Genius Doctor Black Belly Miss 2006 หมีวิญญาณ (3)

Now you are reading Genius Doctor Black Belly Miss Chapter 2006 หมีวิญญาณ (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2006 หมีวิญญาณ (3)
“ขนของหมีวิญญาณจะมีเงาสีทอง หมีสีน้ำตาลข้างหลังพวกเจ้ามีไหมล่ะ? แล้วบนหน้าอกมันมีเครื่องหมายวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อยู่รึเปล่า?” เจียงอวิ๋นหลงกล่าวอย่างสงบ
วิญญาณสัตว์อสูรที่ยืนตกใจอยู่ด้านข้างพากันหันไปมองจงจง สายตาหลายคู่มองหาร่องรอยของหมีวิญญาณบนตัวจงจง แต่น่าเสียดาย ตรงหน้าพวกมัน พวกมันเห็นแค่หมีสีน้ำตาลธรรมดาเท่านั้น ไม่มีอะไรที่แสดงถึงความพิเศษในตัวมันเลยสักนิด
แรดตัวนั้นไม่หวั่นไหวไปกับคำพูดพวกนั้น มันยืนจ้องเจียงอวิ๋นหลงเขม็ง
“เจ้าไม่ต้องพูดให้สับสน ถ้ามันเป็นแค่หมีสีน้ำตาลธรรมดา ทำไมศิษย์เอกของวิญญาจารย์อูจิ่วต้องออกมาเองถึงที่นี่ด้วย?”
เจียงอวิ๋นหลงไม่สะเทือนเลยแม้แต่น้อย เขากล่าวว่า “หมีสีน้ำตาลตัวนี้ทำร้ายศิษย์น้องของข้าบาดเจ็บ มันดุร้ายเลี้ยงไม่เชื่อง ที่ข้ามาถึงที่นี่ก็แค่มาจับมันไปขังเพื่อป้องกันไม่ให้มันทำร้ายคนบริสุทธิ์อีก”
“พูดจาเหลวไหล!” ถึงอย่างไร เจ้าแรดก็เป็นวิญญาณสัตว์อสูร ด้านสงครามทางวาจาแล้ว พวกมันย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของวิญญาณมนุษย์
“ข้าพูดเหลวไหล? ข้ารู้ว่าวิญญาณสัตว์อสูรสามัคคีกลมเกลียวกันดี แต่ข้าแน่ใจว่าพวกเจ้าทุกตัวรู้ดีว่าแม้ว่าวิญญาณสัตว์อสูรจะแข็งแกร่ง แต่จิตใจยังไม่พัฒนาอย่างเต็มที่ ยังคงมีสัญชาตญาณของสัตว์ร้ายอยู่ วิญญาณสัตว์อสูรเช่นนี้ อย่าว่าแต่ข้าเลย แม้แต่มังกรเพลิงหัวหน้าใหญ่ของพวกเจ้าก็ต้องควบคุมมัน ไม่ปล่อยให้ธรรมชาติที่ดุร้ายของมันออกอาละวาดได้ ดังนั้น การที่ข้ามาที่นี่มันผิดตรงไหนล่ะ?” เจียงอวิ๋นหลงไม่แสดงอาการประหม่าหรือกังวลเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากการเผชิญหน้ากับวิญญาณสัตว์อสูรที่เพิ่งจะเรียนรู้ความคิดและคำพูดที่ซับซ้อนหลังจากอยู่ในร่างวิญญาณ ในเรื่องการโต้เถียงกันนั้น พวกมันจะเป็นฝ่ายแพ้เสมอ
แรดตัวนั้นถูกคำพูดของเจียงอวิ๋นหลงโจมตีจนนิ่งงัน สิ่งที่เจียงอวิ๋นหลงพูดเป็นความจริง วิญญาณสัตว์อสูรที่จิตใจยังไม่พัฒนาไม่เหมาะจะปล่อยให้ท่องไปอย่างอิสระในโลกวิญญาณ แต่มันรู้แก่ใจดีว่าจงจงไม่ใช่แค่วิญญาณสัตว์อสูรธรรมดา เนื่องจากมันขาดทักษะในการพูด มันจึงไม่สามารถแสดงความคิดของมันออกมาได้อย่างชัดเจน และทำได้แค่พ่นลมออกทางจมูกอย่างหงุดหงิดและร้อนใจในสถานการณ์
เจียงอวิ๋นหลงเห็นความหงุดหงิดและร้อนใจของแรดตัวนั้น เขาย่อมรู้ว่าเขาควรจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไร
ในโลกวิญญาณมีวิญญาณสัตว์อสูรอยู่เป็นจำนวนมาก และพวกมันมีความสามัคคีกันสูงมาก ถ้าพวกมันรู้ตัวจริงของหมีสีน้ำตาลตัวนั้น พวกมันจะรวมกลุ่มกันโจมตีอย่างแน่นอน แม้แต่เขาก็ไม่สามารถต้านทานการจู่โจมจากวิญญาณสัตว์อสูรจำนวนมากได้ แต่เจียงอวิ๋นหลงบิดเบือนตัวตนของจงจงแบบเจ้าเล่ห์ ทำให้เหล่าวิญญาณสัตว์อสูรไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
“ถ้าสิ่งที่ข้าพูดไม่ถูกต้อง เจ้าก็บอกให้หมีสีน้ำตาลตัวนั้นพูดอธิบายตัวเองสิ ถ้ามันสามารถอธิบายได้อย่างชัดเจน ข้าก็จะขอโทษและยอมรับความผิดพลาด และจะปล่อยพวกเจ้าไป”Aileen-novel
เจียงอวิ๋นหลงพูดอย่างใจกว้าง แต่ดวงตาส่องประกายชั่วร้ายลึกล้ำทำให้คนเย็นวาบไปทั้งหลัง
แรดตัวนั้นและวิญญาณสัตว์อสูรตัวอื่นยิ่งวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ จงจงที่ถูกพวกมันปกป้องก็เริ่มกระสับกระส่ายมากขึ้น มันกระทืบเท้าไม่หยุดพร้อมกับอ้าปากเหมือนพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สิ่งที่ออกจากปากมันก็มีแค่เสียงคำรามเท่านั้น
มันไม่สามารถพูดได้แม้แต่คำเดียว
วิญญาณสัตว์อสูรที่ไม่สามารถพูดได้คือพวกที่จิตใจยังไม่พัฒนา พวกมันยังมีสัญชาตญาณของสัตว์เดรัจฉานอยู่
ปฏิกิริยาของจงจงทำได้แค่สนับสนุนคำพูดของเจียงอวิ๋นหลง ทำให้วิญญาณสัตว์อสูรตัวอื่นที่ยังลังเลยิ่งไม่เชื่อว่าจงจงคือหมีวิญญาณ
ผู้นำวิญญาณของพวกมันจะเป็นหมีสีน้ำตาลที่พูดไม่ได้เลยแม้แต่คำเดียวได้ยังไง?
เจียงอวิ๋นหลงรู้ว่าเขาบรรลุผลลัพธ์ที่ต้องการแล้ว จึงไม่เสียเวลาเถียงกับพวกแรดตัวนั้นอีก เขาโบกมือเป็นสัญญาณ แล้วพวกวิญญาณมนุษย์ที่แตกกระจายไปจากการพุ่งเข้าใส่ของพวกวิญญาณสัตว์อสูรก็เข้ามาล้อมเจ้าแรด, จงจง, และวิญญาณสัตว์อสูรตัวอื่นอีกครั้ง
พวกวิญญาณสัตว์อสูรไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องบีบวงล้อมป้องกันลง และปกป้องจงจงเอาไว้ตรงกลาง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Genius Doctor Black Belly Miss 2006 หมีวิญญาณ (3)

Now you are reading Genius Doctor Black Belly Miss Chapter 2006 หมีวิญญาณ (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2006 หมีวิญญาณ (3)
“ขนของหมีวิญญาณจะมีเงาสีทอง หมีสีน้ำตาลข้างหลังพวกเจ้ามีไหมล่ะ? แล้วบนหน้าอกมันมีเครื่องหมายวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อยู่รึเปล่า?” เจียงอวิ๋นหลงกล่าวอย่างสงบ
วิญญาณสัตว์อสูรที่ยืนตกใจอยู่ด้านข้างพากันหันไปมองจงจง สายตาหลายคู่มองหาร่องรอยของหมีวิญญาณบนตัวจงจง แต่น่าเสียดาย ตรงหน้าพวกมัน พวกมันเห็นแค่หมีสีน้ำตาลธรรมดาเท่านั้น ไม่มีอะไรที่แสดงถึงความพิเศษในตัวมันเลยสักนิด
แรดตัวนั้นไม่หวั่นไหวไปกับคำพูดพวกนั้น มันยืนจ้องเจียงอวิ๋นหลงเขม็ง
“เจ้าไม่ต้องพูดให้สับสน ถ้ามันเป็นแค่หมีสีน้ำตาลธรรมดา ทำไมศิษย์เอกของวิญญาจารย์อูจิ่วต้องออกมาเองถึงที่นี่ด้วย?”
เจียงอวิ๋นหลงไม่สะเทือนเลยแม้แต่น้อย เขากล่าวว่า “หมีสีน้ำตาลตัวนี้ทำร้ายศิษย์น้องของข้าบาดเจ็บ มันดุร้ายเลี้ยงไม่เชื่อง ที่ข้ามาถึงที่นี่ก็แค่มาจับมันไปขังเพื่อป้องกันไม่ให้มันทำร้ายคนบริสุทธิ์อีก”
“พูดจาเหลวไหล!” ถึงอย่างไร เจ้าแรดก็เป็นวิญญาณสัตว์อสูร ด้านสงครามทางวาจาแล้ว พวกมันย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของวิญญาณมนุษย์
“ข้าพูดเหลวไหล? ข้ารู้ว่าวิญญาณสัตว์อสูรสามัคคีกลมเกลียวกันดี แต่ข้าแน่ใจว่าพวกเจ้าทุกตัวรู้ดีว่าแม้ว่าวิญญาณสัตว์อสูรจะแข็งแกร่ง แต่จิตใจยังไม่พัฒนาอย่างเต็มที่ ยังคงมีสัญชาตญาณของสัตว์ร้ายอยู่ วิญญาณสัตว์อสูรเช่นนี้ อย่าว่าแต่ข้าเลย แม้แต่มังกรเพลิงหัวหน้าใหญ่ของพวกเจ้าก็ต้องควบคุมมัน ไม่ปล่อยให้ธรรมชาติที่ดุร้ายของมันออกอาละวาดได้ ดังนั้น การที่ข้ามาที่นี่มันผิดตรงไหนล่ะ?” เจียงอวิ๋นหลงไม่แสดงอาการประหม่าหรือกังวลเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากการเผชิญหน้ากับวิญญาณสัตว์อสูรที่เพิ่งจะเรียนรู้ความคิดและคำพูดที่ซับซ้อนหลังจากอยู่ในร่างวิญญาณ ในเรื่องการโต้เถียงกันนั้น พวกมันจะเป็นฝ่ายแพ้เสมอ
แรดตัวนั้นถูกคำพูดของเจียงอวิ๋นหลงโจมตีจนนิ่งงัน สิ่งที่เจียงอวิ๋นหลงพูดเป็นความจริง วิญญาณสัตว์อสูรที่จิตใจยังไม่พัฒนาไม่เหมาะจะปล่อยให้ท่องไปอย่างอิสระในโลกวิญญาณ แต่มันรู้แก่ใจดีว่าจงจงไม่ใช่แค่วิญญาณสัตว์อสูรธรรมดา เนื่องจากมันขาดทักษะในการพูด มันจึงไม่สามารถแสดงความคิดของมันออกมาได้อย่างชัดเจน และทำได้แค่พ่นลมออกทางจมูกอย่างหงุดหงิดและร้อนใจในสถานการณ์
เจียงอวิ๋นหลงเห็นความหงุดหงิดและร้อนใจของแรดตัวนั้น เขาย่อมรู้ว่าเขาควรจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไร
ในโลกวิญญาณมีวิญญาณสัตว์อสูรอยู่เป็นจำนวนมาก และพวกมันมีความสามัคคีกันสูงมาก ถ้าพวกมันรู้ตัวจริงของหมีสีน้ำตาลตัวนั้น พวกมันจะรวมกลุ่มกันโจมตีอย่างแน่นอน แม้แต่เขาก็ไม่สามารถต้านทานการจู่โจมจากวิญญาณสัตว์อสูรจำนวนมากได้ แต่เจียงอวิ๋นหลงบิดเบือนตัวตนของจงจงแบบเจ้าเล่ห์ ทำให้เหล่าวิญญาณสัตว์อสูรไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
“ถ้าสิ่งที่ข้าพูดไม่ถูกต้อง เจ้าก็บอกให้หมีสีน้ำตาลตัวนั้นพูดอธิบายตัวเองสิ ถ้ามันสามารถอธิบายได้อย่างชัดเจน ข้าก็จะขอโทษและยอมรับความผิดพลาด และจะปล่อยพวกเจ้าไป”Aileen-novel
เจียงอวิ๋นหลงพูดอย่างใจกว้าง แต่ดวงตาส่องประกายชั่วร้ายลึกล้ำทำให้คนเย็นวาบไปทั้งหลัง
แรดตัวนั้นและวิญญาณสัตว์อสูรตัวอื่นยิ่งวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ จงจงที่ถูกพวกมันปกป้องก็เริ่มกระสับกระส่ายมากขึ้น มันกระทืบเท้าไม่หยุดพร้อมกับอ้าปากเหมือนพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สิ่งที่ออกจากปากมันก็มีแค่เสียงคำรามเท่านั้น
มันไม่สามารถพูดได้แม้แต่คำเดียว
วิญญาณสัตว์อสูรที่ไม่สามารถพูดได้คือพวกที่จิตใจยังไม่พัฒนา พวกมันยังมีสัญชาตญาณของสัตว์เดรัจฉานอยู่
ปฏิกิริยาของจงจงทำได้แค่สนับสนุนคำพูดของเจียงอวิ๋นหลง ทำให้วิญญาณสัตว์อสูรตัวอื่นที่ยังลังเลยิ่งไม่เชื่อว่าจงจงคือหมีวิญญาณ
ผู้นำวิญญาณของพวกมันจะเป็นหมีสีน้ำตาลที่พูดไม่ได้เลยแม้แต่คำเดียวได้ยังไง?
เจียงอวิ๋นหลงรู้ว่าเขาบรรลุผลลัพธ์ที่ต้องการแล้ว จึงไม่เสียเวลาเถียงกับพวกแรดตัวนั้นอีก เขาโบกมือเป็นสัญญาณ แล้วพวกวิญญาณมนุษย์ที่แตกกระจายไปจากการพุ่งเข้าใส่ของพวกวิญญาณสัตว์อสูรก็เข้ามาล้อมเจ้าแรด, จงจง, และวิญญาณสัตว์อสูรตัวอื่นอีกครั้ง
พวกวิญญาณสัตว์อสูรไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องบีบวงล้อมป้องกันลง และปกป้องจงจงเอาไว้ตรงกลาง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+