Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 804 ข้างนอกมีแต่ฉู่ขวงเต็มไปหมด
ตอนที่ 804 ข้างนอกมีแต่ฉู่ขวงเต็มไปหมด
เมื่อชื่อผู้เขียนผลงานทั้งเจ็ดเรื่องเปิดเผยบนบล็อก ชาวเน็ตทุกคนต่างตกตะลึง!
ฉู่ขวง!
ฉู่ขวง!
ทั้งหมดคือฉู่ขวง!
หัวข้อสนทนาบนบล็อกถูกเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจกลบในทันที!
‘แม่เจ้าโว้ย!’
‘ฉันไม่ได้อ่านผิดไปใช่ไหม!’
‘บล็อกแน่ใจใช่ไหมว่าไม่ได้เข้าใจผิด!’
‘เรื่องสั้นคลาสสิกทั้งเจ็ดเรื่องเขียนโดยฉู่ขวงทั้งหมด ตั้งแต่ต้นจนจบฝั่งบล็อกมีฉู่ขวงคนเดียวที่สู้กับปู้ลั่ว?!’
‘แม่ถามว่าทำไมถึงเข่าเล่นอินเทอร์เน็ต!’
‘ที่ผ่านมาใครบอกว่าฉู่ขวงเขียนสองหรือสามเรื่อง ตอนนั้นฉันคิดว่าแค่นั้นก็เกินจริงมากแล้ว แต่ตอนนี้มาบอกว่าเจ็ดเรื่องนี้เจ้าแก่ฉู่ขวงเขียนออกมาคนเดียวเนี่ยนะ?!’
‘ความจริงมหัศจรรย์ว่านิยายซะอีก?!’
‘ถึงว่าสิ กิจกรรมของบล็อกชื่อว่าราชาเรื่องสั้น ถ้าไม่เรียกว่าราชาเรื่องสั้น ทั้งสองฝั่งยังมีใครที่คู่ควรกับตำแหน่งนี้อีก!’
ก่อนหน้านี้มีคนคาดเดาว่าฉู่ขวงเขียนมากกว่าหนึ่งเรื่อง!
แต่ถึงกระนั้น ต่อให้ทุกคนจะใจกล้าบ้าบิ่น ก็ไม่กล้าเดาว่าฉู่ขวงจะเขียนเรื่องสั้นคนเดียวถึงเจ็ดเรื่อง!
นี่มันเรื่องสั้นสุดคลาสสิกเชียวนะ!
ต่อให้เป็นนักเขียนเรื่องสั้นระดับสูง เขียนผลงานสักเรื่องที่แตะถึงมาตรฐานของเจ็ดเรื่องนี้ออกมาได้ก็มากพอให้กระหยิ่มใจแล้ว!
ฉู่ขวงกลับเขียนคนเดียวเจ็ดเรื่อง!
……
ข่าวเดียวกันนี้แพร่สะพัดไปยังฝั่งปู้ลั่วเช่นเดียวกัน
ระเบิดในชั่วพริบตา!
ชาวเน็ตนับไม่ถ้วนสะดุ้งโหยง
‘คุกเข่าแล้ว!’
‘นี่มันบ้าอะไรฟระเนี่ย!’
‘ไหนบอกว่านักเขียนแนวหน้าของปู้ลั่วจะตะลุมบอนฉู่ขวง สรุปใครตะลุมบอนใครกันแน่ ฉู่ขวงคนเดียวก็ปิดล้อมนักเขียนของปู้ลั่วไว้หมดแล้ว!’
‘ฉู่ขวง: ดีมาก นักเขียนจากบล็อกโดนทิ้งไว้อย่างโดดเดี่ยวแล้ว (หยอกๆ )!’
‘คราวที่แล้วนิทานหนึ่งต่อเก้า คราวนี้ปล่อยเรื่องสั้นชั้นยอดเจ็ดเรื่อง นิยายขอ งเขาแต่ละเรื่องก็เขียนยากเขียนเย็น เจ้าแก่ฉู่ขวงกับเขียนออกมาเป็นกะละมัง!’
‘ผมเข้าไปดูในบล็อกของเจ้าแก่ฉู่ขวง ไม่อยู่กับปู้ลั่วก็ไม่เป็นไร!’
‘ฉู่ขวง: เหล่านักเขียนของปู้ลั่ว รีบวางอาวุธซะ พวกคุณถูกผมคนเดียวปิดล้อมไว้แล้ว!’
