Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 796 ราชาเรื่องสั้น (1)

Now you are reading Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน Chapter 796 ราชาเรื่องสั้น (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 796 ราชาเรื่องสั้น (1)

……….

บล็อก

แผนกวรรณกรรม

ในเวลานี้บรรณาธิการกลุ่มหนึ่งสีหน้าแลดูหม่นหมอง

มีคนถอนหายใจและพูดว่า “แผนกวรรณกรรมของเราน่าจะโดนข้างบนด่าแล้ว”

ปู้ลั่วและบล็อกเป็นคู่ปรับเก่าแก่

ทางปู้ลั่วจะจัดกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องสั้นเป็นครั้งคราวเพื่อเรียกปริมาณการเข้าชมมายังแพลตฟอร์ม

ทางบล็อกได้จัดกิจกรรมที่คล้ายคลึงกัน พยายามงัดข้อกับปู้ลั่วมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วปู้ลั่วเป็นธุรกิจขนาดยักษ์ใหญ่ นักเขียนเรื่องสั้นที่ร่วมงานด้วยนั้นแข็งแกร่งกว่า เพราะฉะนั้นกระแสของกิจกรรมบนปู้ลั่วจึงเหนือกว่าบล็อกอยู่เสมอ

ด้วยเหตุนี้ บรรณาธิการแผนกวรรณกรรมจึงถูกหัวหน้าตำหนิไปไม่น้อย

แต่ถึงแม้จะไม่สามารถเอาชนะปู้ลั่วได้ ทว่าทางบล็อกสามารถดำรงอยู่ได้ และยังไม่พังทลายเสียทีเดียว เพราะฉะนั้นต่อให้ถูกเบื้องบนตำหนิ ก็ไม่ได้ถูกตำหนิจนรุนแรงเกินรับได้

แต่ในครั้งนี้บล็อกรับมือไม่ไหวจริงๆ

ใครจะคิดว่าทางปู้ลั่วจะเชิญเฟยหงมาออกโรงจริงๆ !

นั่นเฟยฟงเชียวนะ!

หลังจากฉางฉินแขวนปากกาไป เฟยหงก็คือนักเขียนนิยายสั้นอันดับหนึ่งในฉินโจว!

อันดับหนึ่งในสามอาชาไนย แห่งวงการนิยายสั้นฉินโจว!

เมื่อได้มีบุคคลระดับนี้เป็นกองหนุน กิจกรรมเรื่องสั้นครั้งใหม่ของปู้ลั่วจะต้องระเบิดความคึกคักได้อย่างแน่นอน!

หากบล็อกต้านทานด้วยพลังอย่างเมื่อก่อน คงไม่สามารถทำได้ ครั้งนี้เห็นทีอาจถึงคราวได้ล่มสลายโดยสมบูรณ์!

ต้องเข้าใจว่า

เดิมทีกิจกรรมนิยายสั้นทางทางปู้ลั่วนั้นเหนือกว่าบล็อกมาโดยตลอด คราวนี้พวกเขามีกำลังเสริมอย่างเฟยหงซึ่งเป็นหนึ่งในสามอาชาไนยอีก ลำพังทัพนักเขียนก็เอาชนะได้บล็อกได้แล้ว!

“จะสู้ยังไงล่ะ”

“สู้ไม่ได้เลย พวกเราถูกทุบตายแน่”

“นอกจากว่าพวกเราจะเชิญนักเขียนเรื่องสั้นที่ฝีมือเหนือกว่าเฟยหงมาได้”

“นักเขียนที่อันดับสูงกว่าเฟยหงมีทั้งหมดสี่คน”

“หัวหน้าบ.ก.ได้ติดต่อนักเขียนทั้งสี่ท่านแล้ว ช่วงนี้พวกเขาไม่มีใครมีผลงานที่เหมาะสมในการเผยแพร่เลย ของอย่างเรื่องสั้นต้องพึ่งแรงบัลดาลใจทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าอยากเขียนก็เขียนออกมาได้ ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสี่คนก็ใส่ใจกับภาพลักษณ์ของตัวเองมาก ถ้าไม่มั่นใจจริงๆ ว่าจะชนะ เฟยหงไม่มีทางลงมือแน่ๆ ถ้าเกิดแพ้ขึ้นมาอาจส่งผลต่ออันดับได้”

“เอ๊ะ”

“รอหัวหน้าบ.ก.ก็แล้วกัน หัวหน้าบ.ก.บอกว่าเขาจะคิดหาวิธี ไม่แน่อาจมีหวัง”

“…”

ทุกคนถอนหายใจ

ในขณะนั้นเอง หัวหน้าบรรณาธิการก็มาถึงแผนกนิยาย

ขวับๆๆ!

ทุกคนต่างมองไปยังหัวหน้าบรรณาธิการ

“หัวหน้า คิดวิธีออกหรือยัง”

“จะแตกตื่นไปทำไม ฟ้ายังไม่ได้ถล่มลงมาสักหน่อย”

หัวหน้าบรรณาธิการเริ่มโกรธเมื่อเห็นสีหน้าอันหมองหม่นของบรรณาธิการเหล่านี้ แต่กระนั้นเขาก็เข้าใจความกดดันของทุกคนเช่นกัน ความกดดันของตัวเขาเองก็ไม่น้อยเช่นกัน ลอบถอนหายใจเบาๆ น้ำเสียงของเขาผ่อนคลายลงเล็กน้อย

“ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ผมเพิ่งให้คนติดต่อกับอาจารย์ฉู่ขวงไป ทางอาจารย์ฉู่ขวงรับปากแล้วว่าจะลงมือ”

ทันทีที่เอื้อนเอ่ยคำพูดออกไป บรรณาธิการทุกคนต่างประหลาดใจ!

“จริงด้วย ลืมอาจารย์ฉู่ขวงไปได้ยังไง ตอนนี้เขาเป็นคนของบล็อก!”

“เมื่อก่อนตอนที่อาจารย์ฉู่ขวงอยู่ปู้ลั่ว ก็ช่วยแผนกวรรณกรรมของปู้ลั่วเอาชนะพวกเราตั้งหลายครั้ง ฝีมือของเขาเป็นที่ประจักษ์สำหรับทุกคน!”

“บล็อกรอดแล้ว!”

“อาจารย์ฉู่ขวงสามารถหยิบผลงานออกมาได้ตลอดเวลาจริงๆ !”

“ทั้งที่การเขียนเรื่องสั้นเป็นสิ่งที่ยากมาก แต่เขากลับรับปากทันทีที่โทรไปครั้งเดียว เมื่อก่อนพวกเราเป็นคู่แข่งกับคนแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”

“ตอนนี้มาถึงเวลาแล้วที่ปู้ลั่วจะต้องปวดหัวว่าจะจัดการกับฉู่ขวงยังไงดี!”

“เดี๋ยวนะ”

“ฉู่ขวงอยู่อันดับสิบในการจัดอันดับนักเขียนเรื่องสั้น และเฟยหงอยู่ในอันดับห้า จะสู้ไหวหรือเปล่า?”

“…”

ท่ามกลางความประหลาดใจ มีบางคนแสดงความกังวล

หัวหน้าบรรณาธิการกลับคลี่ยิ้มบางพลางกล่าวว่า “ไม่ว่าจะชนะหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป้าหมายของเราไม่ใช่การเอาชนะปู้ลั่ว ตราบใดที่แน่ใจว่าฝั่งเรามีคนลุกขึ้นยืนหยัด ไม่ยอดให้ปู้ลั่วผูกขาดอยู่ฝ่ายเดียวก็พอแล้ว พวกเขาคิดว่ารั้งพวกเขาไว้ฉู่ขวงจะทำไม่ได้เชียวหรือ?”

เรื่องนี้เตือนสติทุกคน

ใช่แล้ว

บล็อกแค่ต้องการทำให้แน่ใจว่าปู้ลั่วไม่ได้ผูกขาดวงการเรื่องสั้นอยู่เพียงบริษัทเดียว

นี่ดีกว่าจุดจบซึ่งถูกศัตรูบดขยี้ในทันทีอยู่แล้ว!

ยิ่งไปกว่านั้น ใครจะกล้าพูดล่ะว่าอาจารย์ฉู่ขวงสู้เฟยหงไม่ได้อย่างแน่นอน?

ถึงแม้อันดับของฉู่ขวงจะไม่สูงเท่าเฟยหง แต่อย่าลืมว่าเฟยหงคร่ำหวอดในวงการมาตั้งกี่ปี และมีผลงานตั้งกี่ชิ้น!

ส่วนฉู่ขวงเพิ่งจะเขียนเรื่องสั้นมาได้นานเท่าไหร่เอง

เขาเป็นนักเขียนเรื่องสั้นซึ่งมีผลงานน้อยที่สุดในสิบอันดับแรก!

แสดงว่าฉู่ขวงติดสิบอันดับแรกได้ไม่ใช่เพราะปริมาณผลงานซึ่งสั่งสมมา แต่เป็นเพราะคุณภาพล้วนๆ !

เมื่อคิดถึงจุดนี้ เหล่าบรรณาธิการต่างพรูลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

ขณะที่ความหดหู่ของทุกคนมลายหายไป เสียงโทรศัพท์ของหัวหน้าบรรณาธิการก็ดังขึ้น

“ผมรับโทรศัพท์ก่อน”

หัวหน้าบรรณาธิการบอกให้ทุกคนเงียบ จากนั้นจึงกดรับสาย

ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไร ทว่าใบหน้าของหัวหน้าบรรณาธิการกลับแลดูย่ำแย่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

หลังจากวางสาย

อาการของหัวหน้าบรรณาธิการนั้นย่ำแย่กว่าเหล่าบรรณาธิการก่อนหน้านี้ เขากำหมัดแน่น

ทุกคนหัวใจกระตุกวาบ

“หัวหน้า…”

หัวหน้าบรรณาธิการเงยหน้าขึ้นมองทุกคนด้วยความกระวนกระวาย

“นอกจากเฟยหงแล้ว พวกเขายังเชิญนักเขียนเรื่องสั้นที่อยู่ในอันดับสูงอีกหลายท่าน รวมไปถึงเฝิงหวา โจวอวี่ หวงเย่าชิง และโจวเก๋อ ปู้ลั่วงัดไลน์อัปยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดหลายครั้งที่ผ่านมา เพราะพวกเขาน่าจะเดาได้ว่าเราจะเชิญฉู่ขวงมาสู้”

ทันใดนั้นทุกคนก็หน้าซีดเผือดขึ้นมา!

“ข่าวจริงหรือเปล่า?”

“เฝิงหวาที่เป็นหนึ่งในสามอาชาไนย?”

“หลังจากฉางฉินแขวนปากกา สามอาชาไนยก็เหลือแค่เฝิงหวากับเฟยหง ปู้ลั่วจะเชิญมาพร้อมกันสองคนเนี่ยนะ?”

“แถวยังมีนักเขียนอันดับสูงๆ ท่านอื่นอีก?”

“จะทำยังไงล่ะ พวกเรามีแค่เซี่ยนอวี๋ และนักเขียนเรื่องสั้นคนอื่นๆ ก็อันดับธรรมดา!”

“นี่มันอะไรกัน”

“ทำไมจู่ๆ ถึงมีนักเขียนเรื่องสั้นโผล่มาปล่อยผลงานเยอะขนาดนี้ล่ะ นี่มันไม่ปกติ!”

“นี่มันตะลุมบอนไม่ใช่เหรอฟระ!”

“ตะลุมบอนยังพอว่า ที่สำคัญคือพวกเขามีเฟยหงกับเฝิงหวา ทั้งสองท่านนี้ต่อให้เป็นเฝิงหวา ก็มีฝีมือมากพอที่จะเผชิญหน้ากับฉู่ขวง พวกเขาคนหนึ่งอยู่อันดับสิบ อีกคนหนึ่งอยู่อันดับสิบเอ็ด!”

“เฝิงหวาต้องการชิงสิบอันดับแรกจากฉู่ขวง?”

“…”

ความหวังซึ่งถูกจุดขึ้นมาโดยฉู่ขวงพลันดับลงอีกครั้งพร้อมกับการปรากฏตัวของเฝิงหวา

บรรณาธิการของบล็อกวรรณกรรมต่างรู้ดีว่านี่หมายถึงอะไร

ช่องว่างระหว่างทัพนักเขียนนั้นห่างกันเกินไป!

เฟยหงคนเดียวก็ทำให้ทุกคนปวดหัวมากพอแล้ว และตอนนี้ยังมีเฝิงหวาและนักเขียนเรื่องสั้นที่อันดับไม่ได้ต่ำออกโรงอีก!

บรรณาธิการบล็อกยังจดจำเหตุการณ์ในอดีตได้

เฝิงหวาและฉู่ขวงเคยประชันกันครั้งหนึ่งในสังเวียนเรื่องสั้น

ในเวลานั้น เฝิงหวาอยู่ฝั่งบล็อก ขณะที่ฉู่ขวงยืนอยู่ฝั่งปู้ลั่ว

ครั้งนั้น ทั้งสองสู้กันอย่างสูสี

แต่ตอนนี้ฉู่ขวงไม่เพียงต้องเผชิญหน้ากับคู่ปรับเก่าอย่างเฝิงหวา แต่ยังต้องเผชิญหน้ากับเฟยหงที่ต้องเขาตาเป็นมัน รวมไปถึงทัพนักเขียนเรื่องสั้นซึ่งทางปู้ลั่วเชิญมาอย่างตระการตา

“ทางปู้ลั่วเริ่มโปรโมตแล้ว”

หัวหน้าบรรณาธิการเปิดดูโพสต์ของปู้ลั่ว ก่อนจะวางโทรศัพท์ลง ยกมือขึ้นคลึงคงขมับอย่างเหนื่อยล้า

“การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของนักเขียนชื่อดังจำนวนมากขนาดนี้ไม่ใช่ไม่มีเหตุจูงใจ น่าจะเป็นเพราะการประกาศล่าสุดเกี่ยวกับการผนวกรวมตำราเรียนของสมาคมวรรณศิลป์”

เรื่องสั้นที่โดดเด่นมีโอกาสได้รับการบรรจุลงในตำราเรียน

เป็นเพราะเหตุผลนี้เองหรือ?

มิน่าล่ะถึงมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เช่นนี้!

ปู้ลั่วใช้ประโยชน์จากโอกาสและสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม!

จบสิ้นแล้ว!

……

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด