I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ 422 เชื่อใจ!
หลิงหลานใช้วิธีการที่เรียบง่ายที่สุดและผลาญพลังงานน้อยที่สุดมาจัดการพวกลูกทีมของเหลยถิงอย่างสมบูรณ์แบบ ทว่าเมื่อหวนนึกถึงรูปแบบการต่อสู้ของหลิงหลาน ทุกคนกลับมึนงงสับสน เนื่องจากไม่มีใครสามารถมองเห็นอะไรได้จากการต่อสู้ของหลิงหลาน ผู้ที่ชมการประลองเห็นเพียงความเจ้าเล่ห์ ร้ายกาจ รวมถึงวิธีการต่อสู้ที่หาญกล้าเจ้าความคิดของหลิงหลานเท่านั้น…
“ความสามารถในการควบคุมของเขาน่าจะไม่อ่อนด้อยเหมือนกัน ไม่งั้นเขาคงทำอย่างสมบูรณ์แบบถึงขั้นนี้ไม่ได้” ถังอวี้ลังเลใจเล็กน้อย ถึงแม้เขารู้ว่าหลิงหลานเป็นผู้ควบคุมระดับพิเศษ แต่เขาดูไม่ออกว่าอีกฝ่ายไปถึงขั้นไหนของระดับพิเศษแล้ว
“น่าสนใจอย่างที่คิดไว้จริงๆ ด้วย” ผู้อำนวยการยิ้มขึ้นมา รูปแบบนี้เหมือนหลิงเซียวมาก นึกถึงตอนนั้น เจ้าหนูหลิงเซียวนั่นก็ทำให้คนดูคาดเดาไม่ถูกเหมือนกัน ตอนที่เขาเข้ากองทัพ กระทั่งผู้อำนวยการเองก็ไม่รู้ว่าหลิงเซียวไปถึงระดับไหนกันแน่ ข้อมูลที่ทุกคนรู้เกี่ยวกับหลิงเซียวความจริงแล้วเป็นฉากหน้าทั้งนั้น ไม่ถูกต้องแม่นยำนัก…
“หลิงเซียวคนที่สอง… นอกจากลูกชายของเขาแล้ว ใครจะทำเรื่องนี้ได้” คำพูดประโยคนี้ของผู้อำนวยการแทบจะอยู่ในปาก ถังอวี้ที่อยู่ข้างกายไม่สามารถฟังได้ชัดเจน ถังอวี้เงยหน้าขึ้นอย่างสงสัย เอ่ยถามว่า “ผู้อำนวยการ เมื่อตะกี้คุณพูดอะไรเหรอครับ พูดกับผมหรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไร ฉันแค่คิดว่าการประลองนี้สนุกมาก หน่ออ่อนดีๆ ของโรงเรียนมีไม่น้อยเลยจริงๆ” ผู้อำนวยการได้ยินคำกล่าวพลันหัวเราะเสียงดังขึ้นมา เขาไม่อาจบอกความจริงให้กับถังอวี้ได้เพื่อความปลอดภัยของลูกชายเพื่อนที่ดีของเขา
คำพูดของผู้อำนวยการทำให้ถังอวี้พยักหน้าเห็นด้วย นักเรียนรุ่นนี้มีคนที่มีพรสวรรค์เยอะมากจริงๆ ทำให้คนรู้สึกตาพร่าเลย น่าเสียดายที่โรงเรียนทหารตั้งกฎไว้ว่า อาจารย์แต่ละคนสามารถรับนักเรียนได้ไม่เกินห้าคนเพื่อรับประกันว่าอาจารย์จะอบรมสั่งสอนนักเรียนอย่างตั้งอกตั้งใจ และเนื่องจากเขาให้ผู้อำนวยการเปิดประตูหลังให้เป็นกรณีพิเศษเพื่อหลินจงชิงแล้ว เขาไม่อาจโลภมากได้อีก
แม้ว่าเฉียวถิงไม่สังเกตเห็นการปรากฏตัวของหลิงหลานทันที แต่ถึงอย่างไรเฉียวถิงก็คือผู้ควบคุมไพ่ราชา แป๊บเดียวเขาก็พบหลิงหลานที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตรแล้ว เขาหมุนกายฉับพลัน เมื่อเห็นหุ่นรบระดับพิเศษที่ภายนอกดูส่องสว่างสมบูรณ์พร้อม เวลาเดียวกันก็ดูดุดันสุดขีดตัวนั้น เขาก็อดตวาดพลางกัดฟันกรอดไม่ได้ “หลิงหลาน!”
