Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 820 มองคนขาดจริงๆ (1)

Now you are reading Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน Chapter 820 มองคนขาดจริงๆ (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 820 มองคนขาดจริงๆ (1)

ปล. ผลงานเรื่องโตเกียวกูล ผ่าพิภพไททัน รวมถึงโดราเอมอน ถูกตัดออกไปด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน เนื่องจากต้องพิจารณาจากหลายแง่มุมที่เกี่ยวกับอิทธิพลของแต่ละผลงาน ดังนั้นจึงมีการปรับปรุงเพิ่มเติม และตัดออกจากผลงานหก เรื่องที่เคยนำเสนอในบทก่อน ตอนนี้ทุกคนน่าจะได้อ่านอย่างน้อยสามเรื่องขึ้นไปแล้วใช่ไหม?

—————

สตูดิโอของอิ่งจือ

หลินเยวียนกำมือแน่นและยืดเหยียด

ขยับนิ้วทั้งห้าที่รู้สึกปวดเมื่อยเล็กน้อย

ที่จริงแล้วห้านิ้วยังไม่พอใช้ด้วยซ้ำ เพราะช่วงนี้เขาวาดการ์ตูนใหม่ถึงหกเรื่อง ถ้าไม่ได้ควักเงินซื้อยาเสริมพลัง น่ากลัวว่าจนถึงป่านนี้เขาคงยังต้องหลังขดหลังแข็ง ‘วาด’ ต่อไป

ทว่าหลังจากทุ่มเทมานานถึงขนาดนี้ ผลลัพธ์ออกมานับว่าน่าพอใจ

กันดั้ม!

เทพมรณะ!

ดิจิมอน!

เซนต์เซย์ยา!

ฮันเตอร์xฮันเตอร์!

สาวน้อยเวทมนตร์มาโดกะ!

ทั้งหกเรื่องนี้เป็นผลงานที่หลินเยวียนคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน!

หากหยิบผลงานหนึ่งในนั้นออกเพียงเรื่องเดียว ต่อให้เป็นเรื่องสาวน้อยเวทมนตร์มาโดกะซึ่งมีความยาวค่อนข้างสั้น ก็นับเป็นผลงานที่เคยสร้างกระแสฮือฮาบนโลกจนถึงทุกวันนี้ และยังเป็นที่กล่าวขานของแฟนการ์ตูนในฐานะผลงานสุดคลาสสิกจวบจนทุกวันนี้!

นี่คือการตอบโต้ของหลินเยวียนต่อปู้ลั่ว!

ไม่ต้องรอถึงครึ่งปีหรือแม้แต่หนึ่งปี เขาเชื่อว่าการ์ตูนทั้งหกเรื่องนี้จะช่วยให้เหลียนเหมิงกดดันปู้ลั่วจนหมดหนทาง!

ใช่แล้ว

หลินเยวียนเคยเผชิญหน้ากับ ‘คู่ต่อสู้’ มามากมาย

แต่สำหรับปู้ลั่ว หลินเยวียนเห็นพวกเขาเป็น ‘ศัตรู’

ถ้าไม่ใช่ด้วยเหตุผลนี้ หลินเยวียนก็คงไม่พยายามอย่างหนักขนาดนี้หรอก

แน่นอน

ยังมีผลงานที่ยอดเยี่ยมกว่าหกเรื่องนี้ซึ่งหลินเยวียนยังไม่ได้เปิดเผย เขาวางแผนว่าจะเก็บไว้ใช้เอง เช่น ‘โปเกมอน’ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานลิขสิทธิ์ที่ทำเงินมากที่สุดในโลก

อีกทั้งยังมี ‘โดราเอมอน’ ซึ่งภายหลังถูกแปลชื่อเป็น ‘แมวหุ่นยนต์’

เรื่องนี้เป็นผลงานที่มีกลุ่มผู้ชมกว้างที่สุดในโลก และไม่มีผลงานใดเทียบได้!

เรียกได้ว่าเป็นผลงานที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยอย่างแท้จริง!

นอกจากนี้ยังมีผลงานเรื่องดังอย่าง ‘ดรากอนบอล’ อีกด้วย

แม้ว่าพลังของตัวละครในการ์ตูนเรื่องนี้จะเสียสมดุลในช่วงหลัง แต่ถึงอย่างนั้น แม้แต่การ์ตูนชื่อดังอย่างบลีช เทพมรณะ นารูโตะ นินจาจอมคาถา หรือวันพีซ ก็ยังต้องนับว่าเป็นรุ่นน้องเมื่อเทียบกับผลงานชิ้นนี้ นี่คือผลงานที่เคยครองยุคสมัยหนึ่งอย่างแท้จริง!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งดรากอนบอล

ในการจัดอันดับอิทธิพลของการ์ตูนต่างๆ ดรากอนบอลมักอยู่ในอันดับแรกเสมอ ถือเป็นจุดสูงสุดของการ์ตูนสายหลัก

แน่นอนว่าหลินเยวียนจะไม่งัดผลงานเรื่อง

คาดว่าเขาจะรอให้จงโจวเข้าร่วมผนวกรวมก่อน จึงค่อยพิจารณานำผลงานระดับนี้ออกมา

ถึงเวลานั้น คาดว่าวงการการ์ตูนคงจะถูกอิ่งจือผลักดันไปจนถึงขีดสุด

แต่ไม่เป็นไร

บลูสตาร์มีการกล่าวถึงศิลปะดั้งเดิมสิบแขนง

ศิลปะสิบแขนงนี้ประกอบด้วย

ศิลปะส่วนใหญ่มีความเกี่ยวข้องกัน

และจิตรกรรมในฐานะที่เป็นหนึ่งในแขนงศิลปะนั้นมีขอบเขตที่กว้างมาก

การ์ตูนเป็นเพียงสาขาหนึ่งของจิตรกรรม

เมื่อการ์ตูนพัฒนาไปถึงจุดสูงสุดแล้ว หลินเยวียนก็ยังสามารถให้อิ่งจือผลิตผลงานรูปแบบอื่นได้อีก

ยกตัวอย่างเช่น ปัจจุบันอิ่งจือเริ่มมีส่วนร่วมในการวาดภาพพู่กันโบราณ และในอนาคตอาจขบคิดเรื่องการวาดภาพสีน้ำมันด้วยเช่นกัน

แน่นอนว่า

……

ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะขบคิดเรื่องเหล่านี้

หลินเยวียนทอดมองไปไกล

ไม่รู้ว่าเหล่าการ์ตูนจากปู้ลั่วที่หานจี้เหม่ยเชิญมาจะเลือกอย่างไร

พวกเขาจะตอบรับไหม?

ถ้าไม่ตอบรับก็ไม่เป็นไร เพราะปู้ลั่วมีนักเขียนการ์ตูนชื่อดังอีกหลายคน ถึงอย่างไรก็ต้องมีคนตอบรับสักคน

นี่คือคำพูดของหานจี้เหม่ย

เธอมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมกับการ์ตูนทั้งหกเรื่องนี้

……

ห้องโถง

ในห้องอันเงียบสงบ มีเพียงเสียงกระดาษของหน้าการ์ตูนที่พลิกไปพลิกมา

นักเขียนการ์ตูนจากเผ่าไม่ได้พูดคุยกันเลย ดูเหมือนพวกเขาจะจมอยู่กับการ์ตูนในมืออย่างเต็มที่

เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ

ไม่รู้ว่าตั้งเมื่อไหร่ที่สีหน้าของถังอี๋เริ่มเปลี่ยนไป

สายตาของเธอที่มองการ์ตูนเรื่องสาวน้อยเวทมนตร์มาโดกะเฉียบคมขึ้นเรื่อยๆ

ตึกตักๆ !

ถังอี๋รู้สึกได้ถึงเลือดที่ไหลเวียนเร็วขึ้น จนเธอแทบจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นเร็วขึ้นของตนเอง

หากในเวลานี้ถังอี๋เงยหน้าขึ้น เธอจะพบว่า

นักเขียนการ์ตูนคนอื่นๆ ในห้องต่างก็มีท่าทีที่ผิดแปลกไปเช่นกัน

หลางเกอถือเรื่องเทพมรณะอยู่ในมือ ปากอ้ากว้างด้วยความตกตะลึง

หลงหวังกำลังอ่านกันดับ ดวงตาเบิกกว้างจนกลมโต

ไป่หลี่ซึ่งกำลังกัดกระดาษเรื่องดิจิมอน ประหนึ่งกำลังหิวโหย

ส่วนชุ่นเฉ่าซินที่พลิกอ่านเซนต์เซยา แววตาเป็นประกายระยิบระยับ

แม้แต่ขวงเจี้ยนผู้เย็นชา ก็ยังถือฮันเตอร์xฮันเตอร์ไว้ในมือ ลมหายใจสั่นเครือด้วยความตื่นเต้น

นี่คือการ์ตูนที่ขวงเจี้ยนคิดว่าเหมาะกับตนเองที่สุดเท่าที่เคยอ่านมา!

แม้แต่นินจาจอมคาถาซึ่งเป็นผลงานของอิ่งจือที่ขวงเจี้ยนชื่นชอบมากที่สุด ขวงเจี้ยนก็ยังสามารถหาข้อบกพร่องของผลงานเรื่องนั้นได้

ขวงเจี้ยนเคยคิดว่าเป็นเรื่องปกติ

เพราะอิ่งจือต้องสร้างสรรค์ผลงานการ์ตูนหลายเรื่องพร้อมกัน เป็นไปไม่ได้ทำให้การ์ตูนทุกเรื่องออกมาสมบูรณ์แบบได้

นี่เป็นเรื่องปกติธรรมดามาก

จนกระทั่งเขาได้อ่านฮันเตอร์xฮันเตอร์แล้วถึงเข้าใจว่า อิ่งจือสามารถแตะถึงความสมบูรณ์แบบในผลงานเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้จริงๆ !

สำหรับขวงเจี้ยนแล้ว การ์ตูนเรื่องนี้ในมือของเขา คือผลงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดของอิ่งจือ!

โครงเรื่องเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ การพัฒนาของเรื่องราวเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงกันอย่างแยบยล มีความสมเหตุสมผล ไม่ทำให้รู้สึกถึงความขัดแย้งกันระหว่างต้นเรื่องและท้ายเรื่อง อ่านแล้วไม่มีบทที่ยืดยาวไร้ประโยชน์ ไม่ได้พยายามดึงดรามามากเกินไป ไม่มีการพูดใส่ร้ายหรือฝืนให้อภัยตัวร้ายอย่างไม่สมเหตุสมผล ตัวละครต่อสู้เมื่อถึงเวลาต้องต่อสู้ และพูดเมื่อถึงเวลาต้องพูด ทุกการกระทำของตัวละครล้วนมีเป้าหมายและทิศทางที่ชัดเจน…

แม้เรื่องราวหลังจากนี้จะเป็นเพียงคำบรรยายด้วยตัวหนังสือ แต่ขวงเจี้ยนก็สามารถจินตนาการถึงความตื่นเต้นระทึกใจในนั้นได้!

เขาชอบผลงานเรื่องนี้อย่างมาก!

‘ถ้าผลงานชิ้นนี้ให้ฉันเป็นคนวาด คงเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก!’

ขวงเจี้ยนอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงความเป็นไปได้

ในฐานะนักวาดที่มีฝีมือเก่งกาจที่สุดของฝั่งปู้ลั่ว ความฝันสูงสุดในชีวิตของขวงเจี้ยน คือการได้จับปากกาและวาดผลงานที่สามารถทำให้ตนเองมีความสุขที่สุด ทั้งยังทำให้ผู้อ่านรู้สึกประทับใจไปพร้อมกันได้

สำหรับขวงเจี้ยน ความสุขของตนเองนั้นสำคัญกว่าการเอาใจผู้อ่าน

เขาคิดว่าความสุขของผู้ผลิตผลงานคือสิ่งสำคัญที่สุด!

หากผู้ผลิตผลงานสูญเสียความสุขในการสร้างสรรค์ไป ต่อให้ผู้อ่านจะสนุกแค่ไหน ขวงเจี้ยนก็ไม่มีความสุข

แน่นอนว่าหากเป็นไปได้ ขวงเจี้ยนก็หวังว่าทุกคนจะมีความสุขกันถ้วนหน้า

แต่น่าเสียดายผลงานที่ตอบโจทย์ทั้งสองอย่างนี้กลับมีไม่มากนัก

ผลงานที่เขาเคยวาดในอดีต มักจะเป็นแบบที่เขาวาดด้วยความสุข แต่ผลตอบรับจากผู้อ่านกลับไม่ค่อยดีนัก

หรือไม่ก็เป็นผลงานที่ผู้อ่านชื่นชอบกันมาก แต่ตัวขวงเจี้ยนเองกลับไม่มีแรงจูงใจมากพอในการสร้างสรรค์ผลงาน ยิ่งทำไปนานเข้า จึงกลายเป็นคนที่ต้องยืดเวลาส่งงานบ่อยๆ จนต้องให้บรรณาธิการมาขอร้อง เขาถึงจะยอมกลับมาวาดต่อ

แต่ถึงอย่างไรเขาก็ต้องทำงานเพื่อเลี้ยงชีพอยู่ดี

และก็มีเพียงผลงานชิ้นนี้ฮันเตอร์xฮันเตอร์เท่านั้น!

ขวงเจี้ยนรู้สึกว่า ถ้าเขาได้วาดเรื่องนี้ด้วยตัวเอง มันคงจะทำให้เขารู้สึกสนุกสุดขีด และผู้อ่านก็คงจะพึงพอใจด้วย!

แต่ก็น่าเสียดาย…

นี่เป็นผลงานของอิ่งจือ

ทั้งบลูสตาร์มีเพียงเทพแห่งวงการการ์ตูนอย่างอิ่งจือเท่านั้น ที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานระดับนี้ออกมาได้

น่าเสียดายเหลือเกิน!

ขวงเจี้ยนรู้สึกปวดใจจริงๆ!

เขาถึงขั้นรู้สึกเสียใจที่มาที่นี่ ทรมานใจเสมือนมีสาวงามมาหาถึงบ้าน แต่เขากลับไม่ได้เชยชม!

ไม่สิ การเปรียบเทียบแบบนี้ไม่เหมาะสม

สาวงามเทียบกับการ์ตูนเรื่องไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!

ในเวลานี้

ขวงเจี้ยนไม่ใช่เพียงคนเดียว

นักเขียนการ์ตูนคนอื่นๆ ต่างก็มีความคิดคล้ายกันขณะที่ถือการ์ตูนอยู่ในมือ

สามารถสังเกตได้ชัดจากสีหน้าของแต่ละคน

……

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด