Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 822 เครื่องลายคราม
ตอนที่ 822 เครื่องลายคราม
หลังจากอยู่ที่สตูดิโอประมาณสองชั่วโมง หลินเยวียนจึงไปทานอาหารกลางวันที่บริษัท
หลังอาหาร
ทันทีที่เขาเข้ามาในห้องทำงาน ก็เห็นว่าบนโต๊ะมีใบชาเพิ่มขึ้นอีกหลายกล่อง ส่วนใหญ่เป็นชาขาวที่หลินเยวียนชอบมากในช่วงนี้
“คราวนี้ใครส่งมาครับ”
“ซุนเย่าหั่วค่ะ”
กู้ตงมองใบชาบนโต๊ะด้วยความหนักใจ “ตู้เก็บของในห้องทำงานใกล้จะเต็มแล้วนะคะ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันคงต้องเอาใบชาชั้นยอดมาทำไข่ต้มชาให้ตัวแทนหลินกินแล้วล่ะค่ะ”
เฮ้อ
ไม่รู้ว่าใครปล่อยข่าวว่าตัวแทนหลินชอบดื่มชามาก จนถึงขั้นกล้าเสี่ยงอันตรายไปปล้นใบชาจากประธานกรรมการ
ตอนนี้จึงกลายเป็นว่าใครที่อยากจะให้ของขวัญตัวแทนหลิน จึงไม่ได้สิ่งอื่นใด เพียงแต่เลือกสรรใบชาชั้นดีมา
“ง่ายมาก”
หลินเยวียนตอบโดยไม่ต้องคิด “เดี๋ยวเอาไปให้ลุงหยางกับน้าเจิ้งสักหน่อย พ่อของคุณก็ดื่มชาใช่ไหมครับ ส่งไปให้เขาสักสองสามกล่อง ส่วนหัวหน้าโจวไม่ต้องเอาไปให้ เขาจะมาเอาเองอยู่แล้ว”
“ได้ค่ะ”
กู้ตงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น “เรื่องที่ลู่เซิ่งจะปล่อยเพลงในเดือนพฤศจิกายนแล้วตัวแทนหลินรู้แล้วใช่ไหมคะ”
“รู้แล้วครับ”
หลินเยวียนพยักหน้า
กู้ตงแอบสังเกตสีหน้าของหลินเยวียน แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ
ทันใดนั้นเอง หลินเยวียนก็เงยหน้าขึ้น สบตากับกู้ตง
กู้ตงตกใจเล็กน้อย คิดว่าตนเองถูกจับได้ว่าแอบมอง แต่กลับได้ยินหลินเยวียนพูดว่า
“รุ่นพี่เย่าหั่วกลับไปหรือยังครับ?”
“น่าจะยังอยู่ในบริษัทนะคะ เมื่อกี้เขาเพิ่งไปแผนกศิลปิน”
“ช่วยเรียกเขามาที่นี่หน่อยครับ”
“ได้ค่ะ”
กู้ตงรีบพยักหน้าตอบรับ
ไม่นานนัก ซุนเย่าหั่วก็ปรากฏตัวในห้องทำงานของหลินเยวียน
“รุ่นน้อง ใบชาครั้งนี้ถูกปากไหม?”
“ก็ไม่เลวครับ แต่พี่ส่งมาเยอะไปหน่อย ผมดื่มไม่หมด ทางประธานก็ส่งมาให้เหมือนกัน รวมถึงคนอื่นๆ ในราชวงศ์ปลา และบางคนที่เคยร่วมงานกันในวงการด้วย…”
“เยอะขนาดนั้นเชียวเหรอ?”
ซุนเย่าหั่วเลิกคิ้วขึ้น
ทำไมตอนแรกฉันไม่คิดเปิดร้านขายใบชาไปเลยนะ
“เรื่องนี้เอาไว้ก่อนครับ เพลงที่ผมจะปล่อยในเดือนพฤศจิกานี้ อยากให้รุ่นพี่มาร้อง”
หลินเยวียนบอกเล่าถึงแผนการของเขาออกมาตามตรง
สำหรับภารกิจระบบของซุนเย่าหั่วที่ยังทำไม่สำเร็จ ตอนนี้ถึงเวลาที่จะต้องสะสางแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นในหมู่ราชวงศ์ปลาในปัจจุบัน คนที่เข้าใกล้ตำแหน่งราชาเพลงมากที่สุดก็คือซุนเย่าหั่ว
ไม่ว่าหลินเยวียนจะขบคิดอย่างไร ก็รู้สึกว่าควรช่วยรุ่นพี่ซุนเย่าหั่วให้ได้ตำแหน่งนี้ก่อน
พรึบ!
ซุนเย่าหั่วเงยหน้าขึ้นมองหลินเยวียนทันที!
คำพูดอันเรียบง่ายนี้ สำหรับซุนเย่าหั่วแล้วกลับชวนตกตะลึงประหนึ่งฟ้าผ่า!
ความตื่นเต้นที่ไม่ได้สัมผัสมานานทำให้หัวใจของซุนเย่าหั่วเต้นรัวราวกับเสียงกลอง เสียงของเขาสั่นเครือ
ถึงแม้ข่าวว่าลู่เซิ่งจะปล่อยเพลงในเดือนพฤศจิกายนนั้นเพิ่งแพร่ออกมาได้สั้นๆ เพียงครึ่งวันเท่านั้น
แต่ในตอนนี้ในทั้งห้าทวีป ใครที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตย่อมรู้ว่าว่าลู่เซิ่งพ่อเพลงระดับยอดพีระมิดของบลูสตาร์ จะเผยแพร่เพลงใหม่ในเดือนพฤศจิกายน นับประสาอะไรกับซุนเย่าหั่วซึ่งเป็นผู้สนับสนุนอันดับหนึ่งของราชวงศ์ปลาซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวของหลินเยวียนอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา!
เห็นได้ชัด
ว่าการจัดอันดับฤดูกาลเพลงในเดือนพฤศจิกายนจะเป็นการดวลกันแบบถึงพริกถึงขิงระหว่างลู่เซิ่งกับรุ่นน้อง ส่วนคนอื่นในชาร์ตก็คงได้แต่มองตาปริบๆ เท่านั้น!
นี่คือการต่อสู้ของเหล่าทวยเทพ
มนุษย์ธรรมดาไม่มีทางสอดมือเข้าไปได้
และเพลงแต่ละเพลงก็มีน้ำหนักไม่เท่ากัน!
เป้าหมายของรุ่นน้องคือการคว้าแชมป์สิบสองสมัย เดือนพฤศจิกายนจะสะดุดไม่ได้โดยเด็ดขาด ดังนั้นเพลงที่ปล่อยออกมาในเดือนนี้จะต้องเป็นเพลงที่เขาเชื่อว่าสามารถต่อกรกับลู่เซิ่งได้
เพลงที่รุ่นน้องจะนำออกมาดวลกับลู่เซิ่งจะเป็นเพลงคุณภาพแบบไหน
ซุนเย่าหั่วใช้แค่บั้นท้ายคิดยังรู้เลย!
คุณภาพของเพลงนี้อาจจะไม่ด้อยไปกว่าบทเพลงระดับมหาสงครามเทพเซียนในทุกๆ ปีด้วยซ้ำไป!
เพียงแต่…
เดิมทีเขาคิดว่าสถานการณ์สำคัญเช่นนี้ ถ้ารุ่นน้องไม่ร้องเอง ก็ให้เจียงขุยซึ่งคว้าตำแหน่งราชินีเพลงไปแล้วเป็นผู้ขับร้อง!
นึกไม่ถึงเลยว่ารุ่นน้องจะมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้กับเขา!
นี่คือเหตุผลที่ทำให้ซุนเย่าหั่วตื่นเต้นมากขนาดนี้
แต่ถึงอย่างนั้น สถานการณ์ครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งก่อนๆ หากไม่ใช่ด้วยเหตุผลนี้ เขาคงไม่ถึงกับเสียอาการ เพราะซุนเย่าหั่วเองก็ไม่ได้เพิ่งร้องเพลงของรุ่นน้องเป็นครั้งแรก
รุ่นน้องไว้ใจฉันมากเกินไปแล้ว!
นี่คือช่วงเวลาสำคัญของการคว้าแชมป์สิบสองสมัยเชียวนะ!
ถ้าชนะรอบนี้ รุ่นน้องจะคว้าตั๋วเข้าร่วมมหาสงครามเทพเซียนในทันที!
แต่ถ้าแพ้รอบนี้ ต่อให้เขาทำได้ดีแค่ไหนในมหาสงครามเทพเซียนก็เปล่าประโยชน์ เพราะเป้าหมายการคว้าแชมป์สิบสองสมัยได้ล้มเหลวไปแล้ว…
“ใช่แล้ว”
หลินเยวียนไม่ได้ล่วงรู้ความคิดของซุนเย่าหั่ว เพียงแต่หยิบโน้ตเพลงที่เตรียมไว้เรียบร้อยออกมา
“เครื่องลายคราม?”
ซุนเย่าหั่วสายตาดี มองปราดเดียวก็เห็นชื่อเพลง!
“อื้ม”
หลินเยวียนพยักหน้า
เพลงที่เขาเตรียมไว้เพื่อประชันกับลู่เซิ่งในการจัดอันดับเพลงประจำฤดูกาลเดือนพฤศจิกายนก็คือเพลง ‘เครื่องลายคราม’ !
เพลงนี้เจ๋งแค่ไหนน่ะหรือ?
ในโลกเดิม
เพลงนี้ไม่ได้เพียงแค่ขึ้นแสดงในฉลองคืนเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ และกลายเป็นการแสดงซึ่งผู้คนจดจำได้มากที่สุดของงานในปีนั้น ขณะเดียวกันยังกวาดรางวัลสาขาบทเพลงยอดเยี่ยม รางวัลสาขาเนื้อเพลงยอดเยี่ยม รางวัลแต่งเพลงยอดเยี่ยม และรางวัลใหญ่อีกหลากหลายสาขาในวงการเพลง นอกจากนี้ยังเคยปรากฏในข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกหลายครั้ง
อิทธิพลทางสังคมของเพลงนี้เรียกได้ว่าน่ากลัวมาก!
แม้แต่สำหรับประธานโจวมีผลงานคุณภาพสูงมากมาย ในบรรดาผลงานทั้งหมดของเขา เพลงนี้ก็นับว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่ติดอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว!
ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของความแพร่หลายหรือความเป็นมืออาชีพ เพลงนี้ล้วนจัดมาให้อย่างเต็มที่!
เมื่อพูดถึงเพลงของประธานโจว เพลงนี้คือผลงานที่ไม่พูดถึงไม่ได้
แม้แต่เพลงลมบูรพาร้าวรานซึ่งบุกเบิกเส้นทางของแนวเพลงสไตล์จีน ก็ยังไม่อาจเทียบเคียงกับเพลงนี้ได้ในแง่ของความโด่งดัง
จะว่าไปแล้ว
อันที่จริงสไตล์ของซุนเย่าหั่วอาจไม่เข้ากับเพลงนี้เท่าไหร่นัก
หากจะเลือกนักร้องที่เหมาะสมที่สุด คนที่ควรร้องเพลงนี้น่าจะเป็นหลินเยวียนเองมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ขณะที่หลินเยวียนศึกษาไอเทมจากระบบ เขาก็ไปพบของดีชิ้นหนึ่งเข้า
เป็นไอเทมลิมิติดอิดิชันซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถของนักร้องให้แข็งแกร่งขึ้น
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของมันคือ แพง!
แพงถึงขนาดที่ทำให้หลินเยวียนผู้ร่ำรวยมหาศาลอยู่แล้ว ต้องสูดลมหายใจเย็นเฉียบเข้าลึกๆ และที่สำคัญคือมีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น ในอนาคตระบบอาจจะไม่จัดหามาให้ง่ายๆ อีก
แต่เมื่อต้องใช้กับซุนเย่าหั่วซึ่งไม่ใช่คนอื่นคนไกล
หลินเยวียนจึงยังกัดฟันซื้อจนได้ แม้จะปวดใจก็ตาม
เมื่อมีไอเทมชิ้นนี้แล้ว ซุนเย่าหั่วก็จะสามารถรับมือกับเพลงเครื่องลายครามได้อย่างแน่นอน
เมื่อคิดถึงตรงนี้
หลินเยวียนพูดขึ้น “ยังไม่ได้ทำเพลงเดโม ผมจะร้องสดให้ฟังคร่าวๆ แล้วกันครับ พี่ลองฟังดู”
พูดจบ
หลินเยวียนจึงเริ่มร้องเพลงเครื่องลายครามด้วยทำนองเรียบง่าย
“ตวัดเส้นพลิ้วไหวขึ้นลายครามปลายพู่กันหนักผ่อนเบา…”
เพียงแค่ประโยคแรก ดวงตาของซุนเย่าหั่วก็เบิกตากว้าง!
และเมื่อทำนองเพลงดังต่อไปเรื่อย ๆ ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นอย่างเปี่ยมล้น!
ตื่นเต้น!
ตื่นตัว!
ในฐานะนักร้องมืออาชีพ ซุนเย่าหั่วสามารถฟังออกได้ทันทีว่าเพลงนี้น่าสะพรึงกลัวเพียงใด สไตล์เพลงซึ่งหาได้ยากเช่นนี้ช่างคล้ายกับเพลงลมบูรพาร้าวรานของรุ่นน้อง ที่ทำให้วงการสั่นสะเทือนเมื่อปลายปีที่แล้ว อีกทั้งในบางแง่มุม เพลงนี้ถึงขั้นยังพัฒนาล้ำหน้าไปไกลกว่าเดิมด้วยซ้ำไป!
ถึงอย่างนั้น
เมื่อหลินเยวียนร้องจบท่อนคอรัสแรก จู่ๆ ซุนเย่าหั่วก็เหมือนนึกอะไรบางอย่างออก ทันใดนั้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความลังเลและว้าวุ่น!
แววตาของซุนเย่าหั่วปรากฏความลังเล
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
หลินเยวียนสังเกตเห็นท่าทีที่ผิดปกติของซุนเย่าหั่ว
อารมณ์อันซับซ้อนฉายบนใบหน้าของซุนเย่าหั่ว ท้ายที่สุดเขาก็พยายามข่มกลั้นความตื่นเต้นนั้นไว้ ปรับอารมณ์ของตนเอง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำและแหบแห้ง
“รุ่นน้อง นายช่วยตอบคำถามฉันหน่อยได้ไหม?”
“ครับ”
“ฉันคือคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเพลงนี้จริงๆ ใช่ไหม?”
“…”
หลินเยวียนไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่แอบใช้ไอเทมต่างๆ ที่เขาซื้อจากระบบ กับซุนเย่าหั่วอย่างเงียบเชียบ
“รุ่นน้อง… ฉันไม่เหมาะกับเพลงนี้ นายร้องเองเถอะ”
ซุนเย่าหั่วไม่ได้ตระหนักถึงการกระทำของหลินเยวียน เขาพูดด้วยความลำบากใจ ราวกับว่าเขาใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อพูดประโยคนี้ออกมา
ซุนเย่าหั่วรู้ดี
ว่าการพูดประโยคนี้ออกไป หมายความว่าเขาได้ตัดสินใจละทิ้งเพลงซึ่งอาจจะเป็นเพลงที่ดีที่สุดที่เขาอาจได้รับในชีวิตนี้
ซุนเย่าหั่วฟังออกแล้วว่า เพลงนี้อาจจะเป็นหนึ่งในเพลงที่ดีที่สุดในบรรดาผลงานทั้งหมดของหลินเยวียนในตอนนี้
แม้ว่าตนเองจะสามารถร้องเพลงนี้ได้ไม่เลว
แต่ถ้าถามว่าใครจะร้องเพลงนี้ได้ดีที่สุดและสามารถถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด คนคนนั้นควรจะเป็นรุ่นน้องเอง
เดือนพฤศจิกายนมีความสำคัญมาก ไม่มีพื้นที่สำหรับเกิดข้อผิดพลาดแม้แต่น้อย
หากเกิดปัญหาขึ้นเพราะตนเอง ซุนเย่าหั่วอาจจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงยอมที่จะสละสิทธิ์เพลงนี้
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ไม่ว่าจะรู้สึกเสียใจและผิดหวังแค่ไหน เขาก็ทำได้เพียงกัดฟันทนกลืนมันลงไป
หลินเยวียนพูดทีละคำอย่างหนักแน่น “รุ่นพี่คือคนที่เหมาะสม”
ก่อนหน้านี้จะเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดหรือไม่ ก็ไม่สำคัญ
เพราะตอนนี้เขาคือคนที่เหมาะสม
พูดจบ หลินเยวียนก็ยื่นโน้ตเพลงให้ซุนเย่าหั่ว
“ลองดูครับ”
“รุ่นน้อง ฉัน…”
ฉันไม่ใช่คนที่เหมาะสมที่สุด ทำไมนายต้องช่วยฉันขนาดนี้ด้วย
ซุนเย่าหั่วรับโน้ตเพลงด้วยสองมือ อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายคำพูดมากมายกลับถูกกลืนลงคอไป
เขาสูดหายใจเข้าลึก
ปรับอารมณ์ของตัวเอง จากนั้นก็เคลียร์เสียง แล้วจึงลองร้องท่อนแรกด้วยท่าทีที่จริงจังที่สุด
หืม?
ทันทีที่ร้องท่อนแรกออกมา ซุนเย่าหั่วสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างขึ้นมาทันใด ราวกับว่าเขาควบคุมเสียงของตัวเองได้ตามต้องการมากขึ้น
ความตื่นเต้นในใจก็เริ่มเอ่อล้นอย่างไม่อาจอธิบายได้
เขาร้องตามทำนองเพลงที่อยู่ในโน้ตเพลงต่อไป
แม้ว่าจะมีติดขัดเล็กน้อยเพราะยังไม่คุ้นชินกับทำนอง แต่ความรู้สึกตื่นเต้นของเขากลับเพิ่มมากขึ้น หัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ!
ดูเหมือนว่า เขาจะร้องเพลงนี้ได้จริงๆ !
นอกจากนั้น ระดับการร้องของเขาคล้ายกับพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด!
หรือว่าความกดดันทำให้เขาทะลุขีดจำกัด!?
แต่เดิมซุนเย่าหั่วไม่ได้คาดหวังอะไร แต่ตอนนี้เขากลับมองเห็นแสงแห่งความหวัง!
ประจวบเหมาะกับที่ซุนเย่าหั่วช่วงนี้เพิ่งอ่านนิยายแนวแฟนตาซีมา
ตัวเอกในนั้นมักจะทะลุขีดจำกัดภายใต้ความกดดัน สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เขารู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น เขาร้องได้อย่างลื่นไหลขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งจบท่อนคอรัสแรกถึงได้หยุดลงอย่างไม่เต็มใจนัก!
“ไม่เลว”
หลินเยวียนเอ่ยชมเชย
ระดับของซุนเย่าหั่วตอนนี้ ถ้าได้พัฒนาต่อไปให้ดี คาดว่าน่าจะไม่ด้อยไปกว่าระดับของราชาเพลงอย่างเฟ่ยหยางเลย!
ซุนเย่าหั่วเองก็ไม่ทันได้สังเกต เขารู้เพียงว่าตัวเองก้าวขึ้นไปอีกระดับแล้ว
ทว่าหลินเยวียนกลับไม่ตกใจกับพลังของไอเทมจากระบบ
ในเมื่อระบบสามารถทำให้สุนัขกลายเป็นนักแสดงมืออาชีพได้ การทำให้ซุนเย่าหั่วกลายเป็นราชาเพลงตัวจริงก็ไม่ใช่เรื่องยาก?
ถึงแม้ราคาของมันจะแพงจนเหลือเชื่อก็ตาม
ช่างเถอะๆ รุ่นพี่เย่าหั่วพูดไว้ดี เงินทองเป็นของนอกกาย…
หลี่ไป๋ก็เคยกล่าวไว้
“ทองพันตำลึงแม้ใช้หมดยังหาใหม่ได้!”
รุ่นพี่เย่าหั่วมีสไตล์เหมือนกับชิงเหลียนจวีซื่อ[1]!
เขาเองควรเรียนรู้จากพี่ใหญ่เย่าหั่วให้มาก!
จริงสิ รุ่นพี่เย่าหั่วได้เป็นราชาเพลงเมื่อไหร่ ตนเองยังจะได้รางวัลอีกด้วย!
หลินเยวียนพยายามตะบี้ตะบันให้กำลังใจตัวเอง
หลังจากโน้มน้าวตัวเองอยู่สักพักก็ไม่รู้สึกเจ็บใจมากนัก
“รุ่นน้อง เหมือนฉันจะทำได้!”
ซุนเย่าหั่วไม่สามารถเก็บซ่อนความตื่นเต้นในใจได้อีกต่อไป เขาตะโกนลั่น!
หลินเยวียนคลี่ยิ้มอย่างปลื้มใจ “งั้นพี่กลับไปฝึกให้เต็มที่นะครับ ฝึกเสร็จแล้ว เราจะอัดเพลงกัน”
“ได้เลย!”
ซุนเย่าหั่วออกจากห้องทำงานไป ทันทีที่เดินออกจากประตูห้อง เขาก็กอดโน้ตเพลงและจูบมันเต็มแรง!
ขวับๆๆ
ข้างนอกเป็นออฟฟิศ นักประพันธ์เพลงหลายคนต่างหันมามองพฤติกรรมที่ซุนเย่าหั่วจูบโน้ตเพลงด้วยสีหน้าแปลกพิลึก
คนคนนี้ดูแปลกๆ นะ…
รองหัวหน้าอู๋หย่งซึ่งเดินผ่านมาเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “อาจารย์ซุน นี่คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
“เดือนพฤศจิกา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผม!”
ซุนเย่าหั่วหัวเราะลั่น พลางพูดกับอู๋หย่ง จากนั้น จึงเดินออกจากออฟฟิศไปอย่างมีความสุข ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน
ที่แปลกก็คือ…
ในขณะนั้น ซุนเย่าหั่วไม่ได้ขบคิดถึงเรื่องของเพลงหรือความก้าวหน้าในการร้องเพลงของตนเอง แต่กลับคิดเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกันอย่างสิ้นเชิง
‘ตู้ในห้องทำงานของรุ่นน้องดูเหมือนจะไม่ใช่ไม้เกรดสูงสุด แถมพื้นที่ก็ไม่พอ เหมือนว่าจะใส่ของไม่พออีก เดี๋ยวคงต้องหาตู้ใหม่ที่ใหญ่กว่านี้มาเปลี่ยนให้เขา’
ความคิดนี้ผุดขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับกลายเป็นสัญชาตญาณไปแล้ว
[1] ชิงเหลียนจวีซื่อ สมญานามของหลี่ไป๋ ยอดกวีสมัยราชวงศ์ถัง
Comments