หลิงหลานมองหุ่นรบของเฉียวถิงที่เต็มไปด้วยร่องรอยความเสียหาย และไม่ได้มีรูปร่างเหมือนมนุษย์แล้ว เธอก็เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “นึกไม่ถึงเลยว่า หลังจากเจอลูกทีมของเราหมุนเวียนระเบิดตัวเองแล้ว หุ่นรบของนายยังตั้งตรงได้ ทำเอาฉันประหลาดใจนิดๆ ไปเลย”
ความจริงแล้ว หลังจากที่จัดการลูกทีมสามคนสุดท้ายของเหลยถิงแล้ว หลิงหลานก็รีบมาที่นี่ ทว่าเธอคอยจับตามองการต่อสู้นี้โดยที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งพันเมตร เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการแสดงความสามารถของหลี่หลานเฟิงกับฉีหลง
แน่นอนว่าหลิงหลานสามารถเลือกเข้าร่วมการต่อสู้ได้ จากความสามารถของเธอย่อมสังหารเฉียวถิงได้อยู่แล้ว และท้ายที่สุดก็ต้อนรับชัยชนะที่มาถึงร่วมกับหลี่หลานเฟิงและฉีหลง ทว่าหลิงหลานไม่อยากทำแบบนี้ เนื่องจากเธออยากดูผลงานที่ชีตาห์ของเธอกับลูกน้องที่เธอทุ่มเทอบรมสั่งสอนแสดงออกมา และหวังว่าพวกเขาสองคนจะเก็บเกี่ยวบางอย่างได้จากการต่อสู้กับเฉียวถิง
จำเป็นต้องพูดว่า หลิงหลานคือคนที่ขี้กังวล เธอใส่ใจหลี่หลานเฟิงกับฉีหลง ดังนั้นเลยคิดหาวิธีอยากเพิ่มความสามารถของพวกเขาอย่างสุดความสามารถ ด้วยเหตุนี้เอง เธอจึงสมัครใจยืดเวลาต่อสู้ ถึงขนาดที่ทิ้งช่วงเวลาดีๆ ไป อยากให้หลี่หลานเฟิงกับฉีหลงมีโอกาสประมือกับเฉียวถิงสักหลายกระบวนท่าอย่างแท้จริง
ความจริงพิสูจน์แล้วว่า หลิงหลานไม่ได้ทำพลาด ผลงานของหลี่หลานเฟิงทำให้เธอรู้สึกตกตะลึง ไม่คาดคิดว่าชีตาห์ของเธอจะใส่ใจคำพูดที่เธอกล่าวโดยไม่ได้ตั้งใจจริงๆ…
นั่นเป็นช่วงเวลาหลังจากประเทศศัตรูบุกโจมตีโรงเรียนทหารทางอากาศ…
หลิงหลานที่ไม่ต้องเข้าเรียนรู้สึกเบื่อหน่ายนิดหน่อย เธอเลยทุ่มความสนใจทั้งหมดไปบนตัวหลี่หลานเฟิงที่มีปัญหาด้านสุขภาพร่างกาย ช่วงเวลานั้น ในที่สุดหลี่หลานเฟิงก็ได้เจอการฝึกฝนโหมดนรกเฉพาะตัวลูกพี่ที่พวกฉีหลงกล่าวถึง ทุกวันโดนหลิงหลานจับฝึกฝนจนไปกองกับพื้นด้วยความเหนื่อยล้า
เทียบกับท่าทีของพวกฉีหลงที่หลีกเลี่ยงเท่าที่ทำได้แล้ว หลี่หลานเฟิงกลับยินดียอมรับความยากลำบาก ทุกครั้งเขาแทบจะคลานออกจากแคปซูลล็อกอินเสมือนจริง แต่วันรุ่งขึ้นยังคงปรากฏตัวตรงหน้าหลิงหลานด้วยสีหน้าสดชื่นกระปรี้กระเปร่า นี่ทำให้หลิงหลานเคยสงสัยว่าหลี่หลานเฟิงเป็นมาโซคิสม์หรือเปล่า ทว่าการแสดงออกถึงความไม่ย่อท้ออย่างไร้ที่สิ้นสุดเช่นนี้ของหลี่หลานเฟิงก็ทำให้หลิงหลานได้รับรู้ความหรรษาของอาจารย์หมายเลขห้าอย่างลึกซึ้ง…
อย่างที่คิดไว้เลย ทรมานคนสนุกมากจริงๆ ด้วย! แน่นอนว่า ทุกครั้งที่หัวใจหลิงหลานมีความคิดแบบนี้ มันก็จะโดนหลิงหลานตัดทิ้งไปอย่างไร้ความปรานี หลังจากนั้นเธอก็บอกตัวเองอย่างล้ำลึกว่า เธอไม่มีนิสัยโรคจิตของอาจารย์หมายเลขห้าอยู่แล้ว สาเหตุที่เธอเข้มงวดต่อชีตาห์ของเธอขนาดนี้ ทั้งหมดเพื่อตัวเขาล้วนๆ
ในที่สุด หลังจากผ่านการทรมานเคี่ยวกรำอย่างแสนสาหัส สุขภาพร่างกายของหลี่หลานเฟิงก็ดีขึ้น จนเกือบจะเท่าสุขภาพร่างกายของนักรบหุ่นรบทั่วไปแล้ว แต่เมื่อเจอการต่อสู้ที่ดุเดือดมาก พละกำลังของเขายังอยู่ประทังจนจบไม่ได้เล็กน้อย
หลิงหลานกลับไม่ได้กังวลใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก เนื่องจากหลิงหลานรู้ดีว่า ปัญหาเรื่องสุขภาพร่างกายเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่แก้ไขได้ในวันสองวัน ตอนนั้นเธอก็เสียเวลาไปสามสี่ปีเต็มๆ เหมือนกันถึงจะจัดการแก้ไขภัยแอบแฝงของพลังจิตที่แข็งแกร่งมากเกินไปจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายได้หมด หลี่หลานเฟิงสามารถได้ผลดีแบบนี้ภายในเวลาไม่กี่เดือนสั้นๆ หลิงหลานคิดว่าเขาทำได้ดีมากแล้ว
ถึงแม้หลิงหลานไม่รีบร้อน แต่หลี่หลานเฟิงกลับกระวนกระวายใจ เขาไม่ได้ร้อนใจอยากแก้ไขปัญหาเรื่องสุขภาพร่างกายจนหมดได้ในครั้งเดียว เนื่องจากหลี่หลานเฟิงรู้ดีว่า ปัญหาเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่สามารถแก้ไขได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ตอนนี้เขาแทบจะแก้ปัญหาภัยแฝงเร้นในหลายปีที่ผ่านมาที่ร่างกายเอาแต่อยู่ในสภาพแทบจะพังทลายมาตลอดได้ภายใต้การช่วยเหลือของหลิงหลาน แค่เรื่องนี้ก็เพียงพอที่ทำให้เขาพึงพอใจแล้ว
สิ่งที่หลี่หลานเฟิงกังวลใจคือเรื่องศึกล้างแค้นของเหลยถิงที่กำลังจะมาถึง เขากลัวว่าตัวเองจะถ่วงขาคนอื่นเพราะปัญหาเรื่องสุขภาพร่างกาย ด้วยเหตุนี้ เขาเคยถามกระต่ายของเขาว่า เขาจะทำให้ดีที่สุดในสนามรบได้อย่างไร
ความจริงแล้ว หลี่หลานเฟิงจะทำได้ดีหรือไม่นั้น สำหรับหลิงหลานแล้ว มันไม่ใช่เรื่องสำคัญมากต่อภาพรวมในตอนสุดท้าย แต่พอเห็นดวงตาทั้งสองข้างของหลี่หลานเฟิงเปี่ยมไปด้วยรัศมีเจิดจ้า แววตาเหมือนอยากสร้างผลงานอยู่บ้างทำให้หลิงหลานกระอักกระอ่วนใจที่จะพูดความจริง
หลิงหลานเลยใคร่ครวญอย่างจริงจังมากรอบหนึ่งด้วยความคิดที่ไม่อยากทำร้ายเพื่อนเก่า ถึงค่อยบอกกับหลี่หลานเฟิงว่า หากเขาต้องการยืดเวลาในการต่อสู้ให้นานขึ้นอีกหน่อย ก็ต้องทะนุถนอมเรี่ยวแรงทุกส่วนของตัวเอง ไม่อาจเลียนแบบการถลุงพลังกายเหมือนสัตว์ประหลาดที่ร่างกายแข็งแกร่งอย่างฉีหลงได้ จะต้องคิดคำนวณการลงมือของตัเองทุกครั้งอย่างละเอียด พยายามให้ทุกการโจมตีมีประสิทธิผลทั้งหมด
คำพูดของหลิงหลานทำให้หลี่หลานเฟิงมึนงงอยู่บ้าง หลิงหลานแนะนำหลี่หลานเฟิงด้วยความหวังดี ในเมื่อไม่สามารถเป็นนักรบคลั่งได้ เช่นนั้นก็ต้องเป็นนักดาบ หรือไม่ก็นักฆ่า…
คำพูดที่หลิงหลานเอ่ยมาเหล่านี้ทำให้หลี่หลานเฟิงจมสู่ห้วงความคิดลึกซึ้ง และหลิงหลานพูดไปแล้วก็ถือว่าจบ ไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจเลย ทว่าวันนี้เห็นรูปแบบการต่อสู้ของหลี่หลานเฟิง เขาได้เดินไปบนเส้นทางที่หลิงหลานเอ่ยกับเขาเมื่อตอนนั้นโดยสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังทำได้ยอดเยี่ยมสุดขีด
นี่ทำให้หลิงหลานตื้นตันใจมาก ประทับใจที่หลี่หลานเฟิงเชื่อใจเธอ เพราะความเชื่อใจถึงได้ให้ความสำคัญต่อคำพูดของเธอขนาดนี้ ถึงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ของตัวเองเพราะคำพูดของเธอ… ผลงานอันล้ำเลิศของหลี่หลานเฟิงพิสูจน์ว่าเขาทุ่มเทแรงกายแรงใจมหาศาลเพื่อศึกษาวิจัยสิ่งเหล่านี้อย่างลับๆ และไม่ได้ไปทำอย่างหน้ามืดตามัว ถึงขนาดที่หลี่หลานเฟิงยังแอบไปหาฉางซินหยวนออกแบบกลไกแบบนี้มาเพื่อรับประกันว่าจะทำภารกิจให้สำเร็จ จำเป็นต้องพูดว่า แผนการของหลี่หลานเฟิงกับฉางซินหยวนประสานกับกลยุทธ์ที่เธอวางไว้นั้นประสบผลอย่างสวยงามมาก หลิงหลานเห็นแล้วก็อดชื่นชมความคิดอันน่าทึ่งของสองคนนี้ไม่ได้เหมือนกัน
หลี่หลานเฟิงแสดงความสามารถได้เหนือกว่าที่หลิงหลานคาดการณ์ไว้ และผลงานของฉีหลงก็ไม่ได้ทำให้หลิงหลานผิดหวัง การดักซุ่ม คว้าจังหวะโอกาส และด้านอื่นๆ ฉีหลงทำได้ไม่เลวทั้งนั้นเลย เรื่องที่น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวคือความเร็วของหุ่นรบแย่มากเกินไป ถ้าเกิดความเร็วของหุ่นรบฉีหลงสูงขึ้นได้อีกหน่อย บางทีอาจไม่ต้องมาถึงตาเธอออกโรงในการต่อสู้นี้ อาศัยแค่หลี่หลานเฟิงกับฉีหลงก็สามารถจัดการเฉียวถิงได้
น่าเสียดาย… หลิงหลานรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เธอไม่ใช่เฉียวถิง ไม่สนใจว่าตัวเองจะสะกดสายตาของผู้คนนับหมื่นได้หรือเปล่า เทียบกับเรื่องพวกนี้แล้ว เธอสนใจเรื่องผลงานของพวกลูกทีมมากกว่า ถ้าหากฉีหลงกับหลี่หลานเฟิงจัดการเฉียวถิงได้ละก็ เธอคงจะดีใจยิ่งกว่านี้
หลิงหลานตัดสินใจแล้วว่า เธอจะต้องเพิ่มความเร็วให้หุ่นรบของฉีหลงให้ได้ ต้องให้ฉีหลงกลายเป็นราชันต่อสู้ประชิดตัวที่มีทั้งความเร็วและพละกำลัง
เวลานี้เอง ฉีหลงที่ถูกขับออกจากสนามแล้วจู่ๆ ก็รู้สึกถึงไอเย็นสายหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากกระดูกสันหลัง เขาอดตัวสั่นเทิ้มไม่ได้ รีบโคจรลมปราณขับไล่ความหนาวเหน็บในร่างกายออกไปทันที ปากก็เอ่ยด้วยความไม่เข้าใจว่า “แปลกจัง ความหนาวนี้มาจากไหนกันนะ?”
ฉีหลงไม่รู้เลยว่า ลูกพี่ตัวเองจะทนเห็นความเร็วเต่าคลานของเขาไม่ได้ ดังนั้นถึงได้เตรียม ‘ทรมาน’ เขาไว้แล้ว…
เฉียวถิงที่อยู่ตรงข้ามไม่รู้ว่า ยามนี้หลิงหลานกำลังปวดใจแทนชีตาห์กับลูกน้องของเธอที่ไม่อาจจัดการเขาได้ เขาได้ยินคำพูดที่แฝงไปด้วยความดูแคลนอย่างชัดเจนของหลิงหลานก็แทบจะบันดาลโทสะออกมา ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขา ราชันสายฟ้าเฉียวถิงโดนมือใหม่ด้านหุ่นรบที่เพิ่งขึ้นปีสองและยังไม่ได้สัมผัสหุ่นรบที่แท้จริงดูหมิ่น?