‘นารูโตะเรียนคาถาแยกเงาพันร่างจากคุณใช่ไหม ฉู่ขวง?’
‘วางมือเถอะ ปู้ลั่ว ข้างนอกมีฉู่ขวงเต็มไปหมด/ถูกฉู่ขวงล้อมไว้หมดแล้ว!’
แม้ว่าสามสหายจะถอนตัวออกจากปู้ลั่วไปแล้ว แต่ฉู่ขวงกลับยังคงเข้าๆ ออกๆ อยู่บนฮ็อตเสิร์ชของปู้ลั่วเป็นประจำ!
……
ในวงการวรรณกรรม
เมื่อเห็นว่าผลงานทั้งเจ็ดเรื่องล้วนมาจากปลายปากกาของฉู่ขวง ข่าวนี้ก็ทำให้ทั่วทั้งวงการสั่นสะเทือนในทันที
กลุ่มแช็ตน้อยใหญ่ในแวดวงเรื่องสั่นกำลังเดือดพล่าน!
นักเขียนเรื่องสั้นซึ่งเผยแพร่ผลงานใหม่บนปู้ลั่วตกตะลึงอยู่นาน ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงอันแหบพร่า
‘พวกเราถูกฉู่ขวงคนเดียวทุบขนาดนี้เลยหรือ?’
“บอกตามตรงนะ ผมกลัวแทบฉี่รดกางเกง…”
“ฉันโง่จริงๆ จริงๆ นะ ฉันรู้แค่ว่าฉู่ขวงประชันนิทานแบบหนึ่งต่อเก้าได้ จนเป็นราชานิทานของบลูสตาร์ ไม่รู้ว่าเขาเขียนเรื่องสั้นแล้วจะปาเรื่องสั้นมาได้ในเยอะขนาดนี้ในรวดเดียว”
‘ข้าขอคำนับต่อหน้าราชาเรื่องสั้น ▄█▀█●’
‘ดวงตาของผมอาจมีปัญหา อีกไม่กี่วันจะไปหาหมอสักหน่อย ตอนที่บล็อกประกาศถึงอันดับที่เจ็ด ผมรู้สึกว่าดวงตาของผมมีปัญหาในการเห็นภาพซ้อนอย่างรุนแรง’
‘ภาพซ้อนรุนแรงที่คุณเห็นคือฉู่ขวงหรือเปล่า?’
‘พวกคุณที่เผยแพร่ผลงานบนปู้ลั่วมัวแต่โวยวาย ทำไมไม่นึกถึงนักเขียนที่เผยแพร่ผลงานบนบล็อกที่ไม่มีตัวตนมาตั้งแต่ต้นจนจบบ้าง จู่ๆ ก็เข้าใจหัวอกของอิ่งจือขึ้นมา’
‘เขียนมาตั้งนาน แต่ที่บล็อก ฉู่ขวงสู้กับตัวเอง’
นักเขียนจากปู้ลั่วถูกทุบตี!
นักเขียนจากทางปู้ลั่วมีความรู้สึกที่หลากหลายประเดประดังกัน!
ถึงแม้บล็อกจะชนะ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขา?
กลุ่มแช็ตในวงการเริ่มแตกตื่น เฝิงหวาและเฟยหงไม่เคยปรากฏตัวมาเลย
ทั้งสองกำลังมองหน้าจอเงียบๆ
ผ่านไปนาน
เฝิงหวาทักไปหาเฟยหงเป็นการส่วนตัว ‘พี่เฟย คุณไปยุ่งกับเขาทำไมโดยไม่มีเหตุผล’
เฟยหง “?”
เฝิงหวากดแป้นพิมพ์โทรศัพท์ด้วยความโกรธ ‘ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าฉู่ขวงไม่สามารถนับได้ว่าเป็นสามอาชาไนยของฉินโจว เพราะผลงานของเขามีน้อยเกินไปไม่ใช่หรือ?’
ถ้าคุณไม่พูดแบบนั้น ฉู่ขวงจะบ้าคลั่งถึงขนาดนี้ได้หรือ?
หายนะครั้งนี้ใครอยากรับผิดชอบก็รับไป ฉันรับไม่ไหวหรอกเฟ้ย!
……
ที่ใดมีผู้ชนะ ที่นั่นย่อมมีผู้แพ้
เมื่อมีคนก่อหายนะ ย่อมมีคนแบกรับหายนะ
เมื่อปู้ลั่วกลายเป็นฝ่ายแพ้ที่ยิ่งใหญในมหกรรมราชาเรื่องสั้น แผนกวรรณกรรมของปู้ลั่วตะโกนสาปแช่งขึ้นมาทันที!
จากนั้นแต่ละแผนกหลักในปู้ลั่วก็จะโกนขึ้นมาเช่นกัน!
“หลิงคงไอ้บัดซบ!”
“ฉันว่าแล้วเชียวว่าปีศาจอย่างฉู่ขวงอยู่ในบล็อกจะต้องกลายเป็นหนามยอกอกของปู้ลั่ว ถ้าไม่ใช่เพราะหลิงคงบีบอิ่งจือ ฉู่ขวงจะกลายเป็นคู่แข่งของเราได้ยังไง!”
“หลิงคงไอ้เวรตะไล!”
“ผมไม่กลัวคู่แข่งที่เก่งเหมือนเทพหรอกนะ กลัวก็แต่เพื่อนร่วมทีมที่โง่เหมือนหมู จะคิดยังไงก็เป็นความผิดของหลิงคงทั้งนั้น!”
“ทำไมเบื้องบนไม่ ไล่หลิงคงออกไปซะที!”
“ผมแนะนำว่าให้ลากหลิงคงออกไปตีสักป้าบ!”
“หลิงคงหาเรื่องคู่แข่งแบบไหนมาให้ปู้ลั่วเราเนี่ย หาเรื่องใครไม่หา ดันไปหาเรื่องพวกเสียสติสามคนนี้!”
“คราวนี้บล็อกได้หัวเราะจริงๆ แล้ว!”
การคาดเดาของบล็อกนั้นถูกต้อง เพราะฝั่งบล็อกระเบิดหัวเราะจนแทบหายใจไม่ทัน!
เสียงเชียร์ด้วยความปลาบปลื้มใจดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
……
หลิงคงไม่ได้ยินเสียงเชียร์ของบล็อก แต่เขาได้ยินเพียงคำก่นด่าของปู้ลั่ว!
บางแผนกค่อนข้างใกล้กัน
บางคนเสียงค่อยข้างดัง คำก่นด่าจึงได้ยินมาถึงแผนกการ์ตูนในทันที!
ในแผนกการ์ตูน
เหล่าบรรณาธิการต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครพูดอะไรสักคำ เพียงแต่สีหน้าของพวกเขาค่อนข้างซับซ้อน
นี่คือโปรเจกต์ที่เหลืออยู่หลังจากปู้ลั่วสูญเสียสามสหายไป
บรรณาธิการเรียกสถานการณ์เช่นนี้ลับหลังว่า ‘การฉีกหน้าหลิงคงประจำวัน’
ภายในห้องทำงานหัวหน้าแผนก
มีเสียงสิ่งของถูกเขวี้ยงปาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โต๊ะกาแฟ
แก้ว
ปึงๆ ปังๆ
นอกจากนี้ยังมีเสียงคำรามดังขึ้นอย่างเปิดเผยดังขึ้นเป็นระยะ
“ไอ้พวกกระจอก!”
“เกี่ยวอะไรกับฉันด้วยวะ!”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นก็มาลงที่ฉันทุกที”
หลิงคงโทสะพลุ่งพล่าน!
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก!
ทุกครั้งที่ปู้ลั่วต้องเสียเปรียบให้สามสหาย เขาก็จะถูกแผนกต่างๆ หยิบมาด่า!
ไม่ใช่แค่แต่ละแผนก!
ผู้บริหารระดับสูงยังตามมาด่าฉันอีก!
เรื่องของฉันมันเกิดขึ้นไปตั้งนานแล้ว พวกคุณไม่ได้เรื่องเอง อย่ามาโยนความผิดให้ฉันอีก!
……
ข่าวสารผุดขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด!
‘ฉู่ขวงสร้างปาฏิหาริย์อีกครั้ง เจ็ดเรื่องสั้นสะเทือนวงการ!’
‘ฉู่ขวง ราชาเรื่องสั้นแห่งฉินโจว?’
‘ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกเฟยหงวิจารณ์ว่ามีผลงานน้อยเกินไป ตอนนี้เขากลับมาพร้อมกับเรื่องสั้นเจ็ดเรื่อง!’
‘ตะลึงตาแตก ฉู่ขวงเขียนเรื่องสั้นสุดคลาสสิกคนเดียวเจ็ดเรื่อง ทุกเรื่องล้วนฮ็อตฮิต!’
‘ไม่คิดไม่ฝันว่าเรื่องสั้นคลาสสิกทั้งเจ็ดเรื่องบนบล็อกจะเขียนโดยฉู่ขวง!’
‘ความเป็นมืออาชีพในวงการเรื่องสั้นของฉู่ขวงแซงหน้าเฟยหง!’
‘…’
เมื่อข่าวแพร่สะพัดไปทั่ว
การจัดอันดับนักเขียนเรื่องสั้นบลูสตาร์
ฉู่ขวงทะยานขึ้นไปอยู่ในลำดับที่สี่ และกลายเป็นราชาเรื่องสั้นแห่งฉินโจวอย่างสมศักดิ์ศรี!
สูงกว่าอันดับเดิมของเฟยหงถึงหนึ่งตำแหน่ง!
เฟยหงหล่นลงไปอยู่ในอันดับที่หกเนื่องจากการผงาดขึ้นมาของฉู่ขวง
เรื่องนี้เป็นเพราะเรื่องสั้นทั้งเจ็ดเรื่องของฉู่ขวงปล่อยออกมาได้ในช่วงเวลาสั้นๆ อิทธิพลของเรื่องสั้นทั้งเจ็ดเรื่องนี้จึงยังไม่แผ่ขยายไปมากนัก รอให้อิทธิพลขยายตัวออกไปเต็มที่ บางทีอันดับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าประหลาดใจ!
ไม่นาน
เฟยหงพลันกระอักกระอ่วนใจ
เพื่อนเก่าหลายคนซึ่งอยู่ในอันดับต้นๆ ของวงการเรื่องสั้นต่างทักหาเขาเป็นการส่วนตัว และเอ่ยคำพูดเช่นเดียวกับเฝิงหวา
‘ทำไมคุณถึงไปบอกว่าฉู่ขวงมีผลงานน้อยเกินไปล่ะ’
‘ตอนนี้เป็นไง คนเพี้ยนแบบนี้เลยปล่อยผลงานเจ็ดเรื่องซะเลย!’
‘อันดับคุณตก อันดับของฉันพลอยตกตามไปด้วย’
‘ให้ตายเถอะ การจัดอันดับนี้เข้าไปยุ่งไม่ได้แล้ว ตอนแรกอยู่ที่เก้า ตอนนี้อยู่ที่สิบแล้ว อาจถูกเขี่ยออกจากสิบอันดับแรกโดยคนที่จับตามองอยู่’
‘ถ้าคุณไม่พูดว่าเขามีผลงานน้อย เขาจะปล่อยผลงานออกมารวดเดียวเยอะขนาดนี้ไหม!’
‘…’
ไม่เพียงเพื่อนเก่าที่พูดเช่นนี้ ชาวเน็ตก็หยิบเรื่องนี้มาหยอกล้อเฟยหงเช่นกัน
คอมเมนต์ซึ่งมียอดไลก์สูงสุดบนพื้นที่แสดงความคิดเห็นบนปู้ลั่วของเขาก็คือ
‘ตอนนี้ผลงานของฉู่ขวงยังน้อยอยู่ไหม?’
ยอดไลก์ทั้งหมด 60 ล้านครั้ง เทียบเท่ากับการตบหน้าเฟยหงไปแล้วหกพันครั้ง
เจ็บ!
เฟยหงอยากร้องไห้ แต่กลับไม่มีน้ำตา
ทำไมถึงมีคนแบบนี้อยู่บนโลกได้!
นี่ยังไม่นับว่าเป็นจุดจบ
ท่ามกลางปฏิกิริยารุนแรงจากทุกฝ่าย จนทางการต้องเข้ามาแทรกแซง!
จู่ๆ สมาคมวรรณศิลป์รีโพสต์เรื่องสั้นทั้งเจ็ดเรื่องของฉู่ขวงอย่างต่อเนื่อง รับเป็นการยอมรับคุณภาพของผลงานทั้งเจ็ดเรื่องครั้งสำคัญอย่างยิ่ง ‘ในบรรดาเรื่องสั้นทั้งเจ็ดของฉู่ขวง เฮ้! ออกมาสิบอกเล่นถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อม นี่คือเหตุผลที่เรารณรงค์ว่าการรักษาสิ่งแวดล้อมบนบลูสตาร์คือหน้าที่ของทุกคน อาจูลส์ของผมสอนให้เราไม่ใช้เงินมาทำลายความสัมพันธ์ในครอบครัว ใบไม้ใบสุดท้ายบอกเราว่าสวรรค์อาจไม่ได้สร้างปาฏิหาริย์เสมอไป และเราต้องมีความเชื่อมั่นอยู่เสมอ…’
ต่างจากชาวเน็ตทั่วไป
คำพูดของทางการมีน้ำหนักมากกว่าใคร!
ในแง่หนึ่ง การเคลื่อนไหวของทางการในแต่ละครั้งล้วนมีเจตนาอันลึกซึ้งอยู่เบื้องหลัง ครั้งนี้ก็เช่นกัน
ไม่นานก็มีคนเข้าใจคำใบ้ของทางการ
สำหรับคำใบ้ที่เกือบจะชัดเจนี้ ผู้ที่มีปฏิกิริยาตอบสนองรุนแรงที่สุดเห็นจะเป็นนักเรียน!
ทุกคนคงยังไม่ลืมเรื่องข้อสอบเกี่ยวกับผีเสื้อรักบุปผาก่อนหน้านี้กันใช่ไหม
จะว่าไปแล้ว
เดิมทีนักเรียนในแต่ละทวีปต่างตื่นเต้นกันมาก พวกเขาจับตาดูการเคลื่อนไหวบนอินเทอร์เน็ตอย่างกระตือรือร้น เห็นการสังหารไม่เลือกหน้าของฉู่ขวง วัยรุ่นจำนวนไม่น้อยจึงคึกครื้นขึ้นมา!
ปรากฏว่าแต่ละคนเป็น ต้นตกตะลึงทันทีที่เห็นการเคลื่อนไหวของสมาคมวรรณศิลป์
‘พระเจ้าช่วย!’
‘ทางการทำแบบนี้หมายความว่าเรื่องสั้นของฉู่ขวงอาจกลายเป็นข้อสอบพาร์ทความเข้าใจในการอ่านที่พวกเราต้องเจอในอนาคต?’
‘เข้าใจแล้ว จะไปอ่านเรื่องสั้นของฉู่ขวงเดี๋ยวนี้แหละ!’
‘เจ้าแก่ฉู่ขวงคิดว่าหนังสือเรียนวิชาภาษาของฉันยังไม่หนาพอหรือไง!’
‘ของคุณอาจารย์ฉู่ขวงที่ทำให้หนังสือเรียนวิชาภาษาของพวกเราเพิ่มขึ้นอีกหลายหน้า (อิโมจิยิ้ม)’
‘เฟยหงรีบมาอ่านเลย คุณทำอะไรลงไป คุณคิดว่านักเรียนอย่างพวกเรามีการบ้านเยอะไม่พอใช่ไหม!’
‘ให้ท่องจำทั้งหมดเลยไหมล่ะ?’
‘ตอนแรกฉันอ่านเรื่องสั้นเจ็ดเรื่องนี้อย่างสนุก พอเห็นประกาศทางการเท่านั้นแหละ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าเรื่องสั้นในมือไม่สนุกอีกต่อไป’
‘…’
ในสายตาของนักเรียน โพสต์ของสมาคมวรรณศิลป์มีความหมายเช่นนี้!
ไม่ทันไร ฉู่ขวงก็แทบกลายเป็นศัตรูสาธารณะของนักเรียนเสียแล้ว!
ชื่อของเจ้าแก่ฉู่ขวงเริ่มมีความลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มส่งอิทธิพลต่อคนรุ่นพ่อไป
ช่างเป็นบาป!
เจ้าแก่ฉู่ขวงคนนี้หนีไม่พ้นแล้ว !
เด็กๆ ทุกวันนีเริ่มอ่านนิทานของฉู่ขวงตั้งแต่สมัยอนุบาล
เมื่อขึ้นชั้นประถม มัธยมต้น ไปจนถึงมัธยมปลาย ก็อาจได้สัมผัสผลงานของเจ้าแก่ฉู่ขวงบ้างไม่มากก็น้อย!
หมอนี่อุทิศตนให้กับการศึกษาบนบลูสตาร์อย่างสุดกำลัง!
Comments