Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 81 งานเลี้ยงฉลองชัยชนะ (1)
บทที่ 81 งานเลี้ยงฉลองชัยชนะ (1)
ยามเย็นที่เร่าร้อน
เสียงเพลงที่สดใสและร่าเริงสามารถได้ยินได้จากที่คฤหาสน์ของเมืองลาเมอร์ มันเป็นเพราะงานเลี้ยงได้ถูกจัดขึ้นในห้องโถงของที่พัก ซึ่งพึ่งได้รับการซ่อมแซมไป เมื่อไม่นานมานี้
งานเลี้ยงจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ชัยชนะในสงครามดินแดนซึ่งเกิดขึ้นเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว
ขุนนาง,อัศวิน,พ่อค้า นักวิชาการ,นักบวชและอื่นๆ ผู้คนจากทุกสารทิศต่างมาเข้าร่วมงานเลี้ยงโดยแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่หรหราและมีสีสัน
ในหมู่พวกเขาเป็นข้ารับใช้ของรากันต์และหลายคนก็เป็นอดีตข้ารับใช้ของเคานต์โมนาร์ช
โดยปกติแล้วคนพวกนี้ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีมากนักกับเคานต์โมนาร์ช ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นว่าผู้ชรนะในสงครามชิงดินแดนคือฝ่ายรากันต์ พวกเขาจึงเลือกที่จะมเข้าร่วมในงานเลี้ยงครั้งนี้
“นานมากแล้วที่ข้าไม่ได้พบท่าน มิสซิสบารอน ข้าได้ข่าวมาว่าสามีของท่านต้องทนทุกข์ทรมานเพราะไอ้หมูตอนโมนาร์ชเหมือนกันอย่างนั้นหรอ”
“โฮโฮโฮ ผู้ชายคนนั้นสมควรแล้วที่จะต้องติดอยู่คุกเน่าๆ ขณะกินซุปถั่วเหลืองแหยะๆ แล้วธุรกิจของท่านเป็นอย่างไรบ้าง? ข้าได้ยินมาว่าท่านย้ายไปที่ด้านใต้ เพื่อดําเนินธุรกิจใหม่?”
“ก็แค่เพียงชั่วคราว เราเพิ่งย้ายไปที่สํานักงานใหญ่ฝั่งท่าเรือบนเกาะทางใต้…”
ผู้คนต่างก็พบปะพูดคุยกับผู้คนที่พวกเขาเคยรู้จักหรือไม่ได้เจอกันเป็นเวลานานแล้ว
ในหมู่พวกเขา ขุนนางที่เคยตกอยู่ภายใต้อานาจของเคานต์โมนาร์ชก็กําลังดิ้นรนที่จะพูดคุยกับคนรับใช้ของรากันต์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพยายามของขุนนางบารอนที่ได้รับคฤหาสน์ของพวกเขากลับมา ต่างก็มีน้ําตาคลอเบ้า
“ท่านดิกสัน เป็นความจริงหรือไม่ที่ท่านลอร์ดหนุ่มลุควางแผนที่จะขายดินแดนบางส่วนในอาณาเขตของเคานต์”
“ใช่แล้ว มันมากเกินไปสําหรับเราที่จะจัดการกับดินแดนของเคานต์ที่มีขนาดใหญ่ขนาดนี้”
คําพูดของดิกสันทําให้หัวของขุนนางทั้งหมดหันไปในทิศทางเดียวกัน
หากอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ถูกขายออกไปจริงๆ พวกเขาก็คาดหวังที่จะเป็นอันดับ 1 ในดินแดนแห่งนี้
การไม่มีที่ดินก็เหมือนกับการไม่มีลาภยศ
แม้จะมีบรรดาศักดิ์เป็นบารอน แต่บารอนที่เรียกว่าจักรพรรดิและบารอนที่เรียกว่าองค์ชายก็ยังคงมีความแตกต่างกัน และพวกเขาก็ได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
จักรพรรดิแห่งบารอนนั้นจะคล้ายกับผู้ใต้บังคับบัญชาของลอร์ด แต่องค์ชายก็จะเป็นเหมือนกันอัศวิน
ดังนั้นคนประเภทหลังจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะถามจักรพรรดิถึงแผนการของเขา และเมื่อเจ้านายที่แท้จริงของแผ่นดินพ่ายแพ้มันก็จะไม่มีประกันใดๆที่มอบให้กับพวกเขา
“ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าท่านลอร์ดได้รับแหวนของเขามาแล้วอย่างนั้นหรอ? ไม่ใช่ว่าแหวนของเคานต์โมนาร์ชจะต้องติดอยู่กับเขาตอนที่วิ่งหนีไปอย่างนั้นหรอ?..”
“แหวนแห่งเคานต์ถูกพบอยู่ในห้องนอน ดังนั้นมันจึงไม่มีปัญหาอะไร”
ความจริงก็คือแหวนได้ถูกน่าออกมาจากศพของเคานต์โมนาร์ช อย่างไรก็ตาม มิกสันไม่ได้รู้ถึงเรื่องนี้
การตายของเคานต์โมนาร์ชนั้นเป็นความลับที่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้
และตามที่ดูกสันได้กล่าวไป ขุนนางก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้
“เอ่อเป็นไปได้ยังไงกัน? ครอบครัวของเราเป็นคนรับใช้ของเคานต์โมนาร์ชได้ ก็เพราะความผูกพันของบรรพบุรุษที่มีต่อเขาไม่ใช่เพราะเราชอบมันแต่อย่างใด
“ถ้าอย่างนั้น ท่านลอร์ดหนุ่มจะเป็นผู้ตัดสินใจ”
“อืม…”
“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย แต่ข้าจะส่งลูกชายคนโตของข้าไปยังที่ดินของรากันต์ ถึงทักษะในการฟันดาบของเขาจะไม่ได้ยอดเยี่ยมมากนัก แต่เขาก็ได้รับการศึกษาการศึกษาด้านการทหารและกิจการของจักรพรรดิมาพอสมควร
มีค่าวิงวอนมากมายเกิดขึ้นทั่วห้องจัดเลี้ยง
ไม่มีเหตุผลที่จะให้พวกเขาคิดต่อต้านลุคผู้ที่ถือครองแหวนของลอร์ด ซึ่งระบุว่าเขาเป็นผู้ชนะในสงครามและเป็นเจ้าของพื้นที่ทั้งหมดของเคานต์โมนาร์ช และพวกเขาไม่ได้มีกาลังหรือกกันท์มากพอที่จะใช้เพื่อต่อต้านฝ่ายรากันต์
เมื่อเห็นฉากนี้ อัศวินโรเจอร์สก็ยิ้มขึ้น
“นายน้อยมักจะทําอะไรบางอย่างที่ไม่คาดคิดจริงๆ
ไม่จําเป็นที่จะต้องขายดินแดนที่เป็นของเคานต์โมนาร์ช หากผู้คนต่างก็ให้ความร่วมมือกับเขา
สาเหตุที่เขาต้องการขายดินแดนนั้นมาจากความคิดที่ว่าพวกเขาจะไม่สามารถจัดการกับมันได้หากมีการก่อกบฎเกิดขึ้น
“แต่มันจะไม่มีทางใดเลยที่เราจะไม่ต้องขายที่ดินแม้แต่ผืนเดียว
ที่ดินของพวกโกทและข้ารับใช้คนอื่นๆที่หนีไปต่างกองถูกขายออกไป
เพราะฝ่ายรากันต์นั้นไม่ได้มีคนมากพอที่จะส่งไปดูแลพื้นที่ทั้งหมด
“ลุคแห่งรากันต์ เจ้าของสมญาไวเคานต์รากันต์และเจ้าหญิงเรย์น่า เปโตรน่า คิลิว ลอฟ”
เมื่อบรรยากาศเริ่มสดใส เสียงระฆังก็ดังขึ้นและมีการประกาศรายชื่อออกมา
ขุนนางทุกคนที่กําลังคุยกันอยู่ต่างก็มองไปที่หน้าประตูทางเข้า
ประตูห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่เปิดออกและลุคก็เดินเข้าไปพร้อมกับเรย์น่า พวกเขาโอบแขนซึ่งกันและกัน
ลุคซึ่งสวมชุดจัดเลี้ยงที่เข้มงวดในขณะที่เรย์น่าแต่งกายด้วยชุดโบราณที่ดูหรูหราและเป็นธรรมชาติ
“ชายหนุ่มคนนี้เป็นทายาทของนักรบผู้ยิ่งใหญ่รากันต์หรอ!”
“ไม่เหมือนข่าวลือเลย เขาดูมีศักดิ์ศรีอย่างมาก”
“นั่นใคร? ไหนมีคนบอกว่าเขาอ่อนแอเหมือนกับเด็กผู้หญิงไง!”
บรรดาผู้ที่เห็นลุคเป็นครั้งแรกต่างพากันลุกลี้ลุกลนเมื่อเห็นบางสิ่งที่แตกต่างจากข้อมูลที่พวกเขามี
ในสงครามชิงดินแดน ผู้คนต่างก็คิดว่ามันเป็นเพราะความไร้ความสามารถของเช่นกัน และการปล่อยปะละเลยของเคานต์โมนาร์ชที่ไม่ตั้งตัวให้ดี
แต่เรื่องราวของลอร์ดหนุ่มที่เอาชนะกิกันท์ทั้งสามตัว และไล่หนึ่งคนออกไปได้นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ฟังดูเกินจริงละไม่น่าเชื่อ
อย่างไรก็ตาม เด็กชายหรือชายหนุ่มที่ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขานั้นสูงส่งและดูน่าภูมิใจเกินกว่าจะถูกเรียกว่าผู้แพ้
นอกจากนี้การคาดเดาที่ผิดจากคว่ามจริงไปไกลแล้ว มันยังแทบจะเรียกได้ว่าตตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
ผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกหวาดกลัวชายคนนี้เป็นอย่างมาก และต่างก็ก้มหัวให้เขาโดยไม่รู้ตัวเมื่อพวกเขาเข้ามา
คนรับใช้รากันต์ที่ได้เห็นมันก็อดไม่ได้ที่จะมีความสุขอย่างมาก
เมื่อลคเห็นทุกคนก่าลังให้ความสนใจกับเขา เขาก็เปิดปาก
“ขอบคุณที่ตอบรับคําเชิญของข้า และสําหรับคนที่มาที่นี่ด้วยจุดประสงค์อื่น…”
ลุคมองไปรอบๆห้องอีกครั้งแล้วจึงพูดต่อ
“วันนี้สถานที่แห่งนี้จะเฉลิมฉลองชัยชนะของนักรบและเพื่อรําลึกถึงความพ่ายแพ้ของผู้โง่เขลา จงยกแก้วขึ้นและแบ่งปันความสุขด้วยกันเถิด”
ฮานส์ที่รออยู่ข้างหลังพร้อมกับแก้วไวน์ก็ชูขึ้นสดุดีให้แก่ลุคและเรย์น่า
ลุคยกแก้วขึ้นแล้วพูดด้วยน้ําเสียงหนักแน่นว่า
“เพื่อความรุ่งเรืองของนักรบผู้กล้าหาญและอนาคตของดินแดนรากันต์”
“ว้าว!”
ทุกคนยกแก้วขึ้น
รอยยิ้มของลุคเต็มไปด้วยความพึงพอใจ
ฉากที่เขาได้เห็นในวันนี้นั้นดูเหมือนจะยาที่ช่วยชําระล้างควมเหนื่อยอ่อนที่พวกเขาได้เผชิญมาตลอดทั้งเดือน….
ติดตามนิยายเรื่องอื่นได้ที่ : นอนน้อยโนเวล
Comments
Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล 81 งานเลี้ยงฉลองชัยชนะ (1)
บทที่ 81 งานเลี้ยงฉลองชัยชนะ (1)
ยามเย็นที่เร่าร้อน
เสียงเพลงที่สดใสและร่าเริงสามารถได้ยินได้จากที่คฤหาสน์ของเมืองลาเมอร์ มันเป็นเพราะงานเลี้ยงได้ถูกจัดขึ้นในห้องโถงของที่พัก ซึ่งพึ่งได้รับการซ่อมแซมไป เมื่อไม่นานมานี้
งานเลี้ยงจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ชัยชนะในสงครามดินแดนซึ่งเกิดขึ้นเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว
ขุนนาง,อัศวิน,พ่อค้า นักวิชาการ,นักบวชและอื่นๆ ผู้คนจากทุกสารทิศต่างมาเข้าร่วมงานเลี้ยงโดยแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่หรหราและมีสีสัน
ในหมู่พวกเขาเป็นข้ารับใช้ของรากันต์และหลายคนก็เป็นอดีตข้ารับใช้ของเคานต์โมนาร์ช
โดยปกติแล้วคนพวกนี้ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีมากนักกับเคานต์โมนาร์ช ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นว่าผู้ชรนะในสงครามชิงดินแดนคือฝ่ายรากันต์ พวกเขาจึงเลือกที่จะมเข้าร่วมในงานเลี้ยงครั้งนี้
“นานมากแล้วที่ข้าไม่ได้พบท่าน มิสซิสบารอน ข้าได้ข่าวมาว่าสามีของท่านต้องทนทุกข์ทรมานเพราะไอ้หมูตอนโมนาร์ชเหมือนกันอย่างนั้นหรอ”
“โฮโฮโฮ ผู้ชายคนนั้นสมควรแล้วที่จะต้องติดอยู่คุกเน่าๆ ขณะกินซุปถั่วเหลืองแหยะๆ แล้วธุรกิจของท่านเป็นอย่างไรบ้าง? ข้าได้ยินมาว่าท่านย้ายไปที่ด้านใต้ เพื่อดําเนินธุรกิจใหม่?”
“ก็แค่เพียงชั่วคราว เราเพิ่งย้ายไปที่สํานักงานใหญ่ฝั่งท่าเรือบนเกาะทางใต้…”
ผู้คนต่างก็พบปะพูดคุยกับผู้คนที่พวกเขาเคยรู้จักหรือไม่ได้เจอกันเป็นเวลานานแล้ว
ในหมู่พวกเขา ขุนนางที่เคยตกอยู่ภายใต้อานาจของเคานต์โมนาร์ชก็กําลังดิ้นรนที่จะพูดคุยกับคนรับใช้ของรากันต์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพยายามของขุนนางบารอนที่ได้รับคฤหาสน์ของพวกเขากลับมา ต่างก็มีน้ําตาคลอเบ้า
“ท่านดิกสัน เป็นความจริงหรือไม่ที่ท่านลอร์ดหนุ่มลุควางแผนที่จะขายดินแดนบางส่วนในอาณาเขตของเคานต์”
“ใช่แล้ว มันมากเกินไปสําหรับเราที่จะจัดการกับดินแดนของเคานต์ที่มีขนาดใหญ่ขนาดนี้”
คําพูดของดิกสันทําให้หัวของขุนนางทั้งหมดหันไปในทิศทางเดียวกัน
หากอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ถูกขายออกไปจริงๆ พวกเขาก็คาดหวังที่จะเป็นอันดับ 1 ในดินแดนแห่งนี้
การไม่มีที่ดินก็เหมือนกับการไม่มีลาภยศ
แม้จะมีบรรดาศักดิ์เป็นบารอน แต่บารอนที่เรียกว่าจักรพรรดิและบารอนที่เรียกว่าองค์ชายก็ยังคงมีความแตกต่างกัน และพวกเขาก็ได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
จักรพรรดิแห่งบารอนนั้นจะคล้ายกับผู้ใต้บังคับบัญชาของลอร์ด แต่องค์ชายก็จะเป็นเหมือนกันอัศวิน
ดังนั้นคนประเภทหลังจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะถามจักรพรรดิถึงแผนการของเขา และเมื่อเจ้านายที่แท้จริงของแผ่นดินพ่ายแพ้มันก็จะไม่มีประกันใดๆที่มอบให้กับพวกเขา
“ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าท่านลอร์ดได้รับแหวนของเขามาแล้วอย่างนั้นหรอ? ไม่ใช่ว่าแหวนของเคานต์โมนาร์ชจะต้องติดอยู่กับเขาตอนที่วิ่งหนีไปอย่างนั้นหรอ?..”
“แหวนแห่งเคานต์ถูกพบอยู่ในห้องนอน ดังนั้นมันจึงไม่มีปัญหาอะไร”
ความจริงก็คือแหวนได้ถูกน่าออกมาจากศพของเคานต์โมนาร์ช อย่างไรก็ตาม มิกสันไม่ได้รู้ถึงเรื่องนี้
การตายของเคานต์โมนาร์ชนั้นเป็นความลับที่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้
และตามที่ดูกสันได้กล่าวไป ขุนนางก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้
“เอ่อเป็นไปได้ยังไงกัน? ครอบครัวของเราเป็นคนรับใช้ของเคานต์โมนาร์ชได้ ก็เพราะความผูกพันของบรรพบุรุษที่มีต่อเขาไม่ใช่เพราะเราชอบมันแต่อย่างใด
“ถ้าอย่างนั้น ท่านลอร์ดหนุ่มจะเป็นผู้ตัดสินใจ”
“อืม…”
“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย แต่ข้าจะส่งลูกชายคนโตของข้าไปยังที่ดินของรากันต์ ถึงทักษะในการฟันดาบของเขาจะไม่ได้ยอดเยี่ยมมากนัก แต่เขาก็ได้รับการศึกษาการศึกษาด้านการทหารและกิจการของจักรพรรดิมาพอสมควร
มีค่าวิงวอนมากมายเกิดขึ้นทั่วห้องจัดเลี้ยง
ไม่มีเหตุผลที่จะให้พวกเขาคิดต่อต้านลุคผู้ที่ถือครองแหวนของลอร์ด ซึ่งระบุว่าเขาเป็นผู้ชนะในสงครามและเป็นเจ้าของพื้นที่ทั้งหมดของเคานต์โมนาร์ช และพวกเขาไม่ได้มีกาลังหรือกกันท์มากพอที่จะใช้เพื่อต่อต้านฝ่ายรากันต์
เมื่อเห็นฉากนี้ อัศวินโรเจอร์สก็ยิ้มขึ้น
“นายน้อยมักจะทําอะไรบางอย่างที่ไม่คาดคิดจริงๆ
ไม่จําเป็นที่จะต้องขายดินแดนที่เป็นของเคานต์โมนาร์ช หากผู้คนต่างก็ให้ความร่วมมือกับเขา
สาเหตุที่เขาต้องการขายดินแดนนั้นมาจากความคิดที่ว่าพวกเขาจะไม่สามารถจัดการกับมันได้หากมีการก่อกบฎเกิดขึ้น
“แต่มันจะไม่มีทางใดเลยที่เราจะไม่ต้องขายที่ดินแม้แต่ผืนเดียว
ที่ดินของพวกโกทและข้ารับใช้คนอื่นๆที่หนีไปต่างกองถูกขายออกไป
เพราะฝ่ายรากันต์นั้นไม่ได้มีคนมากพอที่จะส่งไปดูแลพื้นที่ทั้งหมด
“ลุคแห่งรากันต์ เจ้าของสมญาไวเคานต์รากันต์และเจ้าหญิงเรย์น่า เปโตรน่า คิลิว ลอฟ”
เมื่อบรรยากาศเริ่มสดใส เสียงระฆังก็ดังขึ้นและมีการประกาศรายชื่อออกมา
ขุนนางทุกคนที่กําลังคุยกันอยู่ต่างก็มองไปที่หน้าประตูทางเข้า
ประตูห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่เปิดออกและลุคก็เดินเข้าไปพร้อมกับเรย์น่า พวกเขาโอบแขนซึ่งกันและกัน
ลุคซึ่งสวมชุดจัดเลี้ยงที่เข้มงวดในขณะที่เรย์น่าแต่งกายด้วยชุดโบราณที่ดูหรูหราและเป็นธรรมชาติ
“ชายหนุ่มคนนี้เป็นทายาทของนักรบผู้ยิ่งใหญ่รากันต์หรอ!”
“ไม่เหมือนข่าวลือเลย เขาดูมีศักดิ์ศรีอย่างมาก”
“นั่นใคร? ไหนมีคนบอกว่าเขาอ่อนแอเหมือนกับเด็กผู้หญิงไง!”
บรรดาผู้ที่เห็นลุคเป็นครั้งแรกต่างพากันลุกลี้ลุกลนเมื่อเห็นบางสิ่งที่แตกต่างจากข้อมูลที่พวกเขามี
ในสงครามชิงดินแดน ผู้คนต่างก็คิดว่ามันเป็นเพราะความไร้ความสามารถของเช่นกัน และการปล่อยปะละเลยของเคานต์โมนาร์ชที่ไม่ตั้งตัวให้ดี
แต่เรื่องราวของลอร์ดหนุ่มที่เอาชนะกิกันท์ทั้งสามตัว และไล่หนึ่งคนออกไปได้นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ฟังดูเกินจริงละไม่น่าเชื่อ
อย่างไรก็ตาม เด็กชายหรือชายหนุ่มที่ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขานั้นสูงส่งและดูน่าภูมิใจเกินกว่าจะถูกเรียกว่าผู้แพ้
นอกจากนี้การคาดเดาที่ผิดจากคว่ามจริงไปไกลแล้ว มันยังแทบจะเรียกได้ว่าตตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
ผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกหวาดกลัวชายคนนี้เป็นอย่างมาก และต่างก็ก้มหัวให้เขาโดยไม่รู้ตัวเมื่อพวกเขาเข้ามา
คนรับใช้รากันต์ที่ได้เห็นมันก็อดไม่ได้ที่จะมีความสุขอย่างมาก
เมื่อลคเห็นทุกคนก่าลังให้ความสนใจกับเขา เขาก็เปิดปาก
“ขอบคุณที่ตอบรับคําเชิญของข้า และสําหรับคนที่มาที่นี่ด้วยจุดประสงค์อื่น…”
ลุคมองไปรอบๆห้องอีกครั้งแล้วจึงพูดต่อ
“วันนี้สถานที่แห่งนี้จะเฉลิมฉลองชัยชนะของนักรบและเพื่อรําลึกถึงความพ่ายแพ้ของผู้โง่เขลา จงยกแก้วขึ้นและแบ่งปันความสุขด้วยกันเถิด”
ฮานส์ที่รออยู่ข้างหลังพร้อมกับแก้วไวน์ก็ชูขึ้นสดุดีให้แก่ลุคและเรย์น่า
ลุคยกแก้วขึ้นแล้วพูดด้วยน้ําเสียงหนักแน่นว่า
“เพื่อความรุ่งเรืองของนักรบผู้กล้าหาญและอนาคตของดินแดนรากันต์”
“ว้าว!”
ทุกคนยกแก้วขึ้น
รอยยิ้มของลุคเต็มไปด้วยความพึงพอใจ
ฉากที่เขาได้เห็นในวันนี้นั้นดูเหมือนจะยาที่ช่วยชําระล้างควมเหนื่อยอ่อนที่พวกเขาได้เผชิญมาตลอดทั้งเดือน….
ติดตามนิยายเรื่องอื่นได้ที่ : นอนน้อยโนเวล
Comments