“แค่พวกลูกทีมมือใหม่ของนาย ต่อให้ใช้วิธีการระเบิดตัวเองต่ำช้าแบบนี้ก็เอาชนะฉันไม่ได้ ในโรงเรียนทหารนี้ ไม่มีใครสามารถเอาชนะฉันได้ ไม่มีใครทั้งนั้น” เฉียวถิงประกาศก้องด้วยดวงตาที่แดงฉานอำมหิต เขา เฉียวถิงคือราชาไร้พ่าย
“ใช่เหรอ?” หลิงหลานได้ยินคำกล่าวก็อดเลิกคิ้วเงียบๆ ไม่ได้ และจ้องมองหุ่นรบที่พังยับของเฉียวถิงตัวนั้น หลิงหลานไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเอาความมั่นใจในตัวเองแบบนี้มาจากไหนกันแน่ คนที่มีสายตาชัดเจนต่างดูออกว่า ต่อให้หุ่นรบของเธอถูกเข้าใจผิดว่าเป็นหุ่นรบระดับพิเศษ แต่เปรียบเทียบเธอที่แทบจะไม่ได้เสียหายอะไรเลยกับหุ่นรบของเฉียวถิงที่พังเสียหายไปเจ็ดแปดส่วนแล้ว ชัยชนะอยู่ทางฝั่งเธออย่างไม่ต้องสงสัย
“อันที่จริง สำหรับนายแล้ว ตายในน้ำมือของพวกลูกทีมฉันยังจะโชคดีกว่า” หลิงหลานตรวจสอบเฉียวถิงอย่างจริงจัง แล้วเอ่ยปากอีกครั้ง แม้ว่าเสียงของเธอจะเย็นชาผิดปกติ แต่คนที่ชมการประลองต่างฟังออกถึงความจริงจังในคำพูดของเธอ
คำพูดประโยคนี้ของหลิงหลานทำให้ทุกคนส่งเสียงฮือฮา ต่อให้ดูเหมือนว่าหลิงหลานมีโอกาสชนะค่อนข้างมาก แต่ถึงอย่างไรเฉียวถิงก็เป็นอันดับหนึ่งของโรงเรียนทหาร ตราบใดที่เขายังขับหุ่นรบได้ ไม่มีใครกล้ายืนยันว่าตัวเองจะเอาชนะเขาได้แน่นอน คำพูดประโยคนี้ของหลิงหลานดูอวดดีบ้าระห่ำอยู่บ้าง นี่ทำให้คนมากมายไม่พอใจ โดยเฉพาะทางพวกระดับสูงของโรงเรียนทหาร ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคำพูดประโยคนี้ของหลิงหลานเหมือนตบหน้าพวกเขาแล้ว
“เจ้าเด็กนี่…” ผู้อำนวยการอดส่ายศีรษะไม่ได้ เดิมทีเขาคิดว่าเด็กคนนี้สืบทอดความถ่อมตัวของหลิงเซียว ตอนนี้ดูเหมือนว่า เขายังทระนงตนแบบเด็กๆ อยู่บ้าง
อันที่จริง ผู้อำนวยการก็กล่าวหาหลิงหลานแล้ว หลิงหลานเอ่ยคำพูดประโยคนี้มาย่อมไม่มีความคิดดูถูกเฉียวถิง และก็ไม่มีความจองหองอวดดีที่กล่าวขานกันด้วย ความจริงแล้ว สิ่งที่หลิงหลานพูดนั้นคือเรื่องจริง ถ้าเกิดตายภายใต้การระเบิดตัวเองติดต่อกันของพวกลูกทีมเธอ หลังจากศึกนี้เฉียวถิงยังอ้างว่ากลยุทธ์ของหลิงเทียนต่ำช้ามากเกินไปได้ แต่ถ้าเกิดท้ายที่สุดเขาตายในเงื้อมมือเธอโดยที่ไม่อาจตอบโต้ได้เลยแม้แต่น้อย เฉียวถิงก็ไม่มีข้ออ้างใดๆ แล้ว หลิงหลานไม่อยากทำลายความภาคภูมิใจของปีศาจอัจฉริยะแบบนี้จริงๆ
——————————
Comments