Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 801 เจ็ดกระบี่ลงเขาเทียนซาน

Now you are reading Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน Chapter 801 เจ็ดกระบี่ลงเขาเทียนซาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 801 เจ็ดกระบี่ลงเขาเทียนซาน

ชาวเน็ตงุนงง!

ทุกคนต่างรู้ว่านักเขียนที่เก่งที่สุดจากทางบล็อกคือฉู่ขวง

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องสั้นคุณภาพสูงสุดในบล็อกจะต้องเป็นของฉู่ขวง

เจ้าแก่ฉู่ขวงเขียนเรื่องสั้น จนถึงตอนนี้ยังไม่เคยพลาดพลั้งเลยสักครั้ง

แต่ใครจะคิดล่ะ

ว่าบล็อกโพสต์ผลงานสามชิ้นติดต่อกัน คุณภาพของแต่ละชั้นนั้นน่ากลัวมากจนไม่มีใครบอกได้ว่าในผลงานสามชิ้นนี้ ชิ้นไหนมาจากปลายปากกาฉู่ขวง!

ไม่นาน!

ปู้ลั่วและบล็อกต่างพูดคุยกันอย่างคึกคัก!

มีโพสต์ที่เกี่ยวข้องมากมายในเว็บบอร์ดหลัก!

และท่ามกลางการพูดคุยกันนับไม่ถ้วน

ทันใดนั้นก็มีคนตั้งสมมติฐานที่ใจกล้าบ้าบิ่นออกมา!

‘พวกคุณเคยคิดไหมว่า บางทีคราวนี้ฉู่ขวงอาจเขียนเรื่องสั้นมากกว่าหนึ่งเรื่อง’

‘ฉันรู้ว่าการคาดเดาแบบนี้ออกจะบ้าบิ่นไปสักหน่อย หรืออาจเหลือเชื่อด้วยซ้ำ แต่อย่าลืมว่าตอนที่เจ้าแก่ฉู่ขวงเขียนนิทาน เขาเคยสู้แบบหนึ่งต่อเก้าสำเร็จด้วยตัวคนเดียว!’

‘แน่นอนฉันเองก็รู้ว่าการเขียนเรื่องสั้นระดับคลาสสิกนั้นยากกว่านิทาน’

‘แต่ฉันไม่ได้บอกว่าครั้งนี้เขาเขียนเรื่องสั้นคลาสสิกเก้าเรื่องในรวดเดียว’

‘สำหรับเจ้าแก่ฉู่ขวง การเขียนเรื่องสั้นคลากสิก ออกมาสักสองเรื่องในคราวเดียวคงไม่มากเกินไปหรอกใช่ไหม?’

‘ถ้าบ้าบิ่นขึ้นมาอีกสักหน่อย เราอาจเดาได้ว่าเรื่องสั้นคลาสสิกทั้งสามเรื่องซึ่งบล็อกปล่อยมาจนถึงตอนนี้อาจเขียนโดยเจ้าแก่ฉู่ขวงทั้งหมด!’

‘คิดว่าเรื่องสั้นระดับนี้เป็นของง่ายๆ ที่นักเขียนเรื่องสั้นคนไหนก็เขียนออกมาได้จริงหรือ?’

‘…’

ในตอนแรก เมื่อทุกคนเห็นสมมติฐานนี้ พวกเขาล้วนคิดว่ามันแปลกเกินไป

อย่างไรก็ตาม

เมื่อทุกคนได้อ่านการวิเคราะห์โดยละเอียดของชาวเน็ตคนนี้ พวกเขากลับลังเล

‘ฉันคิดว่าสิ่งที่คุณพูดมันสมเหตุสมผลจริงๆ ’

‘เจ้งแก่ฉู่ขวงคนนี้มีประวัติมาก่อน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำเรื่องแบบนี้!’

‘พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ในผลงานสามเรื่องแรกของบล็อก มีอย่างน้อยสองเรื่องที่เป็นของฉู่ขวง’

‘เราลองใจกล้า แล้วเดิมพันว่าสามเรื่องนี้ฉู่ขวงเป็นคนเขียน!’

‘ลองมองย้อนกลับไป ก่อนหน้านี้เฟยหงบอกไม่ใช่เหรอว่าฉู่ขวงมีจำนวนผลงานน้อยเกินไป ยังไม่มีทางกลายเป็นหนึ่งในสามอาชาไนยของวงการเรื่องสั้นฉินโจวได้’

‘นี่น่าจะเป็นแรงจูงใจของฉู่ขวงในการเขียนเรื่องสั้นมากกว่าหนึ่งเรื่องหรือ?’

