ่านท่าทางของพวกเขา
โรเจอร์สดูเหมือนจะประหลาดใจ
อย่างไรก็ตาม การกระทําของเขาก็ไม่เหมือนกับความรู้สึกของเขาเอง เขายังคงชี้แนะให้ลุคเข้าใจถึงจุดต่างๆ
“ในสถานการณ์แบบนี้ ท่านควรที่จะโจมตีมากกว่าที่จะปิดกั้นด้วยดาบแบบนี้”
“ช้าไป ท่านจะเอาชนะศัตรูด้วยการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้าเช่นนี้ได้อย่างไร”
ลุคเริ่มรู้สึกไม่พอใจกับการโจมตีทางความคิดและข่มขู่อย่างต่อเนื่อง
ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่รู้ตัวว่าเขากําลังผสมเวทมนตร์ของเขาเข้ากับดาบ
อุยอง!
ออร่าสีม่วงจางๆ เริ่มก่อตัวขึ้นรอบๆดาบ
โรเจอร์สอดไม่ได้ที่จะดูประหลาดใจ
“นั่นมัน..
ลุคที่ยึดติดกับการล้มโรเจอร์ส เริ่มทําการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของโรเจอร์ส
” เช้ง!”
โรเจอร์สที่เริ่มรู้สึกประหม่าก็แทบจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีจากลุคได้
นอกจากนี้ดาบของเขายังปะทะกับดาบออร่าขนาดเล็กของลุค
คัง! กร้าก!
ดาบที่ปะทะกันในตอนนี้นั้นน่าตื่นเต้นกว่าเมื่อก่อนมาก
ในช่วงแรกการเผชิญหน้าที่ตึงเครียดได้เกิดขึ้น แต่ในที่สุดดาบของลุคก็ลอยไปไกล
ไม่ว่าเขาจะเรียนรู้การป้องกันตัวและประสบการณ์ในทางปฏิบัติมามากเพียงใด แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะชนะผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงของตระกูลดาบออร์โธดอกซ์
“นั่นคือทั้งหมดสําหรับวันนี้”
“ หุหุ แต่ข้ายังสู้ได้อีกหน่อยนะ”
ในตอนท้ายของชั้นเรียน ลุคก็กล่าวออกมา
“มันไม่ดีที่จะทําเช่นนั้น สิ่งสําคัญคือต้องรู้ว่าเมื่อใดควรหยุดพัก และเมื่อใดควรเข้มแข็งขึ้น”
โรเจอร์สพูดด้วยความตื่นเต้น
“ว่าแต่นายท่านสามารถสร้างออร่าได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“ออร่า?”
“ใช่ ออร่าสีม่วงที่ท่านใช้นั่นไง”
“อ๊ะนั่น…”
เขาไม่รู้ตัวเพราะเขาถูกกลืนเข้าไปในความคิดที่จะโจมตีมากเกินไป แต่ตอนนี้เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็นึกขึ้นได้ว่าเขานั้นได้ใส่เมไจเข้าไปในนั้น
“การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของมานา, วิธีการทํางาน เมื่อดาบผสมกับเมไจ?”
เมื่อวันก่อนระหว่างการลอบสังหารเขาได้ดูดซับออร่าและพลังชีวิตขอศัตรูด้วยเวทมนตร์แห่งความมืด
แต่ไม่ว่าใครจะดูดซับไปมากแค่ไหน มันก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดีหากพวกเขาไม่รู้วิธีใช้มัน
ในตอนนั้นลุคกําลังโกรธกับคําตําหนิของโรเจอร์ส และจึงเผลอใส่เมไจลงไปในดาบ
“ออร่าเกิดจากการแสดงอารมณ์?”
เช่นเดียวกับเวทมนตร์ มันมีความคิดและเจตจํานงอยู่ในการทํางานของมัน
อย่างไรก็ตามความปรารถนาที่จะเอาชนะโรเจอร์สได้ทําให้พวกเมไจกลายเป็นออร่า
“ข้าไม่สามารถบอกได้ว่าท่านทํามันได้อย่างไรมันอาจเกิดจากสมาธิหรือเพราะความเฉียบคมของท่าน แต่ถ้าท่านฝึกฝนอีกสักหน่อย ท่านก็จะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ดีได้”
เมื่อลุคไม่ตอบสนอง โรเจอร์สก็รู้ว่าทําไมเขาถึงวู่วาม
“ข้าคิดว่าเขาไม่สนใจเรื่องฟันดาบ…”
มีการพูดคุยกันมากมายในหมู่อัศวินในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เกี่ยวกับความสนใจของลุคในการเรียนรู้เวทมนตร์จากมิวท์
นับว่าโชคดีที่ลุคนั้นดูน่าเชื่อถือกว่าแต่ก่อน แต่เขาก็ไม่ใช่ทั้งพ่อมดหรืออัศวิน
พวกเขาภูมิใจในตระกูลของรากันต์ เนื่องจากเรื่องราวของนักรบผู้กล้าหาญที่สร้างมาตรฐานที่โดดเด่นของอัศวิน
แต่ตอนนี้เจ้านายของพวกเขากลับอยากจะเป็นพ่อมด?
“นั่นจะไม่มีวันเกิดขึ้น!
โรเจอร์สสาบานกับจนเองว่าเขาจะป้องกันสิ่งนั้น
ดังนั้นหลังจากบจากหลักสูตรดาบเงิน โรเจอร์สก็เลือกที่จะสอนสิ่งที่เขาต้องการ
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะสอนท่านถึง “เพลงดาบสุวรรณ”
“เพลงดาบสุวรรณ?”
ลุคตกใจไปชั่วขณะ
เขาจะเพิกเฉยต่อสิ่งนั้นได้อย่างไร?
เพราะดาบที่แทงทะลุหัวใจของเขาเมื่อ 500 ปีก่อนคือเพลงดาบสุวรรณ นี่แหละ
แต่ทันใดนั้น มันก็มีบางอย่างโผล่เข้ามาในห้วงความคิดของเขา
“เพลงดาบสุวรรณนั้นไม่ใช่สิ่งของที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นหรอ”
เขารู้เกี่ยวกับความยิ่งใหญ่ของดาบเล่มนี้หลังจากฟื้นขึ้น ตามที่ระบุไว้ในลําดับวงศ์ตระกูล หลักการของมันนั้นก็เหมือนกับมรดกตกทอดของตระกูล
“แน่นอนมันเป็นอย่างนั้น แต่เมื่อ 250 ปีที่แล้ว ข้อยกเว้นก็ได้เกิดขึ้น”
เนื่องจากทายาทของตระกูลรากันต์นั้นมีอายุสั้น และในบางกรณีร่างกายของพวกเขาก็อ่อนแอมากซะจนบางคนได้แต่ยอมรับความตาย
ด้วยเหตุนี้ทายาทจึงมีปัญหากับประเพณีของเพลงดาบสุวรรณและเมื่อ 250 ปีก่อนในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจ
บรรพบุรุษคนหนึ่งกลัวว่าเพลงดาบซึ่งเป็นมรดกตกทอ ดของตระกูลจะสูญหายไป เขาจึงให้แม่ทัพอัศวินเป็นคนดูแลเรื่องนี้และให้เก็บมันไว้เป็นความลับ
“โอ้พระเจ้า!”
เพราะฉะนั้นแม้ลอร์ดจะตายไป แต่เพลงดาบนี้ก็จะไม่สูญหายไปแน่นอน
ลุคนั้นไม่รู้เรื่องถึงนี้และนั่นคือสาเหตุที่ทําให้ตํานานของไวเคานต์รากันต์ไม่ถูกทําลายลงในช่วง 500 ปีที่ผ่านมา
อัศวินในอดีตที่ได้เรียนรู้เพลงดาบสุวรรณนั้นถือว่าเป็นผู้สนับสนุนตระกูลที่แข็งแกร่งและมีทักษะที่ยอดเยี่ยม
“ถ้าข้าเรียนรู้เพลงดาบสุวรรณ ข้าก็จะกลายเป็นจักรพรรดิ ดาบเหมือนกับรากันต์บรรพบุรุษของข้าได้อย่างนั้นหรอ”
“ข้าเกรงว่านั่นอาจจะเป็นไปไม่ได้ เพราะเราได้สูญเสียครึ่งหลังของวิชาดาบไปเมื่อ 400 ปีก่อน แต่ข้าสามารถรับปากได้ว่าท่านจะสามารถเป็นปรมาจารย์ดาบได้แน่นอนหากเรียนครึ่งแรกเสร็จ”
อัศวินทั้งเจ็ดในอดีตนั้นก็สามารถกลายเป็นปรมาจารย์ดาบ ได้หลังจากเรียนรู้มัน
โรเจอร์สซึ่งอยู่ในช่วงอายุ 40 ต้นๆเองก็แซงหน้าผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดไปแล้ว
“แต่เป็นเรื่องแปลกมากที่ไม่มีบรรพบุรุษคนใดได้กลายมาเป็นปรมาจารย์ดาบ หรือมันจะเป็นเพราะคําสาปรึเปล่านะ?”
โรเจอร์สส่ายหัวพร้อมกับปัดความคิดในใจของเขาตกไป และบอกลุคเกี่ยวกับเพลงดาบสุวรรณต่อไป
เขาอธิบายประวัติศาสตร์และประเด็นหลักของเพลงดาบสุวรรณที่ละขั้นตอน
“เพลงดาบสุวรรณนั้นมีพื้นฐานเกี่ยวกับการไหลเวียนของมานา มากกว่าการฟันดาบ หากท่านสามารถอ่านการไหลของมานาที่ซ่อนอยู่ในดาบ…”
ในบางครั้งดาบของโรเจอร์เริ่มเรืองแสงสีทองจางๆ
ลุคกําหมัดแน่นโดยที่เขาไม่รู้ตัว
เขายังจําอดีตในตอนที่เขาถูกสังหารโดยดาบทองได้ดี
“เชี่ย! นี่มันไม่ใช่รากันต์และดาบของมัน ไม่มีอะไรที่ข้าต้องกลัว”
ลุคพยายามสงบใจและมองใกล้ๆ ด้วยความเข้มข้นที่น่ากลัวของมัน เขาก็เริ่มจะซึมซับสิ่งที่โรเจอร์สพยายามอธิบาย
“กระแสของมานาสําคัญไหม? อ่าไม่รู้สินะแต่มันควบคุมง่ายกว่าดาบอีก คงเพราะข้าเป็นพ่อมดแหละนะ”
อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากนั้นก็เป็นการยากที่จะเรียนรู้วิชาดาบที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ มันจึงต้องใช้เวลาพอสมควร
ในตอนนี้ลุคไม่ได้ประหม่าอีกต่อไปแล้ว และเขาก็ตัดสินใจที่จะค่อยๆเสริมสร้างทักษะของเขาไปทีละขั้น……..
Comments