Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 73 จุดจบของเคานต์โมนาร์ช
บทที่ 73 จุดจบของเคานต์โมนาร์ช
เช้าตรู่ที่ประตูทางเหนือของเมืองลาเมอร์
“อื้ม! ยังไม่ได้รับข่าวอีกหรอ?”
ทหารรักษาการณ์อยู่ข้างหน้าหาวทั้งน้ําตาและถามเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างๆเขา
“ข้าได้ยินพวกอัศวินพูดถึงเรื่องนี้เมื่อวานก่อนแต่มันยังอยู่นอกอาณาเขตของเรา”
“จริงหรอ? ข้าคิดว่าเนื่องจา กมีเช่นเป็นผู้นําทัพ ตอนนี้มันจึงน่าจะยึด เมืองรากันต์ได้เรียบร้อยแล้ว”
เมืองลาเมอรนั้นยังไม่ทราบข่าวเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองลาเมอร์
จอมเวทเหล็กไหลที่รับผิดชอบในการสื่อสารข่าวก็ถูกจับเป็นเชลยศึกส่วนคนที่เหลือรอดก็ไม่กล้าพอที่จะกลับมายังเมืองเพราะกลัวว่าจะถูกลงโทษ
“อย่างไรก็ตาม เดี๋ยวพวกเขาก็ต้องกลับมาหลังจากชนะเสร็จแล้ว”
“ข้าก็คิดแบบนั้นเหมือนกันถ้าพวกเขาใช้เวลามากเกินไปข้าก็อาจจะลืมไปได้ว่าร่างกายของภรรยาข้าในตอนที่เปลือยเปล่านั้นเป็นอย่างไร
ในขณะที่ทหารคนอื่นๆต้องออกไปทําสงครามงานของทหารที่เหลือก็เพิ่ม มากขึ้น
กะที่สี่ของพวกเขาแล้วโดยปกติแล้วพวกเขาจะสลับกันทุกๆสองกะ
ทหารเริ่มสนทนากันในเรื่องไร้สาระเพื่อขับไล่ความง่วงเหงาหาวนอนที่มี
“แต่สงครามจะไม่ลามมาถึงที่นี่ใช่ ไหม?”
“อย่าพูดเรื่องนั้นและมองตรงไปข้างหน้าซะ มันเป็นสงครามที่เราไม่มีวันพ่ายแม้ว่าเราจะต้องการก็ตามพูดง่ายๆก็คือคนขับกิกันท์ของเราสามารถชนะสงครามได้แม้กระทั่งในตอนที่พวกเขานอนก็ตาม”
“ข้าก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”
ในขณะเดียวกัน กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งก็กําลังฝ่ากหมอกหนาเพื่อมุ่งหน้ามายังประตูเมือง
ตอนแรกพวกเขาต้องการให้มันเป็นปัญหาของยามกะถัดไปแต่มันก็ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น
“เปิดประตู! เรามาเพื่อสนับสนุนเมืองลาเมอร์ตามคําสั่งของเคานต์โมนาร์ช!”
ยามรักษาการมองพวกเขาด้วยสีหน้ามีนงง
“นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน? ข้าไม่เคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการขอเสริมกําลังเลย
“ข้าก็ไม่เคยได้ยินคําสั่งใดๆเช่นกันแต่ดูเสื้อผ้าของพวกเขาและสัญลักษณ์บนกิกันท์มันก็ดูเข้าเค้าอยู่นะ”
“แน่ใจเหรอ?”
ยามรักษาการณ์ปืนลงมาจากรั้วกําแพงและมองลงไป
เห็นได้ชัดว่าเสื้อผ้าของทหาร,ธงและสัญลักษณ์ยอดบนหน้าอกของกิกันท์นั้นเป็นของเคานต์โมนาร์ช
” พวกเจ้ามาจากที่ไหนกัน?”
“ไม่จําเป็นต้องให้เจ้ารู้เปิดประตู!ตอนนี้เป็นเวลา 1 นาฬิกาแล้วข้ากําลังรีบ!”
ในขณะที่ยามรักษาการณ์กําลังคิดอยู่ นั้น ชายคนหนึ่งที่ชุดเกราะสีสันสดใสเหมือนกับอัศวินระดับสูงก็ก้าวออกมา และถามว่า
“เจ้ากําลังรีบเหรอ? นี่พวกมึงเป็นใครแล้วมาทําบ้าอะไรที่นี่กันแน่”
“อะไรนะ? นี่เจ้ายังไม่ได้ยินข่าวใช่ไหม?กองทัพของเราพ่ายแพ้ในหุบเขายอทเทิร์นแล้ว!และศัตรูก็กําลังมุ่งหน้ามาทางนี้!”
เมื่อได้ยินคําพูดเหล่านั้นเหล่ายามรักษาการณ์ก็มองหน้ากันด้วยสีหน้าที่มี
นงง
“พะ.. แพ้? นี่มันเรื่องเหี้ยอะไรกัน…?”
“มันมีขุนนางที่แอบให้การสนับสนุนกับพวกรากันต์!รีบเปิดประตูสักที่สิ ไอ้โง่!ศัตรูอาจจะเข้ามาใกล้แล้ว!”
” เดี๋ยวก่อน ข้าจะเปิดก็ต่อเมื่อยืนยันกับท่านเคานต์เรียบร้อยแล้ว…”
“ตอนนี้เจ้ายังจะมัวมาทําอะไรแบบนี้อีกยังงั้นหรอ! ได้! ถ้าเจ้าเปิดไม่ได้ ข้าก็จะเปิดมันเอง!”
หลังจากพูดจบ อัศวินผู้นํากลุ่มก็เดินกลับไปข้างหลัง
ทันใดนั้นกกันท์ที่อยู่ในรถพ่วงก็เริ่มเคลื่อนไหวและลุกขึ้น
“เอ่อ… นั่น…”
กิกันท์ที่ลุกขึ้นจากรถพ่วงเริ่มวิ่งตรงไปที่หน้าประตูและเริ่มกระแทกร่างกายของพวกมันกับประตู
พึมพํา! พึมพํา!
หลังจากปะทะกันหลายครั้งประตูก็ไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไปและเปิดออกในที่สุด
“ว้าก! หลีกไป!”
“สั่นระฆังเร็วเข้า!”
อย่างไรก็ตามแม้จะได้รับคําสั่งจากยามรักษาการณ์ แต่ระฆังก็ยังไม่ดัง
ลูกธนูพุ่งออกมาจากพลธนูและทหารที่อยู่บนประตู
“กําแพงพังแล้ว! ทุกคนบุก!
ตามคําสั่งของลุค กิกันท์และทหารก็บุกเข้ามาในเมืองลาเมอร์อย่างพร้อมเพรียงกัน
พวกเขาก็คือกองกําลังของรากันต์ไม่ใช่กําลังเสริมของเคานต์โมนาร์ชแต่อย่างใด
ลุคและพรรคพวกนั้นได้ปลอมตัวเป็นส่วนหนึ่งของกองกําลังของเคานต์โมนาร์ชตั้งแต่มาถึงที่เมืองลาเมอร์
ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงสามารถผ่านพวกทหารที่ลาดตระเวนอยู่ได้ด้วยการปลอมตัวและข้อแก้ตัวที่เหมาะสม
“รอก่อน! รออีกนิดนะไอ้หมูตะกละ!”
ลุคนํากองทัพรากันต์ของเขามุ่งตรงไปยังที่พนักของเคานต์โมนาร์ชซึ่งอยู่ใกล้กับประตูทางเหนือ
เป้าหมายของพวกเขามีอนยู่สองสิ่ง
สิ่งแรกคือการเอาชนะกิกันท์ของเคานตโมนาร์ชและอัศวินของเขา ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดสําหรับพวกเขาในการยึดครองเมือง และอีกสิ่งหนึ่งคือการจับกุมเคานต์โมนาร์ช
กระหน่ํา!
กองทัพรากันต์วิ่งผ่านเมืองและแบ่งออกเป็นสองกลุ่มเมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้กับที่พํานักของเคานต์
ในหมู่ของพวกเขา กองกําลังที่นําโดยโรเจอร์สก็ได้เข้าไปในสํานักงานใหญ่ของอัศวินซึ่งอยู่ติดกับที่พํานัก
พวกเขาเข้าไปข้างในขณะที่ทําลายประตูหน้า
“มันเกิดอะไรขึ้น?”
