Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 54 ปฏิบัติการ ”เคลื่อนย้าย” (4)
Emperor of Steel-กําเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล
บทที่ 54 ปฏิบัติการ ”เคลื่อนย้าย” (4)
“เจ้าพูดว่อะไรนะ! เจ้าคิดว่าพวกคนในสลัมคิดที่จะหนีออกนอกปราสาทอย่างนั้นหรอ?”
หลังจากได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา คริส นายอําเภอเมืองลาเมอร์ก็ดูรําคาญอย่างมาก
“โรคนี้ยังไม่ได้ระบาดมากนัก ท่านต้องการให้เราทําอย่างไร?”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไรว่าเจ้าต้องทําอะไร? ข้าต้องการให้ทหารรีบไปที่สลัมในทันที และเพิ่มการลาดตระเวนเดี๋ยวนี้”
สําหรับเขามันไม่สําคัญว่าคนในสลัมจะเสียชีวิตหรือไม่
เขาแค่กังวลว่าโรคระบาดจะแพร่เข้ามาในเมือง ซึ่งเป็นสาเหตุที่เขาคิดจะปิดกันประตูและปรับปรุงการลาดตระเวน
‘หากสถานการณ์ยังเลวร้ายลงไป เราก็สามารถใช้กําลังทหารกวาดล้างสลัมได้
คริสกําลังคิดเกี่ยวกับมัน’
“จะไม่เป็นไรใช่ไหม? มันจะละเมิดคําสั่งของท่านเคานต์หรือเปล่าครับท่าน”
โกทจึงสั่งให้กองกําลังความมั่นคงคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของผู้คนในสลัม
เป็นผลให้จํานวนยามและเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนใกล้สลัมเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า อย่างไรก็ตามปัญหาคือตํารวจยังมีไม่เพียงพอ
“ถึงมีสมองไหม? ระหว่างการขัดคําสั่งกับโรคร้ายแพร่ระบาดแล้วคนตาย ถึงคิดไม่ได้รึไง?”
คริสตอบอย่างไม่สนใจคําสั่งของโกท
เขาไม่ชอบขี้หน้าโกทอยู่แล้ว โกทซึ่งได้รับการคัดเลือกมาจากนอกดินแดนเมื่อไม่กี่ปีก่อนและไม่ได้เป็นแม้กระทั่งคนรับใช้ตระกูลโมนาร์ชด้วยซ้ํา
“แต่แม้ว่าคนที่สั่งเราจะเป็นโกท แต่มันก็หมายถึงคําสั่งของเคานต์…”
“ไม่เป็นไร ข้าจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่เอง”
เมื่อยินคําพูดเหล่านั้นของคริส ทหารคนนั้นก็พยักหน้า
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่รู้
ว่าเคานต์โมนาร์ชและโกทนั้นกําลังสนใจเรื่องสลัม
ถ้านายอําเภอรู้ว่าสาเหตุที่ท่านเคานต์กดดันและกดขี่คนยากจนเป็นเพราะจุดประสงค์เพื่อให้เรย์น่ามาเป็นนางบําเรอของเขา เขาก็จะไม่มีวันละเลยการสอดส่องดูแล
ตกดึกเมื่อดวงจันทร์ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
ผู้คนที่กําลังแบกและถือกระเป๋าต่างก็หลั่งไหลมาที่ถนน
ผู้คนเกือบสองหมื่นคนกําลังรวมตัวกันอยู่ในสลัมพร้อมกับเจ้าหญิงเรย์น่า
“ทุกคนมากันครบหรือยัง”
“ครบแล้วครับ เราสามารถออกเดินทางได้ทันที”
วิคเตอร์ที่ในชุดเกราะของอัศวินผู้พิทักษ์แห่งอาณาจักรโวลก้าตอบรับอย่างจริงจัง
เขาหยิบเกราะทรงจานซึ่งถูกเก็บเข้าไปในมุมในโกดังเป็นเวลานาน เขาทามันด้วยน้ํามันและทําการขัดมันด้วยกระดาษทราย
“ทหารละ?”
“เราไม่เห็นพวกเขาเลยตั้งแต่พวกเขาถอนตัวไปเมื่อสามวันก่อน นั่นหมายความว่าแผนเรานั้นได้ผลคิคิ!”
วิคเตอร์หัวเราะอย่างลับๆ
พาเวลยังถามต่อว่า
“การนัดหมายมีปัญหาอะไรหรือไม่”
“ข้าพึ่งได้รับข้อความมาว่าเรามีแพพร้อมที่จะเดินทางแล้ว อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องอยู่ริมแม่น้ําสักสองวัน”
แน่นอนว่าการเดินทางทางน้ําของลาเมอร์นั้นใช้ไม่ได้ เพราะมันถูกทหารของเคานต์โมนาร์ชปกป้อง
นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาตกลงที่จะพบกับทหารของรากันต์ที่ริมแม่น้ําสองวันห่างจากดินแดนของเคานต์โมนาร์ช
คําถามคือ พวกเขาจะสามารถทําได้อย่างปลอดภัยไหม
พวกเขาเลือกที่จะพลางตัวเพื่อให้เนียนไปกับแม่น้ํา และเมื่อพบว่าสลัมว่างเปล่ามันก็จะสายเกินไปแล้วที่จะไล่ตามพวกเขา
“มันจะสายเกินไปเมื่อเคานต์โมนาร์ชตระหนักได้ว่าเราหายไป…”
“ถ้าพระเจ้าสงสารเรา พระองค์ก็จะส่งเราไปอย่างปลอดภัย”
วิคเตอร์ที่ตอบรับมันตะโกนเรียกผู้คน
“ พร้อมจะไปกันรึยัง!”
“ย้า! พร้อมแล้วกัปตัน!”
การหลบหนีของผู้ลี้ภัยชาวโวลก้ากว่า 20,000 คนได้เริ่มขึ้นแล้ว
“เอลคาสเซิล! โปรดดูแลผู้คนที่เศร้าโศกของเรา!
เรย์น่าอธิษฐานกับท้องฟ้ายามค่ําคืนที่มืดมิดและเริ่มออกเดินทางด้วยเกวียน
เมื่อเร็วๆนี้ เคานต์โมนาร์ชกําลังอารมณ์ดี เพราะมันเริ่มมีสัญญาณของเจ้าหญิงเรย์น่าที่จะเริ่มยอมจํานนแล้ว
“ฮะ! ในที่สุดผู้หญิงคนนั้นก็จะกระโดดเข้ามาในมือของข้า”
เมื่อเขาทราบข่าวครั้งแรกว่าเจ้าหญิงไปหาขุนนางฝ่ายใต้ เพื่อขอความช่วยเหลือ หัวใจของเขาก็ไม่สามารถเต้นอย่างสงบได้
อย่างไรก็ตามดังที่โกหกล่าว เธอกลับมามือเปล่าและถูกหลอกว่าเธอไม่ได้ออกจากสลัมด้วยซ้ํา
“อีกไม่กี่วันเจ้าก็จะต้องถอดกระโปรงของเจ้าและเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของข้า อิๆ!”
เคานต์โมนาร์ชกําลังยิ้มอย่างมีความสุข
ทันใดนั้นประตูก็เปิดกว้างพร้อมกับโกทที่เดินเข้ามา
“นายท่านสลัมว่างเปล่า!”
“อะไรนะ!?”
เคานต์โมนาร์ชไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
“ข้าไม่มีงานทํา ดังนั้นข้าจึงเดินไปรอบๆสลัม แต่ข้าไม่เห็นใครเลยข้าจึงเข้าไปข้างใน และข้าก็ไม่เห็นเจ้าหญิงหรือผู้ส่งสารของเธอ”
“ฮึ!”
เมื่อเคานต์พูดไม่ออก โกทก็โทรหาคริส
หลังจากนั้นไม่นานคริสก็เข้ามาในห้องทํางาน
“นายอําเภอ! สลัมว่างเปล่าตั้งแต่เมื่อไหร่”
คริสโกรธกับคําถาม แต่เขาก็พยายามควบคุมตัวเองขณะที่เคานต์โมนาร์ชเฝ้าดูอยู่
“ท่านหมายถึงอะไร”
“เช้านี้ข้าเห็นอะไรบางอย่าง ข้าจึงไปดูใกล้ๆสลัมและพบว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่น!”
“ไม่ เมื่อเย็นวานนี้พวกเขายังอยู่ที่นั่น”
“ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าพวกเขาจากไปเมื่อเย็นวานนี้ เนื่องจากเมื่อเช้านี้พวกเขาไปกันหมดแล้ว ทําไมเจ้าไม่รายงานข้า ข้าไม่ได้สั่งให้เจ้าจับตาดูพวกเขารึไง!”
“อ๊ะนั่นไง…โรคระบาดกําลังเกิดขึ้นในสลัม…”
“โรคระบาด?”
“ใช่นั่นคือเหตุผลที่ข้าดึงทหารออกไปและย้ายผู้อยู่อาศัยบางส่วนไปยังที่อื่น”
วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดคือการอยู่ห่าง จากมัน
อย่างไรก็ตาม โกทก็มีความคิดอื่นในใจของเขา
เขามองไปที่เคานต์ด้วยสีหน้าเร่งด่วน
“ดูเหมือนเจ้าหญิงจะหนีไปแล้ว”
“ฮะ?เจ้าหญิงหนีไปแล้ว?”
คริสถามด้วยใบหน้าที่รุนงง
“ไอ้โง่ แค่ทําตามคําสั่งง่ายๆก็ยังทําไม่ได้ด้วยซ้ํา! หุบปากไปเลย!”
นายอําเภอที่ยังไม่เข้าใจในสถานการณ์ ถูกตะโกนโดยโกท
“มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลําบากในการรับผู้ลี้ภัยทั้งหมด พวกเขาจะต้องได้รับความช่วยเหลือจากภายนอกแน่นอน…. อย่างไรก็ตามเราต้องส่งทหารไปไล่ตามพวกเขา!”
ความคิดที่ว่าเจ้าหญิงจะหนีไปกําลังอยู่ในความคิดของเขา
อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้หนีไปเฉยๆ เธอยังพาผู้ลี้ภัยที่ถูกจับเป็นตัวประกันไปด้วย!
เคานต์โมนาร์ชรู้สึกโกรธกับสิ่งที่เจ้าหญิงได้ทําไป เขากระโดดออกจากที่นั่งและสั่ง
“สั่งให้หน่วยทหารม้าแมงปองเตรียมพร้อมทันที!”
“ หน่วยทหารม้าแมงปอง?”
หน่วยทหารม้าแมงปองเป็นหน่วยทหารม้าชั้นยอดของเคานต์โมนาร์ชซึ่งประกอบด้วยทหารและอัศวินทหารผ่านศึกกว่า 2,000 นาย
“สั่งให้พวกเขาจับพวกมันให้ได้ ฆ่าผู้ลี้ภัยทั้งหมดและนําเจ้าหญิงกลับคืนมา!”
เคานต์ไม่ลังเลที่จะออกคําสั่งที่โหดร้ายของเขา
‘หึ! เจ้าหญิง! นี่เป็นเพราะการกระทําของเธอเอง’
โห!
ทางตอนเหนือของเมืองลาเมอร์
เมื่อหน่วยทหารม้าแมงป่องมาถึง มันก็มีเสียงทรัมเป็ตดังขึ้นมาเพื่อประกาศการมาถึงของพวกเขา
พวกเขาหลั่งไหลกันออกจากค่ายและรีบออกจากเมือง….
Comments
Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 54 ปฏิบัติการ ”เคลื่อนย้าย” (4)
Emperor of Steel-กําเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล
บทที่ 54 ปฏิบัติการ ”เคลื่อนย้าย” (4)
“เจ้าพูดว่อะไรนะ! เจ้าคิดว่าพวกคนในสลัมคิดที่จะหนีออกนอกปราสาทอย่างนั้นหรอ?”
หลังจากได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา คริส นายอําเภอเมืองลาเมอร์ก็ดูรําคาญอย่างมาก
“โรคนี้ยังไม่ได้ระบาดมากนัก ท่านต้องการให้เราทําอย่างไร?”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไรว่าเจ้าต้องทําอะไร? ข้าต้องการให้ทหารรีบไปที่สลัมในทันที และเพิ่มการลาดตระเวนเดี๋ยวนี้”
สําหรับเขามันไม่สําคัญว่าคนในสลัมจะเสียชีวิตหรือไม่
เขาแค่กังวลว่าโรคระบาดจะแพร่เข้ามาในเมือง ซึ่งเป็นสาเหตุที่เขาคิดจะปิดกันประตูและปรับปรุงการลาดตระเวน
‘หากสถานการณ์ยังเลวร้ายลงไป เราก็สามารถใช้กําลังทหารกวาดล้างสลัมได้
คริสกําลังคิดเกี่ยวกับมัน’
“จะไม่เป็นไรใช่ไหม? มันจะละเมิดคําสั่งของท่านเคานต์หรือเปล่าครับท่าน”
โกทจึงสั่งให้กองกําลังความมั่นคงคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของผู้คนในสลัม
เป็นผลให้จํานวนยามและเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนใกล้สลัมเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า อย่างไรก็ตามปัญหาคือตํารวจยังมีไม่เพียงพอ
“ถึงมีสมองไหม? ระหว่างการขัดคําสั่งกับโรคร้ายแพร่ระบาดแล้วคนตาย ถึงคิดไม่ได้รึไง?”
คริสตอบอย่างไม่สนใจคําสั่งของโกท
เขาไม่ชอบขี้หน้าโกทอยู่แล้ว โกทซึ่งได้รับการคัดเลือกมาจากนอกดินแดนเมื่อไม่กี่ปีก่อนและไม่ได้เป็นแม้กระทั่งคนรับใช้ตระกูลโมนาร์ชด้วยซ้ํา
“แต่แม้ว่าคนที่สั่งเราจะเป็นโกท แต่มันก็หมายถึงคําสั่งของเคานต์…”
“ไม่เป็นไร ข้าจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่เอง”
เมื่อยินคําพูดเหล่านั้นของคริส ทหารคนนั้นก็พยักหน้า
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่รู้
ว่าเคานต์โมนาร์ชและโกทนั้นกําลังสนใจเรื่องสลัม
ถ้านายอําเภอรู้ว่าสาเหตุที่ท่านเคานต์กดดันและกดขี่คนยากจนเป็นเพราะจุดประสงค์เพื่อให้เรย์น่ามาเป็นนางบําเรอของเขา เขาก็จะไม่มีวันละเลยการสอดส่องดูแล
ตกดึกเมื่อดวงจันทร์ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
ผู้คนที่กําลังแบกและถือกระเป๋าต่างก็หลั่งไหลมาที่ถนน
ผู้คนเกือบสองหมื่นคนกําลังรวมตัวกันอยู่ในสลัมพร้อมกับเจ้าหญิงเรย์น่า
“ทุกคนมากันครบหรือยัง”
“ครบแล้วครับ เราสามารถออกเดินทางได้ทันที”
วิคเตอร์ที่ในชุดเกราะของอัศวินผู้พิทักษ์แห่งอาณาจักรโวลก้าตอบรับอย่างจริงจัง
เขาหยิบเกราะทรงจานซึ่งถูกเก็บเข้าไปในมุมในโกดังเป็นเวลานาน เขาทามันด้วยน้ํามันและทําการขัดมันด้วยกระดาษทราย
“ทหารละ?”
“เราไม่เห็นพวกเขาเลยตั้งแต่พวกเขาถอนตัวไปเมื่อสามวันก่อน นั่นหมายความว่าแผนเรานั้นได้ผลคิคิ!”
วิคเตอร์หัวเราะอย่างลับๆ
พาเวลยังถามต่อว่า
“การนัดหมายมีปัญหาอะไรหรือไม่”
“ข้าพึ่งได้รับข้อความมาว่าเรามีแพพร้อมที่จะเดินทางแล้ว อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องอยู่ริมแม่น้ําสักสองวัน”
แน่นอนว่าการเดินทางทางน้ําของลาเมอร์นั้นใช้ไม่ได้ เพราะมันถูกทหารของเคานต์โมนาร์ชปกป้อง
นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาตกลงที่จะพบกับทหารของรากันต์ที่ริมแม่น้ําสองวันห่างจากดินแดนของเคานต์โมนาร์ช
คําถามคือ พวกเขาจะสามารถทําได้อย่างปลอดภัยไหม
พวกเขาเลือกที่จะพลางตัวเพื่อให้เนียนไปกับแม่น้ํา และเมื่อพบว่าสลัมว่างเปล่ามันก็จะสายเกินไปแล้วที่จะไล่ตามพวกเขา
“มันจะสายเกินไปเมื่อเคานต์โมนาร์ชตระหนักได้ว่าเราหายไป…”
“ถ้าพระเจ้าสงสารเรา พระองค์ก็จะส่งเราไปอย่างปลอดภัย”
วิคเตอร์ที่ตอบรับมันตะโกนเรียกผู้คน
“ พร้อมจะไปกันรึยัง!”
“ย้า! พร้อมแล้วกัปตัน!”
การหลบหนีของผู้ลี้ภัยชาวโวลก้ากว่า 20,000 คนได้เริ่มขึ้นแล้ว
“เอลคาสเซิล! โปรดดูแลผู้คนที่เศร้าโศกของเรา!
เรย์น่าอธิษฐานกับท้องฟ้ายามค่ําคืนที่มืดมิดและเริ่มออกเดินทางด้วยเกวียน
เมื่อเร็วๆนี้ เคานต์โมนาร์ชกําลังอารมณ์ดี เพราะมันเริ่มมีสัญญาณของเจ้าหญิงเรย์น่าที่จะเริ่มยอมจํานนแล้ว
“ฮะ! ในที่สุดผู้หญิงคนนั้นก็จะกระโดดเข้ามาในมือของข้า”
เมื่อเขาทราบข่าวครั้งแรกว่าเจ้าหญิงไปหาขุนนางฝ่ายใต้ เพื่อขอความช่วยเหลือ หัวใจของเขาก็ไม่สามารถเต้นอย่างสงบได้
อย่างไรก็ตามดังที่โกหกล่าว เธอกลับมามือเปล่าและถูกหลอกว่าเธอไม่ได้ออกจากสลัมด้วยซ้ํา
“อีกไม่กี่วันเจ้าก็จะต้องถอดกระโปรงของเจ้าและเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของข้า อิๆ!”
เคานต์โมนาร์ชกําลังยิ้มอย่างมีความสุข
ทันใดนั้นประตูก็เปิดกว้างพร้อมกับโกทที่เดินเข้ามา
“นายท่านสลัมว่างเปล่า!”
“อะไรนะ!?”
เคานต์โมนาร์ชไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
“ข้าไม่มีงานทํา ดังนั้นข้าจึงเดินไปรอบๆสลัม แต่ข้าไม่เห็นใครเลยข้าจึงเข้าไปข้างใน และข้าก็ไม่เห็นเจ้าหญิงหรือผู้ส่งสารของเธอ”
“ฮึ!”
เมื่อเคานต์พูดไม่ออก โกทก็โทรหาคริส
หลังจากนั้นไม่นานคริสก็เข้ามาในห้องทํางาน
“นายอําเภอ! สลัมว่างเปล่าตั้งแต่เมื่อไหร่”
คริสโกรธกับคําถาม แต่เขาก็พยายามควบคุมตัวเองขณะที่เคานต์โมนาร์ชเฝ้าดูอยู่
“ท่านหมายถึงอะไร”
“เช้านี้ข้าเห็นอะไรบางอย่าง ข้าจึงไปดูใกล้ๆสลัมและพบว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่น!”
“ไม่ เมื่อเย็นวานนี้พวกเขายังอยู่ที่นั่น”
“ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าพวกเขาจากไปเมื่อเย็นวานนี้ เนื่องจากเมื่อเช้านี้พวกเขาไปกันหมดแล้ว ทําไมเจ้าไม่รายงานข้า ข้าไม่ได้สั่งให้เจ้าจับตาดูพวกเขารึไง!”
“อ๊ะนั่นไง…โรคระบาดกําลังเกิดขึ้นในสลัม…”
“โรคระบาด?”
“ใช่นั่นคือเหตุผลที่ข้าดึงทหารออกไปและย้ายผู้อยู่อาศัยบางส่วนไปยังที่อื่น”
วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดคือการอยู่ห่าง จากมัน
อย่างไรก็ตาม โกทก็มีความคิดอื่นในใจของเขา
เขามองไปที่เคานต์ด้วยสีหน้าเร่งด่วน
“ดูเหมือนเจ้าหญิงจะหนีไปแล้ว”
“ฮะ?เจ้าหญิงหนีไปแล้ว?”
คริสถามด้วยใบหน้าที่รุนงง
“ไอ้โง่ แค่ทําตามคําสั่งง่ายๆก็ยังทําไม่ได้ด้วยซ้ํา! หุบปากไปเลย!”
นายอําเภอที่ยังไม่เข้าใจในสถานการณ์ ถูกตะโกนโดยโกท
“มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลําบากในการรับผู้ลี้ภัยทั้งหมด พวกเขาจะต้องได้รับความช่วยเหลือจากภายนอกแน่นอน…. อย่างไรก็ตามเราต้องส่งทหารไปไล่ตามพวกเขา!”
ความคิดที่ว่าเจ้าหญิงจะหนีไปกําลังอยู่ในความคิดของเขา
อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้หนีไปเฉยๆ เธอยังพาผู้ลี้ภัยที่ถูกจับเป็นตัวประกันไปด้วย!
เคานต์โมนาร์ชรู้สึกโกรธกับสิ่งที่เจ้าหญิงได้ทําไป เขากระโดดออกจากที่นั่งและสั่ง
“สั่งให้หน่วยทหารม้าแมงปองเตรียมพร้อมทันที!”
“ หน่วยทหารม้าแมงปอง?”
หน่วยทหารม้าแมงปองเป็นหน่วยทหารม้าชั้นยอดของเคานต์โมนาร์ชซึ่งประกอบด้วยทหารและอัศวินทหารผ่านศึกกว่า 2,000 นาย
“สั่งให้พวกเขาจับพวกมันให้ได้ ฆ่าผู้ลี้ภัยทั้งหมดและนําเจ้าหญิงกลับคืนมา!”
เคานต์ไม่ลังเลที่จะออกคําสั่งที่โหดร้ายของเขา
‘หึ! เจ้าหญิง! นี่เป็นเพราะการกระทําของเธอเอง’
โห!
ทางตอนเหนือของเมืองลาเมอร์
เมื่อหน่วยทหารม้าแมงป่องมาถึง มันก็มีเสียงทรัมเป็ตดังขึ้นมาเพื่อประกาศการมาถึงของพวกเขา
พวกเขาหลั่งไหลกันออกจากค่ายและรีบออกจากเมือง….
Comments