Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 62 ปีศาจเซบาสเตียน (4)
Emperor of Steel-กําเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล
บทที่ 62 ปีศาจเซบาสเตียน (4)
ในชั้นใต้ดินของเทือกเขาระหว่างแม่น้ําเนียร์และที่ราบทางตอนเหนือของรากันต์
โกเลมหลายสิบตัวและสัตว์ประหลาดหลายร้อยตัวกําลังขุดอุโมงค์กันอย่างหนักหน่วง
พวกเขากําลังสร้างช่องทางใต้ดินตามคําสั่งของลุค
โกเลมหินนั้นกําลังต่อยหินแข็งเพื่อขุดเจาะ สวนโกเลมไม้และสัตว์ประหลาดตัวอื่นๆก็กําลังขนเศษซากออกมาโดยใช้พลั่วและกระสอบขนาดใหญ่
คนคงแง
นาโตดนจากแมน
นมาแบบนี้”
ลุคมองจากด้านหลังและยิ้ม
เขาจะบอกกับทุกคนว่าเขาไปตักน้ําแล้วเจอเข้ากับน้ําบาดาล
มันมีเหตุผลสําหรับความพยายามในการหาข้ออ้างของเขาเพราะถ้าจู่ๆน้ําก็ผุดขึ้นมาปุ๊บปั๊ปคนก็คงคิดว่ามันต้องมีอะไรแปลกแน่ๆ
ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการหลอกพวกเขาก็คือแสดงให้เห็นว่ามีการพบน้ําบาดาลจากพื้นดินตามธรรมชาติโดยบังเอิญ
“ถ้าข้าได้รับพลังมากขึ้นในอนาคต ข้าจะสั่งให้โกเลมเหล่านี้ทํางานหนักอย่างเปิดเผยดีไหมนะ?”
ลุคไม่ชอบที่จะต้องมาคอยทําอะไรลับๆล่อๆ แต่เนื่องจากความไว้วางใจของเหล่าคนรับใช้ที่มีต่อเขานั้นค่อนข้างต่ํา ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการที่จะเปิดเผยความแข็งแกร่งของเขา
ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร ลุคก็กําลังพยายามแก้ปัญหาเรื่องน้ําซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดสําหรับที่ดินของเขาในตอนนี้
เขามองไปรอบๆเพื่อเช็คดูว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้น จากนั้นเขาก็เริ่มวาดวงเวทลงบนพื้น
“เนื่องจากตอนนี้ข้ามีกําลังพอแล้วข้าจึงสามารถเริ่มฝึกฝนใหม่
ได้”
แนวปฏิบัติใหม่ แบบเดียวกับที่เขาเคยทําในสมัยเป็นเวท
นั่นก็คือการอัญเชิญปีศาจและต่อสู้กับมันเพื่อเอาพลังของมันมา
เขาตัดสินใจที่จะเริ่มฝึกซ้อมเพราะเขาเองก็ต้องสร้างค่อยๆเพิ่มพลังของตัวเองขึ้นทีละน้อยเพื่อเตรียมตัวสําหรับสงครรามที่กําลังจะเกิดขึ้น
” ข้าต้องสร้างวงเวทย์เพื่ออัญเชิญแล้วก็ … “
ลุควาดวงเวทย์แห่งความมืดโดยใช้ดาบที่ห้อยอยู่ข้างเอวของเขา เขาใช้มือบีบเข้าไปที่ดาบจนเลือดไหลออกมาจากมัน
โดยปกติวงเวทย์จะใช้เลือดของสัตว์อสูรหรือเลือดข องมนุษย์คนอื่นในการอัญเชิญ แต่ลุคและนักเวทคนอื่นๆที่ทําพิธี กรรมเกี่ยวกับความมืดไม่เลือกที่จะใช้สิ่งนั้น
ลุคคิดว่าเป็นเรื่องผิดทางศีลธรรมที่จะเสียสละสิ่งมีชีวิตอื่นเพื่อกําลังของตัวเอง
“เพื่อทําการอัญเชิญปีศาจเหล่านั้น วิญญาณและเลือดของพ่อมดคนนั้นก็จะต้องถูกใช้เพื่อเป็นครื่องบูชายัญ”
ปกติแล้วปีศาจจะชอบเลือดและวิญญาณ
เมื่อเลือดของลุคหยดลงบนวงเวทย์อัญเชิญปีศาจ แสงริบหรีจากวงเวทย์ก็เริ่มตอบสนองแทบจะในทันที
หวีด!
เมื่อวงเวทย์หายไป พื้นที่มืดมิดก็เปิดออกแล้วเผยให้เห็นถึงปีศาจที่น่าเกลียดน่ากลัวตัวละบาท ที่มีกล้ามเนื้อหนาและมีเขา ขนาดใหญ่ยื่นออกมาจากหัว
“กุกกุกมนุษย์! เจ้าต้องการอะไรกัน แต่ไม่ว่าเจ้าจะต้องการอะไรเจ้าก็จะต้องมอบวิญญาณของเจ้าเพื่อเป็นค่าแลกเปลี่ยนให้กับข้า!”
ปีศาจโวลท์พูดด้วยความภาคภูมิใจอย่างมากกับลุค
โดยปกติพ่อมดมักจะกระโดดออกไปหรือตกใจจนล้มลงไปกับพื้นแบบตัวสั่น อย่างไรก็ตามมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นแตกต่างออกไป
” ข้าต้องการอะไรหรอ? ข้าต้องการ ความสามารถที่จึงมีอ่ะ!และก็เมไจที่ถึงครอบครองด้วย!”
“อะไรนะ?”
ในขณะนั้นโวล์คก็มองใบหน้าของเขาอย่างไร้สาระ
ผู้ชายคนนี้เป็นอไรกันถึงมาทวงคืนหรือถามหาพลังของมันทั้งๆที่มันยังไม่ได้ทําอะไรให้เลย
ขณะที่มันยังคงสับสนกับสิ่งที่ลุคพูด ลุคก็เริ่มแสดงทักษะของเขาและทําการคุกคามปีศาจอย่างป่าเถื่อน
แฟลช!
“กวาก!”
ลุคใช้เวทมนตร์สายฟ้าและทําให้ปีศาจโวลท์กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
“นี่ เวทย์นี้มันไม่ใช่อะไรที่ธรรมดาๆ!”
ปีศาจมองหน้าลุคกด้วยใบหน้าที่บิดดเบี้ยววไปด้วยความโกรธจากนั้นมันก็เริ่มพุ่งเข้าหาเขา
บึง! อึ้ง!
หมัดที่กําแน่นของปีศาจทุบลงไปที่พื้นและทําให้พื้นระเบิดออก
ลุคหลีกเลี่ยงการโจมตีของปีศาจ และใช้มือข้างหนึ่งร่ายเวทมนตร์และอีกข้างหนึ่งใช้ดาบ
“อ้ากก.. ไอ้บ้านี่มันอะไรกัน?”
เมื่อการโจมตีของเขาล้มเหลว ปีศาจโวลท์ก็เริ่มหงุดหงิด
การโจมตีของมันนั้นแทบจะได้รับการยกย่องจากหมู่ปีศาจด้วยกันว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ตอนนี้มันกลับมีพ่อมดสามรารถหลบการโจมตีของเขาได้
นอกจากนี้ลุคยังใช้เวทมนตร์และดาบเพื่อโจมตีเขาอีก
“แก
แกเป็นใคร”
โวลค์ขอให้ลุคระบุตัวตนและลุคก็ตอบ
“ข้าน่ะหรอ? ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าเคยได้ยินรึเปล่าแต่ชื่อของข้าเมื่อ 500 ปีก่อนก็คือ เซย์ม่อน”
“เจ้าพูดว่า เซย์ม่อน?”
ปีศาจโวลท์เริ่มนึกถึงข่าวลือที่เกิดขึ้นในอาณาจักรปีศาจเมื่อ 500 ปีก่อนทันที
ในตอนนั้นกการถูกอัญเชิญไปต่างโลกกําลังได้รับความนิยมในหมู่ปีศาจนั่นเป็นเพราะพวกเขาสนุกกับการได้ฆ่าและทําลายดินแดน
ปัญหาคือปีศาจระดับสูงส่วนใหญ่ที่ได้ไปต่างโลกก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย…
หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ยินมาว่าปีศาจพวกนั้นถูกเรียกไปโดยพ่อมดคนหนึ่งด้วยวงเวทย์อัญเชิญ
“ตอนนี้กําลังมีพ่อมดคนหนึ่งที่ไล่ฆ่าพวกเราเพื่อชกชิงเอาหลังและเมไจของพวกเราไป เพราะฉะนั้นถ้าพวกเจ้าถูกเรียกด้วยวงเวทย์ก็อย่าคิดที่จะตอบรับมันเชียว…”
และหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็รู้ว่าพ่อมดคนนี้คือใคร
มันคือพ่อมดเซย์ม่อน!
“ฮ่า แต่เจ้าดูไม่เหมือนกับผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 500 ปีเลยนะ”
“หึหึหึ พอดีข้าเจอปัญหานิดหน่อยนะ แต่ข้าว่าตอนนี้เรามาคุยกันถึงเรื่องความสามารถของเจ้าและเมไจที่เจ้ามีดีกว่า”
ลุคที่คิดว่าฝ่ายตรงข้ามอ่อนแอจึงเริ่มร่ายเถาวัลย์แห่งความมืดเพื่อดูดซับเมไจของฝ่ายตรงข้าม
ฮวาอา!
โวลท์พยายามหลีกเลี่ยงมัน อย่างไรก็ตามเขาใช้เวลาต่อสู้กับลุคมากเกินไปและในที่สุดก็ติดอยู่ในเถาวัลย์ที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน
“อ๊ะไม่! นี่มันบ้าไปแล้ว เจ้ากําลังละเมิดกฏการอัญเชิญปีศาจอยู่นะ”
มันพยายามที่จะกระพือปีกและในไม่ช้ามันก็ยอมแพ้ด้วยเหตุนั้นทั้งเมไจและความสามารถของมันจึงถูกดูดซับโดยลุค
“ว้าวมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดการกับปีศาจที่ต่ํากว่า”
ลุคปาดเหงื่อที่หน้าผาก
แม้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายที่รังแกปีศาจโวลท์อยู่ฝ่ายเดียวแต่เขาก็ได้รู้ถึงความยากลําบากในการใช้วงเวทย์ขั้น 5 และ 6
“ยิ่งข้าใช้มันมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น”
เมื่อคิดแล้วเขาก็หลับตาและมองไปที่ความสามารถของโวลท์
“ไหนดูหน่อยซิ…”
โดยปกตินอกเหนือจากเมไจแล้ว ปีศาจยังมีความสามารถที่ดีที่สามารถใช้ได้
ลุควิเคราะห์เมใจที่เขาดูดซับมาและเริ่มสกัดมันออกมา
เมื่อเขาสกัดมันเสร็จเขาก็ประทับมันเข้าร่วมไปกับจิตใจของเขาทันใดนั้นร่างกายของเขาก็ดูเหมือนจะตอบสนองต่อเมไจทันที
พรึบ!
เมื่อร่างกายของเขาเริ่มล้นไปด้วยพลัง เขาก็รู้สึกว่าเสื้อผ้าของเขาเริ่มแน่นขึ้น
ในเวลาเดียวกันพละกําลังของเขาก็เริ่มเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าจากเดิมผิวหนังของเขาก็แข็งขึ้น มันแข็งพอที่จะปัดมีดให้กระเด็นอ อกไปได้
“ความสามารถในการเสริมสร้าง” มันคือความสามารถที่ที่ใช้ในการเสริมสร้างร่างกายของคนๆหนึ่ง “สําหรับปีศาจระดับต่ําแบบแกก็ถือว่าเป็นอะไรที่น่าพึงพอใจล่ะนะ”
เมื่อเทียบกับปีศาจระดับที่สูงกว่าที่เขาเคยเอาชนะมาในอดีตลุคก็ดูจะพอใจกับเหยื่อตัวแรกของเขา
หากสามารถใช้ความสามารถของมันได้ดี มันก็จะมีประโยชน์มากและสําหรับผู้ชายที่ปรารถนาที่จะได้รับความแข็งแกร่งอย่างที่เขาไม่มีมันก็สามารถนับเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสําหรับคนๆนั้นได้เลย
“ยังไงก็ตาม ถ้าข้าต้องการความสามารถอันอื่นข้าก็สามารถเรียกปีศาจตัวอื่นได้ตลอดเวลา”
หลังจากนั้นลุคก็ดูแลการก่อสร้างอุโมงค์บาดาลและกลับไปที่คฤหาสน์
สนุกน้าไม่อ่านหน่อยหรอ
Comments
Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 62 ปีศาจเซบาสเตียน (4)
Emperor of Steel-กําเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล
บทที่ 62 ปีศาจเซบาสเตียน (4)
ในชั้นใต้ดินของเทือกเขาระหว่างแม่น้ําเนียร์และที่ราบทางตอนเหนือของรากันต์
โกเลมหลายสิบตัวและสัตว์ประหลาดหลายร้อยตัวกําลังขุดอุโมงค์กันอย่างหนักหน่วง
พวกเขากําลังสร้างช่องทางใต้ดินตามคําสั่งของลุค
โกเลมหินนั้นกําลังต่อยหินแข็งเพื่อขุดเจาะ สวนโกเลมไม้และสัตว์ประหลาดตัวอื่นๆก็กําลังขนเศษซากออกมาโดยใช้พลั่วและกระสอบขนาดใหญ่
คนคงแง
นาโตดนจากแมน
นมาแบบนี้”
ลุคมองจากด้านหลังและยิ้ม
เขาจะบอกกับทุกคนว่าเขาไปตักน้ําแล้วเจอเข้ากับน้ําบาดาล
มันมีเหตุผลสําหรับความพยายามในการหาข้ออ้างของเขาเพราะถ้าจู่ๆน้ําก็ผุดขึ้นมาปุ๊บปั๊ปคนก็คงคิดว่ามันต้องมีอะไรแปลกแน่ๆ
ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการหลอกพวกเขาก็คือแสดงให้เห็นว่ามีการพบน้ําบาดาลจากพื้นดินตามธรรมชาติโดยบังเอิญ
“ถ้าข้าได้รับพลังมากขึ้นในอนาคต ข้าจะสั่งให้โกเลมเหล่านี้ทํางานหนักอย่างเปิดเผยดีไหมนะ?”
ลุคไม่ชอบที่จะต้องมาคอยทําอะไรลับๆล่อๆ แต่เนื่องจากความไว้วางใจของเหล่าคนรับใช้ที่มีต่อเขานั้นค่อนข้างต่ํา ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการที่จะเปิดเผยความแข็งแกร่งของเขา
ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร ลุคก็กําลังพยายามแก้ปัญหาเรื่องน้ําซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดสําหรับที่ดินของเขาในตอนนี้
เขามองไปรอบๆเพื่อเช็คดูว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้น จากนั้นเขาก็เริ่มวาดวงเวทลงบนพื้น
“เนื่องจากตอนนี้ข้ามีกําลังพอแล้วข้าจึงสามารถเริ่มฝึกฝนใหม่
ได้”
แนวปฏิบัติใหม่ แบบเดียวกับที่เขาเคยทําในสมัยเป็นเวท
นั่นก็คือการอัญเชิญปีศาจและต่อสู้กับมันเพื่อเอาพลังของมันมา
เขาตัดสินใจที่จะเริ่มฝึกซ้อมเพราะเขาเองก็ต้องสร้างค่อยๆเพิ่มพลังของตัวเองขึ้นทีละน้อยเพื่อเตรียมตัวสําหรับสงครรามที่กําลังจะเกิดขึ้น
” ข้าต้องสร้างวงเวทย์เพื่ออัญเชิญแล้วก็ … “
ลุควาดวงเวทย์แห่งความมืดโดยใช้ดาบที่ห้อยอยู่ข้างเอวของเขา เขาใช้มือบีบเข้าไปที่ดาบจนเลือดไหลออกมาจากมัน
โดยปกติวงเวทย์จะใช้เลือดของสัตว์อสูรหรือเลือดข องมนุษย์คนอื่นในการอัญเชิญ แต่ลุคและนักเวทคนอื่นๆที่ทําพิธี กรรมเกี่ยวกับความมืดไม่เลือกที่จะใช้สิ่งนั้น
ลุคคิดว่าเป็นเรื่องผิดทางศีลธรรมที่จะเสียสละสิ่งมีชีวิตอื่นเพื่อกําลังของตัวเอง
“เพื่อทําการอัญเชิญปีศาจเหล่านั้น วิญญาณและเลือดของพ่อมดคนนั้นก็จะต้องถูกใช้เพื่อเป็นครื่องบูชายัญ”
ปกติแล้วปีศาจจะชอบเลือดและวิญญาณ
เมื่อเลือดของลุคหยดลงบนวงเวทย์อัญเชิญปีศาจ แสงริบหรีจากวงเวทย์ก็เริ่มตอบสนองแทบจะในทันที
หวีด!
เมื่อวงเวทย์หายไป พื้นที่มืดมิดก็เปิดออกแล้วเผยให้เห็นถึงปีศาจที่น่าเกลียดน่ากลัวตัวละบาท ที่มีกล้ามเนื้อหนาและมีเขา ขนาดใหญ่ยื่นออกมาจากหัว
“กุกกุกมนุษย์! เจ้าต้องการอะไรกัน แต่ไม่ว่าเจ้าจะต้องการอะไรเจ้าก็จะต้องมอบวิญญาณของเจ้าเพื่อเป็นค่าแลกเปลี่ยนให้กับข้า!”
ปีศาจโวลท์พูดด้วยความภาคภูมิใจอย่างมากกับลุค
โดยปกติพ่อมดมักจะกระโดดออกไปหรือตกใจจนล้มลงไปกับพื้นแบบตัวสั่น อย่างไรก็ตามมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นแตกต่างออกไป
” ข้าต้องการอะไรหรอ? ข้าต้องการ ความสามารถที่จึงมีอ่ะ!และก็เมไจที่ถึงครอบครองด้วย!”
“อะไรนะ?”
ในขณะนั้นโวล์คก็มองใบหน้าของเขาอย่างไร้สาระ
ผู้ชายคนนี้เป็นอไรกันถึงมาทวงคืนหรือถามหาพลังของมันทั้งๆที่มันยังไม่ได้ทําอะไรให้เลย
ขณะที่มันยังคงสับสนกับสิ่งที่ลุคพูด ลุคก็เริ่มแสดงทักษะของเขาและทําการคุกคามปีศาจอย่างป่าเถื่อน
แฟลช!
“กวาก!”
ลุคใช้เวทมนตร์สายฟ้าและทําให้ปีศาจโวลท์กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
“นี่ เวทย์นี้มันไม่ใช่อะไรที่ธรรมดาๆ!”
ปีศาจมองหน้าลุคกด้วยใบหน้าที่บิดดเบี้ยววไปด้วยความโกรธจากนั้นมันก็เริ่มพุ่งเข้าหาเขา
บึง! อึ้ง!
หมัดที่กําแน่นของปีศาจทุบลงไปที่พื้นและทําให้พื้นระเบิดออก
ลุคหลีกเลี่ยงการโจมตีของปีศาจ และใช้มือข้างหนึ่งร่ายเวทมนตร์และอีกข้างหนึ่งใช้ดาบ
“อ้ากก.. ไอ้บ้านี่มันอะไรกัน?”
เมื่อการโจมตีของเขาล้มเหลว ปีศาจโวลท์ก็เริ่มหงุดหงิด
การโจมตีของมันนั้นแทบจะได้รับการยกย่องจากหมู่ปีศาจด้วยกันว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ตอนนี้มันกลับมีพ่อมดสามรารถหลบการโจมตีของเขาได้
นอกจากนี้ลุคยังใช้เวทมนตร์และดาบเพื่อโจมตีเขาอีก
“แก
แกเป็นใคร”
โวลค์ขอให้ลุคระบุตัวตนและลุคก็ตอบ
“ข้าน่ะหรอ? ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าเคยได้ยินรึเปล่าแต่ชื่อของข้าเมื่อ 500 ปีก่อนก็คือ เซย์ม่อน”
“เจ้าพูดว่า เซย์ม่อน?”
ปีศาจโวลท์เริ่มนึกถึงข่าวลือที่เกิดขึ้นในอาณาจักรปีศาจเมื่อ 500 ปีก่อนทันที
ในตอนนั้นกการถูกอัญเชิญไปต่างโลกกําลังได้รับความนิยมในหมู่ปีศาจนั่นเป็นเพราะพวกเขาสนุกกับการได้ฆ่าและทําลายดินแดน
ปัญหาคือปีศาจระดับสูงส่วนใหญ่ที่ได้ไปต่างโลกก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย…
หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ยินมาว่าปีศาจพวกนั้นถูกเรียกไปโดยพ่อมดคนหนึ่งด้วยวงเวทย์อัญเชิญ
“ตอนนี้กําลังมีพ่อมดคนหนึ่งที่ไล่ฆ่าพวกเราเพื่อชกชิงเอาหลังและเมไจของพวกเราไป เพราะฉะนั้นถ้าพวกเจ้าถูกเรียกด้วยวงเวทย์ก็อย่าคิดที่จะตอบรับมันเชียว…”
และหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็รู้ว่าพ่อมดคนนี้คือใคร
มันคือพ่อมดเซย์ม่อน!
“ฮ่า แต่เจ้าดูไม่เหมือนกับผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 500 ปีเลยนะ”
“หึหึหึ พอดีข้าเจอปัญหานิดหน่อยนะ แต่ข้าว่าตอนนี้เรามาคุยกันถึงเรื่องความสามารถของเจ้าและเมไจที่เจ้ามีดีกว่า”
ลุคที่คิดว่าฝ่ายตรงข้ามอ่อนแอจึงเริ่มร่ายเถาวัลย์แห่งความมืดเพื่อดูดซับเมไจของฝ่ายตรงข้าม
ฮวาอา!
โวลท์พยายามหลีกเลี่ยงมัน อย่างไรก็ตามเขาใช้เวลาต่อสู้กับลุคมากเกินไปและในที่สุดก็ติดอยู่ในเถาวัลย์ที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน
“อ๊ะไม่! นี่มันบ้าไปแล้ว เจ้ากําลังละเมิดกฏการอัญเชิญปีศาจอยู่นะ”
มันพยายามที่จะกระพือปีกและในไม่ช้ามันก็ยอมแพ้ด้วยเหตุนั้นทั้งเมไจและความสามารถของมันจึงถูกดูดซับโดยลุค
“ว้าวมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดการกับปีศาจที่ต่ํากว่า”
ลุคปาดเหงื่อที่หน้าผาก
แม้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายที่รังแกปีศาจโวลท์อยู่ฝ่ายเดียวแต่เขาก็ได้รู้ถึงความยากลําบากในการใช้วงเวทย์ขั้น 5 และ 6
“ยิ่งข้าใช้มันมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น”
เมื่อคิดแล้วเขาก็หลับตาและมองไปที่ความสามารถของโวลท์
“ไหนดูหน่อยซิ…”
โดยปกตินอกเหนือจากเมไจแล้ว ปีศาจยังมีความสามารถที่ดีที่สามารถใช้ได้
ลุควิเคราะห์เมใจที่เขาดูดซับมาและเริ่มสกัดมันออกมา
เมื่อเขาสกัดมันเสร็จเขาก็ประทับมันเข้าร่วมไปกับจิตใจของเขาทันใดนั้นร่างกายของเขาก็ดูเหมือนจะตอบสนองต่อเมไจทันที
พรึบ!
เมื่อร่างกายของเขาเริ่มล้นไปด้วยพลัง เขาก็รู้สึกว่าเสื้อผ้าของเขาเริ่มแน่นขึ้น
ในเวลาเดียวกันพละกําลังของเขาก็เริ่มเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าจากเดิมผิวหนังของเขาก็แข็งขึ้น มันแข็งพอที่จะปัดมีดให้กระเด็นอ อกไปได้
“ความสามารถในการเสริมสร้าง” มันคือความสามารถที่ที่ใช้ในการเสริมสร้างร่างกายของคนๆหนึ่ง “สําหรับปีศาจระดับต่ําแบบแกก็ถือว่าเป็นอะไรที่น่าพึงพอใจล่ะนะ”
เมื่อเทียบกับปีศาจระดับที่สูงกว่าที่เขาเคยเอาชนะมาในอดีตลุคก็ดูจะพอใจกับเหยื่อตัวแรกของเขา
หากสามารถใช้ความสามารถของมันได้ดี มันก็จะมีประโยชน์มากและสําหรับผู้ชายที่ปรารถนาที่จะได้รับความแข็งแกร่งอย่างที่เขาไม่มีมันก็สามารถนับเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสําหรับคนๆนั้นได้เลย
“ยังไงก็ตาม ถ้าข้าต้องการความสามารถอันอื่นข้าก็สามารถเรียกปีศาจตัวอื่นได้ตลอดเวลา”
หลังจากนั้นลุคก็ดูแลการก่อสร้างอุโมงค์บาดาลและกลับไปที่คฤหาสน์
สนุกน้าไม่อ่านหน่อยหรอ
Comments