“ใครกันที่กล้าทําแบบนี้”
เหล่าอัศวินที่ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันในตอนเช้าตรู่ได้ ก้าวออกจากห้องของพวกเขาไปพร้อมๆกับขยี้ตาที่กําลังง่วงซึม
พวกเขาพบว่ากิกันท์หลายตัวกําลังถูกบดขยี้ไปพร้อมๆกับอาคารที่อยู่รอบๆพวกเขา
“อย่าทําร้ายกกันท์ข้าน้า..! ฟังแค่อาคารก็พอแล้ว!”
โรเจอร์สทุบเสาซึ่งอยู่ถัดจากกิกันท์ด้วยดาบขนาดใหญ่ของ กกันท์ เขาต้องการที่จะทํางานนี้ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
“นี่มันมั่วไปหมดแล้ว! บุกกลับไปเร็ว!”
“ไปหากิกันท์ เร็วเข้า!”
กิกันท์และกองกําลังจํานวนมากถูกนําออกไปใช้การสู้รบ อย่างไรก็ตามมันก็ยังมีกิกันท์อีกเจ็ดตัวที่ถูกทิ้งไว้เพื่อ ปกป้องเมือง
อัศวินรับและพยายามเข้าไปควบคุมกิกันท์
อย่างไรก็ตามโรเจอร์สไม่มีแผนที่จะปล่อยให้พวกเขาทําเช่นนั้น
เขาเตะเศษหินและโคลนเข้าใส่อัศวิน
“จ๊าก!”
ดินและกรวดหยุดอัศวินพวกเขากลิ้งไปบนพื้นแขนขาหักหรือมีเลือดอยู่บนศีรษะ
ในที่สุดกิกันท์ของฝ่านยรากันต์ก็สามารถทุบทําลายเสาและทําลา ยกกันท์ทั้งหมดได้สําเร็จ
อ้ากก!
อาคารพังทลายลงเนื่องจากเสาที่ค้ําไว้ถูกทําลายและพังลงมา
“อา! สิ่งนี้มันไม่จริง!”
อัศวินแห่งโมนาร์ชที่ล้มลงบนพื้นมองดูฉากนี้อย่างสิ้นหวัง…
Comments
Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 73 จุดจบของเคานต์โมนาร์ช
บทที่ 73 จุดจบของเคานต์โมนาร์ช
เช้าตรู่ที่ประตูทางเหนือของเมืองลาเมอร์
“อื้ม! ยังไม่ได้รับข่าวอีกหรอ?”
ทหารรักษาการณ์อยู่ข้างหน้าหาวทั้งน้ําตาและถามเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างๆเขา
“ข้าได้ยินพวกอัศวินพูดถึงเรื่องนี้เมื่อวานก่อนแต่มันยังอยู่นอกอาณาเขตของเรา”
“จริงหรอ? ข้าคิดว่าเนื่องจา กมีเช่นเป็นผู้นําทัพ ตอนนี้มันจึงน่าจะยึด เมืองรากันต์ได้เรียบร้อยแล้ว”
เมืองลาเมอรนั้นยังไม่ทราบข่าวเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองลาเมอร์
จอมเวทเหล็กไหลที่รับผิดชอบในการสื่อสารข่าวก็ถูกจับเป็นเชลยศึกส่วนคนที่เหลือรอดก็ไม่กล้าพอที่จะกลับมายังเมืองเพราะกลัวว่าจะถูกลงโทษ
“อย่างไรก็ตาม เดี๋ยวพวกเขาก็ต้องกลับมาหลังจากชนะเสร็จแล้ว”
“ข้าก็คิดแบบนั้นเหมือนกันถ้าพวกเขาใช้เวลามากเกินไปข้าก็อาจจะลืมไปได้ว่าร่างกายของภรรยาข้าในตอนที่เปลือยเปล่านั้นเป็นอย่างไร
ในขณะที่ทหารคนอื่นๆต้องออกไปทําสงครามงานของทหารที่เหลือก็เพิ่ม มากขึ้น
กะที่สี่ของพวกเขาแล้วโดยปกติแล้วพวกเขาจะสลับกันทุกๆสองกะ
ทหารเริ่มสนทนากันในเรื่องไร้สาระเพื่อขับไล่ความง่วงเหงาหาวนอนที่มี
“แต่สงครามจะไม่ลามมาถึงที่นี่ใช่ ไหม?”
“อย่าพูดเรื่องนั้นและมองตรงไปข้างหน้าซะ มันเป็นสงครามที่เราไม่มีวันพ่ายแม้ว่าเราจะต้องการก็ตามพูดง่ายๆก็คือคนขับกิกันท์ของเราสามารถชนะสงครามได้แม้กระทั่งในตอนที่พวกเขานอนก็ตาม”
“ข้าก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”
ในขณะเดียวกัน กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งก็กําลังฝ่ากหมอกหนาเพื่อมุ่งหน้ามายังประตูเมือง
ตอนแรกพวกเขาต้องการให้มันเป็นปัญหาของยามกะถัดไปแต่มันก็ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น
“เปิดประตู! เรามาเพื่อสนับสนุนเมืองลาเมอร์ตามคําสั่งของเคานต์โมนาร์ช!”
ยามรักษาการมองพวกเขาด้วยสีหน้ามีนงง
“นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน? ข้าไม่เคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการขอเสริมกําลังเลย
“ข้าก็ไม่เคยได้ยินคําสั่งใดๆเช่นกันแต่ดูเสื้อผ้าของพวกเขาและสัญลักษณ์บนกิกันท์มันก็ดูเข้าเค้าอยู่นะ”
“แน่ใจเหรอ?”
ยามรักษาการณ์ปืนลงมาจากรั้วกําแพงและมองลงไป
เห็นได้ชัดว่าเสื้อผ้าของทหาร,ธงและสัญลักษณ์ยอดบนหน้าอกของกิกันท์นั้นเป็นของเคานต์โมนาร์ช
” พวกเจ้ามาจากที่ไหนกัน?”
“ไม่จําเป็นต้องให้เจ้ารู้เปิดประตู!ตอนนี้เป็นเวลา 1 นาฬิกาแล้วข้ากําลังรีบ!”
ในขณะที่ยามรักษาการณ์กําลังคิดอยู่ นั้น ชายคนหนึ่งที่ชุดเกราะสีสันสดใสเหมือนกับอัศวินระดับสูงก็ก้าวออกมา และถามว่า
“เจ้ากําลังรีบเหรอ? นี่พวกมึงเป็นใครแล้วมาทําบ้าอะไรที่นี่กันแน่”
“อะไรนะ? นี่เจ้ายังไม่ได้ยินข่าวใช่ไหม?กองทัพของเราพ่ายแพ้ในหุบเขายอทเทิร์นแล้ว!และศัตรูก็กําลังมุ่งหน้ามาทางนี้!”
เมื่อได้ยินคําพูดเหล่านั้นเหล่ายามรักษาการณ์ก็มองหน้ากันด้วยสีหน้าที่มี
นงง
“พะ.. แพ้? นี่มันเรื่องเหี้ยอะไรกัน…?”
“มันมีขุนนางที่แอบให้การสนับสนุนกับพวกรากันต์!รีบเปิดประตูสักที่สิ ไอ้โง่!ศัตรูอาจจะเข้ามาใกล้แล้ว!”
” เดี๋ยวก่อน ข้าจะเปิดก็ต่อเมื่อยืนยันกับท่านเคานต์เรียบร้อยแล้ว…”
“ตอนนี้เจ้ายังจะมัวมาทําอะไรแบบนี้อีกยังงั้นหรอ! ได้! ถ้าเจ้าเปิดไม่ได้ ข้าก็จะเปิดมันเอง!”
หลังจากพูดจบ อัศวินผู้นํากลุ่มก็เดินกลับไปข้างหลัง
ทันใดนั้นกกันท์ที่อยู่ในรถพ่วงก็เริ่มเคลื่อนไหวและลุกขึ้น
“เอ่อ… นั่น…”
กิกันท์ที่ลุกขึ้นจากรถพ่วงเริ่มวิ่งตรงไปที่หน้าประตูและเริ่มกระแทกร่างกายของพวกมันกับประตู
พึมพํา! พึมพํา!
หลังจากปะทะกันหลายครั้งประตูก็ไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไปและเปิดออกในที่สุด
“ว้าก! หลีกไป!”
“สั่นระฆังเร็วเข้า!”
อย่างไรก็ตามแม้จะได้รับคําสั่งจากยามรักษาการณ์ แต่ระฆังก็ยังไม่ดัง
ลูกธนูพุ่งออกมาจากพลธนูและทหารที่อยู่บนประตู
“กําแพงพังแล้ว! ทุกคนบุก!
ตามคําสั่งของลุค กิกันท์และทหารก็บุกเข้ามาในเมืองลาเมอร์อย่างพร้อมเพรียงกัน
พวกเขาก็คือกองกําลังของรากันต์ไม่ใช่กําลังเสริมของเคานต์โมนาร์ชแต่อย่างใด
ลุคและพรรคพวกนั้นได้ปลอมตัวเป็นส่วนหนึ่งของกองกําลังของเคานต์โมนาร์ชตั้งแต่มาถึงที่เมืองลาเมอร์
ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงสามารถผ่านพวกทหารที่ลาดตระเวนอยู่ได้ด้วยการปลอมตัวและข้อแก้ตัวที่เหมาะสม
“รอก่อน! รออีกนิดนะไอ้หมูตะกละ!”
ลุคนํากองทัพรากันต์ของเขามุ่งตรงไปยังที่พนักของเคานต์โมนาร์ชซึ่งอยู่ใกล้กับประตูทางเหนือ
เป้าหมายของพวกเขามีอนยู่สองสิ่ง
สิ่งแรกคือการเอาชนะกิกันท์ของเคานตโมนาร์ชและอัศวินของเขา ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดสําหรับพวกเขาในการยึดครองเมือง และอีกสิ่งหนึ่งคือการจับกุมเคานต์โมนาร์ช
กระหน่ํา!
กองทัพรากันต์วิ่งผ่านเมืองและแบ่งออกเป็นสองกลุ่มเมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้กับที่พํานักของเคานต์
ในหมู่ของพวกเขา กองกําลังที่นําโดยโรเจอร์สก็ได้เข้าไปในสํานักงานใหญ่ของอัศวินซึ่งอยู่ติดกับที่พํานัก
พวกเขาเข้าไปข้างในขณะที่ทําลายประตูหน้า
“มันเกิดอะไรขึ้น?”
“ใครกันที่กล้าทําแบบนี้”
เหล่าอัศวินที่ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันในตอนเช้าตรู่ได้ ก้าวออกจากห้องของพวกเขาไปพร้อมๆกับขยี้ตาที่กําลังง่วงซึม
พวกเขาพบว่ากิกันท์หลายตัวกําลังถูกบดขยี้ไปพร้อมๆกับอาคารที่อยู่รอบๆพวกเขา
“อย่าทําร้ายกกันท์ข้าน้า..! ฟังแค่อาคารก็พอแล้ว!”
โรเจอร์สทุบเสาซึ่งอยู่ถัดจากกิกันท์ด้วยดาบขนาดใหญ่ของ กกันท์ เขาต้องการที่จะทํางานนี้ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
“นี่มันมั่วไปหมดแล้ว! บุกกลับไปเร็ว!”
“ไปหากิกันท์ เร็วเข้า!”
กิกันท์และกองกําลังจํานวนมากถูกนําออกไปใช้การสู้รบ อย่างไรก็ตามมันก็ยังมีกิกันท์อีกเจ็ดตัวที่ถูกทิ้งไว้เพื่อ ปกป้องเมือง
อัศวินรับและพยายามเข้าไปควบคุมกิกันท์
อย่างไรก็ตามโรเจอร์สไม่มีแผนที่จะปล่อยให้พวกเขาทําเช่นนั้น
เขาเตะเศษหินและโคลนเข้าใส่อัศวิน
“จ๊าก!”
ดินและกรวดหยุดอัศวินพวกเขากลิ้งไปบนพื้นแขนขาหักหรือมีเลือดอยู่บนศีรษะ
ในที่สุดกิกันท์ของฝ่านยรากันต์ก็สามารถทุบทําลายเสาและทําลา ยกกันท์ทั้งหมดได้สําเร็จ
อ้ากก!
อาคารพังทลายลงเนื่องจากเสาที่ค้ําไว้ถูกทําลายและพังลงมา
“อา! สิ่งนี้มันไม่จริง!”
อัศวินแห่งโมนาร์ชที่ล้มลงบนพื้นมองดูฉากนี้อย่างสิ้นหวัง…
Comments