Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 66 การระบาดของสงคราม (3)
บทที่ 66 การระบาดของสงคราม (3)
มันมีเพียงแค่สามเส้นทางจากลาเมอร์เท่านั้นที่จะใช้เพื่อมุ่งตรงมายังรากันต์ได้
เส้นทางแรกคือการเคลื่อนย้ายโดยใช้เรือจากแม่น้ําเนียร์ อย่างไรก็ตามปัญหาคือพวกเขาต้องเผชิญกับความแห้งแล้งของแม้น้ํา เรือหนักจึงไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปในเส้นทางนั้นได้
นอกจากนี้หากมีสถานการณ์เช่นอุบัติเหตุเรือล่มในน้ํา พวกเขาก็อาจจมน้ําตาย และอาวุธราคาแพงของพวกเขาจะไม่สามารถใช้งานได้อีกในภายหลัง
เส้นทางที่สองคือใช้ทางหลวงเลียบแม่น้ํา
แต่นั่นไม่น่าจะใช่เส้นทางที่เชนเลือก แม้ว่าทางหลวงนั้นจะอยู่ภายใต้การบํารุงรักษาที่ดีดังนั้น จึงไม่มีปัญหาหากพวกเขาเลือกที่จะเดินไปที่นั่น อย่างไรก็ตามข้อเสียคือมันมีระยะทางที่ยาว จึงต้องใช้เวลาในการเดินทัพที่ค่อนข้างนาน
และด้วยที่พวกเขาต้องการจะเคลื่อนทัพมาโค่นรากันต์ลงให้เร็วที่สุด ดังนั้นเส้นทางที่สามจึงน่าจะเป็นเส้นทางที่พวกเขาเลือก
โกทนั้นกลัวว่าศัตรูอาจจะดักซุ่มโจมตีอยู่ล่วงหน้า อย่างไรก็ตามเชนก็ตัดสินใจที่จะเพิกเฉย
เขามั่นใจว่ากลอุบายอย่างการซุ่มโจมตีจะใช้ไม่ได้กับเขา
การเดินขบวนของพวกเขาดําเนินไปอย่างราบรื่น มันมีมอนสเตอร์น้อยมากในภูมิภาคนี้ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องทําคือเดินทางชิวๆ
“วันนี้ก็พอแค่นี้แหละ เรามาพักผ่อนกัน”
เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน เชนก็สั่งให้ตั้งค่าย
ทหารเริ่มสร้างค่ายและกระจัดกระจายไปทั่วทั้งสถานที่ทันที บางคนกําลังเก็บฟืนหาน้ําดื่มและทําอาหารเย็น
“หืม มีกลิ่นหอม สตูว์เนื้อ?”
หลังจากนั้นไม่นานลูกน้องของเขาก็นําเอาสตูว์เนื้อมันฝรั่งผักพร้อมขนมปังและน้ําผึ้งมาให้
เนื่องจากพวกเขาต้องการเดินขบวนให้เสร็จโดยเร็วที่สุด พวกเขาจึงต้องเร่ฝีเท่าให้ไวที่สุด เพราะฉะนั้นเมื่อตกเย็น เชนจึงหิวและพุ่งเข้าใส่อาหารอย่างไม่รอช้า
“นานมากแล้วที่ข้าได้กินข้าวในทุ่งนา”
มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกของเขาหลังจากผ่านไป 5 ปี นับตั้งแต่ที่อยู่ในชายแดนของสาธารณรัฐโวลก้า
มันเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ไม่ได้แย่ขนาดนั้น
“เราจะไปถึงเขตปกครองของรากันต์ได้ทันภายในสิ้นสัปดาห์นี้หรือไม่?
แน่นอนว่าถ้าเขาขี่ม้า เขาจะไปถึงที่นั่นเร็วกว่า
แต่เขาต้องลากกําลังพล 5,000 นายพ่วงด้วยกิกันท์และรถลากที่เต็มไปด้วยเสบียง
“ข้าคิดว่านี่อาจเป็นการฝึกฝนสําหรับสงครามที่เราอาจจได้ทํากับมาร์ควิสเมเยอร์ได้ด้วย”
เขาเชื่อว่าสักวันหนึ่งจะต้องเกิดสงครามระหว่างจักรพรรดิและขุนนาง
และในเวลานั้น เคานต์โมนาร์ชก็มีแนวโน้มที่จะเผชิญหน้ากับมาร์ควิสเมเยอร์
นั่นก็เพราะที่ดินของทั้งสองนั้นอยู่ใกล้กันและพลังของพวกเขาก็เท่ากัน
หลังจากคิดได้เช่นนั้น เชนก้ก็กวาดชามสตูว์ให้สะอาดด้วยขนมปังชิ้นสุดท้ายของเขา
หลังจากนั้นไม่นาน
กร้ากกก!
“เอ่อ?”
“กรี้ดดด?”
ทันใดนั้น ใบหน้าของเชนก็แปรเปลี่ยนเป็นสับสน เมื่อได้ยินเสียงท้องร้องดังขึ้นอย่างเร่งด่วน
“ทหาร!”
“ฮะ?”
“ ทหารเอาผ้ามาให้ข้า!”
เชนฉีกเศษผ้าซึ่งอยู่ใกล้เขาออก แล้ววิ่งเข้าไปในปา
อย่างไรก็ตามมีปัญหา มีทหารจํานวนมากที่เข้าไปในปาก่อนเพื่อกําหนดสถานที่ในการของพวกเขาในคืนนี้
ทุกคนล้วนเลือกสถานที่ของตัวเองในปา
หลังจากนั้นเซนที่นั่งอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ก็ทําธุระเสร็จแล้วดึงกางเกงขึ้น
“ว้าว นึกว่าจะตายซะแล้ว”
เมื่ออาการท้องเสียของเขาเย็นลง ความวิตกกังวลของเขาก็ลดลงไปด้วยเช่นกัน
กร้ากกก!
“อ๊ะ!”
แต่แล้วความรู้สึกปั่นปวนที่ท้องของเขาก็กลับมา มันทําให้เขาต้องรีบเข้าไปประจําการที่จุดเดิมของเขา
เชนต้องทําแบบนี้ถึงสามครั้ง เขาเรียกหาผู้หมวดของเขาเมื่อเขากลับไปถึงค่าย
อย่างไรก็ตามผู้หมวดก็ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะมาพบเขาได้ เพราะเขาเองก็มีปัญหาและพยายามแก้ไขมันอย่างวิตกกังวลเช่นกัน
“เกิดอะไรขึ้น? อะไรคือส่วนผสมที่ใช้สําหรับมื้อเย็นของเรา? มีอะไรผิดพลาดหรือไม่?”
เนื่องจากเป็นช่วงฤดูร้อนดังนั้นส่วนผสมของพวกเขาอาจจะเก็บได้ไม่ดีนักหรืออาจเป็น เพราะน้ําที่พวกเขาดื่มมีสารปนเปื้อน
“มันแปลกมาก แม้ว่าเราจะตรวจสอบแล้ว อย่างไรก็ตามพ่อมดแม่มดก็ระบุว่าส่วนผสมที่เราใช้สําหรับทําสตูว์นั้น มีส่วนประกอบที่ทําให้เกิดอาการท้องร่วง”
พ่อมดเหล่านี้คือจอมเวทเหล็กไหลที่พ่วงติดมากับกิกันท์ด้วย
และเนื่องจากพวกเขามีความรู้พื้นฐานทางการแพทย์ พวกเขาจึงสามารถหาสาเหตุได้
“เป็นฝีมือพวกรากันตั้งั้นหรอ?”
เมื่อคิดแบบนั้น เชนก็มอไปที่ผู้หมวดของเขา
“ข้าซักถามย้อนกลับไปในขณะที่เรากําลังหาสาเหตุ แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุ อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีคนน่าสงสัยเข้ามาหรือออกไปจากสถานที่ทําอาหาร”
“ข้าไม่รู้ว่าคนใดกันที่กล้ามาทําเช่นนี้ แต่ถ้าข้าจับผู้ชายคนนั้นได้ละก็ ข้าจะทุบหัวเขา และส่งการลงไปว่าให้หาคนที่เชื่อถือได้มาทําอาหารแทน”
“ เข้าใจแล้ว”
แต่แม้จะมีการกระทําดังกล่าว เช้าวันรุ่งขึ้นเชนและกองทหารของเขาก็ยังเกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรงอีก
“ปา กระดาษทิชชู ได้โปรด… พาข้าไป!”
“ไม่มีแล้ว ข้าใช้ของข้าหมดแล้ว!”
“ไอ้สาระยําเอ้ย! แม้ว่ากระดาษทิชชู้มันจะราคาถูก มึงก็ควรประหยัดไว้หน่อยเช่!”
เสียงกรีดร้องอย่างลําบากใจและโกรธของทหารทั้ง 5,000 นายดังมาก
คราบกองกําลังทหารมาได้จบลงเหลือแต่ผู้คนที่ทุกทรมาร
หลังจากการโจมตีของโรคท้องร่วงสองครั้งติดต่อกัน พวกเขาเลือกอัศวินที่น่าเชื่อถือและปรุงอาหารด้วยตัวเอง
เหล่าพ่อมดเข้ามาอยู่เคียงข้างและตรวจสอบกระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่การตรวจสอบส่วนผสม ไปจนถึงการปรุง
อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนเดิม
พ่อมดแม่มดระบุอย่างชัดเจนว่าไม่มีอะไรผิดปกติ แม้แต่ช้อนส้อมสีเงินที่พวกเขาใช้ในการรับประทานอาหาร อย่างไรก็ตามทุกคนก็ยังคงต้องเข้าปาตลอดทั้งวัน
พวกเขายังคงดื่มต่ํากับความจริงที่น่าหดหู ก้นของพวกเขาเจ็บและกลัวที่จะนั่งลง และนั่นยังไม่ใช่จุดจบของปัญหา
สําหรับการทําสงครามนั้น พวกเขาจําเป็นที่จะต้องกินและพักผ่อนให้เพียงพอ
“ว้ากก! ใครกันที่ทําเรื่องทั้งหมดนี้? อ้า!”
หากพวกเขาพบว่าใครเป็นผู้กระทําความผิด พวกเขาทุกคนก็อยากจะฉีกมันให้เป็นชิ้นๆ
แต่ไม่ว่าจะตรวจสอบกี่ครั้งและถี่ถ้วนแค่ไหน พวกเขาก็ไม่พบผู้กระทําผิดและนั่นทําให้ความทุกข์ยากยังคงดําเนินต่อไป
“หึๆ มนุษย์โง่! ไม่ว่าพวกเจ้าจะพยายามแค่ไหน พวกเจ้าก็ไม่สามารถตรวจสอบงานศิลปะของข้าได้หรอก! ”
ณ หลังต้นไม้ มันกําลังมีใครบางตัวมองกองทัพที่น่าสังเวชของเคานต์โมนาร์ชอยู่
มันเป็นแมวที่ห้อยอยู่กับกิ่งไม้
แมวตัวนั้นกําลังมองลงไปที่กลุ่มมนุษย์ที่เครียดอย่างบ้าคลั่ง
เขาคือเซบาสเตียนปีศาจอันดับล่างที่เพิ่งกลายเป็นทาสของลุค
เซบาสเตียนผู้อวดอ้างตัวเองว่าเป็นสัตว์ประหลาดที่เก่งที่สุดในอาณาจักรปีศาจ มันมีพลังในการแปลงร่างและการลอบเร้นที่ไม่ธรรมดา
และมันก็ยังมีความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่ง มันคือการนำสมุนไพรและยาพิษเพื่อทํายาที่แปลกประหลาด
เขาใช้มันเพื่อล่าสัตว์ประหลาดที่อันตรายในอาณาจักรปีศาจเป็นหลัก และเนื่องจากเขาฉลาดมาก เขาจึงสร้างพิษที่จะสามารถสังเกตเห็นกลิ่นและรสชาติของมันได้ยาก
เซบาสเตียนก่อกวนกองทัพของโมนาร์ชภายใต้คําสั่งของลุค
ลุคตัดสินใจที่เข้าร่วมต่อสู้กับทหารของตนเอง เขาเลือกจะขึ้นเหนือมาเพื่อวางยาเหล่าทหารของศัตรูก่อน
ยานี้ผลิตขึ้นโดยใช้สารพิษหลายชนิดผสมกันซึ่งมีเฉพาะในอาณาจักรปีศาจเท่านั้น และยาจะทําปฏิกิริยาเมื่อตกไปถึงกระเพาะอาหารของสิ่งมีชีวิตเท่านั้น และมันจะทําปฏิกิริยากับเอนไซม์ย่อยอาหารของสิ่งมีชีวิต
นอกจากนี้ยังมีการคํานวณผิดในส่วนที่ผิดพลาดของเซน
พวกเขาคิดว่ายาได้ถูกวางตั้งแต่กระบวนการเตรียมอาหารแล้ว แต่จริงๆแล้วยาจะถูกฉีดพ่นหลังจากที่เตรียมอาหารแล้วต่างหาก
มันถูกพ่นทางลมเช่นเดียวกับละอองเรณูในช่วงเวลาของการผสมพันธุ์ของดอกไม้
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือมันถูกฉีดพ่นในเวลารับประทานอาหารของพวกเขานั่นเอง และอาหารที่พวกเขากินก็เป็นสิ่งที่ทําให้ประตูของโลกใบใหม่ของพวกเขาเปิดขึ้น!
เป็นผลให้กองทัพต้องทนทุกข์กับอาการท้องร่วงรุนแรงไปอีกสามวัน และตอนนี้พวกเขาทั้งหมดต่างก็เดินในขณะที่ขาก็กะเผลกๆ
“อย่างไรก็ตามข้าไม่เข้าใจว่า ทําไมนายท่านถึงยังไม่อยากฆ่าพวกเขา”
ในบรรดายาพิษที่เซบาสเตียนมีนั้น มันมีแม้กระทั่งยาพิษที่สามารถฆ่าโอเกอร์ได้ในทันที
อย่างไรก็ตามเจ้านายของเขาได้บอกเขาว่า อย่าใช้พิษนั่น
หากความเสียหายต่อกองทัพร้ายแรง พวกเขาอาจตัดสินใจถอยทัพและกลับมาต่อสู้ใหม่อีกครั้ง ในจํานวนที่มากขึ้น
“ยังไงก็ได้! มันยังเป็นเรื่องสนุกเสมอที่ได้เห็นพวกมนุษย์ต้องทนทุกข์ทรมาน!”
ปีศาจเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีจิตวิญญาณเช่นเดียวกับเอลฟ์
ดังนั้นพวกมันจึงตอบสนองต่อคลื่นอารมณ์ซึ่งแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม มันไม่เหมือนกับเอลฟ์ วิธีการที่จะทําให้ปีศาจรู้สึกพึงพอใจนั้นมันบิดเบี้ยว
เซบาสเตียนก็เช่นกัน
เขายังคงเดินเตร่ไปรอบๆ กองทัพของเคานต์โมนาร์ชและพ่นยาของเขาอย่างสบายๆและรอดูผลลัพธ์ของมันอย่างสนุกสนาน
Comments
Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 66 การระบาดของสงคราม (3)
บทที่ 66 การระบาดของสงคราม (3)
มันมีเพียงแค่สามเส้นทางจากลาเมอร์เท่านั้นที่จะใช้เพื่อมุ่งตรงมายังรากันต์ได้
เส้นทางแรกคือการเคลื่อนย้ายโดยใช้เรือจากแม่น้ําเนียร์ อย่างไรก็ตามปัญหาคือพวกเขาต้องเผชิญกับความแห้งแล้งของแม้น้ํา เรือหนักจึงไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปในเส้นทางนั้นได้
นอกจากนี้หากมีสถานการณ์เช่นอุบัติเหตุเรือล่มในน้ํา พวกเขาก็อาจจมน้ําตาย และอาวุธราคาแพงของพวกเขาจะไม่สามารถใช้งานได้อีกในภายหลัง
เส้นทางที่สองคือใช้ทางหลวงเลียบแม่น้ํา
แต่นั่นไม่น่าจะใช่เส้นทางที่เชนเลือก แม้ว่าทางหลวงนั้นจะอยู่ภายใต้การบํารุงรักษาที่ดีดังนั้น จึงไม่มีปัญหาหากพวกเขาเลือกที่จะเดินไปที่นั่น อย่างไรก็ตามข้อเสียคือมันมีระยะทางที่ยาว จึงต้องใช้เวลาในการเดินทัพที่ค่อนข้างนาน
และด้วยที่พวกเขาต้องการจะเคลื่อนทัพมาโค่นรากันต์ลงให้เร็วที่สุด ดังนั้นเส้นทางที่สามจึงน่าจะเป็นเส้นทางที่พวกเขาเลือก
โกทนั้นกลัวว่าศัตรูอาจจะดักซุ่มโจมตีอยู่ล่วงหน้า อย่างไรก็ตามเชนก็ตัดสินใจที่จะเพิกเฉย
เขามั่นใจว่ากลอุบายอย่างการซุ่มโจมตีจะใช้ไม่ได้กับเขา
การเดินขบวนของพวกเขาดําเนินไปอย่างราบรื่น มันมีมอนสเตอร์น้อยมากในภูมิภาคนี้ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องทําคือเดินทางชิวๆ
“วันนี้ก็พอแค่นี้แหละ เรามาพักผ่อนกัน”
เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน เชนก็สั่งให้ตั้งค่าย
ทหารเริ่มสร้างค่ายและกระจัดกระจายไปทั่วทั้งสถานที่ทันที บางคนกําลังเก็บฟืนหาน้ําดื่มและทําอาหารเย็น
“หืม มีกลิ่นหอม สตูว์เนื้อ?”
หลังจากนั้นไม่นานลูกน้องของเขาก็นําเอาสตูว์เนื้อมันฝรั่งผักพร้อมขนมปังและน้ําผึ้งมาให้
เนื่องจากพวกเขาต้องการเดินขบวนให้เสร็จโดยเร็วที่สุด พวกเขาจึงต้องเร่ฝีเท่าให้ไวที่สุด เพราะฉะนั้นเมื่อตกเย็น เชนจึงหิวและพุ่งเข้าใส่อาหารอย่างไม่รอช้า
“นานมากแล้วที่ข้าได้กินข้าวในทุ่งนา”
มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกของเขาหลังจากผ่านไป 5 ปี นับตั้งแต่ที่อยู่ในชายแดนของสาธารณรัฐโวลก้า
มันเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ไม่ได้แย่ขนาดนั้น
“เราจะไปถึงเขตปกครองของรากันต์ได้ทันภายในสิ้นสัปดาห์นี้หรือไม่?
แน่นอนว่าถ้าเขาขี่ม้า เขาจะไปถึงที่นั่นเร็วกว่า
แต่เขาต้องลากกําลังพล 5,000 นายพ่วงด้วยกิกันท์และรถลากที่เต็มไปด้วยเสบียง
“ข้าคิดว่านี่อาจเป็นการฝึกฝนสําหรับสงครามที่เราอาจจได้ทํากับมาร์ควิสเมเยอร์ได้ด้วย”
เขาเชื่อว่าสักวันหนึ่งจะต้องเกิดสงครามระหว่างจักรพรรดิและขุนนาง
และในเวลานั้น เคานต์โมนาร์ชก็มีแนวโน้มที่จะเผชิญหน้ากับมาร์ควิสเมเยอร์
นั่นก็เพราะที่ดินของทั้งสองนั้นอยู่ใกล้กันและพลังของพวกเขาก็เท่ากัน
หลังจากคิดได้เช่นนั้น เชนก้ก็กวาดชามสตูว์ให้สะอาดด้วยขนมปังชิ้นสุดท้ายของเขา
หลังจากนั้นไม่นาน
กร้ากกก!
“เอ่อ?”
“กรี้ดดด?”
ทันใดนั้น ใบหน้าของเชนก็แปรเปลี่ยนเป็นสับสน เมื่อได้ยินเสียงท้องร้องดังขึ้นอย่างเร่งด่วน
“ทหาร!”
“ฮะ?”
“ ทหารเอาผ้ามาให้ข้า!”
เชนฉีกเศษผ้าซึ่งอยู่ใกล้เขาออก แล้ววิ่งเข้าไปในปา
อย่างไรก็ตามมีปัญหา มีทหารจํานวนมากที่เข้าไปในปาก่อนเพื่อกําหนดสถานที่ในการของพวกเขาในคืนนี้
ทุกคนล้วนเลือกสถานที่ของตัวเองในปา
หลังจากนั้นเซนที่นั่งอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ก็ทําธุระเสร็จแล้วดึงกางเกงขึ้น
“ว้าว นึกว่าจะตายซะแล้ว”
เมื่ออาการท้องเสียของเขาเย็นลง ความวิตกกังวลของเขาก็ลดลงไปด้วยเช่นกัน
กร้ากกก!
“อ๊ะ!”
แต่แล้วความรู้สึกปั่นปวนที่ท้องของเขาก็กลับมา มันทําให้เขาต้องรีบเข้าไปประจําการที่จุดเดิมของเขา
เชนต้องทําแบบนี้ถึงสามครั้ง เขาเรียกหาผู้หมวดของเขาเมื่อเขากลับไปถึงค่าย
อย่างไรก็ตามผู้หมวดก็ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะมาพบเขาได้ เพราะเขาเองก็มีปัญหาและพยายามแก้ไขมันอย่างวิตกกังวลเช่นกัน
“เกิดอะไรขึ้น? อะไรคือส่วนผสมที่ใช้สําหรับมื้อเย็นของเรา? มีอะไรผิดพลาดหรือไม่?”
เนื่องจากเป็นช่วงฤดูร้อนดังนั้นส่วนผสมของพวกเขาอาจจะเก็บได้ไม่ดีนักหรืออาจเป็น เพราะน้ําที่พวกเขาดื่มมีสารปนเปื้อน
“มันแปลกมาก แม้ว่าเราจะตรวจสอบแล้ว อย่างไรก็ตามพ่อมดแม่มดก็ระบุว่าส่วนผสมที่เราใช้สําหรับทําสตูว์นั้น มีส่วนประกอบที่ทําให้เกิดอาการท้องร่วง”
พ่อมดเหล่านี้คือจอมเวทเหล็กไหลที่พ่วงติดมากับกิกันท์ด้วย
และเนื่องจากพวกเขามีความรู้พื้นฐานทางการแพทย์ พวกเขาจึงสามารถหาสาเหตุได้
“เป็นฝีมือพวกรากันตั้งั้นหรอ?”
เมื่อคิดแบบนั้น เชนก็มอไปที่ผู้หมวดของเขา
“ข้าซักถามย้อนกลับไปในขณะที่เรากําลังหาสาเหตุ แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุ อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีคนน่าสงสัยเข้ามาหรือออกไปจากสถานที่ทําอาหาร”
“ข้าไม่รู้ว่าคนใดกันที่กล้ามาทําเช่นนี้ แต่ถ้าข้าจับผู้ชายคนนั้นได้ละก็ ข้าจะทุบหัวเขา และส่งการลงไปว่าให้หาคนที่เชื่อถือได้มาทําอาหารแทน”
“ เข้าใจแล้ว”
แต่แม้จะมีการกระทําดังกล่าว เช้าวันรุ่งขึ้นเชนและกองทหารของเขาก็ยังเกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรงอีก
“ปา กระดาษทิชชู ได้โปรด… พาข้าไป!”
“ไม่มีแล้ว ข้าใช้ของข้าหมดแล้ว!”
“ไอ้สาระยําเอ้ย! แม้ว่ากระดาษทิชชู้มันจะราคาถูก มึงก็ควรประหยัดไว้หน่อยเช่!”
เสียงกรีดร้องอย่างลําบากใจและโกรธของทหารทั้ง 5,000 นายดังมาก
คราบกองกําลังทหารมาได้จบลงเหลือแต่ผู้คนที่ทุกทรมาร
หลังจากการโจมตีของโรคท้องร่วงสองครั้งติดต่อกัน พวกเขาเลือกอัศวินที่น่าเชื่อถือและปรุงอาหารด้วยตัวเอง
เหล่าพ่อมดเข้ามาอยู่เคียงข้างและตรวจสอบกระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่การตรวจสอบส่วนผสม ไปจนถึงการปรุง
อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนเดิม
พ่อมดแม่มดระบุอย่างชัดเจนว่าไม่มีอะไรผิดปกติ แม้แต่ช้อนส้อมสีเงินที่พวกเขาใช้ในการรับประทานอาหาร อย่างไรก็ตามทุกคนก็ยังคงต้องเข้าปาตลอดทั้งวัน
พวกเขายังคงดื่มต่ํากับความจริงที่น่าหดหู ก้นของพวกเขาเจ็บและกลัวที่จะนั่งลง และนั่นยังไม่ใช่จุดจบของปัญหา
สําหรับการทําสงครามนั้น พวกเขาจําเป็นที่จะต้องกินและพักผ่อนให้เพียงพอ
“ว้ากก! ใครกันที่ทําเรื่องทั้งหมดนี้? อ้า!”
หากพวกเขาพบว่าใครเป็นผู้กระทําความผิด พวกเขาทุกคนก็อยากจะฉีกมันให้เป็นชิ้นๆ
แต่ไม่ว่าจะตรวจสอบกี่ครั้งและถี่ถ้วนแค่ไหน พวกเขาก็ไม่พบผู้กระทําผิดและนั่นทําให้ความทุกข์ยากยังคงดําเนินต่อไป
“หึๆ มนุษย์โง่! ไม่ว่าพวกเจ้าจะพยายามแค่ไหน พวกเจ้าก็ไม่สามารถตรวจสอบงานศิลปะของข้าได้หรอก! ”
ณ หลังต้นไม้ มันกําลังมีใครบางตัวมองกองทัพที่น่าสังเวชของเคานต์โมนาร์ชอยู่
มันเป็นแมวที่ห้อยอยู่กับกิ่งไม้
แมวตัวนั้นกําลังมองลงไปที่กลุ่มมนุษย์ที่เครียดอย่างบ้าคลั่ง
เขาคือเซบาสเตียนปีศาจอันดับล่างที่เพิ่งกลายเป็นทาสของลุค
เซบาสเตียนผู้อวดอ้างตัวเองว่าเป็นสัตว์ประหลาดที่เก่งที่สุดในอาณาจักรปีศาจ มันมีพลังในการแปลงร่างและการลอบเร้นที่ไม่ธรรมดา
และมันก็ยังมีความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่ง มันคือการนำสมุนไพรและยาพิษเพื่อทํายาที่แปลกประหลาด
เขาใช้มันเพื่อล่าสัตว์ประหลาดที่อันตรายในอาณาจักรปีศาจเป็นหลัก และเนื่องจากเขาฉลาดมาก เขาจึงสร้างพิษที่จะสามารถสังเกตเห็นกลิ่นและรสชาติของมันได้ยาก
เซบาสเตียนก่อกวนกองทัพของโมนาร์ชภายใต้คําสั่งของลุค
ลุคตัดสินใจที่เข้าร่วมต่อสู้กับทหารของตนเอง เขาเลือกจะขึ้นเหนือมาเพื่อวางยาเหล่าทหารของศัตรูก่อน
ยานี้ผลิตขึ้นโดยใช้สารพิษหลายชนิดผสมกันซึ่งมีเฉพาะในอาณาจักรปีศาจเท่านั้น และยาจะทําปฏิกิริยาเมื่อตกไปถึงกระเพาะอาหารของสิ่งมีชีวิตเท่านั้น และมันจะทําปฏิกิริยากับเอนไซม์ย่อยอาหารของสิ่งมีชีวิต
นอกจากนี้ยังมีการคํานวณผิดในส่วนที่ผิดพลาดของเซน
พวกเขาคิดว่ายาได้ถูกวางตั้งแต่กระบวนการเตรียมอาหารแล้ว แต่จริงๆแล้วยาจะถูกฉีดพ่นหลังจากที่เตรียมอาหารแล้วต่างหาก
มันถูกพ่นทางลมเช่นเดียวกับละอองเรณูในช่วงเวลาของการผสมพันธุ์ของดอกไม้
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือมันถูกฉีดพ่นในเวลารับประทานอาหารของพวกเขานั่นเอง และอาหารที่พวกเขากินก็เป็นสิ่งที่ทําให้ประตูของโลกใบใหม่ของพวกเขาเปิดขึ้น!
เป็นผลให้กองทัพต้องทนทุกข์กับอาการท้องร่วงรุนแรงไปอีกสามวัน และตอนนี้พวกเขาทั้งหมดต่างก็เดินในขณะที่ขาก็กะเผลกๆ
“อย่างไรก็ตามข้าไม่เข้าใจว่า ทําไมนายท่านถึงยังไม่อยากฆ่าพวกเขา”
ในบรรดายาพิษที่เซบาสเตียนมีนั้น มันมีแม้กระทั่งยาพิษที่สามารถฆ่าโอเกอร์ได้ในทันที
อย่างไรก็ตามเจ้านายของเขาได้บอกเขาว่า อย่าใช้พิษนั่น
หากความเสียหายต่อกองทัพร้ายแรง พวกเขาอาจตัดสินใจถอยทัพและกลับมาต่อสู้ใหม่อีกครั้ง ในจํานวนที่มากขึ้น
“ยังไงก็ได้! มันยังเป็นเรื่องสนุกเสมอที่ได้เห็นพวกมนุษย์ต้องทนทุกข์ทรมาน!”
ปีศาจเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีจิตวิญญาณเช่นเดียวกับเอลฟ์
ดังนั้นพวกมันจึงตอบสนองต่อคลื่นอารมณ์ซึ่งแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม มันไม่เหมือนกับเอลฟ์ วิธีการที่จะทําให้ปีศาจรู้สึกพึงพอใจนั้นมันบิดเบี้ยว
เซบาสเตียนก็เช่นกัน
เขายังคงเดินเตร่ไปรอบๆ กองทัพของเคานต์โมนาร์ชและพ่นยาของเขาอย่างสบายๆและรอดูผลลัพธ์ของมันอย่างสนุกสนาน
Comments