‘วันนี้ตอนที่บอลไขแพะปล่อยออกมาก็มีคนเดาเหมือนเจ้าของโพสต์ แต่ผมไม่ได้สนใจ ตอนนี้อ่านบทวิเคราะห์ของเจ้าของโพสต์แล้ว ผมชักจะเริ่มไม่แน่ใจแล้ว หรือว่าฉู่ขวงเขียนเรื่องสั้นได้ง่ายดายพอๆ กับที่เขาเขียนนิทาน’

‘…’

หลังจากความคิดนี้ปรากฏขึ้น ชาวเน็ตจึงเริ่มสงสัย

ชาวเน็ตหลายคนคาดเดาตามแนวคิดที่ใจกล้าบ้าบิ่นเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตจำนวนมากที่ปฏิเสธแนวคิดนี้

‘เป็นการคาดเดาที่สมเหตุสมผล แต่ฉันค่อนข้างเชื่อว่าบล็อกแอบไปเชิญยอดฝีมือมาออกโรงมากกว่า’

‘สิบอันดับแรกของนักเขียนเรื่องสั้นมืออาชีพไม่ได้มีแค่ฉู่ขวงกับเฟยหง ยังมีนักเขียนชื่อดังคนอื่นๆ อีก’

‘ไม่ว่าจะคิดยังไง ฉันก็คิดว่าเรื่องนี้มีความเป็นไปได้มากกว่า’

‘ครั้งนี้บล็อกทรงพลังมากตรงที่สามารถโปรโมตฉู่ขวงแค่คนเดียว แต่เบื้องหลังกลับเชิญขาใหญ่ฝีมือระดับปีศาจอีกหลายคนที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าฉู่ขวงมาได้’

‘รอให้ประกาศชื่อนักเขียนก่อน ก็รู้แล้วว่าเป็นยอดฝีมือท่านไหนที่ลงมือ’

‘ผมสงสัยว่าเรื่องบอลไขแพะเป็นนักเขียนอันดับสองลงมือ’

‘…’

หลายคนคาดเดาไปไม่ถึงเจ้าแก่ฉู่ขวง เพราะพวกเขามีสมมติฐานที่สมเหตุสมผลมากกว่า

อันที่จริงทุกคนคิดว่าบล็อกแอบเชิญยอดฝีมือบางคนบนการจัดอันดับมาออกโรงและจงใจเก็บเป็นความลับ เมื่อทั้งสองฝ่ายเปิดสงครามกัน ทันใดนั้นพวกเขาก็เปิดเผยผลงานชั้นนำ และทำให้ปู้ลั่วรับมือไม่ทัน!

มีตลาดสำหรับความเป็นไปได้ทั้งสองประการนี้!

ทั้งสองฝ่ายซึ่งมีความเห็นแตกต่างกันแบ่งแยกกันอย่างชัดเจน

และขณะที่ทั้งสองฝ่ายเริ่มโต้เถียงกันเพื่อสนับสนุนหลักการของตน

ปู้ลั่วก็ลงมือเป็นครั้งที่สี่!

ในชั่วพริบตา

ความสนใจของชาวเน็ตทุกคนถูกดึงดูดไว้แล้ว!

ครั้งนี้ปู้ลั่วเปิดตัวผลงานซึ่งมีชื่อว่า ‘คนตีระฆัง’

ผลงานเรื่องนี้คุณภาพสูงมาก

หลังจากชาวเน็ตอ่านจบในทันที สมมติฐานในใจของพวกเขาก็กลายเป็นความเชื่อมั่น

‘ต้องเป็นอาจารย์เฟยหงที่ลงมืออย่างแน่นอน!’

‘ผลงานเรื่องนี้เป็นสไตล์ของอาจารย์เฟยหง คนอื่นไม่มีใครเขียนออกมาได้อรรถรสแบบนี้!’

‘ดูเหมือนเป็นคำพูดที่ยืดยาว อันที่จริงมีการปูเรื่องมานับไม่ถ้วน ถึงแม้ว่าถ้านับตัวอักษรแล้วเรื่องนี้จะค่อนไปทางนิยายความยาวขนาดกลางมากกว่า แต่ถ้าคุณมีความอดทนอ่านจนจบ ก็จะรู้สึกกระจ่างขึ้นมาทันที!’

‘เรื่องนี้ของเฟยหงดีกว่าเรื่องของเฝิงหวา!’

‘ถึงอย่างไรเฟยหงก็อันดับสูงกว่า ฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้ของเฟยหงไม่ได้เป็นรองเรื่องเฮ้! ออกมาสิที่ปล่อยออกมาในบล็อกเมื่อกี้เลย’

‘ในที่สุด บล็อกก็พลิกกลับมาเอาชนะในรอบนี้’

‘รอบนี้อาจารย์เฟยหงไม่มีปัญหาอยู่แล้ว’

‘ก่อนหน้านี้คิดว่าความขัดแย้งระหว่างปู้ลั่วกับฉู่ขวงจะจบลงด้วยการที่ฉู่ขวงกอบกูชื่อเสียงให้กับบล็อก นึกไม่ถึงว่าผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่าปู้ลั่วต้องพึ่งพาผลงานของเฟยหงเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงกลับมา’

‘…’

เสียงชื่นชมของชาวเน็ตนั้นสูงมาก สูงจนเกือบแตะถึงระดับเดียวกับเรื่องใบไม้ใบสุดท้าย!

แน่นอน

เมื่อเทียบกับเรื่องบอลไขแพะแล้วก็ยังเป็นรอง

ผลงานชิ้นเอกระดับยอดพีระมิดของโมปัสซองต์นั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

ต่อจากนี้บล็อกจะรับมืออย่างไร?

ทุกสายตาล้วนจับจ้องไปยังบล็อก

ท่ามกลางสายตานับไม่ถ้วน

บล็อกตอบรับความท้าทายดังคาด!

[ผลงานเรื่องที่สี่สำหรับเข้าร่วมการแข่งขันราชาเรื่องสั้น ‘มหาเศรษฐี’!]

นี่คือชื่อที่หลินเยวียนดัดแปลงให้กับเรื่อง ‘ธนบัตรหนึ่งล้านปอนด์’ ถึงอย่างไรบนโลกนี้ก็ไม่มีสกุลเงินปอนด์

และเมื่อทุกคนคิดว่าเรื่องสั้นเรื่องนี้คือการตอบโต้ของบล็อก

จู่ๆ บล็อกก็โพสต์ข้อความอีกสามครั้งโดยที่ชาวเน็ตไม่ทันตั้งตัว

[ผลงานเรื่องที่ห้าสำหรับเข้าร่วมการแข่งขันราชาเรื่องสั้น ‘ชายในคดี’!]

[ผลงานเรื่องที่หกสำหรับเข้าร่วมการแข่งขันราชาเรื่องสั้น ‘ตำรวจและเพลงสรรเสริญ’!]

[ผลงานเรื่องที่เจ็ดสำหรับเข้าร่วมการแข่งขันราชาเรื่องสั้น ‘อาจูลส์ของผม’!]

พรึบๆๆๆ

ไม่เป็นไปตามจังหวะของปู้ลั่วอีกต่อไป

สี่โพสต์ สี่ผลงาน ออกมาพร้อมกันในคราวเดียว!

เมื่อรวมกับผลงานทั้งสามเรื่องก่อนหน้านี้ บล็อกกำลังบุกโจมตีเป็นครั้งแรก!

……

ภายในสตูดิโอ

จินมู่ดูความเคลื่อนไหวบนโลกออนไลน์ จากนั้นจึงมองไปยังหลินเยวียนที่กำลังเล่นเกมออนไลน์อยู่ด้านข้าง เอ่ยด้วยความสะท้อนใจ “สรุปว่าใครตะลุมบอนใครกันแน่ครับ”

ปล่อยไปหมดเลยหรือ?

หลินเยวียนได้ฟังคำพูดของจินมู่ จึงวางมือจากเกม และชำเลืองมองโทรศัพท์

เป็นดังคาด

เรื่องสั้นทั้งเจ็ดเรื่องล้วนปล่อยออกมาแล้ว เชื่อว่าชาวเน็ตทยอยกดเข้าไปอ่านกันหมดแล้วสินะ

หลินเยวียนเงยหน้า

มองไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไอดีตัวละครในโลกออนไลน์ของเขาคือ

เจ็ดกระบี่ลงเขาเทียนซาน!

เพียงแต่ ‘เจ็ดกระบี่ลงเขาเทียนซาน’ ในเกมนั้นถูกทรมานอย่างสาหัสสากรรจ์ และขณะที่เดินอยู่บนถนนก็อาจถูกสังหารโหดได้

หลินเยวียนส่ายหน้า

ไม่เล่นเกมอีกต่อไป และให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ตในทันที

เขากดเปิดบล็อก

หลังจากกวาดตาอ่านความคิดเห็นของชาวเน็ต ประโยคแรกที่ผ่านเข้ามาในสายตาของหลินเยวียนคือ

‘ให้ตายเถอะ คนที่พูดก่อนหน้านี้ว่าสามเรื่องแรกอาจเขียนโดยฉู่ขวงเพียงคนเดียวยังกล้าเถียงกับผมไหม สี่เรื่องนี้ฉู่ขวงคงไม่ได้เขียนหรอกล่ะมั้ง!’

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด