Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 789 งานแฟนมีตติงที่ไม่เหมือนใคร

Now you are reading Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน Chapter 789 งานแฟนมีตติงที่ไม่เหมือนใคร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 789 งานแฟนมีตติงที่ไม่เหมือนใคร

……….

ครั้นถึงรุ่งสาง!

ข่าวสะเทือนไปทั่วทุกแห่งหน!

[เซี่ยนอวี๋อาจคว้าแชมป์สมัยที่เก้าในฤดูกาลเพลง!]

[จิตวิญญาณแห่งสแลมดังก์: ตราบจนโลกสูญสลาย]

[เพลงใหม่ของเซี่ยนอวี๋ ตราบจนโลกสูญสลาย!]

[บทเพลงที่ทำให้ผู้คนต้องหลั่งน้ำตา!]

[เซี่ยนอวี๋ผลิตเพลงประกอบแอนิเมชันระดับตำราเรียน]

[เซี่ยนอวี๋คว้าแชมป์เก้าสมัย สิบสมัยจะไกลแค่ไหนกันเชียว?]

[…]

ทั้งที่เห็นได้ชัดว่าเซี่ยนอวี๋เกาะกระแส แต่ก็ไม่มีใครสามารถพูดอะไรได้

ไม่ต้องเอ่ยถึงความสัมพันธ์ของเขากับอิ่งจือ ลำพังคุณภาพของเพลงที่เขาหยิบออกมาก็เพียงพอที่จะโน้มน้าวทุกคนแล้ว!

เรื่องนี้

กลายเป็นประเด็นร้อนในวงการ!

“เขากำลังดึงแฟนคลับสแลมดังก์เข้ามาร่วมขบวนการปั่นชาร์ตเพลงด้วย!”

“ต้องบอกว่าความสามารถของเซี่ยนอวี๋ในการเขียนเพลงธีมหนังหรือแอนิเมชันแข็งแกร่งจริงๆ แฟนสแลมดังก์ชื่นชมเพลงนี้กันมาก และดันเพลงนี้ขึ้นสู่หัวตารางของชาร์ตเพลงเดือนกันยาในทันที!”

“เขาเก่งด้านการผลิตเพลงรูปแบบเฉพาะ!”

“เพลงรัตติกาลบทที่เจ็ดก่อนหน้านี้ก็จุดประแสความนิยมของโฮล์มส์ได้อย่างสมบูรณ์ ตอนนั้นได้รับแรงหนุนจากแฟนคลับโฮล์มส์ และดูเหมือนว่าแฟนคลับของสามสหายจะช่วยกันอย่างเต็มที่”

“เกาะกระแสจากแอนิเมชันเรื่องดังถล่มทลาย วิธีไต่ชาร์ตแบบนี้เจ้าเล่ห์จริงๆ”

“คุณล้อเล่นอะไรกัน เซี่ยนอวี๋ไม่ได้เจ้าเล่ห์อะไรหรอก ที่จริงแล้วเรื่องนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิด ถ้าเพลงของเขาไม่เข้ากับผลงานก็จะไร้ประโยชน์อยู่ดี”

“นั่นก็จริง”

“ถ้าคนอื่นอยากจะเลียนแบบ น่ากลัวว่าพวกเขามีแต่จะพาตัวเองเดือดร้อน”

“ตัวอย่างที่คลาสสิกที่สุดก็คือเรื่องจักรพรรดิดำ คนตั้งมากมายอยากแต่งเพลงประกอบให้ผลงานชิ้นนี้ ปรากฏว่าหลายปีผ่านมาก็ยังมีคนน้อยนักที่เขียนเพลงนี้ออกมาได้ดี ไม่ว่าผลงานนี้จะผลิตออกมาเป็นแอนิเมชันหรือซีรีส์ เพลงเดิมก็ถูกใช้ซ้ำๆ และเป็นเพลงที่สองยอดฝีมือจากจงโจวเขียน ผลงานจากคนอื่นๆ แฟนคลับไม่ซื้อแน่นอน”

“เพลงประกอบของผลงานนั้นไม่ค่อยมีใครกล้าแตะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา”

“…”

เพลงนี้ของเซี่ยนอวี๋นับเป็นเพลงประกอบซึ่งผลิตขึ้นอย่างจำเพาะเจาะจง

ในวงการรู้ว่าการผลิตผลงานอย่างจำเพาะเจาะจงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และความนิยมประเภทนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ ใครๆ ก็สามารถเกาะกระแสได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระแสของผลงานยอดนิยม

ถ้าไม่ระวังให้ดี ก็อาจได้ไม่คุ้มเสีย

นี่คือสาเหตุที่หลายคนในวงการไม่คิดว่าเซี่ยนอวี๋กำลังเล่นไม่ซื่อ

แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งอุตสาหกรรมต้องสะท้อนใจคือ

เซี่ยนอวี๋คว้าแชมป์เก้าสมัยติดต่อกันโดยไม่รู้ตัว

ถึงแม้เดือนกันยายนจะยังไม่สิ้นสุด แต่เพลงตราบจนโลกสูญสลายนี้กลับก้าวขึ้นสู่บัลลังก์แชมป์ได้อย่างง่ายดาย หลังจากนี้คงเป็นเรื่องยากที่เพลงใดจะทำลายแนวโน้มของเพลงนี้ได้

และเมื่อเซี่ยนอวี๋ประกาศว่าจะคว้าแชมป์สิบสองสมัย จะมีสักกี่คนที่คิดว่าเขาจะมาถึงจุดนี้ได้

ต้องเข้าใจว่า

ถึงแม้เซี่ยนอวี๋จะฝีมือยอดเยี่ยม ทว่าในฉินฉีฉู่เยี่ยนหาน ก็ใช่ว่าจะไม่มีพ่อเพลงฝีมือเยี่ยม

อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงคือในช่วงเก้าเดือนนับตั้งแต่ต้นปี มีพ่อเพลงหลายคนที่ลงมืออย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งพ่อเพลงอวี๋ในเส้นทางแชมป์สิบสองสมัยได้!

“ต่อให้เซี่ยนอวี๋ถูกจัดการในเดือนสิบ ก็มากพอให้เขาภาคภูมิใจในตัวเองได้แล้ว”

ในพื้นที่ส่วนตัว

ราชาเพลงคนหนึ่งพึมพำด้วยความรู้สึกยกย่อง

“ในยุคสมัยที่บลูสตาร์ผนวกรวม นักดนตรีจากทั้งห้าทวีปแข่งขันบนสังเวียนเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ในครั้งไหนล้วนเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะครองแชมป์ชาร์ตเพลงเป็นเวลาเก้าเดือนติดต่อกัน…”

“ผมว่าเดือนตุลาก็หยุดเขาไม่ได้”

โปรดิวเซอร์เพลงชื่อดังซึ่งอยู่ด้านข้างเอ่ยขึ้นในคำพูดเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ “ความท้าทายสำหรับเซี่ยนอวี๋คือเดือนพฤศจิกาหรือมหาสงครามเทพเซียนช่วงสิ้นปี”

ราชาเพลงนึกสงสัย “มหาสงครามเทพเซียนผมพอจะเข้าใจ แต่พฤศจิกามีใครลงสนามหรือ?”

โปรดิวเซอร์คนนี้กดเสียงเบา “ผมได้ยินข่าวลือมาว่าเดือนพฤศจิกาจะมีพ่อเพลงอันดับต้นๆ ออกโรง”

“ในจงโจวมีคนคิดจะโจมตีเซี่ยนอวี๋ก่อนมหาสงครามเทพเซียนด้วยหรือ?”

“ไม่ใช่จงโจว แต่เป็นผู้ชายคนนั้นที่แข่งกับจงโจวแล้วไม่เคยตกเป็นรองต่างหาก”

แววตาของราชาเพลงนิ่งค้างทันทีที่ได้ยิน

……

หลังจากเพลงตราบจนโลกสูญสลายขึ้นไปครองบัลลังก์แชมป์ได้สำเร็จ หลินเยวียนจึงพอจะวางใจลงได้

ไม่จำเป็นต้องปล่อยเพลงสำรองของเขา

การคว้าแชมป์เก้าสมัยนับว่าเป็นความสำเร็จที่ดีมากทีเดียว แม้แต่หลินเยวียนก็ยังรู้สึกว่าการไต่ชาร์ตตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

หลินเยวียนจึงโดดงานและกลับบ้านไปพร้อมกับความคิดที่จะพักผ่อน

ปรากฏว่าระหว่างทาง หลินเยวียนได้รับโทรศัพท์จากซุนเย่าหั่ว

“รุ่นพี่เย่าหั่วมีเรื่องอะไรครับ”

“จะบอกข่าวดีเรื่องหนึ่งกับรุ่นน้อง!”

“ข่าวดีอะไรครับ”

“พืชปะทะซอมบีของพวกเราจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการพรุ่งนี้เจ็ดโมงเช้าบนแพลตฟอร์มเกมบลูมูนแล้ว!”

“เอ๊ะ?”

หลินเยวียนเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว แต่เมื่อคำนวณจากเวลา พืชปะทะซอมบีควรเปิดตัวไปนานแล้ว ตอนนี้นับว่าสายเกินไปสักหน่อย

“เดิมทีควรจะเปิดตัวมานานแล้ว”

ซุนเย่าหั่วกล่าวกลั้วหัวเราะ “ปรากฏว่าตอนที่จะเปิดตัว ทีมทดสอบพบว่ามีปัญหาบางอย่าง ใช้เวลาแก้ไขไปสักพัก หลังจากนั้นต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ในกระบวนการตรวจสอบและอนุมัติ”

“ครับ”

หลินเยวียนเอ่ยตอบ

เกมนี้เป็นเพียงผลงานที่เกิดขึ้นตามใจไปชั่วขณะ เดิมทีเขาไม่ได้สนใจทันมากนัก ในเวลานี้เมื่อได้ยินข่าวนี้ เขาจึงไม่ได้มีความรู้สึกใดเป็นพิเศษ

แต่จะว่าไปแล้ว

ไม่ว่าอย่างไรนี่ก็เป็นเกมที่เขาออกแบบ

ถ้าหากเกมประสบความสำเร็จ เขาจะได้รับค่าความโด่งดังเช่นเดียวกัน ซึ่งนั่นทำให้หลินเยวียนเกิดความรู้สึกคาดหวังขึ้นมาเล็กน้อย

วันรุ่งขึ้น

หลังจากหลินเยวียนตื่นนอน เขากดเข้าสู่แพลตฟอร์มบลูมูน และค้นหาเกม ‘พืชปะทะซอมบี’

เกมนี้เปิดตัวบนโลกออนไลน์ และมีค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลด 10 หยวน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเกมดังกล่าวเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ในเวลานี้ยอดดาวน์โหลดจึงไม่ได้มาก และพื้นที่แสดงความคิดเห็นก็มีคนไม่มากนัก

ในเมื่อเป็นเกมที่ต้องเสียเงิน ชาวเน็ตจึงค่อนข้างระมัดระวังในการดาวน์โหลด

คาดว่าเมื่อเวลาผ่านไป จะมีคนค้นพบสเน่ห์ของเกมนี้เอง

หลินเยวียนไม่ได้สนใจมากนัก และกดดาวน์โหลดเกมมาเล่นสักพักก่อนจะทิ้งไว้เช่นนั้น

ในขณะนั้นเอง

มีคนเคาะประตู

หลินเยวียนเปิดประตู และพบว่าเป็นหลินเหยาน้องสาวของเขา

“พี่”

“เหยาเหยา”

“วันนี้หนูรับประกาศนียบัตรแล้ว”

“ประกาศนียบัตรเรียนจบ?”

หลินเยวียนคลี่ยิ้มกว้างขึ้นทันใด “ดีใจด้วยที่เรียนจบ”

หลินเยวียนรู้ว่าช่วงนี้น้องสาวของเขาง่วนอยู่กั บปริญญานิพนธ์ พวกเขาพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้หลายครั้งระหว่างรับประทานอาหารเย็นในครอบครัว ตอนนี้ดูเหมือนว่าปริญญานิพนธ์จะผ่านไปได้อย่างราบรื่น

“อื้ม”

“เรียนจบแล้วอยากทำอะไรล่ะ”

หลินเยวียนรู้สึกตื่นเต้น และอยากให้คำแนะนำ “เธอเรียนสาขาจิตรกรรม สนใจด้านวาดการ์ตูนไหม หรือชอบจิตรกรรมดั้งเดิมมากกว่า?”

หลินเหยาส่ายหน้า “ไม่”

“ไม่ชอบ?”

“ไม่มีพรสวรรค์”

น้องสาวกลอกตา “พี่มีเพื่อนคนหนึ่ง! เขาวาดภาพเก่งมาก เทียบกันแล้วหนูคงแตะไม่ถึงระดับนั้นไปชั่วชีวิต”

หลินเยวียน “…”

อิทธิพลที่ครอบครัวมีต่อเด็กนั้นยิ่งใหญ่จริงๆ

“งั้นเธออยากทำอะไรล่ะ”

“ถ้าหนูคิดออกแล้วจะบอกพี่นะ”

น้องสาวพูด “ตอนนี้อยากตามดารา”

“ตามใคร”

“เจียงขุย หนูจะไปงานแฟนมีต”

“งั้นรอประเดี๋ยว”

หลินเยวียนปิดประตู กดโทรศัพท์

ยี่สิบนาทีผ่านไป

วิลลาสกุลหลิน

เจียงขุยและหลินเหยาจ้องมองกัน

ช่างเป็นงานแฟนมีตติงที่ไม่เหมือนใครจริงๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด