Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 807 ผีชีวะมาแล้ว

Now you are reading Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน Chapter 807 ผีชีวะมาแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 807 ผีชีวะมาแล้ว

…………….

วันรุ่งขึ้น

สตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์

ในห้องทำงานตัวแทน

กู้ตงชงชาให้หลินเยวียน สีหน้าแลดูประหลาดใจ วันนี้ตัวแทนหลินไม่เล่นเกมหรือ?

บนโต๊ะในห้องทำงาน

หลินเยวียนกำลังกดคีย์บอร์ดแกร็กๆๆ

หากมีใครยืนอยู่ข้างๆ หลินเยวียน พวกเขาจะพบว่าหลินเยวียนกำลังเขียนบทภาพยนตร์

ชื่อของบทภาพยนตร์นี้มีชื่อว่า

ผีชีวะ[1]!

นี่คือภาพยนตร์ซึ่งหลินเยวียนเตรียมไว้สำหรับซย่าฝาน

หลินเยวียนได้ไต่ถามเรื่องของซย่าฝานจนกระจ่างแล้ว

บริษัทภาพยนตร์จากฉีโจวกำลังเตรียมสร้างภาพยนตร์ชื่อว่า ‘นางพญาคมดาบ’ ซึ่งมีตัวเอกสายหญิงแกร่ง ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เงินลงทุนสูงถึงหลายร้อยล้าน และนางเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้เดิมทีคือซย่าฝาน

พูดตามหลักแล้ว ซย่าฝานไม่สามารถรับบทบาทนี้ได้

อย่างไรก็ตาม ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่นชอบรูปลักษณ์ของซย่าฝานตั้งแต่แรกเริ่ม และคัดค้านความคิดเห็นของคนอื่นๆ เพื่อสนับสนุนให้เธอรับบทนำ

ท้ายที่สุดแล้ว ซย่าฝานก็มีข้อได้เปรียบซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเธอเอง

เธอมีรูปร่างที่สูงใหญ่กว่าเด็กผู้หญิงทั่วไป เธอสูง 170 เซนติเมตร ซึ่งนับว่าสูงพอสมควรสำหรับผู้หญิง

รูปลักษณ์ของเธอให้ความรู้สึกห้าวหาญอีกด้วย

ในภาพยนตร์ซึ่งมีตัวเอกสายหญิงแกร่ง ตัวละครหญิงจะต้องเท่และน่าเกรงขาม

แม้ว่าในวงการบันเทิงจะมีดาราสาวสวยมากมาย แต่ดาราหญิงซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสมกลับมีไม่มากนัก ซย่าฝานบังเอิญว่าเป็นนักแสดงซึ่งมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขพอดี จึงเป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมผู้กำกับถึงเลือกเธอ

เรื่องนี้ได้รับการกำหนดอย่างลงตัวแล้ว

แต่ใครจะรู้ว่านายทุนของภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบปัญหา และถอนตัวจากการลงทุนไป

และปู้ลั่วซึ่งยาตราทัพเข้าสู่อุตสาหกรรมและโทรทัศน์อย่างแข็งขันในระยะนี้ก็เข้ามารับไม้ต่อได้สำเร็จ และกลายเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนางพญาคมมีด

หลังจากนายทุนจากปู้ลั่วเข้ามาครอบครอง ซย่าฝานก็ถูกเปลี่ยนตัวในทันที

แม้แต่ผู้กำกับก็ถูกเปลี่ยนเป็นคนของปู้ลั่วเช่นเดียวกัน

และแม้ว่าซย่าฝานจะเซ็นสัญญากับกองถ่ายแล้ว แต่ค่าตอบแทนที่กำหนดไว้นั้นไม่มาก เพราะฉะนั้นเมื่อบริษัทถอนตัวออกไป พวกเขาและปู้ลั่วจึงแบ่งจ่ายเงินชดเชยให้กับซย่าฝานคนละครึ่ง

ซย่าฝานรู้สึกหดหู่ใจเพราะเรื่องนี้

เนื่องจากซย่าฝานชอบตัวละครเรื่องนางพญาคมมีดมาก เธอจึงตะบี้ตะบันออกกำลังกายเพื่อเพิ่มน้ำหนักเป็นเวลาตลอดสองเดือน เพื่อให้รูปร่างของเธอสอดคล้องกับบทบาทมากขึ้น

และภาพยนตร์ซึ่งมีตัวเอกหญิงสายแข็งบนบลูสตาร์ที่เงินลงทุนมากขนาดนี้มีเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น

เมื่อพลาดครั้งนี้ไป ไม่รู้ว่าครั้งหน้าจะได้รับโอกาสนี้อีกเมื่อไหร่ เพราะไม่ว่าจะบนโลกหรือบลูสตาร์ ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ทั้งบนโลกหรือบลูสตาร์ยังคงมีพระเอกเป็นแกนหลัก ต่อให้นางเอกจะไม่ได้เป็นเพียงไม้ประดับ แต่บทบาทของเธอจะไม่สำคัญเท่าพระเอกอย่างแน่นอน

ซ้ำร้ายด้วยรูปร่างของซย่าฝาน ยังไม่สามารถแสดงเป็นนางเอกตัวเล็กน่ารักได้

เดิมทีเรื่องนี้ไม่ได้ซับซ้อน

อย่างไรก็ตาม เมื่อปู้ลั่วเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงเป็นเรื่องยากหากจะไม่ให้หลินเยวียนคิดมาก

เขาไม่รู้ว่าปู้ลั่วมุ่งเป้ามายังตนหรือเปล่า

ไม่ว่าอย่างไรทุกคนก็รู้ว่าตนสนิทสนมกับซย่าฝาน

และเมื่อตนในชื่อเซี่ยนอวี๋ซึ่งเขาเปิดเผยต่อสาธารณะนั้น ได้แยกทางกับปู้ลั่วไปนานแล้ว

แน่นอนว่าถึงแม้คราวนี้ปู้ลั่วจะไม่ได้มุ่งเป้ามาที่หลินเยวียน แต่หลินเยวียนก็ไม่ได้มีความรู้สึกในแง่บวกต่อปู้ลั่วเลย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้รับรู้จากฝ่ายบริหารของบริษัทถึงความไม่ลงรอยกันในหลายๆ ด้านระหว่างปู้ลั่วและสตาร์ไลท์ หลินเยวียนจึงเข้าใจเรื่องหนึ่งอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นว่า

ความขัดแย้งของเขาและปู้ลั่วไม่มีทางออมชอมกันได้อีก

แม้แต่ยามที่ประธานกรรมการพูดคุยกับหลินเยวียน เขาก็บอกว่าคงเป็นเรื่องยากในการร่วมมือกันระหว่างบริษัทและปู้ลั่วในอนาคต

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เมื่อซย่าฝานในฐานะเพื่อนสนิทของหลินเยวียน หลินเยวียนย่อมอยากช่วยเหลือ

……

ผู้หญิงถือครองครึ่งหนึ่งของโลก

อย่างไรก็ตาม ในผลงานภาพยนตร์ซีรีส์ส่วนใหญ่ ผู้หญิงมักเป็นเพียงเครื่องประดับ เป็นตัวประกอบเบื้องหลังเมื่อพระเอกคว้าชัยชนะและได้อุ้มโฉมงามกลับไป

หากตัวเอกหญิงนั้นโดดเด่นยากกว่าตัวเอกชาย

แต่ถึงกระนั้น ภาพยนตร์บนโลกก็มีตัวละครหญิงบางส่วนซึ่งสร้างความประทับใจเหนือกาลเวลา หนึ่งในภาพยนตร์ที่มีตัวเอกหญิงแกร่งซึ่งเป็นที่พูดถึงมากที่สุดก็คือ ‘ผีชีวะ’ ที่หลินเยวียนกำลังพิมพ์อยู่ในเวลานี้!

ตัวเอกหญิงมีชื่อว่าอลิซ!

เมื่อกองกำลังฝ่ายธรรมะของโลกล้มเหลวในการทำลายอัมเบรลลาคอร์เปอเรชันและไวรัสซอมบีที่หลุดออกมา อลิซจึงกลายเป็นแสงแห่งความหวังของมหันตภัยในครั้งนี้

บทภาพยนตร์แนวตัวเอกหญิงแกร่งที่เหมาะสม

ในภาคแรกของบทภาพยนตร์นี้ ออร่าของตัวเอกหญิงนั้นยิ่งใหญ่มากเสียจนตัวเอกชายกลายเป็นเงาจืดจาง

ไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องที่บทของตัวเอกชายนั้นมีไม่มาก และสุดท้ายก็กลับบ้านเก่าไป

ซอมบีคน ซอมบีหมา ซอมบีสัตว์ประหลาด…

อลิซต่อสู้ด้วยร่างกายของตนเอง มีด และปืน

อ้างอิงจากคำพูดของชาวเน็ตก็คือ

สหายรบไหลเป็นน้ำ อลิซดุจเหล็กกล้า

หากมองข้ามปัญหาของตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ไป ผีชีวะจึงเป็นภาพยนตร์ชุดเพียงหนึ่งไม่กี่เรื่องซึ่งมีตัวเอกเป็นหญิงแกร่งซึ่งยืนหยัดอย่างเหนียวแน่นมากที่สุด

ในความเป็นจริง

ถ้าหากไม่ใช่เพราะโครงเรื่องที่งี่เง่าของภาพยนตร์ภาคต่อๆ ไป และนักแสดงซึ่งรับบทตัวเอกหญิงในเรื่องอายุมากเกินไปจนต่อสู้ไม่ไหว ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจยังยืนหยัดได้ท่ามกลางภาพยนตร์ชุดทรงอิทธิพลนับไม่ถ้วน

นี่ไม่ใช่ปัญหาที่หลินเยวียนต้องขบคิดในขณะนี้

บทที่เขาเขียนคือภาคแรก และเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องผีชีวะ

และไม่ว่าจะในแง่ของชื่อเสียงและผลลัพธ์จากการปรับแก้บท ผีชีวะภาคหนึ่งก็นับว่าเป็นความคลาสสิกเสมอมา

ใช่แล้ว

ผีชีวะเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ซึ่งดัดแปลงมาจากเกม กล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จสูงสุดของภาพยนตร์ซึ่งดัดแปลงจากเกมบนโลก

แต่ถึงกระนั้น หลินเยวียนไม่ได้กังวลว่าบนบลูสตาร์ไม่มีเกมผีชีวะ

เมื่อผีชีวะได้รับความนิยมถล่มทลายในโลกเดิม เหตุผลที่หลายคนชื่นชอบเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงเพราะเกมเท่านั้น

ผู้ชมนับไม่ถ้วนไม่เคยเล่นเกมนี้ด้วยซ้ำ

สิ่งที่ทำให้หลินเยวียนมั่นใจยิ่งขึ้นคือเขาได้ศึกษาและค้นค้นคว้าข้อมูลแล้วเมื่อเช้า

บนโลกนี้ไม่มีแนวคิดเกี่ยวกับซอมบี มีเพียงคำว่าซอมบี นอกจากนั้นผู้ผลิตภาพยนตร์ส่วนใหญ่ในบลูสตาร์ส่วนใหญ่มักจะเคยชินกับการใช้ซอมบีเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของภาพยนตร์สยองขวัญเท่านั้น

ใช่

ชาวบลูสตาร์บางคนชื่นชอบภาพยนตร์สยองขวัญ

และ ในสายตาของคนสายภาพยนตร์บลูสตาร์ ภาพยนตร์ผีประหลาดๆ นั้นน่ากลัวยิ่งกว่าซอมบีมาก

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ผีชีวะจึงเป็นความแปลกใหม่

ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้ผู้ชมได้เห็นฝูงซอมบี

ทำให้ผู้ชมได้เห็นซอมบีสุนัข

ทำให้ผู้ชมได้เห็นว่ามนุษยชาติจะเผชิญหน้ากับซอมบีได้อย่างไร…

หลินเยวียนมั่นใจมากว่าความตึงเครียดและความตื่นเต้นเร้าใจที่มาพร้อมกับการปรากฏตัวของฝูงซอมบีเป็นสิ่งที่หนังผีเหล่านั้นไม่สามารถมอบให้ได้

ผู้ชมยังต้องการอลิซที่ทั้งแข็งแกร่งและเท่

สำหรับชื่อของตัวเอกหญิง หลินเยวียนไม่มีแผนที่จะเปลี่ยน

บนโลกนี้ไม่ว่าผู้คนจะหน้าตาเป็นอย่างไร ชื่อแซ่ล้วนมีหลากหลายแตกต่างกันออกไป

เป็นเช่นนี้

หลังจากใช้เวลาไปทั้งวัน ในที่สุดหลินเยวียนก็เขียนบทผีชีวะเสร็จเรียบร้อย

ขบคิดอยู่สักพัก เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องอัปเกรดฉากของภาพยนตร์เรื่องนี้

ภาพยนตร์ต้นฉบับบนโลกนั้นถ่ายทำในปี 2002

ในเวลานั้น เนื่องด้วยข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีและเงินลงทุน ฉากจึงไม่ยิ่งใหญ่มากพอ

ปัจจุบันนี้หลินเยวียนอยู่ในบลูสตาร์ซึ่งมีระดับเทคโนโลยีที่สูงกว่า โรงภาพยนตร์ยังติดตั้งเทคโนโลยีสามมิติซึ่งมองด้วยตาเปล่าได้ด้วย

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีเหตุผลใดที่หลินเยวียนจะไม่สร้างผีชีวะซึ่งมีฉากอลังการตระการตา

ส่วนเรื่องที่จะสร้างภาคสองภาคสามต่อไปหรือไม่ หลินเยวียนขี้เกียจคิดในตอนนี้

สิ่งสำคัญที่สุดคือการถ่ายทำภาพยนตร์ภาคแรกให้สำเร็จ

หลังจากยืนยันเรื่องนี้แล้ว หลินเยวียนจึงไปพบเหล่าโจว และมอบบทภาพยนตร์ให้กับเขา

“หนังเรื่องใหม่?”

สีหน้าของเหล่าโจวแลดูตื่นเต้นขึ้นมา

หลินเยวียนพยักหน้า “กำหนดตัวเอกหญิงคือซย่าฝาน”

ก็ได้

นายน้อย

นายน้อยพูดอะไรก็ทำตามนั้น

————————

ปล. อ้อ ถ้าหากจะยกระดับผีชีวะภาคแรกให้เข้มข้นและน่าตื่นเต้นมากขึ้น ทุกคนมีคำแนะนำดีๆ บ้างไหม?

[1] ผีชีวะ (Resident Evil) ภาพยนตร์สัญชาติเยอรมัน-อังกฤษ นำแสดงโดยมิลลา โยโววิช (Milla Jovovich) ซึ่งรับบทเป็นอลิซ เข้าฉายเป็นครั้งแรกในปี 2002

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด