Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตาบทที่ 135 การฝึกของกองพันไร้พ่าย! (2)

Now you are reading Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา Chapter บทที่ 135 การฝึกของกองพันไร้พ่าย! (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

โจวเหว่ยชิงพยักหน้าเห็นด้วยทันทีและกล่าวว่า “ไม่มีปัญหา เรา จะมอบทุกอย่างให้ท่านทันทีที่ได้รับเงิน อย่างไรก็ตาม ม้า คันธนูและโล่ พวกเราจะขอเก็บเอาไว้ ขอโทษด้วยนะผู้บัญชาการกรมทหารเซินปู้ อย่างที่ท่านทราบ เราขาด แคลนอาหารมาก พี่น้องของข้าจึงกินม้า เหล่านั้นไปแล้ว พวกเขาเอาโล่และคันธนูไปเล่นสนุกกันด้วย ดังนั้นข้า จึงไม่สามารถคืนมันให้ท่านได้ อย่างที่ทราบกันดีว่านักเลงพวกนี้ไม่ฟัง คําสั่งใครมากนัก…แต่อย่างน้อยชุดเกราะหนักนี้ก็น่าจะไม่มีปัญหา”

กล้ามเนื้อตาของเซินปู้กระตุกอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเผชิญหน้ากับ รอยยิ้มอันไร้เดียงสาของโจวเหว่ยชิง เธอก็รู้สึกอยากจะตบเขาและทุบ ตีอีกฝ่ายจนตาย อย่างไรก็ตาม เซินปู้จะสามารถทําอะไรแบบนั้นได้ จริงๆ น่ะหรือ? ไม่มีทาง!

ในวันนั้น หลังพวกเขาจากไปแล้ว เซินจี้ก็ไม่ได้บอกคนอื่นว่าเกิด อะไรขึ้น แต่เขาไม่ได้ปกปิดความลับกับศิษย์น้องคนเล็กของเขา เรื่องที่ ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์มาจากวังสวรรค์ไพศาลทําให้พวกเขาตกใจเป็นอย่าง มาก แม้ว่าเซินจี้จะมีทั้งตําแหน่งและอํานาจในกองทัพ แต่เขาก็ไม่มี อะไรไปสู้วังสวรรค์ไพศาลได้ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงคิดว่าทั้งโจวเหว่ยชิง และ ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์น่าจะมาจากที่เดียวกัน ไม่เช่นนั้นด้วยอายุของ

พวกเขา ระดับพลังปราณของทั้งคู่จะสูงส่งและมีพลังมหาศาลได้ อย่างไร?

ทันทีที่คิดถึงวังสวรรค์ไพศาล ทั้งคู่ก็ตระหนักว่าอีกฝ่ายต้องมาที่นี่ ด้วยภารกิจลับ และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็จะต้องอดทนอด กลั้นเอาไว้ เซินจี้ได้สั่งห้ามหญิงสาวอย่างรุนแรงว่าอย่ารบกวนกองพัน นักเลงอีก นอกจากนี้ หากโจวเหว่ยชิงและซ่างกวนเฟยเอ๋อร์มีคําขอใดๆ ก็ให้ช่วยเหลือพวกเขาโดยไม่ลังเล

สําหรับสมาชิกวังสวรรค์ไพศาล การที่พวกเขาถึงขั้นมาปรากฏตัว ที่นี่ มันต้องเป็นปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน เซินจี้ได้รายงานเรื่องนี้ต่อพ่อ ทูนหัว/อาจารย์ของพวกเขาและได้รับคําสั่งให้ปิดข่าว อย่าให้ใครรู้เรื่อง นี้อีก

ถึงอย่างไร 5 มหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์…หรือเรียกให้ถูกกว่านั้นก็คือ มหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 ยกเว้นนิกายปีศาจสวรรค์เคยมีข้อตกลงว่า จะไม่มีใครเข้าไปยุ่งในสงครามธรรมดาเพราะจะทําให้ทั้งทวีปเข้าสู่ หายนะครั้งใหญ่ที่สามารถทําลายล้างชีวิตของทุกคนได้ เมื่อมาถึงจุดนี้ หากสมาชิกของวังสวรรค์ไพศาลมาที่นี่อย่างลับๆ และภูเขาหิมะสวรรค์ รู้เรื่องจนลงมือก็อาจลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้! ดังนั้นไม่ว่าจะเป็น อย่างไร พวกเขาก็ต้องปกปิดความลับนี้ให้มิดชิดที่สุด ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้ อาจไม่จบลงด้วยดีก็เป็นได้

“เอาล่ะ เจ้าต้องการเท่าไหร่?” เซินปู้กล่าวอย่างเคร่งขรึม

โจวเหว่ยชิงกล่าวด้วยสีหน้าเขินอาย “ข้าเสียใจด้วยที่ผู้บัญชาการ กรมทหารเซินปู้ต้องจ่ายเงินทั้งหมด ท่านมาถึงที่นี่ด้วยตัวเองขนาดนี้ แล้ว ข้าคงอับอายหากร้องขอมากเกินไป ทั้งหมด 30,000 เหรียญทอง หรือก็คือ 300 เหรียญทองสําหรับชุดเกราะทหารม้าหนัก 1 ชุด ท่านดูสิ ถูกมากใช่ไหม? นั่นเป็นราคาที่สมเหตุสมผลอย่างแน่นอน”

300 เหรียญทองต่อเกราะทหารม้าหนัก 1 ชุดนั้นเป็นราคาที่ถูก มาก แต่ปัญหาคือนั่นเป็นชุดเกราะจากกรมทหารของเธอเอง! เมื่อต้อง จ่ายเงินอีกครั้ง เซินปู้ก็รู้สึกเดือดดาลเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม เธอทําได้เพียงแค่อดทนอดกลั้นและหยิบเหรียญ ทอง 30,000 เหรียญส่งมอบให้กับโจวเหว่ยชิง ผู้ซึ่งออกคําสั่งให้คนของ เขานําชุดเกราะทหารม้าหนัก 100 ชุดออกมาทันที เด็กหนุ่มเตรียมชุด เกราะไว้ก่อนหน้านี้แล้วเพราะคาดหวังว่าเซินปู้จะต้องมาที่นี่เพื่อส่ง ทองคําให้อย่างแน่นอน

สําหรับเงิน 30,000 เหรียญทอง โจวเหว่ยชิงไม่ได้เก็บไว้และแบ่ง ให้กับทหารกองพันไร้พ่ายที่คว้าเกราะมาได้ตามที่เคยสัญญาไว้

เซินปู้ไม่ต้องการอยู่ที่นี่นานเกินไป และตอนนี้ธุระของเธอก็สิ้นสุด ลงแล้ว หญิงสาวจึงรีบกล่าวว่า “ผู้บัญชาการกองพันโจว ข้าขอตัวก่อน

ผู้บัญชาการกองทหารเซินจี้ขอให้ข้าส่งข้อความถึงท่านว่าหากท่าน ประสงค์สิ่งใดก็สามารถเรียกใช้ข้าได้โดยตรง”

โจวเหว่ยชิงหัวเราะอย่างเต็มที่และกล่าวว่า “นั่นคงน่าอับอายมาก! อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้บัญชาการกองทหารเซินจี้ได้กล่าวออกมาแล้ว หากข้าถ่อมตัวเกินไปก็จะทําให้เขาเสียหน้าได้ ข้าขอลูกศร 200,000 ดอก ธนู 2,000 คัน รวมทั้งเสบียงอาหารได้ไหม? อย่างที่ท่านทราบ พี่ น้องของข้ามักจะต้องอดอยากหิวโหยบ่อยๆ”

เซินปู้เพิ่งขึ้นควบขี่ม้าศึก และเมื่อได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวก็แทบจะ หล่นจากหลังม้า เธอส่ายหัวด้วยความโกรธ จ้องมองไปที่โจวเหว่ยชิง ขณะที่ร้องออกมา “ทําไมเจ้าไม่บอกว่าอยากได้เกราะทหารม้าหนักสัก 1,200 ชุดแทนเสียล่ะ! เจ้ามีคนจํานวนแค่นั้น ทําไมถึงต้องการธนูตั้ง 2,000 คัน!”

โจวเหว่ยชิงกล่าวด้วยอารมณ์เสียใจ “ข้าแค่กลัวว่าพวกมันจะสึก หรอ สําหรับเกราะทหารม้าหนัก ข้าไม่ต้องการอะไรเช่นนั้นหรอก มัน หนักเกินไปไม่เหมาะกับเรา ถ้าท่านอยากจะให้จริงๆ ข้าคิดว่ามอบเป็น เหรียญทองจะดีกว่า”

เซินปู้รีบผละจากไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่ไร้ ยางอายเช่นนี้ เธอก็รู้สึกว่าหากทนอยู่ต่อไปก็อาจจะโกรธจนอาเจียน ออกมาเป็นเลือดก็ได้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทําให้โจวเหว่ยชิงประหลาดใจมากคือภายใน 2 วันถัดมา ธนู 2,000 คันและลูกศร 200,000 ดอกก็มาถึงพร้อมกับ เสบียง รวมทั้งกระโจมใหม่ ผ้าห่ม เครื่องแบบทหาร อาหาร ฯลฯ โจว เหว่ยชิงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจกับตัวเองว่าวังสวรรค์ไพศาลมีหน้ามี ตาขนาดไหนกันแน่ อืม ด้วยการยืม ‘หนังเสือ’ ผืนนี้มาห่ม เขาจะสั่งทั้ง กรมทหารโดยที่พวกเขาไม่ขัดขืนเลยได้หรือไม่?

แน่นอนว่าเด็กหนุ่มแค่ฝันกลางวันเกี่ยวกับเรื่องนี้และจะไม่ลองทํา แบบนั้นแน่นอน ประการแรก เขาต้องถามความเห็นของซ่างกวนเฟย เอ๋อร์ก่อน ประการที่สอง กองทัพภาคเหนือไม่ใช่พวกโง่เง่า การ เคลื่อนย้ายกองกําลังจํานวนมากเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่สามารถทําได้อย่าง ง่ายดายอยู่แล้ว

เวลาผ่านไปราวกับชั่วพริบตา ตั้งแต่พวกเขามาถึงกองพันไร้พ่าย ตอนนี้ก็ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว หลังจากฝึกฝนและทํางานหนักมาหลาย วัน อารมณ์คุกกรุ่นของทหารกองพันไร้พ่ายถูกปลุกขึ้นมาแล้ว ไม่มีทั้ง ความรู้สึกเบื่อหน่ายและทรมานดังเช่นที่พวกเขาเคยเผชิญมาก่อนหน้า อีกต่อไป สําหรับเรื่องที่ว่าพวกเขาจะเรียนรู้จากการฝึกฝนมากแค่ไหน นั้น โจวเหว่ยชิงไม่ได้กังวลมากนัก ถึงอย่างไรการฝึกก็ต้องค่อยๆ ทําไป ทีละขั้นและก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม เขามีคําถามที่สําคัญที่

จะถามซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ เพราะไม่กี่วันมานี้เธอพยายามซ่อนตัวจาก เขา ทําให้เด็กหนุ่มค่อนข้างเป็นกังวล

ด้วยกระโจมและชุดเครื่องนอนใหม่ ตอนนี้ที่อยู่อาศัยของเขาจึง สบายกว่าเดิมมาก โจวเหว่ยชิงก็นั่งบนเก้าอี้อย่างสบายอารมณ์ ดวงตา ของเขาปิดลง ทันใดนั้น ผนังกระโจมก็ถูกยกขึ้นและซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก็ เดินเข้ามาจากด้านนอก

เมื่อก้าวเข้ามาภายในอย่างรวดเร็ว ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก็หยุดที่นั่น และพูดว่า “ทําไมเจ้าถึงตามหาข้า?”

นับตั้งแต่พวกเขากลับมาจากการเดินทางรอบที่แล้ว เธอก็รู้สึก กระอักกระอ่วนใจเป็นอย่างมาก หลังจากสงบสติอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงเมื่อ คิดย้อนกลับไป ไม่ว่าจะมองอย่างไร การอยู่ร่วมกับโจวเหว่ยชิงก็เป็น เรื่องไม่เหมาะสม เพียงแค่ครอบครัวของเธออย่างเดียวก็เป็นปัญหา ใหญ่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคือเฟยเอ๋อร์ไม่ต้องการเป็นศัตรูกับน้องสาว ตนเอง นั่นคือเหตุผลที่เธอให้ความสําคัญกับการต่อสู้ระยะประชิดกับ เหล่าทหารโจรในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ ในฐานะปีศาจน้อยแห่งวัง สวรรค์ไพศาล เธอคุ้นเคยกับการเปลี่ยนอารมณ์ที่พลุ่งพล่านให้ กลายเป็นความรุนแรง ช่างเป็นเรื่องน่าเวทนาสําหรับทหารฝึกหัดผู้น่า สงสารจริงๆ

โจวเหว่ยชิงลุกขึ้นยืนและเดินไปหาซ่างกวนเฟยเอ๋อร์พร้อมกับการ แสดงออกบนใบหน้าที่ทําให้เขาดูเหมือนเด็กน้อยกําลังเศร้าเสียใจ

“เจ้าเป็นอะไร?” ความสับสนวุ่นวายปรากฏขึ้นในดวงตาของซ่าง กวนเฟยเอ๋อร์ทันที

โจวเหว่ยชิงหยุดอยู่ห่างจากหญิงสาวประมาณ 2 หลาและพูดว่า “เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ เจ้าพยายามหลีกเลี่ยงข้าใช่ไหม?”

“ไม่ใช่สักหน่อย!” ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์หันศีรษะหนี ปฏิเสธที่จะมอง อีกฝ่าย

โจวเหว่ยชิงหายใจเข้าลึกและพูดว่า “เอาล่ะ เรามาพูดคุยกันดีๆ เถอะ”

ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์มองเขาโดยไม่รู้ตัว เดิมทีหญิงสาวคิดว่าเขาจะ ยึดติดกับเธอและยืนกรานในความคิดตัวเอง แต่โจวเหว่ยชิงกลับไม่ทํา เช่นนั้น ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์รู้สึกประหลาดใจที่เห็นว่าการแสดงออกของ เขาดูสงบนิ่ง แต่ท่าทีเช่นนี้กลับทําให้หัวใจของเธอรู้สึกเจ็บปวดไร้ รสชาด

โจวเหว่ยชิงกล่าวว่า “เฟยเอ๋อร์ สองสามวันมานี้เจ้าก็ได้เห็นด้วย ตัวเองแล้ว ในบรรดาทหารกองพันไร้พ่ายของเรา นอกจากจ้าวมณียุทธ์ และจ้าวมณีธาตุกว่า 300 นาย ที่เหลือก็อาจมีพลังปราณสวรรค์อยู่บ้าง

ประปราย แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับที่ 2 เท่านั้น ทว่าอายุของพวกเขา ก็ล่วงเลยมาเกิน 16 ปีแล้ว คําถามของข้าคือ…วังสวรรค์ไพศาลมีวิชา ลับใดที่สามารถทําให้พวกเขาปลุกพลังมณีได้ไหม?”

ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ชะงักไป พยายามกดข่มความรู้สึกไม่สบายใจ ก่อนหน้านี้ของตนเองให้มั่นคงก่อนจะพยักหน้าพูดว่า “ใช่ พวกเรามี”

“จริงหรือ?” ถึงคราวที่โจวเหว่ยชิงต้องประหลาดใจบ้างแล้ว

ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์กล่าวว่า “หลังจากอายุ 16 ปี สาเหตุที่ผู้คนไม่ สามารถปลุกพลังมณีของตนเองได้เป็นเพราะมันผ่านช่วงเวลาที่พวก เขาเติบโตเต็มที่ไปแล้ว หรือก็คือเวลาที่จะปลุกสายเลือดของพวกเขา หากคนๆ นั้นต้องการปลุกมันหลังจากผ่านช่วงเวลาที่ว่าไปแล้ว เขาก็ จะต้องได้รับความช่วยเหลือจากตัวยาล�าค่า รวมถึงพลังปราณสวรรค์ ภายนอกเพื่อทะลวงเส้นลมปราณให้เปิดออก หากทะลวงผ่านระดับที่ 3 หรือ 4 ด้วยความช่วยเหลือที่ข้ากล่าวถึงไปแล้ว พวกเขาก็มีโอกาสที่จะ กลายเป็นจ้าวมณีธาตุหรือแม้แต่จ้าวมณีสวรรค์ได้”

โจวเหว่ยชิงกล่าวว่า “เราสามารถใช้วิชาลับกับคนของเราได้ หรือไม่? ข้าเชื่อว่ากุญแจสําคัญน่าจะเป็นวิธีการฝึกบางอย่าง?”

ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ส่ายหัวและกล่าวว่า “เปล่า กุญแจสําคัญคือตัว ยาล�าค่านั้น ในการปลุกมณีประจําตัวของพวกเขา ยาที่ข้ากล่าวถึง

สําคัญที่สุด ต้องใช้วัตถุดิบล�าค่าหลายอย่างผสมกัน แต่สิ่งที่สําคัญคือ มันจะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ทั้งยังส่งผลดีต่อการฝึกปราณในอนาคตด้วย ข้าบอกเจ้าได้เลยว่านี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร สาวกวังสวรรค์ไพศาลทุก คนใช้สิ่งนี้ตั้งแต่อายุยังน้อยเมื่อเราเริ่มฝึกปราณครั้งแรก มิฉะนั้นระดับ พลังปราณของเราจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้อย่างไร? วิชาลับประเภทนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกในบรรดามหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 5 เพียงแค่เราจะไม่ แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปข้างนอกง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้น สมบัติล�าค่าเช่นนี้ ก็หายากมาก”

“บนเกาะมณีสวรรค์มีขายหรือไม่?”

ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์พยักหน้าและพูดว่า “อืม แต่ราคามันแพงเกินไป เจ้าจ่ายไม่ไหวหรอก”

“เจ้ามีทหารอย่างน้อย 800 นายที่ต้องการยานี้เพื่อปลุกมณี ประจําตัวของพวกเขา ถ้าเจ้าใช้เงินซื้อสิ่งนั้น ไม่ใช่แค่เจ้า แม้แต่ อาณาจักรเฟยหลี่เองก็ยังไม่สามารถจ่ายได้”

บางครั้ง เมื่อความหวังเกิดขึ้นและพังทลายไปต่อหน้าต่อตา นั่นก็ คงจะเป็นสิ่งที่เจ็บปวดที่สุด ยิ่งมีความหวังมากเท่าไหร่ ความผิดหวังก็ ยิ่งให้ผลรุนแรงมากเท่านั้น

เมื่อเห็นโจวเหว่ยชิงขมวดคิ้ว ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์ก็กล่าวว่า “จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย วัตถุดิบเหล่านี้อาจหาไม่ได้ง่ายๆ แต่ก็ มีอยู่ในอาณาจักรวั่นโซ่วอย่างแน่นอน นั่นเป็นเพราะมีเพียงอาณาจักร วั่นโซ่วเท่านั้นที่มีอสูรสวรรค์จํานวนมาก วัตถุดิบข้าพูดถึงคือแก่นพลัง ของอสูรสวรรค์ต่างชนิดกัน”

“โอ้?”

ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์กล่าวต่อ “แก่นพลังทั้งหมด 5 ชิ้นจากอสูร สวรรค์ประเภทต่างๆ บดเป็นผงและผสมเข้าด้วยกันในกระบวนการ หลอมยาที่เหมาะสม นํามันผสมกับเลือดอสูรสวรรค์ชนิดหนึ่ง จากนั้น ตัวยาก็จะเสร็จสมบูรณ์”

โจวเหว่ยชิงสนใจขึ้นมาในทันที และเขาก็กล่าวต่อว่า “อสูรสวรรค์ 5 ชนิดที่ว่าคืออะไร? อ้อ ใช่แล้ว เลือดของอสูรสวรรค์ตัวไหน?”

ซ่างกวนเฟยเอ๋อร์กล่าวว่า “ในบรรดาอสูรสวรรค์ทั้ง 5 มีอยู่ 3 ตัวที่ หาได้ง่ายและเป็นระดับเทวะทั้งหมด พวกมันไม่ทรงพลังเกินไปและ สามารถพบได้แม้กระทั่งพรมแดนทางตอนเหนือ อย่างไรก็ตาม อีก 2 ชนิดนั้นหายากมากและมีพลังมากเช่นกัน เมื่อเติบโตเต็มที่ อย่างน้อย พวกมันก็น่าจะอยู่ในระดับราชา หากพบตัวผู้ใหญ่ เราก็คงจะไม่ สามารถรับมือมันได้แน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนึ่งในนั้นถูกจัดเป็น 1 ใน 3 เผ่าอสูรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาณาจักรวั่นโซ่ว เผ่าต้นไม้สวรรค์

แห่งชีวิต เลือดอสูรสวรรค์ที่ต้องใช้ในการผสมวัตถุดิบก็มาจากมัน เช่นกัน”

…………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด