Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 800 ปีศาจคนที่สาม

Now you are reading Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน Chapter 800 ปีศาจคนที่สาม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 800 ปีศาจคนที่สาม

มีเทพเรื่องสั้นระดับเดียวกับฉู่ขวงคนที่สองเร้นกายอยู่ในบล็อก!

ไม่เพียงชาวเน็ตที่คาดไม่ถึง ปู้ลั่วก็คาดไม่ถึงเช่นกัน!

ในความเป็นจริง

เมื่อบอลไขแพะถูกปล่อยออกมา นักเขียนเรื่องสั้นทุกคนจากฝั่งบล็อกพลันเงียบลง

ต่อให้พวกเขาจะเป็นนักเขียนแนวหน้าในสาขาเรื่องสั้น ในเวลานี้ก็ยังรู้สึกตกตะลึงกับผลงานเรื่องบอลไขแพะเป็นอย่างมาก

ใช่แล้ว

สำหรับนักเขียนมืออาชีพฝั่งปู้ลั่ว ระดับความสะเทือนขวัญของเรื่องนี้ยิ่งกว่าใบไม้ใบสุดท้ายเสียอีก

เรื่องก่อนเป็นเพียงการสรรเสริญ

เรื่องหลังกลับเป็นมากกว่าเพียงการสรรเสริญ

เขาเขียนเกี่ยวกับประณามและเสียดสี ธรรมชาติของมนุษย์และภูมิหลังทางยุคสมัย ตลอดจนการเปิดเผยโฉมหน้าอันโหดเหี้ยมของบรรดาผู้ที่อยู่เบื้องหลังสงคราม

นอกจากตกใจแล้ว พวกเขายังมีความสงสัยอีกนับไม่ถ้วน

เพราะเหตุใดบล็อกถึงมีพวกเพี้ยนแบบนี้ถึงสองคนได้?

พวกเขามีฉู่ขวงคนเดียวที่ลงมือได้ไม่ใช่หรือ

ผู้เขียนเรื่องบอลไขแพะไม่ใช่ฉู่ขวงหรอกหรือ?

ถ้าหนึ่งในนั้นคือฉู่ขวงละก็ นักเขียนเรื่องสั้นฝีมือเยี่ยมคนนี้โผล่มาจากไหน หรือว่าจะเป็นนักเขียนเรื่องสั้นหนึ่งในสิบอันดับมาคนใดสักคนหนึ่งซึ่งแอบทำข้อตกลงกับกับบล็อก?

มีแต่ข้อสงสัย!

ข้อสงสัยนับไม่ถ้วน!

ผลงานซึ่งถือกำเนิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ได้ปรากฏสู่สายตาของทุกคนด้วยความตื่นตาตื่นใจที่สุด!

สรุปว่า

ปู้ลั่วพ่ายแพ้อีกแล้ว!

แพ้ติดต่อกันสองนัดซ้อน!

ในที่สุดปู้ลั่วก็เดือดดาล!

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ในที่สุดปู้ลั่วจึงปล่อยผลงานเรื่องที่สาม ‘ราชา’!

เสียงตอบรับต่างจากผลงานของเรื่องแรก

หลังจากอ่านเรื่องราชาจบ ชาวเน็ตล้วนตื่นเต้นขึ้นมาทันใด!

‘ในที่สุดปู้ลั่วก็เริ่มทิ้งระเบิดลูกใหญ่แล้ว!’

‘เรื่องนี้ตื่นเต้นมาก!’

‘สไตล์การเขียนของเฝิงหวา?’

‘เหมือนมาก’

‘อาจเป็นเฟยหงก็ได้’

‘ดูจากสไตล์การเขียนแล้วเหมือนกับเฝิงหวามากกว่า’

‘ระดับนี้สู้ใบไม้ใบสุดท้ายได้ แต่ก็ยังไม่ลึกซึ้งเท่ากับเรื่องราวของบอลไขแพะ โดยรวมแล้วก็นับได้ว่าเป็นผลงานชั้นยอด’

‘ทีนี้ต้องรอดูแล้วว่าบล็อกจะมีลูกเล่นอะไรอีก’

‘คงไม่มีปีศาจโผล่ออกมาแล้วใช่ไหม?’

‘คุณคิดว่าของแบบนี้ทำง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง’

‘เอ๊ะ!’

‘ดูเร็ว!’

‘เรื่องสั้นเรื่องที่สามของบล็อกก็ออกมาแล้ว เรื่องนี้มีชื่อที่แปลกเหมือนกับบอลไขแพะเลย’

……

และขณะที่ชาวเน็ตกำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับผลงานซึ่งถูกสงสัยว่าอาจเป็นของเฝิงหวาด้วยความตื่นเต้น

ฝั่งบล็อกก็ปล่อยเรื่องสั้นออกมา!

ชื่อผลงานคือ ‘เฮ้! ออกมาสิ[1]’

ไม่อาจบอกความหมายได้จากชื่อเรื่อง เพียงแค่อ่านชื่อเรื่อง ไม่มีใครบอกได้ว่าเรื่องราวนี้เกี่ยวกับอะไร

เมื่อคิดว่าผลงานสองเรื่องแรกของบล็อกนั้นน่าทึ่งมาก ครั้งนี้ทุกคนจึงคลิกเข้าไปยังผลงานเรื่องนี้ในทันที

รวมไปถึงเฝิงหวาซึ่งในขณะนี้กำลังติดตามการต่อสู้ในเวลานี้อยู่ในห้อง

ถูกต้อง

เฝิงหวาคือผู้เขียนเรื่อง ‘ราชา’ !

ในฐานะกำลังหลักซึ่งเป็นตัวแทนของปู้ลั่วบนสังเวียนรอบที่สาม แน่นอนว่าเฝิงหวาให้ความสนใจกับคู่ต่อสู้ของตนเอง

เห็นได้ชัดว่าคู่ต่อสู้ของเขาคือผลงานเรื่อง ‘เฮ้ ออกมาสิ’

เฝิงหวาได้อ่านเรื่องสั้นสองเรื่องแรกของบล็อกแล้ว

น่ากลัวจริงๆ !

อันที่จริง เวลานี้เฝิงหวารู้สึกดีใจที่ผลงานของตนไม่ตรงกับผลงานสองเรื่องแรก

เปรียบเทียบกันในแง่ของคุณภาพเพียงอย่างเดียว เขาไม่กล้าพูดว่าเรื่องสั้นของเขาสามารถเอาชนะสองเรื่องนั้นได้!

อย่างมากที่สุดก็ได้แค่เข้าใกล้ระดับของทั้งสองเรื่องเท่านั้น!

อย่างไรก็ดี เฝิงหวาไม่ได้กังวลกับเรื่องสั้นเรื่องที่สามของบล็อกมากนัก

เช่นเดียวกับที่ชาวเน็ตที่บอก

หรือว่าบล็อกยังมีปีศาจคนที่สามอีก?

เป็นไปไม่ได้!

เฝิงหวาไม่นึกสงสัยด้วยซ้ำ สิ่งที่เรียกว่าปีศาจคนที่สามนั้นไม่มีตัวตนอยู่จริง

เขามีการคาดเดาที่กล้าหาญยิ่งกว่านั้นอีก

นั่นคือไม่ว่าจะเป็นบอลไขแพะ หรือว่าใบไม้ใบสุดท้าย ก็ล้วนมาจากปลายปากกาของฉู่ขวง

ฉู่ขวงเคยมีประสบการณ์ประชันนิทานแบบหนึ่งต่อเก้ามาแล้ว

แม้ว่าการเขียนเรื่องสั้นชั้นยอดออกมานั้นจะยากกว่านิทานมาก แต่หากเขียนออกมาเพียงสองเรื่อง ไม่แน่ว่าฉู่ขวงก็อาจทำได้ ถึงแม้การคาดเดาเช่นนี้จะชวนอกสั่นขวัญแขวนไปสักหน่อยก็ตาม!

ถึงอย่างนั้น ต่อให้ฉู่ขวงเขียนผลงานชั้นยอดสองเรื่องนี้ออกมาแล้วอย่างไร?

เรื่องที่สามคงไม่ได้มาจากปลายปากกาของเขาเหมือนกันหรอกกระมัง?

ด้วยความคิดเช่นนี้ เฝิงหวากดเปิดผลงานซึ่งมีชื่อว่า ‘เฮ้! ออกมาสิ’

เรื่องสั้นเรื่องนี้สั้นสมชื่อ

เนื้อหาค่อนไปทางไซไฟ

กล่าวถึงหลุมลึกซึ่งไร้ก้นซึ่งถูกค้นพบที่ไหนสักแห่ง

นักวิทยาศาสตร์ระดับแนวหน้าไม่สามารถตรวจสอบหาที่มาที่ไปของหลุมลึกลับแห่งนี้ได้

“เฮ้! ออกมาสิ!”

มีเด็กคนหนึ่งตะโกนใส่หลุม ไม่มีเสียงตอบกลับ

เด็กจึงโยนหินก้อนหนึ่งลงไปในหลุม แต่หินนั้นกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ดังนั้นหลุมลึกนี้จึงถูกผู้คนใช้เป็นที่สำหรับทิ้งขยะ

ขยะทุกชนิดที่มนุษย์สร้างขึ้น รวมไปถึงศพ กากนิวเคลียร์ และวัตถุอันตรายอื่นๆ ล้วนถูกโยนลงในหลุมลึก

โลกสะอาดขึ้นด้วยเหตุนี้!

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงอันแผ่วเบาดังขึ้นบนท้องฟ้า

“เฮ้! ออกมาสิ!”

เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น หินก้อนหนึ่งก็หล่นลงมาจากท้องฟ้า แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครสนใจ

ผู้คนยังคงชื่นชม

เมื่อมีหลุมลึกลับเพื่อกำจัดขยะ สภาพแวดล้อมของบลูสตาร์จึงเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ !

เรื่องราวจบลงอย่างกะทันหันตรงนี้

อย่างไรก็ตาม

เฝิงหวาซึ่งอ่านเรื่องนี้จบก็ตัวสั่นขึ้นมาทันที!

ความหนาวเย็นชวนหวาดหวั่นเกิดขึ้นจากก้นบึ้งในหัวใจของเขา!

เขารู้สึกประหนึ่งหล่นลงไปอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง!

ผลงานเรื่องนี้ใครเป็นคนเขียนอีกล่ะเนี่ย!

สไตล์การเขียนไม่ได้ด้อยไปกว่าผลงานสองเรื่องแรกเลย!

ปีศาจจากไหนกัน!

ด้วยระดับของเฝิงหวา เขาย่อมเข้าใจว่าแนวคิดและเจตนาของนิยายเรื่องนี้โรคจิตขนาดไหน!

ขณะนี้ เฝิงหวาชักจะสงสัยในการประเมินของตนก่อนหน้านี้แล้ว!

คงไม่ได้เป็นผลงานของฉู่ขวงเหมือนกันหรอกใช่ไหม?

หรือว่าบล็อกมีนักเขียนเรื่องสั้นฝีมือระดับปีศาจสองคน หรือสามคนจริงๆ ?

เรื่องสั้นสุดสะพรึงนี้ชวนให้ขบคิดอย่างลึกซึ้ง และเปิดพื้นที่จินตนาการอันน่ากลัวไว้ให้กับผู้อ่าน

เฝิงหวาตกใจกลัวเล็กๆ !

ตกใจกลัวในทุกๆ มิติ!

……

ชาวเน็ตทยอยอ่านผลงานเรื่องนี้จบทีละคน

ในตอนแรกชาวเน็ตหลายคนไม่คิดว่านิยายเรื่องนี้จะมีอะไรน่าประหลาดใจ แม้จะอ่านจนถึงตอนจบแล้วก็ตาม

บางคนเมื่ออ่านจนถึงตอนจบ ถึงขั้นไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองด้วยซ้ำไป

อย่างไรก็ตาม

เมื่อชาวเน็ตค่อยๆ ใคร่ครวญเกี่ยวกับความหมายของตอนจบ พวกเขากลับสั่นสะท้านขึ้นมาทันใด!

‘แม่เจ้า!’

‘นี่มันนิยายสยองขวัญสินะ!’

‘ตอนจบแบบปลายเปิดแบบนี้ฉลาดที่สุด!’

‘อ่านตอนแรกยังรู้สึกว่าสู้เรื่องราชาไม่ได้ แถมยังแย่กว่าสองงานแรกของบล็อกด้วยซ้ำ แต่หลังจากคิดให้ละเอียดแล้วก็รู้สึกกลัวขึ้นมา นี่มันเรื่องสั้นที่มีแนวคิดหลักเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ความหมายแฝงน่ากลัวจริงๆ ฉันขนลุกไปทั้งตัว!’

‘หมายความว่ายังไง’

‘คุณยังไม่เข้าใจหรือ? ในตอนท้ายมีเสียงดังขึ้นบนท้องฟ้าว่า เฮ้ ออกมาสิ นี่คือสิ่งที่เด็กคนหนึ่งตะโกนลงในหลุมลึกลับ หลังจากที่มันปรากฏขึ้น แต่ในที่สุดเสียงนี้กลับดังขึ้นบนท้องฟ้าอีกครั้ง!’

‘เพราะงั้น เสียงของเด็กดังไปถึงอนาคตเหรอ?!’

‘ถ้ายังไม่รู้สึกว่าน่ากลัวก็ลองอ่านตอนจบของเรื่องดู หลังจากเสียงตะโกนดังขึ้นอีกครั้ง ก็มีก้อนหินหล่นลงมาท้องฟ้า อย่าลืมว่าหลังจากเด็กคนนั้นตะโกนลงไปในหลุม เขาก็โยนหินลงไปด้วย!’

‘คุณหมายความว่า…’

‘ที่จริงแล้วหลุมลึกลับนี้เชื่อมโยงกับอนาคต และขยะทั้งหมดที่ก่อนหน้านี้ผู้คนลงไปในหลุม ก็จะหล่นลงมาเมื่อมันปรากฏขึ้นในอนาคต?’

‘…’

ชาวเน็ตพากันสูดลมหายใจเข้าด้วยความตกใจ สมองชาวาบ!

เฮือก!

หลังจากอ่าน คำอธิบายโดยละเอียด ทุกคนจึงเข้าใจความหมายของตอนจบนี้!

คิดแล้วสะพรึง!

นับตั้งแต่ ‘เฮ้! ออกมาสิ’ เริ่มต้น ขยะทั้งหมดที่มนุษย์ทิ้งใส่หลุมลึกจะตกลงมาเหมือนกับก้อนหินก้อนแรกซึ่งหล่นลงมา

รวมไปถึงศพ!?

และกากนิวเคลียร์!?

ให้ตายเถอะ ไม่มีใครรู้ว่ามนุษย์ทิ้งขยะลงในหลุมนี้ไปมากแค่ไหน ไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรปะปนอยู่ในขยะเหล่านี้!

ลองจินตนาการ

ว่าหากมีคนเดินอยู่บนถนน จู่ๆ ก็ถูกศพร่วงลงมาทับ จะเป็นภาพที่น่าตื่นเต้นขนาดไหน

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ากากนิวเคลียร์ก็จะร่วงลงมาเช่นกัน!

นี่คือประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งอธิบายไว้ในเรื่อง นั่นคือ

ความเสียหายทั้งหมดของสิ่งแวดล้อมที่มวลมนุษยชาติก่อไว้ จะเป็นราคาอันเจ็บปวดที่จะต้องชดใช้ในอนาคต!

เรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นเพียงวิทยาศาสตร์ในรูปแบบที่เกินจริง และถ่ายทอดออกมาได้อย่างชัดเจนมากขึ้น!

วินาทีนี้!

ทุกคนตกตะลึง!

ใครเป็นคนเขียนเรื่องนี้ฟระ!

ไม่ได้ด้อยไปกว่าสองเรื่องแรกเลย!

คลาสสิกมาก!

ชวนตะลึงได้เหมือนเดิม!

หรือว่าบล็อกจะมีปีศาจคนที่สาม!

เกิดอะไรขึ้น!

แรกเริ่มคือ

‘ใบไม้ใบสุดท้าย’!

จากนั้นก็เป็น

‘บอลไขแพะ’!

ตอนนี้ก็มี ‘เฮ้ ออกมาสิ’ โผล่มาอีก!

บล็อกได้เผยแพร่เรื่องสั้นที่เพี้ยนผิดปกติโผล่ติดต่อกันสามเรื่อง!

เรื่องไหนกันแน่ที่เป็นผลงานของเจ้าแก่ฉู่ขวง!

[1] เฮ้! ออกมาสิ (おーい でてこーい) หรือในชื่อภาษาอังกฤษคือ Can Anyone Hear Me? โดยโฮชิ ชินอิจิ เผยแพร่ในปี ค.ศ.1958

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด