Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 809 ราชวงศ์ปลาบุกงานแต่ง

Now you are reading Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน Chapter 809 ราชวงศ์ปลาบุกงานแต่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 809 ราชวงศ์ปลาบุกงานแต่ง

วันเวลาต่อจากนั้น

หลินเยวียนรู้สึกราวกับถูกท่อน ‘ปอกเปลือกมะพร้าว แต่เธอกลับแม่*ให้แต่สาลี่[1]’ ล้างสมองไปเสียแล้ว

ไม่มีใครรู้ว่าเพราะเหตุใดคำพ้องเสียงถึงมหัศจรรย์ขนาดนี้

ในเวลานี้การบันทึกเพลงเสร็จสิ้นแล้ว และราชวงศ์ปลากำลังเฝ้ารอให้สิ้นเดือนมาถึง

บนโลกออนไลน์

แฟนๆ กำลังพูดคุยกันถึงเพลงใหม่ในเดือนตุลาคมของเซี่ยนอวี๋

“ใกล้จะถึงสิ้นเดือนแล้ว”

“พ่อเพลงอวี๋อัดเพลงใหม่แล้วหรือยัง?”

“ฉันกังวลแทนพ่อเพลงอวี๋ การแข่งขันไม้สุดท้ายของแชมป์สิบสองสมัยกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!”

“เดือนตุลาน่าจะไม่มีปัญหา”

“สำหรับพ่อเพลงอวี๋ เดือนที่ยากที่สุดคือธันวาคม มหาสงครามเทพเซียนไม่ใช่เรื่องง่าย”

“ตอนนี้จะชะล่าใจไม่ได้”

“นั่นก็จริง ถ้าเดือนตุละพังก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว”

“เหอะๆๆ ไม่รู้ว่าเพลงใหม่เดือนตุลาพ่อเพลงอวี๋จะเปิดการ์ดนักร้องคนไหนในราชวงศ์ปลา”

“…”

แฟนคลับของเซี่ยนอวี๋คือคนที่กังวลใจมากที่สุด

และเมื่อถึงวันที่ 30 กันยายน ผู้คนที่พูดคุยกันนั้นไม่ได้จำกัดอยู่ในกลุ่มแฟนคลับอีกต่อไป

ในวันเดียวกันนั้นเอง

หน้าประตูสตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์

ในกล้อง

ทีมงานชายในชุดสูททางการกลุ่มหนึ่งโผล่ออกมาทีละคน

บางคนถือบันได บางคนถืออุปกรณ์หนักๆ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องดนตรีและลำโพง

และหลังจากนั้น

หลินเยวียนนำนักร้องราชวงศ์ปลาเดินออกจากประตูใหญ่หน้าบริษัท

หยุดอยู่หน้ากล้อง

หลินเยวียนพูดอย่างยิ้มแย้ม “วันที่สามสิบกันยายน เวลาเจ็ดโมงเช้า พวกเราจะขับรถผ่านเมืองซูเพื่อเข้าร่วมงานแต่งงาน”

ผู้กำกับซึ่งอยู่ไกลออกไปทำท่า ‘โอเค’

หลินเยวียนเข้าใจในทันที ก่อนจะเดินผ่านกล้องไป

จากนั้นนักร้องทุกคนในราชวงศ์ปลาก็เดินผ่านหน้ากล้องเช่นกัน

ขณะที่เดินผ่าน

เจียงขุยชูสองนิ้วให้กับกล้อง

จ้าวอิ๋งเก้อแลบลิ้นใส่กล้องอย่างซุกซน

เฉินจื้ออวี่สะพายกีตาร์ สะพัดผมด้วยความเท่

ซย่าฝานโพสท่าเมื่อเดินผ่านกล้อง…

นักร้องทุกคนในราชวงศ์ปลาล้วนมีแอร์ไทม์สั้นๆ

“เกือบสายแล้ว!”

ซุนเย่าหั่ววิ่งกอดเบสตามไปอย่างเร่งรีบ

รถสี่คันจอดอยู่หน้าประตู

สองคันด้านหน้าเป็นรถตู้เอนกประสงค์สีดำ

อีกสองคันด้านหลังเป็นรถสปอร์ตเปิดประทุน

คันหนึ่งสีแดง อีกคันหนึ่งสีน้ำเงิน

หลินเยวียนเข้าไปในรถสปอร์ตสีแดงซึ่งอยู่ด้านหน้า

นักร้องจากราชวงศ์ปลาคนอื่นๆ ก็แบ่งกันขึ้นไปยังรถทั้งสองคัน

หลังจากขึ้นไปบนรถแล้ว

ทุกคนรู้สึกตื่นเต้น

“รถสปอร์ตจากไหนล่ะเนี่ย”

“รุ่นนี้เหมือนว่าจะราคาเกือบยี่สิบล้านเลยนะ”

“คันหลังก็ราคาเริ่มต้นสิบล้าน”

“เท่มาก!”

“บริษัทจัดเตรียมให้?”

“ฉันจัดเตรียมเอง”

บนรถสปอร์ตสีแดง ซุนเย่าหั่วยิ้มร่า เผยให้เห็นด้านที่ร่ำรวยอย่างไร้มนุษยธรรม

“ยะฮู้ว~!”

ไม่รู้ว่าใครส่งเสียงร้องออกมา และแล้วรถทั้งสี่คันก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างเป็นทางการ

การนั่งอยู่ในรถสปอร์ตเปิดประทุน ลมพัดปะทะใบหน้าพาให้ทุกคนตื่นเต้นและกระฉับกระเฉง

เมื่อรถวิ่งผ่านใจกลางเมือง

ริมถนน

ตึกระฟ้าคล้อยมาปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ป้ายบิลบอร์ดขนาดยักษ์และหน้าจอใหญ่บนตึกสูงปรากฏโปสเตอร์กลุ่มของเหล่านักร้องราชวงศ์ปลา!

ในโปสเตอร์

นักร้องราชวงศ์ปลาคนอื่นๆ ยืนเรียงกันคนละข้างด้วยองค์ประกอบที่สมดุล!

โปสเตอร์ป้ายโฆษณา และหน้าจอขนาดใหญ่นับไม่ถ้วนช่วยส่งเสริมให้เหล่านักร้องราชวงศ์ปลาดูโดดเด่น

บนรถตู้คันหนึ่ง

มีกล้องจับภาพฉากนี้เอาไว้

เห็นได้ชัดว่ามีการจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า

เมื่อถึงไฟแดง รถเหล่านี้หยุดลง

บนถนนด้านข้าง รถหลายคนจอดอยู่ทั้งสองฝั่ง

ในรถบางคัน มีคนมองดูรถสปอร์ตทั้งสองคันนี้โดยไม่รู้ตัว

แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อพวกเขามองไปยังกลุ่มคนบนรถสปอร์ต ดวงตากลับเบิกกว้างในทันที!

พระเจ้าช่วย!

นั่นใครน่ะ!?

ขวับๆๆ!

หลังจากเสียงอุทานของผู้คนซึ่งเดินผ่านไปมา คนอื่นๆ ในรถก็สังเกตเห็นหลินเยวียนและเหล่าราชวงศ์ปลาด้วย!

กระจกรถยนต์หลายคันซึ่งอยู่โดยรอบเลื่อนลงมาพร้อมกันในจังหวะเดียวกัน ราวกับว่ามีการซักซ้อมกันไว้ล่วงหน้า !

“เซี่ยนอวี๋!”

“เจียงขุย!”

“ซย่าฝาน!”

“ซุนเย่าหั่ว!”

“เว่ยห่าวอวิ้น!”

“ลูกคนรองตลอดกาล!”

เฉินจื้ออวี่มุมปากกระตุกด้วยความจนใจ

ผู้ที่เดินผ่านไปมาต่างตะโกนและส่งเสียงกรี๊ดด้วยความตื่นเต้น เด็กบางคนถึงกับโบกมือไปมาอย่างลิงโลดอยู่ในรถ!

บรรยากาศคึกคักขึ้นมาในชั่วพริบตา!

กล้องยังคงจับภาพเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง

สำหรับคนทั่วไป การพบปะกับดาราดังหลายคนบนท้องถนนในเมืองซู โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซี่ยนอวี๋และทัพนักร้องแถวหน้ารวมไปถึงราชินีเพลง นับว่าเป็นภาพที่ชวนตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง!

“อ๊าก!!!”

“มาดูเร็ว!!!”

“ราชวงศ์ปลา!”

“ฉันรักพวกคุณ!”

“เทวดานางฟ้าของฉันอยู่ที่นี่กันหมด!”

“ทำไมพวกเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้!”

“อ๊ากๆๆ พวกเขากำลังทำอะไรกัน!”

“พ่อเพลงอวี๋แต่งงานกับฉันเถอะ!”

นอกจากนี้ยังมีรถสปอร์ตเปิดประทุนคันหนึ่งซึ่งอยู่ด้านข้าง ในรถมีหญิงสาวสี่คน

ในเวลานี้ หญิงสาวทั้งสี่กรี๊ดอย่างบ้าคลั่งไปยังหลินเยวียนและคนอื่นๆ ในนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายเซลฟีอย่างอดใจไม่ไหว ระยะกล้องนั้นเหมาะสมพอที่จะทำให้ตนเองอยู่ในเฟรมเดียวกับนักร้องราชวงศ์ปลา จากนั้นความคึกคักจึงถูกส่งต่อผ่านผู้ที่สัญจรไปมาคนอื่นๆ

ไม่รู้ว่าอีกประเดี๋ยวโซเชียลมีเดียของผู้ที่ผ่านไปมาเหล่านี้จะกลายเป็นที่ฮือฮามากแค่ไหน

แชะๆๆ !

หลินเยวียนและคนอื่นๆ ไม่ได้หยุดและถ่ายรูปกับผู้คนซึ่งเดินผ่าน แต่กลับโบกมือให้ทุกคนแทน

พวกซุนเย่าหั่วก็ยื่นมือออกไปนอกหน้าต่างแตะมือกับคนอื่นๆ ด้วย

ในขณะนี้

ไฟเขียวสว่างขึ้น

รถของหลินเยวียนเคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ทว่าเสียงกรีดร้องที่ไล่หลังยังคงไม่หายไป

ความรู้สึกแปลกใหม่และความคึกครื้นนี้ยังคงทำให้นักร้องในราชวงศ์ปลารู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่องๆ

คนเรามีความภาคภูมิใจอยู่บ้าง

ปกติแล้ว ทุกคนในฐานะคนดังมักออกไปไหนมาไหนอย่างเงียบเชียบ ทว่าในวันนี้นับว่าทุกคนได้สัมผัสถึงความรู้สึกของการท่องไปตามท้องถนนอย่างผึ่งผาย

เป็นเรื่องยากที่ทุกคนจะมีโอกาสเพลิดเพลินกับความรู้สึกของการได้รับเสียงชื่อชมจากผู้คนซึ่งสัญจรไปมาในเวลากลางวันแสกๆ

ในที่สุด

รถทั้งสี่คันเคลื่อนมาจอดหน้าโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง

ทีมงานหลายคนลงจากรถตู้พร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆ ก่อน

จากนั้นประตูของรถสปอร์ตอีกสองคันก็เปิดออกเช่นกัน

“ถึงแล้ว”

หลินเยวียนพูดขณะที่หยิบแว่นกันแดดซึ่งเตรียมไว้ออกมาสวม เพื่อพรางใบหน้าไว้บ้าง

“Gogogo!”

ซุนเย่าหั่วและคนอื่นๆ ก็ทยอยสวมแว่นตาซึ่งเตรียมไว้ล่วงหน้า พวกเขามุ่งหน้าไปภายในอาคารพร้อมกัน

กล้องถ่ายจากด้านหน้า

หลินเยวียนและคนอื่นๆ เดินตามหลัง

ด้วยการปีนบันได หลินเยวียนและคนอื่นๆ เดินผ่านระเบียงทางเดินเข้าไปยังห้องครัวของโรงแรม

นี่คือเส้นทางที่เหล่าโจวจัดเตรียมไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้แขกเหรื่อในงานเห็น ไม่เช่นนั้นนี่จะไม่ใช่การเซอร์ไพรส์อีกต่อไป

“เคร้ง…”

พ่อครัวคนหนึ่งถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นพวกหลินเยวียน หม้อในมือซึ่งเขากำลังล้างก่อนหน้านี้หล่นลงไปในอ่างล้างจาน

ทันทีที่เสียงดังขึ้น

ผู้คนในครัวล้วนหันมาเห็นหลินเยวียนและคนอื่นๆ เช่นเดียวกัน!

แว่นตากันแดดสีดำไม่สามารถหยุดไม่ให้ทุกคนจดจำดาราดังซึ่งปกติพบเห็นได้เพียงในโทรทัศน์ได้!

“ขออนุญาตครับ”

ท่ามกลางสายตานิ่งอึ้งมากมาย หลินเยวียนและนักร้องราชวงศ์ปลารุดไปยังห้องจัดเลี้ยงพลางเอ่ยขอโทษ

เกิดอะไรขึ้น

คนในครัวมองตามพวกเขาไปด้วยสีหน้าตกตะลึง

……

ในเวลาเดียวกัน

ในห้องโถงจัดเลี้ยงของโรงแรม

คู่รักเข้าสู่ประตูวิวาห์

เสียงปรบมือดังเกรียวกราว ใบหน้าของแขกที่มาร่วมงานเต็มไปด้วยความชื่นมื่น

ท่ามกลางเสียงปรมมือ

เจ้าบ่าวและเจ้าสาวนั่งลง

แขกเหรื่อพูดคุยพลางจิบไวน์

ในที่นั่งตัวหนึ่ง

หลินเซวียนกวาดตามองไปรอบๆ “น้องชายฉันล่ะ?”

ต้าเหยาเหยาสีหน้าฉงนใจ “พี่เทพวกเราแล้วหรือเปล่า? เป็นพี่ชายที่แสนดีจริงๆ ”

แม่คลี่ยิ้ม “น่าจะมีเรื่องอะไรทำให้มาช้าล่ะมั้ง พวกลูกกินไปก่อน”

อีกด้านหนึ่ง

เหล่าโจวก้มหน้ามองเวลาอยู่บ่อยครั้ง ปากพึมพำบางอย่างที่ฟังไม่ได้ศัพท์

ถัดจากเหล่าโจว

ลูกสาวซึ่งสวมชุดเจ้าสาวเริ่มไม่สบอารมณ์ เบ้ปากและพูดขึ้น

“พ่อคะ ทำไมเอาแต่ดูเวลาล่ะ หรือว่าวันนี้พ่อมีงานอื่นต้องสะสาง?”

“ไม่มี พ่อจะไม่ไปไหนทั้งนั้น วันนี้เป็นงานแต่งงานของลูกสาวพ่อ!”

เหล่าโจวรีบส่ายหน้า มองไปยังโจวถิงซึ่งสวมชุดเจ้าสาว กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ถิงถิงลูกพ่อสวยจริงๆ !”

“ถิงถิงได้ยีนพ่อมาน่ะครับ”

แฮงค์ เจ้าบ่าวซึ่งอยู่ด้านข้างถือโอกาสพูดขึ้นมา พลอยให้อาโจวหัวใจกระชุ่มกระชวย แต่ปากกลับพูดว่า

“ได้จากแม่มากกว่า”

ภรรยาของเหล่าโจวพยักหน้า “ตาแก่บ้านฉันยังพอรู้ตัวอยู่บ้าง”

โจวถิงหัวเราะ

ในเวลานี้ จู่ๆ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา

เมื่อคนกลุ่มนี้เข้ามา ก็นั่งยองและเคาะบางอย่างดังก๊อกๆ แก๊กๆ

ทันใดนั้น ทุกคนในงานพลันถูกดึงดูดความสนใจในชั่วพริบตา

“คนพวกนี้เป็นใคร?”

“พวกเขากำลังทำอะไรน่ะ”

“เหมือนว่ากำลังจะปิดม่าน?”

“เตรียมกิจกรรมอะไรไว้หรือเปล่า?”

“เรื่องนี้ต้องถามออร์แกไนเซอร์”

“น่าจะมีการแสดงอะไร”

ภาพเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นกะทันหันนี้ช่างพิลึกพิลั่น บางคนซักถามคนรอบข้าง ทว่าคนรอบข้างกลับแบมือยักไหล่ตอบว่าไม่รู้

ปฏิกิริยาตอบสนองในลักษณะที่คล้ายคลึงกันเกิดขึ้นมากมาย

หลายคนมองไปรอบๆ ด้วยความสงสัย

กล้องซึ่งซ่อนไว้กำลังถ่ายทำอย่างเงียบเชียบ

โจวถิงสีหน้าสับสน “พวกเขาทำอะไรกัน”

แฮงค์ขมวดคิ้วเล็กน้อย “พวกเราไม่มีกิจกรรมพิเศษอะไรไม่ใช่หรือ?”

“พ่อคะ…”

โจวถิงกังวลเล็กน้อย และหันไปมองเหล่าโจวโดยไม่รู้ตัว แต่กลับพบว่าเหล่าโจวลุกขึ้นไปแล้ว

“ไปไหนของเขา”

ภรรยาของเหล่าโจวตกตะลึงเช่นกัน

เหล่าโจวเข้าไปขัดขวางออร์แกไนเซอร์และเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยซึ่งงานแต่งซึ่งรุดเข้ามาระงับเหตุการณ์

และไม่รู้ว่าเหล่าโจวพูดอะไรกับคนเหล่านี้ ไม่นานจึงไล่ให้พวกเขาออกไป

ไม่ทันไร ม่านสีขาวก็ถูกดึงขึ้นเพื่อปิดบังสายตาของทุกคนในงาน

หลินเยวียนอละคนอื่นๆ ซึ่งสวมแว่นตาดำใช้โอกาสที่ทุกคนให้ความสนใจกับผ้าม่าน เดินเข้าไปด้านหลังม่าน

“เหมือนว่าจะไม่มีใครสังเกต”

เฉินจื้ออวี่พูดด้วยความรู้สึกผิดราวกับว่าเป็นหัวขโมย

หลินเยวียนถอดแว่นตาดำออก พยักหน้า

“เตรียมตัวให้พร้อม”

ทุกคนรีบปรับจูนเครื่องดนตรีซึ่งจัดวางไว้เรียบร้อยแล้วไป ระหว่างนั้นก็พูดคุยและหัวเราะกันไปด้วย

……

นี่คืออะไร

ครอบครัวของหลินเยวียนจ้องมองม่านที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันนี้ด้วยสีหน้างุนงง เช่นเดียวกับแขกคนอื่นๆ ในงาน

มีกิจกรรมหรือ?

ทันใดนั้นด้านหน้าม่านมีคนมาพูดคุยกับเหล่าโจว

เมื่อเหล่าโจวฟังสิ่งที่อีกฝ่ายกระซิบจบ จึงรีบเดินตรงไปหาลูกสาวและลูกเขย

“นี่มันอะไรกันคะ”

“เกิดอะไรขึ้นครับ”

เมื่อเห็นเหล่าโจวกลับมา โจวถิงและแฮงค์จึงเอ่ยถามพร้อมกัน

โจวถิงซึ่งสวมชุดเจ้าสาวมองดูกลุ่มผู้บุกรุกท่าทางแปลกๆ เหล่านี้ ความอยากรู้อยากเห็นของเธอกำลังเอ่อท้น

“ตามพ่อมาก่อน”

เหล่าโจวยิ้มอย่างลึกลับ จากนั้นเขาจึงประคองคู่บ่าวสาวไปยังหน้าม่านใหญ่พร้อมกับทีมงาน

โจวถิงและแฮงค์มองหน้ากัน ก่อนจะหลุดหัวเราะคิกคัก

ทั้งสองเดาได้แล้วว่านี่คือสิ่งที่เหล่าโจวจัดเตรียมไว้

แขกบางคนเฝ้าดูจนเบื่อหน่าย จึงก้มหน้าและจัดการกับอาหารเบื้องหน้าต่อไป หรือสนทนากันบ้าง

ทันใดนั้นเอง

เสียงดนตรีจากเครื่องเคราะห์เสียงดังขึ้น

“ตึ๊ง…ตึ๊ง…ตึ๊ง…”

เสียงดนตรีดึงดูดความสนใจของผู้คนกลับมาอีกครั้ง “ดนตรีมาจากไหน”

ท่ามกลางความสงสัยของแขกผู้ร่วมงาน

ทันใดนั้นเสียงเพลงก็ดังขึ้น

“I’m hurting baby,

I’m broken down

I need your loving, loving

I need it now

When I’m without you

I’m something weak……”

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเสียงเพลงซึ่งมาจากหลังม่าน ทุกคนก็หันไปมองยังม่านในฉับพลัน

พรึบ!

ทันใดทั้นเอง!

จู่ๆ ม่านสีขาวก็ร่วงลงมา!

ใบหน้าที่ทุกคนคุ้นเคยปรากฏหลังม่านต่อหน้าทุกคนในชั่วพริบตา

นำโดย

ในมือของหลินเยวียนถือไมโครโฟน รูปร่างสูงโปร่งและใบหน้าหล่อเหลาของเขาทำให้ผู้คนมากมายตาพร่า!

“อ๊าาา!!!!”

ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องดังสนั่นทะลุหลังคาอย่างฉับพลัน!

หลินเยวียน เจียงขุย ซย่าฝาน ซุนเย่าหั่ว เฉินจื้ออวี่ จ้าวอิ๋งเก้อ และเว่ยห่าวอวิ้น รวมเจ็ดคน!

ทั้งราชวงศ์ปลา!

ไลน์อัปคนดังสุดตระการตา!

เมื่อใบหน้าที่คุ้นเคยในโทรทัศน์ปรากฏอย่างชัดเจนต่อหน้าทุกคน โดยเฉพาะในโอกาสเช่นนี้ และท่ามกลางเสียงเพลงเช่นนี้ ความประหลาดใจและเหนือความคาดหมายนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!

“!!!!”

เมื่อโจวถิงซึ่งสวมชุดสีขาวใช้สองมือปิดปากของเธอไว้ ดวงตากลมโตคู่สวยของเธอเต็มไปด้วยความประหลาดใจและเหลือเชื่อ!

เธอตื่นเต้นจนเสียงขาดไป!

แฮงค์อ้าปากค้าง เขาตื่นเต้นจนใบหน้าแดงก่ำไปจนถึงใบหู ประหนึ่งกำลังเมาสุราอย่างไรอย่างนั้น!

ทั้งห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมแตกตื่นขึ้นมาทันใด!

“โอ้มายก้อด!”

“โอ้มายก้อด!”

“โอ้มายก้อด!”

“พระเจ้า!”

“พระเจ้าช่วย…”

“พวกเขาคือราชวงศ์ปลา!”

“เซี่ยนอวี๋!”

“พ่อเพลงอวี๋!”

“มีซุนเย่าหั่วกับซย่าฝานด้วย”

“อ๊าาาาาาา!”

“พวกเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!”

แขกผู้มีเกียรติในงานตื่นเต้นสุดขีด จนขนลุกซู่ไปทั้งตัว!

ผู้คนทั่วทั้งงานต่างตกตะลึงกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของราชวงศ์ปลา!

ท่ามกลางเสียงกรี๊ดซึ่งดังขึ้นอย่างหนักหน่วง แขกเหรื่อต่างลุกขึ้นยืนและขยับเข้าไปหาหลินเยวียนอย่างต่อเนื่อง !

มีคนหยิบโทรศัพทืขึ้นมาถ่ายภาพอย่างบ้าคลั่ง!

ทุกคนรู้จักกลุ่มคนซึ่งอยู่ตรงหน้า ในทั้งหมดเจ็ดคน ต้องรู้จักสามคนเป็นอย่างน้อย!

ใบหน้าของหลินเยวียนและนักร้องราชวงศ์ปลาเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม และดำเนินการแสดงเซอร์ไพรส์นี้ต่อไป

“You got me begging, begging, I’m on my knees. I don’t wanna be needing your love…”

ซุนเย่าหั่วและคนอื่นๆ ครื้นเครงไปกับบทเพลง!

ท่ามกลางเสียงเพลง ทันใดนั้นโจวถิงก็ขยับกายเต้นรำด้วยความตื่นเต้น!

เต้นไปเต้นมา จู่ๆ เธอก็เข้าไปสวมกอดแฮงค์ คู่บ่าวสาวจุมพิตกันอย่างเต็มที่!

เหล่าโจวมองดูลูกสาวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

ภรรยาของเหล่าโจวก็ตื้นตันเช่นกัน!

บรรยากาศอันตื่นเต้นแผ่ขยายไปยังทุกคนในงาน ด้วยดนตรีซึ่งเปี่ยมไปด้วยจังหวะสนุกสนาน ผู้คนมากมายเข้าร่วมการเต้นรำ

ไม่มีใครคาดคิด!

ว่าในงานแต่งงานของคู่รักคู่นี้จะมีดาราแนวหน้าปรากฏตัว!

ทั่วทั้งห้องจัดเลี้ยงกลายเป็นท้องทะเลของเสียงเพลงและความตื่นเต้น!

และในที่นั่งทางซ้ายของห้องจัดเลี้ยง

“นั่นพี่นี่นา พี่หล่อมากเลย!”

เหยาเหยาพึมพำ

แม่ยิ้มกว้าง มองดูลูกชายด้วยความปลาบปลื้มใจ

หลินเซวียนรู้สึกตื่นเต้นมาก “ทำไมเขาถึงไปอยู่ที่นั่นล่ะ มากันทั้งราชวงศ์ปลาเลย!”

[1] ปอกเปลือกมะพร้าว แต่เธอกลับแม่*ให้แต่สาลี่ มาจากท่อน ‘Sugar, yes please. Won’t you come and put it down on me?’ จากเพลง Sugar โดยวงมารูนไฟฟ์ (Maroon5) ทว่าภายหลังเนื้อเพลงถูกแปลงไปเป็นภาษาจีนด้วยการเล่นคำพ้องเสียงเป็น ‘เซียวเก้อเยียจื่อผี หนี่เชวี่ยทามาเก่ยเก้อหลี’ ซึ่งหมายถึงปอกเปลือกมะพร้าว แต่เธอกลับแม่*ให้แต่สาลี่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด